Guy Girl Gay แผนรักยุกยิกกุ๊กกิ๊กหัวใจวาย

Guy Girl Gay แผนรักยุกยิกกุ๊กกิ๊กหัวใจวาย

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160612574
ผู้แต่ง: Hameii
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 199.00 บาท 49.75 บาท
ประหยัด: 149.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์เกิดมามีความรู้สึกนึกคิดที่คล้ายกัน

...แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว...

ผู้หญิงสนใจผู้ชาย ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็สนใจผู้หญิง

แต่มีผู้ชายบางส่วนที่หันมาสนใจผู้ชายด้วยกันเอง

‘ชายรักชาย’ จึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งจับตามอง

ซึ่งเราเรียกพวกเธอว่า ‘สาวาย’

ว่ากันว่าเลือดของพวกเธอไม่ใช่สีแดงเหมือนคนปกติทั่วไป

แต่เป็นสีที่แสดงถึงความมีเสน่ห์ น่าค้นหา และลึกลับในบางอารมณ์

....และสีที่ว่านั่นก็คือ...

สีม่วง!

 

Prologue

ถุงเท้าเป็นเหตุ

 

Arshane’s part

“ไอ้เช!!!” เสียงแหบห้าวเจืออารมณ์หงุดหงิดตะโกนดังลั่นมาแต่ไกล “แกเอาถุงเท้าของฉันไปขายอีกแล้วใช่มั้ย”

“งืมมมม เปล่า” ผมตอบเสียงงัวเงียพลางพลิกตัวหนีเจ้าของถุงเท้าที่หายไปอย่างลึกลับ

“แล้วถุงเท้าลายโดโมะคุงที่ฉันอุตส่าห์ถ่อสังขารไปประมูลถึงญี่ปุ่นมันหายไปไหน!”

แม้ผมจะพยายามจมดิ่งสู่ห้วงนิทรากี่พันล้านรอบ เพื่อนเก่าดึกดำบรรพ์ตั้งแต่สมัยอนุบาลของผมก็ไม่มีท่าว่าจะหยุดยัดเยียดข้อหาลักพาตัวถุงเท้าสุดที่รักให้กับที่นอนไม่รู้อีโหน่อีเหน่อยู่บนโซฟาเสียที

“ห้ามหลับนะเว้ย แกต้องตื่นมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง ไอ้เช!”

สองมือเล็กๆ แต่แรงมโหฬารของมันเขย่าหัวผมไปซ้ายทีขวาทีจนซีรีบรัมแทบจะไหลออกมาเรียงเป็นประโยคบอกมันว่า ‘ฉันไม่ได้เอาไป’ อยู่แล้ว

“ขอฉันอนก่อน”

“ไม่ๆๆๆ แกต้องตอบมาก่อนว่าแกเอาโดโมะคุงของฉันไปขายให้ใคร!”

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดตะครุบหนังหน้าของผมแล้วยืดออกราวกับมันเป็นแป้งปาท่องโก๋ที่หาซื้อได้ง่ายตามท้อตลาด จากนั้นจึงตะโกนใส่หูผมดังกว่าเดิมร้อยล้านเท่า

“ตื่นนนน! โว้ยยยย!”

“โอ๊ยยยย! ตื่นๆ ตื่นแล้วโว้ย!” ผมขมวดคิ้วมุ่นแล้วดีดตัวลุกขึ้นทันที ก่อนที่แก้มผมจะย้วยเหมือนตูดช้าง ตอนนี้ยังไม่อยากให้แก้วหูของผมถูกทะลวงด้วยคลื่นเสียงทำลายล้างของมันด้วย

“เออ ดี” มันลดเสียงลงแต่ยังไม่ยอมถอยห่างจากตัวผมง่ายๆ นี่มันคิดว่าผมเอาถุงเท้าเน่าๆ ของมันไปขายจริงเหรอเนี่ย

“ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยวะ” ผมไล่มองตั้งแต่หัวจรดพุงน้อยๆ ของมันที่ไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ปกปิด

ให้ตายสิ รุ่มร่ามชะมัด

“แกไม่ต้องมาเบี่ยงประเด็น บอกมาว่าแกเอาโดโมะคุงของฉันไป...แอ่ก!”

ทันทีที่มันสะเออะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เกินควร ผมก็รีบใช้ฝ่ามือดันหน้าเล็กๆ ของมันไว้ ถ้าเป็นตอนปกติที่มันใส่เสื้อกางเกงเรียบร้อยผมก็ไม่ว่าหรอก แต่นี่มันเล่นใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวโดดเดี่ยวมาปลุกผมบนโซฟาแบบนี้ เป็นใครใครก็...อึ๋ย...ขยะแขยง! ถึงผมจะเป็นเพื่อนกับมันอย่างบริสุทธิ์ใจก็เถอะ ยังไงซะผมก็รับสภาพเนื้อแนบเนื้อแบบนี้ไม่ได้จริงๆ!

“ไอ้บ้าซีนเอ๊ย! แกไปใส่เสื้อก่อนไป๊!” ผมใช้ขาจันตัวมันไว้อีกแรง หมอนี่ตัวเล็กแต่แรงเยอะชิบเป๋ง

“อำไอ แออั่นไอ๋เอ๋อ ไอ้อื่นนนน!” มันตะโกนอู้อี้ผ่านฝ่ามืออรหันต์ของผม และภาษาต่างด้าวของมันก็แปลเป็นซับมนุษย์ได้ว่า

‘ทำไม แกหวั่นไหวเหรอ ไอ้หื่นนน!’

เหอะ มันใช้สมองส่วนที่อยู่ปลายเท้าคิดรึไงวะ แมนๆ แบบผมเนี่ยนะจะมีอารมณ์หวั่นไหวไปกับผู้ชายหุ่นแห้งๆ แบบมัน ถึงมันจะเป็นหนุ่มนักกีฬาที่มีซิกซ์แพ็กส์จางๆ ชวนให้สาวๆ หลงใหล แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ผมสนใจอนุรักษ์ไม้ป่าเดียวกันหรอก! นอกจากมันจะโง่ขั้นเทพแล้วยังจะเสื่อมขั้นสุดได้อีกนะ!

“ฉันไม่หวั่นไหวกับหัวนมสีชมพูเน่าๆ ของแกหรอกเว้ย!” ผมตะโกนแล้วเตะก้นมันลงมาจากโซฟา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจก่อนจะก้าวเท้าเดินไปยังห้องครัว

ผมเห็นมันก้มลงมองหน้าอกของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแยกเขี้ยวใส่ เหอะ คิดว่าทำแบบนั้นแล้วผมจะกลัวมันเหรอ ท่าทางอย่างกับเด็กอนุบาลโมโหหิวแบบนั้นไม่สามารถกระตุกต่อมกลัวของผมได้หรอกน่า มีแต่จะทำให้อารมณ์ผมขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิมด้วยซิ ชิ...บ้าจริง! นอนก็นอนไม่เต็มที่ แถมยังต้องตื่นมาทำศึกไร้สาระแต่เช้า ใช้พลังมากเกินไปจนท้องไส้แห้งโกรกรากแบบนี้ สงสัยคงต้องหาอะไรรองเท้าซะแล้วสิ

“แกเอาโดโมะคุงของฉันคืนมาน้า!” แต่ไม่ทันเอื้อมมือไปแตะตู้เย็น คนขี้ตื๊อก็เข้าจู่โจมผมจากข้างหลังเสียก่อน (อย่าคิดมากนะครับ ก็แค่กระโดดขี่คอ) ให้ตายเถอะพ่อคุณ! นี่มันยังไม่เลิกประเด็นถุงเท้าง้องแง้งนั่นที่หายสาบสูญอีกเหรอเนี่ย!

“โว้ย บอกว่าไม่ได้เอาไปไงวะ!” ตะโกนพลางหมุนตัวไปมาหวังจะเหวี่ยงปลิงเกือบเปลือยตัวนี้ให้หลุดออกจากแผ่นหลังงามๆ ของผม แต่คุณเตี้ยจอมตื๊อก็ยังอุตส่าห์กอดคอผมไว้แน่น ต่อด้วยการจิกทึ้งหัวผมอย่างแรงจนหนังหัวแทบจะหลุดติดไปกับมือมันอยู่แล้ว อ๊าก! เจ็บชิบเป๋งเลยเว้ย!

“ฉันไม่เชื่อ!” มันคะคอกแล้วดึงแรงขึ้นอีก

“โอ๊ย! แกนี่ตื๊อไม่เลิกจริงๆ โอ๊ย! ถึงฉันจะเคยเอากางเกงในแกไปขาย แต่ถุงเท้าโคโดโมะอายุใช้งานเท่าอาม่าแก จ้างให้ก็ไม่มีใครอยากได้หรอก! ลงไปจากหลังฉันเว้ย!”

“โดโมะคุงต่างหากโว้ย! และฉันก็ไม่เชื่อคนขี้ขโมยโรคจิตอย่างแกด้วย!”

“จะโคโดโมะ โคโมโระ หรือโรโตโนะก็ช่าง ฉันไม่สน แต่ตอนนี้กรุณาลงไปจากหลังฉันซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!”

“โด-โมะ-คุง เว้ย!”

“อ๊ากกก!” ผมแผดเสียงลั่นห้องเพราะมันเปลี่ยนจากทึ้งหัวมาเป็นกระตุกหูทั้งสองข้างของผมอย่างแรง โทษฐานที่เรียกชื่อถุงเท้าของมันผิด “ไอ้เตี้ยซีน! แกลงมาเดี๋ยวนี้นะเว้ยยย!”

ขออธิบาย ณ จุดนี้ว่าผม ‘ชเวอาเชน’ หรือ ‘เช’ กับเจ้าเตี้ย ‘เซบาสเตียน ลอว์เรนซ์’ หรือ ‘ซีน’ เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากถึงมากที่สุด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่บทสนทนาระหว่างเราแฝงไปด้วยความโหด ดิบ เถื่อน และเป็นกันเองสุดๆ หวังว่ามันจะช่วยให้คนอ่านรับรู้ได้ในทันทีว่าพวกเรารักกันแนบแน่นมากขนาดไหนนะครับ (นี่ผมกำลังประชดนะครับทุกท่าน!) พวกคุณอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงเรียกมันว่า ‘ซีน’ (แทนที่จะเป็น ‘เซบ’ ที่ย่อมาจากเซบาสเตียน) แล้วทำไมมันถึงต้องเรียกผมว่า ‘เช’ อืม...คำถามนี้ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันแฮะ เอาเป็นว่ามันคือชื่อที่เราสองคนใช้เรียกกันเองก็แล้วกัน หเมือนโค้ดของเพื่อนซี้อะไรทำนองนั้นล่ะมั้ง เหอะๆ

เนื่องจากซีนเป็นหนุ่มหล่อลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย (ที่เตี้ยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ) แถมเป็นคนดังควบดีกรีหนุ่มสุดฮอตของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อนรักลูกเสี้ยวเกาหลี-อังกฤษ-ไทย หน้าตาธรรมดาค่อนไปทางหล่ออย่างผมจึงชอบหารายได้พิเศษจากการเอาของใช้ส่วนตัวของมันไปขายให้กับเหล่าแม่ยกพ่อยกที่ทุ่มทุนประมูลกันอย่างเมามัน ซึ่งของแต่ละชิ้นก็ได้เงินมากพอจะจ่ายค่าเทอมมหาวิทยาลัยนานาชาติได้เลยทีเดียว อย่างคราวก่อนผมก็เอากางเกงในสีขาวขาดตรงเป้าที่มันไม่ใส่แล้ว ไปประมูลเล่นๆ ได้ราคาสูงถึงหกหลักแน่ะ เจ๋งใช่มั้ยล่ะ! โชคร้ายที่มันจับได้ระหว่างส่งมอบของให้ผู้ชนะการประมูล นอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว ผมยังโดนสวดไปหลายอาทิตย์จนหูเหอชาไปหมดอีกต่างหาก

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันนะ ผมสาบานได้ว่าไม่โขโมยถุงเท้าลายการ์ตูนติงต๊องที่มันคลั่งไคล้ไปขายจริงๆ ก็ผมรู้ว่ามันหวงนี่นา ถึงผมจะอยากแกล้งมันแต่ก็ไม่คิดทำเรื่องที่ทำร้ายจิตใจมันแบบนั้นหรอกน่า

ทั้งที่เมื่อคืนผมอุตส่าห์ถ่อสังขารมาดูบอลเป็นเพื่อนมันที่คอนโดฯ สุดหรู แต่ดูมันตอบแทนกับผมสิ นอกจากจะไม่ให้ผมนอนในห้องนอนสุดอลังการของมัน (เพราะกลัวผมจะขโมยของใช้ส่วนตัวไปขาย) แล้ว มันยังมากล่าวหาว่าผมโจรกรรมถุงเท้าไปประมูลอีกแน่ะ! แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนะ!

“โอ๊ย แกจะทึ้งหารังแครึไง!” ผมพยายามเดินออกจากห้องครัวอย่างยากลำบาก

“เอาโดโมะคุงคืนมานะ!”

“ไม่ได้เอาไปโว้ยยย!”

และในวินาทีที่ความอดทนสิ้นสุดลง สมองก็สั่งการให้ผมตรงไปยังประตูระเบียงอย่างรวดเร็ว ทำไมน่ะเหรอ...

ก็เพราะเจ้าเตี้ยซีนมันกลัวความสูงน่ะสิ!

“แกจะลงไปดีๆ หรือให้ฉันบันจี้จัมพ์ลงไปข้างล่าง” ผมเปิดประตูระเบียงแล้วเดินออกไปราวกับคนขาดสติ เชื่อเถอะว่าถ้าคุณโดนทึ้งหนังหัวด้วยแรงช้างสาร คุณก็คงทำแบบเดียวกันกับผมนี่แหละ

“กะ...แกจะทำบ้าอะไร!” มือของมันหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วเปลี่ยนมากอดคอผมแน่น

“ก็แกอยากเล่นที่สูงๆ ไม่ใช่รึไง กำลังจะจัดให้อยู่นี่ไงล่ะ”

ผมรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเก้าจุดหกริกเตอร์จากร่างกายของมันต้องบอกก่อนว่าคุณเตี้ยซีนเป็นศาสดาของลัทธิกลัวความสูง กลัวชนิดที่ว่าถ้าให้เลือกระหว่างไฟคลอกตายเป็นเนื้อย่างบนตึกกับกระโดดลงมาจากระเบียงเพื่อเอาชีวิตรอด มันคงจะเลือกแบบแรกมากกว่า หึๆ แค่ออกไปยืนที่ระเบียงมันยังกล้าๆ กลัวๆ นับประสาอะไรกับนั่งบนขอบระเบียงแบบที่ผมกำลังจะบังคับให้มันทำล่ะ

“แกอย่าเล่นบ้าๆ นะเว้ย นี่มันชั้นหกนะไอ้@$*@_%*!”

ซีนพ่นคำหยาบใส่หน้าผมก่อนจะกระโดดลงจากหลังแล้วตั้งท่าจะวิ่งหนีกลับเข้าห้องนอนของมัน แต่มีเหรอที่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างผมจะยอมง่ายๆ

‘บุญคุณค่อยทดแทน ความแค้นเร่งชำระ’ นี่แหละคติประจำใจของผมล่ะ

“แอ๊กกก!”

ผมคว้าเอวเปลือยเปล่าไว้แล้วจับตัวมันเหวี่ยงขึ้นไปนั่งบนของระเบียงที่มีความกว้างอยู่ไม่ถึงหนึ่งในสี่ของพื้นที่ก้นย้วยๆ ของมัน หึ! เสร็จฉันแน่เจ้าเตี้ยติงต๊อง!

“ฮะฮ่า แกตายแน่!”

“ชะ...ชะ...ชะ...เช ฉันไม่ขำนะเว้ย อะ...เอาฉันลงไป!” จากที่เคยดิ้นเร่าๆ ตอนนี้เจ้าเตี้ยซีนทำได้แค่นั่งนิ่งแล้วจับแขนผมไว้แน่นมาก

“แต่ฉันขำ หน้าแกตอนนี้โคตรฮาเลยว่ะ”

“เช! ฉันกลัวจริงๆ นะเว้ย!” มันเปลี่ยนมือข้างหนึ่งมาดึงเสื้อของผม “เอาฉันลงไปที ฉันขอร้อง”

“ว่าไงนะ...ไม่ค่อยได้ยินเลยแฮะ”

“ฉันขอร้อง!” มันทำหน้าเหมือนหลินปิงกำลังร้องไห้ขอต้นไผ่จากช่วงช่วง

“บอกรักด้วยสิ” ผมเริ่มกวนประสาทในฐานะที่ถือไพ่เหนือกว่า สถานการณ์แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกดีจริงๆ เลยแฮะ

“ฉะ...ฉัน...”

“ฉันอะไร”

“ฉะ...ฉันรักแกนะเช แกอย่าทำแบบนี้กับฉันเลย!” เสียงคนเสียเปรียบเริ่มดังและสั่นขึ้นเรื่อยๆ มันคงไม่รู้ว่าสีหน้าอาการแบบนั้นยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งมันมากขึ้นกว่าเดิมร้อยเท่า

“บอกรักผมอีกสิคะที่รัก” เสียงของผมหวานเลี่ยนจนเหมือนเกย์หื่นอายุหกสิบกำลังจะขืนใจเด็กชายวัยประถม ถึงจะขนลุกตัวเองที่กล้าพูดออกไป แต่ผมก็ยังสนุกกับการแกล้งเจ้าเตี้ยซีนอยู่ดี

“ไอ้%#*)!”

“อ๊ะๆ อย่าหยาบคายสิ”

“...!!!” มันขมวดคิ้วแล้วจ้องผมอย่างอาฆาตแค้น ผมเห็นน้ำตาของมันคลอเบ้าด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ

“ไหนบอกรักผมอีกทีสิครับ”

“ฉันรักแกมากกกก!”

“ขอแบบน่ารักๆ สิครับ” ผมฉีกยิ้มแล้วทำเสียงกวนประสาท

“ซีนรักเช!” เพราะถูกต้อนจนมุมไม่เหลือทางเลือกอื่น มันจึงจำใจหลับตาปี๋แล้วตะโกนเสียงดังลั่น

“หืม?”

“เซบาสเตียนรักอาเชนที่สุดในโลก!!!”

“โอเค ปล่อยก็ได้”

“…!!!”

ผมตัดสินใจใช้ไม้เด็ดปิดฉากการแกล้งเจ้าเตี้ยซีนโดยการดันตัวมันจนเกือบตกขอบระเบียง แล้วดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว ฟังดูเสี่ยงและอันตรายมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกล้งอย่างผมก็ไม่ได้พลาดท่าปล่อยมันตกลงไป (แหงล่ะ นี่มันนิยายรักนะครับ ไม่ใช่ฆาตกรรม) ดูเหมือนภารกิจการแกล้งเกือบจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทว่า...

หมับ!

ฟึ่บ!

ตุบ!!!

ในจังหวะที่ผมจะดึงตัวซีนกลับมา คนตัวเตี้ยกลับพุ่งเข้าหาแล้วกอดคอผมไว้แน่นทำให้ผมเสียการทรงตัว ขาพัน ตาตุ่มพลิก ลื่นหงายหลังก้นกระแทกพื้นอย่างแรงจนผมได้ยินเสียงกระดูกร้าวเป็นเพลงคลาสสิกของเบโธเฟน แย่ยิ่งกว่าคือน้ำหนักทั้งหมดของซีนยังถูกทิ้งบนตัวผมอีกต่างหาก!

“อ่อก!”

“แอ่ก!”

“โอ๊ะ!/โอ๊ะ!/โอ๊ะ!”

เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันสามเสียง...เอ๊ะ!?...สามเสียงงั้นเหรอ

เสียงแรกคือเสียงโอดครวญของผมซึ่งอยู่ภายใต้ร่างของซีนที่สวมแค่กางเกงลิงตัวจ้อย เสียงที่สองคือเสียงของซีนที่หน้าคะมำอยู่เหนือสะดือของผมเพียงเล็กน้อย

แล้วเสียงอุทานแอ๊บแบ๊วเสียงที่สามมันเป็นของใครกันล่ะ!!

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"Guy Girl Gay แผนรักยุกยิกกุ๊กกิ๊กหัวใจวาย"
 
ราวกับว่าการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยของ 2 หนุ่มสุดฮอตอย่าง ‘ชเวอาเชน’ และ ‘เซบาสเตียน’ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันจะเริ่มอยู่ยากเสียแล้ว เมื่อหลายสายตาของบรรดาหญิงสาวต่างจับจ้องมองเขาทั้งสองไปในทางมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งสุดจะบรรยาย ถ้ามองแบบสาวกรี๊ดหนุ่มหล่อคงยอมรับได้ง่ายๆ อยู่แล้ว แต่อะไรคือการที่พวกเธอมองพวกเขาทั้งสองเป็นคู่จิ้นกัน!
 
ต้องเป็นเพราะนิยายวายเรื่องนั้นแน่ๆ ที่ ‘สาววายเลือดบริสุทธิ์’เขียนลงบล็อกโดยมีพวกเขาทั้ง 2 เป็นพระเอกนางเอกแน่นอน งานนี้เห็นทีว่าทั้ง 2 จะอยู่เฉยไม่ได้แล้วล่ะ เกิดคนส่วนใหญ่รู้สึกอินจัดไปกับเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้นจนคิดว่าพวกเขาทั้งสองกิ๊กกั๊กกันจริงๆ ขึ้นมา นอกจากสาวๆ จะไม่เข้าหาแบบปิ๊งๆ แล้ว พวกเขายังจะถูกมองว่าเป็นเกย์เป๊ะๆ อีกด้วย ปฏิบัติการตามสืบหาตัวจริงของสาววายเลือดบริสุทธิ์เพื่อหยุดกระแสคู่จิ้นจึงเริ่มต้นขึ้น อย่ารอช้า! มาติดตามนิยาย "Guy Girl Gay แผนรักยุกยิกกุ๊กกิ๊กหัวใจวาย" เล่มนี้กันดีกว่า

เขียนโดย "Hameii"

 

288 หน้า


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
28/06/2014

Guy Girl Gay แผนรักยุดยิกกุ๊กกิ๊กหัวใจวาย นิยายเรื่องนี้เป็นของนักเขียนใหม่ที่ได้รางวัลจากนักเขียนหน้าใสจะบอกว่านิยายเรื่องนี้เพิ่งอ่านจบไปสดๆร้อนๆเลย สนุกมากๆค่ะพล็อตเรื่องแปลกนี้อ่านของแจ่มใสมาไม่เคยเจอแนวนี้อ่ะค่ะแนวแบบว่าชาวบ้านคิดว่าพระเอกเป็นเกย์ เราว่าพล็อตเรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างเดียวไม่พอนะ คือมันแปลกใหม่ด้วยอันที่จริงต้องชมคนเขียนว่าคิดพล็อตได้แตกต่างดีอ่ะมันไม่ซ้ำซากคืออ่านไปก็ลุ้นไปอ่านเรื่องนี้ตอนแรกคิดไปและว่าพระเอกมันต้องเป็นเกย์แน่ๆแต่พอคิดอีกทีคงไม่ใช่เพราะถ้าเป็นเกย์จริงคงเลิกอ่านฮ่าๆไม่ใช่แนวทางจริงๆ แต่เรื่องนี้มีความคิดเห็นว่านักเขียนบรรยายถึงตัวละครเด่นๆในเรื่องได้สนุกดี คือเรื่องนี้จะเป็นประมาณว่าผู้ชายสองคนหนึ่งในนั้นคือพระเอกของเรื่องนี้คือเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆถึงมากที่สุดจนคนอื่นต่างคิดว่าเขาเป็นเกย์อีกนัยที่คิดว่าสองคนนี้เป็นเกย์ก็มาจากปมของเรื่องนี้ด้วย อ่านเรื่องนี้แล้วน่าติดตามค่ะเพราะพระเอกนิสัยขี้อ้อนอย่างกับผู้หญิงถึงแม้ว่าจะเล่นๆก็เถอะแต่พอลองมาเล่นอ้อนกับเพื่อนชายตัวเองตอนแรกเขาก็สงสัยนะว่ามันเป็นเกย์ไหมฮ่าๆ เราว่านักเขียนที่แต่งเรื่องนี้เขาบรรยายตัวละครได้น่าติดตามนะค่ะเพราะขนาดเราเป็นคนอ่านเรายังคิดในแง่ลบก่อนเลยแสดงว่านักเขียนก็อาจจะตั้งแต่งแต่งให้เป็นปมเล่นๆสนุกๆไว้ให้คนอ่านรอลุ้นรอติดตามก็ได้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามแล้วก็น่าสนใจมากขึ้นไปอีก เนื้อเรื่องสนุกอ่านแล้วไม่เบื่อค่ะมีฉากที่แบบมาทุกอารมณ์จริงๆ ตื่นเต้นตามไปด้วย นางเอกเรื่องนี้ก็น่าสงสัยไปในเวลาเดียวกันเพราะดันโดนลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องของคนอื่นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เราอ่านแล้วชอบปมของเรื่องนี้นะเพราะตอนแรกที่อ่านคือคิดไว้ก่อนแล้วว่าปมมันคืออะไรแล้วบทเฉลยมันจะเป็นยังไงแต่พออ่านถึงตอนจบเข้าจริงๆมันผิดคาดมากๆคือเป็นปมที่แบบว่าผิดคาดแล้วก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเฉลยออกมาแบบนี้เพราะตอนแรกๆปมมันค่อนข้างชัดเจนอ่ะว่าคนที่ดำเนินแผนการทั้งหมดคือใครแต่พอเอาเข้าจริงแปลว่าเราคิดผิดมาตลอด คือเรื่องนี้ต้องลองอ่านจริงๆได้อะไรเยอะมากปมพลิกไปพลิกมาสนุกสนานแถมตัวละครเด่นๆของพระเช่นพระเอกกับเพื่อนก็สร้างสีสันมากๆทำให้เรื่อสนุกมากขึ้นนักเขียนมีการวางความสำคัญของตัวละครดีนะค่ะคืออ่านแล้วเรารู้เลยว่าตัวละครในเรื่องนักเขียนจงใจที่จะเขียนให้ใครเด่นบ้างคือเรื่องนี้ตัวละครไม่เยอะมากแต่เขียนได้มีความน่าสนใจมากๆเช่นกันค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (76 รายการ)

www.batorastore.com © 2024