ภารกิจพิชิตใจ ชุดLove Mission (cookie)
ประหยัด: 74.25 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 50.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
บรรยากาศภายในกลุ่มอาคารรูปดาวห้าแฉกแถบชานเมืองเต็มไปด้วยความตึงเครียด ความลับกำลังก่อตัวอยู่ท่ามกลางความเงียบงัน รอเวลาให้เป้าหมายมาติดกับ
รอแล้วรอเล่า ในที่สุด ‘เป้าหมาย’ คนนั้นก็ถูกล่อให้กลับมาที่ไต้หวัน!
เงาร่างสูงก้าวเข้ามาภายในอาคาร ไม่แยแสต่อบรรดาคนรับใช้ที่มาต้อนรับกันอย่างนอบน้อม เรือนผมดกดำของเขากระเซิงยุ่งเหยิง ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยจนดูแดงก่ำ ใบหน้าหล่อเหลาดุดันร้ายกาจ ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะขาดสติจนควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านไม่อยู่แบบนี้
“คุณกงซี” WISDOM ผู้มีดวงตาสีเงินยืนอยู่ตรงประตู เขาค้อมศีรษะลงอย่างสุภาพ ทำให้อ่านสีหน้าไม่ออก
“ฉันได้รับข่าวการตายของเธอ” กงซีลี่กำหมัดแน่น จ้อง WISDOM ตาเขม็ง ร่างสูงใหญ่ดูเครียดเก็ง
หลิวเจินอี้ตายแล้ว!?
หลังจากได้รับข่าวร้าย ควาสุขุมเยือกเย็นของเขาได้พังทลายจนหมดสิ้น เขาทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้วรีบกลับไต้หวันทันที ในอดีตเขาจากไปไต้หวันก็เพื่อไม่ให้ทุกอย่างเสียแผน นึกว่าเวลาและระยะห่างจะสามารถดับไฟร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอกได้
เธอตายแล้ว!?
เมื่อสำนักงานใหญ่ของ ‘ไมซ์เตอร์เวิร์ก กรุ๊ป’ ในไต้หวันส่งข่าวถึงหลิวเจินอี้ถูกผู้หญิงของแบล็กแจ็กยิงจนเสียชีวิต ทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ หัวใจของกงซีลี่ก็เจ็บร้าวอย่างรุนแรงราวกับถูกใครควักออกไป
WISDOM เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสีเงินมองผ่านเพียงแวบเดียวก็ดูออกว่ากงซีลี่กำลังร้อนใจจนแทบคลั่ง มุมปากพลันเกิดรอยยิ้มปริศนาขึ้นแวบหนึ่ง
“เธออยู่ด้านในครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่สะทกสะท้าน
เงาร่างสีดำพุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันที พริบตาเดียวกงซีลี่ก็ก้าวเข้าไปถึงห้องด้านในแล้ว หัวใจของเขายังคงเจ็บปวดรวดร้าว นึกภาพไม่ออกว่าถ้าเขาเห็นร่างไร้วิญญาณของเธอกับตาตัวเองแล้ว สติสัมปชัญญะของเขาจะขาดผึงหรือไม่...
“เสี่ยวอี้!” เขาร้องเรียก ทว่าเมื่อเดินเข้าไปในห้องกลับไม่เห็นข้าวของสำหรับงานศพแม้แต่อย่างเดียว
ทันใดนั้นร่างบอบบางก็กระโดดออกมาจากหลังประตู โผเข้าอ้อมกอดของเขา แขนเพรียวบางโอบรอบคอพร้อมตวัดขาเรียวยาวทั้งสองข้างเกีย่วรัดเอวเขาไว้จนแน่น ภาพลักษณ์ของกุลสตรีที่รักนวลสงวนตัวมลายหายสูญไม่มีเหลือหลอ
กงซีลี่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อมองเห็นดวงหน้าสวยหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนขณะที่ถูกกอดรัดฟัดเหวี่ยง เขานิ่งอึ้งจนไม่สามารถกระดิกตัว ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ปล่อยให้เธอยิ่งเกาะเกี่ยวโอบรัดแน่นเข้าราวกับถูกปลาหมึกยักษ์เขมือบ
“ลี่!” เธอเรียกเขาด้วยคำเรียกสนิทสนมมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก สองแขนกอดรัดเขาไว้ ดวงตาใสแจ๋วกะพริบปริบๆ รื้นไปด้วยน้ำตาแห่งความสุขที่ได้พบกันอีกครั้งหลังจากกันไปนาน
สาวสวยที่กระโดดโผเข้าซบอ้อมอกของเขาก็คือหลิวเจินอี้ที่ควรจะนอนอยู่ในโลงศพ และวิญญาณก็น่าจะไปเฝ้าพระเจ้านานแล้ว แต่ตอนนี้นอกจากเธอจะร่าเริงแจ่มใสแล้ว พวงแก้มยังอมชมพูระเรื่อ สีหน้าสดใสอิ่มเอิบ อย่าว่าแต่ถูกลูกปืนปลิดลมหายใจไปเลย พอกวาดสายตาสำรวจเธอจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่รอยขีดข่วน
สติแล่นวูบกลับเข้ามาในหัวอย่างเร็วรี่ ชายหนุ่มเข้าใจทันทีว่าข่าวการตายของเธอเป็นแค่หลุมพรางเท่านั้น
เพื่อให้เขากลับไต้หวัน หลิวเจินอี้ถึงกับใช้แผนแกล้งตาย
เขาหลงกลซะแล้ว!
ท่าทางร้อนรนพลุ่งพล่านถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชาที่เธอคุ้นเคยมานาน อาการกระวนกระวายก่อนหน้านี้ถูกกำจัดให้หายวับไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา
ไม่ได้เจอกันมาสามปี เธอสวยผุดผาดบาดตากว่าเดิม แม้กระทั่งเรือนร่างนุ่มนิ่มที่แนบติดกับเขาก็แสนจะอวบอิ่มชวนให้หลงใหล หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้โตเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้ว
“เธอไม่ได้ตาย” เขาพูดเสียงเย็น ยืนนิ่งให้เธอกอดเขาโดยไม่กระดุกกระดิก
นี่มันทารุณกันชัดๆ เขาต้องกำชับตัวเองในใจไม่หยุดหย่อน...ห้ามแตะต้องเรือนร่างของเธอ ห้ามลูบผมยาวสยาย ห้ามจูบริมฝีปากแดงฉ่ำอันอ่อนนุ่มของเธอ...บัดซบ! เวลาสามปีไม่ได้ทำให้ความต้องการของเขาทุเลาลงเลย ความปรารถนากลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น หลิวเจินอี้ยังไม่หยุดยั่วเย้าเพียงแค่นั้น เมื่อกลิ่นกายหอมละมุนของเธอโชยมาแตะจมูกก็สั่นคลอนอารมณ์ของเขาจนแทบคุมตัวเองไม่อยู่
“คุณอยากให้ฉันตายมากกว่าเหรอ” หลิวเจินอี้กระซิบถามเสียงเบา มือนุ่มหยอกล้อกับปลายผมของเขา เนื้อตัวนุ่มนิ่มเบียดเข้าไปแนบชิดโดยไม่สนใจท่าทีเย็นชาเฉยเมยของเขาแม้แต่น้อย
ความเย็นชาของเขาสามารถข่มขวัญผู้คนนับพันให้เกรงกลัว แต่กลับไม่เคยทำให้เธอกลัวได้เลย
เธอใช้แก้มนวลถูไปตามผิวกายของเขา เรือนร่าง ลมหายใจ กลิ่นอายและอุณหภูมิร่างกายของกงซีลี่เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยและถวิลหาอย่างสุดหัวใจ
ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มประกับกับเรียวปากบางโดยไม่สนใจอีกฝ่ายที่กำลังตัวแข็งทื่อ เธอทำใจกล้าประทับจูบอย่างที่จะไม่มีวันเสียใจภายหลัง
กงซีลี่ตัวแข็งเป็นหิน ส่วนเธอก็ดึงดันส่งจูบร้อนผ่าวให้เขาอย่างไม่คิดละถอย แม้รสจูบจะไร้เดียงสาแต่ก็ดึงดัน ไม่ยอมแพ้ กลีบปากอ่อนนุ่มบดคลึง ปลายลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในเรียวปากของเขาอย่างเหนียมอาย จงใจยั่วยวนเขาอย่างเต็มที่
เหมือนรอคอยมานานนับศตวรรษ ในที่สุดกงซีลี่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาครางเสียงต่ำ ล้มเลิกความมุ่งมั่นและยอมแพ้ต่อการยั่วยวนที่แสนบริสุทธิ์ของเธอ
ฝ่ายรับย้อนกลับมาเป็นฝ่ายรุก วิธียั่วเย้าเฉพาะหน้าของเธอใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปจึงถูกทำให้คล้อยตามอย่างง่ายดาย เพราะต่อให้วางแผนมารัดกุมแค่ไหน ถ้าอ่อนประสบการณ์ก็ย่อมเสียเปรียบคนที่ช่ำชองอย่างเขาวันยังค่ำ
มือใหญ่โอบรั้งเอวคอดไว้แน่น ร่างเล็กถูกดันติดกับผนัง เขาพรมจูบเธออย่างหนักหน่วงเร่าร้อนและบ้าคลั่ง มือหนาใหญ่คล้ำแดดสอดเข้าไปใต้เสื้อ กอบกุมความนุ่มละมุนไว้เต็มมือ ลูบไล้ผิวละเอียดนวลเนียนของเธอ
ความปรารถนาทวีความเร่าร้อนขึ้น หลิวเจินอี้หูอื้อไปหมดจนแยกไม่ถูกว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงครางทุ้มต่ำของเขา หรือเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นโครมครามกันแน่
เธอครางเบาๆ หลับตาแน่น เต็มใจให้เขาตักตวงความสุขจากเธอได้ตามใจชอบ ริมฝีปากแดงแย้มรอยยิ้มจางๆ ให้เห็น
กงซีลี่ คราวนี้คุณหนีไม่รอดแน่
บทที่ 1
ครั้งแรกที่พบกงซีลี่ เธอเพิ่งอายุได้เก้าขวบ
ตอนนั้นเธอยังไม่ใช่หลิวเจินอี้ จำได้รางๆ ว่าคนอื่นเรียกเธอว่า ‘โต้วโต้ว’
จู่ๆ ก็มีรถยนต์คันใหญ่สุดหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาในย่านชุมชนแออัดทรุดโทรม เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวลงจากรถช้าๆ ดวงตาดำขลับดุดันกวาดมองไปโดยรอบ ทำเอาฝูงชนรีบสลายตัว ไม่กล้ามองซอกแซกอีก
เขามาในชุดลำลองสบายๆ อายุยังน้อยแต่กลับไม่ได้บดบังสง่าราศีที่สูงส่งสมชาติตระกูลของเขาได้ แค่เขาปรายตามองเพียงปราดเดียวก็สามารถทำให้คนถูกมองตัวสั่นระริกได้เลย
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)