เพลิงพรางเทียน

เพลิงพรางเทียน

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160010721
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บริกรหนุ่มค่อยๆ บรรจงวางถ้วยกาแฟลงตรงหน้าสุภาพสตรี

อย่างระมัดระวัง

ห้านาทีที่ผ่านมา เธอเพิ่งเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับเลือกที่นั่งติด

กระจกด้านในสุด ชายหนุ่มออกอาการประหม่าเมื่อได้สบตากับตาสวยดุ

คู่นั้น เขาสะดุ้งและรีบเดินเข้าไปซุบซิบกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่หลังเคาน์เตอร์

หญิงสาวปรายตามองตาม ก่อนจะยักไหล่ ไม่ใส่ใจสิ่งที่เกิดขึ้น

“แกว่าใช่หรือเปล่า” เพื่อนที่อยู่หลังเครื่องชงกาแฟถามเขาทันที

“ฉันว่าใช่ หน้าตาหาเรื่องแบบนี้มีคนเดียวแหละ” เขาตอบ และ

แอบมองลูกค้าสาวสวยคนเดิมอีกหลายครั้ง

แม้จะได้ยินทุกคำพูดของพนักงาน แต่เธอก็หาได้ใส่ใจ เพราะนี่

ไม่ใช่ครั้งแรก...สำหรับปฏิกิริยาจากคนรอบข้างเมื่อได้เจอเธอ

หากเธอเป็นดังเช่นผู้หญิงธรรมดาที่พบได้ทั่วไปตามท้องถนน

เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่เป็นเพราะผู้หญิงที่นั่งหลบมุมในร้าน

กาแฟตอนนี้ เป็นถึงนางแบบสาวค่าตัวแพงที่ใครต่างก็อยากได้ไปร่วมงาน

ไม่ใช่เพราะฝีมืออะไรหรอก...เธอคิด แต่เป็นเพราะข่าวของเธอ

ต่างหาก ข่าวฉาวของนางแบบที่สังคมกำลังจับตามอง ไม่เว้นแม้แต่

หนังสือพิมพ์ที่เธอกำลังหยิบขึ้นมาอ่าน

                เมียหลวงแฉ นางแบบ ก. ยังไม่เลิกติดต่อสามี

ข่าวพาดหัวกระแทกใจคนอ่านขนาดนี้ ไม่แปลกหากสิ่งที่อยู่ในมือ

จะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูง หญิงสาวเงยหน้าและหันไปสังเกต

ทุกคนในร้าน รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้อง แต่ยามเธอหันไปทางใด กลับ

มีแต่คนหลบตา

นานพอสมควร ประตูร้านกาแฟถูกเปิดออกอีกครั้ง ชายหนุ่มร่างสูง

แต่งตัวดีเดินเข้ามา เขากวาดตาไปทั่ว เมื่อเจอเป้าหมายที่อยู่ด้านในสุด

จึงปรี่เข้าไปหา

หญิงสาวแหงนหน้ามองเขา ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้และส่งยิ้ม

หวานให้คนตรงหน้า

“ผมดีใจที่คุณมาหาผมได้นะกลินท์” เขาเอ่ย

“ฉันมาทำงาน” เธอพูดพร้อมกับเสยผมยาว เผยให้เห็นใบหน้า

รูปไข่ คิ้วเรียวบาง ดวงตาดำขลับราวกับซ่อนความลับไว้มากมาย ปาก

บอกว่ามาทำงาน แต่ลึกๆ เธอกลับดีใจไม่น้อยที่รับงานไกลถึงเชียงใหม่

เพราะอย่างน้อยเธอก็มีโอกาสได้เจอเขา

การพบเจอกันแต่ละครั้งของเธอกับเขา เป็นเรื่องปกติได้เสียที่ไหน...

“ยังอ่านหนังสือพวกนี้อีกเหรอ มันจะทำให้สุขภาพจิตคุณเสียนะ”

เขาหมายถึงหนังสือพิมพ์ที่เธอถืออยู่

“ถึงฉันไม่อ่าน คนอื่นก็อ่านอยู่ดี แม้กระทั่งคนในร้านกาแฟนี้”

กลินท์โยนหนังสือพิมพ์ไว้บนโต๊ะ แล้วยกถ้วยกาแฟขึ้นมาดื่ม

“ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอึดอัด แต่อยากให้คุณเข้าใจผมนะ รอผมหน่อย”

แววตาของเขาหวานไม่ต่างจากคำพูดที่คอยบอกทุกครั้งที่เจอกัน

รออย่างนั้นหรือ...รอ...แล้วได้อะไร ในเมื่อตอนนี้ทุกคนตราหน้าเธอ

แล้วว่า กลินท์นางแบบสาว ไม่มีปัญญาหาสามีด้วยตัวเอง ถึงได้แอบกิน

ซ่อนกินของของคนอื่น...

เพราะคำว่ารักสินะ เธอเคยคิดว่ามันคือคำอวยพรจากฟากฟ้า แต่

มันใช่เสียที่ไหน มันคือคำสาปที่เธอได้รับต่างหาก เกือบห้าปีแล้วที่เธอ

ได้รู้จักเขา นักธุรกิจหนุ่มค้าขายเกี่ยวกับของเก่าวัตถุโบราณล้ำค่าที่ชื่อ

‘อินทร์’

ยังจำได้ดี เธอพบเขาครั้งแรกที่งานเดินแบบตอนเรียนอยู่ที่อเมริกา

อินทร์เดินทางมาจากเมืองไทยในฐานะแขกของทางสถานทูตไทย ชาย

หนุ่มรูปร่างสูง ผิวเข้ม หน้าตาคมคาย แววตาดูเป็นผู้ชายอารมณ์ดี เขา

เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จทั้งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ เขาจึง

เป็นชายในฝันที่สาวๆ ทั้งไทยและเทศอยากเป็นคนโชคดีที่มัดใจเขาได้

ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น...จะเป็นเธอ

ความรักเริ่มต้นและกำลังหอมหวาน กลับแปรเปลี่ยนเป็นขม เมื่อ

ชายหนุ่มมีครอบครัวอยู่แล้วที่เมืองไทย แม้เธอจะโกรธที่เขาหลอกลวง แต่

ความรักนั้นก่อตัวแข็งแกร่งเกินกว่าจะล่มสลายได้เสียแล้ว สิ่งที่ทำให้ความ

สัมพันธ์ของเธอกับเขายังอยู่มาได้จนถึงวันนี้ คือคำคำเดียว...คำที่เธอ

ยอมรับมันได้เสมอว่า ‘หน้าด้าน’

“ที่ผ่านมายังไม่เรียกว่ารออีกหรืออินทร์ ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะ

รอคุณได้นานแค่ไหน”

                คำพูดตัดพ้อทำให้ชายหนุ่มตกใจ รีบยื่นมือไปกุมมือเธอไว้

“อย่าพูดแบบนั้นสิ คุณก็รู้ว่าผมรักคุณคนเดียว”

เพล้ง! เสียงถ้วยกาแฟตกดังขึ้นจากหลังเคาน์เตอร์ ทำให้ทั้งสอง

คนต้องปล่อยมือออกโดยพลัน เวลานี้แม้จะอยู่ด้านในสุดของร้าน แต่ก็ยัง

อยู่ในสายตาคนรอบข้าง กลุ่มเด็กในร้านคงตกใจที่เห็นนางแบบคนดัง

กำลังจับมือสามีคนอื่น

“คุณรักตัวเองมากกว่า” กลินท์เอ่ยพร้อมยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ

อีกครั้ง

“ไม่เอาละ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว” เขาถอนหายใจและนั่งตัว

ตรง “จริงสิ ผมมีของมาฝากคุณด้วย” เขาทำแววตาลิงโลด ก่อนจะควาน

หาอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อสูท

“นี่ไง” เขายื่นมาให้เธอ

“อะไร” กลินท์ทำหน้าสงสัยเมื่อเห็นของโบราณที่เขายื่นให้ มันดู

เหมือนดอกไม้ขนาดเล็ก ด้านบนประดับด้วยอัญมณีหลากสี ดูท่าจะเป็น

ของเก่าพอสมควร

“ปิ่นปักผมโบราณ ของเก่า ผมได้มาจากอาจารย์สอนประวัติ-

ศาสตร์ที่ มช.”

“เอามาทำไม คุณก็รู้ ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้” หญิงสาวปฏิเสธที่จะรับ

“รับไว้เถอะ อย่างน้อยคุณจะได้ใช้ทำงานพรุ่งนี้ไง” เขายื่นมือค้าง

ไว้เช่นนั้น คงจะเป็นอีกครั้งที่เธอต้องใจอ่อนและรับไว้โดยไม่มีเงื่อนไข

“เดินแบบชุดล้านนาทั้งที จะให้แฟนผมดูธรรมดาได้ยังไง”

กลินท์รับมันมาพิศมองอย่างตั้งใจ ปิ่นทองอันสวยงาม เธอไม่รู้

รายละเอียดเกี่ยวกับมันนัก แต่ถ้าคนให้อยากให้เธอใช้...เธอก็จะใช้

“พรุ่งนี้ผมจะไปดูนะ”

 

ที่ระเบียงโรงแรมใจกลางเมืองเชียงใหม่ กลินท์นั่งจิบไวน์ ทอดตา

ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเดือนเมษายน ที่นี่อากาศร้อนไม่ต่างจากเมือง

กรุง เพียงแต่ความแออัดของจราจร และตึกรามบ้านช่องยังไม่หนาแน่น

เท่า หญิงสาวสูดลมหายใจ มองดูความคึกคักที่ข่วงประตูท่าแพซึ่ง

คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ใกล้สงกรานต์แบบนี้ ใครๆ ก็อยากมาเที่ยว

เชียงใหม่ ผิดกับเธอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะรับงานเดินแบบพรุ่งนี้ไว้ และ

ความหวังที่จะได้พบพ่อเลี้ยงหนุ่ม เธอก็ไม่คิดอยากมาที่นี่เท่าไร

‘แปลกเหมือนกัน แม่เธอก็เป็นคนเชียงใหม่ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่

อยากรับงานนี้ล่ะกลินท์’ เธอนึกถึงตอนที่สายป่าน เพื่อนสาวตุ้งติ้งผู้จัดการ

ส่วนตัวเอ่ยถาม เมื่อครั้งที่เธอคิดปฏิเสธงานนี้

‘ทำยังกับฉันผูกพันกับเมืองนี้นักแหละ เท่าที่จำความได้ เห็นแต่

ภาพพ่อแม่ทะเลาะกันตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นมายังไม่ทันเป็นสาว พ่อก็พา

หนีไปอยู่กับแม่ใหม่ที่อเมริกาแล้ว ฉันไม่เคยมีความคิดที่จะอยู่กับแม่ กลับ

เมืองไทยได้เกือบสามปี ฉันยังไม่ค่อยได้มาเชียงใหม่เลย’ กลินท์เปรยให้

เพื่อนฟัง

‘แล้วตอนนี้คุณแม่ของเธอ...’

‘ล่าสุดเห็นว่าไปบวชอยู่ที่วัดต่างอำเภอ ไกลจากตัวเมืองน่าดู’

‘ก็ดีไง จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมแม่เธอด้วย ไม่เจอกันนานแล้วไม่ใช่

เหรอ’

‘คงไม่หรอก ไม่อยากไปรบกวนชีวิตที่แสนสงบของท่าน แค่นี้ชีวิต

ฉันก็วุ่นวายมากพอแล้ว อย่าให้ท่านมายุ่งเกี่ยวด้วยเลย’ นางแบบสาว

พยายามอธิบาย

‘รับงานนี้เถอะกลินท์ ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ไปโชว์ตัวเดินแบบชุด

ล้านนา ทางจังหวัดจัดงานต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเที่ยวช่วง

สงกรานต์ งานนี้พี่ตือเจ้าแม่อีเวนต์เป็นคนจัด หากเราไม่ไปก็คง

น่าเกลียด นะๆ ถือว่าเห็นแก่ฉันนะ’ สายป่านอ้อนวอน

‘เธอไม่กลัวว่าภาพลักษณ์ของฉันจะไปทำให้งานเขาแปดเปื้อนเหรอ’

‘เขาไม่ได้อยากได้ภาพลักษณ์ดีหรอก เขาแค่อยากให้งานเขาดัง’

สายป่านตอบ เหตุผลง่ายๆ ที่คนหัวอนุรักษ์อาจเบือนหน้าหนี แต่คนจัด

อีเวนต์กลับถวิลหา ใครบ้างอยากให้งานตัวเองเงียบเป็นป่าช้า การได้

นางแบบสาวอย่างกลินท์มาเดินแบบถึงเชียงใหม่ ถิ่นของพ่อเลี้ยงอินทร์

นักข่าวสำนักไหนก็ต้องมาทำข่าว

‘ถ้าเช่นนั้น หากฉันรับงานนี้ ถ้ามีข่าวอะไรไม่ดี เธอก็ไม่มีสิทธิ์ต่อว่า

ฉันนะ’ เธอเอ่ย สายป่านไม่อาจคัดค้านได้ และเชื่อว่าการไปพบกับอินทร์

ที่ร้านกาแฟวันนี้ คงจะเป็นครั้งแรกที่เพื่อนสาวไม่ขัดขวางเธอ ปกติ

สายป่านไม่ยินดีที่จะให้เธอเป็นข่าวกับพ่อเลี้ยงหนุ่มสักเท่าไร เอาเข้าจริงๆ

ถ้าเธอคิดจะทำอะไร ใครก็ขวางเธอไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่าเธอจะทำหรือ

ไม่เท่านั้น

หญิงสาวยกไวน์ขึ้นมาจิบอีกครั้ง ประตูห้องพักเปิดออก กะเทยร่าง

ท้วมหน้าตาจิ้มลิ้ม ยิ้มหวานมาแต่ไกล

“ฉันนึกว่าจะกลับดึก เธอเข้าโรงแรมมานานหรือยัง” สายป่าน

หมายถึงการที่เธอเห็นเพื่อนนางแบบอยู่ในห้อง แทนที่จะไปนัดพบกับ

อินทร์

“นานแล้ว...เธอหอบของอะไรมาเยอะแยะ” กลินท์ถามถึงข้าวของ

ที่เพื่อนถือมาพะรุงพะรัง

“ก็ชุดที่เธอต้องใส่วันพรุ่งนี้ไง เจ๊ตือให้ลองเอามาฟิตติงก่อน”

สายป่านแกะถุงกระดาษเพื่อให้เพื่อนนางแบบได้ลองสวมก่อนใส่จริง

“ไซซ์ฉันมาตรฐานนางแบบอยู่แล้ว ไม่ต้องลองหรอก”

“กันไว้ก่อนก็ดีกลินท์ ดีกว่ามาแก้ทีหลัง”

กลินท์ถอนหายใจ ก่อนจะดื่มไวน์แล้วเดินไปที่กลางห้อง

สายป่านหยิบผ้าแถบสีขาวมาพันเป็นเกาะอก ใช้เวลานานพอควร

กว่าจะจัดหน้าอกหน้าใจของเธอให้อยู่ตัว ผ้าซิ่นไหมตีนต่อเอวลายขวาง

สีแดงเลือดนกถูกกางออกและสวม หุ่นสะโอดสะองของกลินท์เข้าได้ดีกับ

ชุดล้านนา

“พี่ตือมองไม่ผิดจริงๆ เธอสวมชุดเหนือแล้วดูสง่า” สายป่าน

ชมเปาะ แล้วหยิบผ้าสีแดงสดมาห่มเป็นสไบให้

กลินท์ปรายตามองตัวเองในกระจก เธอเสยผมและมองเงาสะท้อน

ของตัวเอง ผิวเนียนสวยช่วยขับให้ชุดไทยล้านนาสีแดงสวยงามยิ่งขึ้น

สายป่านเดินอ้อมไปด้านหลัง ดึงแขนให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้กลางห้อง

แล้วรวบผมเธอขึ้นมาเกล้าไว้อย่างหยาบๆ

“สวยที่สุดเลยเพื่อนฉัน รับรองพรุ่งนี้ใครเห็น ต้องนึกว่าเธอเป็น

นางสาวเชียงใหม่แน่” สายป่านเอ่ย

“ฉันสวยกว่าแม่นางงามพวกนั้นอีก” เธอเถียง ทำเอาเพื่อนกะเทย

ยิ้มไม่หุบ

เมื่อลองชุดจนพอใจ สายป่านจึงขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า

กลินท์ยังไม่ถอดชุดสวย เธอส่องกระจกอีกครั้ง ลองเดินไปรอบๆ

ห้อง เสียดายที่ไม่ได้ลองใส่เครื่องประดับ ไม่เช่นนั้นเธอคงงดงามไม่ต่าง

จากเจ้าหญิงล้านนาในอดีตแน่ๆ

ชั่วพริบตา เธอสังเกตเห็นแสงอะไรบางอย่างสะท้อนมาจากด้าน

หลัง หญิงสาวตกใจและรีบหันไปมอง แต่ไม่พบสิ่งใด ทว่าสิ่งที่สะดุดตา

ที่สุดคือเครื่องประดับที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง

ปิ่นปักผมที่อินทร์มอบให้เธอเมื่อกลางวัน...แสงไฟเมื่อครู่คงเป็นแสง

ไฟรถจากข้างนอกที่สาดเข้ามาในห้อง เธอนึกได้ว่าชายหนุ่มมีน้ำ ใจอยาก

ให้เธอสวยในวันรุ่งขึ้น จึงเดินเข้าไปหยิบปิ่นขึ้นมาดูใกล้ๆ เครื่องประดับนี้

งดงามกว่าที่ได้เห็นตอนกลางวัน

‘ของเก่าเชียวนะกลินท์ สมัยรัชกาลที่ห้าน่าจะได้’

อินทร์บอกเธอไว้เช่นนั้น หญิงสาวไม่สนใจว่ามันมีราคาเท่าใด ค่า

ของบางอย่างมันอยู่ที่คนให้ต่างหาก...

ความคิดนั้นทำให้เกิดรอยยิ้ม ก่อนจะเดินปรี่ไปที่หน้ากระจก บรรจง

ปักปิ่นงามที่มวยผมตัวเอง

“แบบนี้หรือเปล่านะ” เธอพึมพำ เอียงหน้าซ้ายขวา ไม่แน่ใจว่าปัก

มันได้ถูกต้องหรือไม่

กลินท์มัวแต่สนใจภาพในกระจก รู้ตัวอีกทีเธอก็ต้องตกใจเมื่อมีลม

แรงพัดเข้ามาทางระเบียง ทำให้ม่านสะบัด ข้าวของอย่างกระดาษที่วาง

อยู่ในห้องปลิวว่อน หญิงสาวตกใจรีบเดินออกไปนอกระเบียงเพื่อปิดประตู

กระจก

“สายป่าน มีพายุมาด้วยละ” เธอตะโกนบอกเพื่อนในห้องน้ำ แต่

เมื่อเดินมาที่ระเบียง ทิวทัศน์ด้านล่างก็ทำให้เธอประหลาดใจ เมื่อทั้งเมือง

เชียงใหม่ยามนี้มืดสนิท

                ไฟดับทั้งเมืองหรือ...เธอคิด พายุเมื่อครู่พัดมาเพียงวูบเดียว เธอยัง

ไม่ได้ยินเสียงฝนฟ้ากระหน่ำ ด้วยซ้ำ ไม่น่าถึงขั้นที่จะทำให้ไฟดับทั้งเมืองได้

กลินท์แหงนหน้ามองดูท้องฟ้า ดวงจันทร์อับแสงเพราะเป็นคืนเดือนดับ

แต่ท้องฟ้าก็พร่างไปด้วยดาว ไร้เงาเมฆฝน

มองไปเบื้องล่างอีกครั้ง หัวใจก็ต้องสั่นระทึกกับสิ่งที่เห็น ประตู

ท่าแพไม่มีสปอตไลต์ ไร้รถยนต์ที่เคยแล่นพลุกพล่าน เธอไม่เห็นใครอยู่

ตรงนั้นแม้แต่คนเดียว มีเพียงคบไฟวางเป็นแนวยาวรอบกำแพง ส่วนประตู

และก้อนอิฐที่กำแพงนั้นก็ช่างต่างจากที่เคยเห็น

กลินท์ไม่เข้าใจภาพที่เธอเห็น รีบถอยฉากเข้าไปในห้องด้วยความ

ตกใจ แล้วสะดุดขาเก้าอี้ล้มลง

“ว้าย!”

เสียงร้องดังลั่นทำให้สายป่านที่อยู่ในห้องน้ำรีบออกมาดู

“กลินท์ เป็นอะไรหรือเปล่า” สายป่านซึ่งอาบน้ำเสร็จพอดีรีบเข้า

มาประคอง

“ป่าน เธอออกไปดูข้างนอกสิ ไฟดับทั่วเมืองเชียงใหม่เลย น่ากลัว

มากๆ” กลินท์เอ่ยเสียงสั่น

สายป่านทำหน้างงแล้วรีบเดินไปนอกระเบียงอย่างระมัดระวัง เรื่อง

แบบนี้สาวข้ามเพศอย่างเธอก็กลัวไม่น้อย

ผู้จัดการส่วนตัวถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาในห้อง เลื่อนปิดประตู

กระจก

“น่ากลัวใช่ไหม” นางแบบสาวหันมาถาม

สายป่านกลอกตา แล้วพยุงเพื่อนขึ้นมานั่งบนเตียง

“ไม่เห็นมีอะไร ข้างนอกยังเป็นเชียงใหม่ที่แสนศิวิไลซ์เหมือนเดิม

เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ แล้วรีบพักผ่อนเสีย พรุ่งนี้ต้องไปซ้อมเดินแต่เช้า”

“แต่ฉันเห็น...” นางแบบสาวยังพยายามอธิบาย

“ถ้าฉันดื่มไวน์ไปเกือบหมดขวดเหมือนเธอก็คงเห็นเหมือนกัน

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024