Doubtful สืบรักเสี่ยงใจวุ่นรักร้ายนายตัวดี (Mina)

Doubtful สืบรักเสี่ยงใจวุ่นรักร้ายนายตัวดี (Mina)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160606818
ผู้แต่ง: Mina
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 219.00 บาท 54.75 บาท
ประหยัด: 164.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

โรงพยาบาลอภิธารักษ์

ห้อง 504

ผู้ป่วย นางสาวญาศิตา พิทักษ์อัครกุล

 

ปริบ ปริบ

“ฟื้นแล้ว! แม่คะพี่แฟร์ฟื้นแล้ว!”

“ไหน! พ่อ! ลูกแฟร์ฟื้นแล้วจริงๆ ด้วย!”

“ลูกแฟร์ฟื้นแล้ว ลูกแฟร์ฟื้นแล้ว!”

เสียงตะโกนโหวกเหวกทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา แต่ดวงตายังไม่สามารถปรับให้ชินกับแสงสว่างได้ดีนักจนทำให้ฉันต้องกะพริบตาถี่ๆ อยู่หลายครั้ง แถมฉันยังรู้สึกปวดหัวราวกับจะระเบิดออกมาซะให้ได้ ตามร่างกายก็ปวดจนไม่อยากจะขยับไปไหน ฮือๆๆ

“ลูกแฟร์เห็นแม่มั้ยคะลูก” ฉันเบิกตาที่พอจะปรับสภาพกับการรับแสงได้ขึ้น พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องสีขาวสะอาดตา กลิ่นยาอ่อนๆ ลอยมา..โรงพยาบาลสินะ

“แฟร์ เห็นพ่อมั้ยลูก!”

“พี่แฟร์ เห็นหน้าเฟิร์มมั้ยพี่!” พ่อแม่และน้องสาวของฉันยืมล้อมเตียงที่ฉันนอนอยู่ พวกเขามองมาที่ฉันอย่างดีใจ ฉันพยายามพยุงสังขารตัวเองที่มีอันน้อยนิดขึ้นมาจากเตียง

“ตายแล้วลูก! ลูกเพิ่งฟื้น นอนอยู่เฉยๆ ก่อนสิคะลูแฟร์” แม่ร้องบอกขณะที่น้องสาวฉันรีบเอาหมอนมารองหลังฉันไว้ให้ ฉันจึงเอนหลังพิงหมอนแล้วพยายามไม่ขยับตัวไปมากกว่านี้

“เดี๋ยวแม่ไปตามหมอมาก่อนนะ ลูกแฟร์ฟื้นแล้ว!” แล้วแม่ก็เปิดประตูห้องออกไป

ทำไมมันปวดไปทั้งตัวเลย ฮือๆ

“แฟนแฟร์ ลูกสลบไปตั้งสองวัน”

“ใช่พี่แฟร์ พี่เข้าห้อง ICU ด้วยแน่ะ แม่กับพ่อนั่งกอดกันร้องไห้ใหญ่เลยล่ะ!” ฉันมองหน้าพ่อกับน้องสาวสลับกันไปมา

ที่ฉันไม่พูดอะไรเป็นเพราะฉันยังคงเบลอๆ อยู่ หัวสมองมึนตึ้บสุดๆ ไปเลย

ฉันกำลังทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...จำได้ว่าล่าสุดฉันกำลังข้ามถนนอยู่ที่ทางม้าลายหน้าห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เพราะฉันจะไปขึ้นแท็กซี่ที่อยู่อีกฝั่งเพื่อกลับบ้าน และตอนที่ฉันกำลังข้ามถนนอยู่ก็มีรถคันหนึ่งขับมาเร็วมากๆ!

เอ่อ ฉันคงจะโดนรถชนตอนนั้นล่ะมั้ง แต่ฉันจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ นะ รู้สึกตัวอีกทีก็เพิ่งจะเมื่อกี้นี้ล่ะ

“คุณหมอมาแล้วจ้า” แม่เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมกับคุณหมอและพยาบาลสองคน

“ฟื้นแล้วเหรอครับ” คุณหมอยิ้มให้ฉัน

ถ้าไม่ฟื้นแล้วหนูจะมานั่งมองหน้าคุณหมอแบบนี้มั้ยล่ะคะ

“เดี๋ยวขอหมอตรวจหน่อยนะครับ” แล้วคุณหมอก็เริ่มตรวจเช็กร่างกายฉัน ถามไถ่อาการต่างๆ นานา พอเสร็จก็ออกไป ทิ้งให้พยาบาลจัดการกับสายน้ำเกลือฉันต่อไป

“ดีจังนะคะที่น้องไม่เป็นอะไรมาก” พี่พยาบาลคนสวยยิ้มให้ฉัน มั่นใจเหรอคะว่าไม่เป็นอะไรมาก ได้ข่าวว่าเข้าห้อง ICU สลบไปตั้งสองวันนะ “คุณแม่วางใจได้แล้วล่ะค่ะ ยังไงน้องก็ปลอดภัยแน่นอนแล้ว จะเหลือก็แต่รักษาตัวให้หายดีเท่านั้นค่ะ”

“ขอบคุณคุณพยาบาลมากเลยค่ะที่ช่วยดูแลลูกแฟร์”

“ค่ะ...อ้อ เดี๋ยวน้องผู้ชายคนนั้นจะมาที่นี่นะคะ คงจะดีใจน่าดูที่รู้ว่าน้องเขาฟื้นแล้ว” พี่พยาบาลเก็บอุปกรณ์แล้วเดินออกไป ฉันจึงหันไปหาแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความงุนงง

“แม่คะ ใครมาอีกเหรอคะ”

“อ๋อ ก็คนที่ขับรถชนลูกนั่นล่ะค่ะลูกแฟร์”

“เขาดูแลเราดีมากเลยนะ ชดใช้ค่าเสียหายให้เต็มที่ แล้วก็ออกค่ารักษาให้ด้วย เพราะญาติของเขาเป็นผู้อำนวยการของที่นี่”

ฉันแอบเบ้หน้านิดหน่อย ถึงจะดียังไงแต่ถ้าแลกกับชีวิตฉันทั้งคนมันก็ไม่คุ้นกันนะ อีกอย่างบ้านฉันก็มีฐานะดี ไม่จำเป็นต้องไปขอเงินใครหรอก!

แอ๊ด

เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบาๆ แม่เดินไปที่ประตูทันทีแล้วเชิญแขกผู้มาใหม่ให้เข้ามาหาฉัน หึ ก็นายคู่กรณีที่ขับรถชนฉันยังไงล่ะ!

อย่าให้รู้นะว่าไอ้คนไหนมันขับชน! แม่จะเล่นงานให้น่วม!

“สวัสดีครับคุณน้า” ฉันอึ้งไปนิดหน่อยเมื่อเห็นหน้าของผู้ชายคนนั้น...เขาดูอายุเท่าๆ ฉันเลยล่ะ

นายคนนั้นอยู่ในชุดไปรเวตธรรมดาๆ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันมองเขาอย่างไม่ละสายตาคือหน้าตาที่หล่อเข้าขั้นดาราของเขา! ผมสีน้ำตาลสว่างเหลือบค่อนไปทางสีส้ม เส้นผมที่ไร้การเซ็ตแต่ซอยเข้าไล่ระดับเว้นใบหูจนระลงไปที่ต้นคอ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หมอนั่นหน้าตาดร็อปลงไปได้เลย! ดวงตากลมโตของเขากำลังจ้องมองมาที่ฉันก่อนที่จะเดินปรี่เข้ามาหาแล้วยกมือฉันขึ้นจับซะหน้าตาเฉย!

“ขอโทษด้วยนะ ขอโทษจริงๆ”

“ฉันประมาทเอง ฉันมัวแต่คุยโทรศัพท์ก็เลยไม่เห็นว่าเธอข้ามถนนอยู่ แล้วฉันก็ขับรถเร็วมากก็เลยเบรกไม่ทัน ขนาดเพื่อนฉันมันเตือนแล้วแต่ฉันก็ยังไม่ยอมระวัง ก็เลยชนเธอ! ฉันขอโทษนะ ต่อไปฉันจะขับรถดีๆ ฉันจะมองทาง ฉันจะไม่คุยโทรศัพท์อีกแล้ว!”

ฉันอึ้งเล็กน้อยเมื่อผู้ชายตรงหน้ากำลังสารภาพผิดราวกับตัวเองกำลังท่องแร็พโย่วในเพลงสักเพลง เพราะมันเร็วจนฉันแทบจับใจความไม่ได้

“ฉันรู้สึกผิดจริงๆ ฉันจะชดใช้ให้ถึงที่สุด! ฉันจะทำทุกอย่างเลย!”

“เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว” ถึงฉันอยากจะด่าเขาก็เหอะ แต่พอเห็นท่าทางแบบนี้แล้วก็ด่าไม่ลงจริงๆ

“จริงเหรอ” เขาเงยหน้าขึ้นมา

“อื้อ ค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”

“เธอใจดีจัง!” ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกายขึ้นราวกับซาบซึ้งกับคำพูดของฉันมากๆ

“...”

“ตอนที่ฉันชนเธอแล้วเธอกระเด็นไปน่ะ ฉันตกใจมากๆ เลย” เอ่อ...ขอบคุณพระเจ้าที่ยังทำให้ฉันมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ “เธอนอนเถอะ ฉันขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันดีใจจริงๆ ที่รู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร”

นายนั่นดันฉันนอนลงที่เตียงโดยไม่ได้สนใจฉันที่กำลังเหวอกับการกระทำปุบปับของเขา เขาจัดแจงห่มผ้าห่มให้ฉันแล้วเดินไปหาแม่

“เรื่องค่าใช้จ่ายผมจัดการให้แล้วนะครับ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมานะครับ” เขาก้มหัวให้แม่ฉัน และแม่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด

เชอะ..ถ้าฉันไม่รอดขึ้นมา แม่จะมายืนยิ้มให้หมอนี่แบบนี้มั้ยเนี่ย!

“จ้ะ แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

ฉันยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง เพราะรู้สึกเบื่อกับเสียงคุยกันที่ดังอยู่ข้างๆ จนกระทั่งผู้ชายคนนั้นออกจากห้องไป ทุกอย่างจึงกลับสู่ความสงบเหมือนเดิม ฉันดึงผ้าห่มที่คลุมตัวออกแล้วหันไปมองแม่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ บนโซฟา

“แม่คะ หนูจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน” แม่ปิดหนังสือลงแล้วมองฉันอย่างประหลาดใจ

“ลูกเพิ่งฟื้นเองนะคะ คงอยู่อีกสักพักนั่นล่ะลูก ให้แน่ใจก่อนว่าลูกไม่เป็นอะไรจริงๆ” ฉันถอนหายใจแล้วหันกลับมาเหมือนเดิมก่อนจะหลับตาลง

บางทีหลังออกจากโรงพยาบาลฉันคงต้องไปสะเดาะเคราะห์ซะแล้วล่ะ

ก่อนหน้านั้นฉันก็เข้าโรงพยาบาลไปแล้วรอบนึง ช่วงนี้รู้สึกจะดวงสมพงศ์กับสถานที่นี้ซะเหลือเกิน

ชีวิตฉันมันช่างโชคร้ายซะจริงๆ นะ

 

1

 

“ถ้ารู้สึกเวียนหัว ไม่สบาย จะเป็นลม โทรหาแม่นะคะลูก”

“ค่า”

“ถ้าเดินไม่ไหวโทรหาแม่นะลูกแฟร์!”

“ค่า” ฉันยกมือไหว้แม่ผู้เป็นที่รักซึ่งขับรถมาส่งฉันหน้าโรงเรียน ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ ฉันยืนอยู่หน้ารั้วประตูโรงเรียนด้วยความรู้สึกเกร็งๆ อย่างบอกไม่ถูก

เหตุผลก็เพราะ...ที่นี่เป็นโรงเรียนใหม่ที่ฉันย้ายมาอยู่

อ้อ ฉันลืมแนะนำตัวไปสินะคะ ฉันชื่อแฟนแฟร์ค่ะ อายุสิบแปดปี ทุกคนอาจจะสงสัยว่าชื่อของฉันแปลว่าอะไร ฉันจะบอกให้ก็ได้ค่ะ มันเป็นชื่อเรียกการประโคมแตรประเภทหนึ่ง ฉันเองก็ไม่เข้าใจความหมายของมันเท่าไหร่ เพราะฉันก็ต้องเปิด Dictionary ดูเหมือนกัน เอาเป็นว่ามันคืออะไรทำนองนั้นละกันค่ะ ตอนนี้ฉันกลายเป็นนักเรียนชั้น ม.6 สดๆ ใหม่ๆ แต่ว่าที่ที่ฉันกำลังยืนอยู่กลับเป็นโรงเรียนใหม่ที่ฉันเพิ่งจะย้ายมาและทำไมฉันถึงย้ายโรงเรียนกลางคันแบบนี้น่ะเหรอ...อย่าให้พูดเลย คิดแล้วแค้น

เอาเป็นว่ามันเป็นความซวยของฉันเองที่ดันเกิดมาเจอคนเฮงซวยจนต้องระหกระเหินหนีมาอยู่โรงเรียนอื่น แล้วมันก็ซวยซ้ำซวยซ้อนยิ่งกว่า เพราะก่อนจะเปิดเรียนแค่หนึ่งวัน ฉันดันโดนรถชน!

ซวยมั้ย? ซวยได้อีกมั้ยคะชีวิต!

ฉันเลยต้องหยุดเรียนไปเป็นอาทิตย์ ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งจะเปิดเรียนกันไป แน่นอนว่าตอนนี้ฉันยังไม่รู้จักมักจี่กับใครในโรงเรียนนี้สักคน เพราะเป็นแบบนี้มันเลยสร้างความลำบากใจให้ฉันเล็กน้อยถึงปานกลาง...และมากที่สุด

ฉันจัดเสื้อตัวเองให้เข้าที่แล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับความรู้สึกหลากหลายปนกัน จะว่าตื่นเต้นก็ใช่ รู้สึกไม่ดีก็ไม่เชิง เพราะฉันไม่ชอบสายตาของใครก็ตามที่จ้องมองมาที่ฉัน

ฉันยืนเคว้งอยู่หน้าตึกใหญ่ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องไปที่ไหน รู้เพียงแค่ว่าฉันอยู่ห้อง B เท่านั้นเอง นอกจากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว ฉันยืนมองนักเรียนคนอื่นๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหานักเรียนหญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินมาทางฉัน

“เอ่อ ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นชะงักเมื่อฉันเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอมองหน้าฉันก่อนจะไล่ระดับสายตาลงไปเรื่อยๆ แล้วมองย้อนกลับขึ้นมามองหน้าฉันใหม่

ฉันไม่ดคิดไปเอง แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ

“ชั้น ม.หก ห้อง B เรียนตึกไหนเหรอคะ”

“เธอเป็นเด็กใหม่เหรอ” เธอคนนี้เอียงใบหน้ามองฉันอย่างสงสัย ฉันเพิ่งสังเกตว่าเธอก็น่ารักดีเหมือนกันนะ เธอไว้ผมสั้นเคลียบ่า ดัดเป็นลอนคลื่นๆ ขนาดใหญ่ สีแอบออกประกายแดงนิดๆ ผิวขาวมากๆ ด้วย

“ค่ะ”

“เรียนตึกนี้ล่ะ ชั้นสาม” เธอตอบแล้วยิ้มให้ฉัน ฉันก้มหัวให้เล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณ

“...เธอน่ารักดีเนาะ” สายตาของเธอมองกวาดไปทั่วใบหน้าของฉันอย่างรู้สึกได้

“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันอยู่ ม.หก เหมือนกัน” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะยิ้มให้ฉันแล้วเดินไปทันที ฉันมองตามเธอที่เดินไปจนลับสายตาจึงค่อยๆ เดินขึ้นตึกที่อยู่ตรงหน้า

พอเดินขึ้นมาถึงชั้นสามฉันก็พบว่าหน้าห้องทุกห้องมีตัวอักษณ A-D แปะไว้หมด แน่นอนว่ามันเป็นตัวอักษรที่มีไว้บอกห้องเรียนแต่ละห้อง ฉันเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้อง B และได้ยินเสียงคุยกันแว่วๆ ลอดออกมา

“นี่ถ้าฉันเปิดประตูเข้าไป คนในห้องเขาจะคิดยังไงล่ะ ฉันไม่ได้มาโรงเรียนเป็นอาทิตย์เลยนะ เขาจะรู้กันมั้นว่าฉันเป็นเด็กใหม่ของห้องนี้ ฉันยืนลังเลอยู่หน้าห้องก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปจริงๆ และเมื่อฉันเปิดมันเข้าไปนั้น ห้องที่เคยมีเสียงดังสนั่นก็เงียบกริบราวกับป่าช้าทันที

ทุกสายตากำลังจดจ้องมาที่ฉันซึ่งยืนนิ่งอยู่หน้าประตู ฉันเริ่มทำอะไรไม่ถูกนอกจากยืนทำหน้าเจื่อนอยู่แบบนั้น มองอะไรกัน ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดซะหน่อย

“...”

“เอ่อ ขอโทษค่ะ” แล้วฉันจะขอโทษไปทำไมล่ะเนี่ย

“...” เมื่อความเงียบยังคงเป็นคำตอบของทุกอย่าง ฉันก็เลยปิดปากตัวเองสนิท จนกระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งในห้องลุกจากโต๊ะแล้วเดินเข้ามาหาฉัน เธอคนนั้นหรี่ตามองฉันก่อนจะเปิดปากพูด

“ใช่เด็กใหม่รึเปล่า”

“สวัสดี ฉันเป็นหัวหน้าห้องของห้องนี้” เธอค่อยๆ เผยยิ้มให้ฉันและเพราะแบบนั้นจึงทำให้ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็เริ่มต้นไม่ได้แย่อย่างที่คิด

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

กรี๊ดดด~ฉันนี่มันดวงซวยชัดๆ! อยู่ดีไม่ว่าดี เกิดต้องย้ายโรงเรียนกะทันหัน แถมก่อนเปิดเทอมยังถูกรถชนจนต้องเข้าไปนอนเล่นในห้อง ICU อีก โชคดีนะเนี่ยที่ฉันรอดตายมาได้ (-_-*) พอย้ายไปโรงเรียนใหม่ฉันก็พบว่าไม่มีเพื่อนคนไหนอยากเป็นมิตรกับฉันสักคน T^T! แต่เรื่องบังเอิญมันมีอยู่บนโลกจริงๆ เพราะ ‘เอิร์ธ’ คู่กรณีที่ขับรถชนฉันดันเป็นเพื่อนห้องเดียวกับฉันซะงั้น!เขาจำฉันได้แล้วก็ทำดีกับฉันมากๆ ด้วย อ๊ายยย ในที่สุด ‘แฟนแฟร์’ คนนี้ก็จะได้มีเพื่อนใหม่กับเขาซะที!
 
แต่ดีใจอยู่ไม่นานก็มีคนเตือนฉันว่าอย่าเข้าใกล้หมอนั่น เพราะเขาและเพื่อนสนิทอย่าง ‘อาร์ตี้’ และ ‘เอ็มเบอร์’ นั้นเป็นตัวอันตรายสำหรับผู้หญิงทุกคน!พอฟังเรื่องเล่าต่างๆ แล้วฉันก็กลัวไปเลยล่ะ =O=และอีกเรื่องที่หลอนฉันมากๆ หลังเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นก็คือ... เหมือนฉันจะมีเซ้นส์... มองเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น! ฮือๆๆ ฉันรู้สึกตลอดเวลาเลยนะว่ามี ‘อะไรบางอย่าง’ติดตามฉันอยู่ และบางครั้งฉันก็มองเห็นบางอย่างที่ว่าด้วย TOT แง~เธอต้องการอะไรก็บอกกันดีๆ สิ ทำแบบนี้นี่ฉันหวาดผวาจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้วนะ!

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
26/07/2014

Doubtful สืบรักเสี่ยงใจ วุ่นรักร้ายนายตัวดี นิยายเล่มนี้ของพี่minaสนุกดีค่ะเราชื่นชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้มาจากหลายๆเรื่องที่เคยอ่านผลงานของนักเขียนท่านนี้มาบ้างแล้วก็จากการบอกต่อจากคนอื่นว่าเป็นนักเขียนใหม่ที่แต่งนิยายสนุกเห็นมีคนบอกเรื่องนี้สนุกก็เลยไปเช่ามาอ่านเห็นเล่มแอบหนานิดๆตอนแรกไม่อยากอ่านเลยเพราะเล่มหนาเกินแล้วคือแนวมากกว่ารักเล่มอื่นที่อ่านคาไว้อยู่สุดท้ายก็ต้องมาอ่านเรื่องนี้ด้วยจะบอกว่าอะไรดีล่ะคือเอาเป็นว่าสนุกจนวางไม่ลงดีกว่าอีกครั้งที่เราประทับใจกับผลงานของนักเขียนท่านนี้ที่เขียนนิยายแบบมีพล็อตแปลกมาตลอดแล้วเนื้อเรื่องก็ชวนให้ติดตามทั้งเรื่องชนิดว่าวางไม่ลงเรื่องนี้ก็เล่มอีกเล่มค่ะเอาจริงๆคือเรื่องนี้อ่านแล้วหลอนนะยิ่งอ่านตอนกลางคืนเป็นอะไรที่แบบบรรยายได้วังเวงมากรวมไปถึงปริศนาในเรื่องอีกบอกตามตรงว่าอ่านเรื่องนี้แล้วเดาฉากต่อๆไปไม่ออกเลยค่ะเนื้อเรื่องชวนติดตามทั้งเล่มเป็นนิยายแนวรักที่มีแนสสอบสวนเข้ามาปนได้อย่างลงตัวอ่านแล้วชอบมากคือทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่องอ่านแล้วมันมีคำถามผุดขึ้นในหัวตลอดและอีกไม่นานก็มีคำตอบโผล่มาเราว่าพล็อตเรื่องนี้นักเขียนวางพล็อตมาลงตัวมากๆค่ะแบบแต่ละเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นอ่ะคือมันมีคำตอบอยู่แต่เราต้องอ่านไปถึงจะรู้อย่างนิยายบางเรื่องอ่ะอ่านไปจนจบบางคนยังงงตอนจบอยู่เลยเป็นนะนิยายหลายๆเรื่องเราก็เคยอ่านเจอแต่พอาอ่านเรื่องนี้แล้วบอกตรงๆว่าประทับใจมากค่ะคือมันมีหลากหลายอารมณ์ทั้งความรักของพระเอกนางเอกด้วยและก็มีอะไรที่เป็นปริศนาที่เราต้องตามหาคำตอบคืออยากบอกว่าชอบมากอ่ะมันเป็นอะไรที่อ่านแล้วใช่จะบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงนิยายของพี่ปลาน้อยอ่ะที่เป็นเรื่องของจินนี่ตอนช่วงที่จินนี่หายตัวไปเป็นอะไรที่แบบเนื้อหายืดยาวมากๆกว่าจะจบอ่านแล้วก็ลุ้นกันไปว่าสรุปเนื้อเรื่องเป็นยังไงแต่เรื่องนี้ก็โอเคค่ะอ่านแล้วชอบมากเลยได้หลากหลายอารมณ์ดีเราอ่านแล้วไม่เบื่อเลยอ่ะมีความรู้สึกว่าไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวนี้มานานมากๆแล้วอ่านแล้วชอบมากอีกอย่างเลยคือแบบหน้าปกหน้ารักมากอ่ะเห็นแล้วรักเลยไม่แน่ใจอีกว่าเป็นนิต่อของนิยายเรื่องไหนอีกไหมช่วงนี้ตัวละครหลากหลายมากอ่ะบอกตรงๆว่าเหนื่อยที่จะติดตามเป็นเซตฮ่าๆๆๆคือมันเป็นอะไรที่เปลืองเงินเว่อๆอ่ะนี่ถ้าไม่ชอบจริงๆไม่ซื้อเล่มต่อเลยอ่ะฮ่าๆๆต้องไปแอบอ่านในร้านหนังสือก่อน

สินค้าที่ใกล้เคียง (67 รายการ)

www.batorastore.com © 2024