Customer Reviews

โรคเบาหวานเป็นหนึ่งในโรคยอดนิยมที่ติดอันดับต้นๆที่คนไทยเป็นกันมากเลยนะคะ ไม่รู้ว่ามีอะไรดีถึงได้เป็นกันเยอะจัง ^^ เราว่าหลายคนยังคงงงกับโรคนี้อยู่นะคะ งงทั้งชื่อ งงทั้งลักษณะอาการ ตลอดจนเรื่องของการป้องกันรักษาด้วย ผู้เขียนบอกว่าการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติด้วยการใช้ยานั้น เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น การแก้ปัญหาให้ได้ผลดีในระยะยาวก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูกต้องและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของใครที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เราว่าถ้าได้ลองอ่านเล่มนี้แล้วน่าจะทำให้เข้าใจโรคนี้ได้มากขึ้นเลยทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่ามีข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่จะทำให้ผู้อ่านสามารถที่จะเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองในการรับมือกับโรคเบาหวานได้เลย ในส่วนนี้จะแบ่งออกได้เป็นเรื่องความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรค อาการ สาเหตุและปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง และแนวทางในการป้องกันรักษาค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าจะเน้นไปที่เรื่องของการควบคุมการกินเป็นหลัก เมื่อเป็นเรื่องของการกิน ก็จะมีเมนูมาแนะนำกันซักหน่อย เมนูส่วนใหญ่ในหนังสือเล่มนี้ 99.99% เป็นเมนูผักกับปลาค่ะ สำหรับคนที่ชอบกินเมนูอื่นอาจต้องทำใจหน่อย ในส่วนของเมนูก็จะแบ่งออกเป็น ต้ม แกง ซุป นึ่ง ผัด ยำ แล้วก็สลัด แม้ว่าจะครบเกือบทุกประเภท แต่ในเรื่องของรสชาติก็ยังไม่โดนเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นเมนูสุขภาพสำหรับคนป่วยก็เลยต้องมีรสชาติประมาณนี้ เอาเป็นว่าถ้าใครมองหาเมนูสุขภาพสำหรับการป้องกันรักษาโรคเบาหวาน เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่แนะนำค่ะ

โรคเบาหวานเป็นหนึ่งในโรคยอดนิยมที่ติดอันดับต้นๆที่คนไทยเป็นกันมากเลยนะคะ ไม่รู้ว่ามีอะไรดีถึงได้เป็นกันเยอะจัง ^^ เราว่าหลายคนยังคงงงกับโรคนี้อยู่นะคะ งงทั้งชื่อ งงทั้งลักษณะอาการ ตลอดจนเรื่องของการป้องกันรักษาด้วย ผู้เขียนบอกว่าการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติด้วยการใช้ยานั้น เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น การแก้ปัญหาให้ได้ผลดีในระยะยาวก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูกต้องและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของใครที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เราว่าถ้าได้ลองอ่านเล่มนี้แล้วน่าจะทำให้เข้าใจโรคนี้ได้มากขึ้นเลยทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่ามีข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่จะทำให้ผู้อ่านสามารถที่จะเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองในการรับมือกับโรคเบาหวานได้เลย ในส่วนนี้จะแบ่งออกได้เป็นเรื่องความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรค อาการ สาเหตุและปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง และแนวทางในการป้องกันรักษาค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าจะเน้นไปที่เรื่องของการควบคุมการกินเป็นหลัก เมื่อเป็นเรื่องของการกิน ก็จะมีเมนูมาแนะนำกันซักหน่อย เมนูส่วนใหญ่ในหนังสือเล่มนี้ 99.99% เป็นเมนูผักกับปลาค่ะ สำหรับคนที่ชอบกินเมนูอื่นอาจต้องทำใจหน่อย ในส่วนของเมนูก็จะแบ่งออกเป็น ต้ม แกง ซุป นึ่ง ผัด ยำ แล้วก็สลัด แม้ว่าจะครบเกือบทุกประเภท แต่ในเรื่องของรสชาติก็ยังไม่โดนเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นเมนูสุขภาพสำหรับคนป่วยก็เลยต้องมีรสชาติประมาณนี้ เอาเป็นว่าถ้าใครมองหาเมนูสุขภาพสำหรับการป้องกันรักษาโรคเบาหวาน เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่แนะนำค่ะ

ใครอยากจะลดความอ้วนเรื่องแรกที่ต้องทำก่อนเลยคือกินให้น้อยลงใช่ไหมคะ อย่างที่สองคือต้องออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อเผาผลาญพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายออกไป พูดถึงเรื่องกิน ลำพังกินน้อยอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอค่ะ เพราะอาจจะหิวตายก่อนผอม ที่ถูกก็คือกินตามปกติค่ะ เพียงแต่เลือกกินนิดนึง กินเฉพาะอาหารแคลลอรี่ต่ำ ไขมันน้อยๆนั่นเอง อย่างที่ผู้เขียนใช้คำว่าต้องลดน้ำหนักอย่างนักกิน ช่วงแรกของหนังสือจะเป็นการพูดถึงเรื่องทั่วๆไปเกี่ยวกับความอ้วนและการลดความอ้วนค่ะ อย่างเช่นเรื่องทำไมถึงอ้วน การเคี้ยว การดื่มน้ำและการกินผักผลไม้ มีความจำเป็นต่อการลดน้ำหนักยังไง อาหารประเภทไหนบ้างที่ควรกินและไม่ควรกิน เวลาที่ต้องลดน้ำหนัก การออกกำลังกายที่ถูกต้องควรทำยังไง อาหารที่กินแล้วจะเพิ่มน้ำหนักมากและอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักมีอะไรบ้าง เป็นต้น ส่วนนี้อย่างที่บอกว่าเป็นความรู้เบื้องต้นค่ะ อ่านแล้วจะได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง จะได้วางแผนการกินแต่ละมื้อของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนต่อไปก็จะเป็นเรื่องเมนูต่างๆค่ะ มีเมนูหลากหลายดีนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ผักผลไม้ ปลา และไก่ค่ะ จะมีเมนูกุ้งกับปูแค่ 2 ถึง 3 เมนู แต่จะไม่มีเมนูหมูกับเนื้อเลย ในส่วนของความน่ากินเราให้ 9 เต็ม 10 แต่ในส่วนของความอร่อยขอลดลงมาเหลือ 8 เต็ม 10 แล้วกันค่ะ เพราะยังจืดไปนิด แต่ก็อย่างว่าแหล่ะค่ะ เมนูลดน้ำหนักก็ต้องรสชาติประมาณนี้

ใครอยากจะลดความอ้วนเรื่องแรกที่ต้องทำก่อนเลยคือกินให้น้อยลงใช่ไหมคะ อย่างที่สองคือต้องออกกำลังกายให้มากขึ้นเพื่อเผาผลาญพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายออกไป พูดถึงเรื่องกิน ลำพังกินน้อยอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอค่ะ เพราะอาจจะหิวตายก่อนผอม ที่ถูกก็คือกินตามปกติค่ะ เพียงแต่เลือกกินนิดนึง กินเฉพาะอาหารแคลลอรี่ต่ำ ไขมันน้อยๆนั่นเอง อย่างที่ผู้เขียนใช้คำว่าต้องลดน้ำหนักอย่างนักกิน ช่วงแรกของหนังสือจะเป็นการพูดถึงเรื่องทั่วๆไปเกี่ยวกับความอ้วนและการลดความอ้วนค่ะ อย่างเช่นเรื่องทำไมถึงอ้วน การเคี้ยว การดื่มน้ำและการกินผักผลไม้ มีความจำเป็นต่อการลดน้ำหนักยังไง อาหารประเภทไหนบ้างที่ควรกินและไม่ควรกิน เวลาที่ต้องลดน้ำหนัก การออกกำลังกายที่ถูกต้องควรทำยังไง อาหารที่กินแล้วจะเพิ่มน้ำหนักมากและอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักมีอะไรบ้าง เป็นต้น ส่วนนี้อย่างที่บอกว่าเป็นความรู้เบื้องต้นค่ะ อ่านแล้วจะได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง จะได้วางแผนการกินแต่ละมื้อของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนต่อไปก็จะเป็นเรื่องเมนูต่างๆค่ะ มีเมนูหลากหลายดีนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ผักผลไม้ ปลา และไก่ค่ะ จะมีเมนูกุ้งกับปูแค่ 2 ถึง 3 เมนู แต่จะไม่มีเมนูหมูกับเนื้อเลย ในส่วนของความน่ากินเราให้ 9 เต็ม 10 แต่ในส่วนของความอร่อยขอลดลงมาเหลือ 8 เต็ม 10 แล้วกันค่ะ เพราะยังจืดไปนิด แต่ก็อย่างว่าแหล่ะค่ะ เมนูลดน้ำหนักก็ต้องรสชาติประมาณนี้

ทุกวันนี้สาเหตุที่คนเราป่วยมากขึ้นส่วนหนึ่งก็มาจากการกินนี่แหล่ะค่ะ คนส่วนใหญ่เน้นความสะดวกกับความอร่อยเป็นหลัก โดยไม่คำนึงว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้นมีประโยชน์หรือจะส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน หนังสือกินเพื่อสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัดเล่มนี้ ต้องการให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราเสียใหม่ หลักการก็คือใช้อาหารเป็นยา เป็นอาหารเสริมสุขภาพนั่นเอง โดยผู้เขียนจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นบทๆค่ะ ก็จะมีเรื่องอาหารแนวใหม่ การกินผักผลไม้ที่ถูกวิธี การกินโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน การเลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอาหารขยะ เราขอรีวิวเฉพาะส่วนที่ว่าด้วยอาหารแนวใหม่กับตัวอย่างอาหารก็แล้วกันค่ะ คิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจดี ในส่วนเรื่องอาหารแนวใหม่ ผู้เขียนเค้าจะอธิบายเป็นความรู้ในทางทฤษฎีมากกว่าแล้วก็จะมีคำแนะนำว่าควรกินอาหารแต่ละประเภทในปริมาณเท่าไรถึงจะพอดี มีการอธิบายถึงแนวทางการกิน 9 ข้อ ซึ่งทางสถาบันอาหารและสุขภาพของอมเมริกาได้กำหนดไว้ ส่วนเรื่องตัวอย่างเมนูแนวใหม่ก็จะแนะนำเป็นมื้อๆค่ะ ว่าแต่ละมื้อควรกินอะไร แค่ไหน ถึงจะพอดี แล้วก็มีตัวอย่างรายการอาหารของแต่ละวันมาแนะนำไว้ด้วย สำหรับภาพรวมของหนังสือเล่มนี้ ในความคิดเห็นของเรา ความน่าสนใจชวนให้อ่าน ชวนให้ติดตามยังไม่ค่อยดีค่ะ ขนาดว่าเราเป็นคนที่สนใจเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว อ่านแล้วยังรู้สึกเบื่อ ไม่สนุก ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ให้ความรู้ดีก็ตาม เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษอ่านแล้วอาจจะเบื่อได้

ทุกวันนี้สาเหตุที่คนเราป่วยมากขึ้นส่วนหนึ่งก็มาจากการกินนี่แหล่ะค่ะ คนส่วนใหญ่เน้นความสะดวกกับความอร่อยเป็นหลัก โดยไม่คำนึงว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้นมีประโยชน์หรือจะส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน หนังสือกินเพื่อสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัดเล่มนี้ ต้องการให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเราเสียใหม่ หลักการก็คือใช้อาหารเป็นยา เป็นอาหารเสริมสุขภาพนั่นเอง โดยผู้เขียนจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นบทๆค่ะ ก็จะมีเรื่องอาหารแนวใหม่ การกินผักผลไม้ที่ถูกวิธี การกินโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน การเลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอาหารขยะ เราขอรีวิวเฉพาะส่วนที่ว่าด้วยอาหารแนวใหม่กับตัวอย่างอาหารก็แล้วกันค่ะ คิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจดี ในส่วนเรื่องอาหารแนวใหม่ ผู้เขียนเค้าจะอธิบายเป็นความรู้ในทางทฤษฎีมากกว่าแล้วก็จะมีคำแนะนำว่าควรกินอาหารแต่ละประเภทในปริมาณเท่าไรถึงจะพอดี มีการอธิบายถึงแนวทางการกิน 9 ข้อ ซึ่งทางสถาบันอาหารและสุขภาพของอมเมริกาได้กำหนดไว้ ส่วนเรื่องตัวอย่างเมนูแนวใหม่ก็จะแนะนำเป็นมื้อๆค่ะ ว่าแต่ละมื้อควรกินอะไร แค่ไหน ถึงจะพอดี แล้วก็มีตัวอย่างรายการอาหารของแต่ละวันมาแนะนำไว้ด้วย สำหรับภาพรวมของหนังสือเล่มนี้ ในความคิดเห็นของเรา ความน่าสนใจชวนให้อ่าน ชวนให้ติดตามยังไม่ค่อยดีค่ะ ขนาดว่าเราเป็นคนที่สนใจเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว อ่านแล้วยังรู้สึกเบื่อ ไม่สนุก ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ให้ความรู้ดีก็ตาม เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษอ่านแล้วอาจจะเบื่อได้

หมูเป็นวัตถุดิบที่มีต้องมีติดบ้านสำหรับทุกคนที่ชอบทำอาหารใช่มั้ยคะ นึกอะไรไม่ออกก็มีหมูนี่แหละค่ะที่จะเอามาทำเป็นเมนูต่างๆ แต่บางทีเราก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเอามาทำเป็นเมนูอะไรดี หนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นเหมือนตัวช่วยให้กับผู้อ่านค่ะ จุดเด่นของเล่มนี้น่าจะอยู่ที่ความแปลกใหม่ของเมนูค่ะ ตอบโจทย์คนที่อยากจะหาเมนูใหม่ๆมาลองทำกินดูเวลาที่นึกอะไรไม่ออก อย่างเช่น หมูทอดราดซอสมิโซะรสเผ็ด แหนมซี่โครงกับยำลุยสวน แวนด์วิชตับไวน์แดง น้ำพริกแอปเปิ้ล แกงคั่วหมูมะม่วงเบา ข้าวหน้าหมูสามชั้นตุ๋นโชยุ ซี่โครงหมูนึ่งซอสเซี่ยงไฮ้ สันในม้วนผลไม้แห้ง หมูย่างข้าวคั่ว พะแนงหมูย่างลิ้นจี่ พอร์คชอปกับแอปเปิ้ลไวน์แดง ฯลฯ จะเห็นว่ามีเมนูครอบคลุมทุกประเภทเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทอด ผัด ต้ม ตุ๋น นึ่ง อบ รมควัน และย่าง นอกจากนี้ก็ยังมีการสอนเคล็ดลับการปรุงด้วยวิธีต่างๆซึ่งละเอียดดีค่ะ ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเหมือนกัน ในส่วนของรสชาติเราว่าอร่อยอยู่ในระดับที่เปิดร้านขายได้เลย โดยเฉพาะเมนูอาหารไทย เราว่าน่าจะถูกปากสำหรับหลายๆคน ในส่วนของเมนูอินเตอร์ เท่าที่ลองทำเป็นบางเมนูก็ได้รสชาติใกล้เคียงกับต้นตำรับนะคะ(อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว) แต่ในส่วนของวัตถุดิบบางอย่างอาจจะหายากนิดนึง เพราะฉะนั้นเราก็เลยเน้นไปที่เมนูอาหารไทยมากกว่า สรุปแล้วเล่มนี้เป็นเล่มที่โอเคเลยค่ะ ทั้งในเรื่องความแปลกใหม่ ความน่ากิน และรสชาติ เป็นอีกเล่มที่แนะนำ

หมูเป็นวัตถุดิบที่มีต้องมีติดบ้านสำหรับทุกคนที่ชอบทำอาหารใช่มั้ยคะ นึกอะไรไม่ออกก็มีหมูนี่แหละค่ะที่จะเอามาทำเป็นเมนูต่างๆ แต่บางทีเราก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเอามาทำเป็นเมนูอะไรดี หนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นเหมือนตัวช่วยให้กับผู้อ่านค่ะ จุดเด่นของเล่มนี้น่าจะอยู่ที่ความแปลกใหม่ของเมนูค่ะ ตอบโจทย์คนที่อยากจะหาเมนูใหม่ๆมาลองทำกินดูเวลาที่นึกอะไรไม่ออก อย่างเช่น หมูทอดราดซอสมิโซะรสเผ็ด แหนมซี่โครงกับยำลุยสวน แวนด์วิชตับไวน์แดง น้ำพริกแอปเปิ้ล แกงคั่วหมูมะม่วงเบา ข้าวหน้าหมูสามชั้นตุ๋นโชยุ ซี่โครงหมูนึ่งซอสเซี่ยงไฮ้ สันในม้วนผลไม้แห้ง หมูย่างข้าวคั่ว พะแนงหมูย่างลิ้นจี่ พอร์คชอปกับแอปเปิ้ลไวน์แดง ฯลฯ จะเห็นว่ามีเมนูครอบคลุมทุกประเภทเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทอด ผัด ต้ม ตุ๋น นึ่ง อบ รมควัน และย่าง นอกจากนี้ก็ยังมีการสอนเคล็ดลับการปรุงด้วยวิธีต่างๆซึ่งละเอียดดีค่ะ ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเหมือนกัน ในส่วนของรสชาติเราว่าอร่อยอยู่ในระดับที่เปิดร้านขายได้เลย โดยเฉพาะเมนูอาหารไทย เราว่าน่าจะถูกปากสำหรับหลายๆคน ในส่วนของเมนูอินเตอร์ เท่าที่ลองทำเป็นบางเมนูก็ได้รสชาติใกล้เคียงกับต้นตำรับนะคะ(อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว) แต่ในส่วนของวัตถุดิบบางอย่างอาจจะหายากนิดนึง เพราะฉะนั้นเราก็เลยเน้นไปที่เมนูอาหารไทยมากกว่า สรุปแล้วเล่มนี้เป็นเล่มที่โอเคเลยค่ะ ทั้งในเรื่องความแปลกใหม่ ความน่ากิน และรสชาติ เป็นอีกเล่มที่แนะนำ

Beauty drink เป็นหนังสือสุขภาพที่เน้นการสร้างสุขภาพจากการดื่มค่ะ จริงๆชื่อหนังสือก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นหนังสือแนวไหน หนังสือการกินเพื่อสุขภาพมีอยู่หลายเล่มมากๆ แต่ที่เลือกเอาเล่มนี้มารีวิวก็เพราะเป็นเครื่องดื่มค่ะ เราคิดคล้ายๆที่ผู้เขียนบอกไว้ว่าการดื่มน่าจะเป็นวิธีการนำสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าการกินด้วยวิธีอื่น อาหารประเภทเครื่องดื่มไม่ได้การปรุงแต่งมาก ไม่ผ่านความร้อนที่จะทำให้สารอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะพวกวิตามินสูญเสียไป อีกอย่างคือเครื่องดื่มเป็นอาหารที่หาวัตถุดิบมาทำง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถทำกินได้ทุกเวลา ราคาไม่แพง แต่อย่างไรก็ตามต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะด้วยนะคะ อย่าใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมมากเกินไป ไม่อย่างนั้นแทนที่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพจะกลายเป็นอาหารทำลายสุขภาพไปได้ ในบทที่ว่าด้วยสารอาหารที่เกี่ยวกับความงาม หลังจากอ่านบทนี้แล้วทำให้หายสงสัยเลยค่ะว่าเครื่องดื่มต่างๆนั้นสามารถช่วยในเรื่องของการเพิ่มความงามอย่างไร สารอาหารต่างๆที่มีอยู่มีประโยชน์ในด้านไหนต่อสุขภาพของเรา อย่างคอลลาเจนที่เราได้ยินกันบ่อยมาก หน้าที่ของคอลลาเจนเป็นอย่างไร ดีต่อสุขภาพแค่ไหน สามารถอ่านได้จากในเล่มนี้ ปิดท้ายด้วยเรื่อง 10 สุดยอดผักผลไม้เพื่อความงาม ก็จะมีผลไม้ที่ทั้งราคาแพงแล้วก็ไม่แพงอะค่ะ ที่พอรับได้ก็อย่างเช่นทับทิม องุ่น ฝรั่ง มะม่วงสุก ส้ม แครอท นอกจากนี้เราว่าอาจจะเป็นผลไม้ที่ราคาแพงเกินไป เป็นอีกเล่มที่คนรักสุขภาพน่าจะชอบนะคะ เพราะทั้งอร่อยด้วยสวยด้วยในเวลาเดียวกัน

Beauty drink เป็นหนังสือสุขภาพที่เน้นการสร้างสุขภาพจากการดื่มค่ะ จริงๆชื่อหนังสือก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นหนังสือแนวไหน หนังสือการกินเพื่อสุขภาพมีอยู่หลายเล่มมากๆ แต่ที่เลือกเอาเล่มนี้มารีวิวก็เพราะเป็นเครื่องดื่มค่ะ เราคิดคล้ายๆที่ผู้เขียนบอกไว้ว่าการดื่มน่าจะเป็นวิธีการนำสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าการกินด้วยวิธีอื่น อาหารประเภทเครื่องดื่มไม่ได้การปรุงแต่งมาก ไม่ผ่านความร้อนที่จะทำให้สารอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะพวกวิตามินสูญเสียไป อีกอย่างคือเครื่องดื่มเป็นอาหารที่หาวัตถุดิบมาทำง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถทำกินได้ทุกเวลา ราคาไม่แพง แต่อย่างไรก็ตามต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะด้วยนะคะ อย่าใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมมากเกินไป ไม่อย่างนั้นแทนที่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพจะกลายเป็นอาหารทำลายสุขภาพไปได้ ในบทที่ว่าด้วยสารอาหารที่เกี่ยวกับความงาม หลังจากอ่านบทนี้แล้วทำให้หายสงสัยเลยค่ะว่าเครื่องดื่มต่างๆนั้นสามารถช่วยในเรื่องของการเพิ่มความงามอย่างไร สารอาหารต่างๆที่มีอยู่มีประโยชน์ในด้านไหนต่อสุขภาพของเรา อย่างคอลลาเจนที่เราได้ยินกันบ่อยมาก หน้าที่ของคอลลาเจนเป็นอย่างไร ดีต่อสุขภาพแค่ไหน สามารถอ่านได้จากในเล่มนี้ ปิดท้ายด้วยเรื่อง 10 สุดยอดผักผลไม้เพื่อความงาม ก็จะมีผลไม้ที่ทั้งราคาแพงแล้วก็ไม่แพงอะค่ะ ที่พอรับได้ก็อย่างเช่นทับทิม องุ่น ฝรั่ง มะม่วงสุก ส้ม แครอท นอกจากนี้เราว่าอาจจะเป็นผลไม้ที่ราคาแพงเกินไป เป็นอีกเล่มที่คนรักสุขภาพน่าจะชอบนะคะ เพราะทั้งอร่อยด้วยสวยด้วยในเวลาเดียวกัน

คำถามแรกเลย ทำไมต้อง 30 วัน เราพยายามอ่านก็ยังงงอยู่ค่ะ อ่านไปอ่านมากลายเป็นว่าผู้เขียนกลับบอกว่าให้อ่านไปเรื่อยๆเพราะการเรียนก็เหมือนการค่อยๆเติมน้ำลงไปในแก้ว หากรีบเร่งเผลอๆแก้วอาจแตกหรือเสียหายได้ (งงไปกันใหญ่เลย) สำหรับเล่มนี้เป็นการรวบรวมคำศัพท์ให้เรามาท่องจำกันค่ะ เพียงแต่ว่าใส่เทคนิคเล็กๆน้อยๆลงไปเพื่อช่วยให้เราจำง่ายขึ้นและก็จำได้เยอะขึ้นค่ะ เทคนิคที่ว่าก็จะแบ่งออกเป็นสามส่วน ซึ่งส่วนแรกก็คือการจำศัพท์จากรากศัพท์ คือคำศัพท์หนึ่งคำจะประกอบด้วยคำที่มารวมกันประมาณสองหรือสามคำ เพราะฉะนั้นถ้าเราแยกคำออกมา เราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มอีกสองถึงสามคำ อย่างเช่นคำว่า Factory แปลว่าโรงงาน มาจากคำว่า Fact (ทำ) + Ory (สถานที่) = สถานที่ผลิตหรือทำสินค้า จะเห็นว่าวิธีจำศัพท์แบบนี้ทำให้เราจำง่ายแล้วก็ได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ต่อไปเป็นส่วนที่สอง คือศึกษาคำศัพท์จากประโยคตัวอย่าง ส่วนนี้จะเป็นการยกระดับความยากขึ้นมาหน่อยค่ะ คือเอาส่วนแรกมาสร้างเป็นประโยคยากๆ ยาวๆ เราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นแล้วก็ยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ส่วนสุดท้ายก็คือ คำศัพท์ที่ต้องรู้ต้องจำ ส่วนนี้ไม่มีเทคนิคอะไรมากค่ะ เพราะเป็นการรวบรวมคำศัพท์พร้อมคำแปลที่ผู้เขียนคิดว่าสำคัญและจำเป็นต้องรู้มาไว้ให้ผู้อ่านได้ท่องกันค่ะ เราว่าเป็นหนังสือที่โอเคในระดับหนึ่งเลยค่ะ เพราะสำหรับคนที่อยากจำศัพท์ให้ได้เยอะๆเพื่อเอาไปใช้ในการสอบสนามต่างๆ ด้วยเทคนิคที่ว่ามาน่าจะช่วยให้ผู้อ่านเก่งศัพท์ขึ้นได้อย่างแน่นอน

คำถามแรกเลย ทำไมต้อง 30 วัน เราพยายามอ่านก็ยังงงอยู่ค่ะ อ่านไปอ่านมากลายเป็นว่าผู้เขียนกลับบอกว่าให้อ่านไปเรื่อยๆเพราะการเรียนก็เหมือนการค่อยๆเติมน้ำลงไปในแก้ว หากรีบเร่งเผลอๆแก้วอาจแตกหรือเสียหายได้ (งงไปกันใหญ่เลย) สำหรับเล่มนี้เป็นการรวบรวมคำศัพท์ให้เรามาท่องจำกันค่ะ เพียงแต่ว่าใส่เทคนิคเล็กๆน้อยๆลงไปเพื่อช่วยให้เราจำง่ายขึ้นและก็จำได้เยอะขึ้นค่ะ เทคนิคที่ว่าก็จะแบ่งออกเป็นสามส่วน ซึ่งส่วนแรกก็คือการจำศัพท์จากรากศัพท์ คือคำศัพท์หนึ่งคำจะประกอบด้วยคำที่มารวมกันประมาณสองหรือสามคำ เพราะฉะนั้นถ้าเราแยกคำออกมา เราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มอีกสองถึงสามคำ อย่างเช่นคำว่า Factory แปลว่าโรงงาน มาจากคำว่า Fact (ทำ) + Ory (สถานที่) = สถานที่ผลิตหรือทำสินค้า จะเห็นว่าวิธีจำศัพท์แบบนี้ทำให้เราจำง่ายแล้วก็ได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ต่อไปเป็นส่วนที่สอง คือศึกษาคำศัพท์จากประโยคตัวอย่าง ส่วนนี้จะเป็นการยกระดับความยากขึ้นมาหน่อยค่ะ คือเอาส่วนแรกมาสร้างเป็นประโยคยากๆ ยาวๆ เราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นแล้วก็ยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ส่วนสุดท้ายก็คือ คำศัพท์ที่ต้องรู้ต้องจำ ส่วนนี้ไม่มีเทคนิคอะไรมากค่ะ เพราะเป็นการรวบรวมคำศัพท์พร้อมคำแปลที่ผู้เขียนคิดว่าสำคัญและจำเป็นต้องรู้มาไว้ให้ผู้อ่านได้ท่องกันค่ะ เราว่าเป็นหนังสือที่โอเคในระดับหนึ่งเลยค่ะ เพราะสำหรับคนที่อยากจำศัพท์ให้ได้เยอะๆเพื่อเอาไปใช้ในการสอบสนามต่างๆ ด้วยเทคนิคที่ว่ามาน่าจะช่วยให้ผู้อ่านเก่งศัพท์ขึ้นได้อย่างแน่นอน

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือคู่มือสอนภาษาให้กับเด็กๆ ให้เด็กๆสามารถพูดสื่อสารภาษาอังกฤษได้จากสภาพแวดล้อมค่ะ เป็นการสอนให้เด็กเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านการสื่อสารกับพ่อแม่ด้วยการฟังและการพูดเป็นหลัก ซึ่งผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงจากการสอนเด็กสองภาษาอยู่แล้ว แถมยังมีคุณพ่อคุณแม่อีกหลายคนมาช่วยกันการันตีอีกว่าทุกคนสามารถสอนลูกให้เก่งภาษาอังกฤษได้ แม้ตัวเองจะไม่เก่งภาษาอังกฤษก็ตาม หนังสืออธิบายวิธีการสอนเด็กสองภาษาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนดีค่ะ เริ่มจากการสอนวิธีการอ่านหนังสือเล่มนี้ก่อน เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับการสอนเด็กสองภาษา ส่วนต่อไปก็จะเป็นแบบฝึกหัดค่ะ ส่วนที่สามจะเป็นการรวบรวมคำศัพท์และประโยคสนทนาในชีวิตประจำวัน และส่วนที่สี่จะเป็นเรื่องเพลงมาตรฐานที่ควรนำไปฝึกร้อง ถ้าลองไล่อ่านไปทีละส่วนจะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าค่ะ โดยเฉพาะส่วนแรกเราว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นการสร้างพื้นฐานความเข้าใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เองก่อนที่จะเริ่มลงมือไปสอนลูกๆ เราว่าสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่มีพื้นฐานหรือข้อมูลเรื่องการฝึกเด็กสองภาษาเลย อ่านเล่มนี้เล่มเดียวก็จะเข้าใจแนวคิดวิธีการ และเทคนิค ในการสร้างเด็กสองภาษาทั้งหมด แล้วก็ค่อยไปเพิ่มเติมในส่วนของประโยคกับคำศัพท์ต่างๆเอาทีหลัง เป็นหนังสือที่รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความเข้าใจและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการสื่อสารภาษาอังกฤษกับลูกๆได้อย่างแน่นอนค่ะ เป็นอีกเล่มที่แนะนำเลยค่ะ ให้ 9 เต็ม 10 เลย ^^

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือคู่มือสอนภาษาให้กับเด็กๆ ให้เด็กๆสามารถพูดสื่อสารภาษาอังกฤษได้จากสภาพแวดล้อมค่ะ เป็นการสอนให้เด็กเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านการสื่อสารกับพ่อแม่ด้วยการฟังและการพูดเป็นหลัก ซึ่งผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงจากการสอนเด็กสองภาษาอยู่แล้ว แถมยังมีคุณพ่อคุณแม่อีกหลายคนมาช่วยกันการันตีอีกว่าทุกคนสามารถสอนลูกให้เก่งภาษาอังกฤษได้ แม้ตัวเองจะไม่เก่งภาษาอังกฤษก็ตาม หนังสืออธิบายวิธีการสอนเด็กสองภาษาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนดีค่ะ เริ่มจากการสอนวิธีการอ่านหนังสือเล่มนี้ก่อน เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับการสอนเด็กสองภาษา ส่วนต่อไปก็จะเป็นแบบฝึกหัดค่ะ ส่วนที่สามจะเป็นการรวบรวมคำศัพท์และประโยคสนทนาในชีวิตประจำวัน และส่วนที่สี่จะเป็นเรื่องเพลงมาตรฐานที่ควรนำไปฝึกร้อง ถ้าลองไล่อ่านไปทีละส่วนจะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าค่ะ โดยเฉพาะส่วนแรกเราว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นการสร้างพื้นฐานความเข้าใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เองก่อนที่จะเริ่มลงมือไปสอนลูกๆ เราว่าสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่มีพื้นฐานหรือข้อมูลเรื่องการฝึกเด็กสองภาษาเลย อ่านเล่มนี้เล่มเดียวก็จะเข้าใจแนวคิดวิธีการ และเทคนิค ในการสร้างเด็กสองภาษาทั้งหมด แล้วก็ค่อยไปเพิ่มเติมในส่วนของประโยคกับคำศัพท์ต่างๆเอาทีหลัง เป็นหนังสือที่รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความเข้าใจและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการสื่อสารภาษาอังกฤษกับลูกๆได้อย่างแน่นอนค่ะ เป็นอีกเล่มที่แนะนำเลยค่ะ ให้ 9 เต็ม 10 เลย ^^

ปกติเราเป็นคนชอบกินกล้วยอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง หรือว่ากล้วยประเภทไหนก็ตามกินได้หมด ต้องกินทุกวันจริงๆค่ะ อย่างน้อยวันละลูกสองลูก แต่กินแบบที่ยังไม่ได้เอามาทำเป็นเมนูอื่นๆนะคะ เพราะว่ากินง่าย หวานถูกปาก แล้วก็ให้พลังงานดีค่ะ ก่อนอ่านเล่มนี้ก็คิดว่ากล้วยคงนำมาแปรรูปเป็นอาหารได้ไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นอาหารจานหวานหรือไม่ก็พวกขนมต่างๆแต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเราต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองไปเลยค่ะ เราไม่คิดมาก่อนเลยว่ากล้วยจะสามารถนำมาทำเป็นกับข้าวอาหารคาวได้เหมือนกัน แถมยังอร่อยอีกด้วย ยกตัวอย่างเลยละกัน อย่างเช่น หัวปลีผัดขี้เมา ต้มหัวปลีกับปลาช่อน ต้มหยวกกล้วยกับวุ้นเส้น แกงกะทิไก่บ้านกับหยวกกล้วย แกงป่ากล้วยดิบ แกงกะทิซี่โครงหมูกล้วยดิบ ยำกล้วย ฯลฯ ในส่วนของเมนูของหวานก็มีเยอะค่ะ อย่างเช่น โยเกิร์ตนมถั่วเหลืองกล้วยกับมูสลี่ กล้วยหอมทอด กล้วยเชื่อมน้ำมะตูม กล้วยเคลือบคาราเมล กล้วยบวชชีแห้ง ฯลฯ สำหรับเราขอยกให้แกงกะทิไก่บ้านกับหยวกกล้วย เป็นเมนูเด็ดของเล่มนี้เลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่เราเคยลองกินแล้วก็ติดใจเลย ขอยกให้เป็นเมนูโปรดอีกหนึ่งเมนู แนะนำเลยสำหรับเล่มนี้ไม่อยากให้พลาด ไม่ว่าผู้อ่านจะอ่านไว้ทำกินเองที่บ้านหรือเปิดขายเป็นร้านอาหาร รับรองว่าได้เมนูน่ากิน รสชาติอร่อยไว้ติดบ้านติดร้านของคุณแน่นอน

ปกติเราเป็นคนชอบกินกล้วยอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง หรือว่ากล้วยประเภทไหนก็ตามกินได้หมด ต้องกินทุกวันจริงๆค่ะ อย่างน้อยวันละลูกสองลูก แต่กินแบบที่ยังไม่ได้เอามาทำเป็นเมนูอื่นๆนะคะ เพราะว่ากินง่าย หวานถูกปาก แล้วก็ให้พลังงานดีค่ะ ก่อนอ่านเล่มนี้ก็คิดว่ากล้วยคงนำมาแปรรูปเป็นอาหารได้ไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นอาหารจานหวานหรือไม่ก็พวกขนมต่างๆแต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเราต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองไปเลยค่ะ เราไม่คิดมาก่อนเลยว่ากล้วยจะสามารถนำมาทำเป็นกับข้าวอาหารคาวได้เหมือนกัน แถมยังอร่อยอีกด้วย ยกตัวอย่างเลยละกัน อย่างเช่น หัวปลีผัดขี้เมา ต้มหัวปลีกับปลาช่อน ต้มหยวกกล้วยกับวุ้นเส้น แกงกะทิไก่บ้านกับหยวกกล้วย แกงป่ากล้วยดิบ แกงกะทิซี่โครงหมูกล้วยดิบ ยำกล้วย ฯลฯ ในส่วนของเมนูของหวานก็มีเยอะค่ะ อย่างเช่น โยเกิร์ตนมถั่วเหลืองกล้วยกับมูสลี่ กล้วยหอมทอด กล้วยเชื่อมน้ำมะตูม กล้วยเคลือบคาราเมล กล้วยบวชชีแห้ง ฯลฯ สำหรับเราขอยกให้แกงกะทิไก่บ้านกับหยวกกล้วย เป็นเมนูเด็ดของเล่มนี้เลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่เราเคยลองกินแล้วก็ติดใจเลย ขอยกให้เป็นเมนูโปรดอีกหนึ่งเมนู แนะนำเลยสำหรับเล่มนี้ไม่อยากให้พลาด ไม่ว่าผู้อ่านจะอ่านไว้ทำกินเองที่บ้านหรือเปิดขายเป็นร้านอาหาร รับรองว่าได้เมนูน่ากิน รสชาติอร่อยไว้ติดบ้านติดร้านของคุณแน่นอน

ปลาเป็นอีกเมนูหนึ่งที่เป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคน ประโยชน์ของเมนูปลาน่าจะเป็นเรื่องของการที่ปลาเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพสูง แล้วที่สำคัญก็คือมีคอลเสเตอรอลต่ำ นอกจากนี้ประโยชน์ของปลาอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการเป็นอาหารบำรุงสมองชั้นยอด คนโบราณมักพูดกันมาเสมอว่า กินปลาแล้วจะฉลาด ถ้าจะให้อธิบายเป็นวิทยาศาสตร์หน่อยก็คือปลาจะมีสารอาหารจำพวก ดีเอชเอ อีพีเอ โอเมก้า 3 6 9 สารอาหารเหล่านี้ส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนเลือดและสมองค่ะ สำหรับหนังสือจานปลาบำรุงสมองเล่มนี้ เป็นหนังสือที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าอยากกินปลามากขึ้นเป็นสองเท่าค่ะ 555 เราลองทำเมนูที่หนังสือให้มา ต้องบอกเลยว่าชอบมาก เป็นรสชาติที่ถูกปากเราเลยค่ะ ในส่วนของความหลากหลายก็มีเมนูหลากหลายดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทอด ผัด ต้ม นึ่ง ฯลฯ ขอยกตัวอย่างซักหน่อยละกัน อย่างเช่น ปลาอินทรีทอดน้ำปลา แซลมอนชุบสาเก พะโล้ปลาเต้าหู้ ปลาทอดซอสมะขาม ปลาซอสสองสี ปลาอบมะเขือเทศ ปลาม้วนในซอสเนยมะนาว เต้าหู้สอดไส้ปลา ฯลฯ จริงๆแล้วอยากจะยกมาเขียนให้ครบทุกเมนูเลย เพราะน่ากินทุกเมนูจริงๆค่ะ 555 แต่ขอยกมาเท่าที่เคยลองทำก็แล้วกัน เอาเป็นว่าถ้าผู้อ่านเป็นคนรักสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกินเก่ง อดใจไม่ได้ที่จะต้องชิมเมนูแปลกๆ แนะนำเลยว่าลองเอาเมนูในเล่มนี้ไปทดลองทำดู ผู้อ่านจะได้สนุกกับการกิน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกินมากไปจนเสียสุขภาพแน่นอน

ปลาเป็นอีกเมนูหนึ่งที่เป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคน ประโยชน์ของเมนูปลาน่าจะเป็นเรื่องของการที่ปลาเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพสูง แล้วที่สำคัญก็คือมีคอลเสเตอรอลต่ำ นอกจากนี้ประโยชน์ของปลาอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการเป็นอาหารบำรุงสมองชั้นยอด คนโบราณมักพูดกันมาเสมอว่า กินปลาแล้วจะฉลาด ถ้าจะให้อธิบายเป็นวิทยาศาสตร์หน่อยก็คือปลาจะมีสารอาหารจำพวก ดีเอชเอ อีพีเอ โอเมก้า 3 6 9 สารอาหารเหล่านี้ส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนเลือดและสมองค่ะ สำหรับหนังสือจานปลาบำรุงสมองเล่มนี้ เป็นหนังสือที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าอยากกินปลามากขึ้นเป็นสองเท่าค่ะ 555 เราลองทำเมนูที่หนังสือให้มา ต้องบอกเลยว่าชอบมาก เป็นรสชาติที่ถูกปากเราเลยค่ะ ในส่วนของความหลากหลายก็มีเมนูหลากหลายดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทอด ผัด ต้ม นึ่ง ฯลฯ ขอยกตัวอย่างซักหน่อยละกัน อย่างเช่น ปลาอินทรีทอดน้ำปลา แซลมอนชุบสาเก พะโล้ปลาเต้าหู้ ปลาทอดซอสมะขาม ปลาซอสสองสี ปลาอบมะเขือเทศ ปลาม้วนในซอสเนยมะนาว เต้าหู้สอดไส้ปลา ฯลฯ จริงๆแล้วอยากจะยกมาเขียนให้ครบทุกเมนูเลย เพราะน่ากินทุกเมนูจริงๆค่ะ 555 แต่ขอยกมาเท่าที่เคยลองทำก็แล้วกัน เอาเป็นว่าถ้าผู้อ่านเป็นคนรักสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกินเก่ง อดใจไม่ได้ที่จะต้องชิมเมนูแปลกๆ แนะนำเลยว่าลองเอาเมนูในเล่มนี้ไปทดลองทำดู ผู้อ่านจะได้สนุกกับการกิน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกินมากไปจนเสียสุขภาพแน่นอน

ถ้าพูดถึงความสำคัญของการกินอาหารเช้า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่พูดกันมากเลยในเวลาที่เราพูดถึงเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพหรือว่าการบำรุงร่างกายให้มีพลังงานเพียงพอในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แต่ถึงแม้ว่าเราจะพูดกันมากว่าอาหารเช้ามีความสำคัญขนาดไหน หลายต่อหลายคนก็ยังคงละเลยการกินอาหารเช้าหรือว่าถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจละเลยแต่ด้วยข้อจำกัดของเวลาและหน้าที่การงานต่างๆก็อาจจะทำให้ไม่สามารถกินอาหารเช้าได้อย่างสม่ำเสมอในทุกๆวัน ในหนังสือเล่มนี้ก็จะมาย้ำให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความสำคัญของการกินอาหารเช้าค่ะ อย่างตัวเราเองเมื่ออ่านแล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องจริงเลยค่ะ เมื่อก่อนเรากินอาหารเช้าก่อนไปเรียนทุกวัน ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเรามีสมาธิกับการเรียนมาก สมองก็แล่นดี แต่พอมาช่วงหลังๆเราเริ่มไม่กินอาหารเช้า ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิ คิดอะไรไม่ค่อยออก เหมือนกับตัวเองไม่ค่อยมีพลัง เราอ่านหนังสือเล่มนี้เค้าบอกว่าเค้าเข้าใจว่าตอนเช้ามีเวลาจำกัดในการปรุงอาหาร ก็เลยแนะนำให้ลองทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ อย่างเช่นพวกข้าวต้มหรือว่าโจ๊ก แต่ตัวอย่างเมนูที่ยกมาให้ดูนี่อลังการเกือบทุกเมนูเลยค่ะ ^^ ไม่แน่ใจว่าอ่านแล้วจะทำกินทันมั้ย แต่ถ้ามองในแง่ดีก็อาจจะมองได้ว่าเอาไว้ทำกินเป็นอาหารเช้าในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ก็ได้ค่ะ หรืออาจจะทำไว้ตอนเย็นแล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้ พอเช้ามาก็แค่เอาออกมาอุ่นแป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว เป็นอีกเล่มที่แนะนำนะคะ ถ้าใครอยากหาเมนูที่พิเศษไปกว่าข้าวกับไข่เจียวในตอนเช้า

ถ้าพูดถึงความสำคัญของการกินอาหารเช้า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่พูดกันมากเลยในเวลาที่เราพูดถึงเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพหรือว่าการบำรุงร่างกายให้มีพลังงานเพียงพอในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แต่ถึงแม้ว่าเราจะพูดกันมากว่าอาหารเช้ามีความสำคัญขนาดไหน หลายต่อหลายคนก็ยังคงละเลยการกินอาหารเช้าหรือว่าถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจละเลยแต่ด้วยข้อจำกัดของเวลาและหน้าที่การงานต่างๆก็อาจจะทำให้ไม่สามารถกินอาหารเช้าได้อย่างสม่ำเสมอในทุกๆวัน ในหนังสือเล่มนี้ก็จะมาย้ำให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความสำคัญของการกินอาหารเช้าค่ะ อย่างตัวเราเองเมื่ออ่านแล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องจริงเลยค่ะ เมื่อก่อนเรากินอาหารเช้าก่อนไปเรียนทุกวัน ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเรามีสมาธิกับการเรียนมาก สมองก็แล่นดี แต่พอมาช่วงหลังๆเราเริ่มไม่กินอาหารเช้า ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิ คิดอะไรไม่ค่อยออก เหมือนกับตัวเองไม่ค่อยมีพลัง เราอ่านหนังสือเล่มนี้เค้าบอกว่าเค้าเข้าใจว่าตอนเช้ามีเวลาจำกัดในการปรุงอาหาร ก็เลยแนะนำให้ลองทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ อย่างเช่นพวกข้าวต้มหรือว่าโจ๊ก แต่ตัวอย่างเมนูที่ยกมาให้ดูนี่อลังการเกือบทุกเมนูเลยค่ะ ^^ ไม่แน่ใจว่าอ่านแล้วจะทำกินทันมั้ย แต่ถ้ามองในแง่ดีก็อาจจะมองได้ว่าเอาไว้ทำกินเป็นอาหารเช้าในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ก็ได้ค่ะ หรืออาจจะทำไว้ตอนเย็นแล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้ พอเช้ามาก็แค่เอาออกมาอุ่นแป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว เป็นอีกเล่มที่แนะนำนะคะ ถ้าใครอยากหาเมนูที่พิเศษไปกว่าข้าวกับไข่เจียวในตอนเช้า

เสน่ห์ของอาหารปักษ์ใต้ ก็คือความจัดจ้านและความเข้มข้นของอาหารใช่มั้ยคะ เพราะอย่างนี้ก็เลยเป็นที่ถูกปากของคนไทยทั่วทุกภาค ถ้าพูดถึงร้านข้าวแกง ถ้ามีคำว่าปักษ์ใต้ต่อท้ายนี่ก็จะทำให้น่ากิน น่าดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า นอกจากนี้เรื่องของเครื่องเคียงที่เป็นผักประเภทต่างๆ การกินอาหารใต้ก็เหมือนกับเราได้กินผักและสมุนไพรต่างๆไปด้วย ในหนังสือจะเริ่มจากการเล่าที่มาความอร่อยของอาหารใต้ซึ่งแน่นอนว่าต้องเริ่มจากส่วนผสมสำคัญก็คือพริกแกงกับกะปิ ตามด้วยผักซึ่งเป็นเครื่องเคียงซึ่งเราชอบมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักพื้นบ้านอย่างเช่น สะตอ ลูกเหรียง ลูกเนียง เป็นต้น สำหรับคนที่ไม่รู้จักก็สามารถอ่านลักษณะและประโยชน์ของผักเหล่านี้ได้จากในหนังสือค่ะ มาที่ส่วนของเมนูต่างๆบ้าง เราแอบผิดหวังนิดหน่อยเพราะอยากให้มีเมนูแนะนำมากกว่านี้ เพราะจะว่าไปอาหารใต้ก็มีเมนูอร่อยๆเยอะนะคะ แต่ในหนังสือจะแนะนำไว้ประมาณ 50 เมนู อย่างเช่นน้ำพริกกุ้งเสียบผัดแห้ง ข้าวคลุกน้ำพริกระกำ แกงปูใบชะพลูกับเส้นหมี่ลวก ใบเหลียงผัดไข่กับมะเขือเทศและกุ้งเสียบ ปลาทอดขมิ้น คั่วกลิ้ง ปลาหมึกต้มหวาน แกงป่าปลากรายกับใบยี่หร่า ปลาเก๋าต้มเต้าเจี้ยว แกงเทโพผักบุ้งกับยอดมะขาม ฯลฯ ถึงแม้เมนูจะน้อยไปสำหรับเรา แต่ในเรื่องของความน่ากินและความอร่อยต้องให้ 9 เต็ม 10 เลยค่ะ รสชาติเผ็ดจัดจ้านในแบบอาหารใต้แท้ๆ ถ้าได้ลองทำลองชิมแล้วรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ เป็นอีกเล่มหนึ่งที่แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบอาหารแนวนี้ ไม่ว่าจะทำกินเองหรือทำขายก็คุ้มค่ะ

เสน่ห์ของอาหารปักษ์ใต้ ก็คือความจัดจ้านและความเข้มข้นของอาหารใช่มั้ยคะ เพราะอย่างนี้ก็เลยเป็นที่ถูกปากของคนไทยทั่วทุกภาค ถ้าพูดถึงร้านข้าวแกง ถ้ามีคำว่าปักษ์ใต้ต่อท้ายนี่ก็จะทำให้น่ากิน น่าดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า นอกจากนี้เรื่องของเครื่องเคียงที่เป็นผักประเภทต่างๆ การกินอาหารใต้ก็เหมือนกับเราได้กินผักและสมุนไพรต่างๆไปด้วย ในหนังสือจะเริ่มจากการเล่าที่มาความอร่อยของอาหารใต้ซึ่งแน่นอนว่าต้องเริ่มจากส่วนผสมสำคัญก็คือพริกแกงกับกะปิ ตามด้วยผักซึ่งเป็นเครื่องเคียงซึ่งเราชอบมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักพื้นบ้านอย่างเช่น สะตอ ลูกเหรียง ลูกเนียง เป็นต้น สำหรับคนที่ไม่รู้จักก็สามารถอ่านลักษณะและประโยชน์ของผักเหล่านี้ได้จากในหนังสือค่ะ มาที่ส่วนของเมนูต่างๆบ้าง เราแอบผิดหวังนิดหน่อยเพราะอยากให้มีเมนูแนะนำมากกว่านี้ เพราะจะว่าไปอาหารใต้ก็มีเมนูอร่อยๆเยอะนะคะ แต่ในหนังสือจะแนะนำไว้ประมาณ 50 เมนู อย่างเช่นน้ำพริกกุ้งเสียบผัดแห้ง ข้าวคลุกน้ำพริกระกำ แกงปูใบชะพลูกับเส้นหมี่ลวก ใบเหลียงผัดไข่กับมะเขือเทศและกุ้งเสียบ ปลาทอดขมิ้น คั่วกลิ้ง ปลาหมึกต้มหวาน แกงป่าปลากรายกับใบยี่หร่า ปลาเก๋าต้มเต้าเจี้ยว แกงเทโพผักบุ้งกับยอดมะขาม ฯลฯ ถึงแม้เมนูจะน้อยไปสำหรับเรา แต่ในเรื่องของความน่ากินและความอร่อยต้องให้ 9 เต็ม 10 เลยค่ะ รสชาติเผ็ดจัดจ้านในแบบอาหารใต้แท้ๆ ถ้าได้ลองทำลองชิมแล้วรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ เป็นอีกเล่มหนึ่งที่แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบอาหารแนวนี้ ไม่ว่าจะทำกินเองหรือทำขายก็คุ้มค่ะ

ความหมายของคำว่าศัพท์ประหลาดบุกก็คือการรวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายแปลกๆ พิสดารมาให้ผู้อ่านได้อ่านกัน เป็นคำศัพท์ที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยหรืออาจจะคุ้นเคยในความหมายหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วยังมีอีกความหมายที่น่าแปลกใจด้วย ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่ความแปลกของคำศัพท์เท่านั้นนะคะ แต่ยังน่าสนใจตรงที่เรื่องราวที่ผู้เขียนนำมาเล่าให้ฟังเพื่ออธิบายถึงที่มาที่ไปของคำศัพท์นั้นๆ บางเรื่องก็สนุกอ่านแล้วอมยิ้มได้เหมือนกันอย่างที่ผู้เขียนได้บอกไว้ว่า เราไม่ต้องไปถึงเมืองนอกเมืองนาด้วยตัวเองก็สามารถเรียนรู้คำศัพท์แปลกๆใหม่ๆ ในแบบที่เจ้าของภาษาเค้าใช้กันจริงๆ คำศัพท์ที่รวบรวมมาค่อนข้างหลากหลายค่ะ จัดหมวดหมู่ไม่ถูกเลย เรียกว่าตามใจผู้เขียนเลยก็ว่าได้ เหมือนกับว่าผู้เขียนไปเจอเหตุการณ์อะไรมาตอนอยู่เมืองนอกแล้วเกิดมีคำศัพท์แปลกๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ผู้เขียนก็จะนำมาเล่ามาอธิบายให้ฟังเรียกว่าบางทีก็แปลกทั้งเหตุการณ์ที่เจอแล้วก็แปลกทั้งความหมายของคำศัพท์ ที่สำคัญคือทุกคำมาจากสถานการณ์จริง มาจากการใช้งานจริงๆ ของเจ้าของภาษาในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นรับรองได้ว่าถ้ารู้ไว้มีประโยชน์แน่นอน ดีกว่าที่ต้องมานั่งท่องศัพท์ยากๆ ที่ไม่รู้จะได้ใช้ไหม หรือบางคำก็อาจจะไม่นิยมใช้หรือเลิกใช้กันไปแล้วด้วยซ้ำ ศัพท์ในหนังสือเล่มนี้จึงเป็นคำศัพท์ในแบบภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียนค่ะ ถ้าจะเน้นท่องเพื่อเอาไปใช้ในการตอบข้อสอบในสนามสอบต่างๆอาจจะยังไม่เหมาะนะคะ แต่ถ้าเน้นท่องเพื่อนำไปใช้สื่อสาร อันนี้ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

ความหมายของคำว่าศัพท์ประหลาดบุกก็คือการรวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายแปลกๆ พิสดารมาให้ผู้อ่านได้อ่านกัน เป็นคำศัพท์ที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยหรืออาจจะคุ้นเคยในความหมายหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วยังมีอีกความหมายที่น่าแปลกใจด้วย ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่ความแปลกของคำศัพท์เท่านั้นนะคะ แต่ยังน่าสนใจตรงที่เรื่องราวที่ผู้เขียนนำมาเล่าให้ฟังเพื่ออธิบายถึงที่มาที่ไปของคำศัพท์นั้นๆ บางเรื่องก็สนุกอ่านแล้วอมยิ้มได้เหมือนกันอย่างที่ผู้เขียนได้บอกไว้ว่า เราไม่ต้องไปถึงเมืองนอกเมืองนาด้วยตัวเองก็สามารถเรียนรู้คำศัพท์แปลกๆใหม่ๆ ในแบบที่เจ้าของภาษาเค้าใช้กันจริงๆ คำศัพท์ที่รวบรวมมาค่อนข้างหลากหลายค่ะ จัดหมวดหมู่ไม่ถูกเลย เรียกว่าตามใจผู้เขียนเลยก็ว่าได้ เหมือนกับว่าผู้เขียนไปเจอเหตุการณ์อะไรมาตอนอยู่เมืองนอกแล้วเกิดมีคำศัพท์แปลกๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ผู้เขียนก็จะนำมาเล่ามาอธิบายให้ฟังเรียกว่าบางทีก็แปลกทั้งเหตุการณ์ที่เจอแล้วก็แปลกทั้งความหมายของคำศัพท์ ที่สำคัญคือทุกคำมาจากสถานการณ์จริง มาจากการใช้งานจริงๆ ของเจ้าของภาษาในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นรับรองได้ว่าถ้ารู้ไว้มีประโยชน์แน่นอน ดีกว่าที่ต้องมานั่งท่องศัพท์ยากๆ ที่ไม่รู้จะได้ใช้ไหม หรือบางคำก็อาจจะไม่นิยมใช้หรือเลิกใช้กันไปแล้วด้วยซ้ำ ศัพท์ในหนังสือเล่มนี้จึงเป็นคำศัพท์ในแบบภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียนค่ะ ถ้าจะเน้นท่องเพื่อเอาไปใช้ในการตอบข้อสอบในสนามสอบต่างๆอาจจะยังไม่เหมาะนะคะ แต่ถ้าเน้นท่องเพื่อนำไปใช้สื่อสาร อันนี้ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

สำหรับถึงเจ็บก็ไม่ป่วย ผู้เขียนบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเสมือนยาทางใจ ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ให้ทุเลา หมายความว่าเป็นหนังสือแนวจิตวิทยาทีช่วยปรับจิตใจหรือว่าทัศนคติของผู้ป่วยหรือคนที่กำลังเผชิญอยู่กับความทุกข์ให้สามารถอยู่ร่วมกับความทุกข์หรือก้าวผ่านความทุกข์ไปได้ เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆค่ะ ไม่เครียด ไม่หนักมาก ครอบคลุมเนื้อหารอบด้านพอสมควร อย่างเช่นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บทางกาย ทางใจ โรคเกี่ยวกับสมอง ความชรา ไอคิว ครอบครัว การแต่งงาน ฯลฯ ที่สำคัญคือเป็นเรื่องใกล้ตัว อ่านแล้วเห็นภาพ แล้วก็รู้สึกว่ามีความเชื่อมโยง สามารถนำไปใช้ได้จริง ผู้เขียนไม่ได้มาสอนหรือแนะนำในแบบหนังสือคู่มือสุขภาพนะคะ แต่จะเขียนในทำนองการชวนผู้อ่านคุยและคิดตามไปกับผู้เขียนมากกว่าค่ะ วิธีนี้ก็อย่างที่บอกค่ะว่าทำให้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อ ผู้อ่านจะได้ใช้ความคิดของตัวเองประกอบกับข้อมูลที่ผู้เขียนให้มา นอกจากนี้คือเรื่องของการให้กำลังใจ อย่างคุณลุงคุณป้า อ่านแล้วก็ทำให้มีกำลังในการใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายได้ดีเลยค่ะ อย่างที่บอกไปว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือคู่มือสุขภาพ แต่จะเป็นการรวบรวมบทความต่างๆมารวมเล่มไว้ให้อ่านกัน เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่อยากอ่านอะไรที่ตรงประเด็น เข้าเรื่องเลยก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ค่ะ อ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าเยิ่นเย้อไปหน่อย ไม่เข้าเรื่องซักที น่าเบื่อ ประมาณนั้น แนะนำว่าถ้าอยากอ่านหนังสือคู่มือสุขภาพ ถึงเจ็บก็ไม่ป่วยเล่มนี้ไม่ใช่คำตอบค่ะ ลองหาเล่มอื่นอ่านน่าจะดีกว่า 555

สำหรับถึงเจ็บก็ไม่ป่วย ผู้เขียนบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเสมือนยาทางใจ ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ให้ทุเลา หมายความว่าเป็นหนังสือแนวจิตวิทยาทีช่วยปรับจิตใจหรือว่าทัศนคติของผู้ป่วยหรือคนที่กำลังเผชิญอยู่กับความทุกข์ให้สามารถอยู่ร่วมกับความทุกข์หรือก้าวผ่านความทุกข์ไปได้ เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆค่ะ ไม่เครียด ไม่หนักมาก ครอบคลุมเนื้อหารอบด้านพอสมควร อย่างเช่นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บทางกาย ทางใจ โรคเกี่ยวกับสมอง ความชรา ไอคิว ครอบครัว การแต่งงาน ฯลฯ ที่สำคัญคือเป็นเรื่องใกล้ตัว อ่านแล้วเห็นภาพ แล้วก็รู้สึกว่ามีความเชื่อมโยง สามารถนำไปใช้ได้จริง ผู้เขียนไม่ได้มาสอนหรือแนะนำในแบบหนังสือคู่มือสุขภาพนะคะ แต่จะเขียนในทำนองการชวนผู้อ่านคุยและคิดตามไปกับผู้เขียนมากกว่าค่ะ วิธีนี้ก็อย่างที่บอกค่ะว่าทำให้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อ ผู้อ่านจะได้ใช้ความคิดของตัวเองประกอบกับข้อมูลที่ผู้เขียนให้มา นอกจากนี้คือเรื่องของการให้กำลังใจ อย่างคุณลุงคุณป้า อ่านแล้วก็ทำให้มีกำลังในการใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายได้ดีเลยค่ะ อย่างที่บอกไปว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือคู่มือสุขภาพ แต่จะเป็นการรวบรวมบทความต่างๆมารวมเล่มไว้ให้อ่านกัน เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่อยากอ่านอะไรที่ตรงประเด็น เข้าเรื่องเลยก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ค่ะ อ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าเยิ่นเย้อไปหน่อย ไม่เข้าเรื่องซักที น่าเบื่อ ประมาณนั้น แนะนำว่าถ้าอยากอ่านหนังสือคู่มือสุขภาพ ถึงเจ็บก็ไม่ป่วยเล่มนี้ไม่ใช่คำตอบค่ะ ลองหาเล่มอื่นอ่านน่าจะดีกว่า 555

เมนูข้าวต้มเป็นหนึ่งในเมนูที่เราชอบกินค่ะ ในหนึ่งสัปดาห์ต้องมีซักวันหรือสองวันที่เราต้องไปนั่งกินร้านข้าวต้ม คงเป็นเพราะเราติดใจในความหลากหลายของเมนู แล้วก็ราคาที่ไม่แพงจนเกินไปมั้งคะ ในหนังสือเล่มนี้จะเริ่มด้วยการให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้าวต้มโต้รุ่งค่ะ อย่างเช่น ความเป็นมาของร้านข้าวต้ม ข้าวต้มโต้รุ่ง ข้าวต้มรอบดึก จนไปถึงร้านข้าวต้มที่กลายมาเป็นข้าวต้มบวกอาหารตามสั่ง ลักษณะของอาหารและเมนูอาหารอย่างเช่น การผัดผักบุ้ง การลวกหอยแครง การทอดหมูกรอบ และการต้มข้าวต้มให้น่ากิน ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้เทคนิคเยอะดีค่ะ มีประโยชน์สำหรับคนที่อยากทำกินเอง หรือว่าอยากเปิดร้านอาหาร นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องร้านข้าวต้มในตำนานร้านหนึ่งอย่างร้านซ้งเป็ดพะโล้ ซึ่งจะมาเล่าถึงที่มาและประวัติความเป็นมาของร้าน คำแนะนำเล็กๆน้อยๆในการเปิดร้านข้าวต้มเป็นของตัวเอง อ่านแล้วก็ได้ความรู้ดีค่ะ มาในส่วนของเมนูกันบ้าง ในหนังสือก็จะมีเมนูให้เลือกกว่า 50 เมนูค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมนูทั่วๆไปที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เวลาที่เราไปกินอาหารตามร้านข้าวต้มต่างๆ อย่างเช่นยำสามกรอบ ยำไส้ตัน หมูกรอบ หมูผัดหนำเลียบ หมูสับผัดไข่เค็ม ซี่โครงหมู ปลากะพงทอดน้ำปลา ผัดขึ้นฉ่าย ผัดผักบุ้งไฟแดง ฯลฯ ในส่วนของรสชาติเราว่ายังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ค่ะเทียบกับรสชาติของร้านที่เราไปกินประจำยังไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่อร่อยนะคะ อร่อยไม่อร่อยคงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า สำหรับเราเล่มนี้น่าจะเหมาะกับคนที่อยากได้สูตรไว้ทำกินง่ายๆที่บ้านมากกว่าค่ะ

เมนูข้าวต้มเป็นหนึ่งในเมนูที่เราชอบกินค่ะ ในหนึ่งสัปดาห์ต้องมีซักวันหรือสองวันที่เราต้องไปนั่งกินร้านข้าวต้ม คงเป็นเพราะเราติดใจในความหลากหลายของเมนู แล้วก็ราคาที่ไม่แพงจนเกินไปมั้งคะ ในหนังสือเล่มนี้จะเริ่มด้วยการให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้าวต้มโต้รุ่งค่ะ อย่างเช่น ความเป็นมาของร้านข้าวต้ม ข้าวต้มโต้รุ่ง ข้าวต้มรอบดึก จนไปถึงร้านข้าวต้มที่กลายมาเป็นข้าวต้มบวกอาหารตามสั่ง ลักษณะของอาหารและเมนูอาหารอย่างเช่น การผัดผักบุ้ง การลวกหอยแครง การทอดหมูกรอบ และการต้มข้าวต้มให้น่ากิน ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้เทคนิคเยอะดีค่ะ มีประโยชน์สำหรับคนที่อยากทำกินเอง หรือว่าอยากเปิดร้านอาหาร นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องร้านข้าวต้มในตำนานร้านหนึ่งอย่างร้านซ้งเป็ดพะโล้ ซึ่งจะมาเล่าถึงที่มาและประวัติความเป็นมาของร้าน คำแนะนำเล็กๆน้อยๆในการเปิดร้านข้าวต้มเป็นของตัวเอง อ่านแล้วก็ได้ความรู้ดีค่ะ มาในส่วนของเมนูกันบ้าง ในหนังสือก็จะมีเมนูให้เลือกกว่า 50 เมนูค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมนูทั่วๆไปที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เวลาที่เราไปกินอาหารตามร้านข้าวต้มต่างๆ อย่างเช่นยำสามกรอบ ยำไส้ตัน หมูกรอบ หมูผัดหนำเลียบ หมูสับผัดไข่เค็ม ซี่โครงหมู ปลากะพงทอดน้ำปลา ผัดขึ้นฉ่าย ผัดผักบุ้งไฟแดง ฯลฯ ในส่วนของรสชาติเราว่ายังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ค่ะเทียบกับรสชาติของร้านที่เราไปกินประจำยังไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่อร่อยนะคะ อร่อยไม่อร่อยคงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า สำหรับเราเล่มนี้น่าจะเหมาะกับคนที่อยากได้สูตรไว้ทำกินง่ายๆที่บ้านมากกว่าค่ะ

สำหรับหนังสืออบอร่อยเล่มนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังสือสารพัดความรู้เกี่ยวกับเมนูอบและสารพัดเมนูอบเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ทั่วไปแล้วก็เรื่องเมนูที่เอามาเป็นตัวอย่างนั้น ต้องบอกว่าเยอะจริงๆ อ่านเล่มนี้จบก็แทบจะอิ่มจนไม่อยากจะลุกขึ้นไปทำอาหารกินแล้ว 555 เริ่มกันที่เมนูก่อนละกันค่ะ ก็จะมีเมนูกุ้ง ไก่ หมู ข้าว เนื้อปลา เป็ด แล้วก็หอยค่ะ ในส่วนเมนูน่ากินที่เราลองทำแล้วก็อย่างเช่น หอยตลับอบซอสเซี่ยงไฮ้ เป็ดอบน้ำผึ้งมะนาว ปลากะพงอบซอสโหระพา ข้าวอบเผือก ไก่อบแบบไทย แล้วก็กุ้งอบพริกเกลือค่ะ ในส่วนของความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารจานอบนั้น อย่างที่บอกว่าอัดแน่นเลยค่ะ เริ่มกันตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบที่เป็นเนื้อประเภทต่างๆว่าจะต้องเลือกซื้อโดยดูจากอะไรบ้าง การเตรียมวัตถุดิบ หลักการอบ วิธีการอบและเทคนิคการอบเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ อ่านจบแล้วแทบจะกลายเป็นมือโปรเรื่องการอบกันเลยทีเดียว ^^ แต่ปัญหาสำหรับเมนูจานอบก็คือเรื่องของเตาอบนี่แหละค่ะ ที่บ้านเราก็ไม่ได้มีเตาอบไฮโซมากมาย ก็เลยไม่รู้ว่าที่ลองทำออมาแล้วจะได้รสชาติผ่านมาตรฐานตามหนังสือรึเปล่า แต่ถ้าบ้านใครมีเตาอบดีๆอันนี้ก็คงหมดห่วงค่ะ แต่อย่างไรก็ตามเตาอบธรรมดาก็น่าจะพอใช้ได้นะคะ ถ้าเน้นทำกินเองอย่างที่เราทำก็ถือว่าอร่อยเลยค่ะ ลองใช้ไอเดียปรับเปลี่ยนสูตรเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้ได้เมนูรสชาติถูกปากแล้ว แนะนำให้ซื้อไปลองอ่านดูค่ะ สำหรับใครที่ชอบอาหารประเภทนี้

สำหรับหนังสืออบอร่อยเล่มนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังสือสารพัดความรู้เกี่ยวกับเมนูอบและสารพัดเมนูอบเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ทั่วไปแล้วก็เรื่องเมนูที่เอามาเป็นตัวอย่างนั้น ต้องบอกว่าเยอะจริงๆ อ่านเล่มนี้จบก็แทบจะอิ่มจนไม่อยากจะลุกขึ้นไปทำอาหารกินแล้ว 555 เริ่มกันที่เมนูก่อนละกันค่ะ ก็จะมีเมนูกุ้ง ไก่ หมู ข้าว เนื้อปลา เป็ด แล้วก็หอยค่ะ ในส่วนเมนูน่ากินที่เราลองทำแล้วก็อย่างเช่น หอยตลับอบซอสเซี่ยงไฮ้ เป็ดอบน้ำผึ้งมะนาว ปลากะพงอบซอสโหระพา ข้าวอบเผือก ไก่อบแบบไทย แล้วก็กุ้งอบพริกเกลือค่ะ ในส่วนของความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารจานอบนั้น อย่างที่บอกว่าอัดแน่นเลยค่ะ เริ่มกันตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบที่เป็นเนื้อประเภทต่างๆว่าจะต้องเลือกซื้อโดยดูจากอะไรบ้าง การเตรียมวัตถุดิบ หลักการอบ วิธีการอบและเทคนิคการอบเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ อ่านจบแล้วแทบจะกลายเป็นมือโปรเรื่องการอบกันเลยทีเดียว ^^ แต่ปัญหาสำหรับเมนูจานอบก็คือเรื่องของเตาอบนี่แหละค่ะ ที่บ้านเราก็ไม่ได้มีเตาอบไฮโซมากมาย ก็เลยไม่รู้ว่าที่ลองทำออมาแล้วจะได้รสชาติผ่านมาตรฐานตามหนังสือรึเปล่า แต่ถ้าบ้านใครมีเตาอบดีๆอันนี้ก็คงหมดห่วงค่ะ แต่อย่างไรก็ตามเตาอบธรรมดาก็น่าจะพอใช้ได้นะคะ ถ้าเน้นทำกินเองอย่างที่เราทำก็ถือว่าอร่อยเลยค่ะ ลองใช้ไอเดียปรับเปลี่ยนสูตรเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้ได้เมนูรสชาติถูกปากแล้ว แนะนำให้ซื้อไปลองอ่านดูค่ะ สำหรับใครที่ชอบอาหารประเภทนี้