All My Loving รักไม่รู้จบ เล่ม 01

All My Loving รักไม่รู้จบ เล่ม 01

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789743286902
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 139.00 บาท 34.75 บาท
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

                ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าความรักจะยากลำบากขนาดนี้

                ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการรอคอยจะเจ็บปวดขนาดนี้

                แต่ฉันก็ไม่เสียใจ

                ฉันไม่เสียใจที่ได้รักเธอ

                ต่อให้การได้รักเธอเป็นโชคชะตาสุดท้ายในชีวิตของฉัน ฉันก็ไม่เสียใจ

                ฉันรักที่เธอเป็นเธอ ไม่ใช่คนอื่น

 

1

 

                “วอลฮยาง รู้แล้วใช่มั้ยว่าวันนี้ลูกๆ ของเพื่อนๆ แม่จะมา”

                ไม่ใช่แค่ลูกของเพื่อนแม่ ไม่ใช่แค่ลูกๆ ของเพื่อนแม่ แต่เป็นลูกๆ ของเพื่อนๆ แม่ วันนี้เป็นวันที่บรรดาลูกชายของเพื่อนแม่ทั้งสี่คนจะมาอยู่ที่บ้านของเรา แม่ก็เลยยุ่งมากและฉันก็ต้องช่วยแม่ เอ่อ ฉันก็ยุ่งนะ ฉันก็ยุ่งเหมือนกัน!

                “วอลฮยาง รีบเตรียมตัวเข้าสิ”

                เสียงของแม่ทำให้ฉันชะงักแล้วหันไปถาม

                “แม่ พรุ่งนี้หนูมีพิธีปฐมนิเทศนะ หนูไม่ต้องเตรียมตัวหรือไง”

                ใช่แล้ว พรุ่งนี้เป็นวันที่ฉันเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย แต่แม่ก็ยังรอผู้ชายสี่คนที่จะมาที่บ้านเราโดยไม่สนใจฉันซึ่งเป็นลูกสาว นี่ฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของแม่หรือเปล่าเนี่ย!

                “นี่ ลืมไปแล้วเหรอว่าลูกชายทั้งสี่ที่จะมาอยู่บ้านเราก็ต้องไปโรงเรียนพร้อมกับลูกพรุ่งนี้”

                โรงเรียนที่ฉันจะเข้าเรียนพรุ่งนี้นั้นชื่อโรงเรียนมัธยมปลายแฮชูซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ บ้านของเราในตอนนี้มีเพียงแค่ผู้หญิงสองคนคือแม่กับฉัน พ่อไปทำงานที่ต่างประเทศ แม่คิดว่าถ้ามีผู้ชายมาอยู่ด้วยก็คงจะดี

                “แม่ พวกผู้ชายที่จะมาชื่ออะไรบ้างนะ”

                “ความจำแย่จริงๆ ก็มีจองแทลูกของมีจา คยองวอนลูกของเยซุน แฮชอนลูกของซูมี แล้วก็แทวอนลูกของจียอน”

                เพื่อนๆ ของแม่ทุกคนมีแต่ลูกชาย ไม่มีลูกสาว แถมแต่ละคนยังมีลูกชายแค่คนเดียว แม่ของฉันซึ่งไม่มีลูกชายจึงอิจฉาพวกเพื่อนๆ มาก ส่วนเพื่อนๆ ของแม่ก็เอ็นดูฉันมาก (ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวน่ะ)

                “เดี๋ยวแม่ออกไปดูดีกว่า ไม่รู้ว่าหลงทางกันหรือเปล่า”

                ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของแม่หรือเปล่า อ๊ะ! ขอแนะนำตัวก่อนนะ ฉันชื่อซอลวอลฮยาง ซอลแปลว่าหิมะ วอลแปลว่าดวงจันทร์ ฮยางแปลว่ากลิ่น กลิ่นของแสงจันทร์ แต่จริงๆ แล้วฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันอายุสิบเจ็ดปี เป็นนักเรียนใหม่ของโรงเรียนมัธยมปายแฮซู ผมสีเกาลัดของฉันยาวถึงเอว ใบหน้าที่สวยงามของฉันนั้นเหมือนพ่อ อ๊ะ! แม่ของฉันก็สวยนะ แต่ฉันคิดว่าฉันเหมือนพ่อมากกว่า ฉันไม่มีทางเหมือนแม่หรอก (แม้ว่าความจริงแล้วจะเหมือนก็เถอะ) ฉันนั่งลงบนโซฟาแล้วอธิษฐานขอให้ผู้ชายพวกนั้นนิสัยดี...

                “เฮ้ย! ใช่บ้านหลังนี้แน่นะ”

                “บอกว่าใช่ไงล่ะ!”

                “ให้ตายสิ มินคยองวอน แค่นี้ก็ต้องตะโกนด้วย อยากตายเหรอ”

                “นายนั่นแหละตาย แทวอน”

                เสียงเอะอะโวยวายและเสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามา อา มากันแล้วเหรอเนี่ย!

                “ฮัลโหล มีใครอยู่มั้ยครับ”

                ผู้ชายสี่คนเดินถือกระเป๋าเข้ามาพร้อมกับตะโกนถาม ส่วนฉันน่ะเหรอ! ฉันกำลังนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับมองพวกเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

                “อ๊ะ! ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของบ้านนะ!”

                “อ๊ะ! นั่นใช่วอลฮยางหรือเปล่า เหมือนวอลฮยางเลย”

                “ดูท่าทางเอ๋อๆ นะ”

                “หวัดดี! ฉันชื่อคยองวอน”

                ฉันรู้สึกว่าพวกเขามีกลิ่นของพวกคุณป้าติดอยู่ สีหน้าของพวกเขาดูไม่สบายใจยังไงชอบกล ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดว่าจะพูดอะไรกลับไปดีนั้น เสียงของแม่ก็ดังขึ้น

                “อุ๊ย มากันแล้วเหรอ!”

                เสียงของแม่สดใสมาก อา! ดูดีใจยิ่งกว่าได้เห็นหน้าลูกสาวแท้ๆ อีก ขณะที่ฉันกำลังน้อยใจอยู่นั้น เสียงของพวกผู้ชายก็ดังขึ้น

                “คุณป้าเยยอง สวัสดีครับ!”

                “สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”

                สีหน้าของผู้ชายพวกนั้นที่กำลังมองแม่ช่างแตกต่างกับสีหน้าที่มองฉันเมื่อกี้เสียจริงๆ แล้วคำคำหนึ่งก็ผุดเข้ามาในสมองของฉัน

                พวกสองบุคลิก

                “โฮะๆๆ ทักทายลูกสาวป้าแล้วเหรอ”

                “อ๋อ! เมื่อกี้คยองวอนทักทายแล้ว แต่เขาไม่ทักทายตอบครับ”

                “เหรอลูกสาว”

                แม่หันมามองฉันแล้วส่งสายตาคมกริบให้ ฉันจึงฝืนยิ้มออกมา

                “ฮะๆ แม่ก็ เอ่อ หวัดดี”

                ตั้งแต่เกิดมาฉันเพิ่งเคยทักทายแบบฝืนๆ อย่างนี้เป็นครั้งแรก พวกเขายิ้มราวกับตลกในท่าทางของฉัน อา วอลฮยาง ชีวิตเธอช่างน่าสงสารจริงๆ

                “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”

                “หือ อืม”

                ฉันรู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายในแววตาของพวกเขาที่กำลังจ้องมองฉัน ดูเหมือนว่าการอยู่ร่วมบ้านกับผู้ชายพวกนี้จะไม่ราบรื่นซะแล้ว

 

                หลังอาหารเย็นฉันอาสาเป็นคนล้างจาน แต่แม่บอกว่าจะล้างเอง

                “แม่ หนูบอกว่าจะล้างยังไงล่ะ”

                “ลูกสาว”

                “หือ”

                “ไปกินผลไม้กับพวกหนุ่มๆ เถอะ ต้องทำความคุ้นเคยกันไว้ไม่ใช่เหรอ”

                “เชอะ”

                “อยากโดนใช่มั้ย”

                “เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้ว!”

                ยังไม่ทันที่จะปฏิเสธ แม่ก็ยกหมัดขึ้นมา ฉันจึงต้องยินยอมแต่โดยดี แม่ยิ้มอย่างพอใจแล้ววางจานลายสวยลงบนถาด

                พอเปิดตู้เย็นดู ฉันก็ถึงกับตะลึง ฉันอยากถามแม่ว่าผลไม้หลากหลายชนิดเข้ามาอยู่ในตู้เย็นได้ยังไง! และแม่ปอกผลไม้พวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่! ฉันยกถาดผลไม้ออกไปแล้วจ้องมองพวกเขาที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟา

                “วอลฮยาง มานั่งนี่สิ”

                มาอยู่บ้านคนอื่นแถมยังเรียกชื่อลูกสาวเจ้าของบ้านอย่างสนิทสนมอีกงั้นเหรอ!

                “อืม กินผลไม้สิ”

                พอฉันวางถาดลงตรงหน้า พวกเขาก็หยิบผลไม้คนละชิ้นสองชิ้นเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

                “ขอบใจนะ”

                มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พูดว่าขอบใจ หมอนี่คือคนที่พูดมากที่สุดและดูเหมือนว่าจะนิสัยดีที่สุดด้วย

                “ชื่อคยองวอนเหรอ”

                “ใช่ ชื่อมินคยองวอน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”

                ถ้าชื่อคยองวอน ก็ต้องเป็นลูกชายของคุณป้าเยซุนน่ะสิ

                “อืม รู้จักชื่อฉันแล้วใช่มั้ย”

                “รู้สิ วอลฮยางไง ซอลวอลฮยางใช่มั้ย! แม่ฉันพูดถึงเธอบ่อยๆ”

                ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างหมอนี่กับแม่คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเวลาพูดถึงแม่ คิ้วของหมอนี่จะกระตุก น่าสงสารจริงๆ

                “เหรอ”

                ฉันไม่ค่อยชอบสถานการณ์แบบนี้เลย ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเขา ฉันต้องคอยฝืนยิ้มออกมาด้วยนะ คนอื่นที่เหลือกำลังจ้องหน้าฉัน ทำไมฉันต้องสวยมากเลยใช่มั้ยล่ะ

                “ดูท่าทางจะไม่เอ๋อแล้วนะแทวอน”

                “ฉันชื่ออะไรรู้มั้ย”

                ลูกชายป้ามีจา ป้าจียอน หรือป้าซูมีกันล่ะ

                “ฉันชื่ออึนจองแท จำให้ขึ้นใจนะ!”

                “อึนจองแท งั้นก็เป็นลูกชายของคุณป้ามีจาน่ะสิ”

                “รู้จักชื่อแม่ฉันด้วยเหรอ แม่ของฉันก็พูดถึงเธอบ่อยๆ”

                เวลาพูดถึงเรื่องแม่ คิ้วของหมอนี่ก็กระตุก พวกเขาทุกคนมีปัญหากับแม่ถึงได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเราหรือไงนะ! งั้นฉันก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นด้วยเหมือนกัน! จองแทมองฉันแล้วเคี้ยวแอปเปิลอย่างหงุดหงิด น่ากลัวจริงๆ

                “อืม แม่ของฉันชื่อฮันซูมี  แล้วฉันชื่ออะไร”

                ชื่อลุกของคุณป้าซูมี...

                “แฮชอน ฮันแฮชอน”

                “โอ้ วอลฮยาง เธอรู้จักชื่อพวกเราหมดเลยเหรอเนี่ย!”

                “ก็เวลาพวกคุณป้ามาที่บ้าน พวกคุณป้าก็จะ...”

                จับมือฉันแล้วพูดว่า

                ‘ถ้าหนูสนิทกับแฮชอนลูกชายของป้าก็คงจะดีสินะ วอลฮยางคนสวย’

                ‘ต้องสนิทกับคยองวอนของป้านะจ๊ะ’

               ‘วอลฮยางเหมาะสมกับจองแทที่สุดแล้ว’

               ‘วอลฮยาง ลูกชายของป้าชื่อบันแทวอนนะ’

                นี่คือคำพูดของพวกป้าๆ ที่ฉันได้ยินตลอดสิบเจ็ดปี

                “แม่ของพวกเราพูดว่าอะไรเหรอ”

                “อืม งั้นนายก็คือแทวอนใช่มั้ย บันแทวอน”

                ฉันบอกไม่ได้หรอกว่าพวกคุณป้าพูดอะไรกับฉันบ้าง การสนิทกับพวกนายคงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับฉันมาก แล้วเสียงของแม่ก็ดังขึ้น

                “ลูกสาว ช่วยพาหนุ่มๆ ไปแนะนำห้องนอนหน่อยสิ”

                ลูกสาว! ฉันเป็นลูกสาวแค่เฉพาะในสถานการณ์แบบนี้เท่านั้นแหละ เชอะ

                “ห้องนอนของพวกนายอยู่ชั้นสอง ห้องน้ำก็อยู่ชั้นสอง เชิญขึ้นไปเลือกห้องได้ตามสบายเลย ฉันคงไม่ต้องพาขึ้นไป เอ่อ เราขึ้นไปกันเถอะ”

                ฉันตั้งใจจะไม่พาพวกเขาขึ้นไป แต่สายตาของแม่ที่กำลังจ้องมาก็ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ

                พวกเขามองฉันแล้วหัวเราะ ทำไมฉันถึงต้องกลัวแม่ถึงขนาดนี้ด้วยนะ! อา ทำไมชีวิตฉันช่างน่าสงสารอย่างนี้ ฉันต้องสละห้องชั้นสองของตัวเองให้กับลูกชายของคุณป้าจียอน (แทควอน) แล้วลงมาอยู่ห้องชั้นหนึ่งแทน หลังจากที่พาผู้ชายพวกนั้นขึ้นไปดูห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็รีบเข้าห้องชั้นหนึ่ง ความโกรธแค้นที่ถูกแย่งห้องทำให้ฉันห่มผ้าแล้วครุ่นคิดอยู่นาน...ก่อนที่จะหลับไป

 

                เวลาหกโมงเช้า แสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ฉันลืมตา ยังรู้สึกเพลียอยู่เลย

                “อา เมื่อยจัง”

                ฉันบ่นก่อนที่จะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ หลังจากที่สระผมและอาบน้ำเสร็จแล้ว ขณะที่ฉันกำลังแต่งตัว เสียงของคุณแม่สุดที่รักก็ดังข้น อา จริงๆ แล้วไม่ใช่คุณแม่สุดที่รักหรอก แต่เป็นคุณแม่สุดจู้จี้มากกว่า

                “วอลฮยาง ปลุกหนุ่มๆ ทีสิ!”

                เสียงตะโกนของแม่ทำให้ฉันรีบติดกระดุมแล้วออกมายังห้องนั่งเล่น

                “แม่ เมื่อกี้ว่าไงนะ ปลุกใครนะ”

                “ปลุกหนุ่มๆ ชั้นสองไง”

                “แม่ พวกนั้นเป็นฮาซุกแซงที่อยู่บนชั้นสองนะ”

                “ฮาซุกแซงงั้นเหรอ อยากโดนใช่มั้ยลูกสาว”

                ฉันก็แค่พูดเรื่องจริง...แต่แม่ยกมือขึ้นมาทำไมเนี่ย เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วค่ะ

                “ทำไมต้องให้หนูไปปลุกด้วยนะ!”

                “ก็แม่มีแกเป็นลูกคนเดียว ถ้าไม่ใช้แกแล้วจะใช้ใครล่ะ”

                “เชอะ”

                ถ้าแม่มีลูกสาวอย่างฉันสองคนล่ะก็ ลูกสาวทั้งสองคนคงจะพากันจูงมือหนีออกจากบ้าน พอเดินขึ้นมาบนชั้นสอง ฉันก็เห็นประตูที่อยู่ด้านในสุดเปิดอยู่

                “เช้าแล้ว ไม่คิดจะตื่นกันหรือไง”

                ฉันทำท่าจะเดินเข้าไปในห้อง แต่ฉันไม่เคยปลุกผู้ชายเลย นี่เป็นครั้งแรก ทำยังไงดีล่ะ

                “อ๊ะ! หวัดดี!!!!”

                การปรากฏตัวและคำทักทายของฉันทำให้เขาตกใจ หมอนี่ชื่ออะไรนะ

                “มาทำอะไรน่ะ”

                ฉันเกาหัวแกรกๆ จำไม่ได้ว่าหมอนี่ชื่ออะไร

                “เอ่อ แม่ให้มาปลุก ตื่นแล้วนี่ งั้นฉันลงไปล่ะนะ นายช่วยปลุกคนอื่นๆ ด้วยแล้วกัน บาย”

 

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (66 รายการ)

www.batorastore.com © 2024