Barbie Revolution แผนการร้ายปฏิวัติหัวใจนายตัวดี (may112)

Barbie Revolution แผนการร้ายปฏิวัติหัวใจนายตัวดี (may112)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160607327
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 159.00 บาท 39.75 บาท
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

Barbie Doll

ชื่อ

สเปนเซอร์

 

ความสามารถพิเศษ

ขับยานพาหนะได้ทุกชนิดในโลกนี้

 

ประวัติการทำคดี

คดีขโมยน้ำยาล้างส้วม

คดีลักขโมยทองในห้าง

คดีปลอม CD เลดี้ กาก้า

 

นิยามที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง

น่ารักสดใส แต่ไม่ไร้สมอง

 

เคยทำผิดกฏหมายข้อใดบ้าง

ขับรถยนต์ตั้งแต่อายุต่ำกว่า 18 ปี

แอบเข้าผับตอนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

เล่นไพ่กับนักสืบด้วยกันที่คฤหาสน์

 

ของสามสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต

Flash Drive (ไว้ก๊อบงานหรือเปิดข้อมูลสำคัญ)

มือถือ (ไว้ติดต่อบอส/ชาวบ้าน)

พวงกุญแจและอุปกรณ์นักสืบที่จัดหาโดยเอริก

 

1

Spencer

 

ฉันเดินตามหลังพ่อบ้านเอริกด้วยความรู้สึกเมื่อยตุ้ม

ก็ไอ้การจะมารับงานไปสืบแต่ละทีเนี่ยมันแสนจะเหนื่อยยากจริงๆ เลยจ้า งั้นขอแนะนำตัวระหว่างที่ฉันเดินต๊อกแต๊กอยู่ในคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ไปก่อนละกัน! ฉันชื่อสเปนค่ะ หรือชื่อเต็มๆ ก็คือสเปนเซอร์ เห็นชื่อฝรั่งจ๋าแบบนี้ก็ไม่ต้องสืบให้ยากเลยว่าฉันต้องมีเชื้อสายฝรั่งแน่ๆ แด๊ดดี้ของฉันตกหลุมรักแม่ฉันตั้งแต่แรกเห็นในคลาสเรียนที่มหาวิทยาลัย อีกสี่ปีต่อมาก็...บู้ม!! ออกมาเป็นสาวน้อยน่ารักน่าชังอย่างฉันเนี่ยล่ะจ้า (อ้วกกก!) ตอนนี้ฉันเป็นนักเรียนเกรดสิบสองของโรงเรียนนานาชาติฮัมมิ่งสแตนด์ เป็นเด็กสาวที่สนุกสนานกับชีวิตในแต่ละวันไปตามเรื่องตามราวแล้วก็เจอปัญหาจุ๊กจิ๊กสมกับวัย

ฮะ ปัญหาอะไรน่ะเหรอ

ก็อย่างเช่นเรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ที่เจ๊งไม่เป็นท่า ไม่ก็อ่านหนังสือสอบไม่ทันสอบมิดเทอม หรือปลูกต้นไม้ไม่ขึ้นในวิชาเกษตร หรือปัญหาล่าสุดก็คือฉันเป็นคณะกรรมการนักเรียนที่งานล้นมือน่ะสิ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันแตกต่างจากเด็กอายุสิบแปดคนอื่นๆ...ฮิๆ และนี่เป็นความลับที่มีแค่ฉันกับคุณผู้อ่านเท่านั้นที่รู้...

ฉันเป็นหนึ่งในกลุ่มนักสืบของ Invisible Club

คลับนักสืบที่ว่านี่เป็นคลับที่ลึกลับและก่อตั้งโดยบุรุษชุดดำทมิฬ (อันที่จริงเขาก็อายุแค่สิบแปดเองอ่ะนะ) มีชื่อในวงสังคมว่า ‘เศรษฐีมหาอำนาจที่อายุน้อยที่สุด’ แต่ประวัติความเป็นมากลับไม่แน่ชัด ฉันไม่รู้ว่าเขาชื่อแซ่อะไรกันแน่ ไม่ปรากฏประวัติหรือฐานันดรศึกดิ์ใดๆ ใน google หรือ Wikipedia แต่เราทุกคนในคลับเรียกเขาสั้นๆ ว่า ‘บอส’ (เขาอาจจะชื่อเล่นว่าบอสก็ได้ แต่ในที่นี้หมายถึงหัวหน้านั่นแหละ) ฉันเคยพยายามถาม ‘เอริก’ ซึ่งก็คือพ่อบ้านที่คอยติดสอยห้อยตามบอสตลอดเวลาว่าเขาเป็นใคร ชื่ออะไร ประวัติความเป็นมาอย่างไร หรือเกิดจากกระบอกไม้ไผ่ใช่หรือไม่ แต่เอริกก็ไม่ยอมปริปากบอกสักนิดราวกับเรื่องชาติตระกูลของบอสเป็นความลับระดับชาติที่มีอาจปริปากบอกผู้ใดได้ ฉันก็เลยเท เลิก ไม่ถามต่อ (ก็ใช่ว่าฉันจะอยากรู้นักหนานิ)

“คุณชายครับ คุณสเปนเซอร์มาถึงแล้วครับ”

เอริกบอกพลางเปิดประตูให้เข้าไปด้านใน แฮก ถึงสักทีวุ้ย! ทางเข้าคลับนี่ทั้งไกลทั้งลึกเลยค่า ลึกขนาดนี้ฉันว่าลงมาหลบระเบิดปรมาณได้แน่ๆ

“โอ้ไง สเปน!”

“ดีค่ะบอส”

ฉันกล่าวทักทายบอสแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้นวมชั้นดีที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเขา มีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ดูวิลิศมาหราคั่นอยู่ตรงกลาง เอริกเดินมาเสิร์ฟชาให้แล้วก็ก้มหัวให้บอสและฉันอย่างนอบน้อม พอเห็นแบบนี้แล้วฉันล่ะอยากพ่อบ้านคนนี้ยัดใส่กระเป๋ากลับบ้านไปด้วยจัง ไปคอยเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟขนมให้ที่บ้าน ท่าทางจะเจริญหูเจริญตาดีแท้

“ขอบคุณค่ะเอริก”

“ไม่เป็นไรครับ เอ๊ะ! คุณชายหน้าเปื้อนนิดนึงนะครับ ขออนุญาตได้มั้ยครับ”

เอริกถามพลางเอียงคอ สีหน้าเขาดูกังวลเหลือเกิ๊นเหลือเกิน

“เอาสิเอริก! ว่าแต่สเปน สบายดีมั้ย”

ฉันกำลังจะอ้าปากตอบบอส แต่พอเห็นกิริยาที่คุณพ่อบ้านเช็ดหน้าให้เจ้านายอย่างพิถีพิถันราวกับเช็ดแจกันสมัยราชวงศ์ฮั่นอย่างนั้น (ทั้งๆ ที่ฉันไม่เห็นจะมีอะไรเปื้อนหน้าบอสแม้แต่ขี้แมลงวันเล็กๆ) ฉันก็รู้สึกกเหมือนกำลังดูหนังเกย์อยู่ ยิ่งพอเห็นแววตาเชิดชูบูชาแบบว่าขอยอมมอบกายถวายวิญญาณให้กับชายที่รัก เอ๊ย! เจ้านายที่รัก ฉันก็แทบจะลบความคิดที่อยากจะเอาเอริกกลับไปที่บ้านด้วยไม่ทัน

“พอเถอะเอริก สเปนจ้องนายกับฉันใหญ่ละ เอาไว้ทีหลังเถอะ”

ไอ้ทีหลังนี่มันหลังยังไงล่ะเนี่ย กรี๊ด

“ขอโทษครับคุณชาย”

ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่อยากคิดอะไรเพ้อเจ้อมากก็เพราะเท่าที่ฉันรู้จักบอสมา เขาไม่น่าใช่คนที่อยากเป็นชายเหนือชายอะไรพรรค์นั้น แต่ถ้าบอสเป็นแบบนั้นจริง ผู้หญิงทั้งโลกก็คงเซ็งกันเป็นแถว ก็ดูสิ ผู้ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งฉลาด (และประหลาดในเวลาเดียวกัน) กลับกลายเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน คุณพระ! อยากให้มนุษย์สิ้นเผ่าพันธุ์กันหรือคะ ผู้ชายถึงหันมารักกันเองเยอะแยะขนาดนี้

“อ่ะแฮ่ม อย่างที่เธอทราบ ฉันมีงานชิ้นใหม่มามอบให้เธอไปสืบ”

“อ๋อ ค่ะๆ”

“คราวนี้เป็นงานที่ฉันถูกไหว้วานมาจากผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมไฮโซ ว่าไปแล้ว...เดี๋ยวนี้ก็ไม่เห็นเธอไปออกงานพวกนี้เลย”

ที่บอสถามแบบนี้เพราะว่าฉันกับเขามีความหลังกันจากพวกงานสังคมไฮโซนี่ล่ะ เมื่อก่อนฉันเคยไปกับแด๊ดดี้และแม่เป็นบางครั้งบางคราว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปแล้ว เพราะฉันเรียนหนัก กิจกรรมเยอะ แล้วไหนจะต้องเป็นนักสืบอีก แต่บอสนี่ไปประจำทุกงานประหนึ่งนี่เป็นอาชีพก็ไม่ปานค่ะ! เพราะงานพวกนี้ล่ะที่ทำให้ฉันรู้จักบอส แล้วเขาก็ชักชวนให้ฉันเข้ามาเป็นนักสืบในคลับ (อันโคตรลึกลับและเดินไกลชิบเป๋ง) ตอนแรกที่เขาชวนฉันนะ...ฉันนึกว่าเขาชวนฉันไปเล่นเกมโปลิศจับขโมยซะอีก แน่นอนว่าฉันไม่เอาด้วยหรอก เกิดเป็นคลับโจรข้ามชาติขึ้นมาก็ซวยเลยอ่ะดิ

 

‘ฉันไม่สนใจอะไรแบบนี้หรอกค่ะ ขอตัวนะ’

‘ทำไมล่ะ’

‘โอเค! ฉันบอกตามตรงนะ ถึงฉันจะเชื่อว่าไอ้ชมรมนักสืบอะไรนั่นมีอยู่จริง แต่ฉันไม่ว่างทำอะไรพรรค์นั้นหรอก ฉันต้องเรียนหนังสือ ทำกิจกรรมที่โรงเรียน ฉันเป็นคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายกิจกรรม แล้วก็...’

‘แค่นี้เหรอ’

‘แค่นี้ตรงไหนยะ นี่มันเยอะแยะจะตาย’

‘แหม...เหมือนจะยิ่งใหญ่นะเนี่ย แต่แล้วยังไงอีกล่ะ มีแค่นี้น่ะเหรอ’

 

ฉันโกรธหน้าเขียวที่เขาพูดเหมือนดูถูก

 

‘ว้าววววว ตอนเธอโกรธนี่น่ารักจัง ฉันยอมรับว่าเธอก็สวยอยู่หรอก เธอคงเป็นดาวโรงเรียนหรือที่เขาเรียกควีนใช่มั้ย โอ้...แน่นอนอยู่แล้ว เมื่อกี้ว่าไง ปีหน้าเธออาจจะได้เป็นคณะกรรมการนักเรียนเหรอ ว้าวววว แต่แล้วยังไงอีกล่ะ มีแค่นี้น่ะเหรอ’

‘ถ้าฉันเรียนจบเมื่อไหร่ ฉันก็สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันล่ะน่า!’

‘ก็นี่ไงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ฉันนำมาเสนอให้เธอแล้ว บอกอะไรให้นะ ตุ๊กตาบาร์บี้สวยๆ ไร้สมองน่ะมีล้นโลกแล้วสเปน เธออยากจะเป็นแค่บาร์บี้หัวขี้เลยพวกนั้นงั้นเหรอ อยากให้ชีวิตเธอมีแค่ลูปนี้หรือไง เรียน ทำงาน หาสามี แต่งงาน มีลูก แล้วก็แก่ตายงั้นเหรอ’

‘นี่ ฉันไม่ใช่บาร์บี้ไร้สมอง! แล้วชีวิตฉันก็มีอะไรมากกว่านั้นแน่’

‘งั้นก็พิสูจน์สิว่าเธอมีสมองจริงๆ ฉลาดพอจะไขคดียากๆ ที่ฉันจะมอบให้เธอทำ’

‘ทำไมฉันต้องทำ ทำเพื่ออะไร! นายคิดว่ามาท้าฉันเหยงๆ แล้วฉันจะตอบตกลงเรอะ’

‘เธอไม่อยากสนุกเหรอ การได้เห็นจิ๊กซอว์ถูกประกอบจนสำเร็จ มันเป็นความอิ่มเอมที่ยากจะอธิบาย...อ๊า...ฉันไม่ตื๊อเอแล้วดีกว่า’

‘=_=;’

‘ฉันจะทิ้งนามบัตรไว้ ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่...ฉันยินดีต้อนรับเสมอ’

‘=_=^’

‘อ้อ ป.ล. ห้ามบอกใครนะ! นี่เป็นความลับ’

 

ทั้งที่เถียงกันอยู่ดีๆ เขาก็ถอยเอาดื้อๆ ทิ้งนามบัตรเอาไว้แล้วก็สะบัดบ็อบหายไปในฝูงไฮโซ ซึ่งเรื่องชมรมนักสืบและคำพูดของบอสมันรวบกวนจิตใจฉันเอามากๆ ฉันนั่งคิด ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังอยู่สี่ห้าวันนั่นล่ะ จนสุดท้ายฉันก็โทรไปหาเขาจนได้ แป่ว! (แล้วจะเล่นตัวทำมั้ย) แต่ฉันเชื่อแล้วว่าคนเรานี่ชอบอะไรแบบนี้จริงๆ ไอ้การได้เป็นส่วนหนึ่งของความลับอะไรสักอย่างที่โลกไม่รู้แต่เรารู้เนี่ย มันมีเสน่ห์ยั่วยวนให้เราเดินเข้าไปหามันยิ่งนัก อีกทั้งในชีวิตคนเราจะมีสักกี่ครั้งกันเชียวที่เราจะได้ไป (สอดป รู้เรื่องของชาวบ้านได้มากเท่านี้ แล้วงานนักสืบเป็นงานที่เราได้งัดทุกความรู้ ทุกความสามารถออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ฉันเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการไขคดีมันทำให้เราอิ่มเอมสุดๆ เมื่อตอนที่ทุกอย่างคลี่คลายได้ สุดยอดอ้ะ! ท้ายสุดฉันก็ตกลงร่วมเป็นสมาชิกของคลับนักสืบแล้วก็ทำงานกับบอสเรื่อยมาจนบัดนี้

เอาล่ะ กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบันดีกว่า

“อ้อ...ไม่ค่อยชอบน่ะ แล้วก็มีเรียนหนักด้วย”

“น่าเสียดายจัง เอ้า! นี่คือแฟ้มรายละเอียดทั้งหมดของผู้ว่าจ้าง”

ฉันรับแฟ้มสีดำจากบอสแล้วก็รีบพลิกเปิดอ่านข้อมูลด้านใน

นี่มัน...

“คดีชู้สาวเหรอ!”

ฉันถามเสียงแกมผิดหวัง คดีแบบนี้อาศัยแค่ความอดทนในการติดตามเฝ้าดูก็พอแล้ว แทบไม่ต้องใช้สมองอะไรเลยค่า วู้! เนี่ยอ่ะนะ คดีใหม่ที่เขาให้ฉันถ่อมาหาถึงคุก เอ๊ย! ห้องลับใต้ดิน ของแค่นี้ส่งแฟ็กซ์ให้ก็ได้แล้วโว้ย

“ยังไม่ได้สรุปแน่นอนหรอกบาร์บี้ เขาเลยอยากให้เราตามสืบ”

“-_-“

ฉันชักสีหน้าไม่พอใจกับคำว่า ‘บาร์บี้’ บอสรีบยิ้มกริ่มแล้วก็รีบพูด

“ที่เรียกว่าบาร์บี้ก็เพราะว่าเธอน่ารักต่างหาก ไม่ได้หมายความแบบนั้น”

“ไม่ต้องมาพูด! ใครโดนเรียกว่าบาร์บี้ก็รู้ได้ทันทีว่ายัยนั่นสวยแต่โง่!”

“ซีเรียสไปได้ เธอไม่ได้สวยแต่โง่สักหน่อย”

“ถ้าเรียกฉันแบบนั้นอีกที ฉันจะเรียกบอสว่า...”

ฉันหยุดคำว่า ‘ไอ้สัตว์ประหลาด’ ได้ทัน หรือไม่ก็ ‘ไอ้ตัวประหลาด’ หรือจะเป็น ‘ไอ้ปีศาจประหลาดตาสองสี’

ใช่! คุณอ่านไม่ผิดหรอก

ฉันลืมบอกไปว่าบอสของเรามีตาสองสี ข้างหนึ่งดำ ข้างหนึ่งฟ้า แต่เวลาเขาออกงานจะใส่บิ๊กอาย เอ๊ย! คอนแทกเลนส์สีดำเพื่อปกปิดเอาไว้ เรื่องนี้ทำให้ฉันแอบคิดอยู่ในใจตลอดว่า X-MEN อาจมีจริงๆ ในโลกก็ได้ แล้วไอ้บอสประหลาดนี่ล่ะคือมนุษย์กลายพันธุ์คนแรก ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นกิ้งก่าสีน้ำเงินได้เมื่อไหร่ ฉันก็ไม่แปลกใจเล้ยยย

“เอาล่ะๆ ฉันไม่เรียกเธอแบบนั้นแล้วก็ได้ มาดูที่คดีกันต่อดีกว่าเนอะ”

“ฉันไม่ชอบคดีชู้สาวสักหน่อย ทำไมบอสถึงเอาคดีแบบนี้มาให้ฉันเนี่ย”

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบ แต่ลองอ่านดูชื่อคนจ้างก่อนเถอะ”

ฉันถอนหายใจแล้วก็ลองก้มลงไปอ่านชื่อผู้ว่าจ้าง ถ้าไม่เจ๋งพอน่ะนะ...

ส.ส. วิชรเดช บรรจงพาณิชย์

จ๊ากกกก

“นี่ฉันอุตส่าห์ให้คดีเด็ดคนดังกับเธอเลยนะเนี่ย คุณหญิงพิมพ์ชนกมาไหว้วานจ้างให้ฉันสืบสามีตัวเองอย่างลับๆ ซึ่งก็คือ ส.ส. วิชรเดช

 

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

โอ้ มายก็อด! นี่ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า ‘บอส’ ให้ฉันสืบคดีชู้สาวเหรอเนี่ย O_O รู้สึกเหมือนถูกลดเกรดยังไงก็ไม่รู้ ฮือๆๆ แต่คลับนักสืบของเรามีกฎว่าห้ามปฏิเสธงาน ฉันจึงต้องก้มหน้ารับกรรม ยอมทำคดีนี้แต่โดยดี เชอะ!แล้วดูสิ ฉันต้องไปสืบหาชู้ของใครรู้มั้ย... ชู้ของ ‘ท่านวิช’ส.ส. ชื่อดังที่คนทั้งเมืองรู้กันดีว่าหน้าซื่อใจสะอาดเป็นที่สุด ฉันว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน คนดีๆ แบบนั้นจะมีชู้ได้ยังไง T^T นักสืบ ‘สเปนเซอร์’ ไม่เชื่อเด็ดขาด
 
แต่เมื่อปลอมตัวไปสืบเรื่องนี้ ฉันกลับต้องอึ้ง! ตะลึงตึงๆ!เพราะท่านวิชซุกชู้เอาไว้ในคอนโดฯ หรูจริงๆ ด้วยจ้า~แถมที่ทำให้ช็อกสุดๆ ก็คือชู้ของท่านวิชน่ะเป็น... ผู้ชาย!!! =[]= กรี๊ดดด~โลกเป็นอะไรไปแล้ว ฉันมาสืบหาชู้สาวนะ ไม่ใช่ชู้ชาย (-_-*) แถมวันต่อมาฉันยังพบว่าชู้ท่านวิชชื่อ ‘เรนเดล’ และเรียนที่เดียวกับฉัน เอ๊ะ!โลกกลมไปมั้ยเอ่ย แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ใช้ความใกล้ชิดนี้เปลี่ยนใจเขาให้ได้ หันมาชอบผู้หญิงเถอะนะเรนเดลนะ อย่าเป็นมือที่สามเลย ครอบครัวของท่านวิชและภรรยาหลวงจะได้ไม่ต้องมัวหมอง :’)

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

Doraemon | 1 รีวิว
14/12/2014

อ่านเพราะหน้าปกพระเอกหล่อ ฮ่าๆ บอกเลย กับเรื่องราวของสเปนเซอร์ (มีชื่ออะไรที่แปลกประหลาดกว่านี้อีกมั้ย) ที่ไปตามสืบชู้ตามคำสั่งบอสของชมรมอะไรสักอย่างของโรงเรียน แล้วพบว่าชู้ของท่านรับมนตรีเป็นผู้ชาย ที่เราใช้คำว่าชมรมอะไรสักอย่าง เพราะเรารู้สึกว่าการเขียนเรื่องชมรมไม่ชัดเจนเท่าไรนัก บอสคือใครทำไมนางเอกต้องเชื่อบอสขนาดนั้น เนื้อเรื่องค่อนข้างเดาได้ คือเราเดาได้ตั้งแต่ตอนต้นเรื่องแล้วไง ไม่ต้องสืบต้องเดาต้องลุ้นว่าพระเอกเป็นใครมายังไง เพราะฉะนั้นมันจึงไม่น่าตื่นเต้นอะไร ไม่มีอะไรเป็นความลับ ไม่มีจุดพีค เหมือนขายความน่ารักของพระเอก กับความเซ่อร์ของนางเอก ซึ่งในส่วนบุคลิกนางเอกก็มีบางตอนที่ตลกดี อย่างตอนโดนคนดูแลเหน็บว่าเซ่อร์สมชื่อนี่ตลกดีนะ แต่พระเอกนี่แบบขัดใจนิดหน่อย คือแบบดีเกิ๊น เท่ห์เกิ๊น คือในชีวิตจริงหาไม่ได้หรอกคนแบบนี้ รักนางเอก ขี้อาย เขิน คือเป็นอะไรที่แบบ (หาไม่ได้ ไม่มีทางแน่ๆที่จะหาเจอ) แต่ก็ยอมรับว่าเป็นการจัดบุคลิกได้เข้ากันดี คือคนดีมักจะเจอกับคนติ๊งต๊องนั่นแหละ ส่วนเนื้อเรื่องไม่มีอะไรหวอหวา อ่านได้เรื่อยๆ แอบน่าเบื่อบางตอน เพราะไม่มีจุดพีคอะไร จึงไม่มีจุดที่บีบคั้นอารมณ์ เรื่องราวเลยเรื่อยๆมาเรียงๆ สำนวนภาษาพอใช้ได้ในระดับวัยรุ่น ก็ไม่ได้รู้สึกสะดุดหรือติดขัดอะไร แต่ก็ไม่ถึงกับอ่านรื่นตารื่นใจขนาดนั้น อยู่ในระดับดีพอใช้ ก็ถือว่าอ่านได้เรื่อยๆเพลินๆ ไม่สนุกมาก แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เหมาะกับวันพักผ่อนสบายๆ

สินค้าที่ใกล้เคียง (65 รายการ)

www.batorastore.com © 2024