ภารกิจสะกิดใจ ชุดLove Mission (cookie)
ประหยัด: 34.65 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 2 รายการราคา 50.00 บาท - 66.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทที่ 1
ช่วงเวลาโพล้เพล้ ได้ยินเสียงร้องครวญครางที่ชวนให้คนฟังวาบหวิวดังมาจากในห้อง
“ไม่...ไม่นะ...ไม่เอา” เสียงครางอย่างอ่อนแรงผสมผสานกับเสียงหายใจหอบ
“เด็กดี อย่าร้องไห้ อดทนหน่อย อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เสียงคนตอบก็หายใจถี่กระชั้นไม่แพ้กัน
“ไม่...อ๊า!” แล้วเสียงกรีดร้องก็ดังลั่นตามมา
บทสนทนานี้ชวนให้คิดจินตนาการเตลิดเปิดเปิงไปไกล แต่น่าเสียดายที่ในห้องมิได้มีภาพชวนวาบหวิวอย่างที่คิด เพราะเสียงครวญครางเหล่านั้นมาจากหญิงสาวสองคน
หญิงสาวคนที่รูปร่างสูงโปร่งงดงามกำลังกอดเสาร้องวิงวอนสลับกับหอบกระชั้น ส่วนคนที่รูปร่างเล็กกว่าเม้มริมฝีปากและออกแรงดึงเข็มขัดรัดเอวที่ค่อนข้างคอดกิ่วของอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นอีก
“พอเถอะ! ฉันยอมแพ้ ฉันไม่อยากไปแล้ว...” เหลียงซินซีเหงื่อไหลโซม กอดเสาพลางกัดฟันแน่น น้ำตาเอ่อคลอเบ้า
“อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ออกแรงดึงหน่อยก็จะผูกได้แล้ว” เสินฮั่นนีหรือฮันนี่ยืนกรานโดยไม่ยอมคลายมือจากสายรัด
คำตอบที่ได้รับกลับมาคือเสียงครางอย่างสิ้นหวัง
เหลียงซินซีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า เจ็บเอวจะตายอยู่แล้ว โฮๆ เอวที่น่าสงสารของเธอถูกฮันนี่รัดจนขาดแล้วกระมัง
“ฮันนี่ ฉันไม่อยากไปแล้วนี่นา” ซินซีโอดครวญอย่างน่างสาร
“ไม่ไปได้ไง ฉันลงมือลงแรงไปตั้งเยอะกว่าจะยืมชุดแบรนด์เนมนี่มาได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องใส่” ฮันนี่ยืนกรานหนักแน่นและลงมือ ‘ทรมาน’ อีกฝ่ายต่อไป
ซินซีชักเสียใจ รู้สึกเกลียดตัวเองชะมัด ไม่น่าเล่าเรื่องที่เธออยากแอบเข้าไปกินอาหารฟรีในงานเลี้ยงที่โรงแรมแห่งหนึ่งให้ฮันนี่ฟังเลย ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันเป็นความคิดที่โง่มากๆ
ฮันนี่อุตส่าห์ไปขอยืมชุดราตรีรัดรูปมาให้เธอชุดหนึ่งเพื่อจะได้แอบปะปนเข้าไปร่วมงานเลี้ยงอย่างราบรื่น พอชุดราตรีมาถึงมือ พวกเธอก็ค้นพบอย่างสิ้นหวังว่าชุดรัดรูปเสียจนต้องสวมชุดชั้นในแบบสลิมเมอร์จึงจะใส่ชุดนี้เข้าไปได้
ทำไงดี ชุดชั้นในแบบนั้นต้องสั่งตัดพิเศษ แถมยังแพงด้ว
‘อ๊ะ! ใช่แล้ว ย่าฉันเก็บคอร์เซ็ตสมัยสาวๆ ไว้ในหีบเสื้อผ้า น่าจะพอใช้ได้’
สมองของฮันนี่คิดการณ์ฉับไว เธอรีบตรงดิ่งกลับบ้านไปรื้อค้นหีบเสื้อผ้าทันที และกลับมาอีกครั้งในยี่สิบนาทีต่อมา โดยถือเสื้อหน้าตาประหลาดติดมือมาด้วยตัวหนึ่ง
หลังจากนั้นฉากโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นอย่างที่เป็นอยู่นี้
เหลียงซินซีกอดเสาพลางกรีดร้องโวยวาย น้ำตาไหลพรั่งพรูราวก๊อกแตก
เมื่อสวมคอร์เซ็ตเข้าไปยิ่งช่วยขับเน้นส่วนโค้งเว้าของเรือนร่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทรวอกอวบอิ่มเบียดชิด ช่วงเอวที่ถูกรัดจนคอดกิ่วทำให้เธอทรมานแทบตาย
สวรรค์ นี่มันเสื้อผ้าที่ไหนกัน เครื่องทรมานผู้หญิงชัดๆ!
ฮันนี่ยกฝ่าเท้าขึ้นยันแผ่นหลังซินซีพลางออกแรงรั้งเชือกให้แน่นขึ้น พยายามผูกสายให้กระชับ
“หายใจเข้า!” เธอตะโกนสั่ง
“ฉัน...” ซินซีพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก
“หายใจเข้าอีก! ฉันบอกให้หายใจเข้าไง” ฮันนี่ทุ่มแรงหมดตัว เท้าน้อยๆ ทั้งถีบทั้งยันแผ่นหลังพเอน
“ซู้ด ฉัน...ฉัน...ฉัน...”
ออกซิเจน?!
สวรรค์ เธอถูกรัดแน่นจนจะขาดอากาศตายแล้ว
“แปลก ดึงยังไงก็ไม่แน่นสักที” ฮันนี่งุนงงมาก ปล่อยตัวซินซีซึ่งเหงื่อไหลเย็นท่วมตัวแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้ช่วย
“ชิง เสื้อที่เธอให้ฉันยืม ทำไมใส่ไม่ได้ล่ะ” ฮันนี่เงียบเสียง รอฟังคำแนะนำจากกุนซือ “อืม ได้ อืม อย่างนั้นเหรอ”
ซินซีกอดเสา ฉวยโอกาสนี้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างตะกละตะกลาม
ฮันนี่เดินกลับมาด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเต็มที่ ซินซีถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมา
“เขาว่าไง” ซินซีถามเสียงเบา ถ้าไม่ใช่เพราะหอบฮักจนหมดแรง เธอคงติดปีกเผ่นแน่บไปนานแล้ว
“เขาบอกว่าฉันใช้แรงผิดวิธี”
“หา?”
“ฉันควรเหยียบตรงก้นเธอ แบบนี้จะช่วยให้ออกแรงรัดได้ง่ายกว่า” สองมือของฮันนี่คว้าสายรัดไว้ จากนั้นยกเท้าขึ้นยันบั้นท้ายกลมกลึง...
เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังโหยหวนไปทั่วในยามพลบค่ำ
ภายใต้แสงไฟที่จัดแต่งเป็นพิเศษช่วยขับเน้นให้ตัวอาคารทรงปราสาทสีขาวหรูหราหลังนี้ส่องแสงระยิบระยับจับตา ภาพวาดขนาดมหึมาบนผนัง รูปปั้นหินที่แกะสลักอย่างประณีตงดงาม อีกทั้งบ่อน้ำพุที่สะท้อนแสงสีตระการตาล้วนทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจ
สองข้างทางเดินประดับประดาด้วยดอกไม้สดจนแน่นขนัด ชายหญิงในชุดหรูหราเดินขวักไขว่เข้าไปในโรงแรม
คืนนี้มีงานเลี้ยงเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ เจ้าของธุรกิจเดิมขยายกิจการจึงจัดงานอย่างใหญ่โต เชื้อเชิญบุคคลชั้นนำของแต่ละวงการมาร่วมงาน งานเลี้ยงจึงครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง
ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในโรงแรมแต่งกายอย่างหรูหราสง่างาม หลังจากมอบดอกกุหลาบสีชมพูดอกหนึ่งให้บริกรที่คอยต้อนรับแขกเหรื่อหน้าประตูก็ก้าวเข้าสู่บริเวณจัดงาน
ซินซีสังเกตอยู่ครู่หนึ่งค่อยเข้าใจว่าดอกกุหลาบนั่นคือบัตรเชิญเข้างานของแขกเหรื่อทั้งหลาย เธอกำลังเครียดอยู่เลยว่าตัวเองไม่มีบัตรเชิญคงปะปนเข้าไปในงานลำบาก คิดไม่ถึงว่าเจ้าของงานจะโรแมนติกสุดๆ แค่แขกเหรื่อถือดอกกุหลาบสีชมพูมาก็เข้าไปในงานได้แล้ว
เธอก้มตัวลงยื่นมือลงไปควานหาดอกไม้ในซุ้มที่ใช้ตกแต่ง ครู่ต่อมาก็พบดอกกุหลาบสีชมพูดอกหนึ่ง
“โชคดีชะมัด” ซินซีพึมพำกับตัวเอง จากนั้นค่อยๆ ยืดตัวขึ้นช้าๆ แต่ถึงแม้จะขยับตัวเชื่องช้ายิ่งกว่าเต่าคลานแล้ว ภาพที่เห็นตรงหน้าเธอก็ยังวูบไหวแปลกๆ อยู่ดี
หญิงสาวได้แต่นิ่งค้างไปห้าวินาที รอให้อาการวิงเวียนจางหายไปก่อนจึงค่อยขยับตัวอีกครั้ง
บนบันไดหินอ่อนสีขาวมีแขกรับเชิญทยอยเดินเข้างานไม่ขาดระยะ ซินซีรวบรวมกำลังใจแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคน ชายหนุ่มสองคนที่ถูกแทรกแถวชะงักไปครู่หนึ่ง
“คุณผู้หญิง คุณ...”
ซินซีหันไปมอง ใบหน้าเธองดงามจนทั้งคู่ตกตะลึง เส้นผมสีดำขลับเงางามสะท้อนรับแสงไฟหลากสี ชุดราตรีรัดรูปสีแดงเข้มยิ่งขับเน้นให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่ยั่วยวนใจ เนินไหล่และช่วงแขนที่เปลือยเปล่าดูบอบบางเนียนนุ่ม
เธอรอให้อีกฝ่ายพูด แต่ชายหนุ่มทั้งสองกลับอ้าปากค้าง เบิกตาโตและชะงักงันไป
“มีอะไรคะ” เธอร้อนใจอยากเข้าไปในงานเร็วๆ
ชายหนุ่มทั้งสองส่ายหน้าอย่างตะลึงงัน อย่าว่าแต่จะพูดต่อว่าต่อขานเลย กระทั่งชื่อตัวเองยังลืมเสียสนิท ได้แต่จ้องมองซินซี น้ำลายไหลยืดย้อยออกมา
เมื่อไม่ได้รับคำตอบ ซินซีจึงยักไหล่และเดินตรงไปที่จุดต้อนรับ พยายามรักษาความเยือกเย็น ยื่นดอกกุหลาบสีชมพูให้บริกร แม้เธอจะวางท่าทางสง่างาม แต่สองขาใต้กระโปรงกลับสั่นระริกไม่หยุด ตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว
เธอกระวนกระวายใจ ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมาจะถูกบริกรไล่กลับไปไหม
ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างทำให้เธอขนลุกเกรียวขึ้นมา บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน คล้ายกับว่าตั้งแต่เธอปรากฏตัวใต้แสงไฟก็ถูกจับจ้องไม่วางตา
ซินซีรู้สึกหนาวเยือกและร้อนวูบวาบไปพร้อมๆ กัน ถึงแม้ไม่ได้ถูกแตะต้องตัว แต่กลับรู้สึกชาและคันตามผิวหนังราวกับถูกสัตว์ร้ายจับจ้องมาจากมุมมืด...
ซินซีเหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นอะไรผิดสังเกตจึงขมวดคิ้วแน่น
อะไรกัน เธอกินปูนร้อนท้องไปเอง หรือความรู้สึกเฉียบไวเกินไปกันนะ
บริกรรับดอกกุหลาบสีชมพูไปสำรวจดูก้านดอกก่อน
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
"ภารกิจสะกิดใจ ชุดLove Mission (cookie)ไ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น เพราะความอยากแอบเข้าไปกินอาหารฟรีในงานเลี้ยง ณ โรงแรมสุดหรูของ "เหลียงซินซี" ที่ต้องลงทุนใส่ชุดราตรีรัดรูปแน่นเปรี๊ยะ ที่แสนอึดอัด จนทำให้หายใจแทบไม่ออก แต่กว่าที่เธอจะรู้ว่าการอยากกินของที่ไม่ใช่ของตนนี่เป็นความคิดที่โง่มาก ก็สายไปเสียแล้ว เพราะขณะนี้เธอเข้ามาอยู่ในงานได้ตามแผนแล้วเรียบร้อย แต่หญิงสาวกลายเป็นจุดสนใจตั้งแต่อยู่หน้างาน ก็แน่ล่ะ!! เพราะเธอเองก็มีความสวยไม่ใช่เล่น แถมชุดนี้ยังขับเน้นทรวดทรงองค์เอวอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่มีหนุ่มๆ ชายตามองเลยนี่คงผิดปกติแล้วล่ะ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกร้อนวาบแบบแปลกๆ ราวกับมีสายตาร้อนแรงจ้องมองเธอตลอดเวลายังไงยังงั้น "ขออย่าให้ลูกโดนจับได้เลยนะคะ" สายตาคู่นั้นจะเป็นของใครกันนะ! มาติดตามใน "ภารกิจ... สะกิดใจ ชุด Love Mission" เล่มนี้
เขียนโดย "Dian Xin" (เตี่ยนซิน)
แปลโดย "มิรา"
224 หน้า
รีวิว (1)

03/07/2014
ภารกิจสะกิดใจ 1 ในบ๊อกเซ็ตชุด Love Mission ผลงานของเตี่ยนซิน ในเล่มนี้จะเป็นเรื่องของ “เหลียงซินซี” และ “ เว่ยเสียง ” นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอยากแอบเข้าไปกินอาหารฟรีในงานเลี้ยงที่ดรงแรมสุดหรู “เหลียงซินซี” ก็คงมาลงทุนใส่ชุดราตรีรัดรูปแน่นเปรี๊ยะชุดนี้หรอก แต่กว่าจะรู้ว่าการอยากกินอาหารของตัวเองเนี่ยเป็นความคิดที่โง่มากๆ ก็สายไปเสียแล้ว เพราะนางเอกได้เข้ามาอยู่ในงานได้ตามแผนเป๊ะ และนางเอกกลายเป็นจุดสนใจตั้งแต่อยู่หน้างาน ยันเข้ามาในงาน เพราะการใส่ชุดราตรีรัดตึงจนเกินไปและผิดหวังจากการกินอาหารที่เธอคิดว่าจะเลิศรสแต่กลับห่วยสิ้นดี จนซินซีถึงกับเป็นลม และในงานนี้ยังมีตัวละครจากเรื่องอื่นๆในชุดออกมาสร้างสีสันปิดท้ายเล่มนี้อีกด้วย เว่นเสียงหรือJACKAL บอดี้การ์ดผู้รักสันโดษแห่ง ไมซ์เตอร์เวิร์ก กรุ๊ป จับตาคอยมองซินซีอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นคนที่ไม่มีบัตรเชิญแต่ได้เข้ามาในงาน พอเค้าช่วยนางเอกจากตอนเป็นลมแล้วก็พานางเอกไปเค้นความจริงว่าจุดประสงค์ที่แอบเข้ามาในงานคืออะไร ซึ่งหลังจากซินซี บอกจุดประสงค์ไปแล้ว เว่ยเสียงก็ดันเรียกร้อง จะมีอะไรกับนางเอก ซินซีเลยต้องเอาตัวรอดโดยการทำอาหารอร่อยๆให้เว่ยเสียงกินแทน หลังจากทำอาหารให้กันกินไปๆมา พระเอกก็ตามไปช่วยเหลือนางเอกที่ร้านตอนที่กำลังจะถูกผู้ร้ายรังแก และได้เข้าไปอยู่อาศัยกับนางเอกในที่สุด เรียกว่าพระเอกช่วยเหลือนางเอกทุกอย่าง ไม่ว่าจะช่วยผสมแป้ง หรือกวาดร้าน แต่คนที่จะใช้เค้าได้มีเพียงนางเอกคนเดียว และเว่ยเสียงเนี่ยมีอาการกระตุกตรงที่ถ้ามีใครมาแตะเนื้อต้องตัวเค้า จะโดนเค้าต่อยหรือไม่ก็เตะทันที ซึ่งกว่าเค้าจะทำตัวให้ชินกับการมีนางเอกมานอนข้างๆเนี่ย ซินซีของเราก็ตาเขียว ตาปูดแทบทุกวัน จนชาวบ้านชาวช่องคิดว่านางเอกโดนซ้อม ซึ่งเราอ่านไปแล้วฮาจริงๆ