ธาราหัวใจ

ธาราหัวใจ

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165020640
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 “ปัณ ผู้หญิงโต๊ะโน้นมองแกนานแล้วนะ”

เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ขยับเข้ามากระซิบบอกกับชายหนุ่ม ขณะที่

คนทั้งสองนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ปัณคลี่ยิ้มพลางมองหญิงสาว

ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมร้านเพียงลำพัง ท่าทางของเธอเหมือนกำลังรอคอย

ใครสักคน หญิงสาวสวมเสื้อแขนกุดสีขาวอวดเรียวแขน เน้นทรวงอกที่มี

ทรงค่อนข้างโต กางเกงขาสั้นแค่คืบโชว์เรียวขาอย่างเปรี้ยวได้ใจ โดย

เฉพาะดวงตาพราวระยับที่มองเขาด้วยความพึงพอใจอย่างเปิดเผย

“เห็นแล้ว แต่วันนี้เหนื่อยว่ะ นั่งรถมาตั้งไกล ไม่มีแรงจะทำอย่าง

อื่นหรอก” แม้จะหมดเรี่ยวแรงกับการเดินทางไกล แต่ดวงตาของ

ชายหนุ่มยังอ้อยอิ่งอยู่ที่เรียวขาสวยของหญิงสาว

“แหม แกนี่นั่นใจเสน่ห์ของตัวเองเหมือนเดิมนะ คิดว่าเขามอง

แล้วจะวิ่งแจ้นตามแกไปถึงห้องหรือไงวะ” นินนาทเอ่ยอย่างหนั่นไส้

แต่จะว่าไปแล้ว เพื่อนสนิทของเขาคนนี้เป็นชายหนุ่มที่โดดเด่น

ทั้งรูปร่างหน้าตา จนใครๆ คิดว่าเขาเป็นดาราหรือนายแบบ และปัณ

ยังเคยถูกทาบทามให้เข้าวงการตั้งแต่วัยรุ่น แต่เขาไม่ได้สนใจ เขารัก

อิสระเกินกว่าจะเป็นคนของประชาชนได้ ยามเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน

ชายหนุ่มสามารถเรียกสายตาของผู้คนให้หันมามองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่า

จะอยู่ในลุคหล่อเนี้ยบยามท่องราตรี แต่งเซอร์ยามลุยออกต่างจังหวัด

ใบหน้าคมทำให้สาวๆ ต้องมองจนเหลียวหลังเสมอ ทั้งคิ้วเข้มคล้าย

ปีกนกเหนือดวงตาส่องประกายระยิบระยับอย่างหนุ่มเจ้าชู้ นั่นยิ่งทำให้

ปัณดูมีเสน่ห์ แต่คนที่ใกล้ชิดจะรู้ว่าภายใต้ดวงตาคมพราวนั้นบางครั้ง

แฝงความอ้างว้าง ซึ่งเพื่อนสนิทอย่างเขารู้ดีว่าลึกๆ แล้วเขาช่อนสิ่งใด

ไว้ในใจ...

จมูกของชายหนุ่มโด่งสวยไต้รูปรับกับริมรี!ปากหยัก ยามยิ้มเผย

ให้เห็นไรฟันขาวเรียงเป็นระเบียบชวนมอง สรุปว่าเพื่อนสนิทของเขามี

เสน่ห์แบบบุรุษเพศทุกตารางนิ้วบนร่างกาย และมันก็เปรียบเสมือน

กับดักลวงหญิงสาวให้กระโจนลงไปในเสน่ห์อันร้ายกาจของปัณ...ชาย

หนุ่มที่หันหลังให้แก่ความรักมาเนิ่นนาน

“สายตาผู้หญิงอ่านได้ไม่ยากเย็นอะไรนักหรอก” สายตาคม

พราวของปัณยังทอดมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมร้าน เขาเป็นผู้ชาย

เจ้าชู้ มีผู้หญิงมากมาย แต่ไม่เคยคบหาผู้หญิงคนไหนเป็นแฟน หลัง

เคยอกหักจากความรักครั้งแรกเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เขา ชอบที่จะสนุกไปวันๆ กับความสัมพันธ์ทางกายที่ไร้ความผูกพันใดๆ

“สวยว่ะ” นินนาทเปรยเบาๆ

“อันก็ว่างั้น แต่เอ...วันนี้ไม่มีแรง วันหน้ายังมีนี่หว่า”

พูดจบชายหนุ่มก็หยิบนามบัตรขึ้นมา และเรียกบริกรของร้านให้

นำไปส่งให้แก่หญิงสาวคนนั้น เธอรับไปแล้วส่งยิ้มหวานมาให้ เพียง

เสี้ยววินาทีโทรศัพท์มือถือของปัณก็ดังขึ้น

“ครับ ผมปัณพูด”

“ชื่อปัณเหรอคะ น่ารักจัง”

“แล้วคุณล่ะครับ ชื่ออะไรเอ่ย”

“ชื่อมะปรางค่ะ”

“มะปรางลูกนี้จะหวานไหมนะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มทุ้มนุ่มแฝง

ความยั่วเย้าและท้าทาย

“ต้องลองชิมดูไหมคะ” ขณะพูดโทรศัพท์ คนทั้งสองส่งสายตา พึงพอใจให้กันและกันอย่างเปิดเผย

“อยากชิมชะเดี๋ยวนี้เลย แต่เกรงว่าจะรบร้อนไป ไว้พรุ่งนี้ผมจะ

โทร. หานะครับ”

“จะรอค่ะ”

ถึงจะวางสายแล้ว ทว่าชายหนุ่มกลับนั่งกินข้าวพร้อมกับสบ

สายตาหวานเยิ้มของสาวสวยไปด้วย

“สงลัยแกคงเขมือบคุณแป้งมากไปเลยหมดแรง” นินนาท

สัพยอกเพื่อนหนุ่ม

แป้ง...คือหญิงสาวที่ปัณเจอที่เชียงใหม่ เธอเป็นลูกสาวเจ้าของ โรงแรมที่เขาไปพัก หญิงสาวเปรี้ยวจนเข็ดฟัน แต่ก็ทำให้ปัณสนุก

ไม่น้อยกว่าหญิงสาวหลายคนที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย ปัณไปเที่ยว เชียงใหม่สองอาทิตย์ หลังออกจากงานผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาที่

ทำได้เพียงแค่หกเดือนเท่านั้น และเป็นโปรดักชันเฮาส์ที่สี่ของปีนี้ที่เขา

ร่วมงานด้วย ชายหนุ่มเปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจากหลายสาเหตุ บางแห่งก็

มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานบางแห่งก็ไม่ลงรอยกับเจ้านาย แต่ปริษัทล่าสุด

มีปัญหาเพราะผู้หญิงของบอสไปหาเขาถึงคอนโดมิเนียม และปัณก็

ไม่ได้ปฏิเสธเท่านั้นเอง

“เปล่าหรอก นั่งรถเหนื่อยมากกว่า ผู้หญิงไม่เคยทำให้ฉันหมด

แรงได้ แกก็!นี่หว่า” ชายหนุ่มโอ่ตามประสาคนที่ออกกำลังกายอย่าง

สม่ำเสมอ

“เออ แกเก่ง กลับหรือยังวะ ง่วงแล้ว” นินนาทพูดพลางปิดปาก

หาว

“เอาสิ เซ็กบิลเลย เดี๋ยวฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะ”

ร่างสูงที่มีเรือนผมหยักศกยาวระต้นคอ บวกกับไรหนวดที่ไม่ได้

โกนมาสองอาทิตย์ทำให้ปัณดูดิบเถื่อน จนหญิงสาวนามมะปรางอด

ไม่ได้ที่จะลุกจากโต๊ะเดินตามเขาไปจนถึงหน้าห้องน้า

“คุณปัณคะ” เสียงหวานของเธอทำให้ปัณหันมามอง ดวงตาคม ของชายหนุ่มเป็นประกายระยิบระยับ

“ว่าไงครับ” ปัณทอดเสียงหวานรับ

“เอ่อ เปล่าค่ะ แค่อยาก เอ่อ...อุย!” หญิงสาวอุทานเบาๆ เมื่อถูก

ชายหนุ่มฉุดเข้าไปในห้องน้ำ เขาแนบรมฝีปากอุ่นกับเรียวปากนุ่มอย่าง

เร่าร้อนเนิ่นนาน ก่อนจะถอนรีมนปากออก

“แล้วพรุ่งนี้ผมจะโทร. หานะ” เขากระซิบบอกหญิงสาวเสียงทุ้ม

ก่อนจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

“ค่ะ” หญิงสาวเขย่งปลายเท้าจุมพิตคนตรงหน้าราวกับจะมัดจำ

แล้วเดินตัวปลิวจากไป ในขณะที่ชายหนุ่มลูบแก้มตัวเองเบาๆ ก่อน จะจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

 

“ช่วยไปส่งฉันที่บ้านเลยแล้วก้น” ปัณบอกฉับนินนาท

ชายหนุ่มเคยเช่าคอนโดมิเนียมอยู่แถวทองหล่อ เพราะใกล้กับ ออฟพิเชและแหล่งบันเทิงที่เขาชอบ1ไปเที่ยวเป็นประจำ ตอนนี้เขาออก

จากงานแล้วและอยากพักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อนจะเริ่มงานใหม่ ซึ่ง

มีหลายบริษัทที่ติดต่อเข้ามา การกสับไปอยู่บ้านในช่วงนี้ทำให้เขา

ประหยัดเงินได้มากกว่า เพราะกว่าจะเริ่มงานใหม่ เงินทองก็น่าจะ

ร่อยหรอไปกับเรื่องเที่ยวตามประสาหนุ่มโสด

บ้านของปัณอยู่แถวบางชื่อ นานๆ เขาจะกลับไปสักครั้ง เพราะ

ที่นั่นไม่มีใครอยู่แล้ว พ่อแม่ของเขาหย่าร้างกันตั้งแต่เขาอายุสิบสองปี

พ่อแต่งงานมีครอบครัวใหม่ และเอาพี่ชายคนเดียวของเขาไปอยู่ด้วย

ส่วนปัณอยู่กับแม่ จนกระทั่งแม่แต่งงานใหม่เมื่อสี่ปีก่อนกับชาวนิวซีแลนด์

จึงย้ายไปอยู่บ้านเกิดของสามี ปัณจึงใช้ชีวิตเพียงลำพังตั้งแต่นั้นมา

ชายหนุ่มเหมือนอยู่ตัวคนเดียว แต่เขาไม่เคยโดดเดี่ยว เพราะ

นอกจากจะมีเพื่อนรุมล้อมแล้ว เขายังมีผู้หญิงอีกมากมาย ชายหนุ่ม

รักอิสระ ไม่ต้องการให้ใครมาบงการชีวิต ไม่เหมือนกับพี่ชายของเขาที่

อยู่ใต้อาณัติของพ่อมาตลอด แม้แต่การแต่งงานก็ยังให้พ่อเลือกเจ้าสาว

ให้

พอคิดถึงพี่ชาย ปัณก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะตอนที่เขาอยู่ เชียงใหม่ อีกฝ่ายโทร. มาหาเขานับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาไม่ยอมรับสาย

และปิดเครื่องโทรศัพท์ตลอดสองอาทิตย์ที่อยู่ที่นั่น พี่ชายคงรู้ว่าเขาออก

จากงานแล้ว จึงน่าจะโทร. มากล่อมให้เขาไปทำงานที่บริษัทด้วย แต่เรื่อง

อะไรล่ะ ที่เขาจะต้องไปอยู่ใต้อาณัติของพ่อกับแม่เลี้ยง...

“หน้าบ้านแกเปิดไฟว่ะ” นินนาทเอ่ยขึ้น เมื่อขับรถโพร์วีลมาจอด ตรงหน้าบ้านชั้นเดียวหลังใหญ่

“ป้าไหมอาจจะเปิดทิ้งไว้” ปัณเอ่ยถึงแม่บ้านที่เขาว่าจ้างให้มา

ทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละสองครั้ง

“ขอบใจนะ แล้วค่อยคุยกัน”

พูดจบชายหนุ่มก็ก้าวลงจากรถพร้อมกับกระเป้าสะพายใบใหญ่

ก่อนจะล้วงหยิบกุญแจในกระเป้ากางเกงยีนแล้วไขประตูเล็ก จากนั้น

จึงก้าวยาวๆ เข้าไปในตัวบ้าน เขาเริ่มแปลกใจที่เห็นแสงไพ่สลัวในห้อง-

โถงที่จัดเป็นโชนรับแขกและนั่งเล่นไปในตัว ชายหนุ่มถอนหายใจยาว

เพราะคิดว่าพี่ชายจอมจุ้นคงมาดักรอเขาที่บ้าน ก็ดี...จะได้คุยกันให้รู้

เรื่องไปเลยว่าคนอย่างเขาไม่มีวันอาศัยใบบุญของพ่อกับแม่เลี้ยงอย่าง เด็ดขาด ลำพังแค่ส่งเสียให้เขาเรียนจบปริญญาโทที่อังกฤษก็นับว่าเป็น บุญคุณนักหนาแล้ว

“โอ๊ย!”

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะถูก

ของแข็งฟาดใส่กลางลำตัวจนทรุดลงไปกองกับพื้น ก่อนจะถูกเตะสีข้าง

อย่างจัง เขาพยายามเงยหน้ามองคนที่ทำร้ายเขา แต่ยังไม่ทันจะเห็น

ใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีดวงดาววิบวับอยู่รอบตัว

ก่อนจะถูกเตะปลายคางอย่างแรงจนหมดสติไป

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในเวลาเกือบห้าทุ่มทำให้วินทร์

รีบลุกขึ้นจากเตียงนอนที่เพิ่งจะเอนกายลงไปเมื่อครู่ พอหันไปเห็น

ภรรยายังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ ก่อนจะเดิน ออกไปที่ระเบียงห้องและกรอกเสียงถามคนที่โทร. เข้ามาอย่างแผ่วเบา

“ทำไมโทร. มาดึกนักล่ะ น้องแวนเป็นอะไรหรือเปล่า”

“ไม่ใช่น้องแวนหรอกค่ะ คือมีขโมยเข้ามาในบ้าน แต่ปอยจัดการ

จนมันสลบไปแล้วค่ะ ก็เลยโทร. มาบอกพี,วินทรี'ว่า'จะเอายังไงดี ให้ปอย

โทร. แจ้งตำรวจเลยไหมคะ!” นํ้าเสียงของปลายสายร้อนรนระคน

หวาดกลัว

“ขโมยงั้นเหรอ เอ่อ หน้าตาเป็นยังไง”

“ตัวสูงใหญ่ หน้าตาก็หล่อดีนะคะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาเป็นโจร แต่

ดูๆ ไปก็หน้าตาคุ้นๆ นะคะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”

“ผมหยักศกยาวระต้นคอใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

“นั่นละเจ้าปัณ น้องชายของพี่”

“ว้าย ตายจริง!”

“ปอยรีบปฐมพยาบาลให้ปัณฟินขึ้นมาก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะรีบไป”

พูดจบชายหนุ่มก็รีบวางสายแล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง ในขณะที่

ผู้เป็นภรรยาลืม ตาขึ้นมาพอดี

“ดึกดื่นป่านนี้คุณคุยกับใครคะ”

“เจ้าปัณน่ะ พอดีว่ามันมีเรื่อง เดี๋ยวผมจะออกไปดูสักหน่อย”

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ ให้พริมไปเป็นเพื่อนไหม”

“มันทะเลาะกับเพื่อนน่ะ เดี๋ยวผมไปจัดการเอง คุณนอนเถอะ

พรุ่งนี้แผนกของพริมมีประชุมไม่ใช่เหรอ”

“ค่ะ”

“แล้วผมจะรีบกลับมานะครับ” พูดจบวินทร์ก็จุมพิตแก้มนวล ของคนที่นอนบนเตียงก่อนจะปิดโคมไฟ จากนั้นจึงเข้าไปในห้องแต่งตัว เพียงไม่กี่นาที เขาก็อยู่ในชุดเสื้อยืดโปโลสีดำกับกางเกงยีนและรีบเดิน ไปที่โรงรถอย่างรีบร้อน

วินทร์นึกโมโหน้องชายที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา พอโทร. ไปที่ บริษัทถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวตีลาออกจากงานแล้ว และจู่ๆ ก็โผล่เข้าไปในบ้าน

ยามวิกาลจนเกิดเรื่อง เขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่าง

ปริณาจะเล่นงานผู้ชายตัวใหญ่ยังกับยักษ์จนสลบได้ พอนึกถึงภาพ

น้องชายที่ฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าถูกผู้หญิงตัวเล็กๆ เล่นงาน คงหัวเสียและ

เสียฟอร์มไม่น้อย แต่ยังไงเขาก็ภาวนาขออย่าให้น้องชายโกรธจนถึง

ขนาดไม่ยอมให้อยู่ร่วมบ้าน ไม่อย่างนั้นเขาเองนั้นละที่จะแย่ แต่ไม่ว่า

จะเกิดอะไรขึ้น ปริณากับหนูแวนจะต้องอยู่ที่บ้านหลังนั้นต่อไป

 

ปริณามองใบหน้าคมคายที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นอย่างหวาด ๆ

ในมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กด้างไว้เพราะไม่กล้าเช็ดหน้าให้เขา ไม่รู้ว่า

ชายหนุ่มจะโกรธมากแค่ไหน เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเขาก่อน

จะหมดสติไปยังดังก้องอยู่ในหู เธอผิดเองทีจำเขาไม่ได้ ทังทีมองรูปที่ตั้ง

โชว์อยู่ในห้องรับแขกทุกวัน แต่ในรูปทรงผมของปัณไม่ยาวและหนวด

เคราไม่ได้รกครึ้มแบบนี้นี่นา แถมยังโผล่เข้ามาในยามวิกาล จะไม่ให้คิด

ว่าเป็นโจรได้ยังไง

ตอนนั้นปริณากำลังนั่งดูหนังแอ็กชันของฮอลลีวูด จู่ๆ ก็ได้ยิน

เสียงดังก็อกแก็กที่หน้าประตู อารามตกใจและหวาดกลัวทำให้เธอไม่ทัน

ได้นึกถึงอะไร นอกจากจะต้องปกป้องตัวเอง จึงปล่อยแม่ไม้มวยไทยที่

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024