ความแค้นแห่งรัก (Falling Rain)

ความแค้นแห่งรัก (Falling Rain)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165020091
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 140.00 บาท 35.00 บาท
ประหยัด: 105.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

ในงานเลี้ยงหรูหรายามคาคืน ณ โรงแรมชื่อดังกลางเมือง

หญิงสาวในชุดราตรียาวสีแดงเพลิงขับผิวขาวเนียนของเธอให้ดูเด่นขึ้น ผม

ดำยาวถูกรวบสูงกลางศีรษะปล่อยเพียงบางส่วนให้ลงมาระต้นคอระหง

อย่างประณีต ใบหน้าเรียวไต้รูปประกอบด้วยดวงตากลมโต จมูกโด่งสวย

รับกับริมผี!ปากบางสีชมพูระเรื่อ เธอยืนเคียงข้างชายหนุ่มในชุดสูทสีดำซึ่ง

ดูดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งสองผลัดกันพูดคุยชักถามเกี่ยวกับงานที่ได้รับ มอบหมาย

ริสาก้มลงมองนาพีกาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของเธอยังเดิน

ทางมาไม่ถึงงานเลี้ยง

“สา! ขอโทษนะที่มาช้า...” หญิงสาวในชุดราตรีสีฟ้าเอ่ยขึ้นทันทีที่

เข้าถึงตัวเพื่อนสนิท ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเนื่องจากอาการเร่งรีบของผู้เป็น เจ้าของ ก่อนจะเหลือบมองร่างสูงของเพื่อนชายร่วมงานเพียงครู่เดียว หาก

แววตาที่จับจ้องอยู่เพียงครู่นั้นก็นานพอที่เพื่อนสนิทเช่นริสาสังเกตไต้

“สำนึกว่ามี่จะไม่มาแล้วเสียอีก ปล่อยให้รอตั้งนาน...” ริสาบ่นกับ

เพื่อนสาวไม่จริงจังนัก มือเรียวคว้าแก้วน้ำทรงสูงจากบริกรก่อนจะยื่นส่งให้

เพื่อนสนิท

“รถเสียน่ะ...มี่ไม่ได้ตรวจเซ็กสภาพรถนานแล้ว” หญิงสาวผู้ที่ถูก

เรียกว่า มี่ บอกถึงเหตุผลที่โทษใครไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ รู้ดี1ว่าเพื่อน

สนิทของตนต้องเป็นกังวลอย่างยิ่งเมื่อได้รับมอบหมายงาน แต่เพื่อนร่วม

ทีมอย่างเธอไม่ปรากฏตัวเสียที

“ไม่รอบคอบ” เสียงทุ้มเอ่ยแทรกขึ้น เป็นผลให้ผู้พูดหันกลับมามอง

ทันที

“ฉันทำอะไรก็ไม่ดีในสายตานายหรอก” หญิงสาวในชุดสีฟ้าเอ่ย

ประชดกลับทันที ใบหน้าหวานเชิดขึ้นอย่างไม่พอใจ จนคนกลางเช่นริสาถึง

กับถอนหายใจ

“รู้ตัวด้วยเหรอ” เมษ ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าขาวสะอาดเชื้อสายจีน พร้อมดวงตาเรียวมีประกายระยับอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคือง

ของบุคคลตรงหน้า

“นาย...” คำพูดโต้ตอบกำลังจะหลุดออกจากริมผี!ปากบางแต่ถูกขัด

ขึ้นเสียก่อน

“พอได้แล้ว...สองคนนี้ทะเลาะกันได้ทุกเรื่องสิน่า”ริสาบ่น

“ตาบ้านี่ชอบยั่วโมโหมี่อยู่เรื่อย สาก็เห็น” ริมผีปากบางเม้มแน่นจน

เป็นเส้นตรงเหมือนต้องการจะสะกดอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อได้ยินคำพูด ค่อนขอดของเมษอยู่ทุกครั้ง

“ก็คนมันยั่วขึ้น...” เขากล่าวกลั้วหัวเราะ

“นายเป็นบ้าหรือไง เที่ยวกัดคนอื่นเขาไปทั่ว” มี่หันมาว่าอย่างอด

ไม่ได้

“ผมไม่กัดคน” รอยยิ้มแต่งแต้มทั่วใบหน้าขาวกว้างขึ้น เมื่อยั่วยุคนที่ พยายามกลั้นอาการไม่พอใจได้สำเร็จ

“นี่...นายหมายความว่าฉันไม่ใช่คนเหรอ”

“ผมยังไม่ได้เอ่ยชื่อมี่สักคำ” เขาแก้ตัวริมฝีปากเผยยิ้มยั่วอย่างพอใจ

“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ฟังก็!ว่านายตั้งใจพูดถึงฉัน” มี่ว่ากลับอย่าง

ไม่ยอมแพ้ ก่อนจะกลับมาเปิดศึกกับชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง โดยไม่ได้

ใส่ใจคนห้ามปรามเมื่อครู่ที่กำลังแยกตัวออกไป

“ทำไมนายชอบทำให้ฉันโกรธอยู่เรื่อยเลยนะ” มี่พูดพร้อมใบหน้า

แสดงอาการเบื่อหน่ายอย่างไม่ปิดบังพลางถอนหายใจฮึดฮัด

“อยากเห็นคนไม่สวยทำหน้าบึ้งละมั้ง” เมษตอบพร้อมกับเสียง

หัวเราะในลำคอ “อ้อ...วันนี้ยกให้วันนึง...ไม่น่าเชื่อว่าทอมห้าวแถวนี้จะแต่งตัว หญิงๆ ก็เป็น...ดูได้เหมือนกันนะเนี่ย” ดวงตาเรียวกวาดมองร่างของหญิงสาว อย่างรวดเร็ว

คำชมที่ฟังแล้วไม่ค่อยจะลื่นหูกลับทำให้ใบหน้าเรียวแต่งแต้มด้วย

เลือดฝาดได้ดีไม่น้อย มี่หันหน้าหนีก่อนจะยกแก้วพันช์ทรงสูงขึ้นดื่มเพื่อ

หลบเลี่ยงสายตาของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว

“เอ้อ...บอสให้เราทำรายงานส่งด้วยนะ” เมษบอกเสียงเรียบในขณะ

ที่มองผู้คนรอบกายที่เริ่มทยอยมารวมกันอยู่กลางห้องจัดเลี้ยงจำนวนมาก

แล้ว

“โห...น่าเบื่อ ไหนบอสว่าจะให้เรามาร่วมงานเฉยๆ ไง” มี่เอ่ยอย่าง

ผิดหวัง ยิ่งนึกถึงรายงานของตนที่มักจะถูกเจ้านายดีกลับอยู่บ่อยครั้งก็ยิ่ง

ทำให้เหนื่อยใจ

“ก็แค่รายงานเอง” เขากล่าวยิ้มๆ เมื่อเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของ

หญิงสาวข้างตัว

“นายก็พูดได้ นายไม่โดนบอสดีงานกลับไม่!กี่รอบอย่างฉันนี่

ถ้าฉัน ทำงานได้ดีเท่าสา ปานนี้สบายไปแล้ว”

“อย่างนี้น่ะเหรอ...คงจะยากสักหน่อย” ชายหนุ่มเอ่ยเย้าต่อด้วย

คาดว่าร่างบางข้างกายคงจะโกรธเคืองไม่น้อย

“ทำไม ‘อย่างนี้’ มันเป็นยังไง” เสียงห้าวใสเอ่ยอย่างไม่พอใจ ก่อน

จะเดินเข้าไปหาพร้อมกับสีหน้าบึ้งตึง

“นี่มันกลางงานนะ ทำอะไรก็คิดดีๆ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน”

ชายหนุ่มเอ่ยท้วงไว้ทัน ริมฝีปากบางแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็น

อาการของเพื่อนร่วมงาน

“ใช่สิ...ทำยังไงฉันก็ไม่ดีเท่าสาหรอก” ใบหน้าหวานสะบัดหนีอย่าง

ขุ่นเคืองเช่นทุกครั้งที่ชายหนุ่มเอ่ยถึงริสา เธอรู้ดี1ว่าความรู้สึกที่มี,ให้ผู้ชาย

ตรงหน้ายากที่จะได้รับการตอบรับ เมื่อคนที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาไม่ใช่

เธอ

“ผมเป็นห่วงสา รูๆ กันอยู่ว่าบอสเป็นคนอย่างไร...” เมษกล่าวด้วย

ใบหน้ากลัดกลุ้ม ก่อนจะตระหนักได้ว่าริสาไม่ได้อยู่ร่วมในวงสนทนานี้ด้วย

“เอ้อ สาหายไปไหนเนี่ย” เมษพึมพำเบาๆ ตาเรียวกวาดมองไปรอบ

ตัว

“มี่เห็นสาไหม...” ชายหนุ่มถามคนข้างตัวโดยไม่ได้หันกลับมามอง

แม้แต่น้อย

“จะไปรู้หรือไง ไม่ได้นั่งเฝ้าไว้สักหน่อย...ถ้านายอยากรู้ก็ไปตามหา

เอาเองสิ น่ารำคาญ!” เสียงแหวใส่ก่อนจะก้าวเข้าไปรวมกลุ่มกับผู้คนหน้า

เวทีทิ้งชายหนุ่มไว้กับความงุนงง

เสียงดนตรีขับกล่อมไปทั่วงานเลี้ยงขนาดใหญ่ของการเปิดตัว

ทายาทเจ้าของธุรกิจส่งออกที่เว้นช่วงการดำเนินงานไปกว่าครู่ใหญ่ แม้

ตำแหน่งผู้บริหารหลักจะว่างลงก็มิได้ทำให้กิจการภายในเครือนั้นติดขัด

หรือลำบากแต่อย่างใด และการรับตำแหน่งของทายาทในครั้งนี้ยิ่งทำให้

ธุรกิจของเครือ พี เอกช์พอรัต กรุ๊ปยิ่งเป็นที่จับตามองภายในวงการเดียวกัน
มากยิ่งขึ้น

“สวัสดีแขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน” พิธีกรประจำงานกล่าวขึ้นเพื่อ

เรียกความสนใจมายังเวที “พี เอกช์พอรัต กรุ๊ป ขอขอบคุณทุกท่านที่มา

ร่วมงานในวันนี้ค่ะ วันที่เราทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่จะก้าวเข้า

มาบริหารบริษัทของเราต่อไป...ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับคุณทีม พอร์ตัน

ด้วยค่ะ”

เสียงปรบมือดังก้องพร้อมกับผู้คนที่พุ่งความสนใจไปยังเวทีใหญ่

กลางงาน เมื่อร่างสูงใบหน้าคมเข้มปรากฏตัวขึ้น ไหล่กว้างภายใต้ชุดสูท เนื้อดีแสดงถึงความมั่นใจ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มรับกับเส้นผมสีอ่อนที่ถูกตกแต่ง ไว้อย่างเรียบร้อยสามารถสะกดสายตาของผู้คนไว้ได้เป็นอย่างดี... โดย เฉพาะหญิงสาวในชุดสีแดงเพลิงที่ยืนอยู่ในมุมหนึ่งของงาน...มั่นคือริสา

“สวัสดีครับ...ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้...” เสียงนุ่มทุ้ม ของชายหนุ่มบนเวทีกล่าวแนะนำตัว รอยยิ้มเปิดเผยฉายชัดอยู่บนใบหน้า

คมเข้ม รอยยิ้มที่เธอไม่ไต้เห็นมาเป็นเวลานาน

เธอจำเขาไต้เป็นอย่างดี ถึงแม้สูทสีดำเข้มพร้อมทั้งฐานะทายาท

เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เธอไม่เคยคาดคิดแม้จะทำให้เขาแตกต่างไปจาก

ภาพเดิมที่ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ หากรอยยิ้ม แววตา กระทั้ง

คำพูดของเขายังคงเป็นคนเดิม...‘ทิม’...

ริมฝีปากบางแห้งผากพร้อมอาการสั่นเทาของร่างกาย ดวงตาคู่โต

ตับจ้องอยู่กับร่างสูงอันคุ้นเคยก่อนจะปะทะเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มดวงตา

ที่มีอิทธิพลเหนือเธอเสมอ การพบกันอีกครั้งยิ่งตอกย้ำและทำให้เธอเข้าใจ ความรู้สึกภายในได้ดียิ่งขึ้น...ความเจ็บปวดที่ไม่เคยจางหาย

เสียงทุ้มที่เขาเอ่ยช่างน่าฟัง หากเธอก็ไม่สามารถตับใจความที่เขา

พูดใดๆ ได้ เมื่อสมองของเธอมีเพียงภาพความทรงจำเดิมๆ เท่านั้น ปลาย

เท้าของเธอถอยหลังออกจากงาน ก่อนที่เธอจะทันรู้สึกตัวหรือทันคิดอะไร

“พี่ทีม...” มี่ครางออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นชายหนุ่มรุ่นพี่อย่างไม่คาด

คิด รู้ดีว่าการปรากฏตัวของชายหนุ่มจะต้องมีผลกับเพื่อนสาวคนสนิทอย่าง แน่นอน

“รู้จักด้วยเหรอ” เมษถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีนึ่งงันไปครู่ใหญ่ แววกังวล

ฉายชัดบนใบหน้าหญิงสาวจนเขาอดสงลัยไม่ได้

“เอ่อ...เปล่า...” ดำปฏิเสธดูจะไร้ความหมาย เมื่อเขามั่นใจว่าทายาท บริษัทส่งออกรายใหญ่คนนี้คงจะสร้างปัญหาในไม่ช้า...

 

ร่างบางระหงก้าวไปตามทางเดินที่ตัดผ่านสวนหย่อมขนาด

ย่อมอย่างเลื่อนลอย กลิ่นหอมบางเบาของดอกแก้วลอยพุ่ง บรรยากาศรอบๆ เงียบสงบ สายลมเย็นพัดผ่านร่างบางอย่างอ่อนโยน ใบหน้าเรียวบัดนี้

ปรากฏแววเคร่งเครียด ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ เพื่อระบาย

ความอัดอั้นภายในที่มี ความรู้สึกที่ห่างหายไปนานกลับเพิ่มขึ้นจนทุกอย่าง

รอบกายดูพร่าเลือน ความรู้สึกที่เธอเก็บไวในส่วนลึก หากบัดนี้กลับพลุ่ง

พล่านเพียงเพราะการปรากฏตัวของชายหนุ่มผู้เป็นจุดเด่นภายในงานเพียง

ผู้เดียว

ดวงตากลมทอดมองไปในความมืด พลางนึกสงสัยว่าชายหนุ่มจะ

คิดเช่นไรกับการพบกันในครั้งนี้ จะรู้สึกเช่นเดียวกันกับเธอ หรือจะเฉยชา เช่นเดียวกับห่วงท่าไร้กังวลและน้ำเสียงหนักแน่นที่ได้เห็นกันแน่ หากความ

คิดกลับสะดุดลงเมื่อตัวเธอถูกกระชากเข้าสู่มุมมืดหลังพุ่มไม้ใหญ่

“อื้อ...” เสียงในลำคอตังขึ้นอย่างตื่นตระหนกเมื่อริมรีปากถูกมือ

หนาปิดแน่น ทั้งพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง หากการดิ้นรน

นั้นกลับไร้ค่าเมื่อพันธนาการนั้นกลับโอบรัดร่างกายเธอมากยิ่งขึ้นโดยไม่

เปิดโอกาสให้เธอได้ร้องขอความช่วยเหลือ

“ไม่คิดจะทักทายคนเคยรู้จักหน่อยเหรอ” เสียงทุ้มนุ่มคุ้นหูดังขึ้น

ข้างกายส่งผลให้ริสายืนนิ่ง หน้าซีดเผือด แววตาคู่หวานเต็มไปด้วยความ

สับสนทั้งตื่นตระหนก เมื่อรู้ดีว่าเสียงที่เธอได้ยินเป็นของชายหนุ่มในห้วง

ความคิดเมื่อครู่

อาการนิ่งเงียบของริสาทำให้เขาเลือกที่จะคลายอ้อมแขนออกจาก ร่างบาง พร้อมกับหมุนตัวเธอให้หันกลับมาหาอย่างรวดเร็วและพบว่า ดวงตาคู่โตนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะมาร่วมงานนี้ด้วย...” แววตาคมเข้มแวววับจับ

จ้องอยู่บนใบหน้าเรียว “แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่าคนอย่างคุณมาร่วมงานหรือ มาหาเหยื่อรายใหม่กันแน่” รอยยิ้มเยาะปรากฏบนใบหน้าของเขาพร้อมกับ

สีหน้าเจ็บปวดที่เธอสังเกตเห็นได้เพียงพริบตา

“ทิม...”

ริมผี!ปากบางสั่น เมื่อได้ยินคำพูดเหยียดหยันของชายหนุ่ม แววตา

สีน้ำตาลเข้มที่เคยอ่อนโยน บัดนี้กลับถูกบดบังด้วยความแข็งกร้าวทั้ง

เย็นชาจนเธอสัมผัสได้ ความรู้สึกภายในของเธอบีบรัด เมื่อตระหนักได้ว่า

ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป ริสาสูดลมหายใจเข้า

เพื่อเรียกสติก่อนจะเปลี่ยนสรรพนามอันคุ้นเคยให้ห่างเหินเช่นเดียวกับ

ท่าทางเย็นชาที่ได้รับ

“ช่วยปล่อยฉันด้วย...” มือบางยกขึ้นดันแผงอกกว้างของเขาเพื่อเว้น ระยะห่าง ก่อนจะสบเข้ากับแววโกรธเคืองในดวงตาสีเข้มเมื่อเห็นท่าทาง

ห่างเหินของเธอ

“ทำไม...กลัวเหยื่อรายใหม่จะไม่พอใจหรือไง” คำพูดดูถูกเอ่ยขึ้นต่อ

ก่อนชายหนุ่มจะพึงพอใจเมื่อได้เห็นความผิดหวังเจ็บปวดลึกในแววตาของเธอ

อีกทั้งมือบางที่ทาบอยู่บนสูทเนื้อดีมีอาการสั่นเทาจนเขารู้สึกได้ ถึงอย่าง

นั้นเขาก็ยังไม่ปล่อยให้เธอเป็นอิสระเช่นเดิม

“ปล่อยฉัน...คุณไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้”

“แล้วใครที่จะมีสิทธิ์ริสา คนที่นอนกับคุณหรือไง” เสียงเข้มตวาดก้อง พร้อมกับมือหนาที่บีบรัดด้นแขนเธอแน่นขึ้นตามแรงอารมณ์ ส่งผลให้เธอ ดิ้นรนจากข้อมือแกร่งอีกครั้ง ความเจ็บปวดจากคำพูดของเขาส่งผลให้หยด น้าตาปริ่มทั่วดวงตาทั้งสองข้าง

“ตอบผมมา!” ประกายในดวงตาสีน้ำตาลวาวโรจน์อย่างเอาเรื่อง

“ถ้าผมนอนกับ...”

คำพูดของเขาหยุดลงทันทีเมื่อใบหน้าของเขาหันไปตามแรงปะทะ

ของฝ่ามือ ความเจ็บแล่นปราดไปทั่วผิวแก้มพร้อมกับรอยแดงเป็นทางยาว

ที่ปรากฏขึ้นจนเห็นเด่นชัด

“หยุดดูถูกฉันได้แล้ว...อย่าทำให้ฉันรู้สึกเกลียดคุณไปมากกว่านี้”

เสียงสั่นระรัวของเธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยดน้าตาที่ไหลลงช้าๆ ดวงตาทั้งสอง

ยังคงจับจ้องเสี้ยวหน้าคมของเขาที่ยังคงนิ่ง

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024