เลขาฯตัวร้ายเจ้านายตัวแสบ + ตำรวจสาวเจ้าเสน่ห์ (สุชีรา)
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
เลขาฯตัวร้าย เจ้านายตัวแสบ
หล่อนเป็นเลขาฯที่ไม่ยอมฟังคำสั่งของเขาสักเท่าไรนัก เขาจึงหาเรื่องแกล้งหล่อนให้ปวดหัวเล่น แต่หล่อนก็รู้ว่าเขาแกล้งจึงแกล้งกลับคืน ยิ่งแกล้งกันไปแกล้งกันมา ความรักก็เกิดขึ้นระหว่างเลขาฯกับเจ้านายเข้าจนได้…
ด้วยรัก
สุชีรา
1…
“นี่คุณรุ่งไพลิน ผมสั่งให้คุณร่างจดหมายให้ผมหนึ่งฉบับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นี่บ่ายอีกวันแล้วนะ ไหนจดหมายผม อยู่ไหน”
ภูรีส่งเสียงดังจนคนฟังต้องรีบยกมือขึ้นปิดหูแล้วส่งเสียงร้องกรี๊ดๆ เพื่อต้านเสียงของเขา
“อ๊าย.อ๊าย…”
“นี่คุณจะบ้ารึไง แหกปากออกมาได้ ผมหนวกหูได้ยินมั้ย”
“คุณก็จะบ้ารึไงแหกปากตะโกนออกมาได้ หูฉันไม่ใช่หูช้างนะโว้ยถึงจะรับเสียงอย่างกับลำโพงแปดหลอดของคุณได้น่ะ”
รุ่งไพลินหรือรุ่งโต้ตอบเจ้านายอย่างไม่กลัวว่าจะถูกหักเงินเดือน เจ้านายอย่างภูรีก็ไม่ยอมเช่นกัน
“แล้วคุณทำไมไม่ทำตามคำสั่งผม คุณขัดคำสั่งผม หมายความว่ายังไงไม่ทราบ”
“ไม่ทราบ”
หล่อนตอบกลับด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินอ้อมโต๊ะมายืนข้างหล่อน
“คุณเป็นเลขาฯประสาอะไรถึงขัดใจเจ้านายเสียทุกเรื่องอย่างนี้ ถ้าคุณไม่ทำตามคำสั่งผมอีกครั้งเดียวผมจะปลดคุณออกจากตำแหน่งเลขาฯ”
“คุณปลดดิฉันไม่ได้หรอกค่ะคุณภูรี เพราะฉันจะไม่ยอมออกคนเดียว ถ้าฉันออกคุณก็ต้องออกด้วย”
“นี่คุณจะบ้ารึไง คุณกำลังท้าทายผมนะคุณรุ่งไพลิน คนบ้าอะไรชื่อเช้ยเชยแถมปากจัด ทำงานก็ชุ่ย”
“จะว่าอะไรก็ว่าออกมาดัง ๆ ไม่ต้องบ่นเหมือนหมีกินผึ้งแบบนั้นหรอกคุณภูเขา ชื่อบ้าอะไรแปลว่าภูเขา”
“นี่หยุดนะ จะมากไปแล้วนะ ผมเป็นเจ้านายคุณนะแล้วชื่อผมก็ไม่ได้แปลว่าภูเขาเหมือนที่คุณว่าผม”
“อ้อ.เหรอคะงั้นแปลว่าอะไรล่ะคะเจ้านายขา”
หล่อนยื่นหน้าเข้ามาถามใกล้ ๆ แล้วแลบลิ้นใส่ก่อนจะผงะออกอย่างรวดเร็วแล้วหมุนร่างสูงหุ่นนางแบบของหล่อนก้าวฉับ ๆ ไปที่ประตูห้อง
“คุณจะไปไหน ผมยังพูดไม่จบนะคุณรุ่ง”
“ฉันปวดท้องค่ะ ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาโต้คารมกับคุณเจ้านายใหม่”
หล่อนเปิดประตูออกไปทันทีโดยไม่ยอมฟังคำพูดใด ๆ ของเจ้านายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยแม้แต่คำเดียว
“ยัยบ้าเอ๊ย กวนประสาท”
เขาพูดตามหลังหล่อนด้วยความโกรธและไม่มีสมาธิทำงานเอาดื้อๆ ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการในบริษัทแห่งนี้ 3 เดือนแรกเขาทำงานด้วยความสุขเพราะมีเลขาฯสาวสวยเอาใจเก่งแต่เพียงเพราะหล่อนเอาใจเก่งทำให้เขาหลงถูกเนื้อต้องตัวหล่อนเกือบจะเกินเลยไปไกลโดยหล่อนเองก็เต็มใจ
แต่เพราะแม่เลขาฯสาวสวยปากจัดชื่อรุ่งไพลินเข้ามาเห็น เขากำลังกอดจูบเลขาฯคนเก่า หล่อนฟ้องผู้อำนวยการทันทีและเลขาฯคนสวยถูกใจเขาก็ถูกย้ายไปทำงานแผนกอื่นและรุ่งไพลินเข้ามาทำหน้าที่เลขาฯแทนและตั้งแต่มีหล่อนเป็นเลขาฯ เขาก็ต้องปวดหัวเกือบทุกวันตลอด 3 เดือน เขาต้องทนกับวิธีการกวนประสาทของหล่อน ไม่ยอมทำตามคำสั่งเขาและสุดท้ายเขาก็ทะเลาะกับหล่อนเกือบทุกวัน
ครึ่งชั่วโมงต่อมารุ่งไพลินก็เปิดประตูห้องผู้จัดการเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟและขนมปังในจาน หล่อนเดินมาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานของเขา วางถ้วยกาแฟกับจานขนมลงแล้วหันหลังกลับเดินตรงไปที่ประตูก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู เสียงของเจ้านายหนุ่มก็ดังขึ้น
“คุณรุ่ง ผมขอน้ำเปล่าเย็น ๆ แก้วนึงด้วย”
“ค่ะ”
หล่อนรับคำแล้วเดินหายออกไป ครู่เดียวก็ถือแฟ้มกับแก้วน้ำเข้ามาในห้อง หล่อนวางแก้วน้ำและแฟ้ม
“จดหมายที่คุณต้องการอยู่ในแฟ้มค่ะกรุณารีบตรวจด้วยค่ะถ้าผิดจะพิมพ์ให้ใหม่ เร็ว ๆ ด้วยนะคะ”
หล่อนพูดเร็วและยืนจ้องหน้าเขานิ่ง เขาเงยหน้าจ้องตอบแล้วทำเป็นไม่ได้ยิน เอื้อมมือไปยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบแล้วก็ต้องรีบวางพร้อมร้องเสียงดัง
“โห ชงกาแฟยังไงเนี่ย หวานออกจ๋อยขนาดนี้ กำลังอินเลฟรึไงคุณ ผมขอขมกว่านี้นิดหนึ่ง”
เขาเลื่อนถ้วยกาแฟออกห่างทันทีพร้อมคำสั่งเข้มที่ทำให้หล่อนหน้าบึ้ง
“รสชาตินี้คุณกินมาสี่เดือนนี่แล้วนะ ขมนิด ๆ ไม่มีหวานสักหน่อย”
“ผมบอกให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนสิ”
“ก็ได้”
หล่อนทำตามคำสั่งด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เขาแอบยิ้มที่แกล้งหล่อนได้และนาทีต่อมากาแฟรสชาติขมกว่าเดิมก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าเขา
“นี่ค่ะกาแฟรสขม”
เขาเงยมองหน้าหล่อนแล้วยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบแล้วทำหน้าเหยเก
“อะไรกันเนี่ยคุณ มันขมเกินไป ไปชงมาใหม่”
“ไม่ชง ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องกิน”
“คุณรุ่งไพลินจะมากไปแล้วนะ หัดมีมารยาทเสียบ้างสิ ผมเป็นเจ้านายคุณนะ”
“ฉันก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่เหมือนเลขาฯคนเก่าคุณนี่จะได้ยิ้มหวานและปล่อยให้คุณลูบคลำไปถึงไหนต่อไหน ฉันไม่หวังให้เงินเดินขึ้นโดยเอาตัวเองเข้าแลกหรอก โดยเฉพาะกับคุณ”
“ไม่ต้องพูดมากนะ เอากาแฟไปเปลี่ยนมาให้ผมใหม่”
“ไม่ชงแล้ว อยากกินก็ชงเอาเอง รีบดูงานของฉันด้วย”
“พูดจาก็ไม่เพราะ สวยก็ไม่เห็นจะสวยเท่าไหร่ มิน่าล่ะถึงไม่มีแฟนเสียที ไม่มีใครกล้าจีบ”
“จะยังไงก็เรื่องของฉัน ฉันไม่มีคนจีบก็ดีกว่าคุณที่จีบไม่เลือกหน้า แม้แต่ลูกสาว รปภ.ยังจีบ สักวันจะเป็นเอดส์ตาย”
“นี่คุณ..”
เขาเสียงดังใส่หล่อน ทำไมหล่อนรู้เรื่องของเขาทั้งหมด หล่อนมีตาทิพย์หรืออย่างไรกัน เขาไม่น่ามาพบเจอหล่อนเลยจริง ๆ
“จะพูดอะไรก็พูดมาสิคะคุณเจ้านายขา หรือจะเถียงว่าเมื่อวานคุณไม่ได้ควงลูกสาว รปภ.ออกไปกินข้าวกลางวัน เถียงมาสิคะ”
“ห้ามพูดมากนะ และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ฉันจะไม่พูดถ้าคุณไม่พาลฉันก่อน เมื่อกี้คุณโรสโทร.มานัดคุณบ่ายโมงที่ร้านเดิม ส่วนคุณแพรวนัดที่บ้านเธอตอนทุ่มครึ่ง อย่าลืมไปตามนัดล่ะคะคุณภูเขา”
“นี่คุณ หยุดเรียกผมอย่างนี้นะถ้าไม่อยากมีเรื่อง”
“ก็ได้ ๆ ดิฉันจะไม่เรียกคุณว่าคุณภูเขาอีกค่ะ พอใจมั้ยคะ”
หล่อนยิ้มล้อเลียนแล้วเอียงคอมองเขาพร้อมกับเลิกคิ้วสูงแถมยักคิ้วสลับกันก่อกวนเขาไม่เลิกลาเขากัดกรามแน่นแล้วถอนหายใจเฮือก นี่เขาจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ดีนะ
“ผมจะไม่โกรธคุณ แต่ผมไม่พอใจที่มีคุณเป็นเลขาฯผม พรุ่งนี้ผมจะขอเปลี่ยนเลขาฯกับคุณเกียรติ คุณเตรียมตัวย้ายห้องทำงานได้แล้ว”
“เสียใจค่ะ ถ้าเปลี่ยน คุณก็ต้องเปลี่ยนตำแหน่งด้วย”
“พูดไม่รู้เรื่องรึไง”
“พูดรู้เรื่องดีทุกอย่างค่ะ แต่ฉันจะไม่ยอมย้ายไปไหนจนกว่าจะทำงานครบปีซึ่งก็เหลืออยู่อีกหกเดือนเท่านั้น”
“โอ้ย.กว่าจะครบหกเดือนผมคงฆ่าคุณตายก่อนแน่คุณรุ่ง”
หล่อนหัวเราะก๊ากแล้วยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบก่อนจะทำหน้าเหยเกเพราะกาแฟในถ้วยขมปี๋ออกอย่างนั้น จะไม่ให้ขมได้อย่างไรกันก็หล่อนใส่กาแฟสามช้อนน้ำตาลช้อนเดียวเพื่อแกล้งเขา ภูรีหัวเราะบ้าง
“สมน้ำหน้า”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยนะ เพราะคุณไม่ใช่เหรอที่แกล้งใช้ฉันให้กลับไปชงกาแฟขม ๆ แบบนี้ คราวนี้ก็ถึงทีคุณกินบ้างแล้วก็ต้องกินให้หมดด้วย”
หล่อนยื่นถ้วยกาแฟมาตรงหน้าเขาพร้อมออกคำสั่งโดยลืมไปว่าหล่อนเป็นเลขาฯที่ต้องฟังคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น
“คุณรุ่งไพลินครับ คุณเป็นเจ้านายหรือว่าผมเป็นกันแน่ครับ”
หญิงสาวยังไม่ทันจะตอบเสียงโทรศัพท์มือถือของภูรีก็ดังขึ้น หล่อนจึงถอยออกพร้อมกับถือถ้วยกาแฟออกไปด้วย ภูรีมองตามหลังหล่อนพร้อมกับยิ้มขำ ๆ
“สวัสดีครับ ว่าไงฮะชไม คิดถึงผมมากหรือเปล่าเอ่ยถึงได้โทร.มาหาผมตอนนี้”
เขาหยอดคำหวานลงไปในโทรศัพท์ซึ่งผะดาชไมหญิงสาวที่เขากำลังจีบหล่อนอยู่ฟังอยู่ปลายสาย
“แน่นอนสิคะภูขา ชไมคิดถึงคุณมากเลยนะคะ เที่ยงนี้ออกมาทานข้าวกับชไมนะคะ ชไมรออยู่ที่ร้านเดิมนะคะ คุณต้องมาให้ได้นะคะไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องมานะคะที่รัก”
“ครับผม เอางี้นะ ชไมออกมารอผมได้เลย อีก 20 นาทีผมถึงร้านแน่นอนครับ”
“นี่ยังไม่พักเที่ยงเลยนะคะภู”
“ออกก่อนพักเที่ยงสัก 20 นาทีคงไม่เป็นไรหรอกครับชไม เดี๋ยวเจอกันนะครับ”
“ค่ะที่รัก”
หญิงสาววางสายไปแล้วภูรียิ้มกริ่มพร้อมกับผิวปากอารมณ์ดี
“อารมณ์ดีนี่คะ งานที่ให้ตรวจเสร็จเรียบร้อยหรือยังคะคุณผู้จัดการ”
เสียงติดจะประชดดังมาจากประตูและร่างบางของรุ่งไพลินก็ก้าวเข้ามายืนตรงหน้าเจ้านาย เขามองหล่อนแล้วเมินไปทางอื่นไม่สนใจคำพูดของหล่อน
“คุณภูรีคะ งานน่ะค่ะเสร็จหรือยัง ถ้าคุณไม่ยอมดูงานให้ฉัน ฉันจะถือว่างานที่ฉันส่งคุณเรียบร้อยดีและฉันก็จะส่งจดหมายตามที่พิมพ์มา ผิดพลาดขึ้นมาอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน”
หล่อนดึงแฟ้มไปถือไว้แล้วหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง เขาเรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยว ผมยังไม่ได้ตรวจ”
“แล้วมัวนั่งเพ้อเจ้ออยู่ทำไมไม่ทราบ หรือว่าที่รักโทร.มานัดไปกินข้าว ที่รักคนไหนล่ะ นางแบบ นางงาม หรือว่านางเอก”
“จะนางอะไรก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ขอให้ไม่เกี่ยวทีเถอะน่ะ”
หล่อนวางแฟ้มโครมลงบนโต๊ะจนเขาสะดุ้งเงยหน้าจ้องตาหล่อนอย่างโมโห
“นี่คุณรุ่ง จะมากไปแล้วนะหัดเกรงใจกันบ้างสิ”
“นี่ถือว่าเกรงใจมากที่สุดแล้วนะคะคุณภูรี ถ้าฉันไม่เกรงใจละก็ฉันอาละวาดคุณห้องพังไปแล้ว”
“มาอาละวาดผมทำไม ผมไปทำอะไรให้คุณ”
“ยังจะมาถาม ทำอะไรลงไปไม่รู้จักคิด”
“ผมทำอะไรล่ะคุณก็บอกมาสิ”
“อยากรู้งั้นเหรอคะ ก็ได้ ฉันจะบอกให้ว่าคุณทำอะไรให้ฉันโกรธ เมื่อวานตอนเย็น แฟนฉันโทร.มา ฉันไม่อยู่ที่โต๊ะไปเข้าห้องน้ำ คุณรับสายแทนฉันและบอกแฟนฉันไปว่าคุณเป็นแฟนใหม่ฉัน คบกันมาหลายเดือนกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ คุณทำอย่างนั้นทำไมคะหรือว่าต้องการแกล้งฉัน อยากให้ฉันถูกแฟนทิ้งใช่มั้ย”
ภูรีหัวเราะเมื่อฟังรุ่งไพลินพูดจบ เขาแกล้งหล่อนจริง ๆ และต้องการให้หล่อนโกรธเหมือนที่หล่อนทำให้เขาโกรธหลายครั้ง
“ใช่ผมแกล้งคุณ ก็คุณอยากแกล้งผมก่อนทำไม ผมก็เลยแกล้งบ้าง แต่ถ้าแฟนคุณรักคุณจริง หนักแน่นสักหน่อยเขาไม่เชื่อคำพูดของผมหรอกน่ะ”
“แต่เผอิญว่าแฟนฉันเป็นผู้ชายหูเบาเสียด้วยสิ คุณรู้มั้ยเมื่อเช้าเขาโทร.มาต่อว่าฉัน และขอเลิกกับฉันไปแล้ว เขาไม่สนใจฉันแล้ว สะใจคุณมั้ยคะผู้จัดการ”
******