ป้อนรัก (Cookie)

ป้อนรัก (Cookie)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160607792
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 119.00 บาท 29.75 บาท
ประหยัด: 89.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

 

ช่วงเช้าวันหยุด

ดอริสตากเสื้อผ้าที่ระเบียงเสร็จแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดีจังเลย อากาศปลอดโปร่งแจ่มใส งั้นวันนี้คนคนนั้นก็คงจะมาสินะ!

เมื่อคิดว่าอีกเดี๋ยวก็จะได้เจอคนคนนั้น ใบหน้าสวยหวานของเธอก็เผยยิ้มออกมา

“ดอริส”

พอได้ยินเสียงพ่อตะโกนเรียก ดอริสก็ขานตอบว่า “มาแล้วค่ะ” แล้วเดินเข้าไปในห้องรับแขก

“ก่อนหน้านี้ลูกพี่ลูกน้องของลูกเอาเหล้านอกมาให้พ่อไม่ใช่เหรอ พ่อจำไว้ว่าวางไว้ในตู้เก็บของ แต่หายไปไหนก็ไม่รู้ ลูกเอาเหล้านอกขวดนั้นไปหรือเปล่า” แกรนต์วัยห้าสิบกว่าปีแปลกใจ เขาวางเหล้าไว้ในตู้เก็บของแท้ๆ หายไปได้ยังไงเนี่ย เมื่อกี้เขาถามลูกชายที่นั่งดูการแข่งขันบาสเกตบอล NBA อยู่ที่โซฟาแล้ว แต่ลูกชายบอกว่าไม่ได้เอาไป แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเหล้าหายไปตอนไหน

ดอริส หม่าสูงหนึ่งร้อยห้าสิบห้าเซนติเมตร รูปร่างบอบบาง จึงค่อนข้างดูตัวเล็กน่ารัก เวลาพูด เสียงเบาๆ จะสะบัดสะบิ้งเล็กน้อย เธอมองพ่อและถามว่า “พ่อคะ เดี๋ยวพ่อจะไปบ้านคุณลุงไม่ใช่เหรอ จะเอาเหล้านอกขวดนั้นไปทำอะไรหรือคะ”

คุณลุงเป็นพี่ชายแท้ๆ ของพ่อเธอ ตอนนี้ลูกชายเพียงคนเดียวของคุณลุงอยู่ที่อเมริกา หลังจากคุณป้าเสียชีวิตเมื่อสามปีก่อน คุณลุงเคยไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายที่อเมริกา แต่ไม่คุ้นชิ้น บวกกับคิดถึงเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไต้หวัน จึงกลับมาที่ไต้หวันอีก บางครั้งบางคราวที่คิดถึงหลานๆ ถึงจะบินไปหาที่อเมริกา ส่วนพ่อของเธอมักจะไปเยี่ยมคุณลุงที่อยู่ตัวคนเดียวในวันหยุดบ่อยๆ

เมื่อได้ยินลูกสาวถามแบบนี้ แกรนต์จึงเดาว่าลูกคงเอาเหล้านอกไป เขาอดยิ้มเจื่อนไม่ได้ ท่าจะไม่ดีเสียแล้ว ลูกสาวคงจะไม่เอาเหล้านอกให้เขานอก

แม้ลูกสาวจะหน้าตาน่ารักมาก...น่ารักมากจริงๆ คนเป็นพ่ออย่างเขาไม่ได้คุยโม้ ใบหน้าที่น่ารักของลูกสาวไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากสมัยเด็กนัก เธอคล้ายกับภรรยาที่จากไปแล้วมาก กระทั่งนิสัยใจคอก็เหมือนกันเปี๊ยบ เรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดกล่อม

เมื่อเห็นพ่อไม่ตอบ ดอริสก็หรี่ตาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “พ่อคะ พ่อคงจะไม่ได้คิดเอาเหล้านอกขวดนั้นไปดื่มกับคุณลุงหรอกใช่ไหมคะ”

“คือว่า...” แกรนต์ยิ้มแหยๆ ไม่มีท่าทีปฏิเสธ

“รู้อยู่แล้วเชียวว่าพ่อต้องทำแบบนี้ เหล่านอกขวดนั้นหนูเลย ‘เก็บ’ ไปตั้งนานแล้ว” ดอริสยิ้ม ยอมรับว่าตนเองเอาเหล้านอกที่พ่อวางไว้ในตู้ไปเก็บซ่อนเอาไว้

“ลูกจ๋า ลูกเอาไปเก็บไว้ที่ไหนเหรอจ๊ะ” แกรนต์ถาม

“พ่อคะ ไปบ้านคุณลุงซื้อผลไม้ก็ได้ค่ะ ส่วนเหล้าไม่ต้องเอาไปหรอก”

“แต่ว่า...”

“ไม่ต้องแต่ค่ะ ซื้อผลไม้ก็พอแล้ว”

โดนัลด์ที่ดูการแข่งขันบาสเกตบอล NBA อยู่ข้างๆ ถือโอกาสช่วงพักเบรกโฆษณาช่วยพูดขอร้องแทนพ่อ “พี่ เอาเหล้านอกคืนพ่อไปเถอะ บางครั้งผู้ชายก็อยากจะดื่มเหล้าสักแก้ว ความรู้สึกแบบนั้น อารมณ์แบบนั้น พวกผู้หญิงอย่างพี่ไม่เข้าใจหรอก”

โดนัลด์ หม่าอายุยี่สิบสี่ปี อ่อนกว่าพี่สาวสองปี เขาปลดประจำการทหารเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ตอนนี้ทำงานเป็นพนักงานธุรการที่บริษัทเทรดดิ้งแห่งหนึ่ง วันหยุดเขามักจะติดตัวกับแทมมี่ แฟนสาว แต่วันนี้เขาเลือกเก็บตัวอยู่กับบ้าน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อดูการแข่งขันบาสเกตบอลของ ‘หาวเสียวจื่อ’ ที่ช่วงนี้ป็อบปูล่าร์มาก

“ใช่ๆๆ อย่างที่โดนัลด์พูดนั่นแหละ พ่อแค่อยากดื่มกับลุงของลูกสักแก้ว” แกรนต์ยิ้มให้ลูกชายเป็นการขอบใจที่ช่วยพูดขอร้องให้

โดนัลด์กํขยิบตาให้พ่อเป็นนัยว่าไม่ต้องเกรงใจ ผู้ชายช่วยผู้ชายด้วยกันเป็นเรื่องสมควรแล้ว

แน่นอนว่าดอริสเห็นพ่อและน้องชาย ‘ส่งสายตาให้กัน’ เดี๋ยวเธอค่อยจัดการเจ้าน้องคนนี้ทีหลัง เธอตีสีหน้าเคร่งขรึม “พ่อคะ พ่อเป็นโรคความดันโลหิตสูง คุณหมอบอกว่าต่อไปห้ามแตะพวกเหล้า อย่าว่าแต่ดื่มแก้วเดียวเลย ดื่มคำเดียวก็ไม่ได้ค่ะ” โชคดีที่เธอรู้ทันเอาเหล้าไปซ่อนไว้ ถ้าพ่อเอาเหล้านอกไปที่บ้านคุณลุงจริงๆ คงไม่ดื่มแค่แก้วเดียวแน่ “พ่อคะ อย่าดื่มเหล้าเลย อย่าให้หนูต้องกังวลเลยนะ”

แกรนต์มองดูลูกสาวที่เป็นห่วงสุขภาพของเขา เขายังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ เขาไม่อยากทำให้ลูกสาวที่น่ารักต้องเป็นกังวล จึงได้แต่เชื่อฟังอย่างว่าง่าย “พ่อรู้แล้ว พ่อจะซื้อผลไม้ไปที่บ้านคุณลุงของลูกนะ”

“ขอบคุณค่ะพ่อ” ดอริสยิ้มดีใจแล้วหันกลับมามองน้องชายเธอ “โดนัลด์ สองเดือนที่แล้วเธอขอยืมเงินพี่ห้าพันเหรียญ เดือนที่แล้วก็ยืมอีกหกพันเหรียญ เธอสัญญาว่าพอเงินเดือนเดือนนี้ออกก็จะคืนให้พี่ นี่เงินเดือนออกมาตั้งอาทิตย์แล้ว เงินล่ะ ถ้าไม่คืนเงินมาล่ะก็ ต่อไปบ้านนี้จะไม่มีข้าวให้เธอกิน เธอต้องหากินเอาเอง เข้าใจไหม”

แม่จากโลกนี้ไปตอนที่เธออายุสิบสี่ปี จากนั้นเธอก็ต้องทำงานบ้านแทนแม่ แม้การทำงานบ้านไปด้วยเรียนหนังสือไปด้วยจะค่อนข้างยุ่ง แต่เธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด เพราะพ่อและน้องชายเป็นคนในครอบครัวที่สำคัญที่สุด

แต่เจ้าเด็กคนนี้กินอาหารที่เธอทำ ใส่เสื้อผ้าที่เธอซัก ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นพวกกระเป๋าแห้ง (เงินเดือนหมดเกลี้ยงทุกเดือน) ชอบยืมเงินเธออยู่เรื่อย นึกไม่ถึงว่าจะกล้าพูดใส่หน้าเธอว่าผู้หญิงไม่เข้าใจอารมณ์ผู้ชาย ช่างน่าขำเสียเหลือเกิน

หากินเอาเอง? โดนัลด์อ้าปากกว้าง เขาเพิ่งจะทำงานบริษัทไม่ถึงครึ่งปี เงินเดือนก็ไม่สูง ถ้าเดือนๆ หนึ่งต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหลายพันซื้ออาหารสามมื้อ สำหรับเขาแล้วมันช่างเป็นการลงโทษที่โหดร้าย เขาจึงแสดงละครว่าสำนึกผิดและจะปรับปรุงตัวขึ้นมาทันที การรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

“พี่ เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ฉันยังพูดไม่จบ พี่เก็บเหล้าไปเพราะเป็นห่วงสุขภาพของพ่อ พี่ทำได้เยี่ยมจริงๆ ฮ่าๆ” โดนัลด์หัวเราะเสียงดังเลียนแบบโจวซิงฉือ แล้วปรบมือโห่ร้อง

ดอริสกลั้นหัวเราะ “จริงน่ะ แล้วเมื่อกี้ที่เธอพูดว่าบางครั้งผู้ชายก็อยากจะดื่มเหล้าสักแก้ว ความรู้สึกแบบนั้น อารมณ์แบบนั้น ฉันไม่เข้าใจหรอก ตกลงมันยังไงกันแน่”

“คำพูดไร้สาระพรรค์นั้น ลืมไปหมดแล้วล่ะ!” โดนัลด์พูดอย่างตรงไปตรงมา

“ถึงเธอจะเห็นด้วยกับฉัน แต่เงินที่เธอยืมฉันไป...”

“พี่ เก้าโมงครึ่งแล้วนะ ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้เดี๋ยวพี่ไปทำงานสายนะ” โดนัลน์เตือนพี่สาวด้วย ‘ความหวังดี’ ว่าได้เวลาออกจากบ้านแล้ว

ดอริสดูนาฬิกาที่ผนัง เธอส่งเสียงร้อง เธอลืมเวลาไปจริงๆ จึงรีบเดินไปหยิบเสื้อโค้ตและกระเป๋าถือในห้อง เมื่อบอกลาพ่อและน้องชายเรียบร้อยแล้วก็เดินออกจากประตูบ้าน

โดนัลด์ถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูใหญ่ เขาควรจะเก็บสตุ้งสตางค์ที่มีไม่มากไว้ให้ดี พี่สาวของเขาน่ากลัวจริงๆ ใบหน้าอันน่ารักเป็นเพียงภาพลวงตา เขาและพ่อได้แต่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขาล่ะอดเห็นใจว่าที่สามีในอนาคตของพี่สาวไม่ได้ จะต้องโดนฝึกให้เชื่องเหมือนสัตว์แน่นอน

ดอริสเดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์แล้วหันกลับไปมองบ้านที่อยู่บนชั้นหก เธอไม่ได้อยากทวงเงินน้องชายจริงๆ หรอก แค่อยากให้เด็กคนนี้ช่วยดูแลพ่อ อย่าให้พ่อดื่มเหล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าช่วยให้พ่อบรรลุเป้าหมายที่จะดื่มเหล้าได้ แต่ตอนนี้ท่าทางเธอคงไม่ต้องกังวลไปสักพัก เธอยิ้มหวานพลางรีบเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้า

 

ร้านกาแฟ Deep Blue ซึ่งตั้งอยู่ที่ย่านคนรวยเขตตะวันออกเริ่มเปิดให้บริการตอนสิบโมงเช้า

เซลิน่า หานยืนชงกาแฟอย่างคล่องแคล่วที่เคาน์เตอร์บาร์ เธออายุยี่สิบแปดปี เมื่อสองปีที่แล้วเธอได้เซ้งร้านกาแฟร้านนี้ จึงเป็นทั้งเจ้าของร้านและผู้จัดการร้าน กิจการร้านกาแฟดำเนินไปได้ไม่เลว เริ่มแรกมีบริกรสามคน ตอนนี้เพิ่มเป็นห้าคน บวกกับพนักงานพาร์ตไทม์ช่วงวันหยุดอีกสองคน

“คุณปู่ซุน อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

ดอริสเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ระยะสั้นของร้านกาแฟ เธอยิ้มทักทายคุณปู่ซุน ลูกค้าขาประจำ คุณปู่ซุนวัยแปดสิบกว่าปีเป็นคุณครูที่ปลดเกษียณแล้ว เขาชอบพูดหยอกล้อ แล้วยังตั้งชื่อเล่นให้กับพวกบริกร อย่างชื่อเธอคล้ายกับชื่อปลา ก็เรียกเธอว่า ‘หนูปลาดอรี่’

“หนูปลาดอรี่ วันนี้หนูมีชีวิตชีวามาก ใช้ได้เลยนะเนี่ย” คุณปู่ซุนยิ้มอย่างอ่อนโยน

“ขอบคุณค่ะคุณปู่ซุน หนูพาไปที่นั่งนะคะ” ดอริสก็ชอบคุณปู่อารมณ์ขันท่านนี้

หลังจากเสิร์ฟกาแฟให้คุณปู่ซุนแล้วดอริสก็หยุดเมื่อเดินผ่านที่นั่งที่อยู่ใกล้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ พูดคุยกับลูกค้า เพราะลูกค้าโต๊ะนี้คือเอวา เจียง เพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย

“เอวา วันนี้มาที่ร้านเช้าแบบนี้ แฟนเธอคงจะไม่ได้ถูกเลือกดูการแข่งขัน NBA เหมือนโดนัลด์หรอกนะ” น้องชายเธอบอกว่าถึงฟ้าจะถล่มลงมาก็ต้องดูให้จบก่อนแล้วค่อยวิ่งหนี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนัดเดต

“วันนี้เขาไปทำงานล่วงเวลาที่บริษัทน่ะ” เอวาสวมชุดสูทที่ตัดเย็บเรียบง่าย บวกกับผมสั้นดูเรียบร้อยมีสไตล์ ให้ความรู้สึกหญิงแกร่ง อันที่จริงการทำงานของเธอก็โดดเด่นยอดเยี่ยม เข้าทำงานบริษัทปัจจุบันไม่ถึงสามปีก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลควบคุมแล้ว

“แฟนเธอทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว งานด้านการท่องเที่ยวยุ่งขนาดนี้เลยเหรอ” ดอริสรู้สึกว่าหมู่นี้ได้ยินเรื่องแฟนของเพื่อนสนิททำงานล่วงเวลาอยู่บ่อยๆ ไม่แน่ว่าเธอกับเอวาอาจเจอหน้ากันมากกว่าเอวากับแฟนเจอกันเสียอีก เศรษฐกิจของไต้หวันดีขนาดนี้เลยหรือเนี่ย

“ฉันเชื่อใจเขา อีกอย่างเดี๋ยวฉันก็มีนัดกับลูกค้าด้วย” เอวาเชื่อแฟนหนุ่มหมดใจจริงๆ พวกเขาคบหากันมาห้าปีแล้ว เมื่อครึ่งปีก่อนแฟนหนุ่มเปลี่ยนงานใหม่ เป็นงานด้านการท่องเที่ยว เขาบอกว่าตอนนี้ตั้งใจทุ่มเทให้กับงานอย่างสุดตัว เรื่องแต่งงานรออีกสองปีค่อยว่ากัน เอวาเองก็สนับสนุนให้แฟนตั้งใจทำงาน

เซลิน่ายกกาแฟที่เอวาสั่งมา หลังจากเอวาพูดขอบคุณแล้วดอริสก็ถามว่า “รุ่นพี่คะ ถามหน่อยสิว่าข้อสงสัยของฉันผิดหรือเปล่า มีที่ไหนกันที่คนเป็นแฟนกันเดือนหนึ่งเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง อาศัยอยู่เมืองเดียวกันแท้ๆ แบบนี้มันไม่แปลกหรือคะ”

เซลิน่าแสดงความเห็นของตัวเองว่า “คนเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกัน การเชื่อใจอีกฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็น แต่ข้อสงสัยของดอริสก็ไม่ผิด เอวา บางทีเธอน่าจะสนใจเรื่องของแฟนหน่อยนะ”

ดอริสมองสองคนที่อยู่ตรงหน้า “พวกเธอสองคนถ้ามีเวลาสนใจเรื่องความรักของคนอื่นนัก สู้ไปบริหารความรักของตัวเองจะดีกว่านะ”

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากบริหารนะ แต่คนที่ฉันชื่นชอบอยู่ในที่ที่ไกลจนฉันเอื้อมไปไม่ถึง ฉันเลยจนปัญญา เฮ้อ!” ดอริสถอนหายใจอย่างจนหนทาง

“ส่วนฉันไม่มีแฟน” เซลิน่าพูดเสียงเรียบ

“ดูพวกเธอสองคนสิ ฉันต่างหากที่ต้องถอนหายใจ!” เอวาวางกาแฟที่ดื่มไปหนึ่งอึกลง “ดอริส พูดเรื่องเธอก่อน ในเมื่อรู้ว่าไกลเอื้อมไปไม่ถึงก็ควรล้มเลิกความคิดที่จะปีนต้นไม้ใหญ่ขึ้นไปเด็ดผลแห่งความรักเสียตั้งแต่เนิ่นๆ! แล้วก็รุ่นพี่คะ พี่รู้ไหมว่าในร้านมีลูกค้าหนุ่มๆ กี่คนที่มาเพราะผู้จัดการร้านแสนสวยอย่างพี่ ขอแค่พี่ตะโกนว่าต้องการรับสมัครแฟน ฉันเชื่อว่าผู้สมัครจะต้องรีบมาเข้าคิวจนถึงหน้าประตูแน่นอน”

“ฉันเห็นด้วยกับที่เอวาพูด ขอแค่รุ่นพี่เอ่ยปากว่าต้องการรับสมัครแฟน อย่าว่าแต่เข้าคิวจนถึงหน้าประตูเลย อาจเข้าคิวยาวไปหลายกิโลเลยก็ได้ ฮ่าๆ” ดอริสหัวเราะพลางพูด

“ดอริส เธอเป็นนกสองหัวหรือเปล่า” เซลิน่าทั้งโกรธทั้งขำ

ดอริสยิ้มแหยๆ “รุ่นพี่ ฉันแค่พูดไปตามเนื้อผ้า แล้วอีกอย่าง คนเขาพูดกันไม่ใช่เหรอว่าเรื่องที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป ควรสนใจกับปัจจุบันมากกว่า พี่เลิกคิดเรื่องในอดีตได้แล้วล่ะ ฉันหวังเหลือเกินว่าสักวันจะได้ยินรุ่นพี่ตะโกนว่า ‘ฉันอยากรับสมัครแฟน’ ”

เซลิน่าเป็นรุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัยของเอวา แล้วด้วยการแนะนำให้รู้จักของเอวา แล้วด้วยการแนะนำให้รู้จักของเอวา ดอริสและรุ่นพี่จึงได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันด้วย สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัย รุ่นพี่เซลิน่าที่ผมยาวสลวยดำขลับถึงเอวขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงาม ใบหน้าสะสวย ผิวพรรณขาวเนียนนุ่มบอบบาง กิริยาท่าทางสง่างามขนาดที่ชาตินี้ ‘ชาวฮอบบิท’ อย่างเธอไม่มีวันเลียนแบบได้

เมื่อก่อนรุ่นพี่เซลิน่าร่าเริงและชอบยิ้มแย้ม ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่รอยยิ้มมักจะแฝงแววเศร้าโศก ถ้าอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนไม่ได้เกิดขึ้น ตอนนี้รุ่นพี่ก็คงจะเป็นภรรยาที่มีความสุขไปแล้ว

รุ่นพี่เซลิน่าและรุ่นพี่มาร์ตินเป็นคู่รักร่วมชั้นเดียวกันของมหาวิทยาลัย เป็นคู่รักหนุ่มหล่อสาวสวยที่ทุกคนต่างพากันอิจฉา ทั้งสองคนรักกันมาก แต่เมื่อสามปีที่แล้วรุ่นพี่มาร์ตินประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ดูเหมือนว่าเขา

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (64 รายการ)

www.batorastore.com © 2024