How to Love… ผูกใจรัก (ปกขาว)

How to Love… ผูกใจรัก (ปกขาว)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160602971
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 169.00 บาท 133.51 บาท
ประหยัด: 35.49 บาท ( 21.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

ฉันเกลียดฤดูฝน เพราะฤดูฝนไม่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ แต่มันเหมาะสำหรับการนอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มในห้องนอนเล็กๆ ของฉันมากกว่า แต่ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละ มันชอบบังคับให้เราทำในสิ่งที่บางครั้งเราไม่ต้องการ...

สายฝนกำลังตกกระทบกระจกหน้าต่างห้องจนเป็นภาพเบลอ นาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงสามสิบห้านาที ถ้าออกจากห้องช้ากว่านี้สักสิบนาทีฉันจะพลาดนัดไหมนะ แต่ถ้าเสี่ยงออกไปตอนนี้ก็อาจจะเปียกโชก หรือจะโทรศัพท์ไปเลื่อนนัดดี แต่ถ้าเลื่อนนัดทางโน้นก็คงไม่รอฉัน แล้วคราวนี้แม่ก็จะพูดถูกเรื่องที่เคยบอกว่าฉันเป็นคนที่เฉื่อยชากับชีวิตของตัวเองมากเกินไป

ฉันกวาดสายตามองไปรอบห้องแล้วหยุดที่กระจกบานใหญ่ ผู้หญิงร่างเล็กอยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มกำลังมองกลับมา เธอถักเปียกลางศีรษะแล้วเก็บปลายผมไว้ที่ท้ายทอย ดวงตายาวรีอย่างคนไทยเชื้อสายจีน ปากนิดจมูกหน่อยไม่มีส่วนไหนสะดุดตา ผิวขาวจนเกือบซีด แต่งหน้าอ่อนๆ และดูจืดชืดไร้ชีวิตชีวาไม่แตกต่างจากอากาศด้านนอก

ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจ แม้ว่าจะขี้เกียจและเบื่ออากาศชื้นแฉะเต็มทน แต่ความรู้สึกผิดก็กระตุ้นให้ฉันค้นหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแล้วกดหมายเลขของบริษัทรถแท็กซี่สาธารณะ สัญญาเรียกเข้าดังเพียงครั้งเดียวโอเปอเรเตอร์ของศูนย์ก็รับสาย

“ขอหมายเลขโทรศัพท์ด้วยค่ะ”

เสียงห้าวและห้วนตอบกลับมา เช้าวันนี้เธอก็คงอยู่ในอารมณ์เดียวกับฉันที่เบื่อๆ เซ็งๆ และไม่อยากจะทำงาน ฉันบอกหมายเลขโทรศัพท์กลับไป จากนั้นเธอก็ทวนชื่อและที่อยู่ของฉันอย่างถูกต้อง

“เช้านี้คุณจะไปที่ไหนคะ แต่อาจจะต้องรอรถนานหน่อยนะ ฝนตกหนักรถติดมากเลย”

“ค่ะ ฉันเข้าใจ ฉันต้องการไปบริษัท Results Inc. ถนนพัฒนาการค่ะ”

“โอยตาย มันไม่ไกลจากที่คุณอยู่ก็จริง แต่ตรงนั้นรถติดมากจนแท็กซี่เขาไม่ค่อยอยากจะเข้าไปน่ะค่ะ”

ฉันรู้สึกเลยว่าตัวเองกำลังจะโดนปฏิเสธ แต่ในใจกลับเอียงเอนไปตามคำพูดของเธอ ความจริงถ้าไม่มีรถมารับ ฉันอาจจะตัดสินใจเลื่อนนัดสัมภาษณ์งานได้ง่ายขึ้น ยังไงมันก็เป็นความชอบธรรมที่ฉันทำได้ แล้วถ้าจะเกิดเรื่องอะไรต่อจากนั้น ฉันก็คงไม่สามารถควบคุมอะไรมันได้แล้วล่ะ

“เอาเป็นว่าฉันจะรอถึงแปดโมงแล้วกัน ถ้าไม่มีใครมาฉันก็ไม่ไปแล้ว”

“โอเคค่ะ ฉันจะวิทยุหารถแท็กซี่ที่ยอมไปรับคุณให้นะ”

สายถูกตัดลงทันที ดูเหมือนฉันจะให้โอกาสตัวเองโดยการให้โชคชะตาเป็นผู้กำหนดอีกครั้ง ถ้ารถมาทันเวลาฉันก็จะไป แต่ถ้าไม่มาฉันก็จะเปลี่ยนชุดแล้วนอนคุดคู้อย่างที่ตั้งใจไว้

อีกห้านาทีจะแปดโมงเสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น ฉันถอนหายใจ...ต้องไปจริงๆ สินะ จากนั้นก็เดินไปรับโทรศัพท์ตรงหัวเตียง เสียงเจ้าหน้าที่ด้านล่างอพาร์ตเมนต์ทักทายมาให้ได้ยิน

“คุณหทัยภัทรโทรเรียกแท็กซี่ใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ”

“แท็กซี่มาแล้วค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้”

ฉันวางสายแล้วหยิบแฟ้มเอกสารพลาสติกกับกระเป๋าถือบนเตียงติดมือไปด้วย เมื่อโชคชะตากำหนดแล้ว ฉันก็แค่เดินตามเท่านั้นเอง

 

บทที่ 1

 

แล้วการเดินทางด้วยรถแท็กซี่ก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง เพราะกว่าจะฝ่าการจราจรจากบริเวณคลองตันมาได้ ฉันก็ต้องนั่งในรถเกินหนึ่งชั่วโมงจนค่าโดยสารขึ้นเป็นหลักร้อย ฉันพยายามไม่หงุดหงิดเพราะคนขับรถใช้สิทธิ์นั้นไปแล้ว แถมยังบ่นไม่เลิกว่ารู้อย่างนี้คงไม่มา แปลกแต่จริง...คนที่ต้องเสียเงินยังไม่มีโอกาสบ่นเลยสักคำ

เมื่อแท็กซ่าปล่อยฉันลงตรงที่หมายแล้วคนขับก็กระชากรถออกไปด้วยอารมณ์อันฉุนเฉียว ฉันกำลังกางร่มสีขาวยืนอยู่หน้าป้ายเล็กๆ บนรั้วที่สูงแค่หน้าอก ฝนยังคงตกพรำๆ แต่ตอนนี้มันเลยเวลานัดมาสิบห้านาทีแล้ว ถ้าเข้าไปตอนนี้มันจะยังทันไหมนะ

“จะเข้าไปไหมครับ”

“คะ?”

เสียงนั้นดังมาจากด้านหลัง ฉันหันไปพร้อมกับขานรับอย่างงงๆ ผู้ชายร่างสูงใหญ่ผิวออกคล้ำคนหนึ่งยืนถือร่มอยู่ เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีเทา ผูกไทสีดำ กางเกงสแล็กส์และรองเท้าหนัง ผมสั้นแทบจะติดหนังศีรษะ ลักษณะภายนอกของเขาช่างเหมาะกับหน้าฝน แต่รอยยิ้มนั้นดูอบอุ่นเหมือนฤดูร้อน ว่าแต่เขามาโผล่ตรงนี้ได้ยังไง ฉันไม่ได้ยินเสียงรถเลย

“คุณจะเข้าไปในบริษัทไหมครับ”

“เอ่อ เข้าค่ะ คือว่าฉันมีนัดสัมภาษณ์งานวันนี้”

“อ้อ คนใหม่ งั้นเชิญครับ”

เขาเปิดประตูรั้วเหล็กแล้วผายมือให้ฉันเดินเข้าไปก่อน สถานที่แห่งนี้ไม่น่าจะเรียกว่าบริษัทเลย มันเหมือนบ้านตึกมากกว่า รูปทรงด้านนอกคล้ายกล่องทรงสูงมีสองชั้น ฉันสามารถมองผ่านเข้าไปด้านในได้เพราะกระจกสีชาถูกติดไว้ที่ผนังด้านหน้า และมันสูงตั้งแต่พื้นจนใกล้จรดเพดาน บริเวณหน้าประตูบริษัทปลูกต้นไม้สีเขียวครึ้มไปหมด ทุกอย่างดูเปียกและชื้น ฉันจึงไม่มีเวลาสำรวจด้วยสายตามากนัก ตอนนี้ทำได้แค่เพียงเดินตามผู้ชายคนนี้เข้าไปด้านในตัวอาคารสีขาวสะอาดตา

เมื่อเข้าไปยืนอยู่ใต้อาคาร ผู้ชายคนนั้นก็วางร่มของตัวเองลงแล้วหันมาแนะนำตัวกับฉัน

“ผมชื่อตรัย คุณ...”

“หทัยภัทรค่ะ”       

“ครับ คุณหทัยภัทรวางร่มไว้ตรงนี้ก็ได้ เราจะได้เข้าไปข้างในกัน แม่บ้านที่นี่ดุน่ะครับ หากเราทำพื้นแฉะ เธอจะบ่นไม่เลิกเลย”

“อ้อ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เตือน”

ฉันวางร่มของตัวเองไว้ข้างๆ เขา ผู้ชายคนนี้สูงกว่าฉันเกือบฟุตล่ะมัง เขาอัธยาศัยดีและยิ้มง่าย จากนั้นเขาก็ถอดรองเท้าหนังวางไว้ที่ชั้นวางรองเท้าด้านข้างประตูกระจก มันให้ความรู้สึกเหมือนบ้านจริงๆ  ฉันยิ้มนิดๆ แล้วทำตามเขา เมื่อเราสองคนจัดการกับรองเท้าของตัวเองเสร็จ ตรัยก็ผลักบานประตูกระจกสีชาแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในนั้น

เมื่อเข้ามาด้านใน สิ่งที่เคยคิดว่าสถานที่นี้เป็นอาคารสองชั้นเริ่มทำให้ฉันไม่มั่นใจ...มันไม่เชิงสองชั้น เพราะชั้นบนนั้นเตี้ยกว่าชั้นล่าง ฉันก็ไม่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรม แต่มันน่าจะเรียกว่าชั้นครึ่ง เพราะด้านบนคล้ายชั้นลอย จากจุดที่ฉันยืนอยู่กับตรัยสามารถมองเห็นระเบียงที่ยื่นออกมาตรงชั้นลอยนั้น ส่วนความรุ้สึแรกเมื่อได้ก้าวผ่านประตูเข้ามาคือความรู้สึกของคนที่ได้กลับบ้าน มันอบอุ่น ปลอดภัย สบาย และเป็นกันเอง

วัสดุที่ใช้ตกแต่งอาคารเป็นหินอ่อนเกือบทั้งหมด มีชุดรับแขกเล็กๆ ที่วางไว้ใต้แชนเดอเลียขนาดย่อมซึ่งแขวนตัวลงมาจากเพดานสูง ฉันเงยหน้ามองแชนเดอเลียอันสวยงามตระการตานั้นไล่มาจนถึงระเบียงและราวบันไดเวียนที่ทอดตัวจากชั้นลอยลงมายังพื้นหินอ่อนชั้นล่าง ที่นี่เป็นอาคารชั้นครึ่งจริงๆ

“ใส่สลิปเปอร์ก่อนครับ”

ฉันก้มลงไปมองที่เท้าของตัวเอง รองเท้าใส่ในบ้านสีเขียวอ่อนถูกวางไว้ใกล้พรมเช็ดเท้า ตรัยสวมรองเท้าซึ่งดูเหมือนจะเป็นของเขาเองเพราะมันไม่มีพู่เล็กๆ เหมือนคู่ที่ฉันกำลังจะสวม จากนั้นฉันก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของใครบางคน

“พี่ตรัยทำพื้นเปื้อนรึเปล่า”

เสียงดุดังมาจากด้านขวามือของเรา ตรัยหันมามองหน้าฉันทำนองว่า ‘เห็นไหม...ผมบอกแล้ว’ ถ้าฉันเป็นแม่บ้าน ฉันก็คงไม่อยากให้ใครมาทำพื้นที่นี่สกปรกเหมือนกันเพราะมันสวยเหลือเกิน แต่ทำไมแม่บ้านจึงได้ดุนักนะ

ความสงสัยของฉันปรากฏอยู่ไม่นาน ผู้หญิงร่างบางผิวสองสีคนหนึ่งก็โผล่ออกมาให้เราเห็น เธอสูงเพรียว ผมสั้นแค่บ่า ใบหน้าสวย แถมแต่งกายดูดีกว่าจะเป็นแม่บ้าน และเมื่อเห็นคนถึงสองคนยืนอยู่ด้วยกัน เธอก็ลดอาการกร้าวลงไปมาก แถมมีสีหน้าเกรงอกเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด

“อุ๊ย ขอโทษค่ะ คุณมาติดต่องานเหรอคะ”

“มาสัมภาษณ์งานกับบอสต่างหาก” ตรัยเป็นฝ่ายตอบให้

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็เชิญข้างบนเลยค่ะ บอสรออยู่”

“งั้นผมส่งคุณตรงนี้นะ ให้เขาไปเป็นเพื่อนคุณก็แล้วกัน”

ฉันพูดขอบคุณ ตรัยก้มศีรษะให้ฉันนิดๆ ก่อนจะเอาเอกสารในมือเคาะไปที่ศีรษะของเธอคนนั้นอย่างคุ้นเคย ฝ่ายหญิงแกล้งถลึงตาใส่แล้วจึงหันมาสนใจฉัน ฉันคิดว่าสิ่งที่เขาสองคนแสดงต่อกันมันน่ารักดี

“เชิญทางนี้เลยค่ะ”

 

ฉันเดินตามเธอขึ้นบันไดหินอ่อนซึ่งมีราวบันไดทำด้วยเหล็ก เพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองว่ามีลายเถาองุ่นแทรกอยู่ระหว่างราวบันไดนั้นด้วยและเว้นระยะห่างไปสักสามขั้นบันไดก็จะมีพวงองุ่นสักพวงห้อยระย้าอยู่ มันทำให้ราวเหล็กดูอ่อนหวานขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เสียงสลิปเปอร์กระทบหับกินอ่อนดังแจ๊ะๆ ฉันพยายามเดินชิดฝั่งซ้ายมือเพื่อประคองตัวเองไปกับราวบันได เพราะใส่สลิปเปอร์อย่างนี้ถ้าก้าวพลาดคงได้กลิ้งตกบันไดลงไปแน่

เมื่อก้าวพ้นบันไดขั้นบนสุดแล้วฉันก็แทบลืมหายใจเพราะชั้นบนนั้นก็สวยงามไม่แพ้ชั้นล่างเลย มันเป็นโถงกว้างที่มีพรมสีเลือดนกปูไว้ตรงกึ่งกลางห้อง โต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่เป็นมันวาววางอยู่บนพรมนั้น ด้านหลังเป็นกระจกทั้งหมด ด้านขวามีทีวีจอแบนวางอยู่บนสตูลซึ่งมีความสูงระดับสายตาถ้าคนดูนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ส่วนผนังด้านซ้ายของโต๊ะวางตู้หนังสือไม้ขนาดใหญ่ไว้ ฉันยังไม่กล้าขยับเพราะเจ้าของห้อง ไม่สิ ต้องเรียกว่าเจ้าของทุกอย่างของที่นี่กำลังยืนอยู่ตรงนั้น...

ชายร่างสูง ไหล่กว้างและตรง ศีรษะได้รูปใต้ผมรองทรงหนา

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

phattaraporn | 1 รีวิว
25/01/2015

How to Love… ผูกใจรัก นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนนามปากกาtiaraค่ะ แนวความรู้สึกดีที่เรียกว่ารัก อยากบอกว่าชอบนิยายเซตนี้มากๆ เป็นอะไรที่ตรงใจสุดๆ อ่านไปกริ๊ดไปค่ะแอบหวังว่าในชีวิตจริงน่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับเราบ้างนะอะไรแบบนี้ มีความรู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางเอกเป็นเหมือนพรหมลิขิตจริงๆ อ่านแล้วก็แบบว่าอยากให้มีคนมาช่วยเหลือเราบ้าง ชอบคนแบบมาดามอ่ะ อ่านนิยายเรื่องนีแล้วแอบหลงรักพระเอกคาแร็กเตอร์ใจแข็งขึ้นมาตงิดๆแม้จะแอบหมันไส้บ้างก็เหอะ ปกติไม่ค่อยชอบอ่านนิยายแนวผู้ใหญ่ๆเลยค่ะได้มาอ่านแนวความรู้สึกดีแต่ละเรื่องนี่ทำเอาเราติดตามนิยายแนวความรู้สึกดีแทบทุกเล่มเลยค่ะกับนักเขียนท่านนี้เราก็ตามอ่านผลงานมาหลายเรื่องแล้วสนุกทุกเรื่องเลยค่ะ บอกเลยว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักที่ถ่ายทอดได้หลากหลายอารมณ์ภายในเรื่องเดียวมากๆ เพราะพระเอกคนเดียวเลยถ้าพระเอกไม่เป็นคนใขแข็งเนื้อเรื่องคงไม่มันสุดเหวี่ยงขนาดนี้ โดยรวมเรื่องราวภายในเล่มนี้เป็นพล็อตนิยายที่จัดว่าเรียบง่ายอีกเล่มเลยค่ะได้อ่านแล้วรู้สึกว่าทำให้คนอ่านยิ้มตามแทบทั้งเรื่องเลยรวมทั้งลุ้นไปกับความรักของพระนางว่าจะลงเอยกันยังไงชอบมากค่ะ อ่านได้ไม่เบื่อชอบมีฉากฟินๆมาให้คนอ่านยิ้มตามได้ตลอดจริงๆอีกทั้งการบรรยายเรื่องที่สมจริงสมจังเลยทำให้อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยสะดุด ห้ามพลาดเลยค่ะเรื่องนี้ต้องอ่านทั้งเซตบอกเลยว่าเป็นนิยายที่ครบรสจริงๆสนุกมากๆค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (65 รายการ)

www.batorastore.com © 2024