มายาลับสลับรัก

เทพธิดาแห่งวงการบันเทิง

 

 

‘ฉันจะได้ไหม!’

หญิงสาวถามตัวเองในใจด้วยความตื่นเต้นเมื่อมองลงไปยังพรมสีแดง

ดังกลีบกุหลาบ ที่ทอดยาวสุดสายตาไปสู่เวทีใหญ่เบื้องล่าง รอบข้างเต็มไปด้วย

แสงแฟลชจากกล้องนับร้อยนับพันตัว ฉายพึ่บพั่บไม่ขาดสายราวกับดาว

ประดับท้องฟ้าในห้องหลังคาทรงโดม ที่หรี่ไฟให้มืดเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ

งานประกาศรางวัลสำคัญประจำปี ผู้คนในวงการบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้อง

หลังต่างแต่งกายมาประชันโฉมกัน และทุกสายตาต่างมองไปยังพิธีกรบนเวที

ที่กำลังจะกล่าวสิ่งที่ดาราสาวทั้งวงการบันเทิงรอคอย

ในช่วงเวลาสำคัญที่กำลังจะประกาศผู้ได้รับตำแหน่ง ‘เทพธิดาแห่ง

วงการบันเทิง’ ดาราสาวใหญ่น้อยต่างก็ลุ้นกันด้วยความตื่นเต้น เพราะรางวัล

อันทรงเกียรตินี้จะมอบแด่นักแสดงที่มีชื่อเสียงและพฤติกรรมดีงาม สามารถ

เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนในสังคมได้ และเป็นที่รักของมวลมหาประชาชน

ทั่วประเทศ ซึ่งตำแหน่งนี้มาจากคะแนนความนิยมและคะแนนด้านความ

ประพฤติเหมาะสมจากผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สำคัญ รางวัลนี้ไม่ต่างจากหลักประกัน

ที่ว่าหนทางเดินบนวงการมายาจะมั่นคง เพราะมันเป็นดั่งใบการันตีอนาคตที่

ใครๆ ก็ถวิลหา

รางวัลนี้แม้จะประกาศกันทุกปี แต่ไม่ได้เปลี่ยนผู้ถือครองกันบ่อยๆ

เพราะเจ้าของคนล่าสุดนั้นครองตำแหน่งมานานถึงห้าปีซ้อน ก่อนจะลาวงการ

ไปแต่งงานกับเศรษฐีหนุ่มเจ้าของรีสอร์ตใหญ่ ทิ้งให้ตำแหน่งว่างลงอย่างน่า

ใจหาย และกลายเป็นที่ว่างที่ใครต่อใครก็ต้องการครอบครอง

ตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลนี้ยังอยู่บนอัฒจันทร์ด้วยหัวใจลุ้นระทึก วันนี้

เธอสวยเฉิดฉายในชุดเกาะอกกระโปรงยาวทรงดอกลิลลี่คว่ำสีเงินยวง ปัก

คริสตัลเป็นลายดอกไม้แวววับที่ประทับแบรนด์หรูจากฝรั่งเศส มือของเธอ

เย็นเฉียบและประสานนิ้วกันไว้แน่น

สี่ปีแล้วที่ดาราสาวเข้ามาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง รับเล่นทั้งบท

นางเอกแสนดีและร้ายแสนแสบ ชื่อเสียงของเธอดังกระฉ่อนไปไกลทั่วอาเซียน

และจีนแผ่นดินใหญ่ และด้วยรูปลักษณ์สูงยาวเข่าดีเข้าขั้นนางแบบอินเตอร์

ใบหน้าสวยหวานละมุนด้วยกลิ่นอายของสาวไทยที่ได้มาจากมารดา แต่ความ

เป็นตะวันตกของฝั่งบิดาก็เด่นชัด ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสุกใสทอประกาย

ระยิบระยับ สะกดผู้คนที่มองมาได้อย่างง่ายดาย เครื่องหน้างามพริ้มเพรา

จมูกโด่งได้รูปและปลายชี้ขึ้นเล็กน้อยอย่างสาวยุโรป ริมฝีปากหยักอิ่มสวย

กำลังดีรับกับใบหน้ารูปไข่ รวมกันออกมาได้ลงตัวชนิดที่ว่านางฟ้ายังอาย

อีกทั้งหญิงสาวมีพรสวรรค์ในการแสดงเป็นเลิศ ราวกับเกิดมาเพื่อ

เป็นศิลปิน ทำได้ดีเลิศทั้งร้อง เล่น เต้น รำ ซ้ำยังทำตัวเป็นคนของประชาชน

เต็มที่ ไม่หยิ่งหรือถือตัวกับใคร ลูกครึ่งไทย-เยอรมันคนนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของ

ผู้คนมากมาย และไม่เคยมีข่าวเสียหายใดๆ ให้มีราคี เข้าเกณฑ์ของผู้ที่จะได้

เป็น ‘เทพธิดาแห่งวงการบันเทิง’ ไม่น้อยไปกว่าใคร

“และรางวัลที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงแล้วนะครับ”

พิธีกรชายท่าทางอ้อนแอ้นที่พยายามแอ๊บแมนเพื่อความสุภาพอยู่บน

เวที ถือไมโครโฟนยืนประกาศอย่างยิ้มแย้ม ชวนให้ทุกคนรอฟังอย่างลุ้นระทึก

“ปีนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ประกาศชื่อผู้ครองตำแหน่ง

เทพธิดาแห่งวงการบันเทิงประจำปีนี้ และผู้ที่ได้รับตำแหน่งได้แก่...”

พิธีกรทิ้งน้ำเสียงลงและเว้นวรรคเล็กน้อยให้ทุกคนในหอประชุมได้ลุ้น

ตาม โดยเฉพาะดาราสาวผู้เป็นตัวเต็งที่ลุ้นเสียจนนั่งไม่ติด ทั้งตัวเย็นเฉียบ

หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเสียงกลอง สองมือประสานกันแน่น และเย็นดุจก้อน

น้ำแข็ง

“พิมลมาลย์ เบล เอมไคลย์”

หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้นเมื่อได้ยินเสียงพิธีกรประกาศชื่อของ

ตัวเองเต็มยศ หญิงสาวอ้าปากค้าง เพราะแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด

“ขอแสดงความยินดีกับเทพธิดาแห่งวงการบันเทิงคนใหม่ล่าสุดด้วย

นะครับ”

เทพธิดาแห่งวงการบันเทิงคนใหม่ล่าสุดปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล หญิงสาว

งามผุดผ่องเผยยิ้มหวานที่ประทับตราตรึงได้ทุกหัวใจออกมา ขณะขึ้นไปรับ

รางวัลบนเวที เธอตื้นตันจนพูดได้เพียงคำว่า ‘ขอบคุณ’

แล้วเสียงปรบมือร่วมแสดงความยินดีก็ดังกึกก้องหอประชุม จากนั้น

มอลลี่ พิมลมาลย์ ดาราสาวผู้เป็นเจ้าของตำแหน่งก็ถือประคองแท่งแก้ว

อันเป็นโล่รางวัลสลักชื่อตัวเองมาประคองไว้ และถือมันลงมาอย่างภาคภูมิ

“มอลลี่ให้สัมภาษณ์ด้วยค่ะ”

ดาราสาวคลี่ยิ้มหวานละลายใจเมื่อได้ยินเสียงสื่อมวลชนเรียกหา และ

ยิ้มกว้างเต็มใจเพื่อจะตอบคำถามพี่ๆ นักข่าวหลายสิบคนที่เข้ามารายล้อม

“รู้สึกยังไงบ้างคะกับการได้เป็นเทพธิดาแห่งวงการบันเทิงคนล่าสุด”

“ดีใจมากๆ เลยค่ะ” หญิงสาวตอบ ดวงตาฉายประกายแวววาวและยิ้ม

อยู่ไม่สร่าง “แล้วมอลลี่ต้องขอบคุณทุกๆ คะแนนโหวตด้วยนะคะ ขอบคุณ

ที่เป็นกำลังใจให้มอลลี่ และขอบคุณกรรมการทุกท่านด้วยค่ะ”

“ได้รับรางวัลแบบนี้ สงสัยทั้งละครทั้งงานโฆษณาคงวิ่งเข้าชนกันพึ่บพั่บ”

“ยินดีค่ะ” ดาราคนดังยิ้มหวานเมื่อคิดถึงผลพลอยได้จากรางวัลนี้

ทั้งที่ในปัจจุบันเธอก็เป็นพรีเซนเตอร์สินค้านับสิบตัว และมีละครสองถึงสาม

เรื่องต่อปี “มอลลี่ขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสมอลลี่นะคะ และมอลลี่สัญญาว่า

จะทำให้ดีที่สุดค่ะ

                “ถ้าเป็นอย่างนี้ รางวัลเทพธิดาแห่งวงการบันเทิงจะไปไหนได้เสียล่ะ

ครับ” นักข่าวชายบอกอย่างชมเชย “เว้นเสียแต่ว่าน้องมอลลี่จะออกจากวงการ

ไปแต่งงานเหมือน แอปเปิ้ล ทักษพร”

“โธ่พี่คะ มอลลี่จะไปแต่งกับใคร ยังเด็กอยู่เลย” พิมลมาลย์ให้สัมภาษณ์

อย่างกระเง้ากระงอด “แล้วตอนนี้มอลลี่ก็ยังโสดค่ะ และมอลลี่ก็รักงานใน

วงการมากๆ อยากจะอยู่ไปอีกนานๆ เลยค่ะ ช่วยเป็นกำลังใจให้มอลลี่ด้วย

นะคะ”

“โสดจริงๆ เหรอคะน้องมอลลี่” นักข่าวอีกคนถามอย่างมีเลศนัย “แล้ว

คุณชายรุจที่เป็นข่าวว่าตามไปเฝ้าที่กองบ่อยๆ ไม่ใช่ตัวจริงของน้องมอลลี่

เหรอคะ”

“อะไรกันคะพี่ๆ” หญิงสาวรับมือกับคำถามนี้อย่างมีจริต นึกไปถึงไฮโซ

หนุ่มที่กำลังตามจีบอยู่ “ไม่หรอกค่ะ เราเป็นเพื่อนกัน เขาแค่แวะไปเยี่ยมเท่านั้น

เอง”

“ถ้าไม่ใช่คุณชายรุจ หรือตัวจริงของน้องมอลลี่จะเป็นคุณชัชพล นัก

ธุรกิจไฟแรงคนนั้นคะ เอ้...หรือจะเป็น เจมส์ จิรจักร พระเอกคู่ขวัญคนใหม่

คะ”

“ไม่หรอกค่ะ” พิมลมาลย์เริ่มยิ้มเจื่อนเมื่อถูกถามเรื่องหัวใจ และคิดว่า

ต้องเอาตัวรอดไปให้ได้ “มอลลี่ขอโฟกัสเรื่องงานก่อนนะคะ ตอนนี้อยากตั้งใจ

ทำงานค่ะ”

 

“ตั้งใจทำงานก็ดีนะ ว่าแต่...แล้วตกลงใครเป็นตัวจริงของหนูกันแน่จ๊ะ

มอลลี่จ๋า”

พิมลมาลย์ถอนหายใจยาวใส่คนถาม แล้วมองด้วยสายตากึ่งเอาเรื่อง

กึ่งระอาช้องนาง ผู้จัดการส่วนตัวสาวใหญ่วัยสามสิบหกที่ขับรถมาส่งถึง

คอนโดฯ หรูย่านกลางกรุง กว่าเธอจะหลบกองทัพนักข่าวที่ระดมยิงคำถามนี้

ใส่ในงานประกาศรางวัลมาได้ก็แทบจะเอาตัวไม่รอด แล้วพี่สาวคนสนิทยังจะ

ถามซ้ำอีก จะให้ตอบสักกี่ครั้งว่าตอนนี้ยังโสด

“ยังไม่เลือกใครทั้งนั้นแหละค่ะพี่ช้องนาง” ดาราสาวตอบกับคนสนิท

อย่างเปิดเผย “เขาก็ดีกันทั้งคู่ ตั้งใจมาจีบมอลลี่ มอลลี่ก็รู้ค่ะ แต่ขอเวลา

มอลลี่ตัดสินใจหน่อยสิคะ”

“จ้า...แม่คนสวยเลือกได้” ช้องนางลากเสียงยาวประชด แต่แววตานั้น

แฝงไปด้วยความหวังดี “หนูก็เพิ่งจะยี่สิบสามมาหมาดๆ เองนะมอลลี่ อนาคต

ในวงการบันเทิงก็อีกไกล เรื่องแฟน พี่ว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนเลย แล้วก็อย่างที่หนู

ว่า ทั้งคุณชายรุจและคุณชัชพลก็เป็นคนดีทั้งคู่ ส่วนนายเจมส์นี่ไม่ต้องเลยนะ

พี่รู้มาว่านางซุกแฟน แต่พี่แค่ไม่อยากให้หนูให้ความหวังพวกเขานานเกินไป

มีผู้ชายเข้ามาพร้อมกันสองคนแบบนี้ เราเป็นผู้หญิงจะถูกมองไม่ดีนะคะลูก”

“ค่ะพี่ช้องนาง” พิมลมาลย์ยิ้มเจื่อน “กับเจมส์ก็แค่เพื่อนร่วมงานค่ะ แต่

คุณชายรุจกับคุณชัชพล มอลลี่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ”

“ถ้าคิดว่ายังไม่ใช่ก็ไม่ต้องรีบตัดสินใจ คนที่เป็นเนื้อคู่ของเราอาจจะยัง

มาไม่ถึงก็ได้ จะเลือกคู่ก็ต้องเลือกให้ดีนะคะคุณน้อง”

“ค่ะ” ยิ่งถูกสอนเรื่องการเลือกคู่ชีวิต พิมลมาลย์ยิ่งหน้าเสียจนต้องหัน

หนี “แต่ตอนนี้มอลลี่ขอดูไปก่อนแล้วกันนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะพี่ช้องนาง

มอลลี่ขึ้นห้องแล้วนะคะ”

ดาราสาวลอบถอนหายใจยาว ในใจนึกไปถึงเรื่องการเลือกคู่ที่ช้องนาง

เพิ่งบอกเมื่อสักครู่...เธอเดินจากลานจอดรถเพื่อจะไปขึ้นลิฟต์กลับห้องพักด้วย

อาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก เพราะคิดถึงแต่ความผิดพลาดมหันต์ของ

ตัวเองในอดีต

ครั้งหนึ่งที่เคยบูชาเทิดทูนความรักอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้เธอเลือกคู่

พลาด กลายเป็นราคีที่ไม่อาจลบได้เลย แต่ตอนนี้เธอเป็นดาวจรัสแสงแห่ง

วงการมายา ความลับมืดดำจึงถูกกาลเวลากลืนกลบไป พิมลมาลย์ได้แต่ภาวนา

ให้ตัวเองลืมอดีตได้เสียที ไม่อยากจำผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว

หญิงสาวสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อจะลบเรื่องบ้าๆ ออกไปจากสมอง แล้ว

ท่องให้ขึ้นใจว่าตอนนี้เธอคือดาราที่กำลังจะได้เป็นเบอร์หนึ่งหรือดาวค้างฟ้า

เพราะรางวัลเทพธิดาแห่งวงการบันเทิงที่เพิ่งได้มา จะช่วยจารึกชื่อของเธอไว้

ในวงการมายาตลอดไป และแน่นอนว่าจะไม่ปล่อยให้ความลับอันฉาวโฉ่ของ

ตัวเองกลับมาทำลายชื่อเสียงที่สั่งสมมาโดยเด็ดขาด และที่สำคัญ ผู้ชายคนนั้น

ก็หายไปจากชีวิตเธอแล้ว เธอควรจะลืมเรื่องบ้าๆ พวกนั้นและเริ่มต้นชีวิตใหม่

เสียที

ในความเงียบงันของลานจอดรถยามดึก หญิงสาวไม่ได้ตระหนักถึง

ภัยเงียบที่กำลังคืบคลานเข้ามา ทว่ามันสายเกินไปกว่าจะรู้ตัวว่ามีอันตราย

ร่างอรชรก็ถูกฉุดเข้าไปในมุมมืด พิมลมาลย์ทำอะไรไม่ถูก เธออยากร้องให้

คนช่วยก็ร้องไม่ออก คิดจะร้องขอความช่วยเหลือ ชายฉกรรจ์ก็ใช้ฝ่ามือใหญ่

อุดปากไว้ ไอ้โจรมุมตึกที่กล้ามาฉุดดาราสาวไม่ได้อำพรางใบหน้า แต่เผยโฉม

เกลี้ยงเกลาให้ได้มองเต็มตา และหัวใจของพิมลมาลย์ก็ถึงกับหยุดเต้นไป

ชั่วขณะ เมื่อได้สบตากับคนที่ฉุดกระชากเธอเข้ามาขังไว้ในวงแขนที่ค้ำยัน

ผนังปูน

“ปล่อยนะ!”

หญิงสาวร้องเสียงแหลมอย่างขัดใจในจังหวะที่ชายร่างใหญ่โน้มใบหน้า

เข้ามาใกล้ จนต้องเบือนหน้าหนีด้วยความกลัว แล้วหัวใจก็ยิ่งเต้นสั่นเพราะ

ลมหายใจของเขารินรดแก้มเธอ

“ไม่คิดจะทักทายหวานๆ กว่านี้หน่อยเหรอ” เขาทำเสียงไม่พอใจกับ

ท่าทางที่เธอแสดงออก “หรือว่าลืมพี่ไปแล้ว”

“ปล่อย!” พิมลมาลย์ร้องเสียงแข็ง ไม่คิดจะทบทวนความทรงจำอะไร

เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น “ไม่อย่างนั้นจะร้องให้คนช่วยจริงๆ ด้วยนะ”

“ร้องสิ” เขาท้า “หนูมลร้องดังเท่าไหร่ พี่จะจูบให้แรงเท่านั้นเลย”

พิมลมาลย์ร้องไม่ออกเมื่อได้ยินคำขู่ของชายหนุ่ม พอเห็นว่าเธอไม่กล้า

สู้ เขาก็ยิ่งโน้มใบหน้าเข้าหาอย่างได้ใจ ใกล้เข้ามาทุกทีๆ และเฉียดพวงแก้ม

นวลไปเพียงนิดเดียวเพื่อส่งเสียงกระซิบที่ข้างหู

                ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงจังเลย เมียจ๋า...”

พิมลมาลย์อยากจะกรีดร้องแต่ก็จุกอกจนร้องไม่ออก เพราะไม่อาจ

ปฏิเสธความจริงจากปากของเขาได้ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เธอไม่ใช่หญิงสาว

ผู้มีประวัติใสสะอาดอย่างที่พยายามสร้างภาพอยู่ในทุกวันนี้ แม้จะพยายามลืม

หรือกลบเกลื่อนสักเท่าไร หรือจะเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่สักกี่หน เธอก็ไม่อาจลบ

ผู้ชายคนนี้ออกไปได้

ป้องฉัตร พาณิชย์วิวัฒนา ผู้ชายที่ฝังตราบาปไว้ในชีวิตและทำลายความ

ไร้เดียงสาของเธอพังยับเยิน

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)