สาวซนแอบค้นใจ Naughty girl (Cookie)
ประหยัด: 89.25 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
บทที่ 1
ภายใต้ผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เรือสำราญส่วนตัวลำหรูแล่นอย่างช้าๆ ไปตามมหาสมุทรแปซิฟิก
บนเรือกำลังมีการจัดงานแต่งงาน ดูจากภายนอกเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป แต่รอยยิ้มอย่างพึงใจของทั้งสองบ่งบอกถึงความใจในชั่วขณะนั้น
“จูบเลย! จูบเลย! จูบเลย!”
ท่ามกลางกุหลาบสีแดงและลูกโป่งหลากสี บรรดาแขกเหรื่อพากันส่งเสียงยุให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจูบกัน และในที่สุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ทำตามเสียงเรียกร้องด้วยการเริ่มต้นจุมพิตอันร้อนแรง
“เมื่อไรฉันถึงจะได้สวมชุดเจ้าสาวสวยๆ แบบนี้บ้างนะ”
วินี่ โจวที่ยืนอยู่ข้างเสาท่อนกลมทอดถอนใจเมื่อได้เห็นงานแต่งงานแบบแหวกแนวที่จัดขึ้นบนเรือสำราญ
ปีนี้เธออายุยี่สิบ พี่สาวทั้งสามคนต่างหาคู่หมายที่ถูกใจได้ตั้งแต่อายุยี่สิบ เหลือแต่เธอที่อายุยี่สิบแล้วยังไม่เคยมีความรัก
เพราะอะไรนะ เธอสวยไม่พองั้นหรือ
ไม่ใช่
ลูกสาวของมาดามโจวต่างได้รับถ่ายทอดยีนดีๆ มาทั้งนั้น ลูกสาวทั้งสี่ของตระกูลโจวจึงงดงามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเธอที่ยิ่งโตใบหน้ายิ่งสวยสะคราญ
เธอมีคิ้วโก่งเรียวตามธรรมชาติโดยไม่ต้องแต่ง มีนัยน์ตากลมโตที่ทอประกายแวววาวยามกะพริบตา และมีจมูกโด่งเป็นสัน ไม่ว่ามองมุมไหนก็สวยหยาดเยิ้ม แถมเรียวปากยังเอิบอิ่มโดยไม่ต้องพึ่งลิปสติก ใครๆ ต่างบอกว่าเธอสวยเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้
หรือจะเป็นเพราะเธอเรียนไม่เก่ง คะแนนดีไม่พอ เลยไม่มีคนมาจีบ
ก็ไม่ใช่นะ ผลการเรียนของเธอดีเยี่ยม และเนื่องจากเป็นหนอนหนังสือทำให้ชอบอ่านแม้กระทั่งตำราเรียน เธอจึงกลายเป็นศิษย์รักของบรรดาอาจารย์ เพราะอายุแค่ยี่สิบก็สอบเทียบจบปริญญาตรีแล้ว จะว่าเธอเป็นสาวอัจฉริยะยังได้เลย
งั้นแสดงว่านิสัยเธอแย่ถึงขั้นรับไม่ได้?
นั่นยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่ แม้เธอจะไม่ใช่กุลสตรีแบบฉบับที่สุภาพเรียบร้อย แต่ก็ไม่ใช่คุณหนูที่ถูกตามใจจนเสียนิสัยแน่นอน
เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ยี่สิบปีที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ถึงเวลาเรียนก็เรียน ถึงเวลาพักผ่อนก็พักผ่อน กิจกรรมยามว่างเพียงอย่างเดียวที่ชื่นชอบคือการอ่านหนังสือ แม้แต่หลุยส์ วิตตองยังไม่รู้จัก เธอนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนทุกวัน เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เก็บมาจากเสื้อผ้าโละของพี่ๆ ทั้งนั้น
แถมเธอยังหารายได้พิเศษด้วยการช่วยอาจารย์ทำงานวิจัย นอกจากค่าเล่าเรียนแล้ว เธอไม่ได้ขอค่าขนมพ่อกับแม่เลย
แล้วทำไมผู้หญิงที่เพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้ถึงไม่มีใครสนใจนะ
พูดไปพูดมา คงเป็นเพราะวีนี่ไม่เหมือนผู้หญิงเอาซะเลย
ถ้าเธอเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่รู้จักใช้เวลาและเงินทองไปกับการแต่งตัว หรือรู้จักทำตัวแง่งอนแบบผู้หญิง รู้จักใช้มารยาหญิงเสียบ้าง ไม่ใช่ทำตัว ‘ตามสบาย’ เดินไปกินไป แถมยังพูดจาโผงผางตรงไปตรงมากับผู้ชายแบบนี้ เธอคงเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจที่สุดในฮาวายเลยทีเดียว เพราะเธอมีทั้งรูปลักษณ์และชาติตระกูลที่ดีพร้อม
แต่เวลาทั้งหมดของเธอกลับถูกใช้อยู่ในห้องสมุด แม้เธอจะมีจินตนาการเกี่ยวกับความรักมากมาย แต่กลับไม่เคยสัมผัสกับความรักจริงๆ สักครั้ง ทว่าจนป่านนี้วีนี่ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีใครมาจีบเธอ ได้แต่มองพี่สาวแต่งงานกันไปทีละคน และหวังว่าตัวเองจะโชคดีได้พบรักแท้แบบพี่บ้างๆ
เธอเป็นหนอนหนังสือ อ่านหนังสือไม่เลือกและชอบหนังสือทุกประเภทจึงเป็นธรรมดาที่จะซึมซับ ‘ลัทธิ’ ต่างๆ ในหนังสือมาไม่น้อย หนังสือทุกเล่มต่างบอกว่าชีวิตแต่งงานที่มีความสุขต้องมีพื้นฐานมาจากความรัก หากปราศจากความรักก็เลิกคิดเรื่องความสุขไปได้เลย
คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักอย่างเธอจึงไม่มีทางข้ามขั้นตอนโดดไปแต่งงานก่อนมีความรักอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น จะว่าไปแล้วเรื่องแต่งงานสำหรับเธอยังอีกยาวไกล
แถมหมอดูชาวมองโกลคนหนึ่งยังเคยทำนายไว้ว่าเธอกับพี่ๆ จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่สูงส่ง และความจริงก็พิสูจน์แล้วว่าหมอดูคนนั้นพูดถูก
ก็ดูสิ ลิโมเน่ พี่ใหญ่ของเธอแต่งงานกับกษัตริย์แห่งพูอุส บีน่า พี่รองแต่งงานกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของรัสเซีย และอเมซ่า พี่สามแต่งงานกับเจ้าชายแห่งแปร์โรลต์ ส่วนเธอ...ตอนนี้ยังเป็นที่จับตามองของบรรดาเพื่อนฝูงและญาติๆ ว่าจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีเลิศขนาดไหน
เฮ้อ...วีนี่ถอนหายใจอย่างกดดัน นี่ถ้าเธอเกิดตกหลุมรักขอทานขึ้นมาจะทำไงเนี่ย คำทำนายนี่ทำร้ายกันชัดๆ ทำให้แม้เธออยากมีความรักแต่ก็กลัวจะต้องเจ็บปวด ความรู้สึกมันขัดแย้งกันไปหมด
“คุณครับ ขอผมเป็นเพื่อนด้วยคนได้ไหมครับ”
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหู วีนี่เบนสายตาไปที่ต้นเสียง เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งถือแก้วแชมเปญอยู่ในมือ เขาสวมสูทโดดเด่นทันสมัย ทรงผมก็จัดแต่งอย่างมีสไตล์
สาวน้อยที่งดงามราวตุ๊กตาบาร์บี้เริ่มสนใจเขาแล้ว ชาร์ลีรีบฉีกยิ้มหวานชวนหลงใหล อวดฟันขาวสะอาด
วีนี่กลอกตาไปมา ก่อนที่ริมฝีปากคู่งามจะปฏิเสธอย่างชัดเจน “ไม่ได้”
ไม่ใช่เขา ไม่ใช่ผู้ชายที่หน้าตาถือว่าโอเคคนนี้
เธอไม่รู้ว่าความรักหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เธอรู้ว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้เลย แม้ว่าเขาจะดูเท่ไม่น้อย
ความรู้สึกเป็นเรื่องมหัศจรรย์ อเมซ่า พี่สามเคยบอกเธอว่าเมื่อไรที่เธอใจเต้นเร็วเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชาย แสดงว่าความรักมาทักทายเธอแล้ว
ตอนที่พี่สามเจอเจ้าชามแรมซีย์ก็รู้สึกใจเต้นเร็วขึ้น พี่สามเลยตัดสินในทันทีว่าเจ้าชายแรมซีย์เป็นคู่แท้ของเธอ และหลังจากนั้นก็ตามจีบเธออย่างจริงจัง
แต่ตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าใจเต้นเร็วขึ้น แสดงว่าเขาไม่ใช่เนื้อคู่ของเธอ
“ทำไมล่ะ” ชาร์ลีไม่ยอมแพ้ เพราะเขาไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธมาก่อน “ถ้าคุณห่วงเรื่องแบ็กกราวนด์ของผม คุณน่าจะรู้ว่าแขกบนเรือลำนี้ทั้งร่ำรวยและมีชาติตระกูลสูงส่ง ผมเป็นทายาทของวินด้า กรุ๊ป พ่อของผมคือเทอร์รี่ หลิง มีเส้นสายในแวดวงการเมืองไม่น้อยทีเดียวนะครับ”
แววตาของวีนี่ปรากฏรอยเคลือบแคลง
ยิ่งเห็นผู้ชายตรงหน้า จากที่รู้สึกเฉยๆ ก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบหน้าขึ้นทุกที
ไม่รู้เขาจะอวดเบ่งอะไรนักหนา ชาติตระกูลงั้นหรือ ยังไงนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสร้างขึ้นเองอยู่ดี ขนาดพี่เขยคนที่สามของเธอเป็นถึงเจ้าชาย แถมอนาคตยังจะขึ้นเป็นกษัตริย์ของแปร์โรลต์ เขายังไม่เคยโอ้อวดตัวเองแบบนี้เลย ก็แค่ทายาทของบริษัทบริษัทหนึ่ง ไม่รู้จะภาคภูมิใจอะไรนักหนา
“คุณเป็นญาติฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายครับ” ชาร์ลีคิดว่าเธอเงียบเพราะเริ่มสนใจเขาแล้ว จึงประกาศ ‘ศักดา’ ของตัวเองต่อไป “พ่อของผมเป็นเพื่อนสนิทของญาติผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ผมเองก็เคยเจอเจ้าบ่าวหลายหน เดี๋ยวงานเต้นรำคืนนี้ คุณเป็นคู่เต้นผมนะ”
วีนี่กะพริบตากลมโตอีกครั้ง “ฉันเต้นรำไม่เป็น”
เธอตามมาร่วมงานกับพ่อแม่ เจ้าสาวเป็นลูกบุญธรรมของแม่เธอ วันนี้แม่จึงยุ่งกับการพูดคุยกับเพื่อนฝูงทั้งวัน ทำให้คนที่ไม่ถนัดเรื่องการเข้าหาผู้ใหญ่อย่างเธอถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
“เต้นรำไม่เป็น?” คำพูดของเธอสร้างความตกตะลึงให้อีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ชาร์ลีเลิกคิ้วพลางเผยรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ เพราะรู้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะแพ้รอยยิ้มของเขา “ล้อเล่นหรือเปล่าครับ ผู้หญิงบนเรือลำนี้ไม่มีใครเต้นรำไม่เป็นหรอก”
ตระกูลเฮ่อซึ่งเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของไต้หวันยืมเรือสำราญระดับหรูจากเพื่อนสนิทเพื่อแต่งลูกสะใภ้เข้าบ้าน แขกทุกคนบนเรือจึงน่าจะเป็นคนที่พร้อมด้วยฐานะและชื่อเสียง และผู้หญิงไฮโซพวกนี้ก็ชอบชิงดีชิงเด่นกันจะตาย ใครๆ ก็อยากจะโชว์สเต็ปบนเวทีกันทั้งนั้นแหละ
“สรุปว่าฉันเต้นรำไม่เป็น” วีนี่อยากจะขอตัวแล้ว เธอยกชายกระโปรงขึ้นและหันหลังเดินไปตามดาดฟ้าเรือโดยไม่แม้แต่จะเอ่ยลาตามมารยาท
ชาร์ลีอึ้งไป
นิสัยเธอแปลกดีแฮะ ความรู้สึกอยากเอาชนะก่อตัวขึ้น เขารีบตามไปคว้ามือเธอไว้
“ทำอะไรของนาย” ความรู้สึกระแวดระวังก่อตัวขึ้นทุกอณูในร่าง เธอเบิกตากลมโตจ้องเขาพลางตั้งท่าจู่โจมหากเขาเกิดทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมา
เนื่องจากเป็นถึงลูกสาวของประธานโรงแรมรอยัล วิตตอง พ่อของเธอจึงจ้างบอดี้การ์ดมาคอยดูแลลูกสาวถึงสองกลุ่ม รวมเป็นแปดคน
เธอชอบเรียนวิชาป้องกันตัวกับบรรดาบอดี้การ์ดตั้งแต่เด็ก ตอนอายุสิบกว่าขวบยังชอบลงไม้ลงมือกับเพื่อนผู้หญิงที่หาว่าเธอเป็นหนอนหนังสือ และมักจะคิดว่าตัวเองก็มีฝีมือพอตัว ทำให้พ่อต้องอารมณ์เสียอยู่บ่อยๆ
แน่นอนว่าตอนนี้เธอเลิกนิสัยซี้ซั้วลงไม้ลงมือกับคนอื่นแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝีไม้ลายมือของเธอไม่เลว สามารถป้องกันตัวเองและจับผู้ชายที่ไร้มารยาทตรงหน้าทุ่มได้แน่นอน
“ก็แค่เต้นรำ ทำไมคุณต้องปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้ด้วย” ชาร์ลียังคงไม่ยอมแพ้ จะต้องเต้นรำกับเธอให้ได้
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเต้นรำไม่เป็น” วีนี่เลิกคิ้วเรียวงาม
“งั้นเรามาคุยกันก็ได้ ผมชื่อชาร์ลี หลิง คุณล่ะครับ ชื่ออะไร” เขาซักไม่หยุด เพราะยิ่งเธอปฏิเสธ เขายิ่งรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์น่าค้นหา
“นายมันน่ารำคาญจริงๆ!” วีนี่หมดความอดทน เธอไม่ชอบผู้ชายคนนี้!
เธอพลิกข้อมือและกลายเป็นฝ่ายคว้ามือเขาไว้ จากนั้นออกแรงบีบอย่างเต็มที่
“โอ๊ย!” ชาร์ลีไม่อยากเชื่อว่าสาวสวยคนนี้จะมีเรี่ยวแรงมหาศาล
“เฮอะ! รู้ฤทธิ์ฉันเสียบ้าง จะได้เลิกตอแยฉันเสียที!” เธอยกเท้าขึ้นก่อนจะเตะไปที่น่องของเขาอย่างแรง
“อ๊า!” ชาร์ลีเจ็บจนต้องกุมขากระโดดเหยงๆ ผู้หญิงอะไรวะ ดุชะมัด!
วีนี่รีบวิ่งหนีลงจากดาดฟ้า ชายกระโปรงสีเหลืองนวลหายลับไปตรงบันได
แสงจันทร์สาดส่อง อีกด้านของดาดฟ้ามีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลายืนอยู่ เขามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอึ้งๆ สายตาค้นคว้ามองตามเงาร่างที่หายลับไป ใบหน้าคมเข้มปรากฏแววตื่นตะลึงอย่างไม่ค่อยได้พบเห็น
เธอช่างห้าวหาญ แต่ก็งดงามเหลือเกิน...
ขณะที่มองดูชายหนุ่มที่กรรมตามสนองและกำลังกระโดดเหยงๆ ไปมาอยู่นั้น จู่ๆ เรียวปากของเขาก็แต้มยิ้ม พลันความคิดหนึ่งก็บังเกิดขึ้นในใจ
เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาเสียเลย
วีนี่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง เมื่อแน่ใจว่าหมอนั่นไม่ได้ตามมาก็รีบปิดประตูปังใหญ่ พวงแก้มทั้งสองข้างแดงเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติหลังการวิ่ง ปอยผมหลุดลุ่ยเล็กน้อย แต่กลับทำให้เธอยิ่งดูอ่อนวัยและน่าหลงใหล
“เกิดอะไรขึ้นคะ” แม่นมถามเธออย่างแปลกใจ “คืนนี้มีงานเต้นรำไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณหนูกลับมาเร็วจัง”
วีนี่สลัดรองเท้าส้นสูงออก หากไม่ใช่เพราะสวมรองเท้าส้นสูง เธอคงวิ่งได้เร็วกว่านี้ “มีผู้ชายกวนประสาทคนนึงขอหนูเต้นรำ หนูเลยสั่งสอนเขาแล้ววิ่งหนีกลับมาที่ห้อง”
แม่นมปิดปากพลางอุทาน “ตายแล้ว! คุณหนูคนดีของป้า ทำอย่างนั้นได้ยังไงคะ”
แขกบนเรือลำนี้ล้วนแต่ไม่ธรรมดา ไม่ว่าคนที่คุณหนูลงไม้ลงมือกับเขาจะเป็นใคร หากอีกฝ่ายเอาเรื่องขึ้นมาก็ไม่ดีทั้งนั้น
“ใครให้หมอนั่นมาจับมือหนูล่ะ หนูไม่ทันคิดถึงได้พลั้งมือไป” วีนี่หันหลังให้แม่นม “อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยค่ะ ป้าช่วยหนูถอดชุดก่อนดีกว่า หนูใกล้จะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”
นี่เป็นเดรสชุดเดียวที่เป็นของเธออย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ดึงดันจะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อให้เธอใส่มาร่วมงานแต่งงานของญาติผู้พี่ เธอยังอยากจะเอาเดรสเก่าของพี่สาวทั้งสามมาใส เพราะชุดพวกนั้นยังใหม่ๆ สวยๆ อยู่เลย ทิ้งไว้ไม่มีคนใส่น่าเสียดายออก
“คุณหนูก็...ขืนยังไม่เรียบร้อยแบบนี้ เดี๋ยวก็ขายไม่ออกกันพอดี” แม่นมช่วยปลดกระดุมเม็ดเล็กๆ บนตัวชุดพลางบ่นไปเรื่อย
วีนี่กะพริบตาพลางเลิกคิ้วโก่งงาม “หมายความว่า...ถ้าหนูทำตัวเรียบร้อยก็จะได้แต่งงานงั้นหรือคะ”
แน่นอนว่าเธออยากมีความรัก แต่ถ้าต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่นิสัยของตัวเอง เธอยอมแห้งเหี่ยวตายดีกว่า และถึงยังไงเธอก็ทำตัวเป็นกุลสตรีไม่เป็นอยู่ดี
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)