กามเทพผิดคิว + กลเกมกามเทพ (สุชีรา)

กามเทพผิดคิว + กลเกมกามเทพ (สุชีรา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: กามเทพผิดคิว
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1…

                รถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านไม้สักทรงไทยปนยุโรปของวศินี กานติศาหรือข้าวฟ่างเปิดประตูรถก้าวลงมายกมือทั้งสองขึ้นสุดแขนแล้วร้องเสียงดัง

                “โอ้ย.ถึงเสียที อากาศเย็นสบายดีจริงๆ เลยยัยศิ ถ้าฉันรู้ว่าบ้านเธออากาศดีแบบนี้นะฉันมาตั้งนานแล้วรู้เปล่า”

                กานติศาหันมายิ้มกับวศินีผู้ซึ่งเป็นเพื่อนรัก

                “ฉันชวนเธอมาตั้งหลายครั้งแล้วแต่เธอไม่ยอมมาเองนี่”

                “จ้า.ฉันผิดที่ไม่เชื่อเธอ แต่ตอนนี้ฉันมาถึงบ้านแล้วใจคอเธอจะให้ฉันยืนคุยอยู่อย่างนี้รึไง”

                “เชิญเข้าบ้านสิจ๊ะคุณข้าวฟ่างจ๋า อ้อ. ยัยนาถ นายพงศ์เข้าบ้านกันดีกว่า”

                วศินีไม่ลืมหันไปเรียกเพื่อนร่วมชั้นอีกสองคนซึ่งทั้งกานติศา นิศานาถและภานุพงศ์ต่างเป็นเพื่อนรักกันมากเรียกว่าไปไหนไปกันเป็นเพื่อนซี้ที่หลายคนอิจฉา

                “ยัยศิ คุณพ่อคุณแม่อยู่รึเปล่า” นิศานาถถามเสียงเบา

                “อยู่ พี่ชายฉันก็อยู่”

                หญิงสาวเจ้าของบ้านหันมายิ้มกับเพื่อนแล้วเดินนำไปทางเรือนพักผ่อนหลังบ้านที่นั่นมีทั้งบิดามารดาและพี่ชายของวศินีนั่งยิ้มรอรับอยู่

                “อ้าว.มากันแล้วเหรอลูกเป็นไงการเดินทาง”

                ศิลป์เอ่ยทักทายเด็กๆ หลังจากทั้งหมดยกมือทำความเคารพผู้อาวุโสแล้ว

                “สบายดีค่ะ นั่งเครื่องบินแค่ สี่สิบห้านาทีเองค่ะ นั่งรถอีกสิบห้านาที”

                คนตอบไม่ใช่ใครหรอกเป็นกานติศานั่นเอง

                “ยัยข้าวฟ่าง พูดเก่งเหมือนเคยนะเรา”

                วสุดักคอแต่กานติศาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงแต่ยิ้มเขินๆ เท่านั้นเอง

                “ยัยนี่นะคะพี่วสุคุยจนลิงเดินหนีมาแล้ว” นิศานาถแกล้งเพื่อนบ้าง

                “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่ ยัยนาถก็พูดเกินความจริงไป”

                “แต่ฉันว่ายังน้อยไปนะ ความจริงแล้วเธอน่ะคุยจนลิงหลับต่างหาก”

                ภานุพงศ์จบคำด้วยเสียงหัวเราะของทุกคนในที่นั้น วศินีแนะนำเพื่อนๆ กับบิดามารดาแต่กับพี่ชายไม่ต้องเพราะวสุรู้จักทั้งสามคนก่อนที่จะมาเที่ยวที่บ้านนี่แล้ว วสุเรียนจบจากกรุงเทพฯแต่ก็ไม่ปล่อยให้น้องอยู่ตามลำพัง เขายังคงอยู่เป็นเพื่อนจึงรู้จักเพื่อนรักของวศินีทุกคน

                “มาเหนื่อยๆไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนค่อยมาทานข้าว”

                แสงหล้าพยักหน้ากับลูกสาว วศินีจึงนำเพื่อนๆไปพักห้องที่จัดไว้ต้อนรับ

                “รีบอาบน้ำเดี๋ยวไปกินข้าวกัน ต่อจากนั้นฉันจะให้พี่วสุพาไปเที่ยว”

                “ไปเที่ยวไหนยัยศิ ไปน้ำตกก่อนได้มั้ยฉันอยากเล่นน้ำตก”

                กานติศาแทรกทันที

                “ยังไม่รู้ว่าพี่วสุจะพาไปไหนก่อนแต่เชื่อเถอะว่าพี่ชายฉันพาแกไปเที่ยวในที่ๆ สวยสุดๆ ก็แล้วกัน”

                กานติศา นิศานาถเข้าพักห้องติดกับห้องวศินี ส่วนภานุพงศ์พักห้องติดกับวสุ บ้านทรงไทยหลังนี้กว้างและน่าอยู่สำหรับคนที่มาเยือน บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และเย็นสบาย

                อาหารกลางวันเป็นอาหารทางเหนือทั้งหมด กานติศารับประทานด้วยความแปลกใหม่และอร่อยในรสชาติ นิศานาถกับภานุพงศ์ก็เช่นกัน

                “เป็นไงอร่อยมั้ยกับข้าวเมืองเหนือ”

                วสุเอ่ยถามพร้อมมองหน้ากานติศา

                “อร่อยค่ะพี่วสุ กลิ่นแปลกๆ ดี”

                “ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ”

                “แหม.พี่วสุ พูดกินต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ได้ไงคะ”

                “ตามสบายเถอะลูก”

                ศิลป์พยักหน้าแล้วยิ้ม กานติศาจึงยิ้มตอบแล้วหันมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อ

                “เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วตาวสุพาน้องๆไปเที่ยวสิลูก ไปที่คุ้มเจ้าสุริยคำก็ได้นะที่นั่นมีสวนผลไม้สวนดอกไม้เยอะแยะ”

                แสงหล้าเอ่ยขึ้นวสุพยักหน้าเห็นด้วย

                “ครับคุณแม่ พรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวน้ำตก”

                “ว้า วันนี้น่าจะไปเล่นน้ำตกกันก่อนนะคะพี่วสุ”

                กานติศาอีกนั่นแหละเพราะหล่อนอยากเล่นน้ำมากกว่าไปชมดอกไม้

                “เอาไว้พรุ่งนี้จะให้เล่นทั้งวันเลยยัยข้าวฟ่าง วันนี้เก็บแรงไว้ก่อนดีกว่า”

                “ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้”

                “ที่คุ้มเจ้าเอ่อ.อะไรนะยัยศิ”

                นิศานาถถามเพื่อนเพราะอยากเห็นคุ้มทางเมืองเหนือ

                “เจ้าสุริยคำ เป็นลูกชายของเพื่อนคุณแม่ เจ้าพี่เป็นคนน่ารักนะยัยนาถถ้าเธอเห็นจะหลงรัก”

                วศินียิ้มเมื่อพูดถึงเจ้าหนุ่มที่คุ้นเคย หล่อนมีแผนให้เจ้าสุริยคำรู้จักเพื่อนรักของหล่อนเพื่อให้เขาเปลี่ยนใจจากรักหล่อนมาเป็นเพื่อนคนนี้

                “ไม่เอาหรอกย่ะ ฉันมีที่รักฉันอยู่แล้วล่ะ”

                นิศานาถตอบแล้วมองไปทางภานุพงศ์ ชายหนุ่มยิ้มแล้วสั่นหน้าไปมา

                “ฉันไม่ใช่ที่รักของเธอนะยัยนาถ อย่ามาโมเม”

                ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน กานติศาแซวต่ออีกว่า

                “แหม.พงศ์ก็ เออออกับยัยนาถหน่อยก็ไม่ได้ ยัยนาถน่ารักนะจะบอกให้”

                “ไม่ต้องพูดมากเลยนะยัยฟ่างตัวแกเองน่ะมีรึยังแฟนน่ะ”

                “ฉันยังไม่อยากหาเองแหละ”

                หญิงสาวทำเชิดหน้าไม่ใส่ใจกับคำยั่วของภานุพงศ์ วศินีจึงขัดขึ้นว่า

                “คุณพ่อคุณแม่คะ ที่ยัยฟ่างบอกไม่อยากหาน่ะไม่จริงค่ะ ความจริงก็คือหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบทนความร้ายกาจของยัยนี่ไม่ได้เผ่นอ้าวไปตามๆกันเลยค่ะ”

                “ขนาดนั้นเชียวเหรอหนูฟ่าง”

                “ก็ไม่.ไม่จริงหรอกค่ะคุณพ่ออย่าไปเชื่อยัยศิมากนัก ยัยนี่ชอบว่าฟ่างค่ะ”

                วสุหัวเราะท่าทางงอนๆ ของหญิงสาวแล้วว่า

                “ไม่มีไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่จะแนะนำหนุ่มเมืองเหนือให้เอามั้ยฟ่าง”

                “ขอคิดดูก่อนค่ะพี่วสุ เพราะฟ่างก็อยู่สบายดีแล้วค่ะไม่ต้องคิดถึงคิดห่วงใครเพิ่มจากตัวเอง”

                “พูดเข้าที อยู่คนเดียวได้ก็ดีแต่มันเหงานะยัยฟ่าง”

                “เออน่ะพี่วสุ เดี๋ยวถึงเวลามันก็มาเองแหละค่ะอย่าพูดเรื่องนี้เลยรสชาติอาหารกร่อยหมด”

                หล่อนก้มลงสนใจอาหารไม่สนใจใครอีกกระทั่งการรับประทานอาหารสิ้นสุดลง วสุจึงเตรียมรถจิ๊บออกมารอ สามสาวกับหนึ่งหนุ่มก้าวเข้าไปนั่งในรถ ครู่ต่อมารถก็แล่นออกจากรั้วบ้าน…

                “เสียงรถใครมาจอดหน้าบ้านไปดูซิออน”

                “รถคุณวสุเจ้า มากับคุณวศินีเจ้า”

                “สายตายาวจริงๆ นะคำออน”

                เจ้าของบ้านค้อนให้คนรับใช้แล้วเดินลงไปที่สนาม

                “สวัสดีครับเจ้าป้า เจ้าลุงไม่อยู่หรือครับ”

                วสุไหว้อย่างนอบน้อมวศินีทำตามพี่ชายและเพื่อนๆ ของหล่อนก็ตามลงมา

                “ไม่อยู่จ้ะไปในเมือง เอ.แล้วนี่มาเที่ยวหรือว่ามีธุระล่ะจ๊ะ”

                “มาเที่ยวครับ ยัยศิพาเพื่อนๆ มาจากกรุงเทพฯฮะ” วสุหันมาทางน้องสาว

                “เพื่อนของศิค่ะเจ้าป้า นี่นิศานาถ ภานุพงศ์แล้วก็กานติศาค่ะ”

                สองสาวกับหนึ่งหนุ่มทำความเคารพผู้อาวุโส เจ้าป้ามองหน้าทีละคนแล้วยิ้ม

                “ยินดีต้อนรับจ้ะ ไป เข้าไปนั่งก่อนเดี๋ยวค่อยพาเพื่อนๆ เดินเที่ยวในคุ้ม อ้อ.นี่ตาแสนก็อยู่นะจ๊ะ คำออนเอ้ยไปบอกเจ้าแสนมาที่นี่หน่อย”

                “เจ้า…”

                คำออนรับคำแล้วถอยห่างออกไป วศินีไม่ค่อยสบายใจนักเพราะหล่อนไม่อยากพบหน้าสุริยคำหรือแสนสักเท่าไหร่ สาเหตุก็คือเจ้าสุริยคำชอบหล่อนเกินกว่าน้องสาวคนหนึ่งเขาเคยบอกรักหล่อนด้วยซ้ำไปเมื่อปีที่ผ่านมายังบอกอีกว่าหล่อนเรียนจบเมื่อไหร่จะให้เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ของเขาไปสู่ขอซึ่งหล่อนรับคำของเขาไม่ได้ใช่ว่าจะรังเกียจแต่เพราะหล่อนไม่ได้รักเจ้าสุริยคำ คนที่หล่อนรักคือ ปัณณธร ญาติผู้น้องของเขาต่างหาก

                วสุเดินตามเจ้าป้าเข้าไปในเรือนรับรองซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้านเป็นทรงเรือนไทยโล่งโปร่งน่านั่งเล่น ยังไม่ทันที่จะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ไม้สักเป็นเงาปราบ ร่างสูงผิวขาวของชายหนุ่มผู้หนึ่งก็ก้าวออกมาจากประตูบ้านที่ติดกับเรือนรับรอง         

                “วสุ น้องศิ มายังไงกันเนี่ย แล้วนี่น้องศิมาจากกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ”

                สุริยคำทักวสุเพียงคำเดียวนอกนั้นเป็นวศินีทุกคำ ทั้งรอยยิ้มและสีหน้าแช่มชื่นดั่งกับได้เจอคนที่รักสุดชีวิตทำให้กานติศาแอบหมั่นไส้อยู่เงียบๆ

                “เอ่อ.ศิมาเมื่อเช้าค่ะ มากับเพื่อนๆ นี่ค่ะ คนผมสั้นนี่นิศานาถ ผมยาวนี่กานติศาค่ะส่วนนั่นภานุพงศ์ค่ะ เพื่อนๆ ศิอยากมาเที่ยวเชียงใหม่ค่ะ”

                วศินีแนะนำเพื่อนให้เจ้าหนุ่มรู้จักและหล่อนก็ดึงมือนิศานาถเข้ามายืนข้างๆ เพื่อให้สุริยคำมองหน้าชัดๆ แต่เขาไม่ใส่ใจสักนิดยังคงยิ้มและมองแต่วศินีคนเดียวเท่านั้น

                “ยินดีต้อนรับทุกคนเลยนะครับ อยากไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างบอกมาเลย ผมจะพาไป”

                “ใหญ่นักรึไงถึงได้ริอาสา”

                เสียงเบาก็จริงแต่ก็ดังชัดเพราะทุกคนเงียบเสียงกันหมด สุริยคำถึงกับสะอึกกับคำพูดไร้มารยาทนั้น เขาหันขวับไปที่ดวงหน้ามนเกลี้ยงเกลาทันที ไม่ว่ากานติศาจะสวยน่ารักปานใด เขาไม่สนใจเท่ากับคำพูดของหล่อนเมื่อครู่นี้

                “ผมไม่ได้ใหญ่นักหรอกนะแต่ก็สามารถพาคุณไปเที่ยวได้ทั่วเมือง”

                น้ำเสียงบอกถึงความไม่พอใจและเบ่งไปในตัว บรรยากาศเริ่มอึดอัดเพราะกานติศาก็ไม่ยอมหุบปากอันน่าหยิกของหล่อน

                “อ้อ.เหรอ ไม่ค่อยจะอวดตัวเลยนะคะเจ้าแสนล้าน”

                “นี่คุณ…”

                “ยัยฟ่าง”

                วศินีสะกิดแขนเพื่อนแล้วหันไปยิ้มกับสุริยคำ

                “ศิต้องขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะยัยฟ่างก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะชอบพูดชอบต่อแต่ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เจ้าพี่อย่าโกรธนะคะ”

                “ขอให้ไม่มีจริงๆ เถอะ”

                สายตาคมขุ่นจับที่ใบหน้ากานติศานิ่ง หล่อนเบ้ปากนิดหนึ่งแล้วตอบโต้กลับ

                “ก็ใครบอกว่าไม่มีล่ะ มีทีเดียวแหละ”

                “ข้าวฟ่าง พี่ว่าเราไปเดินเล่นทางโน้นกันดีกว่านะจ๊ะ”

                วสุรีบดึงแขนหญิงสาวให้ลุกเดินตามเขาออกไปจากเรือนรับรองเพราะบรรยากาศเริ่มหายใจไม่ออกแล้วละ

 

******

รายละเอียด

กามเทพผิดคิว

 

                เพียงพบหน้าครั้งแรกก็เปิดศึกกันเสียแล้วอย่างนี้จะญาติดี

กันได้อย่างไร แต่ทั้งที่ทะเลาะแบบไม่มองหน้าก็ไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือ

ของกามเทพไปได้ ท่านกามเทพจะทำอย่างไรกับคู่หนุ่มสาวนี้นะอยากรู้จริงๆ

 

 

                                                      ด้วยความปรารถนาดี

                                                                สุชีรา


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (75 รายการ)

www.batorastore.com © 2024