วาดรักไว้ใต้แสงดาว (มารีอา)

วาดรักไว้ใต้แสงดาว (มารีอา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160023691
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

โซ่ แส้ กุญแจมือ

 

                เสียงแหลมเล็กของนกน้อยที่ดังมาจากกล่องกระดาษปลุกชายหนุ่ม

เจ้าของห้องให้ตื่นจากการหลับใหล ณตะวันลุกขึ้นนั่งมองแดดยามเช้าที่

ส่องผ่านหน้าต่างรำไรอย่างงัวเงีย แล้วยืนมองกล่องกระดาษที่สิ่งมีชีวิต

เล็กๆ กำลังขยับอยู่ในนั้น

นกน้อยหลับตาชูปากสูงและขยับตัวไปมาตามการหายใจ แต่เมื่อ

ลืมตาขึ้นเห็นเขา ปากสีเหลืองจัดนั้นก็อ้ากว้างร้องอีกครั้งอย่างแข็งแรง

พร้อมกระพือปีกและยืดคอยาวขออาหาร

ชายหนุ่มหยิบกล้วยสุกมาบดกับน้ำและใช้เวลาป้อนอาหารนกไม่

นานนัก เจ้าสีฝุ่น กระรอกพญาดำตัวโตก็กระโดดมาเกาะบ่าทักทาย ก่อน

กระโดดหายไปทางหน้าต่าง เหลือเพียงเสียงกระพรวนให้เขารู้ว่ามันไม่ได้

ไปเที่ยวเถลไถลที่ไหนไกลนัก

 

ณตะวันหยิบผ้าเช็ดตัวได้ก็เดินอ้อมไปทางด้านหลังสตูดิโอซึ่งมี

ลานอาบน้ำกลางแจ้งซ่อนตัวอยู่ใต้สุมทุมพุ่มไม้ ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

 

คือเช้านี้เขาจะโกนหนวดเคราและตัดผมเผ้าให้เรียบร้อยเสียที แต่พอหยิบ

ที่โกนหนวดจากหน้ากระจกติดผนังไม้ขึ้นมาถือไว้ ก็อดคิดถึงผู้หญิงที่

เหมือนหลุดออกมาจากโลกใต้น้ำคนนั้นไม่ได้

หญิงสาวผิวขาวราวน้ำนม เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลหยักศกยุ่งๆ

ยาวถึงกลางหลัง ดวงตาของเธอสีเดียวกับท้องฟ้าในยามทิวากาล ริมฝีปาก

สีชมพูนุ่มนวลประดุจกลีบดอกคาเมลเลียในแบบที่ลิปสติกเฉดไหนก็

ลอกเลียนแบบได้ยาก

ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเขาต้องได้ตัวเธอมาเป็นนางแบบใน

ชุดเงือกให้ได้

ต้องเธอคนเดียวเท่านั้นด้วย!

คิดได้ดังนั้นจึงวางที่โกนหนวดลงในตะกร้า เพราะเกรงว่าหากได้

เจอเธออีกในสภาพที่ตัดผมโกนหนวดแล้วเธอจะจำเขาไม่ได้ ชายหนุ่ม

อาบน้ำอาบท่า แต่งชุดนักศึกษาออกมาจากบ้านพร้อมนกน้อยในกล่องที่

ยังต้องป้อนอาหารกันทุกๆ สองชั่วโมง

แต่ยังไม่ทันวางกระเป๋าบนโต๊ะเรียนเสร็จเรียบร้อยดี เสียงเรียก

หวานจ๋อยก็ดังมาจากทางด้านหลัง

“ซันนี่ คณบดีฝากบอกให้ไปหาแน่ะ”

เขาพยักหน้ารับ ก่อนที่ณัฐจารีจะวางสมุดหนังสือลงบนโต๊ะข้างๆ

และชะโงกหน้ามามองเจ้านกน้อยอย่างอยากรู้อยากเห็นตามประสาผู้หญิง

“เก็บมาเหรอ น่ารักจัง อุ๊ย มันหิวรึเปล่าน่ะ อ้าปากใหญ่เลย”

ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เมื่อเห็นว่าได้เวลาอาหารของ

นกพอดีและยังเหลืออีกกว่าครึ่งชั่วโมงจึงจะเริ่มการเรียนการสอน จึงหยิบ

กล้วยบดในกล่องถนอมอาหารออกมาจากกระเป๋าเป้และส่งให้หญิงสาว

ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

“ป้อนมันให้ที เดี๋ยวจะไปหาลุงชู” เอ่ยจบก็นึกได้ว่าอยู่ในมหาวิทยาลัย

ควรเรียกตำแหน่งของท่าน “จะไปหาคณบดีเลยแล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลา”

ณตะวันสอนวิธีการป้อนอาหารลูกนกให้ณัฐจารีไม่นานนักก็ผละ

ออกมาจากห้อง และเดินลงบันไดทีละสองขั้นสามขั้น ผ่านห้องธุรการ

คณะมนุษยศาสตร์ไปได้แค่ไม่ถึงเมตร ร่างสูงใหญ่ก็สะดุดหยุดกึกยืนนิ่ง

เพราะภาพที่เห็นผ่านตาเมื่อครู่หากเขามองไม่ผิด...ในห้องนั้นมี ‘เธอ’ อยู่!

 

อารินตาพยายามใช้สมาธิอย่างมากในการศึกษางานวันแรกภายใน

ห้องธุรการ แต่ก็ยังตัดเรื่องเมื่อวานทิ้งไปจากหัวไม่ได้เสียที เธอห่วง

นกน้อยว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร และรู้สึกติดค้างที่ไม่ได้รับผิดชอบ

ภาพวาดที่เสียหายด้วย หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเงยหน้าจาก

เอกสารการเงินเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถแก้เมื่อย และเป็นอันต้องชะงัก ตัว

แข็งทื่อ เมื่อเห็นนักศึกษาคนหนึ่งเดินผ่านช่องประตูไปอย่างรวดเร็ว

เธอสะดุดตากึก ยกมือขึ้นขยี้ตาเพราะคิดว่าตาฝาด

ก็พ่อนักศึกษาชายผมยาวฟูหนวดเครารุงรังนั่น เหมือนตาโรคจิต

คนนั้นไม่มีผิด!

“เป็นอะไรไปน่ะฟ้าใส” คนถามเป็นหญิงสาวที่โตกว่าอารินตาไม่

เท่าไร และมีสถานะเป็นพี่สะใภ้ของเธอเอง ก้านอ้อหันไปมองช่องประตู

ว่างเปล่า แล้วหันกลับมามองหน้าอารินตาอีกที “ทำท่าอย่างกับเห็นผีแน่ะ

มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีผีนะจ๊ะ แต่ถ้าบ้านเรือนไทยหลังใหญ่แถวๆ หอพักของ

เราน่ะ ไม่แน่”

เสียงบอกนั้นกลั้วหัวเราะ ทว่าคนฟังรู้สึกเหมือนหัวใจตกไปอยู่

ตาตุ่ม

“ผีเหรอคะ” อารินตากลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก “ผีผู้ชายผมฟูด้วย

หรือเปล่าพี่อ้อ”

ถามไม่ทันขาดคำ ผีที่ว่าก็ก้าวพรวดเข้ามาในห้อง ทุบมือลงกับโต๊ะ

ทำงานของอารินตาดังปัง!

“เจอตัวซะที” เขาว่า และวินาทีนี้อารินตามั่นใจว่าเขาเป็นคนแน่ๆ ก็

ทุกคนในห้องนี้ดูท่าจะเห็นเขากันหมดนี่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำท่าตกอกตกใจ

กันขนาดนี้หรอก

“คุณต้องรับผิดชอบเรื่องเมื่อคืนนี้!”

คำประกาศิตนั้นทำเอาคนถูกสั่งฉุนกึก อันที่จริงก็ความผิดเขาด้วย

ไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอตกใจ ภาพวาดเขาเสียหาย เสื้อตัวใหม่ของเธอก็ถูก

อะไรสักอย่างในบ่อน้ำเกี่ยวจนขาดเป็นรูเหมือนกันนะ

“มันเป็นอุบัติเหตุต่างหาก ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”

“จะอุบัติเหตุหรือตั้งใจ คุณก็ทำให้ผมเสียหายอยู่ดี”

คำที่เขาประกาศออกมานั้นทำเอาหญิงสาวที่กำลังจะเถียงถึงกับอ้า

ปากค้างไปชั่วขณะ เธอหันมองก้านอ้อ และพบว่าพี่สะใภ้ก็ทำตาโตมอง

เธอสลับกับอีตาโรคจิตนั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ขณะที่คนอื่นๆ ใน

ห้องก็หันไปซุบซิบกันจนอารินตาแทบอยากจะกัดลิ้นตาย

“ไม่ใช่นะคะ” เธอยกมือโบกไปมาตรงหน้า “ไม่ใช่อย่างที่พวกพี่คิด

นะคะ”

บอกไม่ทันจบ เขาก็กระชากข้อมือเธอลากถูลู่ถูกังออกไปจากห้อง

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของพนักงานคนอื่น อารินตาหันมองหน้ามองหลัง

เหลอหลา พยายามสะบัดมือออก แต่ก็ไม่เป็นผล

            “นี่ คุณนักศึกษา” เธอร้องเรียกและพยายามใช้สองเท้าเบรกตัวเอง

แต่กลับพบว่าเขาลากเธอให้ไปต่อได้อยู่ดี จนอารินตาต้องสาวเท้าตาม

เพราะกลัวส้นรองเท้าหัก “นี่มันเวลางานของฉันนะ ถึงฉันจะไม่ใช่อาจารย์

แต่ก็เคารพฉันหน่อยเถอะ ฉันอายุมากกว่าคุณนะ เฮ้! ฟังฉันอยู่รึเปล่า”

อารินตาเพิ่งรู้สึกว่าคุยกับอิฐกับปูนจริงๆ ก็คราวนี้ เมื่อเขาไม่สนใจ

ไยดีจะตอบคำถามใดๆ หรือให้ความเคารพเธอเลยแม้แต่ในฐานะรุ่นพี่

หญิงสาวหันรีหันขวาง พยายามร้องเรียกให้ใครก็ตามที่เดินผ่านไปมาช่วย

เหลือเธอที แต่บรรดานักศึกษาหลายกลุ่มก็ได้แต่หันมองตามอย่างงงๆ

จนเขาพาเธอมาถึงตึกศิลปกรรมศาสตร์ที่อยู่ไม่ห่างกันนัก

ไม่ทันจะได้รับความช่วยเหลือ เธอก็ถูกดึงขึ้นบันไดมาชั้นสาม และ

ผลักเข้าไปในห้องเรียนห้องหนึ่งที่อวลไปด้วยกลิ่นปูนปั้นและสีน้ำมัน

ห้องศิลปะ ห้องจิตรกรรม หรือจะเรียกว่าอะไรก็ช่าง อารินตารู้

แค่ว่าเธอคิดผิดถนัดที่ดั้นด้นเดินทางจากกรุงเทพฯ มาสมัครงานที่มหา-

วิทยาลัยในป่าเขาแบบนี้ ให้ตายสิ! นี่เธอจะหนีเสือปะจระเข้ ถูกผู้ชาย

โรคจิตจับฆ่าโบกปูนปลาสเตอร์ด้วยข้อหาปัดความรับผิดชอบจนกลายเป็น

หุ่นผีสิงหรือเปล่าเนี่ย?!

จะว่าไป ทำไมเขายังเป็นนักศึกษาอยู่อีกล่ะ ถึงใบหน้านั้นจะกอปร

ด้วยหนวดเครารุงรังจนเดาอายุไม่ออก แต่มองยังไงเขาก็ไม่ใช่เด็กหนุ่ม

อายุสิบแปดสิบเก้าแน่ๆ หรือเขาจะเป็นพวกโรคจิตชอบแต่งชุดเครื่องแบบ

ไม่ใช่แค่ชุดนักศึกษา แต่ชุดตำรวจ ทหาร พยาบาล โซ่ แส้ กุญแจมือ...

โอ...ตายแล้ว ผู้ชายคนนี้อาจน่ากลัวกว่าที่เธอคิดก็ได้นะ!

ระหว่างที่ความคิดในสมองกระเจิดกระเจิงจนแทบกู่ไม่กลับ เขาก็

ปล่อยมือจากแขนเธอแล้วผละไปค้นอะไรบางอย่างจากตู้เก็บของอยู่

สักพักหนึ่ง อารินตาได้แต่กะพริบตาปริบๆ อดนึกก่นด่าตัวเองในใจไม่ได้

ว่าทำไมโง่เง่าแบบนี้ แทนที่จะรีบฉวยจังหวะนี้หนีไปเลย

พอคิดได้และพยายามย่องอย่างเงียบเชียบไปที่ประตูห้อง ร่างสูง

ใหญ่ก็ก้าวพรวดมาดึงประตูปิดปัง พร้อมกับก้มลงแยกเขี้ยวให้ จนเธอ

ถอยหลังกรูดกลับมากลางห้องอีกครั้งอย่างหวาดผวา

“ในฐานะที่ผมเป็นผู้เสียหาย ผมไม่อนุญาตให้คุณไปไหนทั้งนั้น”

เขาประกาศ ก่อนโยนชุดแฟนตาซีเกาะอกสีเนื้อมีหางปลาสีเขียวใบตอง

รุ่ยๆ แบบเห็นได้ชัดว่าเป็นสินค้าเกรดต่ำมาให้เธอ “เปลี่ยนเสื้อผ้า ชดใช้

ในสิ่งที่คุณทำพังไปซะ”

อารินตาอ้าปากค้าง ก้มลงมองชุดในมือแล้วกลืนน้ำลายลงคอดัง

เอื๊อก ก่อนจะยกมือขึ้นหยิกแก้มตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ฝันเลอะเทอะ

อยู่ เพราะไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนที่ทำอะไรตามแต่ใจตัวเอง ไม่แคร์หน้าอินทร์

หน้าพรหมแบบผู้ชายตรงหน้าอยู่จริง แล้วความเจ็บแปลบที่แก้มก็ทำให้

เธอเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง

“นี่คุณบ้าหรือเปล่าเนี่ย” ถามทั้งที่รู้ว่าคนบ้ามักไม่ยอมรับว่าตัวเอง

บ้า “จะให้ฉันใส่ชุดนี้เป็นแบบให้คุณวาดรูปเนี่ยนะ คุณจะเอาไปทำอะไร

สะสมไว้ดูเล่นเหรอ ถ้าจะให้รับผิดชอบฉันจะไปซื้อภาพดอกบัวของ

อาจารย์เก่งๆ มาให้คุณแทนภาพนั้นก็ได้ หรือฉันจ่ายเงินซื้อภาพที่พังนั่น

ก็ได้เอ้า! ไม่เห็นต้องมาวุ่นวายกับฉันขนาดนี้เลย”

เขาหัวเราะหึๆ ในคอ “คุณตีราคามันไม่ถูกหรอก”

“ทำไม มันจะแพงขนาดไหนกันเชียว คุณวาดเองไม่ใช่รึไง ตอนฉัน

เห็นสีมันยังไม่แห้งเลยนี่ อ๋อ! หรือเห็นว่าฉันทำพังไปแล้วเลยคิดจะโก่ง

ราคาใช่มั้ย”

            “ผมเปล่า”

“ก็แล้วมันยังไงล่ะ!”

เธอชักฉุน และเพิ่งสังเกตว่าในแสงสว่างพอเหมาะแบบนี้ สีผมของ

เขาเป็นสีน้ำตาลบลอนด์ คิ้วก็สีน้ำตาลธรรมชาติ แม้แต่หนวดเคราของเขา

ยังเป็นสีน้ำตาลเข้ม เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ไทยแท้เหมือนกับเธอที่เป็นลูกครึ่ง

แต่อาจต่างกันตรงที่เธออ่อนภาษาอังกฤษ ส่วนเขากลับพูดไทยไม่ชัดเท่าไร

“โอ๊ย! ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว ถ้าจะให้ฉันรับผิดชอบก็ไปแจ้ง

ความเลยไป๊ ให้ตำรวจตัดสินดีกว่าว่าฉันควรชดใช้ให้คุณแบบไหน แต่

ชดใช้ด้วยร่างกายแบบนี้ฉันไม่เอาด้วยหรอก นี่คิดว่าตัวเองเป็นพระเอก

ละครตบจูบรึไง ประสาท! ‘หล่อให้ได้ครึ่งของพี่เคน ธีรเดช ก่อนเถอะ

จะไม่ว่าสักคำ’ ” พาดพิงถึงพระเอกละครอันดับต้นๆ ในใจ พร้อมยัดชุด

แฟนตาซีในมือให้เขาถือไว้ “ถอยไปนะคุณนักศึกษา ฉันจะกลับไปทำงาน

ต่อ”

เขาอึ้งไปนิด แต่ร่างใหญ่โตเหมือนกำแพงนั้นก็ยังยืนขวางประตูอยู่

กับที่ อารินตาหันรีหันขวาง ก่อนยกภาพวาดที่วางพิงฝาผนังมาชูขึ้นเหนือ

ศีรษะแล้วขู่ฟ่อ

“หลบไป ไม่งั้นฉันจะฟาดคุณจริงๆ ด้วย”

คราวนี้เขาหัวเราะหึๆ พร้อมยิ้มมุมปาก เห็นชัดว่าไม่เชื่อถือในสิ่ง

ที่เธอขู่ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นเมื่อวานว่าเธอแค่หาทางให้เขาเบี่ยงตัวหลบ

เท่านั้น

อารินตาแยกเขี้ยว ตาวาว เกลียดนักสายตารู้ทันเชิงดูถูกแบบนี้ ถึง

แม้แม่จะเคยสอนว่าอย่าถือคนบ้า...แต่คนบ้ากวนประสาทแบบนี้ก็ควรรู้

ไว้ว่า...กับผู้หญิงอย่างเธอ อย่ามาแหยม!

 

           

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เธอ...เลเยอร์ชื่อดังแห่งวงการคอสเพลย์ ที่ผันตัวเองมาทำงานในมหาวิทยาลัยกลางป่าเขา
เขา...นักศึกษาวรรณคดีไทยผู้ซุกซ่อนความลับไว้มากมาย เเถมยังอาศัยอยู่ใน 'บ้านผีสิง!'
อารินตา บุตรสาวของทหารหญิงผู้เคร่งครัดกฎระเบียบอย่างที่สุด
ถูกโชคชะตานำพาให้มาพบกับ ณตะวัน
นักศึษาหนุ่มผู้พิสมัยการวาดภาพสีน้ำมันเป็นชีวิตจิตใจ
ซ้ำร้ายยังบังคับให้เธอเป็นนางแบบให้เขาวาดภาพ 'กึ่งเปลือย'
เพื่อรับผิดชอบที่เธอทำผลงานชิ้นโบแดงของเขาพัง
สาวซ่าผู้ไม่เคยยอมใคร...
ถูกเหวี่ยงมาเจออาร์ตตัวพ่อผู้ไม่เคยปล่อยให้เป้าหมายหลุดมือ
ภารกิตการไล่ล่าถามหาความรับผิดชอบครั้งนี้จะจบอย่างไร
เมื่อทั้งเขาเเละเธอ 'หัวใจ' เป็นเดิมพัน

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024