Love Battle รักนี้มีแค่แพ้ใจเธอ
ประหยัด: 126.75 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 3 รายการราคา 59.00 บาท - 85.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
This love is a battle, only heartless one can win!
รักครั้งนี้คือการต่อสู้ คนที่ไร้หัวใจเท่านั้นถึงจะชนะ!
ผู้ชายคนนี้...เขามาแล้ว
‘หัวใจของมัฟฟินมีไว้แจกจ่ายผู้หญิงทุกคน’
กรุ๊งกริ๊ง
“ร้านขนมหวานหรรษายินดีต้อนรับครับ”
เพียะ!
ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็มีเสียงฝ่ามือบางกระทบใบหน้าซีกซ้ายของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าหล่อจนสาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัยเดอะจีเนียสเอ่ยปากเป็นเสียงเดียวกันว่าฮอต!!!
มัฟฟินตวัดนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองร่างบางตรงหน้าที่จู่ๆ ก็บุกเข้ามาอาละวาดใน ‘ร้านขนมหวานหรรษา’ สถานที่ซึ่งเป็นทั้งบ้านและกิจการของครอบครัวที่เขาซึ่งเป็นหนึ่งในสามพี่น้องชายหนุ่มรูปหล่อต้องสืบทอดต่อ
ท่ามกลางสายตาของลูกค้ารวมไปถึงพนักงานในร้านที่มองมาราวกับว่านี่คือหนังที่ฉายซ้ำ เพราะในรอบหนึ่งสัปดาห์มัฟฟินจะถูกสาวตามตบตามหึงหวงจนเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนคุ้นตา แต่การถูกตบต่อหน้าคนหมู่มากก็ทำให้หนุ่มเจ้าเสน่ห์ของขึ้นได้อยู่ดี ต้นเหตุที่ทำให้เขาถึงกับอึ้งไปจนโกรธเชิดหน้ามองตรงมาอย่างเอาเรื่อง งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องแหลกกันไปข้าง!
ทุกคนในร้านต่างคิดว่างวดนี้มัฟฟินเจอแม่เสือสาวเข้าซะแล้ว แต่ก่อนที่เธอจะได้ชิงอาละวาดเขาไปมากกว่านี้ ใบหน้าหล่อเหลาล้อมกรอบด้วยเส้นผมตัดสไลด์ย้อมสีน้ำตาลทองชักสีหน้าหล่อถมึงทึงขึ้นมาทันควัน ก่อนจะเอื้อยเอ่ยคำพูดผ่านริมฝีปากบางสีสตรอเบอรี่น่าจูบแฝงกระแสคุกรุ่น
“ทำอะไรของเธอ จู่ๆ มาตบฉันทำไม”
สายตาที่ชอบสอดรู้สอดเห็นต่างมองชอตเด็ดหนุ่มเนื้อหอมประจำร้านถูกสาวสวยตบ ใบหน้าสวยเฉี่ยวฉายแววตากรุ่นโกรธไม่แพ้กัน เธอตะคอกเสียงดังลั่น
“ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าโดนตบเพราะอะไร ผู้ชายหลายใจ!”
“ก็ถ้าไม่ถามแล้วจะรู้มั้ยว่าเธอมาโกรธอะไรฉัน”
เจ้าของใบหน้าสวยไม่ใส่ใจคำถาม เธอหรี่นัยน์ตาจิกมองมัฟฟินเป็นเชิงต่อว่าอีกระลอกพร้อมกับตะเบ็งเสียงเหมือนกับจะประกาศความกะล่อนของเขาอย่างเหลือดอด
“ไหนบอกว่าชอบฉัน แล้วเมื่อวานไปเดตกับยัยแพมแพม ดาวคณะอักษรฯ มันหมายความว่าไงยะ!!!”
“ผู้ชายชอบผู้หญิงสวยมันเรื่องปกติ อีกอย่าง ฉันจะเดตกับใครต้องขออนุญาตเธอด้วยหรือไง”
มัฟฟินตอบเสียงขุ่น ตอนนี้หน้าเขาชาเพราะแรงตบ แต่คงไม่เท่าหูที่ทนฟังเสียงแปดหลอดจนรู้สึกว่าหูใกล้จะหนวกเต็มทนแล้ว
“อ๊ายยย!!”
“เลิกร้องกรี๊ดๆๆ ทำท่าฟึดฟัดใส่ฉันสักทีเถอะโมน่า ไม่อายคนอื่นหรือไง”
“ไม่อาย นายเป็นคนผิด ทำไมฉันต้องอายด้วย!”
มัฟฟินกลอกสายตาเซ็งถึงขีดสุด เขารู้สึกคิดผิดอย่างมหันต์ที่หลงใหลได้ปลื้มกับความสวยของโมน่า ดาวคณะบริหารสุดเปรี้ยว จนยอมออกเดตกับเธอในตอนที่เธอมาทอดสะพานให้เขา
“แต่ฉันอาย แล้วบอกไว้เลยว่าฉันกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ใครๆ เขาก็รู้กันทั่วว่านายออกเดตกับฉันนะฟิน”
“ฉันก็เดตกับผู้หญิงสวยเยอะแยะ งี้ฉันก็ต้องรับเป็นแฟนทั้งหมดเลยน่ะสิ”
“อย่ามาเลี่ยงกันแบบนี้นะฟิน ฉันไม่ยอม!”
“ไม่ยอมก็เชิญเต้นแร้งเต้นกาหวีดร้องตามสบาย หนึ่งตบเมื่อกี้ถือว่ายกให้กับความรู้สึกเสียหน้าของเธอ เชิญออกไปได้แล้ว ฉันต้องทำงานต่อ ไม่มีเวลามายืนฟังเธอด่าปาวๆ หรอกนะ”
โมน่ากระทืบเท้าเร่าๆ ไม่พอใจที่เขาตอกเธอหน้าหงาย ถึงมันจะจริง แต่เขาควรรักษาหน้าเธอบ้างเมื่ออยู่ในที่สาธารณะซึ่งทุกสายตากำลังมองเธอเหมือนสมเพช ยิ่งคิดเธอยิ่งปรี๊ดแตกจนต้องแผดเสียงออกมาอย่างกับนางร้ายในละครหลังข่าวเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
“กรี๊ดดดด!!! ไอ้บ้า จำไว้เลยนะไอ้ผู้ชายเส็งเคร็ง!”
มัฟฟินผายมือเชิญ หรือพูดให้ถูกคือไล่อย่างสุภาพ เขายิ้มสวยใส่ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ปล่อยให้โมน่าเดินกระแทกเท้าพ้นประตูไปด้วยอารมณ์โมโหเดือดดาล
“อ้อ แล้วไม่ต้องหวังจะมีรีเทิร์นนะครับ สำหรับคุณผู้หญิงผมขอลาก่อนตลอดชาติ”
“นาย! ไอ้เฮงซวยยยย!!!”
“ก็บอกแล้วว่าหัวใจของผมมีไว้แจกจ่ายผู้หญิงทุกคน” มัฟฟินยิ้มรับคำด่า
“คนทุเรศ!” ว่าจบก็กระแทกเท้าเดินออกจากร้านไปอย่างเสียหน้าที่สุด
กรุ๊งกริ๊ง!!
ทันทีที่สถานการณ์เมื่อครู่สงบ แววพายุลูกใหม่ก็เริ่มส่อเค้ามารำไร มัฟฟินรู้สึกหนาวที่ต้นคอก่อนจะหันไปเห็นสายตาทะมึนจากเอด้า สาวสวยผู้เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนร้านนี้ รวมถึงเป็นหุ้นส่วนหัวใจของพาย พี่ชายคนโตของเขาด้วย
“มองอะไรยัยเอเลี่ยน ฉันเปล่าเริ่มนะ”
เอด้าในชุดคอสเพลย์นางฟ้ายิ้มร่าแต่แฝงรังสีอำมหิต เธอก้าวเข้ามาถึงร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มก่อนจะ...
ผัวะ!
“อ๊ากกก! ยัยบ้า เธอเอาถาดมาโบกฉันทำไม” มัฟฟินร้องพร้อมเอามือกุมหัวป้อยๆ
“ยังมีหน้ามาถาม ค่าที่หัวใจนายมีไว้แจกจ่ายผู้หญิงเรี่ยราดยังไงล่ะ ฟังแล้วหมั่นไส้จนมือมันต้องโบกเข้าให้ มีบ้างมั้ยที่ร้านจะสงบสุขไม่มีผู้หญิงของนายมาอาละวาดเนี่ย ร้านฉันขาดทุนป่นปี้หมดแล้ว เจ้าบ้า!’
เอด้าร่าวยาวเป็นชุดก่อนจะหันไปพาลใส่พายผู้ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรด้วย แต่โดนด่ารวม เพราะดันเกิดมาเป็นพี่ชายของมัฟฟิน
“นายเองก็เหมือนกัน หัดอบรมน้องชายมั่งนะ ไม่งั้นฉันจะบินกลับญี่ปุ่นเพราะทนไม่ได้กับสโลแกนชวนอ้วกที่เสี่ยวไม่มีที่สิ้นสุดของน้องชายนายนี่แหละ”
“ทำไมเธอไม่มีเหตุผลเลย เอด้า” พายติงเสียงดุเล็กน้อย
แต่มีหรือที่เจ้าแม่สาวคอสเพลย์ผู้เป็นแกนนำในการปฏิวัติร้านขนมหวานแห่งนี้จะกลัวใคร ก่อนหน้านี้เธอก็ปราบสามพี่น้องหนุ่มหล่อจนราบคาบมาแล้ว เอด้าจิกสายตามองพายที่แต่งชุดคอสเพลย์เป็นเทวดาตามธีมของร้านในสัปดาห์นี้ด้วยความคุกรุ่น
“นายเคยเห็นฉันเป็นคนมีเหตุผลด้วยเหรอ พาย”
แน่นอนว่าไม่มี... ทุกคนในร้านพร้อมเห็นด้วยในใจ แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาเป็นเสียงให้เป็นหลักฐาน เดี๋ยวชีโมโหอีกรอบได้โดนตัดเงินเดือนยกโขยง
พนักงานในร้านทุกคนที่สนิทสนมกันดีกับเอด้าเพราะร่วมพัฒนาร้านมาด้วยกันจนร้านดังระเบิดฮอตฮิตไปทั่วกับการริเริ่มให้พนักงานเสิร์ฟแต่งคอสเพลย์แฟนซีเรียกลูกค้าพร้อมใจกันแอบขำเธออยู่ในใจ แน่ล่ะ ในบรรดาคนที่พวกเขารู้จักคงไม่มีใครไร้เหตุผลเท่าเอด้าเจ้าแม่คอสเพลย์อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นร้านที่แสนจะแปลกแหวกแนวอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ยังไง ถ้าไม่ถูกสาวรสนิยมพิลึกพิลั่นอย่างเธอจัดการจนไม่เหลือเค้าเดิมตั้งแต่ปีก่อน (อยากรู้เรื่องราวรักหรรษาของเอด้าเจ้าแม่คอสเพลย์ต้องติดตามนวนิยายเรื่อง ‘Love Recipe รักนี้หวานกว่าน้ำตาล’ นะจ๊ะ)
“สมองเธอไม่รู้จักคำว่าเหตุผลแน่ๆ ฉันฟันธง ยัยเพี้ยน” วิค หนึ่งในพนักงานร้านรูปหล่อโพล่งขึ้นเสียงขบขัน ก่อนจะตามมาด้วยลูกคู่อย่างจ่อย แคน น้อยหน้า (สามลูกสมุนสมัยยังเป็นแก๊งอันธพาลกิ๊กก๊อก)
“เห็นด้วยกับลูกพี่วิคเลยคร้าบบบ”
“พวกนายกล้ารวมหัวกันว่าฉันเรอะ เดี๋ยวเจอตัดเงินเดือน” เอด้าหันไปว้าก
“เอ่อ ผมว่าทุกคใจเย็นๆ ก่อนเถอะฮะ ทะเลาะกันแบบนี้ลูกค้าหนีไปหมดอีกแล้ว”
เซมเบ้ น้องชายคนสุดท้องเอ่ยห้ามเมื่อเห็นท่าไม่ค่อยดี เวลามีเรื่องทะเลาะทีไรลูกค้าต่างชิ่งหนีหายขาดทุนย่อยยับทุกที ส่วนเขาก็มีหน้าที่ห้ามในตอนท้ายนี่ล่ะ ใบหน้าใสกิ๊งหล่อน่าเจี๊ยะ (สำหรับลูกค้าสาวที่ชอบเด็กเอ๊าะๆ) หันมาทำตาลูกหมาน้อยใส่หวังช่วยมัฟฟินพี่ชายคนรองให้รอดพ้นจากการถูกด่า พร้อมกันนั้นก็อ้อนเอด้าว่าที่พี่สะใภ้ไปในตัวด้วยว่าอย่าโมโหพาลไปถึงพาย พี่ชายคนโต
“เจ๊เอด้า ผมว่าอย่าโมโหไปเลยฮะ เฮียฟินกับเฮียพายคงจะสำนึกผิดแล้ว”
“เฮ้ เซมทำไมพูดงี้ เฮียยังไม่ทันได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องสำนึกด้วย” พายรีบท้วงทันควัน
“หยวนๆ เถอะน่าเฮียพาย”
“เห็นมั้ยเซมเบ้ พี่ชายนายไม่น่ารักเลย ชิ” เอด้าบ่น
“เอาเถอะๆ ถือว่าฉันผิดคนเดียวแล้วกัน เธอก็อย่าไปโกรธเฮียพายเลยเอด้า จะโมโหก็มาลงที่ฉันคนเดียวก็พอ พอใจมั้ย” มัฟฟินบอกท่าทางหน่ายๆ (ความจริงชินมากกว่า)
“นั่นมันแน่อยู่แล้วย่ะ นายผิดเต็มประตู เพราะงั้นเงินเดือนเดือนนี้ฉันจะหักไว้ครึ่งหนึ่งโทษฐานที่นายก่อเรื่องจนทำให้ร้านวุ่นวาย ชดเชยส่วนที่ลูกค้าชิ่งหนีไปด้วย เข้าใจมั้ย” เอด้าประกาสเสียงลั่นก่อนจะหันไปทำท่าสวีตกับพายเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น “หมดเรื่องแล้ว พาย ไหนว่านายทำขนมเค้กมาใหม่ งั้นเราไปชิมกันเถอะนะ”
ว่าแล้วเอด้าก็ฉุดแขนพายที่ทำหน้างงแต่แอบยิ้มที่โดนเธออ้อนซึ่งหน้า เขากับเธอเดินหายไปในครัวหลังร้าน ทิ้งให้พนักงานที่เหลือมองตามพลางซุบซิบ
“ยัยเอด้านี่บทจะหายปรี๊ดแตกก็ประทับร่างทรงนางฟ้าเฉยเลยว่ะ” วิคเปรยพึมพำ
เสียงมัฟฟินเลยสรุปสุดท้ายให้กับความผีเข้าผีออกของเอด้า
“สงสัยเพราะวันนี้คอสเพลย์เป็นนางฟ้าเลยต้องแอ๊บตามอ่ะดิ ยัยนี่โคตรจะอารมณ์แปรปรวรเลยให้ตายเถอะ”
บทนำ
หลงรักคนมีเจ้าของ
“ยัยโดนัท คนอย่างเธอเข้าร้านขนมพื้นๆ แบบนี้เป็นกับเขาด้วยเหรอ” น้ำเสียงเหยียดๆ ของลูกพลับ สาวสวยไฮโซในชุดมหาวิทยาลัยเอกชนสุดหรูเอ่ยถาม
“นั่นสิ ฉันก็แปลกใจว่าทำไมวันนี้ยัยไฮโซโอเวอร์อย่างชีถึงชวนพวกเรามาร้านนี้ สงสัยยัยนี่จะติดใจอะไรซะล่ะมั้ง ฮิๆ” น้ำเสียงขำขันของพิชา สาวสวยไฮโซจ๋าอีกคนเอ่ยแขวะเสริมขึ้นมาเบาๆ
เจ้าของชื่อโดนัทยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะชม้ายชายตามองไปยังพนักงานสุดหล่ออย่างพายที่นั่งคิดเงินอยู่ตรงแคชเชียร์ เธอใช้มือสะบัดเส้นผมดัดลอนสีน้ำตาลอมทางอย่างมีจริตพองาม จีบปากจีบคอบอกเพื่อนสาวไฮโซทั้งสอง
“พอดีว่าที่นี่วิวดี ฉันก็มา พวกเธอไม่เห็นจะต้องประหลาดใจอะไร ฮิๆ”
“นี่ อย่าบอกนะว่าเธอเล็งผู้ชายหน้าหล่อที่อยู่หลังเคาน์เตอร์นั่น คิดจะเลี้ยงต้อยหรือยะหล่อน” ลูกพลับถามแบบอุทานตาโต
บังเอิญว่าหลังเคาน์เตอร์นอกจากพายแล้วยังมีเซมเบ้ยืนคุยอยู่ด้วย ทำให้พิชาเข้าใจผิดตามที่เพื่อนสาวคาดเดา
“ต๊าย แต่ว่าหน้าใสบริ๊งอย่างนั้น เป็นฉันก็สนนะ จะบอกให้ คิกๆ”
“อย่าเดามั่วน่ะ ฉันสนเด็กที่ไหนกัน” โดนัทช้อนมือสะบัดผมบอก (เว่อร์ทุกท่วงท่า)
“งั้นก็พ่อหนุ่มรูปงามตัวสูงมาดดีสินะ แหม ไม่ยักรู้ว่าเธอชอบผู้ชายเอาการเอางาน”
“แต่ร้านนี้รสนิยมแปลกดี ไม่รู้ว่าพ่อคนหล่อนั่นจะแปลกประหลาดสักแค่ไหน”
“พวกเธอไม่ต้องมาเดาส่งเดช เขาไม่แปลกหรอกย่ะ เพราะฉันถามแล้วว่าร้านนี้ใครเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์ให้พนักงานร้านแต่งคอสเพลย์”
โดนัทเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าฉายแววคิดการบางอย่าง ซึ่งเพื่อนทั้งสองมองปุ๊บก็รู้ทันทีว่าต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน
“ใครกันยะหล่อน นี่แสดงว่าเธอแอบมานั่งส่องเขานานแล้วใช่มั้ย” ลูกพลับถามเสียงเย้า
“อื้อฮือ สงสัยจะเด็ดจริง ถึงต้องเตรียมการแต่เนิ่นๆ” พิชาแกล้งแหย่
โดนัทแค่ยักไหล่ในท่าคุ้นชิน เธอมักทำท่านี้เวลาต้องการบอกเพื่อนว่า ‘ของมันแน่อยู่แล้วย่ะ’ นัยน์ตาคอนแทกเลนส์สีฟ้าของเธอหรี่มองไปยังหญิงสาวอีกคนที่เดินกับพายอย่างร่าเริงด้วยแววแข่งขัน และนั่นทำให้ลูกพลับกับพิชามองตามก่อนจะเข้าใจในทันที
“ฉันรู้แล้วว่าเพราะอะไรยัยโดนัทถึงมาร้านนี้ ผู้หญิงคนนั้นสวยใช่เล่นเลยสิ แฟนแหงๆ” ลูกพลับว่า
“โรคเก่ากำเริบนะเธอ” พิชาหันมาบอกเสียงรู้ทัน
“พวกเธอคิดว่าฉันกับแม่นั่นใครสวยกว่ากันล่ะ” โดนัทถามเสียงสูงในใจ มั่นใจว่าตัวเองสวยกว่า
“ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นสวยคนละแบบกับเธอ แต่คิดว่าแฟนเขาจะชอบผู้หญิงที่ความสวยอย่างเดียวหรือไง” ลูกพลับให้ความเห็นกลับ
“นั่นสิ มั่นใจเหรอยะ แม่คนชอบแย่ง” พิชาแขวะเข้าให้
โดนัทกระตุกรอยยิ้มมาดร้าย แค่ใบหน้าสวยเปรี้ยวแฝงเสน่ห์ยั่วยวนของเธอ ถ้าให้เดินผ่านผู้ชายสิบคน ทั้งสิบคนต้องเหลียวมองเธอ เธอมั่นใจอย่างนั้น และเพราะเกิดมามีฐานะร่ำรวย มีแต่คนรุมล้อมเอาใจ ชี้นกเป็น
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)