Autumn in Love ฝ่าปราการหัวใจรักสาวฤดูใบไม้ร่วง
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
หัวใจของเขาไม่เปิดรับใคร
นั่นเพราะยังไม่มีหัวใจดวงไหนที่มีค่าพอ
บทนำ
-คฤหาสน์ Love Brothers-
ในที่สุดวันปิดเทอมที่รอคอยก็มาถึง กลุ่มเลิฟบราเธอร์สที่ทำงานหนักดูแลเลิฟไฮสกูลแทนท่าน ผอ. พ่อบุญธรรมซึ่งบินไปพักร้อนก็จะได้พักบ้างเหมือนกัน ไมดาส นาร์ซิส เลตัส ไรเลย์ เลิฟบราเธอร์สทั้งสี่จับจองโซฟาคนละตัวนอนเอกเขนกประหนึ่งเจ้าชายก็ไม่ปาน
“นี่คุณพ่อบินไปพักร้อนหรือไปปักหลักอยู่ตลอดกาลกันแน่ สองเดือนแล้วก็ยังไม่กลับมาอีก” เลตัสตัวแสบประจำกลุ่มบ่นเสียงดัง
“เปิดเทอมเดือนพฤศจิกายนนี้ก็คงได้เวลากลับมาแล้วมั้ง” นาร์ซิสออกความเห็นพลางพลิกหน้าหนังสือชีววิทยาเล่มหนาที่อ่านอยู่
“หยุดยาวเป็นเดือนแบบนี้ฉันอยากไปเที่ยวที่ไกลๆ” ไมดาสพูดเอื่อยๆ เขาเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม จึงเรียกความสนใจจากทุกคนได้เสมอ
“เราไปหาคุณพ่อที่ฮาวายกันดีป่ะ ถือโอกาสเที่ยวพักผ่อนไปในตัว” เลตัสเสนอ
“ฉันอยากไปที่ที่สงบ คนน้อย เงียบสงัด มีความเป็นส่วนตัวสูง” ไมดาสตั้งเงื่อนไขที่อีกสามคนแอบทำหน้าละเหี่ยใจ
“ไปทัวร์ดาวอังคารกับนาซ่าดิ” นาร์ซิสว่า
“หรือไม่ก็ไปบวชซะ”
ไรเลย์ประชด ไมดาสตวัดสายตามองเขาอย่างเคืองๆ ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
กริ๊ง กริ๊ง
ทุกคนหันมองหน้ากัน ไม่มีใครมีทีท่าว่าจะขยับลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์แต่อย่างใด โซฟาของไรเลย์อยู่ใกล้โทรศัพท์มากกว่าใคร เขาจึงเอื้อมมือออกไปรับสาย
“ครับ” ไรเลย์กรอกเสียงห้วนสั้นลงไป
(นั่นไรเลย์ใช่มั้ย พ่อจำเสียงได้!)
น้ำเสียงร่าเริงของพ่อบุญธรรมดังจนไรเลย์ต้องเอาหูโทรศัพท์ห่างออกมาจากหูประมาณสองเซ็นต์
“ครับคุณพ่อ”
(ปิดเทอมอย่าเพิ่งวางแผนไปเที่ยวไหนกันนะเด็กๆ)
คุณพ่อพูดเหมือนรู้ว่าพวกเขากำลังวางแผนไปเที่ยวกันอยู่อย่างนั้นแหละ ห้องรับแขกมีกล้องซ่อนไว้หรือไง
“ทำไมครับ พวกเรากะจะบินไปหาคุณพ่อที่ฮาวาย”
(ไม่ต้อง ไม่ต้องงง)
พ่อบุญธรรมยับยั้งเสียงสูง ไม่อยากให้พวกเขาไปขนาดนั้นเลย หรือว่าแอบไปมีกิ๊กอยู่ที่ฮาวาย
(ภายในอาทิตย นี้จะมีผู้หญิงคนหนึ่งไปที่บ้านเรา ต้อนรับเธอให้ดี)
“หา?”
ไรเลย์ทวนคำเสียงหลง ผู้หญิงกับเลิฟบราเธอร์สเปรียบเหมือนน้ำกับน้ำมัน ไม่มีวันเข้ากันได้ เรื่องน่าตื่นตระหนกเช่นนี้ควรให้พี่น้องรับรู้กันถ้วนทั่ว เขาจึงกดปุ่มสปีกเกอร์เปิดเสียงให้ทุกคนได้ยินคำบัญชาของพ่อบุญธรรม
(ผู้หญิงคนนี้เป็นแขกคนสำคัญของพ่อจากกรีซ เธออายุไล่ๆ กับลูกหรืออาจจะมากกว่า เธอจะมาพักบ้านเราตลอดปิดเทอมนี้ พ่อขอมอบหน้าที่ดูแลเธอให้ไรเลย์)
ตึง!
ไมดาส นาร์ซิส เลตัส ขยับตัวขึ้นนั่งหลังตรงแน่วหลังได้ยินคำพูดของคุณพ่อชัดเจนแจ่มแจ๋ว ส่วนไรเลย์น่ะเหรอ...อารมณ์เดือดไปเรียบร้อยแล้ว!
“ทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นผม!”
ไรเลย์กระชากเสียง ปกติเขาเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี แต่คราวนี้เขา ‘หลุด’ อย่างจัง
(ต้องเป็นลูกนั่นแหละ หนูคนนั้นหน้าตาสะสวย ผมยาว ผิวขาว รูปร่างค่อนข้างสูงโปร่ง นิสัยของเธอคล้ายกับลูก ดังนั้นลูกน่าจะเข้ากับเธอได้ดี ยังไงพ่อก็ฝากหนูคนนั้นด้วยนะไรเลย์)
“ผมไม่...”
ตู๊ด
สายตัดไปแล้ว ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศอึมครึมแผ่ปกคลุม ทุกคนมองหน้าไรเลย์ราวกับรอให้เขาพูดอะไรบางอย่างออกมา
ไรเลย์พยายามข่มความไม่พอใจและกลั้นคำสบถหยาบคายทั้งหลายซึ่งมาจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก เขาเคยเป็นคนใจร้อน แต่มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว เขาจะต้องใจเย็นเป็นน้ำ เย็นไว้ เย็นไว้ไรเลย์
“ยัยผู้หญิงนั่นเป็นคนโปรดที่คุณพ่อหวังจับคู่ในนายแหงเลยว่ะ” เลตัสเอ่ยลอยๆ ไรเลย์ขบกรามแน่น
“น่าสนใจ” นาร์ซิสพึมพำ ไม่สนสายตาคมกริบของไรเลย์
“นายคิดว่าไงไรเลย์” ไมดาสถาม
“ซื้อทัวร์ไปดาวอังคารกับนาซ่านี่มันเท่าไหร่วะ”
ไรเลย์ไม่เคยรู้สึกว่าเขาอยากไปเที่ยวที่ไหนไกลเท่านี้มาก่อนเลย ดาวอังคารน่าจะเป็นทริปที่ยอดเยี่ยมที่สุด
1
Autumn สาวฤดูใบไม้ร่วง
ในโลกนี้มีคนสองจำพวก พวกแรกรู้สึกรำคาญหงุดหงิดเพียงแค่เห็นหน้าฉัน พวกที่สองรู้สึกสงบใจเมื่อมีฉันอยู่ใกล้ๆ เพราะฉันพูดน้อยจนเกือบไม่พูดเลย ความมั่นใจก็ไม่มีสักนิด ทั้งยังขี้อายมากอีก เคยมีคนไล่ฉันให้ไปเป็นตัวตุ่นขุดรูอยู่ใต้ดินจะได้ไม่ต้องมีมนุษยสัมพันธ์กับใคร ใช่ว่าฉันไม่อยากมีเพื่อนนะ ฉันก็แค่พูดน้อยเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง ฉันชอบคิดชอบฟังมากกว่า
ตั้งแต่ดาเวนย้ายเข้ามาเรียนที่แฟนทอมไฮสกูลก็ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ฉันได้รู้จักกับคำว่าเพื่อนและได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอย่างแท้จริง ฉันคิดว่าตัวเองมีพัฒนาการด้านการเข้าสังคมและเริ่มเป็นฝ่ายพูดกับใครๆ ก่อนมากขึ้น เหมือนจะประกาศกลายๆ ให้โลกรู้ว่าออทั่มคนนี้ไม่ได้เป็นใบ้
คนที่มีอิทธิพลคอยกระตุ้นให้ฉันพูดและมีมนุษยสัมพันธ์มากขึ้นก็คือควินน์ และขณะนี้เขากำลังนั่งจ้องหน้าฉันอยู่ จ้องแบบไม่วางตาเลย ฉันหลบสายตาแล้วไอกลบเกลื่อนความเขินเล็กน้อย
“น่าเสียดายที่ออทั่มไม่ได้ไปกับพวกเราด้วย ฉันอยากให้เธอไปได้จัง”
ซัมเมอร์พูดพลางลูบหัวฉันเบาๆ เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องที่มีบุคลิกตรงข้ามกับฉันสุดขั้ว ฉันใจเย็นเป็นน้ำส่วนซัมเมอร์ก็ใจร้อนเป็นไฟ ยังมีวินเทอร์อีกคน รายนั้นใจเย็นเหมือนชื่อเลยล่ะ ฉัน ซัมเมอร์ และวินเทอร์ เราสามคนหน้าตาค่อนข้างคล้ายกันมากเพราะพ่อแม่ของเราต่างก็เป็นพี่น้องแฝดสามที่มาแต่งงานกัน
“แล้วฉันจะถ่ายรูปมาฝากนะ” เรม่อนแฟนของซัมเมอร์ตบหัวฉันเบาๆ ทำไมสองคนนี้ต้องมาวุ่นวายกับหัวฉันด้วยนะ
“พวกเราไปเรียนภาษาไม่ได้ไปเที่ยวเล่น” ซัมเมอร์ถลึงตาใส่เรม่อน
เพื่อนๆ ในกลุ่มกำลังจะออกเดินทางไปเยอรมนีเพื่อเรียนภาษาคอร์สสั้นๆ ที่สมัครไว้กับทางโรงเรียน ก่อนหน้านี้สองวันเคียร์กับแวนด้าน้องสาวไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว เลยมีฉันคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ไม่สามารถไปเที่ยวไหนกับใครได้เพราะร่างกายที่อ่อนแอของฉันไม่ถูกกับอากาศหนาวจัดของเยอรมนี แค่อากาศเย็นก็ทำให้ฉันเป็นหวัดได้แล้ว แย่จริงๆ เลยเนอะ แม้จะแอบเหงานิดๆ แต่ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่พวกเขาไม่อยู่ฉันก็จะหางานอดิเรกอ่านหนังสือหรือปลูกต้นไม้ไปตามประสาคนที่ใช้ชีวิตสุดแสนจะเรียบง่าย
“ฝากเอียนด้วยนะออทั่ม ถ้าเธอว่างก็แวะไปเยี่ยมมันที่บ้านฉันด้วย แม่ฉันไม่ค่อยเอ็นดูเอียนเท่าไหร่ ฉันกลัวว่ามันจะเหงา”
ออตโต้ฝากฝังเอียนลูกรัก ฉันผงกหัวรับคำ เอียนเป็นงูที่น่ารักและเข้ากันได้ดีกับฉัน
“ดูแลตัวเองด้วยนะออทั่ม” ดาเวนยิ้มให้ฉัน
“ถ้าเหงาก็โทรหาพี่ควินน์ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
ออโรร่าน้องสาวของออตโต้และยังพ่วงตำแหน่งแฟนของวินเทอร์ยิ้มจนตาหยี แล้วทุกคนก็ส่งเสียงโห่แซวฉันจนฉันแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีอาย ฉันกับควินน์เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ
“ไป พวกเราไปขึ้นรถกันก่อน ปล่อยให้ควินน์กับออทั่มได้บอกลากันตามลำพังเถอะ”
วินเทอร์ญาติตัวดีหลิ่วตาชวนทุกคนออกไปจากห้องรับแขก เหลือฉันกับควินน์ที่มองหน้ากันอย่างอึดอัด ฉันน่ะอึดอัดขัดเขิน ส่วนเขาเอาแต่ยิ้ม นัยน์ตาระยิบระยับ รอยยิ้มของเขาทำให้หัวใจฉันเต้นแรงแถมยังหน้าแดงอีกด้วย อายตัวเองชะมัด
“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ เธอจะคิดถึงฉันมั้ย”
ควินน์ถามอะไรของเขานะ
“ฮัลโหลๆ ออทั่มอยู่มั้ยครับ ช่วยตอบด้วยครับ”
เขาล้ออย่างนี้ประจำเวลาที่ฉันเงียบ คนบ้า ฉันผงกหัว ยังไงซะฉันก็คงคิดถึงทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งก็รวมควินน์เข้าไปด้วย
“คิดถึง”
ฉันตอบสั้นๆ หลุบตาลงและหน้าแดงตามระเบียบ ทำไมฉันถึงขี้อายได้ปานฉะนี้
“ฉันจะคิดถึงเธอเหมือนกัน ดูแลตัวเองนะออทั่มของฉัน”
ควินน์ฉวยโอกาสที่ฉันกำลังมุ่นคิ้วงุนงงกับคำว่า ‘ออทั่มของฉัน’ ดึงฉันเข้าไปใกล้แล้วก้มลงหอมแก้ม เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาของเขาก็ทำให้ฉันตัวแข็งเป็นหิน ควินน์ยิ้มกว้างซึ่งฉันมองว่ามันเป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์ที่สุด แล้วเขาก็ลากกระเป๋าเดินทางออกจากห้องรับแขกไป ฉันอยากจะออกไปส่งทุกคนขึ้นรถ ทว่าขามันก้าวไม่ออก หัวใจก้เต้นรัวอยู่ในอก อีกทั้งเส้นเลือดยังขยันสูบฉีดเลือดมาหล่อเลี้ยงที่สองข้างแก้ม นอกจากคนในครอบครัวแล้ว ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับฉันมาก่อน
ควินน์ขโมยสัมผัสแรกของฉันไป เขาขโมยหอมแก้มฉัน...ฉันคิดว่า ฉันกำลังจะละลาย
เย็นวันเดียวกัน หลังทางมือเย็นเสร็จ ฉันก็ปลีกตัวมาหาหนังสือนิยายอ่านที่ห้องนอน ระหว่างกำลังเลือกหนังสืออยู่นั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ฉันกดรับกรอกความเงียบลงไปเพราะเคยชินเป็นนิสัย
“...”
(ฮัลโหล นั่นออทั่มใช่มั้ยลูก)
เสียงตื่นตระหนกดังมาตามสาย เบอร์ไม่คุ้นแต่น้ำเสียงคุ้นมาก
“...ค่ะ”
(คืนนี้หนูมาค้างบ้านน้าได้มั้ยจ๊ะ มาช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของลูกชายตัวดีของน้าที น้าไม่ไหวแล้ว เอียนหลุดออกมากห้องออตโต้ และมันคงเลื้อยอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้าน น้าหวังสุดใจว่าไม่ใช่ห้องนอนของน้า เอียนคงคิดถึงออตโต้มากน่ะ คนในบ้านช่วยกันหาก็หาไม่เจอว่าอยู่ไหน ออตโต้เคยล่าให้น้าฟังว่าเอียนถูกชะตากับหนูมาบางทีมันอาจจะยอมออกจากที่ซ่อนก็ได้นะจ๊ะ และยิ่งหนูนอนค้างกับมันด้วย เอียนก็คงจะคลายโศกที่ออตโต้ไม่อยู่)
อ๋อ แม่ของออตโต้นี่เอง แม่ฉันกับแม่ออตโต้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ออตโต้ฝากให้ฉันไปเยี่ยมเอียนเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้ให้ไปนอนค้างกับงูเพื่อปลอบมันให้คลายโศกหรือเป็นตัวล่อให้มันออกจากที่ซ่อนนี่นา
“เอ่อ”
(ได้โปรด น้าขอร้อง น้าจะโทรขออนุญาตแม่ของหนูออทั่มให้เอง รีบเก็บเสื้อผ้ามาเลยนะจ๊ะ)
ตู๊ด
คุณน้าวางสายไปโดยที่ฉันยังไม่ทันรับปากใดๆ ไม่เกินห้านาทีหลังจากนั้น น้องสาวคนเล็กหนึ่งในแฝดสามสาวใหญ่ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องนอน หญิงวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่งที่ยังสวยปิ๊งคนนี้คือแม่ฉันเอง
“เมื่อกี้แม่ออตโต้โทรมาบอกแม่แล้วว่าหนูจะไปค้างที่บ้านเขาคืนนี้ แม่อนุญาตจ้ะ เดี๋ยวแม่ให้ลุงจ่าขับรถไปส่ง”
แม่ก็เห็นดีด้วยเหรอที่ฉันจะไปเป็นตัวล่อเอียนออกมาจากที่ซ่อน
“ค่ะแม่”
“เมฆครึ้มเหมือนจะมีพายุ ลูกพกร่มไปด้วยนะ และระวังตัวอย่าให้ถูกฝน” แม่กำชับ
ฉันพยักหน้าหงึกๆ ที่ข้างนอกหน้าต่างสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ฝนเริ่มโปรยเม็ดลงมาบ้างแล้ว ฉันเคยไปค้างบ้านออตโต้ แต่ไม่เคยไปค้างกับงูและอีกัวน่าของเขามาก่อน มันจะเป็นยังไงนะ
“พรุ่งนี้เช้าแม่จะให้ลุงจ่าไปรับนะ มาให้แม่หอมแก้มที”
ฉันปิดหนังสือลงจากเตียงเดินไปหาแม่แล้วยืนนิ่งให้แม่หอมแก้มซ้ายขวา ความรู้สึกต่างกับควินน์หอมแก้มลิบลับ เวลาแม่หอมแก้มฉันแค่รู้สึกอบอุ่น แต่กับควินน์ใบหน้ามันร้อนวูบๆ ชอบกล
“ออทั่ม หนูต้องหัดโต้ตอบด้วยสีหน้าท่าทางกับคนอื่นบ้างนะลูก ไม่ใช่แม่หอมหนูก็ยังยืนนิ่ง ไหนลองหอมแม่กลับซิ”
อ่า ก็ฉันเป็นคนขี้อายขนาดหนักนี่นา ฉันไม่ชอบแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกไป ยึดคติ ‘นิ่งสยบความเคลื่อนไหว’ ฉันแค่อยากเป็นอย่างฤดูใบไม้ร่วงที่สงบเรียบง่าย ฉันรู้ตัวว่าเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่น่าเบื่อ แต่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีชีวิตชีวาเหมือนอย่างซัมเมอร์ ฉันก็เป็นได้แค่ออทั่ม
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
...นี่ถ้าฉันสุขภาพแข็งแรงดี ป่านนี้คงได้บินไปเรียนภาษาคอร์สสั้นๆ ที่เยอรมนีกับกลุ่มเพื่อนสนิท แล้วก็คงไม่ต้องอยู่บ้านว่างๆ แบบนี้หรอก แต่ดูเหมือนเย็นนี้ฉันจะไม่ว่างแล้ว เมื่ออยู่ๆ คุณแม่ของเพื่อนสนิทฉันคนหนึ่งก็โทรมาไหว้วานให้ไปช่วยตามหาเอียน (สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของลูกชาย) ที่หายไป~ พอไปถึงที่ นั่น ขณะที่ฉันกางร่มเดินฝ่าฝนจะไปกดออด ลมแรงๆ ก็ดั๊นพัดเอาร่มคันน้อยลอยไปโดนออดบ้านข้างๆ ตอนที่ฉันวิ่งไปเก็บมัน ไรเลย์ หนึ่งในกลุ่มเลิฟบราเธอร์สก็เปิดประตูบ้านออกมาดึงตัวฉันเข้าไปพบกับพี่น้อง ของเขาเฉยเลย นี่ขนาดบอกว่าฉันไม่ใช่คนที่พวกเขากำลังรอคอยแต่ก็ไม่มีใครฟัง ถ้าแขกตัวจริงมาปรากฏตัว งานนี้เธอต้องไม่พอใจมากแน่ๆ ที่เห็นเหล่าเจ้าบ้านต่างเอาอกเอาใจแขกตัวปลอมอย่างฉันมากกว่า ฮือๆ แย่จริงๆ เลยออทั่มเอ๋ย
เขียนโดย "PLOYPINK"
172 หน้า