เมนูซ่อนรัก

เมนูซ่อนรัก

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160021437
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 280.00 บาท 70.00 บาท
ประหยัด: 210.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ดอกไม้แห่งความหลัง

“จะเก็บมันไว้ทำไมนี่ ยายบ้านั่นก็ให้มาทำไมไม่รู้ ไม่ใช่ของตัวเอง สักหน่อย” เสียงบ่นพึมพำของชายหนุ่มขณะเอื้อมมือไปจับดอกกล้วยไม้ช่อโต ซึ่ง ถูกเขาห้อยไว้เพื่อให้ช่อดอกตั้งตรงหลังจากเหี่ยวเฉาตรงผนังบ้านมานานกว่า หนึ่งสัปดาห์ แต่ทุกครั้งที่จะเอาไปทิ้ง เขาก็ตัดใจไม่ได้สักที เพราะที่มาอัน พิสดารของมัน และทุกครั้งที่เขาเห็นดอกไม้ช่อนี้...ก็ทำให้เขาเห็นภาพในวันนั้น ภาพชายหนุ่มร่างสูงในชุดพ่อครัวถือดอกไม้ช่อใหญ่ในมือ กำลังทรุด นั่งลงพิงต้นไม้บนเนินสูงอย่างหมดเรี่ยวแรงผุดขึ้นในความคิด เขาวางดอกไม้ ช่อโตลงข้างกายอย่างไม่ยี่หระในความสวยงามของมัน หลับตาลงเพื่อไม่ให้เห็น ภาพตรงหน้า แต่ภาพในสมองกลับฉายชัด การถูกปฏิเสธจากหญิงสาวที่แอบ ชอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเตรียมใจอยู่แล้ว ถึงเขาจะรู้สึกเสียวแปลบในใจอยู่บ้างเมื่อ เห็นเธอแสดงออกถึงความรักกับคนรักของเธอ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาโกรธ เกลียด หรืออิจฉา เขากลับนึกขอบใจที่เธอซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็คงจะละเมอเพ้อพกไปคนเดียวอีกนาน ‘หม่อนไม่ได้รังเกียจคุณค่ะ’ เขาจำได้ว่าวินาทีนั้นหัวใจของเขาอุ่นวาบ หากเธอไม่ต่อด้วยประโยคที

ทำให้เขาชาวูบไปทั้งตัว ‘...ถ้าหากว่าหัวใจของหม่อนไม่ได้ให้คนอื่นไปแล้ว หม่อนจะไม่มีวัน รังเกียจคุณเลย’ เสียงที่เขาได้ยินจบไปแล้วหลายนาที แต่กลับยังสะท้อนก้องไปมาอยู่ ในหูหลังจากที่ประโยคนั้นหลุดจากปากของเธอ เขาก็เห็นเธอรีบวิ่งตามผู้ชาย คนนั้น...คนที่ชื่ออลงกรณ์ ผู้ชายที่ทำให้เธอมาร้องไห้ฟูมฟายและให้เขาเป็นคนปลอบโยน แล้วสุดท้าย...ผู้ชายคนนั้นก็ได้หัวใจของเธอไป ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ ในกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นชื่อผู้ที่โทร. เข้า เขาก็ถึงกับถอนใจยาว แล้วปล่อย ให้มันส่งเสียงดังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจรับสาย ‘ครับ คุณพ่อ’ ชายหนุ่มเอ่ยกับปลายสาย ‘แกจำได้มั้ยว่าอีกสองอาทิตย์เป็นวันอะไร’ เสียงทรงอำนาจถามกลับมา ‘ผมไม่เคยลืมหรอกครับคุณพ่อ แต่ผมไม่สะดวกที่จะไป ผมจะส่งของ ไปให้ครับ’ ชายหนุ่มตอบกลับไปทั้งที่ฟันขบกันแน่นจนสันกรามนูน ความเจ็บ ปวดในอดีตฝังแน่นอยู่ในอกจนไม่อาจจะสลัดให้หลุดออกไปได้ ‘กี่ปีแล้วที่แกไม่ได้มาวันเกิดฉัน แกมีแต่ข้ออ้างตลอดเวลา แกทำเหมือน ฉันไม่ได้เป็นพ่อแก’ ชายชราตัดพ้อ ขณะที่ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจเพื่อข่ม อารมณ์ ‘อย่าพูดถึงมันเลยครับ คุณพ่ออยากให้ผมกลับมาอยู่ใกล้ๆ ผมก็กลับ มาแล้วไงครับ’ ‘ใช่ ทุกครั้งที่ฉันบอกให้แกกลับมาอยู่ใกล้ๆ แกก็ขยับเข้ามาใกล้ทีละ นิด จากอเมริกามาอยู่ออสเตรเลีย จากออสเตรเลียมาอยู่สิงคโปร์ พอฉันขอร้อง ให้แกกลับมาอยู่เมืองไทย แกทำอย่างที่ฉันขอ แต่กลับไปอยู่ถึงลำปางโน่น แก ทำตัวไม่ต่างจากศรีธนญชัย บ้านธนบดินทร์เล็กเกินไปสำหรับแกหรือยังไง ธาวิน ถึงกลับมาอยู่อย่างเดิมไม่ได้

‘มันใหญ่เกินไปสำหรับผมต่างหากครับคุณพ่อ คุณพ่อเลิกพูดถึงมัน เถอะครับ ผมโตแล้ว พอจะเลี้ยงดูตัวเองได้ บ้านธนบดินทร์ไม่ใช่ที่ของผม มัน ไม่ใช่ของผมมาตั้งแต่ต้น คุณพ่อยกให้น้องไปเถอะครับ’ ‘แกเป็นลูกฉันนะ ธาวิน’ ชายชราตอบอย่างอ่อนใจ ‘ลูกบุญธรรมครับคุณพ่อ’ ชายหนุ่มย้ำคำเสียงต่ำลงอย่างสะกดกลั้น อารมณ์ ‘ธาวิน! แกเลิกพูดบ้าๆ ซะที แกก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร’ เสียงชายชรา เข้มขึ้น ‘ให้ผมภูมิใจที่เป็นแค่ลูกบุญธรรมของเจ้าของบ้านธนบดินทร์อย่างที่ผม ภูมิใจมาเกือบยี่สิบปีเถอะครับ ผม...ผมไม่อยากให้ความจริงทำร้ายผม’ เสียง ตอบสั่นเครือพร้อมกับก้อนสะอื้นที่ถูกกลืนลงคออย่างเจ็บปวด ‘หนูชนม์นิภาเขายังรอแกอยู่ ฉันขอร้องให้แกกลับมาที่นี่...สักอาทิตย์ เดียวก็ยังดี ถ้ากลับมาแล้วไม่ทำให้แกรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม ฉันจะไม่ตอแยแกอีก แกจะไปเป็นกุ๊กเป็นเบ๊ให้ใครใช้งานก็ตามใจแก’ ชายหนุ่มยิ้มเยาะในหน้า ผู้หญิงที่พร้อมจะทิ้งเขาไปหาน้องชายของเขา เพราะรู้ว่าเขาเป็นแค่ลูกบุญธรรม และจะกลับมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเขาเป็นลูกชาย คนโตของตระกูลธนบดินทร์ มีคุณค่าพอที่จะให้กลับไปหาอย่างนั้นหรือ รักแรกจอมปลอมที่ทำให้เขาเจ็บปวดจนแทบกระอักเลือด แต่เอาเถอะ เขาจะกลับไปเพื่อจัดการทุกอย่างให้จบสิ้นไปสักที ‘ครับ ผมจะกลับ แต่ผมมีคนรักแล้ว บอกเขาว่าไม่ต้องรอผมอีก เพราะ ไม่จำเป็นที่จะต้องมารอผม ในเมื่อเขาเลือกแล้ว’ ‘เขายังถามข่าวคราวแกอยู่เสมอนะธาวิน เขายังรอแกอยู่ เรื่องที่ผ่านมา แกก็ลืมๆ มันไปเถอะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะมีคนรักใหม่ถ้าไม่ได้เห็นกับตา เพราะแกเป็นพวกยึดติดกับอดีต ไม่งั้นแกจะหนีไปทำไมตั้งไกล’ คนเป็นบิดา อดสบประมาทบุตรชายไม่ได้ ทำไมเขาจะไม่รู้จักเด็กชายที่เขาเลี้ยงมากับมือ ตั้งแต่แปดขวบ

‘คุณพ่อไม่ต้องเอาเขามาเป็นตัวล่อให้ผมกลับไปหรอกครับ เพราะเขา ไม่ได้มีค่าพอสำหรับผมอีกแล้ว ผมไม่ใช่คุณพ่อ...ที่ลังเลกลับไปกลับมา ถึง ผมจะเป็นลูกคุณพ่อ แต่ผมไม่มีนิสัยแบบนั้น’ คนเป็นลูกประชดประชัน ‘ธาวิน!’ ประมุขแห่งบ้านธนบดินทร์ตวาดเกรี้ยว ‘แค่นี้นะครับคุณพ่อ ผมต้องกลับไปทำงาน’ ชายหนุ่มวางสายโดยไม่รอ ฟังคำตอบจากผู้เป็นบิดา ก่อนจะคว้าดอกกล้วยไม้ช่อโตที่วางอยู่ข้างตัวกลับ ไปด้วย ชายหนุ่มจับดอกไม้แห้งเหี่ยวนั่น แล้วยิ้มบางๆ ที่เห็นรอยดอกซึ่งถูก เด็ดออกไป แล้วภาพมือเรียวบางของคนเด็ดดอกไม้นั้นก็โผล่เข้ามาในความคิด ‘โอ๊ย! คุณจะตีมือฉันทำไมนี่’ หญิงสาวหดมือที่โดนตีจนดอกกล้วยไม้ ร่วง ‘คุณจะเอาไปทำอะไร’ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร ก็ท่าทาง ที่เธอมองจานอาหารที่เขายกมาไว้รอเสิร์ฟ แล้วหันมามองช่อดอกกล้วยไม้ที่ เขาวางไว้บนโต๊ะ มันไม่ได้เดายากเลย ‘ฉันก็แค่จะเอามันไปประดับจานอาหาร จะได้สวยน่าทานไง’ เธอตอบ หน้าตาย ‘ใครใช้ให้คุณทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น ของที่จะประดับในจานอาหารควร เป็นของที่ทานได้เท่านั้น เพราะมันคืออาหาร ไม่ใช่เอาอะไรไปใส่ซี้ซั้วก็ได้’ พ่อครัวหนุ่มขึ้นเสียงเข้ม เขาหงุดหงิดทุกครั้งที่มีใครคิดอะไรแผลงๆ กับอาหาร ที่เขาทำ ‘ฉันเห็นเขาเอาดอกกล้วยไม้ประดับจานอาหารเยอะแยะไป สวยดีออก’ คนที่โดนดุบ่นอุบอิบ ‘ที่อื่นผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่ที่นี่ ที่ที่ผมต้องรับผิดชอบอาหารทุกจาน ที่ทำออกไปให้ลูกค้าทาน คุณรู้มั้ยว่าดอกกล้วยไม้อันตรายมากแค่ไหน มันเป็น สิ่งที่ไม่ควรนำไปใส่ในจานอาหารโดยเด็ดขาด เพราะเต็มไปด้วยสารเคมีทุก

กระบวนการผลิต ทั้งยาฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าแมลง และอีกสารพัดยา ที่เขาต้องใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดในฟาร์ม ‘ถ้าจะเอามาใช้ประดับจานอาหาร เราต้องรู้แน่นอนแล้วว่ามันถูกเพาะ เลี้ยงโดยวิธีชีวภาพ ซึ่งปัจจุบันหาได้ยากมาก ถ้าดอกไม้ที่มาเป็นช่อเป็นกำอย่าง ที่คุณเห็น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเต็มไปด้วยสารเคมี แล้วเลิกทำอะไรแบบ ไม่ปรึกษาผมซะที ผมเหนื่อยกับความคิดของคุณจริงๆ เอาไปเสิร์ฟโต๊ะเจ็ด ด่วนเลย’ ชายหนุ่มดุเสียงเข้ม คนโดนดุทำหน้าจ๋อยเพียงแป๊บเดียว แต่พอเขาบอกให้เอาอาหารไป เสิร์ฟ เธอก็กระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันที ‘การได้อยู่ห่างจากพ่อครัวที่แสนจะเข้มงวดอย่างฉัน คงเป็นความสุข ขั้นสุดยอดของชีวิตเธอละสิ’ ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะสะดุ้งจนภาพในความคิดหายวับไปเพราะ เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังอยู่บนโต๊ะ เขาหยิบมาดูหน้าจอแล้วส่ายหน้าน้อยๆ พลางถอนหายใจ ก่อนจะกดปุ่มรับสายอย่างเสียไม่ได้ “ครับ คุณพ่อ” “ตกลงแกจะกลับมาถึงวันไหน พ่อให้แม่เมี่ยงทำความสะอาดห้องแก ไว้ให้แล้ว แม่เมี่ยงดีใจใหญ่พอรู้ว่าแกจะกลับ ลุกลี้ลุกลนจัดห้องไว้รอแก” ชายหนุ่มคิดถึงหญิงวัยกลางคนร่างอวบ ซึ่งเลี้ยงเขามาตั้งแต่เข้ามาอยู่ ในบ้านหลังนั้นครั้งแรกตอนอายุย่างเข้าแปดขวบ ตอนนั้นเขาเพิ่งจะเข้าเรียน ป. 2 เท่านั้น “ก็คิดว่าจะออกจากที่นี่พรุ่งนี้ครับ แต่จะถึงตอนไหนผมก็ไม่ทราบ” ชายหนุ่มตอบกลับไป ใจก็ห่วงงานที่ทำ แต่โชคดีที่ก่อนหน้างานแต่งงานเพื่อน ของเจ้านายที่ไร่ภูฟ้า เจ้านายของเขาได้พ่อครัวคนใหม่มาเพิ่มอีกสองคน หลังจากทำงานกันมาหลายวันก็เข้ากันดี เขาถึงลากลับไปบ้านได้หลายวัน “หนูชนม์นิภาเขาคงดีใจ” คนเป็นพ่อตอบ “ผมมีแฟนแล้วครับพ่อ” ชายหนุ่มย้ำก่อนจะถอนใจยาว

‘เฮ้อ! เพิ่งโดนปฏิเสธรักไปเมื่อไม่กี่วันก่อน จะหาแฟนมาจากไหน’ ชาย หนุ่มคิดในใจ เขาเอาเรื่องนี้มาอ้างเพราะอยากให้บิดาเลิกเอาผู้หญิงคนนี้มา เสนอให้เขาเสียทีก็เท่านั้น “ตราบใดที่ฉันยังไม่เห็นหน้าแฟนแก ฉันไม่มีวันเชื่อหรอก แล้วฉันก็ เลือกหนูชนม์นิภาไว้ให้แกแล้ว เขามาจากตระกูลที่ดี เรื่องคราวก่อนเป็นความ เข้าใจผิดของแกเอง” ผู้เป็นบิดาพูดจบก็วางสายไป ‘ฮึ! เข้าใจผิดเหรอ’ ชายหนุ่มย้ำความคิดของตัวเอง ก่อนจะทบทวน ภาพและคำพูดในอดีตที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ‘ค่ะ น้องภาจะเลือกพี่วาทิน’ คำสุดท้ายก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกมาจากชีวิตของเธออย่างเจ็บปวด ที่สุด มีคำไหนอีกหรือที่บอกว่าเขาเข้าใจผิด ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์มือถือก่อน จะเดินออกจากประตูบ้าน แล้วขี่จักรยานยนต์คันเล็กออกไปทำงาน พร้อมด้วย คำพูดของบิดาที่ยังก้องไปมาในศีรษะ ‘ตราบใดที่ฉันยังไม่เห็นหน้าแฟนแก ฉันไม่มีวันเชื่อหรอก’ ‘เฮ้อ! จะหามาจากไหนกัน แต่ยังไงก็ต้องกลับไป ค่อยหาข้ออ้างปฏิเสธ อีกทีตอนไปถึงที่โน่นก็แล้วกัน’ ชายหนุ่มปัดความคิดรกสมองออกไป ก่อนจะ ตั้งหน้าตั้งตาขี่รถจักรยานยนต์ไปยังไร่ส่องหล้า หญิงสาวร่างบอบบางในชุดผู้ช่วยพ่อครัวเดินฮัมเพลงออกมาจาก บ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตอย่างอารมณ์ดี เมื่อวานตอนเย็นเธอเพิ่งย้ายจากบ้าน พักในรีสอร์ตแห่งนี้ที่พักกับมัทนพรหรือใบหม่อน เพื่อนสาวของเธอ มาพักใน บ้านของพ่อเลี้ยงกาวิน เจ้าของรีสอร์ต ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่เขาพักร่วมกับ ภรรยา หนูส่องหล้าซึ่งเป็นลูกสาว และคุณยายใจดีที่ทุกคนเรียกกันเป็นภาษา คำเมืองว่า ‘แม่อุ้ย’ ยังมีน้ำอ้อย พี่เลี้ยงของหนูส่องหล้าที่พักอยู่ในห้องเล็กถัด จากห้องนอนของเธอด้วยอีกคน ห้องนอนของเธอสวยงามน่าอยู่กว่าที่คิดมาก แถมเป็นห้องส่วนตัวที่พักคนเดียวอีก เธอเลยยิ่งมีความสุข

ื่องจากเจ้านายเห็นว่าห้องพักเดิมของเธอคับแคบเกินไปสำหรับการ พักรวมกันสามคน จึงให้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นห้องของพิมพ์แข เพื่อนสาว คนสนิทของภรรยาเจ้านาย เธอเพิ่งแต่งงานและย้ายออกไปอยู่กับพ่อเลี้ยง อินทรผู้เป็นสามีที่ไร่ภูฟ้า หญิงสาวจึงได้ครอบครองห้องใหม่แสนสวยอย่างที่ ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทำให้เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ วันนี้หญิงสาวเลยออกมา จากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อเริ่มทำงานให้สมกับความเมตตากรุณาของเจ้าของรีสอร์ต เธอถือหนังสือนิยายที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อสองสามเล่มก่อนจะมา ทำงานที่นี่ติดมือมาด้วยเล่มหนึ่ง ที่สำคัญ เธอยังไม่เคยเปิดอ่านสักเล่มเพราะ วุ่นวายกับงานใหม่ พอกลับถึงห้องก็เหนื่อยจนสลบทุกที เมื่อวานได้โอกาสเอา ข้าวของมาจัดในห้องใหม่ จึงเอาติดมือมานั่งอ่านเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอพ่อครัว ใหญ่ “ป่านนี้นายขี้เก๊กนั่นคงยังมาไม่ถึงหรอกมั้ง ก็ยังไม่ถึงเวลาเข้างานเลย นี่ เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมง” หญิงสาวพึมพำก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือ แล้วทรุด ตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องครัว ด้านหน้าของเธอเป็นโต๊ะสีขาวสะอาดสะอ้าน ใช้วางผักและเตรียมของ สำหรับปรุงอาหาร แต่ตอนนี้บนโต๊ะว่างเปล่าเพราะทุกคนยังไม่เริ่มงาน เธอเลย กางหนังสืออ่าน แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกับอักษรตัวแรก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ ดังขึ้นเสียก่อน เธอจึงวางหนังสือลงบนโต๊ะ แล้วออกไปหาสัญญาณโทรศัพท์ “น้าเบญ มีอะไรรึเปล่าคะ โทร.มาแต่เช้าเลย” แพรไหมทักทายปลาย สายเมื่อดูนาฬิกา นี่ยังไม่หกโมงเช้าด้วยซ้ำ “อ้อ เปล่าหรอก น้าแค่ตื่นเช้าแล้วนึกห่วงแพรขึ้นมา เลยโทร.มาถามดู ว่าเป็นยังไงมั่ง เห็นเงียบไปสี่ห้าวันแล้ว” “แพรสบายดีค่ะ แต่ช่วงนี้งานยุ่งนิดหน่อย ลูกค้าเยอะ กลางวันแทบ ไม่ว่างเลยค่ะ กว่าจะเลิกก็ดึก แพรเลยไม่ได้โทร. ไปหา แต่เสียงน้าเบญดู ไม่ค่อยดีเลยนะคะ ไม่สบายอีกรึเปล่า” แพรไหมถามกลับไปอย่างอดห่วงไม่ได้ น้าสาวคือทั้งหมดของชีวิตเธอ

 

                (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024