สะดุดรักที่พักกอง

'สองพระนางชื่อดัง ชานนท์ & ชลธิสา จูงมือแจงเหตุยกเลิกงานแต่ง

สายฟ้าแลบ'

'นางเอกชื่อดัง ชลธิสา ประกาศยกเลิกงานแต่งที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือน

ข้างหน้า เจ้าตัวยังไม่ยอมเผยถึงสาเหตุที่แท้จริง นอกจากคำว่า 'ไม่พร้อม' แต่วงใน

ต่างก็รู้ว่า สาเหตุแท้จริงอยู่ที่ตัวคู่หมั้นหนุ่มที่ไม่ยอมทิ้งลายแคซาโนวา'

'พระเอกชื่อดัง แคซาโนวาฆ่าไม่ตาย ไม่ยอมทิ้งลาย หลังประกาศสละโสดกับ นางเอกคู่ขวัญไดไม่นาน งานนี้มีลุ้นรีเทิร์นกับอดีตคนรักเก่า ไฮโซสาวสวยรวยทรัพย์'

'ชานนท์ไม่สลด!!! ควงแขนเพื่อนชายคนสนิทแล่นเรือใบหน้าระรื่น งานนี้เลย

ชักไม่แน่ใจว่าใครเป็นฝายบอกเลิกใครกันแน่'

'สงสัยว่าไม้ปาเดียวกันคงจะมีอะไรน่าค้นหามากกว่า... ชานนท์ ทยานนท์ ถึง

ได้สลัดนางเอกสาวแสนสวยทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย ในขณะที่เจ้าตัวเริงร่าควงหนุ่ม

คู่ซี้ปึ้กท่องทะเลหัวหิน'

“อ่านข่าวบันเทิงอีกแล้วสิยายกุล”

“อือ” กุลิสราพยักหน้าให้คนถามหงึกๆ ทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือพิมพ์ ตรงหน้าไม่วางตา

              “คราวนี้เรื่องพระเอกคนไหนอีกล่ะ ตั้งหน้าตั้งตาอ่านยิ่งกว่าเตรียมตัวสอบ

 

6

 

เอนทรานซ์เสียอีกนะเพื่อนฉัน”

เมื่อคนถูกถามดูจะไม่สนใจหล่อนเอาเสียเลย เพราะสายตามัวแต่จับจ้อง

หนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับที่วางอยู่ตรงหน้า คนถามจึงเป็นฝ่ายทรุดตัวลงนั่งข้างๆ

เพื่อนรักบนโซฟา ยาวตัว เดียวภายในห้องพักนั้นเสีย เอง

ตัวหล่อนกับกุสิสราเช่าห้องอยู่ด้วยกันตั้งแต่เข้ามาเรียนต่อในเมืองใหญ่แห่งนี้

เมื่อสี่ปีก่อน จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้แยกย้ายจากกันไปไหน กุสิสราจึงเป็นทั้ง

เพื่อนและญาติเพียงคนเดียวที่หล่อนมีในเมืองใหญ่แห่งนี้

นับตั้งแต่จบการศึกษามาจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว หล่อนกับ

เพื่อนก็ยังคงเหนียวแน่นกับการทำวิจัยฝุ่นอยู่ตามห้องถนนเกือบทุกวัน ตามที่กุลิสรา

มักจะชอบแซวเป็นประจำ หลังทั้งคู่ออกตระเวนหางานทำกันไม่เว้นแต่ละวัน

วันนี้หล่อนต้องฉายเดี่ยวอยู่ข้างนอกเกือบทั้งวัน เมื่อกุลิสราของดออกตะลอน

หางานหนึ่งวันเพราะรู้สึกไม่สบาย แต่พอหล่อนกลับเข้าห้องมา รู้สึกว่าคนป่วยจะ

กระปรี๊กระเปร่าขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อมีหนังสือพิมพ์บันเทิงอยู่ในมือหลายฉบับ

จากที่ได้รู้จักและคบหากันมา ไม่ว่าจะปวดหัวตัวร้อนหรือมีธุระยุ่งเพียงใด

สิ่งหนึ่งที่หล่อนเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเพื่อนรักก็คือ ไม่มีอุปสรรคใดที่จะสามารถหยุด

หรือทำให้กุลิสราละเลย หรือเพิกเฉยต่อการตามติดข่าวคราวของดาราคนโปรด และ

ตอนนี้ข่าวที่เจ้าตัวกำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านอยู่นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของพระเอก

คนดัง ‘ชานนท์ ทยานนท์' พระเอกหนุ่มรูปหล่อขวัญใจมหาชนที่กำลังฮอตสุดๆ ใน

เวลานี้ ที่เจ้าตัวปลื้มนักปลื้มหนา ทั้งที่สามเดือนก่อนกุลิสราเพิ่งจะมาโอดครวญกับ

หล่อนว่าตัวเองอกหักจะเป็นจะตาย เมื่อพระเอกคนโปรดประกาศสละโสดด้วยการ

หมั้นหมายกับนางเอกสาวสวย

รู้สึกว่าอาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นและหายไปเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น เพราะงาน

แต่งที่กำหนดเอาไว้ว่าจะจัดขึ้นต้นปีหน้า หลังจากทั้งคู่ออกมาประกาศให้แฟนๆ และ

สังคมรับรู้ ดูเหมือนจะไม่สามารถลดทอนความรัก ความภักดี และความเหนียวแน่น

ในความรู้สึกของกุลิสราที่มีให้แก่พระเอกดังแต่อย่างใด เพื่อนของหล่อนยังสมัครใจ

ที่จะเป็นแฟนคลับ แฟนพันธุแห้ของดาราในดวงใจอย่างเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย

และทุกครั้งที่ฝ่ายนั้นเกิดตกเป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็น ‘ข่าวคราว' เรื่องงานของเขา หรือว่า

 

 

‘ข่าวคาว' ข่าวฉาวที่ไม่รู้ว่ามีมูลความจริงมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าข่าวประเภทใด ขอให้

เป็นเรื่องของชานนท์เถอะ เพื่อนของหล่อนจะคอยเกาะติดชนิดไม่ลืมหูลืมตากัน

กุลิสราจะมีส่วนร่วม...ไม่ใช่สิ คลั่งไคล้ขนาดนี้ต้องเรียกว่า ‘มีอารมณ์ร่วม'

แทบจะทุกครั้ง ไม่ว่าพระเอกคนโปรดจะทำอะไร หรือมีข่าวคราวใดออกมาปรากฏ

ทางสื่อ เพื่อนของหล่อนจะคอยออกรับแทน คอยแก้ตัวให้เสมือนว่าเจ้าตัวไปร่วม

รู้เห็น หรือเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์นั้นๆ เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่พระเอกคนโปรดมี

ข่าวฉาว หรือในยามที่เขาถูกสื่อโจมตี

ไม่เพียงแต่ปกป้อง กุลิสรายังทำตัวเป็นกระบอกเสียงที่ดี เป็นแฟนคลับที่

คอยจงรักภักดีต่อเขาโดยไม่มีขาดตกบกพร่อง

ทุกครั้งที่เขามีผลงานใหม่ๆ ออกมาปรากฏสู่สายตาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นหนัง ละคร หรือแม้แต่งานโชว์ตัวตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนของหล่อนจะทำหน้าที่พีอาร์ให้

เขาได้อย่างยอดเยี่ยม ชนิดว่าพีอาร์ตันลังกัดและผู้จัดการส่วนตัวของเขายังต้องอาย

ความรัก ความภักดี และความชื่นชมชื่นชอบ หลอมรวมกันจนเกิดเป็นความ

ศรัทธา... ไม่น่าเชื่อว่าบนโลกใบนี้จะมีคนอย่างเพื่อนของหล่อน... คนที่สามารถ

ทำอะไรก็ได้ ให้แก่คนที่ไม่รู้ด้วยซํ้าว่าเรามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้

แน่นอนว่ากุลิสรายังไม่เคยเจอตัวจริงเขาสักครั้ง

“ก็ข่าวพระเอกสุดฮอตขวัญใจฉันน่ะสิ''

คนพูดเงยหน้าขึ้นมาตอบเพื่อนได้ในที่สุด หลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์ บันเทิงมาได้พักใหญ่ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องเกินคาดส่าหรับปรินดาแม้แต่น้อย

“ทำไมอีกล่ะ คราวนี้พ่อพระเอกขวัญใจเธอไปหว่านเสน่ห์กับสาวที่ไหนอีกล่ะ

ก็ไหนบอกว่าจะแต่งงานแล้วไง นี่ก็เหลืออีกไม่กี่วันเองไม่ใช่หรือ''

เพราะจำได้ว่ากุลิสราเคยพูดกรอกหูอยู่พักใหญ่ว่าพระเอกคนโปรดประกาศ

จะแต่งงานตันปีหน้า ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน

“นั่นมันข่าวเก่าแล้วจ้ะ ตอนนี้เขาโดนคู่หมั้นบอกเลิก ยกเลิกงานแต่งเรียบร้อย

แล้ว... เฮ้อ! พูดแล้วก็สงสาร''

คนตอบทำหน้าละห้อยราวกับตัวเองเป็นคนถูกบอกเลิกเสียเอง ก่อนจะถอน

ใจออกมาดังๆ ด้วยความทดห้อใจ งานนี้ปรินดาก็เลยไม่รู้ว่า ที่เห็นเพื่อนตีหน้าเศร้า

อยู่ตอนนี้ เป็นเพราะเสียใจหรือดีใจกันแน่ที่พระเอกคนโปรดกลับมาเป็นโสด

อีกครั้งหลังถูกคู่หมั้นคนสวยยกเลิกงานแต่งงาน

“อ้าว! ทำไมล่ะ ก็เห็นรักกันดีออกเวลาออกงานด้วยกันน่ะ'' คนไม่เคยสนใจ

 

แวดวงดาราเอ่ยถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

“ก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องจริงๆ มันเป็นยังไงนะ แต่ที่แน่ๆ พระเอกของฉันโดน

สังคมประณามไปเรียบร้อยแล้วว่าไม่ยอมทิ้งลาย ‘แคซาโนวา' จนคู่หมั้นคนสวยทน

ไม่ได้ ต้องบอกยกเลิกงานแต่ง... เนี่ยนะ ตั้งแต่ออกมาแถลงข่าวกันวันนั้น คุณ

ชานนท์ของฉันก็เอาแต่ปิดปากเงียบ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์อะไรอีกเลย ป่านนี้จะเป็น

ยังไงบ้างก็ไม่รู้'

คนที่เอาแต่คร่ำครวญดูจะไม่สนใจ เลยว่าตอนนี้คนฟังทำหน้าเช่นไร

‘คุณชานนท์ของฉัน' เฮ้อ! แบบนี้จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ คลั่งไคล้ไหลหลง หรือ

ว่าเข้าขั้นบ้า...บ้าดารา

ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเศร้าสร้อยของคนข้างตัวทำให้ปรินดาอดที่จะตวัดสายตา ค้อนไปที่เพื่อนรักไม่ได้ นี่ขนาดว่าเพื่อนของหล่อนแค่ปลื้มผลงานเขาเท่านั้นนะยังเป็น

ได้ขนาดนี้

“แต่ฉันว่านะ ในเมื่อรู้ว่าไปกันไม่ได้ ก็เลิกกันตั้งแต่วันนี้ดีกว่า ฝ่ายหญิงเขา

คงจะรู้ดีกว่าใครมั้ง เขาถึงตัดสินใจไปอย่างนั้นน่ะ''

ไม่รู้เป็นเพราะอยากจะเอาใจเพื่อน หรือว่าข่าวคราวของเขากำลังตกเป็น

ประเด็นดังอยู่ในตอนนี้ ปรินดาจึงกระโดดเข้าร่วมวงสนทนาได้โดยไม่รู้ตัว

“แต่ฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่เป็นข่าวแน่ๆ ไม่อย่างนั้นอะไรๆ มันจะ กะทันหันแบบนี้เหรอ... เอ หรือว่ายายชลธิสาจะไปมีผู้ชายคนใหม่ แล้วให้ข่าวใส่ร้าย พระเอกของฉันฮึยายปอ''

การตั้งข้อสังเกตของกุลิสราทำเอาคนฟังได้แต่ส่ายหน้าไปมา

ขอให้เป็นเรื่องของพระเอกคนโปรดเถอะ ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาเกี่ยวข้อง พัวพัน อย่าหวังเลยว่าจะได้เป็นฝ่ายถูก ทุกคนดูจะผิดหมดในสายตาของหล่อน

เพราะเส้นทางชีวิตที่ไม่คิดว่าจะมาบรรจบพบพานหรือเกี่ยวข้องกันอีก

ปรินดาจึงเสือกที่จะไม่เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เพื่อนรักฟัง

หากแต่ว่าข่าวคราวของเขาที่คอยวนเวียนเข้าออกในโสตประสาท โดยฝีมือ

และฝีปากของเพื่อนตัวดี ที่ทำตัวเป็นแฟนพันธุแห้ที่ดีของเขา...พระเอกสุดฮอต

คนนั้น กลับทำให้หญิงสาวหวนคิดไปถึงวันที่ได้เจอเขาโดยบังเอิญที่กองถ่ายละคร

อย่างช่วยไม่ได้

 

วันแรกและวันสุดท้ายของการฝึกงานนอกสถานที่ของหล่อน หลังจากที่อยู่

แต่ปรินดาไม่รู้ว่า... นั่นคือจุดเริ่มต้น ที่เบื้องบนได้ขีดเอาไว้แล้ว

 

“ระวังค่ะ!!!”

เสียงหวานร้องเตือนดังก้องไปทั่วกองถ่าย และดูเหมือนว่าทุกคนจะทำอะไร

ไม่ถูกไปชั่วขณะ ในขณะที่เจ้าของเสียงร้องที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์และอยู่ใกล้จุดเกิด

เหตุที่สุด พาตัวเองพุ่งสุดแรงเกิด กระแทกเข้ากับร่างหนาของคนที่กำลังรอเข้าฉาก

โดยที่เขาไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ก่อนที่ถังน้ำขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุน้ำเอาไว้เต็มเพื่อใช้เป็น

อุปกรณ์ประกอบฉากในวันนี้จะตกลงมาโดนเขาจนหัวร้างข้างแตก...ไม่ใช่สิ ถังใหญ่โต

มีนํ้าบรรจุเอาไว้เต็มเปี่ยมขนาดนั้น ถ้าหล่นลงมาทับเขาจริงๆ สงสัยคงถึงขั้นสมอง

ไหลเลยแหละ

ชานนท์ผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังนอนทาบทับบนตัวเขาทั้งตัวด้วยความทึ่ง...

ดวงตากลมโตบนใบหน้าหวานออกอาการตื่นตระหนก สาวน้อยเจ้าของ

เรือนร่างแบบบางคนนี้มีพละกำลังมหาศาล และดูจะสติดีกว่าใครๆ

หล่อนเอาตัวพุ่งเข้าใส่เขาอย่างไม่นึกกลัว ช่วยให้เขาออกมาพ้นทางถังน้ำ

มรณะ รักษาชีวิตเขาให้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่พระเอกดังจะกลายเป็น

คนสมองพิการ หรือไม่ก็สิ้นชื่อภายในเสี้ยววินาที

จากนั้นเขาก็ถูกทีมงานรุมล้อมจนแทบขยับตัวไปไหนไม่ได้ พร้อมกับเสียง

ขอโทษขอโพยที่ดังเซ็งแซ่ตามมาติดๆ

ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นความประมาท หรือความเลินเล่อของทีมงาน

เขาก็ไม่คิดตืดใจเอาความแต่อย่างใด

คนเดียวที่เขาอยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ เจ้าของใบหน้าหวานละมุน

ที่แฝงความตระหนกตกใจไว้ในแววตานั่นต่างหาก

ผู้มีพระคุณ'ของเขา... เธอเป็นใคร มาจากไหน

 

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”

ปรินดาเอ่ยขอโทษอย่างลนลานตั้งแต่ยังไม่ทันได้เห็นหน้าคนที่หล่อนเดินชน

ด้วยซํ้า หลังจากมัวแต่ห่วงเสื้อผ้ากองใหญ่ของนักแสดงที่เจ้าตัวหอบหิ้วพะรุงพะรัง

จนเกือบท่วมหัว

 

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นไร... ว่าแต่คุณเถอะเป็นอะไรหรือเปล่า'' เจ้าของ

เสียงทุ้มเอ่ยถาม มีความกังวลเจืออยู่ในนํ้าเสียงนั้น เพราะจู่ๆ ก็มีคนเดินมาชน

เขาเข้าอย่างจัง และร่างที่กระเด็นกระดอนลงไปนอนกองอยู่กับพื้นก็ทำให้เขาอดตกใจ

ไม่ได้

เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา จะว่าชวนใจหายก็

ไม่ผิดนัก เพราะแบบนี้ทีมงานจึงขอให้เขาหยุดพักชั่วคราวก่อนที่จะเริ่มถ่ายฉากต่อไป

ทั้งที่ เขายืนยันว่าไม่ เป็นอะไร

แต่สุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องยอมให้ในที่สุด ใช่ว่าเขาอยากจะพักตามที่ทีมงาน ต้องการ แต่ความหวังอันน้อยนิด ที่คิดว่าคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้จะยังอยู่ ณ จุดใด

จุดหนึ่ง ภายในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ที่กองถ่ายมาปักหลักถ่ายทำละครในครั้งนี้

ต่างหากที่ทำให้เขานึ่งไม่ติดที่ เขาเที่ยวเดินไปตามที่ต่างๆ จนกระทั้งมาถึงห้องนี้

พร้อมกับความหวังที่เริ่มริบหรี่ลงไปด้วย

กองเสื้อผ้าหลากสีสันที่ทับเจ้าของเสียงแว่วหวานอยู่จนแทบมองไม่เห็นตัว

ทำให้เขาเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชวนระทึกขวัญขึ้น

ชานนท์พยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้จนสุดกำลัง เมื่อเห็นสภาพคนที่เดิน

ชนเขาถนัดตา ที่ขณะนี้ลงไปกองกับพื้นเรียบร้อย

หลังเก็บอาการได้สำเร็จ ร่างสูงใหญ่ก็ทรุดตัวลงตรงหน้า ‘กองผ้า' ที่กองเป็น

ภูเขาเลากา หวังจะช่วยคนที่ถูกเสื้อผ้ากองสุมอยู่ท่วมตัว ปิดบังคนตรงหน้าจากเขา

จนมีดไปทั้งตัว

มือเรียวหนายื่นออกไปข้างหน้า ค่อยๆ จัดการกับเสื้อผ้าทีละชิ้นอย่างใจเย็น

ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า แต่กองผ้าตรงหน้ากลับทำให้อารมณ์ของเขาแช่มชื่นชิ้นมาอย่าง ประหลาด

หรือว่าจะเป็นเพราะเสียงหวานใสที่เอ่ยขอโทษเขาเมื่อสักครู่

ชานนท์ไม่เสียเวลาหาค่าตอบให้แก่ตัวเองอีกต่อไป มือใหญ่เร่งโกยชุดสวย

หลากหลายดีไซน์และสีสันออกไปให้พ้นตัวคนที่กองอยู่กับพื้น ในขณะที่สีหน้ายัง

คงเปื้อนยิ้มไม่สร่างซา

ดวงตาคู่คมเบิกกว้าง ฉายแววประหลาดใจชิ้นมาอีกครั้ง เหนืออื่นใดคือความ

ดีใจ ที่เว้าตัวไม่คิดปิดบังเอาไว้สักนิด เมื่อเว้าของเสียงหวานปรากฏตัวให้เห็นตรงหน้า

คนเดียวที่เขากำลังอยากเจอและเผ้าตามหา... ในที่สุดเขาก็หาหล่อนเจอจนได้

ภาพสาวสวยเจ้าของดวงตากลมโตสดใสที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยท่าทีตกใจ

จนเจ้าตัวไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ชั่วขณะนั้น ท่าให้เขาพอใจไม่น้อย

ชานนท์ใช้เวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดสำรวจคนตรงหน้าไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจดเท้า

ราวกับจะประทับเอาไวในความทรงจำ

ในวงการที่เขาอยู่ ได้ชื่อว่ามีคนหน้าตาดีสวยหล่อมากมาย แต่เขาไม่เคยเจอ

ใครที่ดูสวยใสไร้จริตมารยาเหมือนคนที่อยู่ตรงหน้าในขณะนี้

ที่สำคัญหล่อนคือผู้มีพระคุณ คือเจ้าชีวิตของเขา เพราะหากไม่ได้หล่อนช่วย

เอาไว้ นาทีนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า... คิดได้ดังนั้น มือเรียว

หนาจึงยื่นออกไปช้างหน้า เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งพร้อมๆ กันกับเขา

 “ขอบคุณค่ะ” ปรินดาเอ่ยบอกเบาๆ หลังลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งด้วยฝีมือเขา

ดูเหมือนว่าวันนี้หล่อนจะหนีเขาไม่พ้นจริงๆ

ไม่รู้ว่าเพราะเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่มีหน้าตาหล่อเหลาบาดตาบาดใจใครต่อใคร มากมาย หรือเพราะเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันอย่างหวุดหวิดกันแน่

ที่ตรึงสายตาหล่อนให้อยู่กับเขาราวกับต้องมนตร์

หล่อนไม่นึกแปลกใจเลยว่า ทำไมเพื่อนของหล่อนถึงได้ปลื้มเขานักปลื้มเขา

หนา... ก็ดูอย่างตอนนี้สิ เพียงแค่ดวงตาคมคู่นั้นมองมา มันก็เหมือนจะท่าให้หล่อน

วางหน้าไม่ถูก ยืนไม่ติดเสียแล้ว

ผู้ชายคน'นี้มีเสน่ห์เหลือล้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ท่าอะไรเลยก็ตาม

แต่มือใหญ่ที่ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือหล่อนง่ายๆ แถมเจ้าตัวยังยืนจ้องหน้า

หล่อนชนิดเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับล่งยิ้มมาให้และท่าเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั้น ท่าให้ความ

ตื่นเต้นของปรินดาหายไปแทบจะทันที

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมขยับเขยื้อน หรือเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา ได้แต่จับจ้องมอง

มาที่ใบหน้าของหล่อน หญิงสาวจึงจำต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามเขาออกไปแทน

“อย่าท่าหน้าอย่างนั้นสีครับ ผมไม่เป็นอะไรสักหน่อย และถ้าจะให้ถูก ผมต่าง

หากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ...ขอโทษนะครับที่ท่าให้คุณต้องลงไปนอนวัดพื้นอยู่อย่างนั้น

ขอโทษที่ท่าให้คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะผม และก็ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้... ว่าแต่

คุณไม่เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหม ผมหมายถึงตอนที่คุณเช้าไปช่วยผมน่ะครับ”

ชานนท์พูดให้หล่อนสบายใจ และพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้สุดตัว สะกดกลั้น

 

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)