Darlings 2.5 สัญญา (ไม่) ลับ วุ่นนักเหล่าวายร้าย (ชุด Darling)
ประหยัด: 66.15 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 100.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ณ โดมบลูคาสเซิล แห่งมหาวิทยาลัยเอเธเนียน เกาะเอเธนส์
สนามหญ้าอันกว้างขวางด้านหน้าของโดมบลูคาสเซิลถูกเนรมิตให้เป็นงานเลี้ยงย่อมๆ ที่มีคอนเซ็ปต์หลักคือฮาเร็ม กระโจมสีแดงอมส้มขนาดยักษ์ถูกตั้งอยู่ตรงกลางสนามหญ้าที่ปูด้วยพรมสีแดงปักดิ้นทองลวดลายวกวน เก้าอี้นั่งตรงกลางคือบัลลังก์ขนาดใหญ่ที่คลุมด้วยมุ้งบางๆ สีขาวดูแล้วพลิ้วสุดใจ และขนาบข้างด้วยเก้าอี้นวมสีแดงเลือดหมูที่ถูกออกแบบมาให้ต่ำกว่าบัลลังก์ตรงกลางอย่างจงใจ หมอนใบเล็กๆ ที่มีลวดลายสไตล์อาหรับวางประดับตกแต่งอยู่บนเบาะนวมรายล้อมที่มีไว้ให้ ผู้ติดตามของประธานทั้งสามคนนั่ง โต๊ะกระจกอันเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมจากช่างทำโมเสกระดับโลกวางอยู่ด้านข้างของบัลลังก์ยักษ์ ขณะที่โต๊ะข้างๆ เก้าอี้นวมสองตัว (สำหรับประธานผู้มาเยือนสองคน) เป็นแค่โต๊ะกระจกธรรมดาเท่านั้น
ใช่...ไอ้ประธานบลูคาสเซิลมันจงใจให้เป็นแบบนั้นล่ะ
รูปปั้นทองคำของประธานโมบลูคาสเซิลตั้งอยู่ตรงทางเข้ากระโจมรายล้อมด้วยผ้าสีขาวที่ปูกับพื้นเพื่อให้รูปปั้นเด่นขึ้นมา ตลอดทางเดินเข้าจากริมฟุตบาธหน้าโดยโรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพูอมส้ม โคมไฟสไตล์โมร็อกโคที่สลักลวดลายละเอียดทหแสงไฟที่ลอดออกมาดูแปลกตาจนถึงขั้นลายตาได้เลย แต่ประธานบลูคาสเซิลของเราก็ไม่สน เพราะเขาคิดว่ามันทำให้ดูอลังการดี เพราะแบบนั้นเขาถึงได้สั่งให้ทีมจัดงานวางโคมไฟสไตล์โมร็อกโคเป็นสิบๆ ดวงทั่วงานและจุดแสงเทียนด้านในให้ส่องสว่าง...แม้มันจะเป็นเวลากลางวันก็ตาม
ถ้าเกิดบาร์โรโลมิว เร็กซ์ตัล ชาร์ลส์ที่สามคนนี้ขอพรได้หนึ่งข้อ เอาตรงๆ เลยนะ เขาจะไม่ขออะไรนอกจากขอให้เอเธอเนี่ยนสงบสุข (สักที) เหอะ
“บ็อบบี้” ประธานโมบลูคาสเซิลผู้มีผมแพลทตินั่มบลอดน์สว่างเจิดจ้าหันไปมองผู้ช่วยคนสำคัญด้วยสีหน้าหงุดหงิดสุดๆ “นายช่วยเตือนฉันหน่อยว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไร”
บ็อบบี้ถูกบังคับให้ใส่ชุดสไตล์อาหรับสีขาวล้วน แถมยังใส่ผ้าคลุมศีรษะด้วยอีกต่างหาก ถ้าไม่หล่อ ไม่ฮอต คงไม่ออกมาดูดีขนาดนี้ เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตอบประธานตามหน้าที่ “ประธานกำลังจัดงานพีซอีเวนต์บายบลูคาสเซิลครับ (Peace Event by Blue Castle)”
“และฉันจัดงานนี้เพื่อ...”
“เพื่อให้เอเธเนี่ยนของพวกเราสงบสุข และให้ทั้งสามโดมเลิกทะเลาะกันหลังจากที่ประธานของทั้งสามโดมกลับมาแล้วครับ”
“และทำไมฉันต้องจัดที่บลูคาสเซิล นอกเหนือจากที่ว่าโดมของพวกเรากว้างขวางและเลิศหรูอลังการที่สุด...”
“เพราะประธานคิดว่าที่ไวท์ฟิลด์มีผีสิง”
“ไม่ใช่ข้อนั้นสิ”
“งั้นหมายถึงข้อที่ว่าประธานเชื่อว่าเรดโอเชี่ยนเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย”
“บ็อบบี้”
“อ้อครับ ผมเข้าใจแล้ว” บ็อบบี้พยักหน้านิ่งๆ “เพราะประธานอยากจะเป็นคนเดียวที่ได้รับความสนใจจากทุกคนใช่มั้ยล่ะครับ”
“แหงอยู่แล้วสิ”
‘ไพเรท ลูซิเอโน เดอลอชเช่’ ตอบและลุกขึ้นยืนสะบัดเสื้อคลุมขนสัตว์สีเทาเข้มยาวสองเมตรที่เขาตัดมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ วันที่เขาต้องเป็นศูนย์กลางของทุกคน ไม่อย่างนั้นเขาจะทุ่มงบไม่อั้นจัดงานสุดอลังการนี่ทำไม
ยังไม่ทันสิ้นบทสนทนา ทั้งไพเรทและบ็อบบี้ก็ต้องหัวขวับมองคนจากโดมเรดโอเชี่ยนที่เพิ่งเดินทางมาถึงโดมตามคำเชิญ...ทุกคนเบิกตามองสัตว์เท้าหนาที่กำลังเยื้องย่างเข้าสู่สนามหญ้าของโดมบลูคาสเซิลมาแต่ไกล มันคือ ‘เซบาสเตียน’ สิงโตตัวผู้ สัตว์ประจำโดมเรดโอเชี่ยนนั่นเอง!
เจ้าป่าตัวหนาล่ำเดินนำหน้ากลุ่มสมาชิกโดมเรดโอเชี่ยนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้าโดมคู่แข่ง เมื่อเลื่อนระดับสายตาขึ้นจากร่างของเซบาสเตียน พวกเขาก็พบกับ ‘ลูวินซ์ บลู ฟาร์รอล’ ประธานโดมเรดโอเชี่ยน...หนุ่มผมสีน้ำตาลแดงเพลิงประดุจม้าเซ็กเธาว์ที่สามารถวิ่งได้ถึงวันละพันลี้ และอีกข้างหนึ่งคือ ‘เจเรมี่ คาเมรอน’ ผู้ได้ฉายาว่าเป็นแวมไพร์แห่งเรดโอเชี่ยนที่นั่งอยู่บนอานม้าตัวโตสีดำเงาดูแข็งแกร่งราวกับม้าศึก การปรากฏตัวอย่างเอิกเกริกของเหล่าเรดโอเชี่ยนทำให้เจ้าบ้านหรี่ตามองอย่างมีนัย
“เฮ้ โอนีล...” ลูวินซหันไปเรียกโอนีล มือขวาของเขาที่เดินประกบเซบาสเตียนอยู่ใกล้ๆ ระหว่างที่กำลังย่างเข้าใกล้กระโจมบลูคาสเซิล “นายบอกฉันอีกทีซิว่าฉันมาที่นี่ทำไม”
“ก็พีซีอเวนต์บายบลูคาสเซิลไง นายรู้แล้วนี่”
“แต่ไอ้กระโจมแดงข้างหน้านั่นมันละครสัตว์ไม่ใช่หรือไง หา”
“นี่ มีเรื่องตลกจะเล่าล่ะ”
“อะไร”
“พวกรามีสิงโตมาด้วยพอดีเลย”
“ฮ่าๆๆๆ ฮาเกิ๊น!” ลูวินซ์หัวเราะร่าอย่างชอบใจ พอตั้งสติได้ก็หันไปสบตากับเจเรมี่ที่ขี่ม้าอยู่ทางซ้ายมือของเขา “เออนี่ เจเรมี่ นายอยู่ติดกับฉันไว้นะ เผื่อไว้ไอ้ไพเรทมันคิดตุกติก นายจะได้เป็นคนแรกที่รู้ ส่วนซีวาน...พาคนของเราสักสามสี่คนไปแอบขโมยเหล้าและไวน์ชั้นดีในงานมาให้หมด จากนั้นหอบกลับโดมเรดโอเชี่ยนล่วงหน้าไปก่อนเลย”
“ฮะ?!” ซีวานหันมาทวนคำสั่งอีกรอบอย่างไม่ค่อยเชื่อหู
“ดอดเหล้าและไวน์ในงานนี้กลับโดมเราให้หมด!!”
“เอาจริงน่ะ” แม้แต่โอนีลยังอยากจะรั้งความคิดนี้ของเพื่อนไว้ เพราะได้ข่าวว่านี่มันงานสงบศึกระหว่างโดมไม่ใช่เหรอ แล้วแผนขโมยเหล้านี่มันอะไรกัน...
“ทำไมล่ะ ฉันยอมมาที่นี่ก็เพราะเรื่องขโมยเหล้าอะไรนี่เลยนะ”
“เอาเถอะ ผมก็แค่อดเห็นอะไรวุ่นวายในงาน” ซีวานยักไหล่
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมกันไปหมดแล้วว่านี่มันงานสงบศึก” เจเรมี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งและสีหน้าไร้อารมณ์ตามแบบฉบับของเขา
หนุ่มหน้าหล่อซีวานยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “เจเรมี่ พี่คิดเหรอว่าทั้งสามโดมจะสงบศึกกันได้ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ผมยอมไปเป็นเมียของพี่เลยเอ้า”
“ไอ้บ้า!!!” ทั้งสามคนร้องลั่นเป็นเสียงเดียวกัน
ลูวินซ์ปรายยิ้มที่มุมปากพลางหันหน้าออกจากวงสนทนา เสี้ยววินาทีนั้นเอง นัยน์ตาสีเทาก็ได้เหลือบไปเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างตรงอีกด้านหนึ่งของสนามหญ้า ลูวินซ์ได้พบกับประธานคู่อริอีกคน... ‘โอนิกซ์ พรอม ฮัทเทิล’ แห่งโดมไวท์ฟิลด์ก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน!
โอนิกซ์เพิ่งขับรถของเขาเข้ามายังอาณาเขตบลูคาสเซิล เขารู้ดีว่าวันนี้ไพเรทเชิญทุกคนมาทำอะไรจากหนังสือเชิญนั่น...เพียงแต่ทันทีที่เขามองเห็นกระโจมสีแดงอมส้มตรงหน้า เขาก็เกิดอาการไม่อยากลงจากรถเอาดื้อๆ
...หมอนั่นมันบ้าหรือเปล่าน่ะ
พีซอีเวนต์หรือกระโจมคณะละครสัตว์? อาการปวดหัวหนึบๆ เข้าแทรกทันใด โอนิกซ์เริ่มรู้สกตัวเล็กน้อยว่าบางทีมันอาจเป็นแผนลวงของไพเรทก็เป็นได้ หรือไม่...มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่เป็นเพราะความโอเวอร์ไม่เลือกหน้าไม่เลือกเวลาของเจ้าตัวต่างหาก ระหว่างกำลังลังเลใจว่าจะลงไปจากรถดีหรือเปล่า หรือว่าจะขับกลับไปดื้อๆ ดี เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น พร้อมหน้าจอที่แสดงเป็นภาพของสาวสวยผมสีคาราเมล อมิทริน แฟนสาวของเขานั่นเอง
(โอนิกซ์ นั่นนายอยู่ไหนน่ะ ทุกคนเข้ามาในงานหมดแล้วนะ)
“ฉันมาถึงแล้วน่า” โอนิกซ์ตอบพร้อมถอนหายใจเบาๆ แถมยังอยากได้ยาแก้ไมเกรนขึ้นมาจริงๆ สักห้าเม็ด เมื่อเห็นขบวนคาราวานของเรดโอเชี่ยนที่ไม่รู้จะบ้าขี่ม้าหรือเอาสิงโตเดินมาตามทางทำไม ในเมื่อเอเธอเนี่ยนมีถนน และพวกนั้นก็มีรถขับกันถ้วนหน้า
(แล้วนายอยู่ไหน)
“หน้าละครสัตว์นี่ไง”
(โอเค ฉันจะออกไปรับเอง)
โอนิกซ์ถอนหายใจพรืด ถ้ามิทรินบอกว่าจะออกมารับก็สรุปได้ว่ายังไงก็ต้องเข้าไปในนั้นแน่ๆ แต่...มิทรินออกมารับก็น่าจะดีกว่าเดินเข้าไปคนเดียวในกระโจมละครสัตว์นั่น เพียงแต่...เขาอาจคาดผิดไปนิด...ไม่สิ...เขาคาดการณ์ผิดและน้อยไปเยอะ! เมื่อร่างบางๆ ที่ก้าวฉับๆ เดินอกจากกระโจมมาหาเขาที่ยังคงจอดรถนิ่งอยู่ข้างสนามหน้ากระโจมมัน...
...นี่ล่อชุดคลีโอพัตราเลยเรอะ
“อะไร มองด้วยสายตาแบบนั้นหมายความว่าไง” มิทรินโวยใส่ทันใดแม้โอนิกซ์จะยังไม่ทันขยับปาก ก่อนยกมือจัดมงกุฏทองคำรูปงูจงอางบนหัวให้เข้าที่ พร้อมกับก้มสำรวจชุดราตรีสีทองเว้าหน้าหลังบนตัวอีกที “ฉันก็แค่ใส่ให้เข้าคอนเซ็ปต์ เอ่อ หมายถึงจริงๆ ก็ไม่เชิงคอนเซปต์ ไพเรทอยากได้อะไรที่เป็นอาหรับหน่อย แต่ชุดผู้หญิงอาหรับมันไม่ค่อยโดนใจน่ะนะ อีกอย่างพวกสาวเสิร์ฟก็แต่งแบบั้นหมด ฉันก็เลย...ขอเป็นแบบนี้แทน...มงกุฏนี่ฉันสั่งทำพิเศษนะ หนักพอดู”
“เธอยังไม่เข็ดจากเอลโดราโดใช่มั้ย”
“อย่าพูดถึงให้สยองได้มั้ย เอาน่า เข้าไปในงานเหอะ!”
โอนิกซ์โดนลากเข้ามาในงานเป็นคนสุดท้ายด้วยฝีมือของมิทริน เมื่อประธานทั้งสองโดมมาถึงกันอย่างพร้อมหน้าแล้ว เจ้าบ้านอย่างไพเรทก็กัดฟันอย่างหงุดหงิด เขาไม่เข้าใจว่าไอ้สองคนนี้จะพยายามขโมยสปอตไลต์จากเขาทำไม อย่างน้อยมันควรจะให้เกียรติเขาที่เป็นคนจัดงานหน่อยนะ ลำพังโอนิกซ์ที่มาพร้อมวิญญาณหนังสือรอบตัวมันไม่เท่าไหร่หรอกนะ แต่ไอ้ชุดเว่อร์ๆ ไม่ได้ตรงคอนเซ็ปต์ของเลขาฯ ส่วนตัวเขาที่เดินมาด้วยกัน นั่นสิ แล้วโดยเฉพาะไอ้ลูซิ่น คาราวานบ้าบอนั่นหมายความว่าไงกัน! หน็อยยยย! คิดถูกแล้วจริงๆ ที่เขาแอบบอกให้ตั้งสปอตไลต์ส่องมาที่หน้าเขาตอนนั่งอยู่บนบัลลังก์โดยเฉพาะ
“โอ้โห ลงทุ้นลงทุนเนอะ!” ลูวินซ์ว่าพร้อมกับหยุดม้าที่หน้ากระโจมแดงอมส้ม เขากระโดดลงจากอานม้าแล้วเดินอาดๆ มาตามพรมที่ปูทับบนพื้นหญ้าสีเขียวสด ประธานโดมเรดโอเชี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่สุดหรูหราที่เตรียมไว้ให้ โอนิกซ์เดินตามมาติดๆ และสำรวจรอบๆ ด้านเงียบๆ พลันคิดในใจ...
ถ้ามันอาเวลาทำอะไรแบบนี้ไปอ่านหนังสือบ้างสักนิดล่ะก็...
“อะไรกัน เล็กน้อยเท่านั้นเอง” ไพเรทตอบและสะบัดผมเบาๆ อย่างภาคภูมิใจ เขาหันไปเห็นโอนิกซ์ที่กำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้นวมฝั่งซ้ายมือของเขา และสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง “แม้ว่านายจะเดตกับมิทริน แต่รสนิยมทางแฟชั่นของเธอดูเหมือนจะไม่ได้ส่งต่อไปทางนายเลยนะโอเปค”
“ใครคือโอเปค”
“โห แล้วแต่งตัวอะไรของนายน่ะ จะไปโบสถ์หรือไง” ไพเรทประชดประชันบอกก่อนจะนั่งลงบนบัลลังก์ (ที่จงใจทำมาเพื่อข่มไอ้เก้าอี้นวมสองตัวที่ขนาบข้าง) “ช่างเถอะ ฉันจะไม่พูดอะไรมากเรื่องรสนิยมไม่เอาอ่าวกับความจริงที่ว่าหน้าตานายมันบูดบึ้งไม่น่าคบขนาดไหนนะโอเปค”
“ฉันไม่ได้ชื่อโอเปค”
“อย่าคิดมากเอเปค อย่ามาก” ไพเรทโบกมือไปมาโดยไม่สนใจฟังคำอธิบาย โอนิกซ์ถอนหายใจเบาๆ ในขณะที่ลูวินซ์นั่งขำคิกๆ เมื่อเห็นโอนิกซ์ถูกไพเรทกวนประสาทเข้าให้ตั้งแต่ห้านาทีแรกที่มาถึง
“อาหาร เสิร์ฟๆ” ไพเรทปรบมือแปะๆ แล้วสาวเสิร์ฟในชุดเปิดหน้าท้องสไตล์อาหรับก็ปรากฏตัวมาพร้อมกับถาดทองคำที่มีผลไม้นานาชนิดและไวน์ชั้นดี แน่นอนว่าคนที่ตาโตที่สุดคือลูวินซ์ อาหารดีๆ ไวน์รสดีๆ นั่นล่ะคือจุดประสงค์หลักที่เขามาที่นี่
“อาหารฟรีและละครสัตว์” ลูวินซ์ตอบขณะที่โยนผลองุ่นเข้าปาก
“อยากอวดร่ำอวดรวย” โอนิกซ์ตอบต่อหน้าตาย และไม่คิดจะแตะอาหารบนถาดเลย หนึ่ง...เพราะเขาไม่ได้มีอารมณ์มานั่งจิบไวน์ดูสาวระบำหน้าท้องอะไรนี่สักนิด และสอง...เขาคิดว่าลูวินซ์โง่มากที่เอาอาหารพวกนั้นเข้าปากโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าไพเรทจะวางยาอะไรพวกเขาหรือเปล่า ประธานหัวสีซีดของบลูคาสเซิลคนนี้ไว้ใจได้ที่ไหน
จะว่าไป...ขอให้เป็นสลอดเหอะ
“พีซอีเวนต์!” ไพเรทดังเสียงกระแดะสุดๆ “พวกนายสองคนไม่เข้าใจคำว่าพีซอีเวนต์เลยหรือไงนะ”
“อ้าว นั่นฉันนึกว่าเป็นมุกตลกซะอีก” โอนิกซ์พูดหน้าซื่อแบบจงใจกวนประสาท
“ไม่เอาน่า พีซเพิซอะไรกัน จะมาสงบศึกกันตอนนี้ไม่คิดว่ามันน่าเบื่อไปเหรอ ฮึ?” ลูวินซ์แค่นเสียงถามอย่างนึกสนุก อันที่จริงแล้วเขาก็ชอบเหมือนกันที่สามโดมทะเลาะกันแบบนี้
ไพเรทถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มกับความไร้สติปัญญา (?) ของประธานอีกสองโดม เขาลุกขึ้นยืนและสะบัดเสื้อคลุมขนเฟอร์ยาวสองเมตรเป็นนัยอวดๆ และเดินลงไปยืนบนพรมตรงด้านหน้าอีกสองคน
“เราเป็นประธานโดมก็ต้องแสดงวิสัยทัศน์ดันดีงามด้วยการเลิกทะเลาะกันสักที แม้ตอนนี้ผู้อำนวยการอดัมจะหายตัวไปอีกแล้ว...”
“หลังจากที่กลับมาได้สองสามวัน” โอนิกซ์พูดต่อและลอบถอนหายใจกับความป่วนสุดขอบฟ้าของ ผอ. มหาวิทยาลัยพวกเขา
“ใช่ ยังไงก็ตาม ผู้อำนวยการอดัมหายตัวไปอีกรอบ และโดมทั้งสามโดมก็กำลังทะเลาะกันอีก พวกนายไม่คิดเหรอว่าการที่พวกเราสงบศึกกัน
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
เรื่องมันมีอยู่ว่า...ขณะที่ 'ไพเรท ลูวินซ์' และ 'โอนิกซ์' ประธานโดมสุดหล่อแห่งเอเธเนี่ยนกำลังเซ็นสัญญาสงบศึกกันอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีข่าวร้ายที่ว่า "ของสำคัญ" ของแต่ละโดมได้หายสาบสูญไปชนิดจับมือใครดมไม่ได้! O_O อ้าว ตายล่ะ นี่มันเป็นวาระแห่งชาติเลยนะเนี่ย แถมยังเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของแต่ละโดมอีกด้วย โอ๊ย เป็นเรื่องคอขาดบาดตายม้ากกก~ มาก! ใครหน้าไหนมันกล้ามาเหยียบจมูกสามโดมอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรกันฮึ T^T และถ้าอยากรู้ว่าของสำคั้ญ~ สำคัญที่หายไปนั้นมีอะไรบ้าง ก็จะจาระไนให้ดังนี้ หนึ่ง..."เพชรตาแมว" ของโดมบลูคาสเซิล สอง..."คัมภีร์โบราณ" ของโดมไวท์ฟิลด์ และสาม..."เหล้าพันปี" ของโดมเรดโอเชี่ยน (-_-*) ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ว่ามาขโมยไปน่ะเหรอ หึๆ มันก็ต้องเป็นอีกสองโดมที่เหลืออยู่แล้ว (มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์!) ก็ในเมื่อแต่ละโดมไม่ถูกกันซะขนาดนี้นี่นะ แต่ติดตรงที่สัญญาสงบศึกที่ประธานโดมทั้งสามเพิ่งเซ็นชื่อกันไปนั้นทำให้คนของแต่ละโดมทะเลาะกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ถ้าเกิดมีการผิดสัญญาขึ้นมา...ประธานโดมสุดหล่อของพวกเขาได้กลายเป็นตัวประหลาดแน่นอน เหอๆๆ =[]=
รีวิว (1)

18/06/2014
นิยายเรื่องนี้หลังจากได้อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าสนุกมากๆค่ะ แค่ชื่อเรื่องก็น่าติดตามแล้วก็มีภาคต่อหลายภาคแล้วก็เล่มที่แยกออกมาของพระเอกนางเอกแต่ละคู่ด้วย เรื่องนี้แต่งโดยการรวมตัวของนักเขียนสามคนที่มีฝืมืออยู่แล้ว แถมเนื้อหาก็ไม่ธรรมดาค่ะเป็นเรื่องที่น่าติดตาม เนื้อหากระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย แล้วก็แฝงมุกตลกๆตามประสาวัยรุ่นเข้าไปด้วย พระเอกสามคนแล้วก็นางเอกสามคนของเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนดีค่ะ เป็นเอกลักษณ์ที่แปลกๆ แล้วก็ค่อนข้างโอเวอร์ตามจินตนาการณ์ของคนเขียนที่ตั้งใจปรุงแต่งขึ้นให้มันแปลกแต่น่าสนใจ พออ่านแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่เบื่ออ่านได้เรื่อยๆเพราะรู้สึกสนุกแล้วก็อยากติดตามในตอนต่อๆไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างที่จะชุลมุนวุ่นวายของเหล่าตัวละคร ทำให้ต้องลุ้นตลอดเวลาว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกในหน้าต่อไป ทำให้จินตนาการณ์ตามได้ไม่เบื่อมีความสุขเวลาที่ได้อ่านแล้วก็มีจินตนาการณ์ตามที่ชัดเจนค่ะเพราะคนเขียนค่อนข้างที่จะบรรยายได้เห็นภาพตาม อีกทั้งชื่อตัวละครก็แปลกดีค่ะมีนิสัยที่แปลกประหลาดดีแต่ก็สนุกมากค่ะ