Love Journey ทริปนี้มีรัก (แอนดารีน)

Love Journey ทริปนี้มีรัก (แอนดารีน)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160023578
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

แผนที่ผิดพลาด

 

                สาวเอเชียร่างบอบบางลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กแบบมีล้อผ่านประตู

สำหรับผู้โดยสารขาเข้าด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ คิ้วเรียวโก่งขมวดมุ่น

ดวงตากลมโตสีดำสนิทสอดส่ายไปรอบๆ บริเวณจุดรอผู้โดยสารของสนามบิน

นานาชาติโอ๊กแลนด์ด้วยความกังวล เมื่อไม่เห็นคนที่ดูท่าทางจะเป็นเป้าหมาย

ที่ต้องการ เธอก็ยกข้อมือเรียวเล็กขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกา

แย่จริง...เธอออกมาช้ากว่าเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าคนที่มารอรับ

จะยังรออยู่ไหม

เท้าเล็กๆ ในรองเท้าส้นเตี้ยเขย่งขึ้นเพื่อมองหาป้ายชื่อของตัวเอง แม้จะ

ไม่เป็นผลเท่าไร เพราะรอบๆ มีแต่ฝรั่งตัวสูงกว่าเธอทั้งนั้น ความสูงของเธอ

พอจะสู้ได้ก็แค่เด็กฝรั่งผมแดงวัยไม่น่าจะเกินสิบขวบที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ขนาด

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินยังเข้ามาดูแลเธออย่างดีตลอดการเดินทาง

เพราะ นึกว่าเป็นเด็กที่เดินทางคนเดียวโดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วย

หญิงสาวเม้มริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อด้วยความกังวล ‘โอ๊ย...ถ้าไม่เป็น

เพราะไปรอเอากระเป๋าที่สายพานผิดช่อง ป่านนี้ได้ออกมาตั้งนานแล้ว’ เธอถอน

หายใจเบาๆ ไม่รู้เมื่อไหร่ตัวเองจะหายจากนิสัยป้ำเป๋อแบบนี้เสียที

                ‘ฟางชูจิ้ง’ หรือที่เพื่อนๆ ต่างชาติเรียกว่าฟิโอน่า ตัดสินใจเดินลาก

กระเป๋าออกมายืนรอบริเวณส่วนต้อนรับผู้โดยสาร นี่เป็นครั้งแรกที่เธอ

เดินทางมาต่างประเทศคนเดียว เพราะตอนเธอดื้อแพ่งขอที่บ้านไปเรียนต่อ

ปริญญาโทที่ออสเตรเลียได้สำเร็จ พ่อแม่ของเธอก็ยกขบวนกันมาส่งถึงที่พัก

แถมยังอยู่เป็นเพื่อนเธอเกือบเดือนจนถึงวันเปิดเทอม ไม่นับรวมป้าสอง อาสี่

และ ‘พี่แก้ว’ หลานสาวของแม่บ้านชาวไทยที่เธอรักเหมือนพี่สาวแท้ๆ ซึ่งถ้า

ไม่ติดที่ต้องดูแลกิจการและบ้านแทนพ่อแม่ของเธอ พวกเขาได้ตามมาส่งหลาน

และน้องเล็กเรียนต่อต่างประเทศด้วยแน่ๆ

หญิงสาวขยับขาถ่ายน้ำหนักไปมาด้วยความเมื่อยขบ แม้การเดินทาง

จากบริสเบนมาโอ๊กแลนด์จะกินเวลาแค่สี่ชั่วโมง แต่เมื่อคืนนี้เธอนอนไม่หลับ

ด้วยความกังวล แถมการนั่งบนเก้าอี้โดยสารแคบๆ ในที่นั่งชั้นประหยัดก็ไม่

เอื้อกับการให้เธอนอนหลับเลย ทำไงได้ล่ะ...ที่บ้านไม่ได้อยากให้เธอมาเที่ยว

เลยสักนิด เพราะต้องการให้เธอเข้าร่วมพิธีดูตัวกับทายาทนักธุรกิจชาวจีน ที่

ได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้วมากกว่า แต่เธอไม่ยอมแต่งงานด้วยวิธีแบบนั้นแน่

ฟิโอน่าเลยขัดขืนคำสั่งของครอบครัวเป็นครั้งแรกในชีวิต ประกาศกร้าวว่าไม่

ขอเข้าพิธีดูตัวเด็ดขาดและจะไปเที่ยวนิวซีแลนด์ให้ได้ ทว่าใครจะคิดล่ะว่า

แม่ที่งอนจะยึดบัตรเครดิตและสมุดบัญชีของเธอไปด้วย เธอเลยต้องอาศัย

เงินเดือนที่ได้จากการทำงานในตำแหน่งพนักงานบริหารระดับกลางในบริษัท

ของครอบครัวเพื่อมาเที่ยวครั้งนี้...ซึ่งมันก็ไม่มากพอที่จะใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน

ชั้นเฟิสต์คลาสเสียด้วย

ฟิโอน่ามองผู้โดยสารที่เดินออกไปจากสนามบินพร้อมกับญาติทีละคน

สองคนตาละห้อย ตอนนี้เหลือเพียงแค่เธอและคนที่มารอรับผู้โดยสารชุดใหม่

ที่จะเดินออกมา ดวงตาดำขลับเหลือบมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง...ยี่สิบนาทีผ่าน

ไปแล้วนะ คนมารับเธอไปอยู่ไหนกัน เบอร์โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่มี

ถ้า ‘เฟธ’ เพื่อนสาวชาวนิวซีแลนด์ของเธอไม่แขนหักเพราะอุบัติเหตุจาก

การเล่นกระดานโต้คลื่นเสียก่อน เธอคงไม่ต้องมายืนรออย่างกระวนกระวาย

ที่สนามบินคนเดียวแบบนี้

หญิงสาวแทบจะยกเลิกทริปนี้เสียด้วยซ้ำ ถ้าเฟธไม่ขอร้องแกมบังคับ

ให้เธอมาเที่ยวให้ได้

“เธอจะยกเลิกทริปนี้เพราะฉันไม่ได้นะ ไม่งั้นฉันจะเสียใจมากๆ” เฟธ

พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“แต่เธอไปด้วยไม่ได้นี่” ฟิโอน่ามองสาวผมทองที่นอนอยู่บนเตียงใน

ห้องเล็กๆ ของโรงพยาบาลด้วยสายตากังวล แขนข้างหนึ่งของเพื่อนสาวถูกพัน

ไว้ด้วยผ้า เธออุตส่าห์เดินทางจากประเทศจีนมาที่บริสเบน เพื่อมาเจอเฟธก่อน

จะออกเดินทางไปด้วยกัน เพราะหลังจากเรียนจบ สาวผมทองก็ยืนกรานกับ

ที่บ้านว่าจะเที่ยวออสเตรเลียให้ครบทุกรัฐก่อนกลับไปอยู่นิวซีแลนด์เป็นการ

ถาวร ซึ่งแม้จะผ่านไปปีกว่าแล้วเฟธก็ยังไม่ยอมกลับบ้านเสียที นอกจากนี้

ฟิโอน่ายังถือโอกาสมาเยี่ยม ‘หม่อน’ หรือมนพัทธ์ เพื่อนสาวชาวไทยที่ตอนนี้

กำลังยุ่งกับการเตรียมงานแต่งงานกับคริส ผู้บริหารหนุ่มหล่อของบริษัทยักษ์

ใหญ่ที่ผลิตไทม์แมชีนได้เป็นเครื่องแรกของโลก และศาสตราจารย์โรเบิร์ตสัน

ที่กำลังจะย้ายไปเมืองไทยกับพิมพ์พิกา ภรรยาสาวของเขา

“เธอก็รู้ว่าเราวางแผนทริปนี้กันมานานแค่ไหน ฉันสัญญากับเธอแล้วไง

ว่าต้องให้เธอไปเที่ยวที่ประเทศของฉันให้ได้ เป็นการตอบแทนที่เธอจะพาฉัน

ไปเที่ยวประเทศของเธอไง”

ฟิโอน่าและเฟธเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ช่วงที่เธอมาเรียนปริญญาโทที่

บริสเบน แม้ทั้งสองจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เฟธเป็นสาวผมทองที่กล้า

บ้าบิ่น จริงใจ และอัธยาศัยดี ส่วนเธอเป็นสาวจีนที่ดูนุ่มนวลบอบบาง แต่คง

เป็นเพราะความต่างนี้นี่แหละที่ทำให้พวกเธอเป็นเพื่อนกันได้

มิตรภาพของทั้งสองเริ่มขึ้น เมื่อเธอไปเสนอตัวช่วยติวให้เฟธที่มักจะ

โดดเรียนอยู่เสมอ และนับจากครั้งนั้น เพื่อนใหม่ก็ยึดเธอเป็นอาจารย์นอก

ห้องเรียน แถมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นเพื่อน

สนิทกันในที่สุด

                “ฉันเป็นคนที่ไม่เหมาะกับการนั่งนิ่งๆ อยู่ในห้องเรียนเลย” เฟธเคยบ่น

กับเธอ “ฉันรู้สึกว่าข้างนอกนั่นกำลังเรียกหาฉันอยู่” เธอทำท่าเอามือป้องหู

“เฟธ...เธอจะมานั่งอยู่ในห้องเรียนอย่างเดียวไม่ได้นะ เฟธ...ดูคลื่นนี่สิจ๊ะ

เหมาะกับการเล่นน้ำไหม เฟธ...เพลงในคลับบรรเลงขึ้นเพื่อรอเธอไปเต้นนะ

โอ๊ย...ฉันอยู่เฉยๆ ไม่ได้”

ฟิโอน่าหัวเราะ ดูจากบุคลิกของสาวผมทองก็รู้แล้วว่าเธอชอบปาร์ตี้และ

การผจญภัยขนาดไหน

“นี่ถ้าทางบ้านไม่ยื่นคำขาดให้ฉันทำปริญญากลับไปสักใบ ไม่งั้นจะไม่

ให้มาอยู่ที่ออสเตรเลียนะ ฉันออกเดินทางไปทั่วประเทศแล้ว น่าสนุกดีจะตาย

ถ้าจะย้ายไปเรื่อยๆ เพื่อพบเจอคนใหม่ๆ อยู่ที่บริสเบนสองเดือน เพิร์ทหนึ่ง

เดือน แทสเมเนียสองเดือน ครบหนึ่งปีฉันก็คงได้ไปจนทั่ว แล้วคงมีเรื่องไป

เล่าจนแก่ ฉันว่ามันมีค่ากว่าใบปริญญาอีกนะ”

“น่าสนุกดีเหมือนกันนะ”

“เธอก็ชอบเดินทางเหมือนกันละสิ ไม่งั้นไม่ถ่อมาเรียนไกลถึงที่นี่หรอก

ใช่ไหม” เฟธดีดนิ้วก่อนพูดกับเธออย่างกระตือรือร้น “ฉันมีไอเดียดีๆ เอางี้สิ

ถ้าเราเรียนจบแล้ว เราต้องพาแต่ละฝ่ายไปเที่ยวประเทศของตัวเองนะ ฉันจะ

พาเธอไปเที่ยวนิวซีแลนด์ให้ทั่วเลย ส่วนเธอก็ต้องพาฉันไปเที่ยวประเทศจีน

เจ้าบ้านต้องเป็นคนจัดการทั้งหมด ทั้งเรื่องที่เที่ยวและที่พัก เอาแบบให้เซอร์-

ไพรส์สุดๆ ไปเลย โอเคไหม”

 ฟิโอน่าตอบรับโดยไม่ต้องคิด ตลอดชีวิตอันราบเรียบของเธอจะมี

โอกาสได้ทำอะไรสนุกๆ แบบนี้สักกี่ครั้งกัน “ได้เลย”

“สัญญาแล้วนะ”

“อื้ม...สัญญา”

สองสาวยิ้มให้กันและหัวเราะเสียงใสอย่างมีความสุข

เสียงหัวเราะดังก้องของสาวผมทองตรงหน้าทำให้ฟิโอน่าหลุดจาก

ภวังค์ความคิด

“ใจลอยอีกแล้วเธอนี่ น่า...เธอต้องไปนะ” เฟธพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นเธอ

เงียบไปนาน

หญิงสาวมองเพื่อนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยสายตากังวลอย่างเห็น

ได้ชัด “แต่ฉันจะไปคนเดียวได้ยังไง ฉันไม่รู้จักใครที่นั่นเลย”

“อย่าลืมสิว่านิกกี้ไปด้วย นิกกี้เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วนะ อย่าให้

แผนของเธอสองคนพังเพราะฉันคนเดียวเลย”

‘นิกกี้’ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฟธที่อาศัยอยู่ที่นิวซีแลนด์ หลังจากตกลง

กันว่าทริปสิบวันนี้จะเป็นการขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์ทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้

เฟธก็บอกฟิโอน่าว่าจะให้นิกกี้ไปด้วยเพื่อเป็นคนขับ เพราะเพื่อนสาวของเธอ

ไม่อยากกังวลกับการขับรถ พูดง่ายๆ คือเธออยากนั่งเฉยๆ แบบสบายๆ

มากกว่า แล้วเธอก็ยืนยันว่าถ้านิกกี้ไปด้วยจะปลอดภัยกว่าเดินทางกันเองแค่

สองคน เผื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจะได้ช่วยกันได้

ฟิโอน่าไม่ขัดอะไร เธอคิดว่านิกกี้ก็คงเป็นสาวสวยอัธยาศัยดีเหมือนเฟธ

อีกอย่าง ถ้าเฟธไปด้วย เธอก็ไม่กลัวกับการต้องทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า

เพราะจากที่คบกันมานาน เธอแน่ใจว่าหญิงสาวอัธยาศัยดีคนนี้คงจะเป็นผู้ชวน

คุย ทำให้วงสนทนาไม่น่าอึดอัด

แต่เมื่อผลออกมาว่าเฟธไปด้วยไม่ได้ ก็เท่ากับว่าเธอต้องไปเที่ยวกับ

นิกกี้แค่สองคน...กับคนที่เธอไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า

“ฉันไม่รู้จักลูกพี่ลูกน้องของเธอเลย”

“เธอไม่ต้องกังวล นิกกี้เป็นคนดี ถึงจะชอบพูดอะไรตรงๆ ไปหน่อยแต่

พึ่งพาได้ ฉันรับรอง...ตกลงไปนะ ดีเลย ฉันจะโทร. บอกนิกกี้ให้ไปรับเธอที่

สนามบินเอง” สาวผมทองพูดเองเออเองด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า เหมือนไม่ใช่

คนที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุมาจนต้องอดไปเที่ยวเลยสักนิด

เพราะทนเฟธคะยั้นคะยอแกมบังคับไม่ได้แท้ๆ เธอจึงต้องมายืนรอ

นิกกี้ที่สนามบินคนเดียวแบบนี้

“คุณ”

หญิงสาวหันขวับไปทางต้นเสียงจนผมยาวสลวยถึงเอวกระจาย ชายหนุ่ม

ร่างยักษ์ในเสื้อยืดที่ดูเหมือนจะผ่านการซักมาหลายรอบจนเก่ากับกางเกงยีน

สีเข้ม ที่ยืนห่างจากเธอเล็กน้อยกำลังมองมาที่เธอด้วยสีหน้าเซ็งนิดๆ

ฟิโอน่าหันไปมองรอบๆ เขาต้องไม่ได้เรียกเธอแน่ๆ

“คุณนั่นแหละ”

เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงงงวย “ฉัน?”

“ใช่ ถ้าคุณคือฟิโอน่า” เขาพูดเสียงยานคางแบบชาวกีวีของแท้

ผู้ชายคนนี้คงเป็นคนที่นิกกี้ให้มารับเธอ...

หญิงสาวพยายามยิ้มให้ชายแปลกหน้าถึงแม้เธอจะแอบรู้สึกกลัว

ดวงตากลมโตสีดำสนิทลอบสำรวจชายหนุ่มร่างสูง ไม่รู้สิ...เขาเป็นผู้ชายหน้าตา

ดี แต่กลับมีดวงหน้ากร้าวกระด้าง ผมตัดค่อนข้างสั้นสีน้ำตาลทำให้ดวงตา

สีเทาเข้มเกือบดำเด่นขึ้น ยิ่งบวกกับรูปร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้

ดูเป็นคนเข้มแข็งจริงจัง เป็นผู้ชายแบบที่พร้อมหาเรื่องได้ทุกเมื่อ แบบที่เธอไม่

เคยรู้จักสนิทสนมมาก่อน

ชายหนุ่มแย่งกระเป๋าลากของเธอไป เขากดแกนสำหรับลากลงแล้วยก

ขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนมันไม่มีน้ำหนัก

“ไปกันเถอะ” พูดจบเขาก็ก้าวขายาวๆ ออกไป โดยไม่สนใจสักนิดว่าเธอ

จะเดินตามทันไหม

ฟิโอน่าวิ่งตามหลังกว้างของชายหนุ่มอย่างไม่มีทางเลือก จนในที่สุดก็

ก้าวทันเขาจนได้

“นิกกี้ล่ะคะ” เธอถามปนหอบ

หนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเลิกคิ้ว “เดินอยู่ข้างคุณนี่ไง”

“คะ?” เธอนิ่งไป ต้องมีการเข้าใจอะไรผิดกันแน่ๆ เมื่อตั้งสติได้หญิงสาว

ก็ถามรัวเร็ว “แต่เฟธบอกว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอ...”

                ฟิโอน่าเงียบไปเมื่อคิดทบทวนคำพูดของเพื่อนสาว เฟธบอกว่า ‘ลูกพี่

ลูกน้อง’ ซึ่งคำคำนี้มันก็ไม่ได้ระบุเพศซะด้วย แถมชื่อนิกกี้ก็เป็นได้ทั้งชื่อของ

ผู้หญิงและผู้ชาย แปลว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเธอเองที่ไม่ถามให้รอบคอบ!

หญิงสาวมองผู้ชายตัวสูงที่ก้าวขายาวๆ ไปยังประตูทางออกสนามบิน

ด้วยดวงตาตื่นตะลึง เธออยากเอาหัวโขกพื้นสนามบินแรงๆ เหลือเกิน เมื่อไร

จะหายจากนิสัยป้ำเป๋อ แถมยังทำอะไรไม่รอบคอบแบบนี้เสียทีนะ

สรุปว่าทริปนี้...เธอต้องไปเที่ยวกับผู้ชายที่ไม่รู้จักสองต่อสอง!

“คุณคือนิกกี้?” ฟิโอน่าถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ใช่” ดวงตาสีเทาเข้มของผู้ชายที่เดินอยู่ข้างๆ เหลือบมาที่เธอ ก่อนมอง

ไปข้างหน้าต่อ

“ลูกพี่ลูกน้องของเฟธ?”

“ครับ”

“คุณเป็นผู้ชาย?”

ชายหนุ่มหันมามองเธอ เหมือนหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังเดินอย่าง

กระหืดกระหอบอยู่ข้างๆ เขามีอะไรผิดปกติสักอย่าง “แหงอยู่แล้ว”

“แล้วคุณจะเป็นคนที่ไปเที่ยวกับฉัน?”

เขาถอนหายใจพรืดก่อนพูดตัดบท “ผมว่าเราอย่ามาคุยกันอยู่เลย เสีย

เวลาเปล่าๆ รีบเดินเข้าเถอะ ผมหิวจะแย่แล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ต้อง

มาเสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ รอรับคุณเนี่ย”

“แต่นี่มันเพิ่งสิบเอ็ดโมงเช้า...”

ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง พลางมองเหมือนเธอเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่

ไม่รู้เรื่องอะไรเสียเลย “นิวซีแลนด์เร็วกว่าที่บริสเบนสามชั่วโมงนะคุณ บ่าย

สองโมงกว่าแล้ว ผมหิวจนแน่ใจว่ากินวัวได้เป็นตัวๆ แน่”

ฟิโอน่าหน้าเจื่อน จริงสิ...ก่อนลงจากเครื่องกัปตันก็ประกาศเวลาท้องถิ่น

แล้วแท้ๆ แต่เธอดันลืมปรับนาฬิกาซะได้

“ขอโทษค่ะที่ฉันช้า”

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด


เมื่อผิดแผน ฟิโอน่า สาวลูกเสี้ยวไทย-จีน ต้องจับพลัดจับผลูไปนิวซีเเลนด์...
ประเทศที่เมฆลอยต่ำ หญ้าเขียว เเละน้ำสีฟ้าใส
กับ นิกกี้ หนุ่มชาวกีวีร่างยักษ์ท่าทางดิบเถื่อน
เเต่ยิ่งเดินทางด้วยกัน ไม่รู้ทำไมหัวใจน้อยๆ ของเธอถึงเต้นเเรงทุกทีเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดเขา
ไม่นับรวมอาการหน้าเเดงปรี๊ดเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเขาถูกเนื้อต้องตัวเธอโดยบังเอิญ
จนดวงตาสีเทาเข้มของผู้ชายตัวโตคนนั้นทองเธอด้วยแววตารู้ทัน ถ้าเขารู้ว่าเธอคิดอะไรคงขำน่าดู
โอ๊ย...ไม่นะ...เวลาเเค่สิบวันจะทำให้คนรักกันได้จริงๆ เหรอ

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024