กระซิบรักกับฉันสิ (Cookie)
ประหยัด: 38.15 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 2 รายการราคา 66.00 บาท - 69.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
กระซิบรักโรแมนติก
1
แสงตะวันยามตกดินอาบย้อมพื้นสนาม เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งพลางเตะลูกฟุตบอลตามลำพังโดยมีเด็กสาวเฝ้ามองผ่านตาข่ายที่ขึงกั้นรอบสนาม สิ่งที่กำแน่นอยู่ในมือเล็กคือผ้าขนหนูสีขาวสะอาด
แต่ว่า...วันนี้เธอก็คงไม่ได้มอบให้เขาอีกแน่ๆ
มือข้างนั้นกำแน่นราวกับกำลังอธิษฐาน ขณะที่สายตาทรมานใจเฝ้ามองตามร่างของเด็กหนุ่มที่วิ่งไล่ลูกฟุตบอล ในอกเด็กสาวก็เจ็บแปลบ
เธอผละจากตาข่าย ชั่วขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด จู่ๆ ลูกบอลก็กลิ้งมาหยุดอยู่ตรงปลายเท้า เด็กหนุ่มที่วิ่งตามมาดูเหมือนว่าเพิ่งจะรับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย ตอนนั้นเอง ใบหน้าดุดันจึงผุดรอยยิ้มขึ้นนิดหนึ่ง
“อะไรกัน อยู่หรอกเหรอ”
“อื้ม”
คนถามขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ฉวยเอาผ้าขนหนูไปจากมือที่สั่นน้อยๆ ของเด็กสาว “ใช้ได้ไหม”
“อ๊ะ...อื้อ”
เขากำลังใช้ผ้าขนหนูของเราเช็ดเหงื่ออยู่ เจ้าของผ้าจองมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
โดยที่ยังถือผ้าขนหนูซึ่งเปื้อนทั้งเหงื่อและฝุ่น เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายมองกลับบ้าง เทียบกับสายตาหวั่นไหวของเด็กหญิงแล้ว สายตาของอีกฝ่ายช่างร้อนแรงปานจะแผดเผา เขายกแขนขึ้น นิ้วยาวๆ เอื้อมมาแตะแก้มคนตรงหน้า ความเย็นจากปลายนิ้วทำให้เธอสะดุ้งน้อยๆ และท่าทางนั้นก็เรียกรอยยิ้มสดใสจากเด็กหนุ่มได้เป็นอย่างดี
“...คือว่า...ฉัน...เธอ...”
กริ๊งงงง!!!!
“อ๊า โธ่...กำลังจังหวะดีแท้ๆ”
ความฝันแสนโรแมนติกที่อยู่ตรงหน้ามาจนถึงเมื่อครู่หายวับไปในพริบตา ฉันควานมือไปหานาฬิกาปลุก เสียงตบนาฬิกาดังเปรี้ยงพร้อมกับที่เสียงน่ารำคาญหยุดไปพอดี พอลืมตาก็รู้สึกได้ว่าแสงแดดส่องผ่านผ้าม่านสีชมพูอ่อน แล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
ในมือซ้ายยังมีนิยายเปิดค้างไว้อยู่ หนังสือที่อ่านจนกระทั่งหลับคามือ นิยายค่อนข้างเก่าเล่มนี้มีปกสีชมพูและภาพประกอบแสนน่ารัก เป็นนิยายสาวน้อยเล่มโปรดของฉันมาตั้งแต่สมัยเรียน ถึงแม้จะอ่านซ้ำซากจนท่องปากเปล่าได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะอ่านสักกี่ครั้งฉันก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องราวแสนวิเศษราวกับความฝันอยู่นั่นเอง
ฉันยื่นมือไปเก็บหนังสือเล่มนั้นกลับเข้าตู้หนังสือเตี้ยๆ ที่วงติดอยู่กับเตียง แน่นอนว่าในตู้นั้นเต็มไปด้วยนิยายคอลเล็กชั่นโปรด พอเห็นสันหนังสือสีชมพูเรียงรายกันแล้วฉันก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มรูปงามและเรื่องราวความรักของหญิงสาว ‘ธรรมดา’ ทั่วไปซึ่งไม่มีอะไรแปลกใหม่ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนทุกครั้งที่น้องสาวเห็นหนังสือเล่มนี้ก็มักจะบ่นงึมงำว่า
‘ไม่เห็นเข้ากับอิมเมจของพี่เลย’
แต่ฉันก็รู้ว่าน้องแอบมาอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยเหมือนกัน
...เป็นผู้หญิงช่างฝันมันไม่ดีตรงไหน
...การหลงใหลชายหนุ่มสุดวิเศษราวกับเจ้าชายมันผิดยังไง
ฉันรู้ดีว่าเนื้อหาในหนังสือไม่ใช่แนวสำหรับสาวโสดวัยยี่สิบเก้าปีแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองไปจากจุดนี้ ก็นะ...การอ่านนิยายสาวน้อยไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อยนี่นา
ฉันบิดขี้เกียจสุดตัวแล้วลุกขึ้นจากเตียง หลังจากปิดโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือซึ่งเปิดทิ้งเอาไว้ทั้งคืนตรงเหนือชั้นหนังสือแล้วฉันก็ยื่นมือไปหยิบรีโมตที่วางไว้บนโต๊ะเล็กขึ้นมากดเปิดทีวี
ฉันอยู่ในห้องเดี่ยวขนาดแปดเสื่อมาตลอดตั้งแต่ออกมาอยู่คนเดียว เวลาเงินเดือนขึ้นฉันก็มักจะคิดถึงเรื่องการย้ายบ้าน แต่ห้องที่สามารถหยิบข้าวของที่จำเป็นได้ในระยะแค่เอื้อมมือก็สะดวกสบายดี ถ้าหากจะฟุ่มเฟือยหน่อยคือถ้ามีห้องอาบน้ำแยกออกจากห้องสุขาก็คงดีขึ้นไปอีก แต่ที่เป็นห้องรวมแบบทุกวันนี้ก็ชินเสียแล้ว หห้องครัวเล็กๆ มีเตาแก๊สหัวหนึ่งซึ่งแทบไม่ได้ใช้ทำอะไรนอกจากต้มน้ำร้อน อันที่จริงฉันก็พอทำอาหารได้อยู่หรอก แต่ก็ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำ ถ้ารู้จักร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอร่อยๆ เสียงอย่างก็ไม่เดือดร้อนเรื่องอาหารการกินแล้ว
การเตรียมตัวตอนเช้าหลังจากใช้ชีวิตตามลำพังมากว่าห้าปีกลายเป็นแพตเทิร์นที่เคลื่อนไหวไปเองโดยอัตโนมัติ สามสิบนาทีหลังจากลืมตาตื่นฉันก็ออกจากบ้าน
สูทผ้าสีเทาเรียบๆ เส้นผมสีดำยาวตรงดูจืดชืดถูกรวบเป็นหางม้าด้วยกิ๊บสีดำ สวมแว่นตาทรงรีสีดำ..เอาล่ะ เท่านี้ภาพ ‘เจ๊จอมเฮี้ยบ’ ประจำออฟฟิศก็เสร็จสมบูรณ์
แม้เสียงเล่าลือรอบตัวเกี่ยวกับฉันจะฟังดูไม่ค่อยดีนัก แต่ฉันกลับค่อนข้างชอบมันไม่น้อย แว่นตา ‘ทรงเจ๊’ นี่ฉันจงใจเลือกมาเองเลยทีเดียว
...เจ๊จอมเฮี้ยบ นั่นแหละฉันล่ะ
‘มิอุระ โนริโกะ’ อายุยี่สิบเก้าปี สถานะโสด
รูปลักษณ์ภายนอกคือเจ๊จอมเฮี้ยบตัวแม่ ถึงจะไม่เคยถูกใครว่าว่าหน้าตาขี้เหร่ แต่ฉันก็รู้สึกว่าหน้าตาตัวเองออกจะเรียบๆ จืดๆ ดังนั้นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบราวกับเจ้าชายอย่างในนิยายสาวน้อยสมัยก่อนนั่นฉันรู้ดีว่าคนอย่างนั้นหาได้ยากมากในชีวิตฉันจริงๆ
หลังจากเข้ามาเป็นพนักงานบริษัทได้ไม่นานฉันก็มีแฟนคนแรก อีกฝ่ายคือรุ่นพี่ในบริษัท แล้วเราก็ตกลงคบกัน ในตอนแรกๆ ความสัมพันธ์ของเราก็ดีอยู่หรอก แต่จู่ๆ เขาก็ไม่ชอบหน้าตาจืดๆ นิ่งๆ ที่มีมาตั้งแต่เกิดของฉันจึงบอกเลิกหลังจากคบกันได้ไม่ถึงครึ่งปีดี มิหนำซ้ำยังออกจากบริษัทอีกด้วย มีข่าวลือหนาหูว่าเขาไปจีบแฟนของหัวหน้าเลยถูกส่งออกไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
หลังจากช็อกจนหลับไปหนึ่งวันเต็ม ฉันก็เข้าใจได้ถึงความเป็นจริงอย่างหนึ่ง นั่นคือฉันไม่เหมาะกับการคบหากับผู้ชาย
การที่ฉันไม่คบกับใครอีกเลยหลังจากเลิกกับแฟนเก่าไปเป็นเพราะฉันไม่พยายามเอง ไม่พยายามทำอะไรทั้งสิ้นจึงไม่มีคนเข้ามาใกล้ชิด และแน่นอนว่าฉันเองก็ไม่มีความกล้าที่จะเป็นฝ่ายรุกเองด้วย
หากว่าสามารถคบหากันแบบเพื่อน ใช้เสน่ห์อย่างระมัดระวังแล้วมีความรักราบรื่นได้ก็คงดี แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ และก็รู้ด้วยเช่นกันว่าทนเป็นฝ่ายถูกกระทำไม่ได้ ฉันรู้ว่าตัวเองกลัวการถูกสร้างบาดแผลจนกลายเป็นคนขี้ขลาด
...แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางเวลาที่ฉันนึกอยากมีความรัก
เมื่อไหร่น้า เจ้าชาย...ถึงตั้งใจว่าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก แต่ถ้าหากว่ามีผู้ชายที่บอกว่าฉันเป็นอย่างที่เป็นอยู่นี้ก็ดีแล้วคงจะดีไม่น้อย...
ผู้ชายที่ราวกับก้าวออกมาจากหนังสือเล่มนั้น...
‘มีแค่ฉันเท่านั้น ผู้ชายที่จะปกป้องเธอ รู้ไหม ลูกแมวน้อย’ อะไรแบบนี้
อ๊ายยย
ยอดไปเลย
ไม่น่าเชื่อเลยว่าคำพูดแบบนั้นจะเป็นคำพูดของเด็ก ม.ปลาย
...เอ่อ ใจเย็นหน่อยเรา คิดจะมีเด็ก ม.ปลาย มาจีบนี่ก็ไม่ไหวนะ
คิดฟุ้งซ่ายไปได้ขนาดนี้ สงสัยอาการฉันคงเข้าขั้นโคม่าแล้วกระมัง แต่แหม กลุ้มใจไปก็ช่วยไม่ได้นี่นา เรื่องจินตนาการน่ะเก็บไว้แค่ในหนังสือก็พอใจแล้ว
รู้ตัวอีกทีตอนที่เห็นเวลาในทีวี...ได้เวลาออกจากบ้านแล้ว ฉันรีบเลือกหนังสือจากชั้นหนังสือข้างเตียงไปเล่มหนึ่ง ใส่ปกแล้วยัดลงกระเป๋า ตั้งใจจะเอาไว้อ่านบนรถไฟและตอนพัก
ฉันปิดทีวีแล้วกวาดตามองรอบห้องเร็วๆ อีกครั้ง และหันไปมองกระจกเป็นอย่างสุดท้าย สิ่งที่ปรากฏคือข้อสรุปชัดเจนที่สุดว่าฉันช่างไร้ความเย้ายวนใจอย่างสิ้นเชิง!
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รีวิว (1)

24/06/2014
กระซิบรักรักฉันสิ เป็นเรื่องของพี่สาววัยยี่สิบเก้าที่สุดแสนจะเพ้อเจ้อจริงๆ ชอบอ่านนิยายวัยรุ่นหวานแหวว ทั้งๆที่ในโลกแห่งความจริงนางเป็นยัยเจ๊จอมเฮี๊ยบหัวหน้าฝ่าย ใส่สูท ผมรวบตึง จืดชืด แถมยังใส่แว่นอีกต่างห่าง เชยซะไม่มี วันดีคืนดีก็เกิดไป ตกหลุมพรางหนุ่มน้อยที่อายุห่างกันตั้งสี่ปี เอาเข้าไป กลายเป็นว่าเอาเก็บไปเพ้อไปฝัน อยู่ทุกคืน จนวันหนึ่งแม่ โทมาชวนให้ไปดูตัว เลยตบปากรับคำไปเฉยเลย อีกด้านนึงก็เป็น พนักงานหนุ่มอายุยี่สิบห้าปีที่ตกหลุมรักพี่สาวหัวหน้าฝ่ายจอมชืด ก็เลิกกับแฟนสาวไฮโซ มาวางแผนพิชิตใจ ป้าแว่นจอมเพ้อเจ้อ เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ตบจูบรุนแรงอะไรเลย ออกไปแนวโรแมนติกเสียมากกว่า เพราะนางเอกจะฝันถึงผู้ชายในอุดมคติตลอด ส่วนผู้ชายก็วางแผนให้กลายเป็นผู้ชายในฝันของนางเอกแบบค่อยเป็นค่อยไป จนวันนึงมีโอกาสใกล้ชิดแบบจริงจัง กับกลายเป็นว่า นางเอกจะไปดูตัว แล้วอาจจะแต่งงานขึ้นมาซะงั้น พระเอกเลยบุกไปแย่งตัวนางเอกมาเพราะความเข้าใจผิด แต่กลับกลายเป็นเรื่องดีเสียด้วย เพราะคนเพ้อเจ้อ แถมยังความรู้สึกช้าปนโง่ของนางเอกทำให้เรื่องยุ่งยากอยู่พอสมควร แต่เนื้อเรื่องค่อนข้างเหมาะกับสาวๆที่ชอบ หนุ่มน้อย เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่า น่ารักมากๆ เนื้อเรื่องกระชับ แต่มีบางตอนที่เป็นชีวิตประจำวันของนางเอกค่อนข้างจะสุดแสนน่าเบื่อ เพราะนางทำแต่เรื่องเฉื่อยๆ เหมือนกับว่าพอมีพระเอกเข้ามาในชีวิต ชีวิตนางก็ค่อนข้างน่าสนใจขึ้นมาไม่น่าเบื่อเหมือนกับตอนเริ่มคือ อ่านนิยายแล้วเพ้อเจ้อถึงผู้ชายที่ตัวเองฝันถึงไปวันๆ พระเอกก็เข้าข่ายหญ้าอ่อนไฟแรง คือกระชากใจได้ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงได้แทบทุกคน ยกเว้นแต่ว่า ชายในฝันนี่ ตลกตรงที่พระเอกสร้างมันขึ้นมาเพื่อเป็นเหยื่อล่อนางเอก แต่มีคนอื่นมาติดกับแทน แล้วก็ยังมีเพื่อนๆของพระเกที่คอยช่วยคอยส่งข่าวให้พระเอกอยู่ตลอด พระเอกไฟแรงแล้วก็มีความพยายามดีทั้งๆที่ความจริงแล้วเป็นคนขี้แกล้งสุดๆอ่านแล้วรู้สึกสดใส เพราะความพยายามของพระเอก ไม่ได้เหมือนพระเอกนิยายอื่นๆคือ รวยอยู่แล้วแล้วเอาเงินฟาด อันนี้คือพยายามเรื่องงานไปด้วยจนได้เซ็นสัญญาซื้อขายสำคัญ คือพยายามจนมีปัญญาจะเลี้ยงนางเอกได้แล้วอะไรแบบนี้ สำหรับคนที่มักจะสงสัยว่าหนังสือแปลของแจ่มใสเล่มเล็กๆ ที่แปลมาจากจีนหรือญี่ปุ่นนั้นมีเลิกซีนไหม คือมี และแปลออกมาได้ค่อนข้างดี และก็เป็นนิยายที่เหมาะสมแก่การพกพา ไปอ่านให้ได้แอบกรี้ดได้เลย