Blue Rose Muse ปาฏิหาริย์รักที่ปลายฟ้า

Blue Rose Muse ปาฏิหาริย์รักที่ปลายฟ้า

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160606337
ผู้แต่ง: OResia
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 129.00 บาท 32.25 บาท
ประหยัด: 96.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

Summer Diary

 

ปิดเทอมภาคฤดูร้อนเป็นช่วงอันแสนโปรดปรานของพวกเราในวัยเด็ก พระอาทิตย์สวยๆ ท้องฟ้าสว่างๆ ใครๆ ก็นึกถึงการไปเที่ยวทะเลหรือป่าเขากับเพื่อนฝูง

...ความทรงจำในฤดูร้อนของฉันน่ะเหรอ อืม จะเล่ายังไงดีน้า เพราะถ้าเล่าไปมันจะฟังดูเหลือเชื่อมากๆ เลยน่ะสิ

...ฉันไปเที่ยวต่างมิติมาล่ะ ไงล่ะ อย่าเพิ่งหาว่าฉันบ้านะ..

ฉันชื่อว่าอายะ เป็นลูกสาวคนเดียวของรินะ ซึ่งก็คือแม่ฉันเอง (ใครยังไม่เคยอ่านไปหาอ่านเรื่อง ‘Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจ... หยุดไว้ที่เธอ’ กันนะค้า) แม่ของฉันไปค้นเจอกุญแจและนาฬิกาโบราณที่พาเธอข้ามมิติไปยังเมืองในโลกคู่ขนานที่มีชื่อว่ามาบิรุส แต่สุดท้ายแม่ก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่และตัดสินใจไม่ใช่นาฬิกานั่นอีก...ฉันก็เลยแอบหยิบมาใช้ซะเอง อิๆ

ในมาบิรุสนี่ฉันใช้ชื่อว่า ‘กลอเรีย’ และฉันไม่ใช่เด็กสาวธรรมดาๆ หรอกนะ ฉันใช้เวทมนตร์ได้ขั้นเทพเลยล่ะ ล่องหน ย้อนเวลา ยิงลำแสง ฉันทำได้หมดทุกอย่าง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ ก็ตอนที่ฉันย้อนเวลาไปในอดีตเพื่อช่วยแม่ให้อยู่รอดปลอดภัย ฉันก็ได้ไปปะทะกับหนุ่มสุดเก๊กคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘รีซ เอเดล’ ตานี่เป็นผู้ชายผมสีเงินที่สวยยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก แถมยังตาสีฟ้าคราม ดูแล้วหล่อจนน่าหมั่นไส้”

หลังจากที่เรื่องของแม่จบลง ฉันก็ยังไม่ยอมจบการผจญภัยสนุกๆ นี้หรอก หุๆ ฉันยังคงข้ามไปหาอะไรสนุกๆ ทำที่มาบิรุสบ่อยๆ และสิ่งที่สนุกที่สุดในบรรดาเรื่องสนุกก็คือ...การไปกวนประสาทหมอนั่น

“มาอีกแล้ว”

รีซบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นฉันนั่งกินแอปเปิ้ลสบายใจเฉิบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องเขา...และไอ้แอปเปิ้ลที่กินๆ อยู่นี่...จะมาจากไหนได้ถ้าไมใช่ตู้เย็นของเขาน่ะ ฮี่ๆ

“ทำไมอ่ะ คิดถึงอ่ะดิ”

“โนเวย์”

เขาบ่นอย่างหงุดหงิดพลางโบกมือไล่

“นี่ ถ้าเธอว่างนักก็ไปที่อื่นซะไป ชิ่วๆ”

คนนะเฟ้ย ไม่ใช่หมา

ฉันค้อนเขานิดหนึ่งเมื่อเห็นท่าทางรังเกียจอย่างกับเห็นปลิงนั่น หมอนี่เป็นพวกต่อต้านสังคมรึไงนะ คนอุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อน

“ไม่ไปอ่ะ ฉันปิดเทอม บอกแม่แล้วด้วยว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ฉะนั้น...อยู่ยาว เย้”

รีซทำหน้าเหมือนเห็นจิงโจ้

“แว้ก อยู่ยาวอะไรของเธอ ใครอนุญาตไม่ทราบ”

“ไม่มี แต่จะอยู่ มีไรป่ะ แบร่ๆ”

“หน็อย พูดดีๆ ไม่ฟังใช่มั้ย นี่แน่ะ Fire!”

ฉันกลิ้งหลบแทบไม่ทันเมื่อไอ้ลูกกลมๆ ร้อนๆ นั่นวิ่งผ่านศีรษะอย่างเฉียดฉิว โดนผมไหม้ไปสามเส้น

“โห โหดร้ายชะมัด มาร่ายมนตร์ไฟใส่สาวน้อยน่ารักของฉัน ดีล่ะ Wind!”

ฉันร่ายมนตร์พายุหาเขาบ้าง สงครามเวทเล็กๆ จึงปะทุขึ้น

สุดท้ายเมื่อฝีมือเราพอกัน ผลที่ออกมาก็คือ...ห้องนอนของเขาเละเป็นโจ๊ก

จริงๆ ก็ไม่มากมายหรอกนะ ก็แค่...กระดาษบนโต๊ะไหม้เป็นรอยผนังทะลุเป็นรู แล้วก็...เตียงของเขาถล่มลงมาไม่มีชิ้นดี

ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อยที่มาทำลายข้าวของถึงบ้านเขา จึงยอมออกมาเดินเล่นแต่โดยดีเมื่อหมอนั่นกึ่งไล่กึ่งชวนเพราะทนบาดใจจากสภาพห้องตัวเองไม่ไหว

เขาทำหน้าเหมือนลิงชิมแปนซีพลางบ่นพึมพำ

“ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้นะ ต้องมาเจอกับเธอเนี่ย”

“เป็นนักล่าไม่ใช่เหรอตัวเอง มาบ่นไรงี้กับเค้าอ่ะ”

ปกติแล้วนักล่ามีหน้าที่กำจัดนักเดินทางต่างมิติ แต่เขาทำอะไรฉันไม่ได้ ซ้ำยังโวยวายใส่อีก

“ก็ใช่น่ะเซ่ เธอต้งอเป็นฝ่ายหนีให้ไกลจากฉันไม่ใช่เหรอ!!!”

เขาตวาดจนผมตั้ง ปากเหมือนจะพ่นไฟออกมาได้ น่ากลัวชะมัด

“ก็นายไม่มีปัญญาทำอะไรฉันเองอ่ะ”

ฉันเกาหูแกรกๆ ทำหน้าเซ็ง “ก็คนมันเบื่อ เห็นนายมีฝีมือใช้ได้เลย มาเล่นด้วยไงล่ะ”

“ฉันไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก”

“ฉันก็ไม่ใช่เด็ก”

ฮึ่ม! คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ฉันก็แค่ตัวเล็กหน่อยเดียวเท่านั้นเอง ถึงอย่างนั้นฉันก็น่ารักใช่ย่อยนะ หุๆ เห็นอย่างนี้เป็นดรัมเมเยอร์ที่โรงเรียนเชียวนะ

“เฮ้อ ไปๆ กลับบ้านไปได้แล้ว ห้องเจ๊งไปแล้วแบบนั้น ฉันคงต้องหาที่อยู่ใหม่สักพัก”

“ที่ไหนอ่ะ ไปด้วยคนสิ นะๆ”

“ไม่!!!”
เขาแยกเขี้ยวอย่างกับปีศาจกิ้งกือ ขู่ฟ่อๆ...แต่คิดเหรอว่าอายะคนนี้จะกลัว

“ยังไงก็จะไป”

ฉันทำแก้มป่องเป็นสัญลักษณ์ว่าเอาจริงแน่

เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นมาชัดเจนที่ไรผมของรีซ ท่าทางเขาจะไม่อยากให้ฉันไปจริงๆ แฮะ

“นี่ ฉันไม่ได้ไปเช่าโรงแรมสบายๆ อยู่หรอกนะ ฉันจะไปที่ถ้ำลึกลับในเขตลาเนียต่างหาก”

เขาทำหน้าเหมือนฉันควรจะกลัว...ว่าแต่ ไอ้เขตลาเนียเนี่ยมันที่ไหนกันหว่า

“ชื่อเพราะดีนี่ ไปด้วย”

“เฮ้ย! เธอไม่รู้อะไรล่ะสิ ถ้ำลึกลับนั่นน่ะอันตรายมากนะ มีแต่สัตว์เวทมนตร์ตัวฉกาจ มีคนตั้งเยอะไปแล้วไม่ได้กลับมา”

“ว้าววว น่าสนุกชะมัด ไปด้วยยยย”

ฉันกระโดดกอดแขนเขาไว้แน่น...กรี๊ดๆ ฉันมีอะไรดีๆ ทำตอนปิดเทอมนี้แล้ว เย้ๆ ขอบคุณสวรรค์

รีซทำหน้า น่ารักแบบนี้แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก คงจะรู้ว่าพูดไปก็เปลืองน้ำลายเปล่า แล้วสุดท้ายเขาก็ต้องพาฉันไปด้วย

 

ถ้ำลึกลับที่ว่านั่นดูแล้วก็ไม่ต่างจากถ้ำตามหุบเขาทั่วไป แต่อากาศออกจะเย็นกว่าปกตินิดหน่อย

ขณะที่ฉันเริ่มสงสัยว่าโดนหมอนี่หลอก พวกเราก็เดินมาถึงลานวงกลมที่มีรูปปั้นหน้าตาพิลึกรูปหนึ่ง เหมือนกระต่ายมีปีก...เอ แต่หางมันเหมือนหนูอ่ะ

“นี่มันตัวอะไรอ่ะ”

“เธอไง”

ฉันค้อนขวับให้ทีหนึ่ง ผู้ชายอะไรปากเสียชะมัด

“ไปกันเหอะน่า ตรงนี้ไม่มีอะไรหรอก”

“แต่ฉันว่ามันแปลกๆ นา”

ดวงตาของเจ้ากระต่ายหนูบินได้นี่มันปิ๊บๆ ชอบกล ฉันเลยเอามือไปจิ้มมันดู

...ฟู่...

“กรี๊ดดด”

ควันสีขาวพุ่งออกมา ฉันกระโดดหลบแทบไม่ทันจนไปเหยียบเท้าตานั่นร้องเอ๋งๆ

“นี่มันอะไรกันเนี่ย”

ควันพวกนั้นกลายร่างมาเป็นนกกระพือปีกอิ๊บๆ น่ารักน่าชัง ยังชื่นชมความงามได้ไม่ถึงสองวินาที ตาของพวกนกซึ่งมีสีแดงแจ๋ก็ยิงเลเซอร์พุ่งมาโจมตีพวกเรา

“ยัยบ้าเอ๊ยยย”

รีซแหกปากโวยวายพลางร่ายเวทยิงสู้ต้านกับพวกมัน ฉันเองก็หันหลังชนกับเขาแล้วร่ายมนตร์น้ำที่แสนถนัดเช่นกัน...จะว่าไปพวกมันก็ไม่ได้เก่งอะไรนักหรอกเมื่อมาเจอนักเวทขั้นเทพอย่างเราสอง

“ยังจะมายิ้มอีก”

“นายจะมาทำซีเรียสทำไมเล่า หนุกดีออก ยิงพวกกระจอกพวกนี้ อิๆ”

ฉันยังอารมณ์ดียิงไปคุยไป ทันใดนั้นนกน้อยๆ ทั้งหมดก็รวมตัวเป็นนกตัวบักเอ้ก

“ยังหนุกอยู่มั้ยล่ะทีนี้”

เขาถามเสียงซื่อ ฉันแค่นหัวเราะและยิงใส่เจ้านกยักษ์นั่นไม่ยั้ง...ตัวใหญ่แล้วทำไม นึกว่ากลัวรึไง อ่ะโด่...เอ่อ แหะๆ

ฉันเริ่มจะหัวเราะไม่ออกเมื่อยิงเท่าไหร่เจ้านกบ้านั่นก็ไม่สะท้าน รีซเองก็ไม่ต่างกัน เราสองคนมองหน้ากันแล้วสี่เท้าก็โกยอ้าวทันที

เจ้านกบ้านั่นยังบินพึ่บพั่บไล่ตามมาข้างหลัง ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นหนอนกระยึกระยือกที่จะถูกกิน กรี๊ดดด รับไม่ได้ค่า เด็กสาวน่ารักอย่างฉันรับไม่ด้ายยยย

“นี่นาย ไม่คิดจะทำอะไรหน่อยเหรอ”

ฉันอดไม่ไหวจึงร้องถามรีซ...นี่เราหนีหัวซุกหัวซุนมานานโขแล้วนะ แล้วไอ้ถ้ำนี่ก็ดูจะลึกเข้าไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด จะให้วิ่งไปถึงดาวอังคารเลยรึไง

“แล้วจะให้ทำอะไรอ่ะ ยิงไปมันก็ไม่เป็นไรเลยนิ”

กรี๊ดดด นี่หรือคือคำตอบ ฉันจำได้ว่าภาคที่แล้วนายโคตรเท่เลยนี่หว่า ทำไมพอมาคู่กับฉันแล้วกลายเป็นเห่ยล่ะ

“ว่าใครเห่ย”

บ่นในใจยังทำเป็นได้ยิน

ฉันได้แต่ขมุบขมิบปากอย่างสุดเซ็ง...เอาวะ ไม่มีใครช่วย อายะสุดสวยผู้นี้ออกโรงเองก็ได้

ว่าแล้วฉันก็หันไปร่ายมนตร์ใส่เพดานถ้ำของทางที่ผ่านมาซึ่งเป็นบริเวณที่ค่อนข้างแคบ

...ครืน!...

หินจากเพดานถ้ำถล่มลงมาปิดทางจนหมด ได้ยินเสียงนกปีศาจร้องงุงิอยู่อีกฝั่ง

“เรียบร้อย”

แค่นี้เจ้านกนั่นก็ตามมาไม่ได้ พวกเราก็ปลอดภัยกันแล้ว เย้ ภูมิใจ๊ภูมิใจ เอ ว่าแต่ทำไมหน้ารีซดูเขียวๆ ซีดๆ ชอบกลหว่า มะเข้าจาย

“ฉลาดมากกกก แล้วทีนี้จะออกไปยังไงล่ะแม่คุณ!”

เขาชมเสียงดังจนฉันสะดุ้งโหยง เออจริง ลืมคิดไป แหะๆ

“เดี๋ยวข้างในมันก็มีทางออกเองแหละน่า”

คนเรามันก็ต้องคิดแง่บวกไว้ก่อน

“ไม่เคยได้ยินว่าถ้ำนี้มีสองทางออก”

“แล้วเคยได้ยินมั้ยว่ามีที่ไหนถ้านายกระโดดให้รถไฟทับ ญาตินายจะต้องเสียค่าปรับ ห้ามฟังเพลงตอนขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วก็ห้องพักจะไม่ใช่เลขสี่น่ะ”

“ไม่เคย”

ฉันทำหน้าภูมิใจสุดชีวิต

“เห็นมะ นายก็ไม่ได้รู้ไหมดทุกเรื่องซะหน่อย จะบอกให้ว่านั่นน่ะเรื่องจริงที่ญี่ปุ่นโลกของฉันล่ะ”

หุๆ สะใจ หมอนี่เถียงไม่ออก ทำหน้าเสียเซลฟ์ไปพักนึง

แล้วเราก็เดินดุ่มๆ มาจนถึงลานวงกลมอีกแล้ว คราวนี้มีเปียโนสีดำหลังเล็กวางอยู่ เหอะๆ อายะคนนี้ขอบาย ไม่กล้ายุ่งสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วค่า

“เธอลองเล่นดูดิ๊”

อ้าว ซะงั้น ดิฉันไม่เข้าใจ

“แล้วจะไปยุ่งกับมันทำไมมิทราบ”

“ก็เผื่อมันจะเปิดทางออกให้เราน่ะสิ”

“แล้วถ้ามีตัวอะไรแปลกๆ โผล่ออกมาจะมาว่ากันไม่ได้นะ”

ฉันบ่นพึมพำก่อนจะเข้าไปชะโงกมองเปียโนหลังนั้นใกล้ๆ บนนั้นมีสมุดโน้ตดนตรีวางอยู่เล่มหนึ่ง...อี๋ ฝุ่นหนาชะมัด ท่าทางจะไม่มีใครจับมานาน

“นี่ ฉันจะบอกว่าเล่นเปียโนไม่เก่งนะ”

“หา?”

ทำไมหมอนี่ต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีหว่า ถึงแม่ฉันจะเป็นอัจฉริยะทางเปียโน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องชอบแบบเดียวกันนี่

“ฉันถนัดกีตาร์ย่ะ เปียโนแค่พอกดๆ ได้ตามคีย์”

เขาส่ายหน้าพลางเอื้อมมาเปิดสมุดโน้ต

“โห มีเยอะเลยแฮะ เลือกเอาสักเพลงดีกว่า เอ...นี่ดีมั้ย ‘Melody of Peace’ ”

“เดี๋ยวนายจะได้ Rest in Peace น่ะสิ” นี่ดีกว่า ‘Pretty Fairy’ ชื่อน่ารักแบบนี้จะต้องดีแน่ๆ”

“อย่าๆ ชื่อดีๆ มักจะหลอกให้คนเลือกน่ะสิ ไม่เคยเห็นในการ์ตูนเหรอ ต้องเลือกชื่อแปลกๆ เข้าไว้ แล้วมันจะออกมาดี...เอานี่ละกัน ‘Mirror Mirror’ ชื่อพิลึกสุดแล้ว”

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

~กลอเรีย VS รีซ~
เมื่อครั้งยังเป็น ‘กลอเรีย’ อยู่ที่ดินแดนในฝันซึ่งเรียกว่า ‘มาบิรุส’เธอเคยได้ใกล้ชิดและต่อล้อต่อเถียงกับนักล่าอย่าง ‘รีซ เอเดล’ อยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับที่ไม่เคยยอมกันเลยทีเดียว ดังนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่เมื่อกลับมาโลกปัจจุบันแล้ว เธอจะยังคงเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงเขาตลอดเวลา เพราะแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ไม่มีวันไหนที่เธอจะลืมเขาเลยสักครั้ง แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็บังเกิด เพราะในคืนคริสต์มาสอีฟ เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอแบบไม่คาดฝัน
 
~วิเวียน VS โคเฮ~
อีกด้านหนึ่ง ‘วิเวียน’ หญิงสาวผู้เย็นชาได้เจอกับ ‘โอจิโร่ โคเฮ’โดยบังเอิญ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าแค่เพียงสบตาและพูดคุยกันเพียงชั่วระยะสั้นๆ เธอก็รู้สึกได้ว่าหัวใจตัวเองเริ่มแกว่งไกว หนำซ้ำเขายังมาเห็นตอนที่เธอลงมือ ‘ฆ่า’ ตามใบสั่งเสียอีก นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลยสักนิด!

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
24/07/2014

Blue Rose Muse ปาฏิหาริย์รักที่ปลายฟ้า เป็นนิยายของพี่อ้ออีกเรื่องที่แฝงข้อคิดอ่านแล้วประทับใจแล้วก็สนุกมากค่ะเป็นภาคต่อนับว่าเป็นนิยายไม่กี่เล่มหรือเป็นเล่มปรกรึป่าวนะที่พี่อ้อเขียนแบบจบแฮปปี้อ่ะอ่านเรื่องนี้แล้วต้องพูดได้เลยว่าเนื้อเรื่องสวยมากจินตนาการณ์ตามตัวอักษรสำนวนในการบรรยายของพี่อ้อนี่แบบจินตนาการณ์เราสวยไปเลยอ่ะค่ะอ่านแล้วรู้สึกประทับใจเราไม่เคยรู้สึกว่าสำนวนการเขียนนิยายของพี่อ้อติดขัดเลยตั้งแต่อ่านนิยายของพี่อ้อมานะนิยายพี่อ้อมีเสน่ห์ทุกเรื่องเป็นอะไรที่เพ้อฝันแบบสุดๆและมักแฝงข้อคิดไปกับเนื้อเรื่องเสมอถ้าอ่านแบบสังเกตดีๆจะรู้สึกได้ส่วนใหญ่พี่อ้อชอบแต่งนิยายแบบเกี่ยวกับนักร้องอะอ่านมาหลายเรื่องแล้วชอบมีเร่องราวเกี่ยวกับนักร้องเข้ามาเกี่ยวหรือไม่ก็ดำเนินเรื่องในญี่ปุ่นส่วนใหญ่นางเอกนิยายของพี่อ้อจะแบบว่าน่ารักน่าถนุถนอมทุกเรื่องอ่ะอีกอย่างเลยคือเรื่องนี้พล็อตสนุกเนื้อหากุ๊กกิ๊กต่างจากเล่มอื่นค่ะมีมุมโรแมนติกหวานแหววซึ่งแตกต่างจากเล่มอื่นคนที่เคยอ่านนิยายของพี่อ้อมาจะรู้เลยว่าพี่อ้อถนัดแต่งนิยายเศร้าอ่ะอารมณ์แบบอ่านแล้วน้ำตาแตกหรือไม่ก็มีปมที่แบบเจ็บปวดมากับชีวิตซึ่งเรื่องนี้แตกต่างเป็นเล่มแรกที่จบแบบแฮปปี้อ่านไปยิ้มไปเลยชอบมากๆค่ะเหมือนพี่อ้อเปลี่ยนแนวเขียนเลยแต่อ่านมาก็ไม่เสียดายเงินอ่ะถึงจะเปลี่ยนแนวเขียนยังไงก็คงความสนุกและความเป็นสไตล์งานเขียนของพี่อ้ออ่านแล้วมันจะรู้สึกได้อ่ะเพราะพี่อ้อเขียนเรื่องได้แตกต่างจากนักเขียนท่านอื่นเยอะมากชอบงานเขียนของพี่อ้อตรงที่มีมุมมองที่แตกต่างไม่ค่อพร่ำเพ้อเป็นนิยายที่ไม่จำกัดว่าอ่านแล้วต้องได้แค่ความสนุกแต่อ่านแล้วมีการปรับมุมมองในชีวิตอ่ะเพราะได้แง่คิดหลายๆเรื่องเลยแหละที่อ่านมาแถมเนื้อหายังแฝงความสนุกและความโรแมนติกด้วยเป็นนักเขียนแทบจะคนเดียวนะที่เราเคยอ่านมาที่เน้นตอนจบแบบไม่จำเป็นต้องจบเป็นสวยหรูอ่ะเลยรู้สึกประทับใจอีกทั้งพล็อตเรื่องก็แปลกใหม่และสอดคล้องกับเนื้อหามากๆและรู้สึกชื่นชอบผลงานของพี่อ้อเป็นพิเศษสำหรับนิยายเรื่องนี้แค่เห็นหน้าปกก้ชอบแล้วเป็นเล่มต่อด้วยอ่านแล้วยิ่งชอบมากเป็นพิเศาตรงที่ยังมีกลิ่นอายของความสนุกความรักของตัวละครอ่านแล้วน่ารักมากอ่ะยิ้มตามเลยเราชอบคาแร็กเตอร์ของตัวละครพี่อ้อทุกตัวละครเลยค่ะอ่านแล้วชอบมากพล็อตเรื่องดูมีมิติแค่เห็นหน้าปกก็แปลกตาแล้วอ่านแล้วนึกถึงบรรยายกาศโรแมนติกๆเลยอ่ะค่ะจินตนาการณ์ไปไกลมากเรียกได้ว่าสำนวนการบรรยายของนักเขียนท่านนี้เป็นอะไรที่เข้าถึงอารมณ์มาก

สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024