ประกาศิตหัวใจ (ผกาย)
ประหยัด: 161.25 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
ประกาศิตหัวใจ
บทประพันธ์ ผกาย
บทที่ 1
ดวงตาสีนิลไหวระริก ขณะน้ำใสเอ่อเต็มดวงตาคู่คม ร่างสูงเซเล็กน้อยก่อนจะทรุดลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ หยาดน้ำใสค่อยๆ รินไหลลงสู่แก้มเกลี้ยงเกลา ริมฝีปากหยักรับกับจมูกโด่งเม้มเข้าหากันเพื่อข่มความสั่นให้หยุดนิ่ง มือสองข้างกำแน่นก่อนจะยกทุบลงบนที่วางแขนของเก้าอี้ตัวโต
“คุณพ่อจะต้องไม่ตายฟรี ผมรับรอง คนที่มันทำให้คุณพ่อต้องจากผมจากคุณแม่ไปมันจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของมัน”
กรามขบเข้าหากันเป็นสันนูน หากมันไม่แข็งแรงป่านนี้คงแหลกละเอียดไปแล้ว ภูชิสส์ลุกขึ้นยืน ยกมือป้ายน้ำตาอย่างไม่ใส่ใจแล้วก้าวเร็วๆ ออกจากห้องประธานกรรมการบริหาร พรทิพย์เงยหน้าจากเอกสารที่หล่อนเพิ่งเปิดออกอ่านส่งยิ้มให้กับเจ้านายแต่นายหนุ่มไม่เหลือบมองหล่อนแม้เพียงหางตา ซ้ำร้ายไปกว่านั้นใบหน้าเข้มคมที่มองทีไรก็เห็นแต่ความสบายใจและหลงใหลกับความหล่อไม่รู้คลายบึ้งตึง เลขานุการสาวรู้ดีว่าไม่ควรทักทายหรือเอ่ยถามอะไรในตอนนี้
ภูชิสส์เพิ่งพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และการจากไปแบบกะทันหันของเดชาผู้เป็นพ่อนั้นสร้างความโกรธแค้นให้กับเขาอย่างที่ไม่มีใครสามารถพูดให้เขาลดความแค้นเหล่านั้นลงได้เลย สิ่งเดียวที่จะให้เขาหายแค้น เขาต้องทำให้คนที่เป็นต้นเหตุให้พ่อของเขาตายเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสและทำให้ตายทั้งเป็นจึงจะสาสมกับความผิดในครั้งนี้
ไม่เพียงเดชาเสียชีวิต ภาวินีแม่ที่ภูชิสส์รักมากที่สุดต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่รับรู้ความเป็นไปของคนรอบข้าง ไม่รู้สึกรู้สากับความเจ็บปวดใดๆ หลังจากช็อคกับข่าวร้ายที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับสามีสุดที่รักรวดเร็วอย่างนั้น ทันทีที่ภานุรุจเข้ามาบอกหล่อนว่า
“พี่นีครับ พี่เดชาขับรถชนต้นไม้”
“หา..ชนที่ไหน แล้ว..แล้ว..เขาเป็นอะไรรึเปล่า” น้ำเสียงตื่นตระหนกพร้อมกับหัวใจเต้นแรงจ้องหน้าน้องชายตาไม่กะพริบ
“พี่เดชา..เอ่อ..เอ่อ..ตายแล้วครับ”
“หา..ไม่จริง ..ไม่จริ๊ง..อ๊ายยยย..”
“พี่นี พี่นี พี่นีครับ พี่นี...”
หลังจากวันนั้นภาวินีไม่ยอมตื่น ไม่ลืมตา ไม่รับรู้อะไร หล่อนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ความเสียใจที่สามีจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้หล่อนไม่ยอมรับกับการสูญเสียครั้งนี้ ไม่ยอมรับความจริงอันเจ็บปวด ภูชิสส์ระงับความโกรธแค้นไว้ในอก จนกระทั่งงานศพของพ่อผ่านพ้นไป เขาจึงเริ่มคิดแก้แค้นกับคนทำให้ครอบครัวของเขาต้องพบกับความเสียใจครั้งใหญ่ เขาไม่มีวันให้อภัยผู้หญิงคนนั้น
ภูชิสส์จ้างนักสืบๆ ประวัติของปรายฟ้าในอาทิตย์ถัดมา หล่อนคือคนที่อยู่ในรถกับพ่อของเขา หล่อนบาดเจ็บเล็กน้อยขณะที่พ่อของเขาเสียชีวิต หากว่าหล่อนเสียชีวิตไปพร้อมๆ กับพ่อ ความโกรธแค้นคงไม่รุนแรงเท่านี้และเพียง 3 วันเขาก็ได้รับรายงานจากนักสืบว่า
“คุณปรายฟ้ายังโสดครับ เปิดสปาอยู่สุขาภิบาลสาม ร้านสปากำลังจะถูกยึด ตัวเธอกำลังจะถูกฟ้องล้มละลายเพราะไม่มีเงินส่งบ้าน รถแล้วก็ร้านสปาที่กู้เงินมาทำด้วยครับ”
“เป็นหนี้อยู่เท่าไหร่”
“ห้าสิบล้าน”
“มีอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย” เขามองหน้านักสืบหนุ่ม รอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“มีน้องสาวคนหนึ่งครับ ชื่อปรายชล เพิ่งจบปริญญาตรี กำลังจะต่อโท”
“เอกอะไร” เขาถามเหมือนกับสนใจ
“บริหารครับ”
“มีรูปมั้ย”
“มีครับ..”
นักสืบหยิบซองสีน้ำตาลในกระเป๋าหนังสีดำออกมาวางบนโต๊ะเลื่อนเข้าไปใกล้ภูชิสส์ ชายหนุ่มมองซองแล้วหยิบขึ้นมาเปิด ดึงรูปถ่ายในนั้นออกมา เขาชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นหญิงสาวในภาพ รอยยิ้มของหล่อนสดใส ดวงตากลมโต จมูกโด่งรับกับใบหน้าและริมฝีปากรูปกระจับ ผมยาวสยายพาดไหล่ไปอยู่ด้านหลังส่วนหนึ่ง อยู่ด้านหน้าส่วนหนึ่ง ในอ้อมแขนมีซองสีน้ำตาลซองใหญ่กับหนังสืออีก 2 เล่ม
“พาผมไปพบยัยคนนี้ได้มั้ย” ภูชิสส์เก็บรูปที่ดึงออกมาดูอีกสองสามรูปเข้าในซองเช่นเดิม เขาอยากเห็นตัวจริงของปรายชล
“ได้ครับ คุณจะไปที่บ้านหรือว่าไปที่มหาวิทยาลัยครับ”
“ไปที่บ้านแต่ไม่เข้าบ้าน”
“ได้ครับ คุณจะไปเมื่อไหร่ครับ”
“เดี๋ยวนี้...”
คำตอบของผู้ว่าจ้างไม่ได้ทำให้นักสืบหนุ่มแปลกใจเพราะท่าทางของนายจ้างเฉพาะกิจคนนี้ใจร้อนและไม่รอให้เวลาผ่านเลยโดยเปล่าประโยชน์ นักสืบขับรถนำหน้ารถเก๋งยี่ห้อดังของภูชิสส์ออกจากภูดาวแอนด์รีสอร์ทก่อนเที่ยง
บ้านเดี่ยวบนเนื้อที่ 100 ตารางวา ปรากฏในม่านตาของภูชิสส์ ตัวบ้านสีเขียวอ่อน ล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาชนิดกำลังเจริญเติบโตตามระยะเวลาของมัน ถนนซีเมนต์ทอดตัวจากหน้าบ้านยาวถึงประตูรั้วไม้สีไม้ธรรมชาติ สองข้างทางประดับด้วยทิวเข็มสีชมพู ถัดจากทิวเข็มด้านขวามือเป็นต้นมะม่วงต้นเตี้ยๆ กำลังให้ผลเล็กเกือบทุกต้นสลับกับต้นชมพู่ต้นเตี้ยอีกเช่นกัน
ทางด้านซ้ายมือถัดจากทิวเข็มปลูกต้นลั่นทมหรือลีลาวดีเป็นแถวไปจนถึงหน้าบ้านเลยต้นลั่นทมเป็นสนามหญ้าไม่กว้างมากนัก โต๊ะหินอ่อนตั้งอยู่ริมสนามหญ้าไปทางหน้าบ้าน เก้าอี้สองสามตัวตั้งเรียงไว้โดยรอบ
ภูชิสส์สำรวจด้วยสายตาผ่านซี่ลูกกรงไม้ของประตูรั้วได้เพียงเท่านี้ เขาก็พอจะรู้ว่าปรายฟ้าอยู่อย่างสุขสบายมากเพียงใด หล่อนเป็นหนี้มากมายอย่างนี้นี่เองจึงเสนอตัวให้พ่อของเขาเพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่มาชำระหนี้ทั้งหมด เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้ แค้นหล่อนเพราะหล่อนทำให้พ่อของเขาต้องตาย
ประตูรั้วไม้เปิดออก ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวก้าวออกมาแล้วหันไปปิดประตูไว้เช่นเดิม ผมยาวถูกรวบไว้ด้านหลังเปิดใบหน้ามนให้กระจ่างขึ้น กระเป๋าสีขาวนวลสะพายอยู่บนไหล่ เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินแขนสั้นขับผิวน้ำผึ้งให้ผ่องน่ามอง กางเกงยีนสีซีด รองเท้าสวมปิดส้นเท้าสีน้ำตาล ทำให้เจ้าตัวดูคล่องแคล่วเวลาก้าวเดิน
ปรายชลยกมือเมื่อเห็นรถแท็กซี่แล่นมาแต่ไกล หมู่บ้านที่หล่อนอยู่ไม่ใช่ทางผ่านของรถแท็กซี่ยกเว้นว่าจะโทรศัพท์เรียกมารับถึงหน้าบ้านหรือรถมาส่งคนในหมู่บ้านแล้วแวะรับคนที่กำลังจะออกจากบ้านไปด้วย ปรายชลก้าวขึ้นรถ ครู่เดียวรถก็แล่นออกไป
ภูชิสส์นั่งมองรถแท็กซี่แล่นไกลออกไป ดวงตาไหวระริก เขายอมรับว่าเห็นหน้าปรายชลแล้วพอใจตั้งแต่เห็นรูปหล่อนแล้ว ยิ่งมาเห็นตัวจริง เขายิ่งชอบ แผนบางอย่างผุดขึ้นในใจ เขาเคลื่อนรถซึ่งจอดเยื้องจากหน้าบ้านของปรายฟ้าเข้าไปจอดหน้าบ้าน นักสืบขับตามมาจอดแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถเดินมาหาภูชิสส์
“คุณจะเข้าไปพบคุณปรายฟ้ามั้ยครับ ผมจะกดกริ่งให้”
“ครับ ขอบคุณมาก”
นักสืบเดินไปกดกริ่ง 3 ครั้งแล้วถอยออกมาเมื่อภูชิสส์เดินไปยืนหน้าประตูรั้วไม้
“ผมกลับก่อนนะครับ”
“ขอบคุณมาก เงินที่เหลือ ผมจะโอนเข้าวันนี้”
“ครับ ขอบคุณครับ ถ้ามีอะไรจะให้ผมรับใช้ก็ติดต่อที่สำนักงานนะครับ สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ”
ภูชิสส์รับไหว้นักสืบและมองตามนักสืบเดินไปขึ้นรถ ขับออกไป ชายวัยกลางคนเดินมาเปิดประตูรั้วโผล่หน้ามามองชายหนุ่มหน้าตาหมดจด
“มาหาใครครับ”
“คุณปรายฟ้า อยู่มั้ยครับลุง”
“อยู่ครับ เชิญข้างในครับ”
อรุณเปิดประตูกว้างออก เลี่ยงไปยืนข้างหนึ่งให้ภูชิสส์ก้าวเข้ามาแล้วปิดประตูตามเดิม ชายหนุ่มเดินไปตามถนนจนถึงหน้าบ้าน บานประตูไม้แกะสลักลวดลายไทยงดงาม อรุณมองด้านหลังชายหนุ่มแล้วเอ่ยเสียงเบา
“เชิญข้างในครับ”
ลุงคนสวนเดินเร็วๆ เข้าไปในบ้านก่อนแขกแปลกหน้า อรุณเข้าไปห้องครัว สำอางกำลังเช็ดถูพื้นห้องครัวอยู่หันมามองสามี
“เข้ามาทำไมตารุณ”
“คุณฟ้าอยู่ไหนยายอาง มีคนมาหา” อรุณตอบคำของภรรยา
“คุยโทรศัพท์อยู่ระเบียงหลังบ้านโน่นแนะ”
“แกเตรียมน้ำไปให้แขกที ฉันจะไปบอกคุณฟ้าก่อน” อรุณเดินออกไปเงียบๆ สำอางวางมือจากไม้ถูพื้นเตรียมน้ำเปล่าให้แขกตามที่อรุณบอก
ปรายฟ้าถอนหายใจเฮือกขณะลดมือกำโทรศัพท์ลงข้างตัว ผู้จัดการธนาคารโทร.มาหาหล่อนด้วยตัวเองถึงเวลาต้องชำระดอกเบี้ยแต่หล่อนไม่มีเงินไปจ่าย หากไม่จ่ายตามกำหนดเวลาที่ทางธนาคารผ่อนผันให้ หล่อนจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย บ้านที่อยู่ทุกวันนี้ รถที่ขับไปไหนต่อไหน สปาที่หล่อนรักและทุ่มแรงกายแรงใจให้จะถูกยึดทันที
หล่อนจะหาเงินที่ไหนมาปลดหนี้ครั้งนี้ เพื่อนเคยให้หยิบยืมก็ไม่ให้ยืมอีกต่อไปแล้ว หล่อนโทร.ไปหาโชติรส ผู้จัดการโรงแรมภูดาวแอนด์รีสอร์ท โชติรสปฏิเสธความช่วยเหลือโดยสิ้นเชิงและกล่าวหาว่าหล่อนยั่วยวนเดชาจึงทำให้เขาไม่มีสมาธิขับรถและเกิดอุบัติเหตุจนเขาต้องตาย
แม้ว่าหล่อนจะอธิบายอย่างไรโชติรสกับภูชิสส์ก็ไม่รับฟังยังคงกล่าวหาว่าเป็นเพราะหล่อนเดชาจึงตาย หล่อนเสียใจนอนร้องไห้เกือบทุกคืน หล่อนกลายเป็นผู้หญิงน่าไม่อายใช้ตัวเองแลกกับเงินของเดชาทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น หล่อนไม่เคยคิดยั่วเดชา เขาต่างหากเป็นคนเอ่ยปากขอให้หล่อนเป็นของเขาและพยายามลวนลามหล่อนแม้ขณะขับรถ
“คุณฟ้า คุณน่ารักมากรู้มั้ยครับ ผมชอบคุณ ถ้าคุณเป็นของผมเมื่อไหร่ ผมจะโอนเงินใช้หนี้ให้คุณทั้งหมด ตกลงมั้ย”
“ไม่ค่ะ ถ้าคุณไม่ให้ฉันกู้เงิน ฉันก็จะกลับ ไปส่งฉันที่บ้านคุณรสด้วยค่ะ”
“คุณจะใจแข็งไปถึงไหนคุณฟ้า ผมชอบคุณจริงๆนะ ไปพักผ่อนกับผมสักสองสามวันแล้วผมจะไปส่งถึงกรุงเทพฯเลย นะครับ ไปนะครับ”
เขาจับมือหล่อนดึงไปจูบโดยใช้มือข้างซ้ายควบคุมพวงมาลัยรถเพียงมือเดียวและเพราะสายตาของเขาไม่ได้อยู่ที่ถนนจึงทำให้รถแล่นไม่ตรงทางเอียงเข้าข้างถนนและพุ่งตรงไปข้างหน้า ปรายฟ้ากรีดร้องด้วยความตกใจ เดชาหมุนพวงมาลัยรถกลับทางเดิมไม่ได้ หากเขาทำเช่นนั้น รถจะพลิกคว่ำทันทีเขาจึงแตะเบรกเป็นสิ่งแรกแต่..
“เฮ้ยยย...”
“ตึง!”
เสียงเดชาเงียบหายไปพร้อมกับเสียงรถกระแทกกับต้นไม้ขณะที่ปรายฟ้าช็อคหมดสติก่อนรถจะหยุดนิ่งอยู่กับโคนต้นไม้เสียอีก
“คุณฟ้าครับ มีคนมาหาครับ” อรุณเดินเข้ามายืนด้านหลังเจ้านายสาว
“ใครเหรอลุง ผู้หญิงหรือผู้ชาย” ปรายฟ้าหันมามองลุงคนสวนและดูแลทุกอย่างในบ้านให้หล่อน
“ไม่ทราบครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าแต่เป็นผู้ชายครับ”
“ผู้ชายเหรอ..ขอบใจจ้ะลุง”
หล่อนเดินเข้าตัวบ้านตรงไปห้องรับแขก ภูชิสส์ยิ้มกับสำอางและเอ่ยขอบใจเบาๆ เมื่อสำอางยกแก้วน้ำวางบนโต๊ะกระจกสีชา เขากวาดสายตาไปรอบๆ ห้องโถงซึ่งจัดแต่งเป็นห้องรับแขกได้น่านั่งทีเดียว เก้าอี้หนังสีดำราคาค่อนข้างแพง หากเขามองไม่ผิดนักต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์นำเข้า
“รสนิยมนอกทั้งนั้น มิน่าถึงเป็นหนี้เกือบร้อยล้าน” เขายิ้มหยันไหวไหล่เล็กน้อย
“สวัสดีค่ะคุณภูชิสส์” เสียงทักทายมาจากประตูด้านใน ทำให้แขกหนุ่มหันไปมอง
“สวัสดีคุณปรายฟ้า”
แขกหนุ่มไม่ลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของบ้าน เขาควรให้เกียรติกับคนที่ทำให้พ่อของเขาตายอย่างนั้นหรือ ไม่ทีทางเสียละ นอกจากไม่ลุกขึ้นยืนแล้ว ดวงตาสีเข้มยังกวาดไปบนใบหน้าเซียวของปรายฟ้าและไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดปรายเท้าและจากปรายเท้าถึงใบหน้าของหล่อน
“รู้จักบ้านฉันได้ยังไงคะ” หล่อนถามแขกขณะเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา
“มีอะไรบ้างที่ผมอยากรู้แล้วไม่รู้” เขาตอบเสียงเครียด รอยยิ้มระบายบนดวงหน้านั้นหยันอยู่ในที
“คุณมีธุระอะไรไม่ทราบ”
เสียงถามค่อนข้างกระด้าง ใบหน้าเรียบเฉย หล่อนอ่านสายตาเหยียดเย้ยของเขาออก เขามองหล่อนเป็นผู้หญิงหิวเงิน ใช้ตัวแลกเงินไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่หล่อนจะต้องอธิบายให้เขาฟังเพราะถึงพูดไปเขาก็ไม่เชื่อหล่อน เขาตัดสินหล่อนให้เป็นฆาตกรไปแล้ว หล่อนไม่มีทนายแก้ต่าง ไม่มีพยานรู้เห็นความบริสุทธิ์ใจของหล่อน ทำอย่างไรเขาก็ไม่มีวันเชื่อว่าหล่อนไม่ได้ใช่เล่ห์มารยาทำให้เดชาหลงใหลนำไปสู่ความตายในครั้งนี้
“ถ้าไม่มีธุระสำคัญ ผมคงไม่ขับรถจากภูดาวมาถึงนี่หรอกนะ ผมมีข้อเสนอมาให้คุณ”
“ข้อเสนอ ข้อเสนออะไรคะ” หล่อนย่นหัวคิ้วถามเขาอย่างสงสัย เขาแค่นยิ้ม เบ้ปากนิดหนึ่ง
“ข้อเสนอที่คุณจะหลุดพ้นจากหนี้ครึ่งร้อยล้านของคุณแล้วก็มีเงินหมุนเวียนทำสปาที่คุณรักต่อไปไงล่ะ สนใจมั้ย”
เขายิ้มหยันอีกเช่นเคย สบตาคู่สวยของหล่อนแต่น้อยกว่าน้องสาว ภาพใบหน้าปรายชลผ่านแวบเข้ามา เขาหุบยิ้มแล้วพูดต่อ
“ถ้าสนใจผมจะพูดรายละเอียดแต่ถ้าไม่สนใจผมจะกลับไม่รบกวนเวลาว่างๆ อันมีค่าของคุณหรอก”
ปรายฟ้าจ้องหน้าเข้มของผู้ชายที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า ดวงตาของเขานิ่งไม่ล้อเล่น เขามีข้อเสนออะไรจึงมาพบหล่อนถึงบ้านและรู้ได้อย่างไรว่าหล่อนอยู่ที่นี่
“ฉันอยากฟังรายละเอียดของคุณ”
“คุณสนใจแล้วใช่มั้ย” เขายิ้มบางหัวเราะหึๆ ในลำคอ
“ใช่ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะตกลง”
“ได้ ฟังอย่างเดียวก็ได้”
ภูชิสส์ยิ้มอีกก่อนจะพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอที่เขาเพิ่งตั้งมันขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง จะเรียกว่าทันทีที่เขาเห็นหน้าปรายชลเต็มสองลูกตาของเขาก็ได้ เขาชอบน้องสาวปรายฟ้า ชอบมากจนไม่สามารถทนนั่งมองเฉยๆ อยู่ได้ เขาต้องได้ตัวปรายชลมาเป็นของเขาและต้องเร็วๆ นี้ด้วย
ปรายฟ้านั่งนิ่งอึ้งไปหลายวินาทีเมื่อฟังข้อเสนอของภูชิสส์จบลง หน้าตาของเขาดีจนไร้ที่ติชาติตระกูลก็จัดได้ว่าเป็นลูกผู้ดีแต่ทำไมความคิดถึงได้ร้ายกาจเช่นนี้ เขาคิดทำร้ายลูกผู้หญิงอย่างเลือดเย็น หล่อนยอมทำตามข้อเสนอของเขาไม่ได้ มันโหดร้ายกับความรู้สึกของหล่อนมากเกินไป
“ว่าไง ตกลงทำตามข้อเสนอของผมมั้ยถ้าตกลงผมจะโอนเงินเข้าบัญชีของคุณวันพรุ่งนี้ คุณจะได้เอาเงินไปใช้หนี้ก่อนที่เขาจะยึดทุกอย่างจนไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ชื่อเสียง”
“ไม่..ฉันไม่ทำตามข้อเสนอบ้าๆ ของคุณหรอก คุณมันเห็นแก่ตัว เอาเปรียบผู้หญิง ยังไงฉันก็ไม่รับ คุณกลับไปได้แล้ว”
“คิดให้ดีๆ นะปรายฟ้า ธนาคารให้เวลาคุณหาเงินกี่วัน แค่อาทิตย์เดียวไม่ใช่เหรอ”
เขาลุกขึ้นยืนจ้องหน้าหญิงสาวแล้วยิ้มบาง นักสืบบอกกับเขาว่า ธนาคารที่ปรายฟ้าเป็นลูกหนี้ยืดระยะเวลาใช้หนี้อีกหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นซึ่งปรายฟ้าไม่มีทางหาเงินก้อนใหญ่มาชำระหนี้ได้ทัน ยกเว้นหล่อนจะให้เสี่ยใหญ่ที่ไหนสักคนช่วยและหล่อนก็ต้องยอมรับการเป็นภรรยาน้อยจากเสี่ยคนนั้นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
“ผมขอตัว รบกวนคุณนานเกินไปแล้ว”
เขายิ้มขณะก้าวออกจากห้องโถง เขามั่นใจว่าปรายฟ้าต้องนำข้อเสนอของเขามาทบทวนอีกครั้ง เขาจะให้เวลากับหล่อน นามบัตรที่เขาวางไว้บนโต๊ะรับแขกก่อนจะเดินออกมาคือส่วนหนึ่งของแผนการครั้งนี้ ปรายฟ้าต้องไม่ฉีกมันโยนทิ้งถังขยะอย่างแน่นอน เขาจะพ่ายแพ้ในเกมแรกทีเดียวหรือ มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่ๆ เขาหัวเราะแล้วเปิดประตูรถก้าวเข้าประจำที่คนขับพารถออกจากหน้าประตูรั้วบ้านปรายฟ้า รอยยิ้มยังคลี่กระจายเต็มใบหน้าเข้ม
ปรายฟ้าหยิบแผ่นกระดาษเล็กสีเงินขึ้นมามอง ภูชิสส์ อดิศักดิ์โกศล ประธานกรรมการบริหารโรงแรมภูดาวแอนด์รีสอร์ท หล่อนอ่านทวนชื่อชายหนุ่มหลายครั้งแล้ววางลงที่เดิม เสียงถอนหายใจเฮือกดังขึ้นและทุกอย่างภายในห้องรับแขกก็เงียบสนิท ครู่หนึ่งหล่อนหยิบนามบัตรของภูชิสส์ขึ้นมาแล้วลุกเดินออกจากห้อง
“ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้เหรอคุณภูชิสส์”
หล่อนพึมพำกับชื่อของชายหนุ่มแล้วถอนหายใจอีกหลายครั้ง หล่อนต้องตัดสินใจภายใน 3 วัน หากรอครบอาทิตย์มันอาจสายเกินแก้ หล่อนยอมให้ธนาคารยึดบ้านของหล่อนไม่ได้ นางสาวปรายฟ้า มณีกาล จะกลายเป็นคนล้มละลายไม่ได้โดยเด็ดขาด
******