Nirvana Island Episode II เกาะร้าง(ไม่)ห่างรัก (หนุ่มกรุงโซล + Just Nightmare)

Nirvana Island Episode II เกาะร้าง(ไม่)ห่างรัก (หนุ่มกรุงโซล + Just Nightmare)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160612000
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 139.00 บาท 34.75 บาท
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน


Chapter IV
"Once Upon a Time"

    36

Momay

"วิ่ง!"

ใครคน,หนึ่งตะโกนขี้'น ฉันจึงรีบวิ่งหัวซุกหัวซุนเข้าไปในป่าซึ่งมีพุ่มไม้ รกชัฏเหมาะแก่การพรางตัว แม้จะมีคำสั่งห้ามอย่างเข้มงวดว่าไม่ให้ เข้ามาเล่นในป่าแห่งนี้ แต่ใครบางคนเคยบอกฉันเอาไว้ว่า 'ที่ที่อันตราย ที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด,

ฉันวิ่งลัดเลาะแนวกิ่งไม้ใบหญ้าลึกเข้าไปภายในป่าต้องห้าม หัวใจ เต้นตึกตัก ในหัวคิดแต่ว่าต้องวิ่งไปไห้ไกลที่สุดโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองวิ่ง เข้าไปลึกแค่ไหนแล้ว คิดเพียงแต่ว่ายิ่งลึกยิ่งปลอดภัย

เมื่อรู้สึกว่าอยู่ในบริเวณที่น่าจะปลอดภัยแล้ว ฉันก็เริ่มมองหาที่ ซ่อนตัว ฉันมองไปรอบตัวและบังเอิญเห็นกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งตั้งอยู่ เดียวดายกลางป่า วินาทีนี้ฉันรู้เลยว่านี่แหละม้อมปราการที่ฉันกำลังมองหา เมื่อคิดไต้ดังนั้นจึงค่อยๆ เดินไปที่กระท่อมหลังนั้น ระมัดระวัง'ฝีเท้าไม่ให้ เกิดเสียงสวบสาบเมื่อเหยียบย้ำใบไม้แห้ง ฉันมองซ้ายมองขวาตลอดจน มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูกระท่อมหลังนั้น สังเกตเห็นว่าประตูเปิดแง้มอยู่

เล็กน้อย ราวกับใครบางคนเปิดทางต้อนรับฉันอย่างเต็มใจ ฉันแนบตา เข้ากับซ่องว่างระหว่างประตูหวังจะสำรวจสถานที่เพื่อความแน่ใจ แต่กลับ มองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงความดำมืดที่กวักมือเชื้อเชิญให้ฉันเข้าไป ฉัน ลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินเสียงสวบสาบดังมาจากทิศใดทิศหนึ่งของป่า เวลาในการตัดสินใจของฉันก็ลดน้อยลงอย่างฉับพลัน ฉันค่อยๆ ด้นประตู เข้าไปโดยระวังไม่ให้เกิดเสียง แต่บางอย่างเราก็ควบคุมไม่ได้ แอ๊ด...

แม้จะมีเสียงเพียงเล็กน้อย แต่บรรยากาศที่เงียบสงัดกลับช่วยขับให้ มันด้งกังวานกว่าที่ควรจะเป็น ฉันจึงรีบด้นประตูปิดก่อนที่จะถูกเห็นเข้า "ฮู่ววว!"

ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกทันทีที่ประตูปิดลง รับรอง ได้เลยว่านี่คือสถานที่ซ่อนตัวระดับพรีเมี่ยมซึ่งมีแต่ฉันเท่านั้นที่ด้นพบ ช่วงแรกฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ข้างในนี้มืดสนิททั้งที่เป็นเวลา กลางวัน แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่าว่าแต่ภายในนี้ที่มืดเลย ข้างนอก ก็มืดราวกับกลางคืน คงเป็นเพราะบริเวณนี้ถูกตันไม่ใบไม้ปกคลุมไปทั่ว จนแสงสว่างของพระอาทิตย์ส่องมาไม่ถึง ชั่ววินาทีหนึ่งความมืดทำให้ฉัน รู้สึกกลัวชื้นมาจับใจ กลัวจนขนลุกตั้งขันเก้าสิบองศา แต่มันคงเป็นเรื่อง ธรรมดาของเด็กผู้หญิงอายุสิบสองปีที่จะกลัวความมืด เพราะเราไม่รู้ว่า มีอะไรอยู่ตรงหน้า ไม่รู้แม้กระทั้งว่ามีอะไรอยู่รอบตัว บางขณะก็รู้สึกว่า มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาจากในความมืด บางขณะก็รู้สึกเหมือนมีคนยืน อยู่ข้างหลัง และเพียงลมพัดผ่านไปอย่างแผ่วเบา ฉันก็ยังรู้สึกเหมือนกับ ว่ามีมือของใครบางคนลูบอยู่ที่ตันคอ

ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดตอนอยู่ในความมืดคือช่วงที่ฉันพยายาม ปรับตัวเข้ากับมัน ฉันทนอึดอัดอยู่ชั่วอึดใจจนกระทั้งเริ่มปรับสายตาได้ ความรู้สึกตึงเครียดถึงได้ผ่อนคลายลงไปบ้าง ตรงหน้าไม่มีสัตว์ประหลาด หรือภูตผีปีศาจจ้องมองมาแบบที่เด็กๆ อย่างเราจินตนาการกันไปไกล "ฮู่ววว!"

เป็นอึกครั้งที่ฉันผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ

ภายในกระท่อมแห่งนี้มีลักษณะเหมือนบ้านคนทั่วไป ทุกอย่างดู ปกติดียกเว้นกลิ่น มันเป็นกลิ่นที่ฉันสัมผัสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามา เพียง แต่จังหวะนั้นความกลัวที่มืดมีมากกว่า ฉันจึงไม่ได้โฟกัสกับเรื่องกลิ่น ซึ่งตอนนี้กำลังก่อมวลฉุนกึ้กขึ้นทุกขณะ ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่าง เน่าตายอยู่ในกระท่อมนี้ แต่พอผ่านไปลักพักจมูกก็เริ่มชินจึงพอทนได้ เอาเถอะ ยังไงฉันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่นาน ฉันขออนุญาตเจ้าของกระท่อมอยู่ในใจ ก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงซอกเล็กๆ ข้างตูโชว์ ถ้าเป็นที่นี่ด้องไม่มีใครหาฉัน เจอแน่

ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่านั่งจนเมื่อยไปหมด สายตา ก็คอยมองดูรอบๆ ว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ หูก็คอยพังว่า'จะมีเสียง มีเท้า'ใครเดินมาที่กระท่อมนี้'หรือเปล่า เมื่อเห็นว่าภายในกระท่อมไม่มีใคร และก็ดูท่าว่าจะไม่มีใครผ่านมาแถวนี้ฉันเลยลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสายคลาย ความเมื่อยล้าซะหน่อย ระหว่างนั่นสายตาก็สำรวจไปบนตูโชว์ซึ่งมีกรอบรูป วางเรียงราย ภาพในกรอบรูปแทบทั่งหมดเป็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งท่าทางรักกัน หวานชื่น มีทั้งภาพถ่ายที่ทะเล ภูเขา น้ำตก ไปจนถึงรูปแต่งงาน ฉันรู้สึก หัวใจพองโตอย่างประหลาด ภาพพวกนั่นบอกเล่าเรื่องราวโดยไม่ต้องมี คำบรรยายอื่นใดให้สึกซึ้ง ฉันรู้สึกราวกับทั้งคู่เป็นเจ้าหญิงเจ้าชายในโลก แห่งความเป็นจริง และขณะที่ฉันกำลังเคลิบเคลิ้มกับเรื่องราวความรักของ ทั้งคู่อยู่นั่น อยู่ๆ ก็มีเสียงสวบสาบดังที่นอกกระท่อม

"0_0;"

ฉันรู้สึกตื่นตัวและหลุดออกจากภวังค์ความรักของหนุ่มสาวในภาพ ทันที เมื่อแนบหูลงกับพื้นกระท่อมฉันก็ยิ่งได้ยินเสียงนั่นซัดเจน สวบสาบ...สวบสาบ...

ใช่...มันเป็นเสียง'ฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินย้ำใบไม้แห้งตรงมาทาง กระท่อมนี้

สวบสาบ...สวบสาบ...

เสียงนั่นดังใกล้เข้ามาอีก และฉันรู้ไนทันทีว่าต้องหาที่ซ่อนตัวที่มิดชิด

ขึ้นอีก

 

ฉันมองไปรอบๆ เพื่อหาจุดยุทธศาสตร์ในการซ่อนตัว แต่เมื่อ พิจารณาดูแต่ละสิ่งแต่ละอย่างในกระท่อมหลังนี้แล้วฉันก็ไม่แน่ใจว่าซุกตัว เข้าไปแล้วจะกลับออกมาได้หรือเปล่า และระหว่างที่กำลังใช้ความคิด อย่างหนัก...

แอ๊ด...

พ                                   ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาขณะที่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะซ่อนตัว

ตรงไหนดี

ไม่ทันแล้ว!

ฉันนั่งลงซุกตัวที่ซอกเล็กๆ ข้างตู้โชว์เหมือนเดิม ตึก...ตึก...ตึก...

เสียง'ฝีเท้ายาเข้ามาภายในตัวกระท่อม

แอ๊ด...

ประตูปิดลง

ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...

หัวใจของฉันเต้นแรงมาก แรงเสียจนกลัวว่าผู้มาเยือนจะได้ยินและ เห็นว่าฉันซ่อนตัวอยู่ในซอกเล็กๆ นี่ ฉันพยายามบอกให้หัวใจเต้นข้าลง แต่ มันกลับไม่ให้ความร่วมมือกับฉันเลย บ้าจริง!

ตึก...ตึก...ตึก...

เสียง'ฝีเท้าเดินยาไปรอบบ้าน จากมุมที่ฉันซ่อนตัวอยู่ทำให้มองเห็น ไม่ถนัดว่าผู้ที่มาเยือนเป็นใคร น่าอึดอัดชะมัด ฉันได้ยินเพียงเสียง'ฝีเท้าเดิน ไปเดินมา ไกลออกไปบ้าง ใกล้เข้ามาบ้าง บางทีก็ใกล้เสียจนฉันแทบจะ ลืมหายใจ

พักหนึ่งเสียง'ฝีเท้านั่นเงียบหายไป ฉันพยายามเงี่ยหูพังความ เคลื่อนไหวโดยรอบ แต่ก็ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น หรือว่าใครคนนั่นจะออกจาก กระท่อมไปแล้ว? ไม่สิ ถ้าออกไปแล้วก็ต้องได้ยินเสียงประตู แตนยัง ไม่ได้ยินเสียงประตูเลย งั้นก็แปลว่าใครคนนั่นยังอยู่ในกระท่อมหลังนี้

ว่าแต่...อยู่ตรงไหนกันล่ะ!?

ฉันค่อยๆ ยืดตัวขึ้นจนกระทั้งระดับสายตาเลยขอบตู้โชว์จนมองเห็น

ภายในกระท่อม เมื่อกวาดสายตาไปทั่วแล้ว ฉันก็ยังไม่เห็นความ เคลื่อนไหวอะไร ที่จริงแล้วภายในห้องนี้นอกจากประตูหน้าแล้วยังมีประตู อีกบานหนึ่งซึ่งสามารถเปิดเชื่อมไปอีกห้องได้ ฉันคาดว่าอาจจะเป็น ห้องนอนหรือห้องน้ำ บางทีใครคนนั้นอาจจะเปิดประตูบานนั้นเข้าไป แต่ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าฉันไม่ได้ยินเสียงประตูเลยแม้แต่น้อย จึงเป็นไปไม่ได้ เลยที่ใครคนนั้นจะเข้าไปยังอีกห้องหนึ่ง แน่นอนว่าแขกไม่ได้รับเชิญคงยัง อยู่ในห้องนี้ แต่ที่แปลกคือฉันไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ในห้องนี้เลย เมื่อคิด มาถึงตรงนี้ฉันก็ขนลุกซู่ไปถึงกลางหลัง ตัวสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้ และ วินาทีนั้นเองที่ฉันเห็นศีรษะของใครคนหนึ่งค่อยๆ โผล่พ้นนั้นมาจาก ขอบตู้ฝังตรงข้ามกับที่ฉันซ่อนตัวอยู่ "0_0;"

หัวใจของฉันร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เห็น เสี้ยวของศีรษะ ฉันก็ทรุดตัวลงนั่งที่เดิมแล้วหลับตาสวดมนต์ภาวนาขอให้ ใครหรืออะไรก็ตามที่อยู่ฟากฝังตรงข้ามไม่รู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ นะโม...นะโม...นะโม...

ฉันเอาแต่ท่องบทสวดแบบผิดๆ ถูกๆ อยู่ภายในใจ เพี้ยง!

ตอนนั่นเองที่ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อมืออันเย็นเยียบของใครคนหนึ่งคว้า หมับเข้าที่แขนของฉัน

"0_0;"

เฮือก!

"แปะ!"

แปะ? แปะงั้นเหรอ!? 0_0;

ฉันเบิกตาค้างและพบว่าคนที่เอื้อมมือมาจับแขนฉันคือเด็กผู้หญิง คนหนึ่ง ผมสีดำสนิทของเธอยาวประบ่า หน้าตาจิ้มลิ้มนี้อายอย่างที่ฉัน คุ้นเคย ตอนนั่นเองที่ฉันโพล่งซื่อของเธอออกมาเสียงตัง

ไลลาพูดพร้อมกับยิ้มกริ่มด้วยความดีใจ ส่วนฉัน...วิญญาณออกจาก ร่างไปแล้วรึเปล่าก็ไม่รู้ ให้ตายสิ!

"ตกใจหมด ยัยบ้าเอ๊ย!"

ฉันโวยกลับไปทันทีที่ได้สติ

ไลลาเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเจอกัน เราเจอกันบนเกาะที่ซื่อว่า 'เนอร์วานา, ครอบครัวของเธอก็มาพักตากอากาศเซ่นเดียวกับครอบครัวฉัน ในขณะที่พวกผู้ใหญ่สังสรรค์กันที่โต๊ะอาหาร พวกเด็กๆ ก็กลายเป็นเพื่อน เล่นกันบนหาดทรายไปโดยปริยาย

"เธออยากหาที่ซ่อนลึกลับก่อนทำไมล่ะ"

"ก็คิดว่าจะไม่มีใครหาเจอแล้วเซียว อู่ว! เซ็งซะมัด!"

"เอาน่า ยังไงเธอก็คนสุดท้ายตามเคย อย่างน้อยก็ไม่ต้องเป็นคน ปิดตาในรอบต่อไปล่ะนะ"

ไลลาพูดถึงเกมซ่อนแอบที่เราเล่นกันอยู่ มันเป็นเกมธรรมดาสามัญ ที่เด็กทุกคนบนโลกนี้เคยเล่น ฉันคงไม่ต้องอธิบายกติกาอะไรให้มากความ เอาเป็นว่าใครก็ตามที่ปิดตาจะหาตัวฉันเจอเป็นคนสุดท้ายเสมอ เพราะที่ ซ่อนตัวของฉันมักจะไม่ค่อยมีใครคาดถึง ครั้งนี้ก็เซ่นกัน

"กลับกันเถอะ"

ฉันบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน แต่ไลลากลับเอื้อมมือมาปิดปากฉันไว้แล้ว ใช้นี้วชี้แตะที่ริม'ฝีปากของตัวเองเป็นสัญญาณให้ฉันเงียบเสียง "ช่ววว!"

นี้.นี้

ฉันเบิกตาโตเป็นเซิงถามว่า 'มีอะไรเหรอ, ไลลาตอบฉันด้วยการ เปลี่ยนตำแหน่งนิ้วชี้ซึ่งแตะอยู่บริเวณริมฝีปากมาชี้ที่หูแทน พัง...

เสียงงั้นเหรอ 0_0

ฉันเพ่งสมาธิไปที่การพังและพบว่ามีเสียงหนึ่งดังใกล้เช้ามาบริเวณ กระท่อม

แท่ด...แท่ด...แท่ด...

 

 

(โปรดติตตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

‘อะเดล’ ‘โมเม’ ‘โยชิ’‘การ์เดียน’ ‘เคอร์ฟิวส์’ ‘วีซ่า’และ ‘ไลลา’คือหนุ่มสาวผู้โชคดีทั้ง 7 คนที่เดินทางมาพักผ่อนบนเกาะ Nirvana Islandที่ควรจะเป็นสรวงสวรรค์อันแสนวิเศษท่ามกลางบรรยากาศส่วนตัว ทว่าเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลหลายๆ อย่างที่พวกเขาพบเจอได้นำมาซึ่งความสะพรึงอันหลอกหลอนในจิตใจ บวกกับพฤติกรรมแปลกประหลาดของพนักงานอย่าง ‘องศา’ ที่เหมือนจะมีลับลมคมในชอบกลนั้นก็สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้ทุกคนไม่น้อย
 
และในที่สุด... มันก็มาถึงตอนที่เรื่องราวได้เดินทางย้อนกลับไปในอดีตว่าเคยมีอะไรเกิดขึ้นบนเกาะแห่งนี้กันแน่ พร้อมกันนั้นก็เปิดเผยตัวตนในวัยเยาว์ของแต่ละคนออกมาด้วย แน่นอนว่าความลับดำมืดค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกทีละน้อย ที่เหลือก็คือ... พวกเขาจะกล้าเผชิญหน้ากับความจริงในอดีตของตนเองหรือไม่!

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (69 รายการ)

www.batorastore.com © 2024