Little Belief ภารกิจลับปลุกชีพจรรัก

Little Belief ภารกิจลับปลุกชีพจรรัก

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160600519
ผู้แต่ง: มิ้นตี้
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 159.00 บาท 39.75 บาท
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

คนมากมายบนโลกมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนรกและสวรรค์ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสถานที่ทั้งสองแห่งนั้นมีจริง...ทั้งยังอยู่ใกล้กันมากกว่าที่เราคิด

และฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้คนส่วนน้อยเหล่านั้น

 

“ท่านพ่อ เมื่อไหร่พี่จะกลับลงมาซะที”

ชายหนุ่มผมสีดำสนิทที่มีลูกไฟปะทุออกมาเป็นบางครั้งบางคราวอาจจะดูแปลกในสายตาของมนุษย์ แต่มันไม่แปลกเลยสำหรับเหล่าวิญญาณในนรก เพราะมันบ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิดของเจ้าตัวที่แสดงออกมาให้เห็นบ่อยๆ ยิ่งกับชายวัยกลางคนที่กำลังนอนอยู่นั้น เขามองว่าเป็นเรื่องธรรมดามากเลยทีเดียว ไอ้ลูกชายไม่เอาไหนเอ๊ย

“เอ๊ะ แกนี่ขี้บ่นจริงๆ เลยนะ แค่ทำงานแทนไอ้แบล็คนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง”

“แหม ก็ปกติพี่เขาทำงานอยู่ข้างล่างนี่ตลอดเจ็ดวันเลยนี่ แต่ตอนนี้ดันมาสลับให้ผมทำงานอยู่ข้างล่างห้าวัน พี่ทำงานสองวัน ขืนอยู่แต่ในนรกแบบนี้ ผมจะหาความสุขได้จากที่ไหนกันล่ะ”

“ถ้าไอ้แบล็คมันแต่งงานมีลูกแล้ว แกจะต้องทำงานหนักกว่านี้อีก”

“โหย! แล้วผมล่ะ ท่านพ่อไม่คิดว่าผมจะแต่งงานบ้างเลยหรือไง”

“ไม่”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เพราะแกเป็นอย่างนี้น่ะสิไม่น่าถาม ตอนนี้แกก็ทำงานพวกนี้ไปก่อนเถอะน่า ถ้าแกแต่งงานจริงๆ พ่อก็คงต้องมานั่งทำงานแทนแก”

“เฮอะ ถ้าผมมัวแต่ทำงานๆๆ แล้วจะเจอผู้หญิงที่ผมชอบได้ไงเล่า”

“เลิกบ่นแล้วไปทำงานซะที โอ๊ย..เจ็บจังเบตตี้ นวดตรงสะโพกเบาๆ หน่อยสิจ๊ะ...อื้ม อย่างนั้นแหละ”

สายตาของลูกชายเหล่มองไปยังสาวๆ ชุดบิกีนีตัวจิ๋วอย่างหงุดหงิด เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเอาตัวสาวๆ มาได้อย่างผู้เป็นพ่อ

“พี่ได้อยู่กับแฟน ส่วนท่านพ่อก็ได้อยู่กับสาวๆ มีแต่ผมเท่านั้นที่ต้องอยู่กับไอ้กระดาษบ้าๆ พวกนี้ ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย”

“แกกล้าพูดหรือไงว่ามันไม่ยุติธรรม ที่ผ่านมาหลายๆ ปีนี้ที่แกเอาแต่มั่วสุมอยู่บนโลกมนุษย์นั่น ฉันกับไอ้แบล็คเคยว่าอะไรแกบ้างมั้ย! ทำงานแค่นี้ยังไม่เท่ากับที่พี่แกทำเลยนะ เพราะฉะนั้นห้ามบ่นเด็ดขาด ไอ้ลูกบ้า!”

“แต่ผมทนไม่ได้นี่ ก็ในนรกไม่เห็นจะมีสาวๆ สวยๆ เลยสักคน”

“มีวันหยุดสองวัน แกก็ขึ้นไปบนโลกมนุษย์สิ ฉันไม่ได้ห้ามนี่”

“แค่สองวันเองนะท่านพ่อ! จีบสาวคนนึงมันก็ใช้เวลาไปเกือบวันแล้วนะกว่าเธอคนนั้นจะยอมผม”

“เฮ้อ แกนี่จริงๆ เล้ย ฉันจะตายตาหลับมั้ยเนี่ย”

“แต่ท่านพ่อตายแล้วนี่”

“เออ มันก็จริง”

“เฮอะ ถ้าท่านแม่อยู่ด้วยก็ดี ผมจะได้อ้อนท่านแม่ได้”

“แม่ของพวกแกงั้นเหรอ”

แล้วชายสองคนแต่ต่างวัยก็มองไปที่ฝาผนังซึ่งมีกรอบรูปของผู้หญิงคนหนึ่งแขวนเรียงรายเป็นร้อยๆ อัน ผู้หญิงในรูปนั้นจัดได้ว่าหน้าตาสะสวย ดวงตาเปล่งประกายแสดงถึงความอ่อนโยน ผิวขาวราวกับหิมะ ผมสีเงินของเธอไม่ได้ถ่ายทอดพันธุกรรมมาสู่ลูกๆ เพราะเขาทั้งสองต่างก็ได้รับผมสีดำสนิทมาจากผู้เป็นพ่อ

“ตอนนี้ท่านแม่อยู่ไหนแล้วอ่ะท่านพ่อ”

“...ไม่รู้สิ”

“ท่านพ่อ เล่าเรื่องท่านแม่ให้ฟังหน่อยสิ นะๆๆ ผมตื๊อท่านพ่อมาหลายชาติแล้วนะ”

ชายวัยกลางคนผุดลุกขึ้นมานั่งอย่างกะทันหันพร้อมกับโบกมือไล่สาวๆ ทั้งหลายที่กำลังนวดให้ออกไปจากห้อง อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

“เวลาพูดถึงท่านแม่ทีไร ท่านพ่อก็เป็นอย่างนี้ทุกที”

เมื่อผู้เป็นพ่อไม่พูดอะไรเลย ลูกชายก็ชิงพูดต่อ

“ผมอยากรู้นี่ว่าท่านแม่เป็นยังไงบ้าง ท่านพ่อเอาแต่บอกว่าท่านแม่หนีไปเพราะท่านพ่อเจ้าชู้...แต่พูดตรงๆ นะ ผมเม่ชื่อสักเท่าไหร่เลย”

“แกอยากฟังจริงๆ งั้นหรือไอ้เรียล”

“แน่นอน นั่นท่านแม่ผมนะ”

“ฉันเคยเล่าให้พี่แกฟังไปแล้ว และตอนนี้คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะเล่าให้แกฟัง เพราะถ้าแกฟังจบ แกอาจจะมีความคิดมากขึ้นก็เป็นได้”

“ท่านพ่อหลอกด่าผมหรือ”

หลังจากถกเถียงกันอยู่สักพัก เรื่องเล่าที่ไม่น่าเชื่อหลายต่อหลายเรื่องได้ถูกถ่ายทอดออกมา เรื่องราวที่เป็นความลับมานานแสนนานเกี่ยวกับผู้เป็นแม่ที่ยมทูตหนุ่มไม่เคยแม้แต่พบหน้า และเขาไม่รู้ตัวเลยว่าดวงชะตาของเขาได้เกี่ยวกับพันกับเรื่องที่เขาได้ฟังเข้าแล้ว

เรียลเดินกลับออกมาหลังจากที่ได้ฟังเรื่องพวกนั้นอยู่หลายชั่วโมง เขารู้สึกว่าตัวเองเบาหวิวและห่อเหี่ยวลง แต่กระนั้นเขาก็ได้ตระหนักถึงอะไรบางอย่างจากเรื่องราวในอดีตที่แสนยาวนาน เขาขลุกอยู่ในห้องตัวเองสักพักก่อนจะลุกออกไปทำงานต่อ

วิญญาณตนไหนก็ตามที่ลงมานรกในวันนี้ อาจจะแปลกใจที่ต้องรอคิวยาวเหยียดเพราะปกติแล้วมันไม่น่าจะเป็นแบบนี้

 

1

 

“ฮ้า ทำไมวันนี้อากาศหนาวจังนะ”

ใบไม้แห้งกำลังร่วงประปรายตามทางเดินไปโรงเรียน วูบหนึ่งที่ลมแรงๆ พัดมาปะทะกับใบหน้าของฉัน ความเย็นของมันทำให้ตัวฉันสั่นอย่างประหลาด

ฤดูหนาวอีกแล้วสินะ วันนี้อีกแล้ว

นี่คงจะเป็นฤดูที่เหมาะสมกับฉันที่สุดแล้วกระมัง ฉันยืนมองประตูทางเข้าโรงเรียนที่อยู่เบื้องหน้าตอนหกโมงเช้า นักเรียนยังบางตามากจนเรียกได้ว่าแทบไม่มีคน เมื่อคืนที่ผ่านมาฉันแทบไม่ได้นอนเลย เพราะฉันมักจะเห็นภาพที่เลวร้ายทุกครั้งในขณะที่กำลังจะข่มตาให้หลับ

ฉันขยี้ตาที่บวมตุ่ยพลางบิดขี้เกีจแล้วค่อยๆ เดินเข้าโรงเรียน เฮ้อ ตามจริงแล้วไอ้เรื่องที่นอนไม่หลับเนี่ยมันก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเฉพาะช่วงนี้ของทุกๆ ปีแหละ ฉับพลันนั้นเองฉันก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่หลบมุมอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

ดอกไม้น้อยๆ สีชมพู...

ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ดอกไม้จะเบ่งบานอย่างเดียวดายในฤดูนี้ ดอกไม้ที่แสนจะบอบบางทนสภาพอากาศแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ฉันยิ้มให้กับดอกไม้ดอกนั้นแล้วก็พยายามลากถังขยะมาใช้เป็นที่บังลมหนาวให้กับมัน โอ้โห หนักจริงๆ เลยแฮะ

“อดทนไว้นะดอกไม้น้อย เดี๋ยวอีกไม่นานก็จะถึงฤดูร้อนแล้ว”

ใช่แล้ว ขนาดดอกไม้ยังทนได้ แล้วทำไม...น้ำหวานคนนี้จะทนไม่ได้

 

“เกวลี! เกรดเธอตกลงมากเลยนะ มีปัญหาอะไรทางบ้านหรือเปล่า”

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ”

“แปลกมากเลยนะที่เกรดเธอร่วงได้ขนาดนี้ ปกติเธอเป็นคนที่เรียนเก่งมากนะ”

“...”

“พักหลังมานี้เธอขาดเรียนบ่อยๆ และบางวันก็ยังมาสายอีกด้วย”

“ช่วงนี้หนูนอนดึกเลยตื่นสาย แต่ต่อไปหนูจะพยายามมาให้ทันนะคะ”

“เธอควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้นะ เอาล่ะ ยังไงก็ให้พ่อหรือแม่ของเธอมาพบครูวันพรุ่งนี้ด้วย เข้าใจที่ครูพูดมั้ย”

“หนูไม่มีพ่อแม่แล้วค่ะ พวกท่านเสียไปแล้ว”

ฉันยืนอย่างสงบอยู่ในห้องพักครู่ ใช่ค่ะ เกวลีเป็นชื่อจริงของฉันเอง ตอนนี้ความสนใจของอาจารย์ส่วนใหญ่ก็พุ่งมาทางฉันทั้งนั้น พวกอาจารย์ทั้งหลายที่ได้ยินคำตอบของฉันต่างก็เผลออุทานกันเล็กน้อย ส่วนอาจารย์บางท่านที่ทราบเรื่องของฉันดีอยู่แล้วก็ไม่ได้แสดงท่าทางตกใจอะไรนัก

“งั้นหรอกหรือ ครูก็ไม่อยากจะว่าอะไรเธอมากนัก แต่ถ้าพ่อแม่ของเธอยังอยู่และรู้เรื่องนี้เข้า พวกท่านจะเสียใจเอานะ”

“ค่ะ”

และอาจารย์ผู้หญิงคนเดิมก็ยังคงเซ้าซี้ถามนู่นถามนี่ไม่เลิก ฉันรู้ดีว่าอาจารย์คนนี้ไม่ได้ห่วงอะไรฉันนักหรอก หล่อนก็แค่อยากทำให้ฉันอับอายขายหน้าก็เท่านั้น อาจารย์คนนี้ไม่ชอบหน้าฉันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันที่ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรให้มันดูสมเหตุสมผลกับคำถามของหล่อนเลยได้แต่นั่งก้มหน้า

“ถ้าเกรดเธอไม่ร่วงลงมากขนาดนี้ ครูก็คงไม่เรียกเธอมาพบหรอก”

“หนูทราบค่ะ”

“พยายามอย่าให้มันเกิดขึ้นอีกเข้าใจมั้ย”

“ค่ะ เข้าใจค่ะ”

ฉันยกมือไหว้อาจารย์ทุกท่านแล้วก็เดินออกจากห้อง เฮ้อ ใครอยากจะทำให้เกรดตัวเองตกกันล่ะ แต่บางทีปัญหาที่มีอยู่ฉันก็พูดออกมาไม่ได้ ปัญหา...ที่บอกใครไม่ได้หรือไม่กล้าบอก ฉันแน่ใจว่าทุกคนก็ต้องมี

 

“ได้ข่าวมั้ยว่ายัยผ้าขี้ริ้วของห้องเราถูกเรียกไปด่าน่ะ”

“ใช่ๆๆ เห็นว่าโดนตั้งแต่เช้าเลยเชียว ฮิๆๆ สมน้ำหน้า”

เสียงนินทาดังขึ้นงึมงำๆ ในขณะที่ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ในห้องทำหน้าเหมือนเห็นฉันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ฉันมองกระจกหน้าต่าง มันมืดพอที่จะเห็นเงาเด็กสาวใส่แว่นหนาเตอะ ใต้ตาดำคล้ำ ปากแห้ง หน้าก็มันเยิ้ม ไม่แปลกที่ผู้หญิงพวกนั้นจะรังเกียจฉัน ส่วนผู้ชายส่วนใหญ่น่ะก็ไม่อยากยุ่งกับฉันอยู่แล้ว เพราะว่าฉันไม่ได้ดูน่ารักเลยแม้แต่นิดเดียว

“โดนเรียกไปว่าอีกแล้วเหรอ”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หันไปมอง ก็มีมือขาวสะอาดคู่หนึ่งมาวางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับเจ้าของมือคู่นั้นที่นั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าฉัน และการที่เขานั่งลงอย่างกะทันหันก็ทำให้ผมสีดำเข้มปรกลงที่ใบหน้าเรียวยาวของเขา แต่มันก็ปิดดวงตากลมโตสีดำของเขาไม่มิด และดวงตาคู่นั้น...ก็ทำให้ฉันยิ้มได้ ทุกคนในห้องพยายามแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ฉันก็รู้ดีว่าทุกคนกำลังแอบมองอยู่

“เรียล”

เรียลอายุมากกว่าฉันสองปี ฉันเป็นคนที่เรียนเร็ว ส่วนเขาเรียนซ้ำชั้นไปหนึ่งปี ตอนนี้เขาอยู่ ม.6 ส่วนฉันอยู่ ม.5 ฉันรู้สึกดีใจลึกๆ ยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นหน้าเขา

“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”

“อื้ม”

“เธอมาหาฉันทำไมเหรอ”

“ไม่ได้ตั้งใจจะมาหาหรอก แต่เมื่อกี้เห็นเธอกลับออกมาจากห้องพักครูแล้วสีหน้าไม่ค่อยดีเลยเดินตามเข้ามา”

“เธอยิ้มทำไม”

“ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณอะไรกัน หือ ยัยบ๊อง”

“โอ๊ย อย่าดึงผมสิ! ฉันไม่ใช่ด็กแล้วนะ”

“เย็นนี้กลับพร้อมกันนะ เราจะได้ไปหาอะไรกินกันด้วย”

สิ้นคำชวนนั้นก็มีหญิงสาวผมยาวใบหน้าเหมือนตุ๊กตาเดินมาจับแขนเขาไว้แน่น เธอมองมาที่ฉันอย่างหงุดหงิด

“พี่เรียลพูดแบบนี้ได้ยังไง แล้วฉันจะกลับกับใครล่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกเรียล เธอกลับกับลิลลี่แหละดีแล้ว ฉันกลับเองได้”

“ฉันบอกเธอกี่ทีแล้วยะว่าให้เรียกเรียลว่าพี่ เธอห่างกับเขาตั้งสองปีนะ”

สิ้นเสียงนั้นเพื่อนทั้งห้องก็ส่งเสียงงึมงำเป็นเชิงเห็นด้วย เพื่อนๆ ในห้องนั้นไม่ค่อยจะชอบฉันสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะฉันเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าคุยกับใคร เลยดูหยิ่ง และอีกเรื่องคือเมื่อก่อนฉันเรียนเก่ง เลยดูน่าหมั่นไส้ เฮ้อ คิดแล้วก็น่าน้อยใจ แต่ตอนนี้มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นี่นา อย่าคิดมากดีกว่า ก็แค่ไม่มีเพื่อนคบเท่านั้นเอง

“ฉันไม่ถืออยู่แล้วลิลลี่” เรียลพูดเป็นเชิงตัดบทพร้อมกับแกะมือของลิลลี่ออก

“พี่เรียลเดี๋ยวนี้ไม่เคยคิดจะเข้าข้างฉันเลยนะ”

“เธอก็แยกแยะให้ออกบ้างสิ น้ำหวานเป็นญาติฉันนะ”

“แต่พี่เรียลไม่ได้ไปส่งลิลลี่นานแล้วนะคะ”

“ก็ฉันบอกว่าฉันไม่ว่าง”

“แต่กลับมีเวลาไปกับยัยนี่เหรอคะ”

“เราคุยเรื่องนี้กันหลายรอบแล้วนะ ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกน้ำหวานดีๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกเรียล”

ฉันพูดพึมพำเบาๆ ลิลลี่ทำท่าทางเป็นเชิงงอนๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ตัวเองโดยมีเพื่อนๆ ตามไปรุมปลอบใจกันใหญ่ เรียลถอนหายใจเล็กน้อย ช่วงหลังๆ มานี้ฉันไม่เห็นว่าจะมีวันไหนเลยที่พวกเขาไม่ทะเลาะกันเรื่องฉัน ส่วนเรียลเองก็ไม่เคยว่าฉันเลย นั่นคงเป็นสิ่งที่ทำให้ลิลลี่หงุดหงิดใจมาก

“วันนี้เธอไปส่งลิลลี่เถอะ ฉันกลับคนเดียวได้”

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
01/08/2014

Little Belief ภารกิจลับปลุกชีพจรรัก นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานของมิ้นตี้ค่ะซึ่งตอนนี้นักเขียนไม่ได้แต่งนิยายให้กับแจ่มใสแล้วด้วยแต่เราเคยอ่านผลงานของมิ้นตี้อ่ะค่ะมีแค่สิงเรื่องเองที่ตีพิมพ์กับแจ่มใสสนุกดีค่ะเสียดายเนอะน่าจะแต่งเพิ่มอีกเราชอบตั้งแต่เรื่องแล้วแล้วอ่ะที่เป็นพี่ชายของเรียลพระเอกในเล่มนี้พี่ชายจะแบบมึนๆอ่ะเย็นชากว่าจะสมหวังได้ก็งมโข่งอยู่นานคู่กับมนุษย์ด้วยแหละจำชื่อนางเอกไม่ค่อยได้เพราะเมื่อเทียบแล้วคือเรื่องทั้งสองเรื่องของมิ้นตี้ออกมาตั้งแต่เรายังเรียนอยู่เลยช่วงนั้นอารมณ์แบบhi5กำลังคิดอ่ะคือนานมากๆแต่สนุกทั้งสองเรื่องค่ะเรื่องนี้นางเอกจะน่าสงสารหน่อยเพราะกำพร้าพ่อแม่แตก็ได้เรียลช่วยดูแลเรียลน่ารักมากๆความจริงเรียลไม่ใช่ญาติอะไรกับนางเอกหรอเรียบเป็นยมฑูตน้องชายของแบล็คเราไม่รู้ว่าเรื่องนี้กับเรื่องของแบล็คเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นก่อนแต่อยากบอกว่าชอบหมดแหละอ่านสนุกทั้งสองเรื่องค่ะแล้วมิ้นตี้ก็หายไปเลยไม่ได้มาแต่งให้กับแจ่มใสอีกแอบเสียใจเราว่านิยายของนักเขียนท่านนี้น่ารักมุ้งมิ้งดีซื้ออ่านตั้งแต่เล่มแรกช่วงนั้นนิยายแนวนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายอะค่ะเนื้อเรื่องจะเป็นแนวเลิฟซีรี่ปนแฟนตาซีก็รู้สึกเหมือนช่วงนั้นยังไม่ค่อยมีใครแจ่งนิยายแนวนี้เราก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยซ้ำกับนักเขียนท่านไหนเท่าไหร่รู้สึกแปลกใหม่ก็เลยชอบอ่านแต่ตอนนี้นิยายแนวนี้เริ่มมาเยอะและอารมณ์พระเอกเป็นซาตานอะไรงี้เราว่าเรื่องนี้มิ้นตี้ดำเนินเรื่องสนุกดีนะคือเราว่าพล็อตเรื่องไม่ค่อยหักมุมอะไรมากอ่ะค่ะสำหรับเรานะตัวละครก็ไม่ค่อยเยอะอ่านไม่ค่อยงงเท่าไหร่หลักๆก็มีแค่พระเอกกับนางเอกเองรู้สึกว่าเป็นเนื้อเรื่องที่อ่านได้เรื่องๆอ่ะน่ารักมุ้งมิ้งดีเรียลนิสัยน่ารักมากเอาใจใส่นางเอกสุดๆนางเอกก็ดูเหมือนเป็นคนน่าถนุถนอมอ่ะแอบสงสารเรียลในบางเหตุการณ์แต่ถ้าเปรียบเทียบคู่ของเรียลกับแบล็คเราว่ามิ้นตี้แต่งคู่ของแบล็คดูมีสีสันน่าอ่านมากกว่าเรื่องของเรียลนะอย่างเรื่องของแบล็คอ่ะยังมีฉากให้ขำบ้างอะไรบ้างตัวละครเยอะดีพวกแก๊งเพื่อนนางเอกอ่ะทำให้เนื้อเรื่องดูมีสีสันขึ้นเยอะเลยถ้าเปรียบเทียบกับเรื่องนี้เราว่าเนื้อหาเรียบง่ายมากไปจนรู้สึกว่าไม่ค่อยมีฉากให้ขำอ่ะโดยรวมสนุกแหละแต่เรียบง่ายไปอ่ะสำหรับเราชอบเรื่องของแบล็คมากกว่าเรื่องของแบล็คก็มีเรียลไปเป็นตัวประกอบด้วยน่ารักมากๆพอได้มาเป็นพระเอกซะเองดูแปลกๆแต่ก็สนุกแหละค่ะแต่คิดว่าเนื้อเรื่องน่าจะมีอะไรมากกว่านี้จะได้แบบตื่นเต้นอ่ะแต่ดำเนินเรื่องลำดับเหตุอ่านดีค่ะอ่านแล้วไม่งงชอบทั้งสองเล่มเลย

สินค้าที่ใกล้เคียง (67 รายการ)

www.batorastore.com © 2024