ดวงใจล่ารัก (พลิ้วอ่อน)

ดวงใจล่ารัก (พลิ้วอ่อน)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160020881
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 320.00 บาท 80.00 บาท
ประหยัด: 240.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

คนที่ (เธอเท่านั้น) รู้ว่าใคร

           

            เธอจะออกจากบ้านได้ยังไง...ถ้าไม่มีคิ้ว

คิ้วเป็นเหมือนมงกุฎของหน้า ซินแสประจำบ้านของเธอบอกไว้ว่า

ถ้าคนขาดคิ้วก็เหมือนเครื่องบินขาดเรดาร์นำร่อง จะหยิบจับทำอะไรก็จะ

ยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด

“หายไปไหนนะ”

การะเกดมองซ้ายมองขวา มือแกะโรลม้วนผมออกโยนส่งๆ ลงบน

เตียง หมุนตัวไปรอบๆ ห้องนอน ครั้งสุดท้ายเธอจำได้ว่า ‘วาง’ มันไว้...

เอ่อ...ที่ตรงไหนสักแห่ง

“ดินสอเขียนคิ้วของฉัน”

มันคือของสำคัญ สายตาสแกนไปทั่วห้อง กวาดกองเครื่องสำอาง

และขวดเครื่องประทินโฉมไปกองกันไว้ที่ขอบโต๊ะ สอดส่ายสายตาหา

ดินสอแท่งจิ๋ว

“ไม่มีได้ยังไง”

ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก เธอได้ยินเสียงเข็มนาฬิกากระดิก

เธอกำลังจะสาย เหลือเวลาอีกไม่กี่นาที เช้านี้เธอมีอะไรหลายอย่าง

ที่ต้องทำ มันไม่ใช่แค่วันจันทร์ แต่เป็นวันจันทร์แรกที่ตัวเปี๊ยก ลูกสุดที่รัก

ของเธอจะเปิดเทอม...

            การะเกดคลานขึ้นไปบนเตียง รื้อเอากองเสื้อผ้าและเอกสารทั้ง

หลายแหล่ออกไปให้พ้นทาง

“แม่คร้าบ” เสียงตะโกนดังมาจากนอกห้องนอน

“จะแปดโมงแล้วนะครับแม่ เดี๋ยวรถก็ติดเป็นขบวนแห่เทียน

พรรษา”

ฮึ่ม...เธอทำเสียงในลำคอให้แก่คนที่ช่างเปรียบเปรย แค่หกขวบเนี่ย

นะ...

“อีกห้านาทีตัวเปี๊ยก แม่กำลังจะเสร็จแล้ว” ปากร้องบอก มือถก

กระโปรง มุดหัวเข้าไปหาใต้เตียง

แต่ให้ตายเถอะ...ข้าวของพวกนี้มันมาจากไหน พื้นที่ใต้เตียงแทบ

จะไม่มีที่ว่าง มีกล่องพัสดุเต็มไปหมด อากาศที่เธอหายใจยังจะไม่มีด้วย

ซ้ำ อีกกี่ทศวรรษเธอถึงจะหาของเจอกันเล่า

“แม่คร้าบ” แว่วเสียงเจื้อยแจ้ว ตามมาด้วยเสียงวิ่งตึงตัง

พลันประตูก็เปิดผางออก

“โอ้โห” เสียงอุทานของคนที่บุกรุกเข้ามาทำให้คนเป็นแม่รีบคลาน

ออกมา เด็กชายหัวฟูเหมือนสิงโตยืนจังก้า ดวงตาดำใหญ่มันวับกวาดมอง

ไปรอบๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ

“รกกว่าห้องตัวเปี๊ยกอีกแน่ะ”

การะเกดยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ทำเสียงดังกลบเกลื่อน “แม่บอก

แล้วใช่มั้ย ว่าเข้าห้องคนอื่นต้องรู้จักเคาะประตู”

“ก็ตัวเปี๊ยกคิดว่าแม่เกดกำลังยุ่งนี่นา” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หรี่ตามอง

อย่างสงสัยใคร่รู้

“แล้วแม่เกดเข้าไปทำอะไรใต้เตียงครับ”

“แม่กำลังหาของ”

“อ้าว...สองแม่ลูกยังไม่เคลื่อนพลกันอีกเหรอจ๊ะ เดี๋ยวก็ติดแหง็ก

อยู่ที่สี่แยกหน้าปากซอย ไม่ได้ไปไหนกันพอดี” เสียงของคุณนายรวยไม่

เลิกลอยลมมา ก่อนที่จะโผล่หน้าเข้ามาทัศนาห้องนอนของเธออีกคน

“โอ๊ย!! ตายแล้วยัยเกด ขโมยขโจรมันบุกเข้าห้องแกรึยังไง ข้าวของ

ถึงได้กระจายสามบ้านแปดบ้านอย่างนี้”

การะเกดกลอกตามองเพดาน “ฉันไม่มีเวลานี่แม่”

ชีวิตหนักมากบอกเลยช่วงนี้ เธอทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นสว่าน

ทั้งงานราษฎร์งานหลวง พาเหรดเข้ามาหาไม่ได้หยุดหย่อน แถมช่วงนี้ ‘แม่

ปลาบู่ทอง’ สาวใช้ประจำบ้านยังมาลากลับบ้านนอก ไปงานบวชลูกของ

ป้า ที่เป็นเพื่อนน้องของน้าเขยอีก ทำให้พวกเธอต้องช่วยกันทำงานบ้าน

“จะแปดโมงแล้วจริงๆ ด้วย” เงยหน้ามองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้าง

หัวเตียง หันไปบอกลูกชาย

“ตัวเปี๊ยกลงไปใส่รองเท้าไป ไปรอแม่ที่รถ เดี๋ยวแม่ลงไปภายในห้า

วินาทีเลย”

คนที่กระตือรือร้นที่จะไปโรงเรียนใหม่ตั้งแต่เมื่อวาน วิ่งฉิวลงไป

ข้างล่าง การะเกดถอนหายใจ หันไปกวาดเอาเครื่องสำอางที่ต้องใช้ใส่

กระเป๋าใบเล็ก คว้ากระเป๋าสะพายใบเขื่องของตัวเองขึ้นมา โกยโน้ตบุ๊กและ

แท็บเล็ตลงไป

เห็นทีวันนี้ต้องออกจากบ้านโดยปราศจากคิ้วซะแล้วสิ

“แต่งตัวเสียสะสวย ห้องรกอย่างกับรังหนู”

“ว่างเมื่อไหร่ฉันจะเก็บให้นิ้งเลยนะแม่นะ”

“ย่ะ” คุณนายรวยทำเสียงประชดประชัน “รอให้แกว่าง ชิปมังก์คง

ออกลูกเป็นลิง”

เธออดขำคนช่างกระทบกระเทียบไม่ได้

“ฉันต้องไปละนะ มา...หอมสักฟอดให้ชื่นใจ”

คนเป็นแม่ดันแก้มเธอออกห่าง ทำท่าขนลุกขนพอง

พอได้แกล้งอีกฝ่ายอารมณ์ก็เบิกบานขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะวิ่ง

ตาลีตาเหลือกลงไปข้างล่าง เธอกระโดดขึ้นรถญี่ปุ่นคันเล็ก

            “คาดเข็มขัดด้วยนะตัวเปี๊ยก”

เด็กชายทำตามอย่างว่าง่าย

“แม่จะซิ่งแล้ว”

อยากจะเหยียบคันเร่งจนมิด แต่ทำได้เสียที่ไหน ในเมื่อรถติดเป็น

แพ กว่าที่เธอจะพาลูกมาถึงโรงเรียนใหม่ นักเรียนทุกคนก็เข้าห้องเรียนกัน

ไปหมดแล้ว

ขอโทษจริงๆ นะคะ” การะเกดบอกครูประจำชั้นเสียงอ่อย

“วันแรกก็เป็นแบบนี้ละค่ะ ฉันเข้าใจ”

“ต่อไปจะไม่สายอีกแล้วแน่นอนเลยค่ะ” ถึงอย่างนั้นเธอก็อดยืนยัน

ไม่ได้

“อย่าดื้อนะตัวเปี๊ยก” การะเกดลูบเรือนผมหยิกหย็องดำขลับของ

คนเป็นลูก

“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นแม่จะซื้อของอร่อยมาฝาก”

“รับรองว่าตัวเปี๊ยกจะไม่ดื้อไม่เกเรแน่นอนคับป๋ม” เด็กชายยกมือ

ตะเบ๊ะ รับปากแข็งขันอย่างกับนายพลใหญ่ แต่คนเป็นแม่ก็ออกจะไม่ไว้ใจ

เพราะเคยสร้างวีรกรรมไว้แยะ...

“ฝากตัวเปี๊ยกด้วยนะคะ” ว่าแล้วก็ควักนามบัตรในกระเป๋าส่งให้

“นี่เบอร์มือถือของฉันค่ะ ถ้าแผลงฤทธิ์อะไรเมื่อไหร่ บอกฉันได้ทันที

เลยนะคะ”

การะเกดยืนกอดเสามองลูกชายที่ถูกคุณครูคนใหม่จูงมือเข้าไปใน

ห้องจนลับตา ใจจริงอยากที่จะยืนดูการเรียนการสอนต่อสักหน่อย ก็เสีย

ค่าเทอมแพง เลยอยากดูให้แน่ใจว่าโรงเรียนทำได้อย่างที่ครูใหญ่เคลมไว้

หรือเปล่า

‘โรงเรียนของเราเน้นคุณภาพ ปริมาณที่รับต่อเทอมก็เลยน้อย

เพราะครูจะได้ดูแลทั่วถึง โดยเฉพาะนักเรียนที่มีพัฒนาการพิเศษ’

            หลายเดือนก่อนหลังจากที่ค้นพบโดยบังเอิญว่าลูกชายมีหัวทาง

คณิตศาสตร์ และอยู่ไม่เป็นสุขเพราะมีอาการสมาธิสั้น ทำให้การะเกด

ตัดสินใจจ่ายหนัก ส่งลูกเข้าโรงเรียนใหม่แห่งนี้

สิ่งที่เธอให้ความสำคัญที่สุดคือการศึกษา

อีกอย่าง เธอมีลูกของตัวเองอยู่คนเดียว ถ้าไม่ทุ่มให้ลูกแล้วจะ

ทุ่มเทให้ใคร หลังจากเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนสองภาษาใกล้บ้าน เธอก็

พาตัวเปี๊ยกมาสอบเข้าโรงเรียนใหม่

“เก้าโมงครึ่งแล้วอย่างนั้นเหรอ”

เธอต้องรีบไปทำงาน เพราะวันนี้มีนัดสำคัญ!

 

ปกติแล้วเธอเข้างานสิบโมงเช้า ตลอดระยะเวลาหลายปี

ที่ทำงานมา การะเกดแทบไม่เคยไปสาย จะมีช่วงหลังมานี้ที่เธอเริ่มที่จะ

ยุ่งขิงจริงจัง อีกอย่าง วันนี้เธอต้องไปให้ถึงที่ทำงานก่อนสิบโมงเช้าเพื่อรับ

หน้าที่พิเศษ ต้อนรับว่าที่ลูกค้าคนสำคัญ

‘ทำไมต้องเป็นฉันด้วยคะ’

เธอไม่ได้อยู่แผนกพีอาร์ หน้าของเธอไม่ได้แปะอยู่ในโปสเตอร์

โฆษณาหน้าธนาคาร งานของเธอคือ ผู้ให้คำปรึกษาระบบธนาคารแก่

ลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

‘ก็เธอเป็นพนักงานดีเด่นสิบเอ็ดเดือนซ้อน’ เจ้านายใหญ่ของเธอ

ชี้แจงแถลงไข

‘อีกอย่าง เธอเองใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าใครๆ และยังมีความรู้

เกี่ยวกับระบบธนาคารเป็นอย่างดี ลูกค้าคนนี้สำคัญมากนะ ความหวัง

ของเราฝากไว้ที่เธอแล้ว’

การะเกดอยากจะปฏิเสธแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายถึงต้องตกปากรับคำ

แล้วเจ้าประคุณทูนหัวจะมาวันไหนไม่มา ดันมาเอาวันที่ลูกของเธอย้าย

โรงเรียนใหม่

            “โอย ทำไมรถมันติดอย่างนี้นะ” เธอเคาะนิ้วลงกับพวงมาลัย

อดเหลือบมองกระจกมองหลังไม่ได้ ยกมือขึ้นมาปัดหน้าม้าให้ปรก

ตา แทนที่วันนี้ควรจะเป็นวันที่เธอสวยเป๊ะแท้ๆ แต่กลับต้องออกจากบ้าน

ด้วยสภาพสวยไม่ครบ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

“ฮัลโหล”

“เกด อยู่ไหนแล้วเนี่ย”

“ติดอยู่บนทางด่วนน่ะสิพี่เมี้ยว” จะมีประเทศไหนบ้างที่รถติดบน

ทางด่วนเหมือนประเทศนี้

“รีบมาให้ไวเลย” น้ำเสียงของสาวใหญ่ เลขาฯ หน้าห้องผู้จัดการ

ใหญ่ร้อนรน “ลูกค้าของเรามารอแล้ว”

“อะไรนะ!!”

“คุณลีโอมาถึงแล้ว ตอนนี้กำลังรออยู่ในห้องรับรอง คุณถวิล...

เอ๊ย...คุณอัครวินกำลังต้อนรับอยู่ค่ะ”

นี่มันยังไม่ถึงสิบโมงด้วยซ้ำ จะรีบมาอะไรกันนักหนา

“ฉันจะรีบไปก็แล้วกัน”

ปากบอกไปอย่างนั้นแหละ จะให้รีบไปได้ยังไง ในเมื่อมีรถจอดขวาง

หน้าเธออีกเป็นแพ

‘ถ้าเราบริการเขาดี งานนี้ได้มีเงินไหลเข้ามาเป็นโกดัง’

คุณอัครวินหรืออดีตคุณถวิล ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเสริมโหงวเฮ้ง...

ผู้จัดการใหญ่สำนักงานใหญ่ กรอกหูเธอตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

มิสเตอร์ลีโออะไรนั่น คือเศรษฐีกระเป๋าหนักที่เขาว่ากันว่า กำลังจะ

ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าพ่อโลจิสติกส์ของเอเชียและลาตินอเมริกา

เงิน เงิน เงิน คือสิ่งที่เธอต้องหา โบนัสปลายปีคือเป้าหมายที่เธอ

รอคอย ซิงเกิลมัมอย่างเธอต้องทำงานหาเลี้ยงลูก จะให้นั่งงอมืองอเท้า

อยู่ แล้วลูกเธอจะเอาอะไรรับประทาน

            การะเกดเหยียบคันเร่ง แทบจะบินไปให้ถึงสำนักงานใหญ่ พอเอา

รถเข้าซองได้ก็สลัดรองเท้าฟองน้ำออก เปลี่ยนเป็นส้นสูงสี่นิ้ว แล้วกระโจน

ลงจากรถ แหงนหน้ามองยอดตึกสูงระฟ้าน่าเกรงขาม

เอ็มเอ็นเตอร์ไพรส์หรือดิเอ็ม เป็นที่ทำงานของผู้บริหารและ

พนักงานเป็นพันๆ เธอเข้าทำงานที่นี่เมื่อสามปีก่อน เพราะจับพลัดจับผลู

จบปริญญาโทเมืองนอกและได้ภาษา ทำให้ไต่เต้าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อใครๆ ถาม การะเกดมักจะตอบส่งๆ ว่าเธอทำงานแบงก์ แต่

เอาเข้าจริงก็ไม่เชิง...

ดิเอ็ม ถ้าจะเรียกให้ถูกคือบริษัทที่ให้คำปรึกษาทางการเงินตั้งแต่

สากกะเบือยันเรือรบ คนที่ทำงานในบริษัทก็มีพื้นเพพื้นฐานความรู้มาจาก

หลากหลายสาขาวิชา

เธอทำงานในส่วนของการจัดทำระบบการเงินให้แก่บริษัททั้งเอส-

เอ็มอีและเอ็มเอ็นอี

พูดง่ายๆ เธอทำหน้าที่เป็นแม่ค้าคนกลาง คอยติดต่อประสานงาน

ระหว่างลูกค้าเอาใจยาก กับโปรแกรมเมอร์โลกส่วนตัวสูงที่ทำโปรแกรม

การเงินให้แก่ลูกค้านั่นเอง

งานของพวกเธอ แปรผันตามความขยัน

ยิ่งทำงานเยอะก็ยิ่งมีเครดิต ได้คอมมิชชันเยอะไปด้วย การะเกด

ควักโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าต่อสายไปหาเมี้ยว

“ฉันมาถึงแล้วพี่”

“ขึ้นลิฟต์มาชั้นสามสิบเลย”

การะเกดขยับยูนิฟอร์มสีแดงที่เหมือนชุดแอร์โฮสเตสมากกว่า

ยูนิฟอร์มของธนาคารให้เข้าที่เข้าทาง หยิบเอาลิปสติกสีแดงขึ้นมาทา

ตั้งใจจะดึงความสนใจของคนอื่นมาที่ปาก มากกว่าจะเป็นส่วนที่ขาดหาย

ไปจากใบหน้า

ติ๊ง...ประตูลิฟต์เปิดออก

               

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024