Hi Breakfast อรุณสวัสดิ์เสิร์ฟรักยามเช้า

Hi Breakfast อรุณสวัสดิ์เสิร์ฟรักยามเช้า

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160609956
ผู้แต่ง: บิวบิว
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 149.00 บาท 37.25 บาท
ประหยัด: 111.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

ตุ้บ!

“เก็บเสื้อผ้า แล้วออกไปจากที่นี่ซะ!” หม่ามี้โยนกระเป๋าใบใหญ่ลงบนพื้นพร้อมประกาศเสียงกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่มันอะไรกัน! เกิดอะไรขึ้นกับหม่ามี้ที่น่ารักของผม!

“มี้ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ มีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันก็ได้ อย่าเพิ่งวู่ว่ามสิฮะ”

“มี้ใจเย็นมามากพอแล้ว พอกันที มี้ทนให้แกทำลายทัศนียภาพอันงดงามของบ้านเราไม่ไหวแล้วคนโต ดูสภาพห้องแกซิ รกจนช้างเข้ามาแอบยังหาไม่เจอเลย!

“แหม มี้ก็พูดเกินไป ไม่ขนาดนั้นซะหน่อย”

โอเค ห้องผมอาจจะดูรกไปสักหน่อย แต่ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ ก็แค่มีซีดีน้องมิยาบิเยอะไปนิด มีหนังสือปกน้องฮิโตมิเยอะไปหน่อย มีกางเกงในสารพัดสีกองอยู่ใต้เตียง มีบ็อกเซอร์กองโตที่ยังไม่ได้ซักวางอยู่ข้างประตูห้องน้ำ เห็นมั้ยว่ามันไม่ได้แย่ขนาดที่ช้างทั้งตัวจะเข้ามาแอบได้มี้นี่ก็เว่อร์เกินไป

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละน่า”

“เงียบไปเลยยัยเล็ก” ผมหันขวับไปเอ็ดคนเล็ก ยัยน้องสาวตัวดีนี่เคยจะเข้าข้างผมหรอก ชิ!

“รีบเก็บเสื้อผ้าแล้วออกไปเดี๋ยวนี้เลย มี้หาที่พักใหม่ไว้ให้แกเรียบร้อยแล้ว ถ้ายังไม่เลิกนิสัยแย่ๆ แบบนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้กลับมานอนที่นี่อีก”

“ไม่เอานะครับมี้ มี้อย่าทำกับผมแบบนี้ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว” ผมโอดครวญพลางทรุดตัวลงเกาะขาหม่ามี้อย่างออเซาะ ไม่มีทางซะล่ะ ยังไงผมก็ไม่ออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด “เดี๋ยวผมจะเก็บห้องเดี๋ยวนี้เลยฮะ ขอเวลาหนึ่งชั่วโมง รับรองสะอาดเอี่ยมอ่อง ให้ผมอยู่ที่นี่ต่อเถอะน้า ออกไปอยู่ไกลบ้านจะนอนหลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วถ้ามีสาวๆ บุกเข้ามาปลุกปล้ำถึงในห้องจะทำยังไง มี้ไม่สงสารลูกชายหน้าตาดีๆ คนนี้เหรอครับ”

“มี้สงสารตัวเองมากกว่าที่มีลูกชายซกมกอย่างแก ไม่ต้องมากล่อมมี้ซะให้ยาก ยังไงมี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ แกมันต้องถูกดัดนิสัยซะบ้างคนโต”

“แต่ให้ผมออกไปอยู่ที่อื่นแบบนี้มันโหดร้ายเกินไปนะครับมี้”

“อันที่จริงอพาร์ตเมนต์ที่มี้เช่าไว้ให้มันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่หรอก เป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีเตียง มีตู้เสื้อผ้า มีทีวีสิบสี่นิ้ว มีโต๊ะญี่ปุ่นไว้ให้นั่งกินข้าว และมีพัดลมเพดานหนึ่งตัว หวังว่าแกคงจะอยู่ได้อย่างสุขสบายนะ”

“มี้ใจร้ายยยยยย ดี๊ครับ ดี๊ช่วยผมด้วย” ผมคลานกระดึ๊บๆ ไปเกาะขาด่าดี๊แทน มันไม่จริงใช่มั้ย นี่ผมกำลังฝันร้ายอยู่ใช่มั้ย ตื่นเว้ยไอ้คนโต! ตื่นๆ มีเรื่องแล้ว!

“ซอรี่ไอ้ลูกชาย งานนี้ดี๊ช่วยอะไรแกไม่ได้จริงๆ”

“ก็เตือนแล้วว่าให้เก็บกวาดห้องซะบ้าง พี่ก็ชอบมาเถียงว่ามันเป็นศิลปะ เป็นไงล่ะ ได้ออกไปทำตัวมีศิลปะนอกบ้าน คงสนุกหรอกงานนี้”

“ยัยเล็ก แกกล้าทับถมพี่ชายที่แสนดีคนนี้ได้ยังไงหา!”

“มี้จะสุ่มวันไปตรวจห้องใหม่ของแกเป็นระยะ เพราะฉะนั้นดูห้องให้ดีด้วย ถ้าสภาพห้องไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็อยู่ที่อพาร์ตเมนต์นั่นไปทั้งปีทั้งชาตินั่นแหละ”

“โถ คุณคนโตของมัดหมี่ ช่างน่าสงสาร ไม่ต้องกัวลเรื่องจัดกระเป๋านะคะ จะเอากางเกงในลายไหนสีไหนไปบ้าง บอกมัดหมี่เลยค่ะ เดี๋ยวมัดหมี่จัดใส่กระเป๋าให้”

“ม่ายยยยยยย”

แม้แต่สาวใช้ในบ้านก็ยังเยาะเย้ยถากถางผม เศร้า รันทด หดหู่ คนโตอยากตายยย ใครก็ได้ช่วยคนโตด้วยคร้าบบบ

 

ผมจอดออดี้สีแดงไว้ที่ลานจอดรถข้างๆ อพาร์ตเมนต์ซึ่งคิดค่าจอดชั่วโมงละยี่สิบบาท แต่คือเข้าใจใช่ป่ะ ผมไม่ได้ขับรถผ่านมาแวะจอดปุ๊บปั๊บแล้วก็ไป ผมต้องอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จะให้เอารถกลับไปจอดที่บ้านแล้วใช้ชีวิตอยู่ในซอยแคบๆ นี้โดยไม่มีออดี้คู่ใจมันก็จะแลดูชีวิตรันทดเกินไปหน่อย เพราะงั้นผมเลยเจรจากับพี่สาวที่ทำหน้าที่เฝ้าทางเข้าออกว่าขอชำระค่าจอดเป็นรายเดือน คุยไปคุยมาพี่แกก็ให้ผมจอดฟรีซะงั้น เกิดมาหล่อก็ดีอย่างนี้แหละครับ

ที่พักแห่งใหม่ของผมเป็นอพารต์เมนต์สูงห้าชั้น จากตรงนี้เดินย้อนกลับไปไม่ถึงร้อยเมตรจะเจอรถเข็นขายอาหารคาวหวานนานาชนิดตั้งเรียงเป็นแนวยาวไปจนเกือบถึงปากซอย ผู้คนและรถยนต์ที่สัญจรไปมาทำให้ซอยนี้ดูวุ่นวายจนน่าเวียนหัว ผมว่าคงเพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กเลิกเรียนและผู้ใหญ่เลิกงานพอดีด้วยล่ะมั้ง

 

‘ปาท่องโก๋แมนชั่น’

 

ผมแหงนหน้ามองป้ายไม้ผุๆ ที่ติดอยู่เหนือประตูทางเข้าอพาร์ตเมนต์แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ นี่ผมต้องอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ แค่เห็นชื่ออพาร์ตเมนต์และป้ายไม้ผุๆ ก็เครียดแล้ว ดูไม่รู้เลยว่าเก่าและโบราณมาก

ผมส่ายหน้าอย่างเซ็งจัดก่อนจะผลักประตูเปิดแล้วเดินเข้าไปข้างในปาท่องโก๋แมนชั่นอย่างจำใจ หญิงชราคนหนึ่งกำลังนั่งนับเงินอยู่ที่โต๊ะไม้เก่าๆ ด้านหลังของเธอมีตู้เย็นแบบตามร้านค้าที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ด้านซ้ายเป็นชั้นวางขนมขบเคี้ยวและขนมปังน่าอร่อย ส่วนด้านขวาเป็นชั้นวางของใช้จำเป็นที่ทุกคนต้องมี เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แป้ง สบู่ ยาสระผม บลาๆๆ ก็ดีนะ ผมจะได้ไม่ต้องออกไปหาซื้อที่อื่นให้วุ่นวาย

“ขอโทษนะครับคุณยาย”

“ใครยายลื้อ!”

“อะ...อ้าว!!” ผมขาวทั้งหัวแถมหน้าขาดคอลลาเจนขนาดนี้ ไม่ให้เรียกยายแล้วจะให้เรียกว่าอะไรอ่ะ

“ทุกคนในละแวกนี้เรียกอั๊วว่าคุณวนิดากันทั้งนั้น” โห ชื่ออย่างกับนางเอกละครหลังข่าว “ลื้อเพิ่งมาใหม่ล่ะสิ ไม่เคยเห็นหน้า”

“คะ...ครับ หม่ามี้ของผมชื่อดารารัตน์ ท่านบอกว่าทำสัญญาเช่ากับที่นี่ไว้เรียบร้อยแล้ว”

“อ่อ ดารารัตน์ ที่ว่าจะให้ลูกชายมาอยู่ งั้นลื้อก็คงจะชื่อ...ปิ่นโตล่ะสิ”

“คนโตครับ ไม่ใช่ปิ่นโต”

“เออๆ นั่นล่ะ คล้ายๆ กัน อ่ะ นี่กุญแจห้องลื้อ อยู่ชั้นสอง ขึ้นบันไดไปแล้วเลี้ยวขวา” คุณยาย...เอ๊ย! คุณวนิดายื่นกุญแจห้องมาให้ผมหมายเลขห้องสองศูนย์สาม “ที่นี่ไม่มีกฏระเบียบหรือข้อห้ามอะไรทั้งนั้น ไม่มีการรับร้องเรียนไม่ว่ากรณีใดๆ อยู่ได้ก็อยู่ไป อยู่ไม่ได้ก็ออกไป เข้าใจนะ”

“...!!!”

ผมยืนอึ้งไปสามวินาที หม่ามี้ส่งผมมาอยู่ที่ไหนกันเนี่ย แบบนี้ถ้าน้ำไม่ไหลไฟดับผมจะแจ้งใคร ห้องถูกขโมยงัดผมจะเรียกร้องความยุติธรรมได้ที่ไหน แล้วถ้าข้างห้องเกิดส่งเสียงดังรบกวนการดูซีดีน้องมิยาบิแล้วผมจะไปร้องเรียนกับใคร กรี๊ดดดด! คนหล่อขอกรี๊ดด!

ผมเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองตามทางที่คุณวนิดาบอกจนมาหยุดอยู่หน้าห้องหมายเลขสองศูนย์สาม ห้องข้างๆ ทางซ้ายมือของมีแม่กุญแจอันใหญ่คล้องไว้ราวกับไม่มีคนอยู่ ส่วนห้องทางขวามือ ผมคิดว่าน่าจะมีคนอยู่นะ แต่...ทำไมประตูปิดไม่สนิท

ด้วยความปรารถนาดี ผมเลยช่วยปิดประตูห้องข้างๆ ให้สนิทก่อนจะเดินกลับมาไขกุญแจห้องตัวเอง และผมก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าประตูไม่ได้ล็อก หรือคุณวนิดาแกจะเปิดเอาไว้ล่วงหน้าเพราะรู้ว่าผมจะมาพัก

ผมผลักประตูเข้าไปด้วยความรู้สึกลุ้นๆ อันที่จริงฟังจากที่หม่ามี้บอกมาผมก็พอนึกภาพออกอยู่หรอกว่าสภาพห้องจะเป็นยังไง แต่ผมก็ยังแอบหวังว่ามันจะดีกว่าที่ผมคิดไว้ ก็แค่หวังอ่ะนะ

อืม...มันไม่ได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้แย่กว่า มีเตียงนอน มีตู้เสื้อผ้า มีทีวีสีสิบสี่นิ้ว มีพัดลมเพดาน ทุกอย่างเหมือนที่หม่ามี้บอกไว้ นี่ถ้าหม่ามี้ไม่ได้ยึดบัตรเครดิตไป ผมจะไปซื้อแอร์และจ้างช่างมาติดเดี๋ยวนี้เลย แต่นี่หม่ามี้เล่นลดเงินค่าขนมรายเดือนของผมลงไปกว่าครึ่ง แค่จะสั่งซื้อซีดีและหนังสือสวยๆ งามๆ มาดูแก้เครียดยังต้องคิดหนักเลย ฮือ ทำไมผมถึงตกอับขนาดนี้ฟะ

ผมปิดประตูและเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง เวลาเย็นๆ แบบนี้ได้หลับสักงีบคงดี

 

“ตื่นๆๆ ไอ้ล็อก ตื่นได้แล้วเว้ย จะสองทุ่มแล้ว!”

“ไอ้ล็อกเก็ต! ตื่นนนนนน!”

เสียงปลุกที่ไม่รู้ว่าดังมาจากไหนทำให้ผมสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ เกิดอะไรขึ้น!

ผมลุกขึ้นนั่งพลางกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง พยายามเงี่ยหูฟังอีกครั้ง หากแต่ไม่ได้ยินเสียงใดๆ หรือผมจะฝันไป

นาฬิกาที่ข้อมือของผมบอกเวลาหนึ่งทุ่มห้าสิบนาที

‘ตื่นๆๆ ไอ้ล็อก ตื่นได้แล้วเว้ย จะสองทุ่มแล้ว!’

ฝันแม่นเนอะ เวลาอย่างเป๊ะอ่ะ

เอาเถอะ จะฝันหรือจริง เสียงปลุกนั่นก็ทำให้ผมตื่นขึ้นมาแล้วอ่ะนะ ผมสะบัดหัว ขยี้ตา บิดขี้เกียจ แล้วก็ลุกจากเตียงไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เดี๋ยวออกไปเดินเล่นแถวๆ นี้หน่อยดีกว่า ไหนๆ วันนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว

ครืด

“เร็วหน่อยดิวะ เดี๋ยวไม่ทัน”

“รู้แล้วน่า”

คราวนี้ไม่ฝันแน่นอน! เสียงนั่น...ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันดังอยู่ใกล้ๆ นี่เอง คล้ายว่าจะเป็นเสียงเลื่อนประตูกระจก และคล้ายว่าเสียงพูดคุยจะดังมาจากระเบียงห้องของผม!

ผมรีบวิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำทันที

ฟิ่ว

ผู้ชายคนที่หนึ่งวิ่งผ่านหน้าผมไป

ฟิ่ว

ตามด้วยผู้ชายคนที่สอง

“เอากีตาร์แกมานี่” ผู้ชายคนที่สามดึงกีตาร์ในมือสาวร่างบางที่กำลังปีนระเบียงจากห้องข้างๆ ข้ามมาไปถือไว้เอง แล้วก็...

ฟิ่ว

วิ่งผ่านหน้าผมไปอีกคน

ยัยผู้หญิงผมยาวสยายผิวขาวซีดเขียนตาดำปีนข้ามมาที่ระเบียงห้องผมสำเร็จแล้ว เธอชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมยืนมองอยู่ เอ่อ...ผมว่าเธอหน้าตาน่ารักดีนะ

“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนรึไง”

และนั่นคือคำทักทายของเธอ อันที่จริงก็ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่หรอก

ตุ้บ!

“โอ๊ย! โธ่เว้ย!” ยัยนั่นสะดุดกระเป๋าเดินทางของผมล้มหน้าทิ่ม เธอหันขวับมาค้อนผม “ทำไมไม่รู้จักวางกระเป๋าให้เป็นที่ ถ้าฉันไปทำงานไม่ทันล่ะน่าดู

แน้ พาลนี่หว่า ความผิดผมซะที่ไหน

พาลใส่เสร็จก็วิ่งปรู๊ดออกไปจากห้องของผมอย่างรีบร้อน ผมหันไปมองที่ระเบียง และหันกลับไปมองที่ประตูห้องอย่างงงๆ เบลอๆ

คนพวกนั้นพักอยู่ห้องข้างๆ ผมเหรอ แล้วทำไมต้องมาวิ่งผ่านห้องของผมด้วย ภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี่มันควรจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผมไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มันอะไรกัน ให้ตาย ผมอยากกลับบ้านชะมัด หม่ามี้เลือกที่พักใหม่ให้ผมได้อย่างเร้าใจมากจริงๆ แล้วดูดิ ออกไปก็ไม่ปิดประตูให้

ผมกำลังจะเดินไปปิดประตูห้อง ทว่า...บางอย่างที่ตกอยู่ใกล้ๆ กับกระเป๋าเดินทางทำให้ผมต้องหยุดชะงักก่อนจะก้มเก็บมันขึ้นมา

...ล็อกเก็ตรูปหัวใจ

ผมเปิดล็อกเก็ตออกดู ที่ด้านซ้ายมีรูปของผู้หญิงหน้าขาวซีดที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยผู้หญิงผมยาวสยายที่เพิ่งวิ่งออกจากห้องผมไปเมื่อกี้ ส่วนด้านขวา ถ้าผมจำไม่ผิด ผมคิดว่ามันคือรูปของผู้ชายคนที่ช่วยยัยผมสยายนั่นถือกีตาร์ตอนที่เธอกำลังปีนระเบียงข้ามมา อ่อ เป็นคู่รักนักดนตรีสินะ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ป๊าดดด ฉันกับเพื่อนๆ ในวง Close Friend ไม่น่าทำตัวมักง่ายด้วยการปีนระเบียงข้ามไปออกประตูห้องข้างๆ อย่างที่ชอบทำเป็นประจำเวลาห้องตัวเองเปิดไม่ได้เลย -*- ก็ใครจะคิดล่ะคะว่าจะมีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่แล้ว แถมฉันยังเผลอทำล็อกเก็ตห้อยคอตกในห้องเขาที่รกแสนรกอีก >O<
 
แล้วอะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ เมื่ออยู่ๆ ทางผับที่วงเราไปเล่นดนตรีอยู่เป็นประจำก็ดันมาเลิกจ้าง ตกงานกันทั้งวง ค่าเช่าห้องก็ยังไม่พอจ่ายด้วยซ้ำ แต่โชคยังดีที่ได้ผู้ชายข้างห้องมาช่วยจ่ายค่าเช่าห้องให้น่ะ ^3^ ทว่าก็มีข้อตกลงแสบๆ อยู่ว่าฉันต้องคอยไปดูแลทำความสะอาดห้องเขาให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ยังต้องมาคอยเสิร์ฟอาหารเช้าให้เขาอีกต่างหาก อ๊ากกก อยากจะปฏิเสธก็ทำไม่ได้ซะด้วย ก็เขาเล่นขู่จะแฉความลับเรื่องที่ฉันแอบชอบเพื่อนสนิทนี่นา!เฮ้ย! นี่หมายความว่าเขาแอบเปิดล็อกเก็ตของฉันดูใช่มั้ย นาย-คน-โต!!! >///<

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

Nattapong | 1 รีวิว
23/08/2013

บอกได้เลยว่าติดตามผู้แต่งคนนี้มาตลอดเลย พี่บิวบิวแต่งนิยายได้มันส์มากค่ะ พอเล่มคนโตออกมาหนูก็ลืมซื้อมาอ่านเลยทันทีไม่มีรอ คนเล็ก กับคนกลางก็สนุกไม่แพ้คนโตเลยค่ะ สนุกทั้ง 3 เล่มเลยยย ชอบๆๆ แถมชื่อเรื่องก็ยังน่ารักอีก จะติดตามผลงานของพี่บิวบิวต่อไปนะค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (65 รายการ)

www.batorastore.com © 2024