Evil Twin พันธะร้ายล่อหัวใจให้หลงรัก
ประหยัด: 66.15 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 3 รายการราคา 80.00 บาท - 130.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ดอพเพลแกงเกอร์ (Doppelganger)
Doppel มีความหมายเดียวกับคำว่า Double ในภาษาอังกฤษ หรือแปลได้ว่า 'ซํ้าสอง, ส่วนคำว่า Ganger หมายถึง Goer มีคำเรียกอีกอย่าง ว่า Evil twin (แฝดปีศาจ) หรือ Bilocation (การปรากฏตนในสองสถานที่) ซึ่งมีที่มาจากเรื่องเล่าขานพื้นบ้านของเยอรมัน
นิยามกว้างๆ ของดอพเพลแกงเกอร์กล่าวถึงปรากฏการณ์ที่มีการพบเห็นบุคคลผู้หนึ่งในเวลาเดียวกันแต่ต่างสถานที่ โดยทั่วไปแล้วดอพเพลแกงเกอร์ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้าย ความเจ็บป่วย และภยันตราย มักจะเกิดพื้นถ้าหากได้พบเห็น
ดอพเพลแกงเกอร์เป็นคำที่ใช้เรียกกรณีที่มนุษย์คนหนึ่งได้ปรากฏตัวตนเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีกคนหนึ่งซึ่งจะมีลักษณะภายนอกเหมือนกันทุกประการ
ตามเรื่องราวที่เล่าขานกันมา ดอพเพลแกงเกอร์นั้นจะไม่มีเงาของตัวเอง รวมทั้งไม่มีภาพสะท้อนบนกระจกหรือผิวน้ำ มันอาจจะให้คำแนะนำอะไรบางอย่างกับบุคคลต้นแบบของมันด้วยเจตนาร้ายซึ่งยุแยงให้เกิดความเข้าใจผิดต่างๆ
แต่ก็ยังมีอีกหลายความเชื่อเกี่ยวกับเจ้าดอพเพลแกงเกอร์
บ้างก็ว่า...ดอพเพลแกงเกอร์เป็นปีศาจ
บ้างก็ว่า...ดอพเพลแกงเกอร์เป็นเงาของเรา
บ้างก็ว่า...ใครที่เห็นดอพเพลแกงเกอร์ตัวเองแล้วต้องตาย
บ้างก็ว่า...ดอพเพลแกงเกอร์จะคอยอยู่ข้างหลังเรา แล้วฆ่าเราทิ้งยามที่จิตใจเราอ่อนแอ
บ้างก็ว่า...ดอพเพลแกงเกอร์จะสวมรอยเป็นเราหลังจากที่ฆ่าเราทิ้ง
'หึ...คุณเชื่อแบบนั้นจริงๆ เหรอ ไม่หรอก ดอพเพลแกงเกอร์ไม่ได้ จะฆ่าคุณสักหน่อย’
‘…’
'เขาก็แค่...จะ 'แย่ง' ร่างกายของคุณมาใช้ก็เท่านั้นเอง'
1
ดอพเพลแกงเกอร์
(HUMAN TWIN)
5.45 P.M. ที่โรงเรียน
"ฉันขอค้าน!"
หลังจากที่นั่งรอจังหวะดีๆ ฟังเพื่อนๆ ในห้องเรียนคนอื่นเสนอความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนานมานานพอสมควร ในที่สุดก็ถึงเวลาอันสมควรที่ฉันจะคัดค้านเรื่องบางเรื่องที่คิดว่ามันไม่สมควรให้เกิดขึ้นในห้องเรียน มือข้างขวาฉันยกตรงชี้ขึ้นฟ้า สองขายืนขึ้นจากเก้าอี้แสดงถึงความตั้งใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มของยัยลูแปงคนนี้!
ใครจะตกลงกันยังไงก็ได้ แต่ว่าฉันทนไม่ด้ายยยอยู่แค่เรื่องเดียว เรื่องเดียวเท่านั้น!
"ทำไมจะต้องให้ฉันเล่นบทจูเลียตด้วย"
นี่แหละปัญหาร้ายแรงที่ฉันเห็นว่ามันควรจะต้องได้รับการแก้ไข
"ก็ทุกคนเขาลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่าลูแปงเหมาะสมที่สุด" ม็อค หัวหน้าห้องเป็นคนอธิบาย เพื่อนคนอื่นที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็พลอยพยักหน้าเห็นด้วย
"ฉันเหมาะสมตรงไหนกัน" ฉันเบ้ปากไม่เห็นด้วยอย่างแรง อะไรคือคำว่าเหมาะสมกัน ทุกคนลองหลับตาแล้วนึกภาพฉันตอนสวมกระโปรงบานแฉ่งสีชมพูแปร๋นเริงร่าอยู่บนเวที พูดจาติดๆ ชัดๆ แถมยังล้มเพราะใส่ส้นสูงสิ โอ๊ย แค่คิดก็ขายหน้าประเทศชาติแล้ว
ละคงละครแสดงงานวัฒนธรรมผีบ้าอะไรฉันไม่อยากเล่นทั้งนั้นแหละ ปีที่แล้วฉันยังไปนั่งขายตั๋วหน้าโรงเรียนอยู่เลย ปีนี้ก็ปล่อยฉันไปที่ชอบๆ เถอะนะ
"ก็เพื่อนๆ เลือกแล้วนี่นา หรือเธอจะไม่เคารพในความคิดของเพื่อน 'ทั้งห้อง, ล่ะลูแปง" ม็อคเลิกคิ้วแถมยังเน้นคำว่า 'ทั้งห้อง, อย่างชัดเจน
"กะ...ก็แหม..." เถียงไม่ออก
"รับบทนี้ไปซะ ทุกคนเขาเลือกเธอแล้ว
เมื่อผนวกคำพูดของม็อคและสายตาของสมาชิกร่วมห้องเข้าด้วยกันแล้ว มันก็เหมือนจะบอกฉันว่า 'รับบทนี้ไปซะ ไม่งั้นทุกคนเล่นเธอเละแน่ นังลูแปง!!'
"ฉันเล่นละครไม่เป็นนี่นา" ฉันอ้อนพลางทำตาใสเป็นลูกแมวน้อยใส่ม็อค แต่ลูกแมวน้อยก็ต้องหงอกลับมาเมื่อเจอพลังสายตาฟ้าพิฆาตฟาดใส่เข้าให้ สุดท้ายฉันเลยต้องโบกธงขาวยอมรับไปอย่างไม่มืข้อกังขา
"เฮ้อ เล่นก็ได้ แล้วใครเล่นเป็นโรมิโอ"
ละครในงานวัฒนธรรมโรงเรียนทุกปี ฉันแทบไม่เคยเข้าดู แถมยังเก็บไปนินทาตอนที่พวกนั้นเล่นไม่ดีอีกต่างหาก ไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาใช้กรรมเล่นเป็นนางเอกเองแบบนี้ นินทาใครไว้เข้าตัวเร็วจริงว้อย
"โรมิโอเหรอ" ม็อคทวนคำพลางมองเอกสารในมือ "รู้สึกจะเป็นพวกทับหนึ่งน่ะ"
"หา! ว่าไงนะ" ฉันทำตาโต ลุกพรวดพราดไปดึงเอกสารในมือม็อคมาดูกับตาตัวเอง "ไหนๆ รายชื่อนักแสดง"
"รายชื่อนักแสดงคนอื่นๆ ยังไม่มาเลยไม่รู้ว่าใครเป็นตัวอะไรบ้าง"
"หมายถึงตำแหน่งตัวละครที่มันว่างๆ อยู่นี่น่ะเหรอ" ฉันจิ้มเข้าไปในเอกสารชี้ให้เห็นถึงรายซื่อตัวละครตัวอื่นๆ ที่ยังไม่มีชื่อนักแสดงเขียนต่อท้าย
"อืม นั่นแหละตัวละครที่พวกทับหนึ่งจะเล่นกัน" พยักหน้า
โอย จะดิ้นตาย เล่นละครปีแรกก็ซวยได้ไปเล่นกับพวกต่างห้องอีก นี่ฉันไม่รู้จักใครสักคนเลยนะ ขืนเล่นห่วยแตกพวกได้เก็บเอาไปนินทาแหงๆ
อยากโดดผามออีแดงตายจริงเว้ย!
"นี่ แล้วทำไมต้องเล่นกับพวกห้องอื่นด้วยล่ะม็อค เล่นแต่ห้องเราก็ได้ พวกเราเล่นกันเองเถอะนะ" ฉันเขย่าแขนขอร้อให้ม็อคเปลี่ยนใจ เล่นกับพวกห้องเดียวกันฉันก็ยังไม่เกร็งเท่าไหร่ ถ้าเล่นแย่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นแค่ตลกฝืดๆ ให้คนในห้องมันแซวเล่นก็เท่านั่นล่ะ
"ไม่ได้หรอก"
แง่ะ!
"ปีนี้ฉันกับมิลค์อยากให้มันออกมาอลังการหน่อยเลยตัดสินใจว่าจะเล่นรวมห้องเรากับห้องทับหนึ่ง"
มิลค์ที่ว่าก็คือน้องสาวฝาแฝดของม็อค แถมยังเป็นหัวหน้าห้องทับหนึ่งอีกต่างหาก นอกจากจะหน้าเหมือนกันแล้ว นิสัยก็ยังเผด็จการพอกันอีกด้วย
"พรุ่งนี้มิลค์จะมาประกาศรายชื่อตัวละครที่เหลือแล้วก็จะลองซ้อมบทง่ายๆ ดูก่อน นัดหลังเลิกเรียนนะ" บอกฉันเสร็จม็อคก็หันไปตะโกนย้ำกับเพื่อนๆ "ทุกคน พรุ่งนี้นัดกันหลังเลิกเรียนน้า!!"
"รับทราบบบ,,
ฮึก! พรุ่งนี้ฉันจะป่วย ไม่มาโรงเรียนเด็ดขาด
ฉันหิ้วถุงพะรุงพะรังเต็มสองมือออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต เหตุเพราะวันนี้ปะป๊ากับหม่าม้าฉันไม่ยอมออกไปทำมาหากินอะไรเหมือนพ่อแม่คนอื่นเขา -_-^ อยู่บ้านเฉยๆ ทั้งวันก็เอาแต่นั่งรอของกิน ลำบากลูกสาวคนเดียวอย่างฉันต้องไปหาซื้อเสบียงเข้าบ้านเป็นกระสอบ อย่างกับจะเอาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยนํ้าท่วม
เฮ้อ แล้วของแต่ละอย่างที่ให้ซื้อใช่ว่าจะเบาๆ ข้าวสารสามถุง ผลไม้กระป๋องสิบกระป๋อง ผักนับสิบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนับสิบ กว่าจะเดินจากซูเปอร์มาร์เก็ตมายืนตรงทางม้าลายได้มันไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ กล้ามฉันขึ้นเท่ากล้ามซีวอนแล้วมั้งเนี่ย
แถมช่วงเย็นยังเป็นช่วงที่คนพลุกพล่านที่สุด นักเรียนเลิกเรียน พวกผู้ใหญ่เลิกงาน รถก็เยอะ รถเมล์ก็เต็ม รออีกสักแปดชาติแล้วกันกว่าฉันจะได้นั่งรถกลับบ้านสบายๆ น่ะนะ =_=^
ฉันวางข้าวของในมือลงกับพื้นเลียบฟุตบาธพลางสะบัดมือตัวเองไปมาในอากาศแก้อาการเมื่อยรับประทานระหว่างรอให้สัญญาณไฟข้ามถนนสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ตึก ตึก...
ถึงถนนจะว่างแต่ไฟข้ามถนนก็ยังแดงอยู่ ไม่รู้ยัยบ้าที่ไหนดันทำตัวไม่เคารพกฎหมายเดินอ้อยอิ่งข้ามถนนไปเฉยเลย ใส่เครื่องแบบเดียวกับฉันอีกด้วย แถมยังมัดผมทรงหางม้าเลียนแบบฉันอีกต่างหาก
หันหน้ามาสิยะหล่อน อยากเห็นหน้าจริงๆ ยัยผู้หญิงมักง่าย ไม่สนใจกฎหมายมันหน้าตาเป็นยังไง
อ๊ะ! อย่างกับสั่งได้เลยแฮะ พอยัยนั่นเดินไปได้แค่ครึ่งเดียวอยู่ๆ ก็หัน หน้ามาช้าๆ ราวกับรู้ความคิดของฉัน ใบหน้าขาวใสเนียนเด้ง หน้ารูปไข่ จมูกถึงจะไม่โด่งสูงแต่ก็เป็นสันเล็กๆ น่ารัก ตาเรียวบ่งบอกถึงเชื้อชาติจีนที่ผสมอยู่ในตัว ผมยาวดำขลับเงางามปลิวไปตามแรงลม ริมฝีปากเหยียดยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน
เฮ้ย 0_0
เฮ้ยย OoO
เฮ้ยยย นั่นมันหน้าฉันนี่!!
พี่สาวเหรอ หรือน้องสาวที่หายตัวไปเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ไม่นะ! ไหน ป๊ากับม้าบอกว่ามีฉันคนเดียวไง หรือเข้าใจว่าแฝดของฉันอีกคนตายไปแล้ว เลยคิดว่ามีฉันแค่คนเดียว
โอ๊ย ไม่รู้อ่ะ จะบอกว่ามองผิดก็ไม่ใช่ หน้าออกจะเหมือนกันราวกับคนเดียวกันซะขนาดนั้น ต้องโทรไปถามสองคนนั้นให้รู้เรื่อง
ฉันตบตามตัวสาละวนกับการหาโทรศัพท์มือถือ ไอ้ชุดบ้า! ใครเขา สั่งเขาสอนให้มีกระเป๋าเยอะแบบนี้เนี่ย!
บรื้นนน
รถแล่นมาด้วยความเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพอดี พอเงยหน้าไปมองยัยฝาแฝดที่สาบสูญก็เห็นยังยืนนิ่งอยู่กลางถนน ไม่ยอมกระดุกกระดิกไปไหนราวกับหุ่นขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์
จะบ้าหรือไง รถกำลังจะมานะ รีบข้ามไปอีกฝั่งเร็วๆ สิ!!
“...”
โอ๊ย ยัยบ้านั้นอัมพาตกินหรือไงเนี่ยยย เฮ้ย หรือว่าจะฆ่าตัวตาย
ไม่นะ ฆ่าตัวตายมันเป็นบาปมหันต์เลยนะเฟัย เคยเรียนมั้ย พระพุทธศาสนาน่ะ ทำไงดีๆ ยัยนั่นไม่ยอมขยับตัวเลยสักนิด โอย อยู่เฉยไม่ได้แล้ว!
ฉันหลับหูหลับตาใส่เกียร์น้องหมาวิ่งปรู๊ดออกมาจากที่เดิม เป็นญาติกันจริงไม่จริงไม่รู้ ยังไงซะฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาฆ่าตัวตายกลายเป็นศพเละติดตาฉันหรอกน่า
ยิ่งหน้าเหมือนกันด้วย ทุกคนจะได้พานเข้าใจว่าฉันตายพอดี
"นี่เธอ!!"
ฉันยื่นมือไปจับแขนยัยนั่น ตั้งใจลากกลับเข้าฝัง แต่ทว่า...
วูบ~
มะ...มือฉัน ผ่านตัวยัยนั้นไปเฉยเลย 0_0
เอี๊ยดดด!!
"กรี๊ดดดดดดด,, ฉันร้องออกมาอย่างตกใจ รถพุ่งมาด้วยความเร็วสูง เหยียบเบรกในระยะกระชั้นชิด เสียงตังติดหูจนฉันตกใจล้มลง
"นังหนูอยากตายหรือไง!!"
เจ้าของรถเลื่อนกระจกลงพลางยื่นหน้าออกมาบ่นฉันเสียงดังทำเอาคนที่ยืนตรงฟุตบาธทั้งสองข้างหันมามองเป็นตาเดียวกัน หัวใจฉันสั่นอย่างแรงราวกับมีใบพัดหมุนอยู่ในอก ไอ้ตกใจก็ตกใจอยู่นะ แต่ถ้าเทียบกับ...
"...หึ,,
เสียงหัวเราะในลำคอของฝาแฝดลำตัวโปร่งแสงทำเอาขนแขนฉันสแตนด์อัพพลีส รู้สึกว่าขนหัวเริ่มลุกขึ้นมานิดๆ แล้วด้วย
ฉันหันไปมองภาพนั้นก่อนที่เธอจะเลือนรางหายไปอย่างช้าๆ
เวรละ ผะ...ผีหลอก!!
"ป๊า! ม้า!"
สวดมนต์มันทุกคาถากว่าจะนั่งรถมาถึงหน้าบ้าน พอเห็นแสงไฟในบ้านฉันก็รีบเปิดประตูโยนของที่ซื้อมาไว้ที่พื้น กระโจนเข้าไปหาคู่สามีภรรยาที่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องโถงโดยไม่สนใจสภาพลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดเดียว บอกได้คำเดียวตอนนี้ลูแปงหลอนอย่างแรงพระเจ้าค่ะ TOT
"มีอะไร เสียงดังมาแต่ไกลเชียว เอ้าๆ ใจเย็นๆ หายใจลึกๆ ค่อยๆ พูดก็ได้" ม้าตบหลังฉันเบาๆ เมื่อเห็นฉันทำท่าทางกระวนกระวาย
“ป๊า ม้ามีลูแปงคนเดียวใช่มั้ย,,
"หืม? ถามอะไรแปลกๆ หรือว่าไปเจอผู้หญิงที่ไหนบอกมาว่าเป็นพี่น้องคนละพ่อล่ะ" ม้าเลิกคิ้วถาม เล่นเอาป๊าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ สะดุ้งเฮือก
"เปล่า ม้าแน่ใจนะว่าไม่ได้มีลูกสาวฝาแฝด"
"จะไปมีได้ไง ม้าคลอดออกมาคนเดียวจริงๆ ไม่เชื่อถามป๊าดูสิ จริงมั้ยป๊า" ม้าหันไปสะกิดถามป๊า ป๊าก็พยักหน้ายืนยันให้ทีหนึ่ง แต่แค่นั้นมันก็ยังไม่พอสำหรับฉันอยู่ดี
"...ไม่ใช่ว่าคลอดออกมาสองคน แล้วตายไปคนหนึ่งหรอกนะ"
"เอ๊ะ ลูแปงนี่ยังไงนะ" ม้าตีไหล่ฉันทีหนึ่งแล้วทำเสียงเขียวใส่ "ด่าหน่อยซิป๊า พูดจาไม่รู้เรื่องจริงๆ เลยเด็กคนนี้นี่!"
"คุณใจเย็น ลูแปงมานี่มา" พอป๊ากวักมือเรียก ฉันเลยย้ายก้นจากหม่าม้าใจยักษ์ไปนั่งข้างปะป๊าผู้แสนใจดีแทน "วันที่ลูแปงเกิดป๊ายังถ่ายวิดีโอไว้อยู่เลย ไม่เชื่อไปค้นตรงชั้นซีดีในห้องป๊าสิ ป๊าเก็บไว้อยู่นะ"
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รีวิว (1)

17/08/2014
Evil Twin พันธะร้ายล่อหัวใจให้หลงรัก เรื่องนี้เป็นนิยายแนวแจ่มใสเลิฟซีรี่ของนักเขียนนามปากกา S_husky ค่ะรู้สึกนักเขียนคนนี้จะเขียนแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวมั้งถ้าเราจำไม่ผิดเพราะเราไม่ได้ตามแต่ว่าไม่เห็นออกเรื่องใหม่มาอีกเลยสำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นผลงานที่ออกมานานพอสมควรแล้วค่ะแต่ไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่ไหมสำหรับเราตอนที่ได้อ่านเรื่องนี้คือเราไปอ่านในร้านหนังสือมาอ่ะหลังปกคือเห็นว่าพี่วิกวาดปกเล่มนี้สวยดีอ่ะค่ะก็เลยลองอ่านสำหรับเรื่องนี้เราว่าเป็นนิยายที่พล็อตแปลกใหม่ดีค่ะแบบนางเอกมีฝาแฝดซึ่งก็คือกลุ่มก่อการร้ายที่หมายจะเอาชีวิตนางเอกตอนแรกเนื้อเรื่องก็ปกติแหละแล้วจู่ๆก็มีผาแฝดนางเอกโผล่มาซึ่งต่างกับนางเอกโดยสิ้นเชิงหมายถึงนิสัยอ่ะแต่หน้าตาก็อปนางเอกมาเดะๆเลยอ่านแล้วชอบนะบุ้นดีว่าอีฝาแฝดตัวปลอมเนี่ยมันจะทำอะไรต่อไปแล้วคือตอนแรกที่อ่านเรื่องนี้ก็งงๆตรงที่ทำไมนางเอกถึงมีส่วนเกี่ยวข้องให้ถูกหมายตาไว้ก็เลยอยากอ่านต่อเลยไปเช่ามาอ่านฮ่าๆๆๆตอนแรกแอบไปอ่านฟรีในร้านหนังสือมาอ่ะแหมมใครๆก็ทำกันเด๋วนี้อ่านในร้านหนังสือเยอะแยะเราก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านนะแต่ก็ไม่ได้อ่านเปล่าหรอกถ้าเรื่องไหนเราชอบจริงๆเราอ่านแล้วเราก็ซื้อเก็บแต่เราไม่ค่อยชอบหนังสือที่ห่อซีนพลาสติกมาอย่างดีอ่ะค่ะมันเหมือนอุบอิบไม่ให้ลองอ่านอ่ะก็เลยไม่ชอบซื้อเพราะกลัวซื้อแล้วเสียดายเงินเวลาพบว่าหนังสือไม่สนุกชอบคาแร็กเตอร์พระเอกเรื่องนี้นะน่ารักดีคาแร็กเตอร์นิยายเรื่องนี้เราอ่านแล้วสังเกตว่าตัวละครเด่นๆหมดเลยนะเอาจริงๆตอนแรกที่อ่านหลังปกเรื่องนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอ่านดีไหมเพราะดูเหมือนจะมาแนวบู๊ๆแต่ก็เลยรองอ่านดูเราชอบเรื่องนี้ตรงที่เนื้อเรื่องตื่นเต้นตลอดเวลาทำให้เราลุ้นไปกับตัวละครด้วยแค่เริ่มแรกมาก็สนุกแล้วก็ลุ้นแล้วค่ะแต่พอเริ่มเข้าเนื้อเรื่องมันยังมีช่วงที่เราอ่านแล้วรู้สึกงงๆกับตัวละครนะเหมือนบรรยายให้งงวกไปวนมาอ่ะค่ะแล้วก็มีช่วงที่อ่านแล้วยังไม่เข้าใจรู้สึกว่ามันยังมีบางช่วงที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่แต่บางคนก็อาจจะชอบนะแนวนี้เราก็ชอบแหละแต่ยังรู้สึกขัดใจบางฉากบางตอนโยรวมอันที่จริงเรื่องนี้ก็สนุกดีค่ะต้องลองอ่านแต่กับบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบอ่านแนวนี้เท่าไหร่แต่เราว่าเป็นนิยายที่พล็อตแปลกแล้วก็ไม่ค่อยมีด้วยมันเลยทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจยิ่งขึ้นค่ะ