Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจหยุดไว้ที่เธอ

Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจหยุดไว้ที่เธอ

2 รีวิว  2 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160605361
ผู้แต่ง: OResia
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 129.00 บาท 32.25 บาท
ประหยัด: 96.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

Some people believe love is sacrifice Some believe it is a kind of possession Some believe it is just a joke for the fool ...But some believe it is the fate no one can escape

1

เสียงเปียโนก้องกังวานมาตามระเบียงไม้ แสงอาทิตย์รำไรยามเย็น สาดส่องผ่านหน้าต่างริมทางเดิน ส่งผลให้ท้องฟ้าแสตูอบอุ่นและหงอยเหงา ระคนกัน กลิ่นหอมหวานจางๆ อันคุ้นเคยของใครบางคนลอยเข้ามา กระทบฆานประสาท คนที่กำลังเดินเอื่อยๆ มาจนสุดทางเปิดยิ้มบางๆ เมื่อ กลิ่นหอมราวกับดอกไม้นั้นส่งผลให้คิดถึงเจ้าของของมันจับใจ

สุดทางเดินเป็นห้องเปิดโล่ง ผนังสีขาวส่งผลให้เปียโนสีขาวอันเป็น สมบัติชิ้นเดียวที่ตั้งอยู่ในนั้นตูโดดเด่นจับตา เบื้องหน้าเปียโนเป็นหญิงสาว ผู้หนึ่ง ร่างโปร่งบางอยู่ในเดรสสีครีมแขนกุดติดระบายสวยหวาน ผิวขาว อมซมพูนวลเนียนราวไข่มุกเสริมให้คนมองไม่อาจละสายตา ดวงตากลม โตสีน้ำตาลแสนสวยซึ้งคู่นั้นก้มมองบนคีย์เปียโนซึ่งกำลังถูกพรมด้วยนิ้ว เรียวยาวของตนราวกับตกอยู่ในภวังค์

 

 
  กล่องข้อความ: 9r

ทันใดนั้นเสียงเพลงพลันสะดุดลง ร่างบางกระตุกเบาๆ บ่าทั้งสอง ข้างเกร็งขึ้น พร้อมกับดวงตาหลับพรม ราวกับถูกกระแสไฟฟ้าซ็อต

 

"รินะ,, ชายหนุ่มผวาเข้าไปประคอง มือทั้งสองสัมผัสได้ถึงเม็ดเหงื่อ เล็กๆ บนบ่านวลเนียน หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนเงยหน้า ขึ้นล่งยิ้มอ่อนล้าให้กับผู้มาใหม่

"ไคน์...ไม่เป็นไร รินรู้สึกโอเคแล้ว"

"อย่าหักโหมได้มั้ย รู้อยู่ว่าเป็นห่วง"

คนหน้าเข้มดุเสียงตา หญิงสาวได้แต่ยิ้มแหยๆ พูดอ้อมแอ้ม "ไคน์ก็รู้ รินแต่งเพลงนี้มาตั้งนาน ทำยังไงก็ไม่จบสักที,,

"ก็ไม่เห็นเป็นไร รินไม่ต้องแต่งเพลง แค่เล่นเปียโนเพลงสากลก็ โด่งด้งจะแย่อยู่แล้ว"

รินะแอบถอนหายใจ นึกเบื่อหน่ายที่บางครั้งแฟนหนุ่มไม่เคยเข้าใจ ความรู้สึกของเธอเลย

ในขณะเดียวกัน ไคน์เองก็ลอบถอนหายใจ ทั้งๆ ที่รักแสนรัก แต่ แฟนสาวผู้นี้บางครั้งก็ 'ติสต์, จนเขารู้สึกเหมือนมีกำแพงโปร่งใสขวางกั้น ระหว่างเขาและเธอ...ได้แต่มองดู ไม่อาจเอื้อมถึง

รินะเป็นนักเปียโนสาวสวยผู้โด่งด้งก้องฟ้า ฐานะชาติตระกูลเป็น มหาเศรษฐีขนาดที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แฟนคลับจำนวนมหาศาลเฝ้ารอ คอนเสิร์ตของเธอ แทบจะเรียกได้ว่าชีวิตผู้หญิงคนนี้โรยด้วยกลีบกูหลาบ หากเธอก็ราวกับยังตามหาบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ "ไป เดี๋ยวไคน์ไปล่งบ้านดีกว่า"

รถ BMW สึดำขลับแล่นมาจอดหน้าคอนโดฯ หรู ขณะรินะขยับ กายจะลงจากรถ มือหนาของคนที่นั่งอยู่ฝังคนขับก็เลื่อนมากุมมือเธอไว้ หลังการเดินทางอันเงียบงัน ไคน์เพิ่งเอ่ย,ขึ้นเป็นคำแรก "ริน ถามจริงๆ เธอคิดถึงเรื่องแต่งงานบ้างมั้ย"

ร่างบางชะงักไปวูบหนึ่ง ดวงตาสวยหวานหันกลับมาสบตากับเขา "ทำไมถามแบบนี้,,

"เราก็ใกล้จะเรียนจบกันแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะคิด"

รินะเบือนหน้าหลบดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ก่อนตอบ

 

เสียงอ่อย

"รินยังไม่อยากแต่งงาน รินมีความฝันที่อยากทำให้สำแจก่อน"

"พูดแบบนี้ทุกที" เสียงทุ้มตวัดเล็กน้อยอย่างน้อยใจ "รินพูดอย่างกับ ถ้าแต่งงานแล้วจะแต่งเพลงเล่นเปียโนไม่ได้"

"รินเหนื่อยแล้ว ขอตัวก่อนนะ"

หญิงสาวตัดบทก่อนผลุนผลันลงจากรถโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียก ของอีกฝ่าย เมื่อ'ขึ้นไปถึงห้องตัวเอง ร่างบางก็โถมคว่ำลงบนเตียง สัมผัส นุ่มๆ นั้นราวกับจะช่วยให้ความอ่อนล้าทุเลาลงบ้าง

...ทำไมกันนะ เธอถึงต้องวิ่งหนีการแต่งงาน...

ดวงตาคู่งามปิดลงช้าๆ ความคิดล่องลอยกลับไปยังงานแต่งงานของ ดอสลี่ เพื่อนสาวคนสนิทคนหนึ่งในกลุ่ม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ของความสุข เคียงคู่ด้วยเจ้าบ่าวที่คล้องแขนเธอไว้ ก่อนจะบรรจงจุมพิต หวานดูดดื่ม

'เมื่อพบคนที่ใช่ เราก็จะรู้ตั้งแต่วินาทีแรกว่าเขาใช่,

นั่นเป็นคำกล่าวสั้นๆ ของดอสลี่หน้าไมโครโฟนในพิธี รินะยังจำได้ วูบนั่น หัวใจเธอรู้สึกดิ่งวูบ เปล่ากลวง หงอยเหงา

...เธอไม่เคยรู้สึกแบบนั่นเลย...

...ไคน์เป็นผู้ชายแสนดี อบอุ่น...แต่ไม่อาจเติมเต็มความรู้สึกบางอย่าง ให้กับเธอ...

ร่างบางพลิกหงาย ก่อนเอามือก่ายหน้าผาก ดวงตาเบิก'โพลง'ขึ้นมอง เพดาน...บางที นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เธอกลัวอยู่ลึกๆ เมื่อคิดถึงอนาคตกับ แฟนหนุ่ม...เธอจะสามารถแต่งงานกับผู้ชายแสนดีทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่คนที่ 'ใช่, ได้หรือไม่

ดวงตาคู่งามปิดลงอีกครั้ง นึกอยากจะหลบหนีจากปัญหาที่รบกวน จิตใจทั้งปวง ความง่วงงุนโถมเช้ามาครอบงำ และ...แปลก...ที่ปลายจมูก ได้กลิ่นหอมที่อ่อนแสนอ่อน หากวาบหวามจนแทบหยุดลมหายใจ...คล้าย กับกลิ่น Cherry Blossom โสตประสาทพลันได้ยินเสียงกล่องเพลง กรุ๊งกรั้งเป็นทำนองที่ไม่รู้จัก เธอรู้สึกเหมือนมีหมอกหนาตัวปกคลุมรอบ

กาย...และทันใดนั้นพลันรู้สึกถึงสัมผัสของใครบางคนโอบกอดจากด้านหลัง วินาทีนั้น นํ้าตารินไหลจากสองตาด้วยความรู้สึกนั้นตัน เหมือน ทุกอย่างในอณูวิญญาณได้ถูกเติมเต็ม เป็นความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย ยิ่งใหญ่พอจะยุติความฝัน...หากเมื่อคิดเซ่นนั้น ราวกับบทเพลงนับล้าน กลับผุดนั้นในหัว ...ตับ!...

เสียงหมอนข้างตกลงบนพื้นตังนั้น พร้อมภาพฝันทั้งหมดพลันตับสลาย ร่างของหญิงสาวกระตุกวูบ วินาทีแรกที่รู้สึกตัว สิ่งที่รับรู้คือความเสียดาย อาลัยอาวรณ์กับความรู้สึกที่เพิ่งตับสูญไป

รินะเอามือกุมหน้าอก หัวใจยังเต้นรัว ใบหน้ายังร้อนผ่าวจนรู้สึกได้ "ฝันประหลาดซะมัด"

...จะมีทางไหนมั้ยนะที่จะได้เข้าไปในดินแดนในฝันแห่งนั้น...

"แกบ้า"

นั้นคือคำด่าที่ได้รับเมื่อรินะตัดสินใจเล่า 'ความฝัน, ให้ยูกิเพื่อนรัก ทัง

รินะสะดุ้งเฮือก

"เฮ้ย ทำไมพูดงี้อ่ะ,,

ยูกิทำหน้าเหมือนเห็นสัตว์ประหลาด

"ก็คนปกติเค้าคิดแบบนี้กันที่ไหนล่ะ นี่มันปีสองพันสิบสองโลก วิทยาศาสตร์แล้วนะเพื่อนเอ๊ย เลิกฝันเป็นเด็กๆ ซะที,,

รินะขบริม'ฝีปากไม่ยอมแพ้

"แต่มันงดงามมากเลยนะ รู้มั้ย มันเหมือนไม่ใช่โลกใบนี้ ท้องฟ้าใส สวยมาก เหมือนสีน้ำทะเล...ยูกิ ฉันอยากไปที่นั้น"

"อาการหนัก" ยูกิสรุปสั้นๆ เอามือแตะหน้าผากเพื่อน "เป็นไปไม่ได้ หรอก มีแต่ในหนังแหละเรื่องแบบนั้นน่ะ แล้วก็นะ สมมติว่าเข้าไปได้จริงๆ แกเห็นในหนังมั้ย มันต้องแลกกับอะไรมากมาย"

"ฉันยอม"

ดวงตาคู่สวยหลุบตา...ก็ความรู้สึกนั้นคงไม่อาจซื้อมาได้ด้วยเงินทอง หรือกระทั่งไม่อาจพบเจอในโลกใบนี้ด้วยซํ้า

"เฮ้อ,, ยูกิถอนหายใจยาว โยกศีรษะเพื่อนไปมา "ไม่เอาน่า เข้าเรียน

ดีกว่า"

รินะพยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก

ชั่วโมงเรียนผ่านไปอย่างเซื่องข้าและน่าเบื่อ รินะรู้สึกว่าตัวเองนั่ง เหม่อลอยคิดถึง 'สถานที่, แห่งนั้นจนหมดคาบ

วันนี้ยูกิมีนัดเล่นบาสกับเพื่อน รินะจึงเดินกลับคอนโดฯ คนเดียว ในหัวรู้สึกโปร่งกลวงจนแทบไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินไปที่ไหน

...ความฝันที่น่าหลงใหลแบบนั้น ถ้าจับต้องไม่ได้ สู้ไม่เห็น1ซะเลย ยังดีกว่า...

ในภวังค์อันเลื่อนลอย โสตประสาทพลันได้ยินเสียงกล่องดนตรีซื้น อีกครั้ง...เสียงกรุ๊งกริ๊ง...ที่เคยแว่วยินใน 'ความฝัน,

รินะหัวใจเต้นรัว หลับตาลงเพื่อฟังให้แน่ซัดว่าเสียงนั้นตังมาจากทาง ไหน เมื่อรู้แล้วจึงรีบก้าวเร็วๆ ตามเสียงนั้นไปทันที

...มันเป็นทางเปลี่ยวที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเก่าๆ เส้นทางทอดยาว ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด สองเท้าของเธอกึ่งเดินกึ่งวิ่ง น้ำโคลนบนพื้นกระเซ็น สาดขึ้นมาเปื้อนรองเท้าทุกจังหวะที่ย่างก้าว...ยิ่งวิ่งเท่าไหร่ ทางก็ยิ่งทอด ยาว รินะหอบหายใจเหนื่อย หากยังคงวิ่งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

...ผ่านไปเท่าไหร่ไม่ทราบ หญิงสาวจึงมาถึงปลายทางในที่สุด... ...ที่นั้นเป็นกระท่อมหลังเล็กที่ดูไม่มีอะไรโดดเด่นสะดุดตา รินะก้าว เข้าไปอย่างไมรีรอ กลิ่นไม้เก่าๆ ลอยมาแตะจมูกซวนให้จิตใจสงบลงอย่าง ประหลาด

ในกระท่อมหลังนี้มีเพียงชั้นวางหนังสือชั้นหนึ่ง กัดมาเป็นโต๊ะและ เก้าอี้อ่านหนังสือ ฝุ่นหนาตัวที่เกาะอยู่บอกให้ทราบว่าคงไม่มีใครย่างกราย เข้ามานานแล้ว

รินะลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนเดินช้าๆ ไปยังตู้หนังสือ มือบางเอื้อมไป ปาดหยากไย่ที่ปกคลุมเพื่อพิจารณาหนังสือเล่มหนาที่วางเรียงอยู่

จากการอ่านซื่อเรื่องตามสันหนังสือพบว่าส่วนมากเป็นหนังสือ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เธอกวาดตามองคร่าวๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก แต่แล้ว ก็พลันสะดุดกับหนังสือเล่มหนาที่ตกอยู่บนพื้น

รินะย่อตัวลงมอง...มันเป็นหนังสือที่สลักรูปกุญแจสีเงินบนปกดำขลับ เธอพลิกมองที่ลันปก เห็นตัวหนังสือสีเงินรางๆ เขียนไว้ว่า 'The Last Musical Note'

...โน้ตเพลงตัวสุดท้ายงั้นเหรอ...

หญิงสาวเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากก่อนพลิกออกอ่าน...กระดาษ ด้านในมีรอยขาด บ่งบอกว่าสารที่อยู่ภายในคงมีบางส่วนขาดหายไป

...Once upon a time...

...เท the promised land where is on the other side of the bridge...

...The last musical note is lost...

...You, the wanderer,...

...Take the Key and go crossing the Timeline to the parallel world...

โน้ตเพลงตัวสุดท้าย...ที่ต้องค้นหาในดินแดนที่อยู่อีกฝังของสะพาน...

รินะเปิดพลิกหน้าต่อไป เสียงเสียดสีของกระดาษยิ่งขับเน้นให้ ความเงียบรอบกายมีกลิ่นอายวังเวงลึกลับ

...เท the light and darkness...

...There're the killers craving for the wanderer's breath...

...Avoid them with your wisdom...

...Finding the truth เท yourself...

ในยามเช้าและรัตติกาล จงหลบหลีก 'นักส่า, ผู้กระหายลมหายใจ ของนักเดินทางต่างมิติ และค้นหาคำตอบในใจตน...

หญิงสาวยืดกายพื้น วางหนังสือเล่มหนักบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงพลิก อ่านหน้ากัดไป ทันใดนั่นสายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องไม่โบราณสลักลวดลาย อ่อนช้อยวางอยู่บนโต๊ะ แรงผลักตันบางอย่างส่งให้เธอเอื้อมไปเปิดมันออก

หัวใจสั่นรัวขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งที่พาเธอมายังที่แห่งนี้ดังขึ้น และพบว่าในกล่องเล็กๆ ใบนั้นมีสร้อยสีเงินวาวที่คล้องไว้ด้วยกุญแจดอก เล็กและนาฬิกาโบราณ เข็มของมันยังเดินอยู่ บอกเวลาแปดโมงเช้า

...Take the Key and go crossing the Timeline to the parallel world...

...กุญแจแห่งมิติจะพาไปยังโลกคู่ขนาน และเรื่องราวทั้งหมด...จะ เริ่มต้นขึ้น...

ในห้องที่เงียบสงัดยามนี้ปกคลุมด้วยเสียงดนตรีลึกลับ และเสียงหัวใจ เต้นโครมคราม มือบางเอื้อมไปหยิบสร้อยขึ้นจะสวม หากเสียงของยูกิกลับ แว่วเช้ามาในมโนสำนึก

'...แล้วก็นะ สมมติว่าเข้าไปได้จริงๆ แกเห็นในหนังมั้ย มันต้องแลก กับอะไรมากมาย'

มือของเธอกำแน่นขึ้นเล็กน้อย...อะไรกัน ที่เธออาจต้องสูญเสียจาก

การข้ามสะพานนั้นไป...

...แต่มันก็คุ้มไม่ใช่เหรอ...

ราวกับเสียงหัวใจรำร้องขึ้น...ถ้าตอนนี้คิดหันหลังกลับ ก็คงเสียใจไป

ชั่วชีวิตเหมือนกัน...

รินะกัดฟันสวมสร้อยเส้นนั้น ความรู้สึกเย็นวาบแล่นไปทั่วร่างราวกับ มีกระแสน้ำพัดผ่านทุกอณูผิว แสงสว่างบาดตากระจ่างขึ้นที่เบื้องหน้า ก่อน สติจะดับวูบลง

2

รินะลืมตาขึ้นอีกครั้ง พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่ที่คล้ายกับห้องโถง พื้นปาร์เกต์สีน้ำตาลทองสะท้อนกับแสงไฟบนเพดานล่องประกายเงางาม หญิงสาวสะบัดศีรษะอย่างมึนงงก่อนตั้งสติมองไปรอบกาย

เธอคิดว่าที่นี่คือห้องสมุด ตัวเธอเองยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองที่ สามารถมองไปยังด้านล่างซึ่งมีคนเดินผ่านไปมา เธอเหลียวกลับมามองรอบ

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

รายละเอียด

ทั้งๆ ที่เล่นเปียโนมานาน เรียกว่าเป็นนักเปียโนฝีมือดีก็ได้ แต่ฉันกลับไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจนป่านนี้แล้วถึงยังไม่สามารถแต่งเพลงเองได้เสียที ราวกับมีโน้ตที่ขาดหายไป และฉันก็ไม่รู้เลยว่ามันคือโน้ตตัวไหนกันแน่ แฟนคลับจำนวนมหาศาลจะนึกเสียใจบ้างหรือเปล่านะ ที่จริงๆ แล้วฉันไม่ใช่นักเปียโนที่เก่งกาจอะไรเลย ดูสิ แค่แต่งเพลงให้จบยังทำไม่ได้ ที่ผ่านมาก็เอาแต่เล่นเพลงของคนอื่น พระเจ้าคะ ช่วยให้ ‘รินะ’ คนนี้ได้พบโน้ตตัวนั้นด้วยเถิด
 
แล้วก็เหมือนสวรรค์จะได้ยินคำอ้อนวอนนี้ เพราะวันหนึ่งก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่ทำให้ฉันได้ก้าวข้ามไปยัง ‘มาบิรุส’ ดินแดนในฝัน ที่ซึ่งทำให้ฉันไม่เคยเบื่อหน่ายการมีชีวิตอยู่ ซ้ำยังได้พบกับ ‘โรเจอร์’ เพื่อนคนแรกที่เข้ามาทักทาย ฉันถึงได้รู้ว่า ณ ที่แห่งนี้... ฉันไม่ใช่รินะอีกต่อไปแล้ว และก็เป็นเขานี่เองที่นำพาความอบอุ่นมาสู่หัวใจฉัน บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าเขานี่แหละที่จะทำให้ฉันได้พบโน้ตตัวสุดท้ายนั้น

รีวิว (2)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 2 รีวิว
29/07/2014

Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจ... หยุดไว้ที่เธอ นิยายเล่มนี้เป็นผลงานของพี่อ้อค่ะต้องบอกก่อนเลยว่านิยายของพี่อ้อเนี่ยเราได้ติดตามมาตั้งแต่พี่อ้อออกมาผลงานกับแจ่มใสแล้วเราก็ได้ติดตามโดยบังเอิญช่วงนั้นก็ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องนิยายมีเล่มไหนออกใหม่ก็อ่านได้หมดประจวบกับได้มาอ่านผลงานของพี่อ้อแล้วรู้สึกประทับใจมากแค่อ่านเรื่องแรกตอนนั้นก็หลายไห้แล้วค่ะเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็ยังติดตามผลงานของพี่อ้อเรื่อยมาค่ะชอบทุกเล่มที่พี่อ้อเขียนรวมมาถึงเล่มนี้เราต้องบอกก่อนว่านิยายของพี่อ้อเท่าที่เราสังเกตนะหน้าปกจะดูแบบฝันๆแทบทุกเล่มอ่ะค่ะเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนท่านนี้เลยแล้วเราก็รู้สึกประทับใจนิยายของพี่อ้อทุกเล่มที่อ่านคือตัวอักษรของพี่อ้อมันมีเสน่ห์อ่ะเรารู้สึกว่าการดำเนินเรื่องของพี่อ้มันดึงดูดคนอ่านได้แบบวางหนังสือไม่ลงอ่ะเราเป็นแบบนี้กับนิยายของพี่อ้อทุกเล่มพี่อ้อจะชอบแต่งนิยายแนวเพ้อฝันเกี่ยวกับการเล่นดนตรีเล่นเปียโนอะไรประมาณนี้แล้วก็ชอบแต่งนิยายปะปนกับแฟนตาซีได้อย่างลงตัวสุดๆมีทั้งเรื่องที่จบแบบแฮปปี้และเรื่องที่ไม่จบแบบแฮปปี้ก็มีค่ะชอบตรงนี้เพราะมันทำให้เราได้มองหนังสือหลายมุมมองดีว่าเนื้อเรื่องไม่จำเป็นต้องจบแบบสวยงามเสมอไปอ่ะค่ะสำหรับเล่มนี้ก็เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับนักดนตรีอีกเช่นกันชอบนะค่ะอ่านแล้วดูเพ้อฝันทั้งเรื่องเลยถึงแม้ว่าตอนจบอาจจะไม่จบแบบแฮปปี้เราว่าเรื่องนี้สนุกนะโดยส่วนตัวของเราพี่อ้อใช้สำนวนบรรยายแบบผู้ใหญ่อ่ะค่ะผู้ใหญ่อ่านก้ได้วัยรุ่นอ่านก็ได้แต่นิยายของพี่อ้อจะไม่ค่อยเหมือนนิยายวัยรุนเล่มอื่นอารมณ์แบบแนวรักกุ๊กกิ๊กทุกเล่มรวมถึงเล่มนี้จะเป็นอะไรที่ออกแนวรักโรแมนติกตัวละครจะมีการพัฒนาความสัมพันธ์อ่ะค่ะกว่าจะได้รักกันเราก็เรื่อยชื่นชอบนิยายของพี่อ้อเป็นพิเศษดูตัวละครแบบค่อยเป็นค่อยไปดีอ่ะค่ะมันทำให้เราอ่านแล้วค่อยๆซึมซับความรู้สึกของตัวละครเรื่องนี้และเข้าถึงอารมณ์มากกว่าแนวที่แบบพระเอกนางเอกรักกันง่ายไปแต่ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้อ่านแล้วร้องไห้อ่านแล้วได้ทุกอารมณ์เลยอ่ะค่ะเพราะพี่อ้อบรรยายได้เข้าถึงตัวละครมากๆเลยค่ะพอบรรยยายถึงฉากซึ้งก็ร้องไห้ตาบวมเลยตอนจมหักมุมดีค่ะชอบเพราะเป็นอะไรที่เราก็ไม่ได้คาดเดามาก่อนแถมเรื่องนี้ยังมีการผจญภันของตัวละครด้วยเลยรู้สึกว่าเป็นนิยายรักโรแมนติกที่แฝงแฟนตาซีจริงๆอ่านแล้วจินตนาการณ์ตามสนุกมากๆมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านนิยายของพี่อ้อค่ะ
Boa Hancock | 2 รีวิว
20/07/2014

เป็นนิยายเรื่องแรกเลยอ่ะที่จบแบบคาดไม่ถึง ไม่ขอบอกดีว่าว่าตอนจบเป็นแบบไหน แต่บอกได้ว่าเศร้าสุดๆล่ะค่ะ กับเรื่อง “Raindrop in Winter กาลครั้งหนึ่งหัวใจ...หยุดไว้ที่เธอ” บอกตรงๆเลยนะคะว่าแค่ชื่อเรื่องนี่เดาเรื่องไม่ถูกจริงๆค่ะ เริ่มเรื่องมาก็จะเล่าถึงนางเอกของเรื่อง “รินะ” เธอเป็นนักดนตรีค่ะ เป็นที่มีความเพียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฐานะทางบ้าน หน้าที่การงาน และรวมไปถึงรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม และยังมีผู้ชายที่รักเธอและคอยดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่เธอก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อผู้ชายคนนี้ถึงจะดีกับเธอมากแต่ก็ยังไม่ใช่คนที่เธอรัก จนวันหนึ่งเธอได้ฝันถึงสถานที่แปลกๆแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ในระหว่าที่เธอกำลังกลับไปยังคอนโดของตัวเองอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงกล่องดนตรีแบบเดียวกับที่ได้ยินในความฝันแล้วเดินตามเสียงนั้นไปทันที จนได้มาพบกับกระท่อมหลังเล็กๆเก่าๆหลังหนึ่งในนั้นมีเพียงชั้นวางหนังสือเก่าๆตั้งอยู่เจอหนังสือที่มีรูปกุญแจเมื่อเปิดอ่านไปเรื่อยๆก็ได้เห็นกล่องไม้โบราณวางอยู่ เห็นสร้อยสีเงินอยู่ด้านในจึงตัดสินใจสวมมันแล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบแล้วพาเธอมายังโลกคู่ขนานชื่อว่า มาบิรุส แล้วเธอก็ได้พบกับ “โรเจอร์” ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันตั้งแต่แรกพบ และนี่เองที่เป็นเหตุการณ์เริ่มเรื่องนี้ มีหลายๆเหตุการณืที่ทำให้ทั้งสองคนต้องไปผจญภัยเพื่อล้างพัธนาการที่รินะได้สัญญาไว้ แต่เมื่อทำสำเร็จก็ได้มีเรื่องราวที่ทำให้ทั้งสองต้องพรากจากกัน โดยส่วนตัวของผู้อ่านเองไม่ค่อยชอบนิยายแนวนี้สักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีฉากที่ทำให้หัวเราะ จะออกแนวผู้ใหญ่หน่อยๆไม่ใช่นิยายรักวัยรุ่นพระเอกทะเลาะกับนางเอกแล้วสุดท้ายรักกันอะไรประมาณนี้ค่ะ ก็เป็นแบบแหวกแนวที่เคยอ่านดีค่ะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่สนุกนะคะ นิยายดำเนินเรื่องแบบแนวหวานๆแล้วหักมุกมาเป็นเศร้าซะงั้นมีแฝงการผจญภัยด้วยเล็กน้อย คิดว่าการเลือกซื้อนิยายสักเล่มคงจะเป็นไปตามความชอบของแต่ละคนใช่มั้ยล่ะคะ ส่วนเรื่องนี้ถ้าคุณผู้อ่านที่ชอบนิยายแนวเศร้าๆ การดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วมาพลิกตอนจบที่หลังอาจจะชอบก็ได้ค่ะ ช่วงตอนที่อ่านก็ลุ้นนะคะว่าสรุปแล้วนางเอกจะเลือกใครระหว่างผู้ชายแสนดีที่อยู่ในโลกปัจจุบันกับผู้ชายที่ตนเองรักตั้งแต่แรกเห็นในโลกคู่ขนาน ถ้าคุณผู้อ่านอยากทราบตอนจบก็ลองซื้อหามาอ่านดูนะคะ ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่งค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (62 รายการ)

www.batorastore.com © 2024