ลิขิตสายรุ้ง (โสภี พรรณราย) (EBOOK)

ลิขิตสายรุ้ง (โสภี พรรณราย) (EBOOK)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 222222
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ลิขิตสายรุ้ง

 

 

 

 

            1

        อาจารย์ดารินทร์ ขอเชิญที่ห้องฉุกเฉินค่ะ

          เสียงประกาศเรียกดังทั่วบริเวณโรงพยาบาล

            แพทย์หญิงดารินทร์กำลังดื่มกาแฟในห้องพัก คุยกับแพทย์หนุ่มชัชวิน...

คนรัก หล่อนรีบวางแก้วกาแฟ กล่าวว่า

            “ดาต้องรีบไปแล้วค่ะ”

            “เดี๋ยวสิ เพิ่งได้คุยกัน”

            “ประกาศเรียกแล้ว คงมีคนไข้ฉุกเฉิน”

            “งั้นเย็นนี้ทานข้าวกันนะ”

            “ไม่ได้ค่ะ เย็นนี้ดามีเวรห้องฉุกเฉิน”

            “ก็เปลี่ยนเวรสิครับ ผมเพิ่งกลับจากดูงานต่างประเทศ ไปเกือบเดือน

กลับมาก็คิดถึงคุณ อยากทานข้าวด้วย...ให้หายคิดถึง”

            หมอดารินทร์โคลงศรีษะ

            “ยังมีวันอื่น”

            “ดาครับ” จับมือหล่อน

            ดารินทร์ปลดมือออก “อย่าเกเรสิคะ คุณหมอชัชวิน”

            เขายอมปล่อยให้หล่อนผละไป

            หญิงสาวยิ้มกับตัวเอง หล่อน...มีคนที่รักหล่อนมาก ในชีวิตยังต้องการ

อะไรอีกล่ะ แม้จะกำพร้าพ่อแม่ตายแล้ว แต่หล่อนได้รับการเลี้ยงดูจากยายและ

ป้า...ยายบัวสายและป้าโฉม

            ถึงฐานะหล่อนตั้งแต่เด็กจะไม่ดีนัก ยายกับป้าก็พยายามทำงานหาเงินมา

ส่งเสีย

            ดารินทร์ช่วยอีกแรงโดยหาเวลาว่างไปทำงานพิเศษ รวมทั้งตั้งใจเรียนเพื่อ

ขอทุน และถึงเรียกแพทย์ต้องใช้เงินจำนวนมาก หล่อนเองก็ขอทุนตามเคย

            โดยเป็นทุนของผู้ใจบุญไม่ประสงค์ออกนาม และไม่ต้องมีข้อผูกมัดใดๆ

            ไม่ต้องใช้ทุนคืน...ไม่ต้องทำงานชดใช้...ทำให้ดารินทร์รู้สึกอิสระ และรู้สึก

ขอบคุณผู้ใหญ่ให้ทุนโดยไม่ประสงค์ออกนามคนนั้น

            เมื่อมาทำงานก็ยังโชคดีได้อยู่โรงพยาบาลใหญ่ ได้รู้จักหมอชัชวิน

            หมอชัชวินเป็นลูกชายคนเดียวของหมอพงษ์ศักดิ์...และเป็นเจ้าของ

โรงพยาบาล โดยมีหุ้นใหญ่

            ใครๆจึงมองว่าหมอดารินทร์สบายแล้ว...อนาคตสดใส

            หล่อนยังเป็นหมอดารินทร์คนเดิมที่ไม่เคยลืมตัว ว่าเคยมาจากดิน ฐานะ

ทางบ้านยากจน...หล่อนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน

            ใบหน้าหล่อนสดใส สวย...ดวงตาคมเป็นประกาย...จิตใจดี สดใส เบิกบาน

แสดงออกมาทางดวงตา

            คนดี...ดวงตาสดใส สวย...กว่าใครอื่น

            หล่อนเป็นหมอที่ทุกคนชมว่าสวยมาก

            หล่อนมีหน้าตาคล้ายนางสาวไทย จนถูกแซวว่าเคยไปประกวดหรือเปล่า

            แพทย์หญิงดารินทร์ก้าวเข้ามาในห้องฉุกเฉิน

            พยาบาลเจนจิรา...รายงานทันที “คนไข้ฉุกเฉินมาในสภาพสะบักสะบอม

บอบช้ำ ถูกซ้อม มีพลเมืองดีไปพบที่พงหญ้าถัดจากโรงพยาบาลและพามาส่ง”

            “ขอบใจจ้ะ”

            เจนจิราเป็นเพื่อนสนิทของดารินทร์ เรียนหนังสือด้วยกันตั้งแต่ประถม จน

จบมัธยมปลาย...ดารินทร์เรียนเก่ง สอบแพทย์ได้ แต่เจนจิราสอบไม่ได้ การเรียน

ปานกลางแต่มีความพยายาม เจนจิราจึงเรียนพยาบาล และได้มาทำงานด้วยกัน

            ดารินทร์มาดูอาการคนเจ็บ...ที่นอนโอดครวญ

            “โอ๊ย...ย...”

            โดนซ้อมมาหนักจริงๆบอบช้ำไปทั้งตัว แต่ที่หล่อนกลัวคือสมอง เพราะดู

คนเจ็บจะเบลอๆ

            “แจ้งความหรือยังคะ?”

            คนเจ็บเป็นชายวัยสามสิบเศษ โบกมือลำล่ำละลัก

            “ไม่ต้องแจ้งความ”

            “คุณเจ็บมากนะ”

            “ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร...”

            “ใครทำร้ายคุณ?”

            “เข้าใจผิด...นิดเดียว...เพราะเข้าใจผิด”

            “โดนทำร้ายขนาดนี้ยังว่าเข้าใจผิด”

            “ใช่...ไม่เป็นไร”

            “โดนชกหน้า ศีรษะ เป็นอย่างไงคะ?”

            “บอกว่าไม่เป็นไร”

            ท่าทางจะกลัวลนลานจนไม่กล้าระบุตัวคนทำ

            “ทำบาดแผลก่อน แล้วจะส่งตัวคุณไปเอกซเรย์”

            ชายผู้ถูกทำร้ายกลับพูดว่า “แค่ทำแผลให้ผม เอายามาให้ผมกิน หรือทา

ก็ได้ ลดอาการปวด เจ็บ บวม ผมก็พอแล้ว ผมไม่เอกซเรย์ ผมจะรีบไป”

            “แต่หมออยากให้คุณพักที่โรงพยาบาล”

            “ไม่พัก...ผมจะกลับ”

            คนไข้มีสิทธิ์จะเลือกทางรักษา...ดารินทร์จึงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

            ระหว่างทำบาดแผลให้คนเจ็บ ก็มีคนเจ็บอีกคนเข้ามาในห้องฉุกเฉิน เขา

ถูกแทงที่ต้นแขนซ้าย...มาพร้อมกับชายอีกสองคนที่ประคองคนเจ็บ

            “เร็วหมอ...มาช่วยลูกพี่เร็ว” คนหนึ่งสั่งราวกับเป็นเจ้าของโรงพยาบาล

            ลูกน้องสองคนร้อนรนแทน ‘ลูกพี่’

            ‘ลูกพี่’ กลับสงบนิ่ง พูดเบา “ใจเย็นก็ได้”

            แต่ลูกน้องอีกคนโต้ “ใจเย็นไงล่ะ พี่เขม แผลลึกนะ”

            “เออน่า...ไกลหัวใจ”

            หากลูกน้องคนสนิทกลับพูดว่า “ไม่ได้...พี่เขม พี่เจ็บเพราะผม ผมไม่ยอม”

พลางตะโกน “หมอ...เร็วสิ รักษาพี่เขมก่อน”

            พยาบาลปราม

            “ในห้องฉุกเฉิน กรุณาเบาหน่อยนะคะ คุณหมอกำลังดูคนเจ็บอยู่ค่ะ”

            “เร็วๆสิโว้ย” ลูกน้อง ‘พี่เขม’ ตวาด

            หมอดารินทร์ก้าวออกมาพร้อมคนถูกซ้อมคนแรก แล้วคนถูกซ้อมคนแรก

ก็ทำตาเหลือกเมื่อเห็น ‘พี่เขม’ กับลูกน้องสองคน...ทำท่าเหมือนเห็นผี

            ที่แท้เป็นคนละพวก...คนถูกซ้อมสะดุ้งสุดตัว และรีบกระโจนหนีสุดฤทธิ์

            ลูกน้องของพี่เขมเห็น “เฮ้ย...มันนี่หว่า คนที่แทงพี่เขม”

            อีกคนว่า “เร็ว...ตามไปจัดการ”

            แต่พี่เขมกลับห้าม “อย่าตาม ไว้จัดการทีหลัง”

            ลูกน้องสองคนโวยวาย แต่ยอมเชื่อฟังลูกพี่

            ลูกน้องสองคน...มีชื่อว่า บูรพา กับ ดำรง

            ดารินทร์มองเหตุการณ์

            ลูกพี่...เขม...ดูหน้าลูกพี่...ยังหนุ่มมาก ตัวสูง รูปร่างดี สมส่วน ใบหน้า

หล่อเหลาขนาดว่าเป็นพระเอกได้สบายๆ

            ถูกแทง...แต่ไม่แสดงอาการเจ็บปวด เขาขรึม สงบ

            บูรพาโวยวาย

            “ไอ้คนทรยศแทงพี่เขม ปล่อยให้มันหนีไปได้ เจ็บใจจริงๆ”

            ดำรงพูดอย่างมีสติมากกว่า “เอาเถอะ ดูแลพี่เขมก่อนดีกว่า อย่าให้เป็น

อะไร ไอ้หมอนั่นมันหนีไม่พ้นมือพวกเราหรอก”

            ฟังดู...ลูกน้องสองคน ห่วงใย...คนชื่อ ‘พี่เขม’

            เดาว่า...พวกอันธพาลสองพวกทะเลาะกัน...ทำร้ายกัน...สุดท้ายก็มีคน

บอบช้ำ และมีคนถูกแทง บังเอิญมาโรงพยาบาลเดียวกัน

            แต่คนบอบช้ำก็หนีไปแล้ว คงกลัว ‘พี่เขม’ มากเหลือเกิน

            บูรพายังโวยวาย “ไอ้ดำ...คนทรยศต้องได้เห็นดี”

            ดารินทร์จึงรับรู้โดยไม่ตั้งใจอีกว่า คนถูกชกบอบช้ำชื่อ...ดำ แต่ถูกเรียกเป็น

คนทรยศได้อย่างไร...เบื้องหลังของนักเลง...ไม่ทราบ

            เจนจิราอยู่ใกล้ๆกับหมอดารินทร์ก็ได้ยินทุกถ้อยคำ จึงกล่าวว่า

            “คุณสิงคนออกไปก่อนนะคะ เราจะตรวจคนถูกแทงค่ะ”

            บูรพาพยักหน้า “ไม่ออกได้มั้ย อยากอยู่กับพี่เขมจะได้เผื่อช่วยเหลือ”

            “ไม่ได้ค่ะ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของหมอแล้วนะคะ”

            เขมโบกมือให้ลูกน้อง บูรพาและดำรง

            “พวกแกออกไป” คำสั่งประโยคเดียวออกทันที

            ดารินทร์ตรวจบาดแผล...ในใจก็นึกอคติ...พวกอันธพาลสู้กันเอง ทำร้าย

กัน แบบนี้ไม่น่าช่วยเลย หล่อนเคยเห็นประจำ แผนกฉุกเฉิน เจอบ่อย ทำร้าย แทง

วิวาท ชกต่อย บาดเจ็บ

            ตรวจแล้วบาดแผลถูกแทงต้องเย็บ

            “ชื่อเขมหรือคะ?” หมอดารินทร์ซักประวัติ ขณะที่ทำแผล

            “ครับ...”

            “คนที่มาคนแรกถูกซ้อมบอบช้ำชื่อดำ พวกคุณทะเลาะกัน แจ้งความหรือ

ยัง?”

            “ไม่ต้องแจ้ง”

            “ให้กฎหมายจัดการไม่ดีกว่าหรือ พวกคุณตั้งศาลเตี้ยกันเองไม่จบสิ้น”

            “เรื่องของพวกเรา!”

            “เขาแทงคุณ คุณซ้อมเขา อีกหน่อยก็วนเวียนทำร้ายกันอีก”

            “หมอทำแผลไปเถอะ พูดมาก”

            ดารินทร์ตาโต ดูสิ...นายคนถูกแทง ว่าหล่อนพูดมาก...นายเขม...หล่อก็

จริง แต่ขรึมเหลือเกิน...พูดออกมาได้...ว่าหมอ

            ว่าเรอะ...ดารินทร์เผลอทำแผลแรงๆด้วยอารมณ์ลึกๆแกล้งสักหน่อย

            ได้ผล...นายเขมถึงกับนิ่วหน้า อดทนความเจ็บแต่ไม่ร้อง

            ทนเหลือเกิน...จึงแรงขึ้น...เขากัดฟัน หลุดปากยอมกล่าวว่า

            “เบาหน่อย”

            หล่อนยักไหล่ “พวกคุณหนังเหนียวไม่ใช่เรอะ วันๆ อยู่กับเรื่องชกต่อย อยู่

กับมีด กับปืน ทำตัวเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย”

            หล่อนเกลียดคนพวกนี้ ทำตัวเป็นมาเฟีย มีลูกน้องประกบ ไม่พอใจก็

จัดการ หญิงสาวเคยเห็นพวกมาเฟียมาข่มขู่ยายกับป้า ทำการค้าเล็กๆน้อยๆต้อง

ส่งส่วยให้นักเลงประจำถิ่น...เกลียดนัก!

            “โอ๊ย...!” กระแทกมือที่แผล คราวนี้เขาร้อง

            ผู้ช่วยพยาบาลสาวเห็นความหล่อของเขมถึงกับกระซิบกับเจนจิรา

            “หล่อๆแบบนี้ หมอดารินทร์ไม่น่าทำแรงเลยนะคะ”

            เจนจิรากระซิบตอบ “หมอดาเกลียดพวกนักเลง”

            “ลูกน้องข้างนอกสองคนก็เท่...ลูกพี่ยิ่งเท่ระเบิด”

            เจนจิราขำ ตัวเองเห็นด้วยกับคนพูด แต่...กลับพูดว่า

            “นี่...นี่...น้อง...หลงใหลพวกนักเลงเรอะ”

            ผู้ช่วยพยาบาลหน้าแดง “เปล่าค่ะ แต่หนูเป็นประเภทแพ้ความหล่อ”

            เขมจ้องหน้าดารินทร์...รู้ตัวว่าถูกหล่อนกระแทกทำบาดแผลแรง

            “ถ้าไม่เต็มใจก็เรียกหมอคนอื่นมา”

            ดารินทร์กล่าวเรียบๆ “ณ ตอนนี้ฉันเป็นหมอเย็บบาดแผลคนเดียว ไม่มี

หมอคนอื่น”

            เขาจึงเงียบ ทนเจ็บ...หล่อนนึกในใจ

            จะว่าไปเขาก็ทนสุดๆ ทนได้มากกว่าใครอื่นที่หล่อนเคยเห็น...เคย

รักษา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          2

        เมื่อทำบาดแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว

          หมอดารินทร์จึงก้าวออกมาก่อน พลางว่า “ให้คนของคุณไปรับยา...ส่วน

บาดแผลต้องกลับมาให้ตรวจอีก วันนัดพยาบาลจะบอกคุณเอง”

            เขา...แค่พยักหน้า

            และพอเขมออกมาจากห้องฉุกเฉิน บูรพาและดำรงก็รี่มาหาลูกพี่

            “เป็นไง...พี่เขม?” บูรพาถามอย่างห่วงใย

            เขมกลับรำคาญ “นายเขม...ไม่ตายง่ายๆหรอก”

            ดำรงกัดฟัน “ไอ้ดำมันทรยศ มันไปอยู่กับเจ้านายใหญ่ กล้ากลับมาแทงพี่

ถ้าเจออีกครั้งตายแน่”

            เขาโบกมือ

            “ช่วงนี้ตำรวจกดดันมาก ท่านสั่งอย่ามีเรื่อง แค่ซ้อมเบาๆก็พอ”

            เขม...คือเด็กกำพร้าที่ผันตัวเป็นลูกน้องของ ‘ท่าน’

            ท่าน...เจ้าพ่อจำเริญ ที่มีกิจการหลายชนิด ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

            เขมเป็นบอดี้การ์ดฝีมือดีเป็นที่ไว้ใจของท่านมาก

            เขาเองเป็นคนกล้า ทำงานรวดเร็ว ฉับไว รักลูกน้อง ทำให้บูรพากับดำรงที่

เป็นลูกน้องทำงานถวายชีวิต

            เขมย้ำกับลูกน้องว่า

            “อย่าลืม...ต้องอดทน ท่านสั่งว่าช่วงนี้ห้ามมีเรื่องเด็ดขาด”

            บูรพาพึมพำ

            “เพราะคำสั่งท่านแน่ะสิ จึงไม่เก็บไอ้ดำ แต่ซ้อมสั่งสอน แต่ไม่สะใจเลย”

            และเมื่อเขมพาลูกน้อง บูรพากับดำรงออกไปจากโรงพยาบาลแล้ว หมอ

ดารินทร์ก็ถอนใจยาว

            ข้างๆเจนจิรานั่งอยู่ใกล้หมอ กล่าวว่า

            “พวกนักเลงมีเรื่องกันขนาดถูกซ้อม ถูกแทง ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

            “ถ้าถึงตำรวจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ยอมเจ็บตัวดีกว่าติดคุก”

            เจนจิราคุยกับหมอดารินทร์อย่างเพื่อน ไม่ใช่อย่างพยาบาลคุยกับแพทย์

            “หมอดาเจอพวกนี้น่ากลัวเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ใครใหญ่จริง”

            “ฉันไม่กลัวหรอกนะ วางตัวเป็นเจ้าพ่อ มีลูกน้องตามมาด้วยสองคน และ

ทำท่าจะมีเรื่องกับคนเจ็บคนแรก บ้านเมืองมีกฎหมาย”

            “แต่คนพวกนี้ทำผิดไม่ถูกจับ มีวิธีการของเขา”

            “เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ต้องผิด”

            “คนเจ็บหล่อมากเลยนะ”

            “ยัยเจน...หล่อแต่เป็นนักเลง...ชอบเรอะ?”

            เจนจิราคอย่น “เมื่อกี้ตอนนายเขมเดินเข้ามา โดดเด่น จนพยาบาลกับ

ผู้ช่วยตามแอบมองเขาเป็นตาเดียว”

            หมอดารินทร์ถอนใจยาว “โดนฉันแกล้งทำแผลแรงๆ”

            “เป็นหมอประสาอะไรไม่มีเมตตาจิต”

            “ฉันเกลียดพวกวางอำนาจสร้างอิทธิพล ยายกับป้าโฉมเคยถูกคนพวกนี้ไถ

รีดเงิน”

            “เออ...เออ...รู้ว่าเกลียด” เจนจิราแอบทำท่าชวนฝันยั่วเพื่อน “แต่หล่อ

ขนาดนั้น ฉันเกลียดไม่ลง” แล้วคนพูดก็หัวเราะชอบใจ

            ดารินทร์อมยิ้ม “ไม่เอาแล้ว คุยกับเธอแล้วปวดหัว”

            “พูดเล่นน่า” ว่าพูดเล่นแต่ก็หันไปคุยกับผู้ช่วยพยาบาลรุ่นน้อง “นะ...น้อง

นะ...คนถูกแทงเมื่อกี้หล่ออย่าบอกใคร”

            พยาบาลรุ่นน้องรับคำทันที “ค่ะ พี่เจน หล่อจนหัวใจของหนูจะละลาย”

            หมอดารินทร์โคลงศีรษะ...เป็นเอามาก...แต่ก็นึกในใจ

            หล่อ...จนทำให้คนในห้องฉุกเฉินปั่นป่วนไปหมด

 

            ดารินทร์กลับมาถึงบ้าน...ก็สี่ทุ่มแล้ว

            บ้านหลังเล็ก ห้าสิบสองตารางวา และอยู่ชานเมือง แม้หล่อนเป็นแพทย์มี

รายได้สูง แต่ซื้อบ้านก็ยังต้องผ่อน ไม่มีเงินเก็บ ไม่ใช่คนรวยแต่กำเนิด

            เด็ก...ก็มียายกับป้าเลี้ยง โตแล้ว จบแล้ว หล่อนเป็นฝ่ายเลี้ยงยายกับป้า

            ยายกับป้าเคยทำอาหารและขนมขาย แต่เดี๋ยวนี้สองสามปีมานี้ เลิก

ขาย เพราะยายบัวสายล้มป่วย พอหายป่วยก็เป็นโรคลืม

            หลงๆลืมๆ จนต้องมีคนดูแลใกล้ชิด ยายเคยออกจากบ้าน และจำทาง

กลับบ้านไม่ได้สองสามครั้ง โชคดียายไปไม่ไกล หล่อนกับป้าโฉมจึงตามตัวยาย

กลับอย่างปลอดภัย ดารินทร์จะกำชับป้าโฉมให้เฝ้ายายตลอดเวลา

            มีอยู่ครั้ง ป้าโฉมซักเสื้ออยู่หลังบ้าน ส่วนยายก็เปิดประตูหน้าบ้านและเดิน

ออกไปข้างนอกเพราะคิดจะไปซื้อขนมทาน แต่ไปถึงถนน ก็หาทางกลับไม่ถูก

            ลืม...คนแถวนั้นรู้จักยาย ต้องพายายมาส่ง

            ดารินทร์ต้องกำชับอีกครั้งให้ป้าโฉมล็อกกุญแจหน้าบ้านเสียเลย และเก็บ

กุญแจ กันยายเผลอออกไปอีก

            หล่อนใช้รถญี่ปุ่นคันเล็กๆเป็นระยะเริ่มสร้างตัว ดารินทร์ยอมทำงานหนัก

เพื่อยายกับป้า

            หมอชัชวินเคยขอแต่งงานเพื่ออยากให้หล่อนสบาย แต่หล่อนปฏิเสธ เพราะ

รู้สึกว่ายังคบกับชัชวินไม่นานนัก ยังต้องดูกันไปก่อน และไม่อยากให้หมอพงษ์ศักดิ์

มองว่าแต่งงานสะใภ้อย่างหล่อน แต่ต้องพ่วงเลี้ยงอีกสองคน

            ลึกๆ แล้วดารินทร์มองออกว่าหมอพงษ์ศักดิ์ท่านไม่ชอบหล่อนนัก ฐานะ

หล่อนแตกต่างกับชัชวินมาก หมอชัชวินจบนอก...หล่อน...ต้องขอทุนตั้งแต่เด็ก

            ขนาดเป็นหมอก็ยังมีทุนไม่ประสงค์ออกนามช่วย

            ถ้าต้องคืนทุน ป่านนี้คงเป็นหนี้มากมาย จนซื้อบ้านไม่ได้

            หมอดารินทร์กอดยายบัวสาย เมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน

            “ยายจ๋า...ดากลับมาแล้ว”

            “หมอดามาแล้ว...มาแล้ว”

            “ยายทานข้าวหรือยัง?”

            “ยัง...ยัง...” แกลืม...

            ป้าโฉมเดินออกมาจากหลังบ้าน พลางกล่าวว่า

            “แม่กินข้าวแล้ว กินตั้งแต่หกโมงเย็น”

            ยายบัวสายเถียง “ยังเลย...ยัยโฉม ข้ายังไม่ได้กิน”

            “โธ่...แม่ นี่มันกี่โมงแล้ว รู้มั้ย”

            “ใครจะรู้”

            “สี่ทุ่มแล้ว”

            “ใครว่า...หลานสาวข้ากลับจากทำงานก็หกโมงเย็น ได้เวลากินข้าวพอดี”

            “วันนี้ยัยดาเข้าเวร กลับดึกหน่อย”

            “ข้ายังไม่ได้กิน เร็วสิ ไปยกอาหารมา ข้าจะกินกับหลานรักของข้า”

            ดารินทร์รู้สึกขอบคุณป้าโฉมที่เสียสละ ไม่แต่งงานกับคนรัก

            หล่อนทราบตั้งแต่เด็ก ป้าโฉมมีคนรัก แต่เพราะต้องภาระดูแลหลาน

กำพร้า ทำให้ป้าโฉมเสียโอกาสจะแต่งงาน เพราะคนรักของป้าโฉมให้เลือก ต้อง

ทิ้งภาระอย่างหล่อน...แล้วป้าโฉมก็เลือกเลี้ยงหลาน...ป้าโฉมเสียสละ

            วันนี้...วัยอย่างป้าโฉมจะย่างสี่สิบห้า แต่ป้าก็ยังดูสวย

            ป้าโฉมแทนจะอยู่อย่างสบายๆก็ต้องดูแลยายที่ป่วย

            โฉม...เป็นตัวอย่างของความกตัญญู ถ้าป้าไม่ดูแลนยาย ดารินทร์คงลำบาก

จะมีใครดูแลยายได้ดีเท่าลูกหลานตัวเอง

            โฉมอธิบายกับมารดา “แม่...แม่ทานข้าวแล้ว และดาก็ทานแล้ว”

            ยายหันมาฟ้องดารินทร์ “หลานดาของข้า ดูสิ โฉมไม่ให้ยายกินข้าว ยาย

หิวมาก”

            ดารินทร์ยิ้มแห้งๆ “ยาย...ป้าโฉมทำให้ยายทานแล้ว”

            “แต่หิว...”

            “ดื่มนมก่อนนอนนะคะ”

            ดารินทร์รินนมสดให้ยาย...ยายบัวสายทำหน้างงๆพึมพำ

            “ก็ยังไม่ได้กินข้าวนี่นา ทำไมไม่ให้กินข้าว ให้ดื่มนมสดแทน”

            พอยายบัวสายดื่มนมแล้ว ดารินทร์พาไปห้องนอน และเดินออกมา

            ป้าโฉมนั่งรีดผ้าอยู่ที่ห้องรับแขก

            “ป้าโฉม...นอนเถอะค่ะ”

            “ไม่ง่วงเลย ขอรีดผ้าให้เสร็จก่อน”

            “รู้สึกป้าโฉมจะเหนื่อยนะคะ ไหนงานบ้านไหนต้องดูแลยาย ยังต้องรบกับ

ความหลงลืมของยายอีก”

            โฉมยิ้มสู้ “มีแรงต้องทำ เธอเองก็งานหนัก ป้ารู้...”

            “การดูแลคนป่วยหลงลืมเป็นงานหนักนะคะ”

            “จะทำอย่างไรได้ล่ะ แค่อดทนหน่อย ที่ห่วงก็กลัวแม่จะออกไปข้างนอก

และกลับมาไม่ได้เท่านั้น”

            “ป้าคะ ดาช่วยรีดให้”

            “ไม่ต้อง...ไปอาบน้ำนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้า ไป

เถอะ เชื่อป้านะ งานบ้านเป็นหน้าที่ของป้าเอง”

            หมอดารินทร์พยักหน้า

            “ค่ะ” ยิ้มกับป้าก่อนผละไป

           

            เที่ยงแล้ว...ดารินทร์เตรียมจะไปทานอาหารกลางวัน...ปกติถ้าไม่มี

นัดจะทานกับเจนจิรา

            เช่นวันนี้ เจนจิราหยิบกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก พยักหน้า

            “หมอดา ไปทานข้าวกันเถอะ”

            “ขอหยิบกระเป๋าก่อน” คว้ากระเป๋าได้ โทรศัพท์มือถือดังขึ้น

            เบอร์ของหมอชัชวิน

            “สวัสดีค่ะ”

            หมอชัชวินพูดมาตามสายว่า “ผมออกมาประชุมข้างนอก เสร็จประชุมแล้ว

กำลังจะหาอะไรทาน หมอดาออกมาเลย ผมจะรอที่ร้านอาหารฝรั่งสุขุมวิท ร้าน

เก่าที่เราเคยไปทาน”

            “เอ้อ...ดานัดกับเจนจิรา”

            “คุณเจนเรอะ ปล่อยให้ไปทานกับคนอื่น ดาออกมาหาผมเถอะ งานผมยุ่ง

มากเลย กว่าจะมีเวลาว่างตรงกัน ยาก มีเวลาผมก็อยากทานข้าวกับคุณ”

            “ก็ได้ค่ะ”

            เจนจิราเห็นหน้าหมอดารินทร์ก็เดาใจได้ จึงกล่าวว่า “ไปเถอะ หมอชัชวินโทร

มาใช่มั้ย ไปเลย เธอทานข้าวกับเพื่อนมากกว่าทานกับแฟน”

            “ขอบใจที่เจนเข้าใจ”

            ดารินทร์จึงขับรถออกจากโรงพยาบาล ใช้ทางลัด อาจจะเปลี่ยว แต่จะถึง

เร็วกว่า ผ่านซอย...ดารินทร์ขับรถสบายๆมองไปรอบๆ

            ตึกร้าง...บริเวณนั้น หล่อนเห็น...มีคนทำร้าย...และมีคนถูกทำร้าย

            มีชายสองคนรุมชกต่อย...อีกคนยืนมอง

            หล่อนมองไป คนที่ยืนมอง...เคยเป็นคนไข้ของหล่อน หล่อนเพิ่งทำแผล

ให้สองวัน

            นายเขม...จำได้แม่นยำ เพราะพยาบาลสาวที่โรงพยาบาลแอบกรี๊ด...ใน

ความรูปหล่อจึงทำให้หล่อนจำได้

            คนที่ซ้อมก็คนของนายเขม วันที่ประคอง ‘ลูกพี่’ วันนั้นทั้งสองคน

            ซ้อมใคร?

            ก็นายดำคนเก่า...คนที่หล่อนได้ยินว่า...คนทรยศ

รายละเอียด

ชีวิตลิขิต...ให้เด็กกำพร้าอย่าง ‘เขม’ พลิกผันมาเป็นมือขวาของเจ้าพ่อมาเฟียอย่าง ‘จำเริญ’ คนที่เกื้อกูลเลี้ยงดูเขามา เขากลายเป็นมาเฟียหนุ่มมือพระกาฬ ที่ช่วยให้งานผิดกฎหมายของผู้มีคุณสำเร็จราบรื่น เขมยอมทำทุกอย่างเพื่อทดแทนพระคุณทั้งที่รู้ว่า ‘ผิด’ แพทย์หญิงสาวสวยอย่าง ‘ดารินทร์’ ต้องมาเกี่ยวพันผจญภัยไปกับเหล่ามาเฟียโดยไม่เต็มใจ โดนจับตัวข่มขู่สารพัด ให้รักษาคนเจ็บที่ถูกยิงถูกแทงโดยไม่อาจปฎิเสธ ด้วยจิตใจดีและจรรยาแพทย์ ชะตาลิขิตให้เขาและเธอมาพบ..ผูกพันและร่วมฝ่าพันปัญหาไปด้วยกัน ท่ามกลางความขัดแย้ง ความเกลียดชัง และอดีตที่ถูกซุกซ่อนไว้

ปมชีวิตที่ทำให้เขม ‘เจ็บจำ’ และเข้าใจผิดมาโดยตลอด เธอมองเห็น ‘เนื้อแท้’ ที่ดีงามของเขา สัมผัสถึง ‘ธาตุแท้’ ที่ทำให้เขาเก็บกด เคร่งขรึม ขัดแย้งในตัวเอง รอโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง ทว่าเขมไม่อาจหลุดพ้นจากอำนาจมืด เพราะคำว่า ‘กตัญญู’ ดารินทร์พยายามที่จะเข้าใจและดึงเขาสู่เส้นทางที่ ‘ถูกต้อง’ ลิขิตของเขาและเธอ อาจเหมือนสายรุ้ง งดงาม อยู่บนฟากฟ้า ฤาจะมั่นคง ยั่งยืน


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (78 รายการ)

www.batorastore.com © 2024