มือปราบข้าวสารเสก

มือปราบข้าวสารเสก

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160020874
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บุพเพข้าวสารเสก

 

            “หิวจนจะกินควายได้ทั้งคอก!”

เสียงสบถดังมาจากด้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดย่านตลาดสด

ชานเมืองกรุง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนัก ทำให้แม่ค้าวัยทองยิ้มให้ผู้ชาย

ที่เดินเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงดังอย่างไม่ถือสาเพราะเขาเป็นลูกค้าประจำ เลิก

งานทีไรเป็นได้มาอุดหนุน จนคนในร้านรู้ดีว่าจะต้องเอาอะไรมาเสิร์ฟบ้าง และ

เมื่อชายร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยทั่วไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวกลม เด็ก

ในร้านก็รีบเอาชานมเย็นหวานชื่นใจใส่นมเยอะๆ มาวางให้อย่างรู้ใจ ทว่าไม่ได้

ทำให้ใบหน้าคมเข้มรูปร่างสูงใหญ่สมส่วนราวกับพระเอกภาพยนตร์ไทยที่

หลุดออกจากแผ่นฟิล์มอารมณ์ดีขึ้นเลย

“ไปทำอะไรมาล่ะผู้กอง” ป้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเย้ายิ้มๆ ตอนเอาก๋วยเตี๋ยว

มาเสิร์ฟลูกค้าประจำ “หน้างอเป็นจวักตักแกงเชียวนะ”

“ไปจับเด็กแว้นมาน่ะสิ” นายตำรวจนอกเครื่องแบบที่สวมเสื้อยืดสีพื้น

ทับด้วยแจ็กเกตยีนกับกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อนบ่นหน้ายุ่ง เพราะวันนี้เป็น

วันที่เขาอารมณ์เสียที่สุดในรอบปี

“มันปิดถนนแข่งรถกันกลางวันแสกๆ กว่าจะวิ่งจับได้ครบทุกคน กว่า

จะคุมตัวกลับมาได้ก็หอบแฮกๆ กว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ทะเบียนทำประวัติ กว่าจะ

เรียกผู้ปกครองมารับ แล้วเจ๊รู้ไหม ไอ้หัวโจกที่มันขายยาบ้าด้วยน่ะ ดันเป็น

ลูกคนใหญ่คนโต คนอื่นต้องโดนส่งไปดัดสันดาน แต่ไอ้บ้านั่นมันลอยนวล

หน้าตาเฉย”

“เอาเถอะผู้กอง เดี๋ยวนี้เวรกรรมมันติดจรวด เดี๋ยวฟ้าดินก็ลงโทษมัน

เองนั่นแหละ” ป้าแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวปลอบแบบปลงตก “อีกอย่าง ผู้กองก็ไม่

เหนื่อยเปล่าหรอก อย่างน้อยก็ส่งพวกลูกน้องมันไปดัดนิสัยได้ตั้งหลายคน

ไม่ใช่เหรอ เอ้ากินๆ นี่เจ๊อุตส่าห์เปิดร้านรอผู้กองเชียวนะ เนื้อเปื่อยตุ๋นอย่างดี

กินเสีย เจ๊จะได้ปิดร้าน”

“ขอบคุณครับ”

ผู้กองหนุ่มลากเสียงยาวประชดที่โดนปลอบเรื่องเวรกรรมมีจริง และ

ยิ้มให้คนแก่ที่ยังอุตส่าห์รอให้เขามากินก๋วยเตี๋ยวเหมือนที่ทำหลังเลิกงานประจำ

แต่ก่อนที่จะคีบเนื้อเปื่อยนุ่มๆ เข้าปาก เสียงตะโกนจากทางตลาดสดก็ทำให้

นายตำรวจสำลักอากาศ

“ช่วยด้วย! คนเมายาบ้ามันจะแทงคอตัวประกันแล้ว ช่วยด้วย!”

นายตำรวจวางตะเกียบแทบไม่ทัน มือขวาคลำเข้าไปใต้เสื้อแจ็กเกต

ด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว เพื่อให้รู้ว่าปืนเตรียมพร้อมอยู่ตรงนี้ จากนั้นก็ไม่รอให้

ตัวเองได้พ่นลมหายใจทิ้ง เพราะในเมื่อเลือกแล้วที่จะทำอาชีพนี้ เขาจะทำมัน

ด้วยจิตวิญญาณ งานบำบัดทุกข์บำรุงสุขต้องมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นยามใดหรือ

สถานการณ์ไหนก็ตาม

 

อ้าว เฮ้ย!”

พอวิ่งมาถึงกลุ่มไทยมุงที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่ตรงหัวสะพานที่จะข้ามไป

ตลาดสด ตำรวจหนุ่มก็ชักลังเลว่าจะช่วยตัวประกันที่ถูกคนเมายาบ้าจับดีหรือ

ไม่ เพราะไอ้เด็กหนุ่มที่โดนปังตอจ่อคอหอยอยู่ในตอนนี้ก็คือหัวโจกแก๊ง

เด็กแว้นที่เขาเพิ่งไปสกัดจับมานั่นแหละ แล้วไปเดินอีท่าไหนถึงได้โดนคนเมา

ยาบ้าคว้าคอไปได้ หรืองานนี้เวรกรรมจะติดจรวดอย่างที่ป้าร้านก๋วยเตี๋ยวว่า

จริงๆ แต่เอาเถอะ ถือว่าประชาชนเดือดร้อน ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็ต้องช่วยให้

เต็มที่

“ใจเย็นนะ ใจเย็น” นายตำรวจพยายามกล่อมตามหลักสากลในการช่วย

ตัวประกัน “อยากได้อะไรก็บอกมา แต่อย่าเพิ่งทำอะไรกับเจ้าเด็กนั่นเลยนะ

ปาดคอมันไปก็ตายเปล่า พี่ไม่ได้อะไรหรอก”

“ไปตามไอ้พงศ์มา” เสียงแหลมปรี๊ดราวผู้หญิงกรีดร้องดังออกมาจาก

ลำคอชายฉกรรจ์ผู้ต้องสงสัยว่าเมายาบ้า ทำให้นายตำรวจหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น

ด้วยสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับความสามารถพิเศษของตัวเอง

“ไปตามไอ้ผัวสารเลวนั่นมา ไม่อย่างนั้นกูไม่ปล่อยไอ้เด็กนี่”

ไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว นายตำรวจพ่นหายใจเต็มแรงอย่างเหนื่อยหน่าย

ก่อนจะท่องมนตร์เบิกเนตรที่หลวงตาให้มา ดูให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลยว่าที่เขาคิด

อยู่มันใช่หรือเปล่า

หญิงร่างท้วมหน้าเขียวขึ้นอืดเหมือนตายมาหลายวันที่ซ่อนอยู่ใน

กายหยาบของชายฉกรรจ์ ทำให้นายตำรวจหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษถึงกับ

กลืนน้ำลายลงคอ เพราะรู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เหตุคนเมายาบ้าแล้ว

จับตัวประกัน แต่พี่คนนั้นโดนผีเข้าต่างหาก

“แล้วผัวพี่เป็นใครล่ะ” ผู้กองหนุ่มถามหน้ามุ่ย ทำเอาชาวบ้านแถวนั้น

มองเขาอย่างประหลาดใจเป็นตาเดียว “แต่จะทำอะไรก็ใจเย็นๆ ก่อนเถอะ

ปล่อยตัวประกันมาก่อน แล้วผมจะไปตามผัวพี่มาให้”

“ไอ้พงศ์ผัวกู ผัวอีศรี! ไปตามมันมา ไอ้ผัวชั่วมันไปติดเมียน้อยอยู่

ที่ไหน”

“แล้วผมจะไปตามได้ที่ไหนเล่า” นายตำรวจบ่นหน้านิ่ว “แต่พี่ออกมา

จากร่างเขาก่อนเถอะ เดี๋ยวผมช่วยตามหาผัวให้ ออกมาก่อนๆ เป็นผีก็อยู่ส่วน

ผีเสียบ้าง ชาวบ้านเขาจะได้ไม่เดือดร้อน”

“กูไม่ออก!” วิญญาณสาวใหญ่ในร่างชายฉกรรจ์ตอบเสียงหนักจน

ตาขวาง “ถ้าไม่ตามไอ้พงศ์มาหากู กูปาดคอไอ้เด็กนี่แน่”

เมื่อการเจรจาไม่ได้ผล นายตำรวจก็ถึงกับพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด

แถมคนที่โดนจับเป็นตัวประกันก็กลัวจนตัวสั่นงันงกและฉี่ราดไปเรียบร้อย

แล้ว เขาจะทำอย่างไร วิญญาณผีพี่ศรีนี่ถึงจะออกจากร่างผู้ชายคนนั้นเล่า

หรือ ว่าถึงเวลาต้องใช้ไม้แข็งเสียที

นายตำรวจล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเอง ควานหาของที่พบ

ติดตัวตลอดเวลาเผื่อได้ใช้ในยามคับขัน ล้วงเข้าไปเจอนฤบดินทร์ ควายธนู

คู่ใจก่อนใคร แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเอามาใช้ในตอนนี้...ยันต์ มีดหมอ ตุ๊กตา

กุมารทอง สายสิญจน์ น้ำมนต์ของหลวงตา และของต่างๆ นานา กลิ้งขลุกขลัก

อยู่รอบมือ กว่าจะควานหาสิ่งที่ต้องการเจอก็ปาเข้าไปหลายวินาที จนคิดว่า

ต้องจัดกระเป๋าใหม่เสียแล้ว แต่อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็ได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว

แหละ

ข้าวสารเม็ดขาวสะอาดจากแหล่งข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีอย่างทุ่งกุลาร้องไห้

ถูกกำขึ้นมาเต็มกำมือ ชายหนุ่มสวดมนต์พึมพำตามที่หลวงตาเคยพร่ำสอนให้

เขาได้มีไสยเวทติดตัว ไสยศาสตร์สายขาวมีไว้บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ชาวประชา

และนี่คือแรงบันดาลใจให้เขามาเป็นตำรวจ จะได้ช่วยทั้งผีและคนอย่าง

เท่าเทียม

 

“กรี๊ด!”

 วิญญาณสาวกรีดร้องโหยหวนเมื่อร่างกายโดนข้าวสารเสกจากนาย

ตำรวจสาดเข้ากระทบร่าง จากนั้นไม่นานคนที่กลายเป็นร่างทรงก็ทรุดฮวบลง

กับพื้น ทำให้คนเป็นตัวประกันหลุดออกจากมีดปังตอที่จ่อคอได้ เรื่องโกลาหล

จบลงพร้อมอาการอ้าปากค้างของชาวบ้านร้านตลาด ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้น

นี้คืออะไร ผีเข้าคนได้ตอนเย็นๆ แบบนี้น่ะหรือ แล้วตำรวจที่สาดข้าวสารเสก

อยู่โครมๆ คนนี้ล่ะ

เขาเป็นตำรวจหรือเป็นหมอผีกันแน่!

 

ก็ผมบอกแล้วไงครับว่าพี่คนนั้นเขาโดนผีเข้า”

เรื่องที่ควรจะจบกลับไม่ยอมจบ และแน่นอนว่านายตำรวจผู้มีความ

 

สามารถในการปราบผีได้ไม่มีโอกาสกลับไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวต่อ ป่านนี้เส้นคง

อืดเต็มชามแล้วกระมัง แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เขาจะมา

นั่งนึกถึงของกินแม้จะหิวสักเท่าใดก็ตาม เพราะมีคนดวงซวยรอให้เขาช่วยอยู่

หลังจากที่เขาทำให้ผีออกจากร่างชายฉกรรจ์คนนั้นได้ ตำรวจที่เข้าเวร

อยู่ ณ สถานีตำรวจก็กรูกันเข้ามาจับตัวคนร้ายที่เข้าใจว่าเมายาบ้าจนจับเด็ก

หนุ่มมาเป็นตัวประกันทันที ซึ่งนั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่จะให้เขาอธิบายว่าพี่

คนนั้นแกโดนผีเข้า ใครจะไปเชื่อ โดยเฉพาะผู้กำกับการที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ถึง

ขั้นเรียกเขาเข้าไปคุยกันสองคนในห้องทำงานส่วนตัว นี่คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา

แล้ว

“แล้วคนดีๆ ที่ไหนจะเมาขาดสติจนจับคนเป็นตัวประกันได้เล่า ตาก็

ลอยๆ ขวางๆ คุณก็รู้ว่านี่มันอาการของคนลงแดง”

“แล้วผู้กำกับฯ ได้ผลตรวจฉี่ของพี่แกมาหรือยังล่ะครับ” ผู้กองหนุ่ม

สวนกลับด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เพราะเหนื่อยหน่ายกับเรื่องที่ถูกหาว่างมงายเชื่อ

เรื่องผีเต็มทน แต่ก็ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมเพื่อผดุงความยุติธรรม “เชื่อ

ผมเถอะว่าผลมันเป็นลบ เพราะพี่คนนั้นแกไม่ได้เสพยา”

“ผลตรวจแอมเฟตามีนเป็นลบ” นายตำรวจใหญ่หลับตาบอกเพราะเถียง

ไม่ออก และอีกนัยคือเกรงใจนามสกุลที่ผู้กองหนุ่มใช้อยู่ “แต่คงเมาสารเสพติด

อย่างอื่น”

“ไม่ได้เมาอะไรหรอกครับ พี่แกแค่ซวยน่ะ ปล่อยแกไปเถอะ”

“แต่ผมไม่เชื่อว่าคนปกติดีๆ ที่ไหนเขาจะเอามีดมาจ่อคอชาวบ้านได้

หรอกนะผู้กอง” ผู้กำกับการเอ็ดเสียงเขียว “หรือคุณจะให้ผมเชื่อว่าผู้ชาย

คนนั้นถูกผีเข้าเหมือนที่คุณทำให้ชาวบ้านทั้งตลาดเชื่อได้อย่างนั้นล่ะ”

“แต่ถ้าผู้กำกับฯ ไม่มีหลักฐานเอาผิดพี่เขา ผู้กำกับฯ ก็ต้องปล่อยเขาไป

ไม่ใช่หรือครับ”

“ผมปล่อยแน่ ถ้าเขาไม่ผิดอย่างที่คุณว่า แต่ถ้าจะให้ผมปล่อยเพราะ

เหตุผลที่คุณบอกละก็ ผมถามหน่อยว่าคุณจะเขียนรายงานคดีนี้กับผมยังไง

คนร้ายโดนผีเข้าอย่างนั้นเหรอ”

“ผมเขียนได้ก็แล้วกัน”

“คงชินกับการเขียนสำนวนคดีแบบลวกๆ มาละสิ” เจ้านายผู้มาใหม่และ

ไม่เชื่อเรื่องผีสางถามอย่างหยามหมิ่น “ผมไม่มีวันยอมให้คุณทำอย่างนั้นอีก

หรอกนะ แล้วไอ้เรื่องผีๆ สางๆ ที่คุณพยายามทำให้ชาวบ้านเชื่ออยู่เนี่ย ผม

ขอละ เลิกเสียที ผีมันไม่มีจริงหรอกนะ”

“ถ้าไม่มีจริง แล้วผู้กำกับฯ จะอธิบายเรื่องเมื่อตอนเย็นว่ายังไงดีครับ”

“ผู้กองสณฑ์!” นายตำรวจใหญ่ตะคอกจนตาเหลือก “อย่าคิดว่าผมจะ

กลัวคุณพ่อของคุณจนไม่กล้าทำอะไรนะ ถ้าคุณยังทำงานงมงายหลอกให้

ชาวบ้านเชื่อเรื่องไสยศาสตร์แบบนี้อยู่ละก็ ผมสั่งพักงานคุณแน่”

“แต่ผมพูดเรื่องจริง ไม่เคยหลอกใครทั้งนั้น”

“ตกลงว่ายังไงคุณก็ยืนยันว่าคดีเมื่อตอนเย็นนั่น ผู้ต้องหาโดนผีเข้า

ใช่ไหม” ผู้กำกับการจ้องเขม็งเพราะคนหนุ่มยังเถียงไม่ยอมลดราวาศอก

“คุณเป็นตำรวจ แต่ดันไปโชว์ปราบผี แบบนี้จะให้ชาวบ้านศรัทธาตำรวจ

อยู่ได้ยังไง”

“ก็ผีมันมีจริงๆ”

“ได้...”

นายตำรวจใหญ่ลากเสียงยาวเพื่อข่มความอดทน ก่อนจะดึงลิ้นชัก

โต๊ะทำงานออกมา คว้ากระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ มาวางกระแทกโต๊ะ

ดังปึงด้วยแรงกดจากฝ่ามือ แล้วเลื่อนช้าๆ มาตรงหน้าตำรวจหนุ่มที่นั่งอยู่

ตรงข้าม

“ถ้าคุณยังยืนยันว่าผีมีจริง ผมก็คงต้องส่งคุณไปที่นี่ และถ้าคุณไม่ผ่าน

การทดสอบละก็ ผมคงมีสิทธิ์สั่งพักงานคุณโดยที่ไม่มีข้อกังขาใดๆ นะผู้กอง”

ร้อยตำรวจเอกสณฑ์ สุขวินทรา รับกระดาษแผ่นนั้นมาจากมือของ

ผู้ใหญ่เพราะไม่รู้จะเถียงให้ได้อะไรขึ้นมา อีกอย่างก็เกรงจะโดนข้อหาฝ่าฝืน

คำสั่งผู้บังคับบัญชาด้วย แล้วนี่ผู้กำกับการจะส่งเขาไปที่ไหน ที่อยู่ตามนามบัตร

นี้อย่างนั้นหรือ

‘แพทย์หญิงรุ้งเคียงจันทร์ อลังการทรัพย์สิน’

 

เป็นชื่อที่เขียนเด่นหราอยู่กลางกระดาษสีครีมที่ผู้กำกับการส่งให้

ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยว่าเจ้านายส่งนามบัตรของแพทย์ที่

เรียนจบด้านสมองและประสาท อีกทั้งจิตวิทยาผู้ใหญ่มาให้เขาทำไม แต่พอ

เห็นรายละเอียดของแพทย์หญิงผู้นี้ สณฑ์ก็ถึงบางอ้อชนิดตาแทบเหลือก

เพราะเธอทำงานอยู่ที่แผนกจิตเวชของโรงพยาบาลชื่อดัง

เจ้านายจะส่งเขาไปพบจิตแพทย์หรือนี่!

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024