Customer Reviews

เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ พระสนมเอก ๕ แผ่นดิน
5
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 02 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

กำไลมาศชาตินพคุณแท้
ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นยอมยืนสี
เหมือนใจจงตรงคำร่ำพาที
จะร้ายดีขอให้เห็นเป็นเสี่ยงทาย

ตาปูทองสองดอกตอกสลัก
ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย
แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย
เมื่อใดวายสวาทดิ์วอดจึงถอดเอย

ครั้งแรกที่ผมเห็นกลอนนี้ มาจากบทความในเพจ "คลังประวัติศาสตร์ไทยครับ" เมื่อเห็นกลอนสองบาทสุดท้ายนี้ นาทีแรกที่ผมคิดคือ เห้ย นี่มันกลอนในหนังสือ "อย่าลืมฉัน" นี่นา ทำไมมันถึงมาขึ้นเป็นบทความในนี้ได้ ผมจึงเข้าไปอ่านต่อครับ

กลอนบทนี้เป็นกลอนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้จารึกไว้ในกำไลมาศ ที่พระราชทานให้กับ หม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์
หรือ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5 เมื่ออ่านบทความจบแล้ว ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ยังมีประวัติศาสตร์ที่เราไม่รู้อีกเยอะ วันนั้นจึงได้ตัดสินใจไปเดินที่ร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งครับ แล้วไม่รู้ยังไง ผมก็ได้มาเจอหนังสือเล่มนี้แบบบังเอิญครับ

ถ้าเป็นคนไม่สนใจประวัติศาสตร์ ผมคงไม่รู้เลยว่า ในหลวงรัชกาลที่ 5 จะมีพระสนมเอกที่จงรักภักดีต่อท่านมากที่สุดถึงเพียงนี้ ผมเคยอ่านเจอมาว่า ในหลวงรัชกาลที่ 5 มีพระภรรยาเจ้าพระสนมเยอะมาก แต่ไม่มีท่านไหนที่ผมอ่านแล้วจะประทับใจเท่ากับเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับครับ

โดยหนังสือจะเล่าถึงความเป็นมาของม.ร.ว.สดับ ลดาวัลย์ตั้งแต่วัยเยาว์ ไปจนถึงการถวายตัวรับใช้สนองพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 5 ในช่วงแรกครับ (ผมไม่ค่อยแม่นคำราชาศัพท์ ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ)

ต่อมาเป็นเรื่องราวชีวิตของท่านในวังหลวง ด้วยความที่ท่านอายุยังน้อย (น่าจะ 17 ปีนะครับ) แต่ได้ขึ้นเป็นถึงเจ้าจอม ทำให้มีผู้ที่อิจฉาริษยาท่านเป็นจำนวนมาก บ้างก็กล่าวหาท่าน ทำให้ท่านคิดฆ่าตัวตายด้วยการกินน้ำยาล้างรูป แต่หมอช่วยไว้ได้ทัน

เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 5 สวรรคต ท่านมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ทำให้ใครต่อใครต่างพากันมองท่านไปในทางไม่ดี บ้างก็ว่าท่านอาจจะมีชายอื่นบ้าง ด้วยอายุยังน้อยและได้ของพระราชทานไปเยอะ ท่านจึงได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณอย่างแน่วแน่ว่า จะไม่รักผู้ชายอื่นตลอดชีวิต และท่านก็ได้ถวายของพระราชทานคืนทุกอย่าง ยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือ "กำไลมาศ" เท่านั้นครับ และหลังจากนั้นท่านจึงได้ไปบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 5 จนกระทั่งเข้าสู่บั้นปลายชีวิต ท่านจึงได้กลับคืนมาอยู่ในพระบรมมหาราชวังอีกครั้ง ด้วยพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตราบจนสิ้นชีวิต

ผมอยากให้ทุกท่านลองอ่านหนังสือเล่มนี้กันครับ ทั้งสนุก และซาบซึ้งใจในความจงรักภักดีของเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 5 มาก ๆ ครับ ผมอาจจะสปอยล์หนังสือเล่มนี้มากไปบ้างนิดนึง แต่รับรองครับว่า ถึงคุณจะอ่านการรีวิวกึ่งสปอยล์ของผมไปแล้ว แต่เมื่อไปอ่านหนังสือ คุณจะไม่เสียอรรถรสในการอ่านแน่นอนครับ
แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรจากนรก
3
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 02 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้เขียน วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์
สำนักพิมพ์ ปั๊ม พับลิชชิ่ง
จำนวนหน้าหนังสือ 144 หน้า

ฆาตกรสะเทือนโลกที่ก่อคดีในกรุงลอนดอน ช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งส่วนมากล้วนเป็นหญิงโสเภณีในย่านไวท์ชาเพล แหล่งสลัมเสื่อมโทรมในเขตอีสต์เอนด์ เป็นการฆาตกรรมที่เหี้ยมโหด ทุกศพล้วนใช้ของมีคมเชือดเฉือนคอ และยังไม่พอ มันยังผ่าคว้านเอาอวัยวะออกไปด้วย ทำให้ตำรวจลอนดอนช็อกกับสภาพศพที่เห็น หลังจากนั้นตำรวจต่างเสาะสืบหาฆาตกร ได้แต่สงสัยก็ไม่อาจอาจจะจับใครได้ มิหนำซ้ำคดีฆาตกรรมกลับเพิ่มมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วเมืองลอนดอน ตำรวจได้ระดมความสามารถออกสืบเสาะหาเจ้าวายร้ายรายนี้มาเป็นเวลานาน แต่ทุกครั้งก็คว้าน้ำเหลว แม้หลายครั้งได้จับคนที่คิดว่าเป็นฆาตกร ครั้นเมื่อสืบสวนไต่สวนแล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่ สร้างความปวดเศียรเวียนกล้าให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นอย่างมาก หลายศพได้ผ่านเข้ามาอย่างเนื่อง มันเป็นสิ่งท้าทายตำรวจอย่างมาก พิสูจน์ความเก่งกล้าว่าใครเก่งกว่ากัน ใครเหนื่อยกว่ากัน...มันเป็นฆาตกรโรคจิต เป็นฆาตกรอัจฉริยะ ที่ไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานใดๆ ไว้ให้เห็น...

หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อของ แจ๊ค เดอะริปเปอร์มาบ้างแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะเคยอ่านประวัติของเขา หลาย ๆ คนอาจจะเคยดูหนังของเขา และหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินแต่ชื่อของเขา ซึ่งแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์นี้ คือฆาตกรลูกโซ่ชื่อดังในช่วงปีค.ศ.1888 ในกรุงลอนดอนครับ

ผมเคยอ่านประวัติของแจ๊ค เดอะริปเปอร์มาก่อนบ้าง จากเว็บเด็กดีที่เขียนโดยคุณ Cammy เมื่อมาอ่านเล่มนี้ก็พบว่า ผู้เขียนเป็นคนมีความรู้มากทีเดียวครับ สามารถให้รายละเอียดในส่วนที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน และไม่สามารถหาอ่านจากที่ไหนได้ด้วย

หนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของ แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่ที่มาที่ไป วิธีการเลือกเหยื่อและฆ่าเหยื่อ (สยองมากครับ อ่านแล้วเสียวที่ท้องเบา ๆ) ไปจนถึงเรื่องจริงไม่น่าเชื่อ (ถ้าเทียบกับปัจจุบันผมเชื่อแล้วครับ) ที่แจ๊ค เดอะริปเปอร์ ส่งจดหมายไปกวนโทสะตำรวจถึงที่ แต่ตำรวจไม่สามารถตามล่าหาตัวฆาตกรรายนี้ (ตัวจริงนะครับ) มาลงโทษได้ ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่าตำรวจในยคนั้นก็คงจะหน้าแหกเหมือนกันที่โดนเยาะเย้ยขนาดนั้น ถึงได้ออกตามล่าตัวฆาตกรลูกโซ่รายนี้ ซึ่งที่จับได้หรือเข้าข่ายผู้ต้องสงสัย สุดท้ายก็ต้องปล่อยตัวไปเพราะไม่มีหลักฐานที่จะมัดตัวอย่างแน่นหนาพอ ซึ่งหลังจากที่ฆาตกรหายตัวไปตลอดกาลแล้ว (โดยที่สุดท้ายก็ไม่สามารถจับได้) จากนั้นก็ได้เกินการฆาตกรรมเลียนแบบแจ๊ค จะบอกว่าแจ๊คเป็นแรงบันดาลใจของคนโรคจิตพวกนี้ก็ได้ครับ (มีคำสารภาพด้วยนะ ว่าผมมีแจ๊คเดอะริปเปอร์เป็นแรงบันดาลใจ แต่ผมนึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน)

สรุปว่า อ่านแล้วก็รู้สึกสนุกดีครับ แต่รายละเอียดบางจุดที่มันเน้นมากเกินไปอาจจะทำให้หนังสือน่าเบื่อไปบ้าง รวมไปถึงชื่อหลาย ๆ ชื่อที่อาจทำให้คนอ่านงง แต่รวม ๆ ก็ถือว่าสนุกใช้ได้ครับ
5
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 02 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้เขียน Deary Terry
ผู้แปล พลอย โจนส์
สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์
จำนวนหน้าหนังสือ 136 หน้า

สงครามครั้งไหนๆ ก็ล้วนแต่สยองขวัญ สั่นประสาทประชากรโลกทั้งนั้น แต่เรื่องราวที่ปรากฏใน สงครามโลกครั้งที่สองสยองขวัญ เล่มนี้สยองยิ่งกว่า เพราะเป็นเรื่องราวที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ หลายเรื่องผู้คนลืมเลือนกันไปแล้ว บางเรื่องก็ไม่มีคนกล้าพูดถึง เรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์นอกตำราที่น่าจดจำ สำนักพิมพ์นานมีบุคส์ ขอเชิญผู้อ่านระทึกไปกับความโหดผสมรอยยิ้มที่อาจจะได้กลิ่นดินปืนอยู่เบื้องหลัง และสัมผัสเหตุการณ์ที่เหมือนจะเหลือเชื่อแต่ก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เป็นความแตกต่างที่พิเศษ เมื่อช่วงเวลาขมขื่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองถูกนำมาเล่าอย่างมีลูกเล่น ล้วงลึกข้อมูลลับ เผยโฉมหน้าและเบื้องหลังของผู้ดีผู้ร้ายในสงครามให้รู้จักอย่างแท้จริง เพื่อจะได้รู้ว่า ทหารที่เข้าร่วมรบก็มีหัวใจ และบางครั้งประชาชนกลับโหดร้ายกว่า รวมทั้งความจริงอื่นๆ ที่ไม่เคยมีใครเล่าขานกันมาก่อน นี่แหละคือช่วงเวลาไม่กี่ปีในประวัติศาสตร์ที่มีทั้งความโหด ความมันและเสียงฮา!

ผมไม่เคยคิดเลยว่า จะได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แสนจะเคร่งเครียดได้อย่างสนุกถึงเพียงนี้

นี่มันบ้ามากครับ ประวัติศาสตร์ โหด/มัน/ฮา มันโหด มัน ฮา สมชื่อ ผมขอไม่สปอยล์เนื้อเรื่อง เพราะจำได้ไม่ค่อยแม่น แต่ผมอยากจะบอกเล่าความรู้สึกส่วนตัวหลังอ่านครับ

หนังสือเล่มนี้ผมไปเจอครั้งแรกตอนเรียนอยู่ชั้นประถมในห้องสมุด ผมหยิบมาอ่านแบบไม่คิดอะไร แต่เมื่ออ่านจบ ผมรีบไปซื้อมาเก็บไว้เลยครับ กว่าจะได้ต้องไปตั้งแพร่พิทยาแถววังบูรพา แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะสั่งจากที่ไหนมาดี อยากได้มาก ๆ เลย

หลังจากที่อ่านไปแล้ว มันบอกไม่ถูกครับ คือจากที่เราศึกษามามันก็มีอยู่จริงในหนังสือ แต่ที่มันไม่ได้มีในหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไปนี่ต่างหาก ที่ผมคิดว่า นี่มันบ้ามาก ๆ คุณเชื่อมั้ยครับว่าขี้ม้าเอามาทำอาวุธนิวเคลียร์ได้ คุณเชื่อมั้ยว่า ตอนนั้นหมาและแมวหมดไปจากเมือง ๆ หนึ่ง เพราะมันเป็นโปรตีนชั้นยอดลำดับสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมือง และคุณเชื่อมั้ยว่า ทหารที่อาศัยอยู่ในป่า ต้องเอาลิงมาต้มกินเป็นอาหาร

นั่นคือในส่วนของความเป็นอยู่ของทหารครับ ยังมีอีกหลายอย่างมากที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ ที่โหดก็คือเรื่องจริงเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวครับ แม้มันจะถูกนำเสนอให้ดูออกมาฮา แต่คนที่ศึกษากันดีก็รู้อยู่แล้วว่า ความจริงมันโหดร้ายเพียงใด หรือแม้กระทั่งการลอบสังหาร ไฮดริช ฮิมม์เลอร์ ที่หนังสือนำเสนอได้ออกมาอย่างตลกมาก แล้วหลังจากนั้นละครับ ? ชาวบ้านที่บริสุทธ์ต้องถูกฆ่าล้างหมู่บ้านถึง 2 หมู่บ้านเพื่อเซ่นวิญญาณของฮิมม์เลอร์ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ควรจะตบท้ายหลังฮาว่า "เศร้า" ก็น่าจะดีครับ

นอกจากเรื่องจริงตามประวัติศาสตร์ เรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ยังมีเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกนะครับ อยากให้ลองหามาอ่านกันดู ผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบันนี้หาซื้อได้ที่ไหน ผมก็ตั้งใจว่าจะสั่งกับบาโทร่านี่ละครับ

ถ้าคุณจะถามผมว่า คุณไม่ชอบประวัติศาสตร์เลย ไม่ชอบมาก ๆ จะอ่านได้มั้ย ผมขอตอบว่า อ่านได้แน่นอนครับ มันสนุกมาก ไม่น่าเบื่อ ชวนให้หัวเราะทั้งเล่ม ไม่แน่ครับ เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณอาจจะกลายมาเป็นคนรักประวัติศาสตร์แบบผมก็ได้
4
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง เทราเดล ยุงเงอ
ผู้แปล อำภา โอตระกูล
สำนักพิมพ์ โครงการจัดพิมพ์คบไฟ
จำนวนหน้าหนังสือ 312 หน้า

ในระยะ 50 ปี ที่ผ่านมา หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับฮิตเลอร์ และอาณาจักรไรซ์ที่สามของเยอรมัน พิมพ์ออกสู่ตลาดมากมาย ทั้งหนังสือวิชาการและมิใช่วิชาการ โดยทั่วไปที่จะเป็นงานที่ประณามความเลวร้ายของฮิตเลอร์และพรรคนาซี พร้อมทั้งโจมตีคนเยอรมันสมัยนั้นที่ยอมปล่อยให้รัฐบาลเผด็จการของฮิตเลอร์นำประเทศไปสู่สงคราม และความหายนะ ถึงกระนั้นเมื่อหนังสือบันทึกความทรงจำ เรื่อง "อยู่กับฮิตเลอร์จนชั่วโมงสุดท้าย" ของเทราเดล ยุงเงอ ซึ่งเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอในระหว่างทำงานเป็นเลขานุการของฮิตเลอร์ออกสู่ตลาดในปี ค.ศ.2002 ก็ปรากฏมีผู้อ่านให้ความสนใจกันอย่างคับคั่ง กลายเป็นหนังสือขายดี มีการถกเถียงโต้แย้งกันอย่างกว้างขวาง ฝ่ายหนี่งเห็นว่าเป็นหนังสือมีประโยชน์น่าอ่าน ทำให้เราได้รู้จักฮิตเลอร์ในมุมมองใหม่ ในฐานมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งอย่างที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

แต่อีกฝ่ายตำหนิว่าเป็นหนังสือที่ให้ภาพฮิตเลอร์ดีเกินไป เพราะผู้เขียนเล่าเรื่องอย่างไร้เดียงสา โดยมิแยกตัวออกห่างจากบุคคลที่ตนรู้จัก สะท้อนให้เห็นความหลงใหลภาพลักษณ์ผิวเผินของฮิตเลอร์ ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่แยกแยะไม่เป็น เพราะอาจนำไปสู่ความรู้สึกนิยมชมชอบฮิตเลอร์อย่างผิดๆ ได้

ผมเข้าใจนะครับ ว่าทำไมถึงต้องมีอีกฝ่ายมาตำหนิตามคำโปรยด้านหลัง เพราะว่าหนังสือเล่มนี้บอกเล่ามาจากความทรงจำของเลขานุการคนสนิทของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำอาณาจักรไรซ์ที่สามของเยอรมันและหัวหน้าพรรนาซี ซึ่งตอนนั้นก็เป็นที่รู้กันดีว่า ชาวเยอรมันอยู่ในสภาพ "ชาตินิยม" หรือจะเรียกว่า "คลั่งชาติ" ก็ไม่ผิดครับ

ผมขอพูดเป็นกลาง ๆ นะครับ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน การที่ผมพูดถึงฮิตเลอร์มากเกินไป อาจจะไม่ค่อยดีในสายตาบางคน โดยรวมแล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สนุกครับ และจะสนุกมากสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมเองก็สนใจมาก สงครามโลกครั้งที่ 2 ดูมันมีสีสันมากกว่าคั้งที่ 1 นะครับ แม้ว่าในครังนี้จะมีผู้คนที่ต้องเสียชีวิตมากกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 หลายเท่าตัวเลยก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงในด้านประวัติศาสตร์ มันน่าสนใจครับ ทุก ๆ เหตุการณ์จะต้องมีคำถามว่า ทำไม ? เพื่อที่เราจะได้ไปหาคำตอบเอาครับ

อย่างที่บอก เพราะเป็นคำบอกเล่าจากเลขานุการ ผู้ที่เทิดทูนฮิตเลอร์อย่างหมดหัวใจ (ผมเชื่อว่านายทหารคนสนิททุกคนก็เป็นเช่นนี้ครับ) ทำให้ฮิตเลอร์จากหนังสือเล่มนี้ดูเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีหัวใจที่จะรักใคร มีโลกส่วนตัวเป็นของตัวเองอย่างเงียบ ๆ แบบที่อาจจะไม่เคยมีใครรู้มาก่อน (เว้นแต่จะอ่านภาคภาษาอังกฤษได้ครับ มีบทความมากมายที่น่าสนใจ) แต่ก็นั่นแหละครับ ภาพลักษณ์ของฮิตเลอร์ในหนังสือเล่มนี้เลยดูเหมือนจะเป็นคนดีมากเกินกว่าคนที่สั่งฆ่าชาวยิวมากกว่า 3 ล้านคน (หรือผมจำผิดนะ)

สรุปว่า ถ้าอ่านอย่างเป็นกลาง มันก็เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเล่มหนึ่งที่อ่านเพลิน ๆ แต่ถ้าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันก็จะเป็นเหมือนดาบ 2 คมครับ ฝั่งที่นิยมชมชอบฮิตเลอร์เงียบ ๆ ก็อาจจะเพิ่มความนิยมชมชอบมากไปอีก แต่ฝ่ายที่ไม่ชอบ ก็คงจะว่าผู้แต่งเละครับ

แต่จริง ๆ ผมอยากให้ลองอ่านกันนะครับ จะได้รู้ว่า แท้จริงชายผู้โหดร้ายผู้นี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วภายใต้ความเย็นชา ความเป็นระเบียบของเขา ซ่อนอะไรไว้ในใจบ้าง แล้วที่ต้องแอบหัวเราะเบา ๆ ก็คือส่วนในเรื่องความรักของเขาครับ ผมเองก็หัวเราะ ไม่คิดเลยว่าชายคนนี้ จะมีความรักที่น่ารักมากเลยทีเดียว และที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ การเสียชีวิตของเขาที่ยังเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้เพราะหาศพไม่เจอครับ ผมอ่านแล้วก็สะเทือนใจไม่น้อย แต่ก็คิดว่าเหมาะสมดีแล้วครับที่เขามีจุดจบเช่นนี้
นวนิยายชุด ลูกไม้ของพ่อ : ในม่านเมฆ (ร่มแก้ว)
5
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง ร่มแก้ว
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ
จำนวนหน้าหนังสือ 360 หน้า

ความผิดใหญ่หลวงที่เคยก่อไว้ ทำให้รวงข้าวต้องจากบ้านเกิด
และตาสุดที่รักไปนานนับสิบปี
ถึงวันนี้เธอตัดสินใจกลับไปที่บ้านไอดิน เพื่อพิสูจน์ตัวเองและแก้ไขความผิด

เรื่องคงจะง่ายกว่านี้ ถ้าหากไม่ได้เจอกับทิวเมฆ
ผู้ร่วมก่อวีรกรรมครั้งก่อนที่ยังมาวนเวียน ทำให้ใจสั่นหวั่นไหว

ที่สำคัญ เขากลายเป็นนักบินฝนหลวงที่เธอปลาบปลื้ม
รวงข้าวต้องร่วมมือกับเขากอบกู้บ้านไอดินอันแห้งแล้ง

ขณะเดียวกันก็ต้องห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้ตกหลุมรักเขาอีกครั้ง
ภารกิจนี้จะสำเร็จหรือไม่...

พบกับเรื่องราวความรักผ่านโครงการฝนหลวงและฝายชะลอน้ำ
ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งจะสร้างความชุ่มชื้นให้แผ่นดินที่แห้งแล้ง
และเติมความชุ่มฉ่ำให้แก่หัวใจทุกดวง

หนังสือเล่มนี้ผมได้อ่านเมื่อดูละครชุด "ลูกไม้ของพ่อ" จบทั้งชุดครับ

ผมเลือกเรื่องนี้มาอ่านเพียงเรื่องเดียว จริง ๆ ตั้งใจจะหยิบ "หัวใจใกล้รุ่ง" เพราะผมเป็นคนชอบดนตรีและเพลงพระราชนิพนธ์ แต่เมื่อดูละครแล้วมันไม่ค่อยสนุกเท่าไร เลยเลือกเรื่องที่สนุกที่สุด ซึ่งก็เป็นเรื่อง "ในม่านเมฆครับ"

เมื่ออ่านจบแล้วผมก้คิดว่า หยิบไม่ผิดเล่มจริง ๆ หนังสือก็สนุกไปคนละแบบกับละคร แม้จะดำเนินเรื่องใกล้เคียงกัน แต่ก็ต่างกันในเรื่องรายละเอียดครับ

ชื่อหนังสือก็บอกอยู่แล้วว่า "ในม่านเมฆ" ซึ่งตีความหมายได้ไม่ยาก เมื่อหนังสือชุดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระอัจฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับฝนหลวงแน่นอนครับ และคุณร่มแก้วก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เมื่อในนิยายที่สุดแสนจะโรแมนติกเล่มนี้ เต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับการทำฝนหลวงของเหล่านักบินผู้กล้าหาญที่อ่านแล้วเข้าใจแบบไม่ยากเย็นเลยครับ

พระเอก นายทิวเมฆ หรือร้อยโททิวเมฆ ผู้ก่อวีรกรรมกับรวงข้าวตั้งแต่เด็ก และเป็นต้นเหตุที่ทำให้รวงข้าวต้องหนีออกจากบ้านเกิดไป ผมมองว่าเค้าเป็นพระเอกที่ เท่มาก หรือเรียกว่า "โคตรเท่" ด้วยมาดทะเล้นกวน ๆ แล้วก็จริงอย่างที่รวงข้าวว่าเค้าไว้ละครับ เมื่อเกิดเรื่อง เค้าก็ต้องออกจากโรงเรียน ใครจะไปรู้ว่าเค้าจะได้กลายมาเป็นนักบินฝนหลวง ผมคนหนึ่งละครับที่ไม่เชื่อ

ส่วนรวงข้าว จริง ๆ ผมไม่ชอบคาแร็กเตอร์นางเอกแบบนี้เลยนะ ที่รวยแล้วมาเหวี่ยง ๆ วีน ๆ แต่เมื่อเธอกลับมาที่บ้านเกิดแล้ว เธอกลับทำตัวเข้มแข็ง พร้อมสู้กับปัญหาทุกอย่างได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ความคิดของเธอจะไม่ค่อยเข้าท่า (ในสายตาตาช้าง) บ้างก็ตาม

พระเอกจริง ๆ ในเรื่องนี้คือคนที่เขียนจดหมายทิ้งไว้กับครูน้อย ที่ทั้งพระเอกและนางเอกได้ไปอ่านแล้วเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ทำความดีครับ แล้วสุดท้ายก็มีเฉลยว่าเค้าคือใครในภายหลัง ยอมรับว่าอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ผมเองก็รู้สึกซาบซึ่งและอยากทำความดีมากขึ้นครับ

เรืองนี้ยังไม่ได้เน้นแค่เรื่องฝนหลวงเพียงอยางเดียวนะครับ ยังมีโครงการฝายชะลอน้ำเพื่อเก็บกักน้ำและทำความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าเสื่อมโทรม
ตามแนวพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนแทรกอยู่ในช่วงแรก ๆ ด้วย

และสำคัญคือ เพลงพระราชนิพนธ์ "สายฝน" ที่ผมคิดว่าเหมาะกับหนังสือเล่มนี้จริง ๆ ครับ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายรัชชานนท์ (ซ่อนกลิ่น)
4
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง ซ่อนกลิ่น
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ
จำนวนหน้าหนังสือ 452 หน้า

เรื่องราวชีวิตกับความรักห้าแบบของ ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ

คุณชายรัชชานนท์...วิศวกรหนุ่มผู้รักอิสระกับรักนี้ที่ลิขิตเอง น้องชายร่วมมารดาเดียวกับคุณชายพุฒิภัทร การไปคุมการสร้างทางแถบอีสานทำให้เขาได้พบสาวชาวป่า ความรักของทั้งคู่ดำเนินไปท่ามกลางความเดียดฉันท์ อิจฉา ริษยา ของคนรอบข้าง แต่ท้ายที่สุด เมียชาวบ้าน กลับกลายเป็นเจ้าหญิงของดินแดนเพื่อนบ้าน และคุณชายก็มีส่วนสำคัญในการกู้บัลลังก์ให้แก่หญิงคนรัก

คุณชายรัชชานนท์ เมื่อผมอ่านจบแล้ว คำแรกที่จะพูดก็คือ แปลภาษาอีสานไม่รู้เรื่อง ฮ่า ๆ ผมอยู่กรุงเทพมาตั้งแต่เด็ก ๆ มีพ่อเป็นคนใต้ เลยไม่กระดิกเรื่องภาษาอีสานแม้แต่นิดเดียวครับ แต่ก็อาศัยถูไถ ๆ ไป ก็พอจะอ่านรู้เรื่องอยู่บ้าง มาดูละครก็ค่อยยังชั่วที่มีซับภาษากลางให้อ่านครับ

ถ้าไม่เคยดูละครเนี่ย ผมว่าคุณชายรัชชานนท์ก็เนิบ ๆ พอ ๆ กับคุณชายธราธรเลยนะ คือเนื้อเรื่องมันเดาได้ง่ายว่า มันควรจะเป็นแบบนี้ อาจจะมีพลิกล้อคนิดหน่อย ก็แค่นิดเดียวจริง ๆ ครับ ที่จะเห็นแปลกตาจากนิยายทั่วไปคือ การที่พระเอกไปพบสาวชาวป่า แล้วไป ๆ มา ๆ กลายเป็นเจ้าหญิงนี่แหละครับ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีนิยายแนว ๆ นี้มาก่อน

เพราะละครทำออกมาได้สนุก ได้เรตติ้งสุงสุดในบรรดาคุณชายทั้ง 5 ทำให้รีวิวของผมอาจจะขัดตาคนที่คิดจะอ่าน หรือคนที่กำลังจะอ่านไปบ้างครับ คือขอให้ตัดความเป็นละครออก ตัดความเพอร์เฟ็กของพระนาง (บอม-แต้ว) ออก แล้วพูดถึงกันแต่ในเนื้อเรื่องในหนังสือ จะเป็นกลางที่สุดครับ

ครั้งแรกที่อ่าน ผมว่ามันก็สนุกดีนะ พระเอกเป็นคุณชายร่วมท้องกับคุณชายหมอพุฒิภัทร มีอาชีพเป็นวิศวกร หนีการดูตัวแต่งงานของหม่อมย่าเอียดกับย่าอ่อนไปทำงานแถบอีสานไกลลิบ จนไปพบจันทา ลูกสาวพรานป่าที่นำทางคุณชายเข้าไปล่าสัตว์ จนเกิดเรื่องที่ทำให้คุณชายต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับชะตากรรมของหมู่บ้านวลาหกครับ

เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ก็ชักจะอืด ๆ อยู่บ้าง มาถึงตอนท้ายๆ แล้วผมก็ชักขำในใจ โห ผู้แต่งเก่งมาก โยงงคนนู้นคนนี้เข้าหากันได้หมดทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันเลย เจ้าหลวงรังสิมันต์ที่ชาวเวียงภูคำตามหา หรือบักจ่อย ผู้ติดตามสร้อยฟ้า คือมันตลกมากกว่าที่จะตื่นเต้นครับ แบบที่รู้จักเนี่ย ๆ จริง ๆ แล้วเป็นญาติกันหมดเลย มีตำแหน่งด้วยนะ

รวม ๆ แล้วผมว่าดูละครสนุกกว่าเยอะครับ ถึงแม้ว่าในหนังสือจะมีจุดเด่นอยู่ที่คุณชายรัชชานนท์ที่เป็นคนหล่อ ดูดี และมีฐานะมากที่สุด แต่ผมว่ามันก็ไม่ค่อยสนุกอ้ะ นางเอกก็ตกหลุมรักพระเอกง่ายเกินไป หนังสือเล่มนี้ผมให้ผ่านพอครับ ที่ผ่านนี่เป็นเพราะบักจ่อยกับบรรดาคุณชายที่ช่วย ๆ คุณชายเล็กกันนะ อ่อ ที่ให้ผ่านอีกอย่างคือสร้อยฟ้าพูดได้ 5 ภาษาครับ อันนี้ในหนังสือตลกกว่ามาก อ่านแล้วขำก๊ากเลย สมน้ำหน้าศินีนุช

สุดท้ายอยากจะบอกว่า คุณชายรัชชานนท์ก็เป็นอีกคนที่เหมาะกับเพลงประกอบละครครับ

"ฉันรักเธออย่างไร ก็รักไม่เปลี่ยนใจเลย จะหยุดใจลงเอยที่เธอคนเดียว...จนตาย"
สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายพุฒิภัทร (เก้าแต้ม)
5
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง เก้าแต้ม
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ
จำนวนหน้าหนังสือ 454 หน้า

"เรื่องราว ชีวิตกับความรักห้าแบบของ 'ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ' ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่ เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ"


คุณชายพุฒิภัทร ศัลยแพทย์หนุ่มผู้เก่งกาจกับรักที่ไร้ศักดินา "คุณชายพุฒิภัทร" มีมารดาเป็นบุตรสาวเจ้าสัวใหญ่ คุณหมอรูปงามจำต้องละวางกฎเกณฑ์และเหตุผลที่ยึดถือมาตลอดชีวิต เมื่อได้พบกับสาวสามัญชนเจ้าของตำแหน่ง "นางสาวศรีสยาม" แล้วใช้หัวใจตัดสินเพื่อช่วยให้เธอรอดพ้นจากการตกเป็นนางบำเรอของนายพล ผู้ทรงอิทธิพล การแต่งงานกำมะลอเกิดขึ้น ทั้งสองต้องซ่อนหัวใจรักของตัวเองเพราะความไม่เข้าใจ แต่ท้ายที่สุดแล้วชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ก็ค้นพบว่าเพชรอันเลอค่ายิ่งกว่า อัญมณีใดๆในโลกคือ หญิงสาวชาวบ้านนั่นเอง

คุณชายพุฒิภัทร คุณชายที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทั้งชาติตระกูล หน้าที่การงาน โลกแห่งความเป็นจริงนี่คงหายากนะครับ ฮ่า ๆ จริงๆ ผมชอบละครมากเลยนะ ดูซ้ำไปซ้ำมา 5 รอบแล้ว สารภาพเลยว่าที่ชอบคือชอบนางเอก เบลล่า ราณี เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือเป๊ะเลย ยิ้มทีใจละลาย ตาพร่ามัว (ตามหนังสือครับ)

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ละครกับหนังสือก็ต่างกันมากอยู่ แต่ผมก็ชอบทั้งในละครและในหนังสือนะ คือพูดในส่วนของหนังสือแล้ว เล่มนี้ผมไม่วางเลยครับ ไม่กินข้าว ไม่เข้าห้องน้ำ เป็นอะไรที่วางไม่ลงจริง ๆ เป็นหนังสือที่ครบรสมาก บทหวานก็หวานกันเลี่ยนทีเดียว บทจริงจังหรือเคร่งเครียดก็ทำออกมาได้ดีมาก แต่ฉากที่ผมชอบที่สุดก็คือฉากที่กรองแก้วเข้าไปทำอาหารในวังและฉากตอนที่คุณชายพุฒิภัทรเห็นครั้งแรกตอนประกวดนางสาวศรีสยามครับ

คือจริง ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่า คุณชายธราธรกับคุณชายพุฒิภัทรเนี่ย ใครเนี้ยบและหัวโบราณกว่ากัน เพราะดู ๆ ไปคุณชายพุฒิภัทรแกก็ตึงเกินบางเรื่อง บางเรื่องที่ควรจะตึงกลับไม่ตึงซะงั้น นี่ละครับความรักทำให้คนตาบอดโดยแท้จริง ถึงขั้นทำให้คุณหมอจอมเนี้ยบโดดงานบ้าง ผิดจรรยาบรรณหมอบ้าง แต๊ะอั๋งนางเอกอยู่ตลอดเวลาบ้าง และสำคัญคือฉวยโอกาสจดทะเบียนสมรสกับนางเอก (ใครจะว่าไงไม่รู้นะ แต่แบบนี้ผมเรียกฉวยโอกาส) แต่ถ้าผมเป็นคุณชายพุฒิภัทร ผมรับรองได้เลยว่า ผมทำมากกว่านั้นอีก

ผมมีอะไรจะพูดมากมายเกี่ยวกับนางสาวศรีสยาม กรองแก้ว บุญมี นางเอกที่ผมชอบที่สุดในหนังสือชุดนี้ 5 เล่ม ตอนแรก ๆ หลังจากอ่านหนังสือแล้วรู้ว่าจะทำเป็นละคร ผมคิดตลอดเลยนะว่านางเอกควรจะเป็นแต้ว ณฐพร เมื่อเห็นว่าเป็นเบลล่าก็ผิดหวังอยู่ แต่เมื่อมาดูตอนเธออ่อนแอแล้ว เรียกว่ากรองแก้วหลุดออกมาจากหนังสือได้ก็คงไม่ผิดครับ ทั้งอ่อนโยน อ่อนแอ อ่อนหวาน และทำให้คุณชายหมอของเรา อ่อนระทวยไปด้วย

เนื้อเรื่องดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก ก็แค่พระเอกไปดูประกวดแล้วเจอนางเอกแล้วตกหลุมรัก แล้วก็พานางเอกหนีจากผู้มีอิทธิพลที่ต้องการนางเอกไปเป็นเมียน้อย จากนั้นก็มีการต่อสู้กันนิด ๆ หน่อย ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับ พล็อตแค่นี้ง่าย ๆจะตาย ใช่ครับ พล็อตแค่นี้ไม่เห็นมีอะไรเลย แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงได้อ่านไม่วาง ไม่ว่าจะอ่านไปถึงฉากไหนก็มโนไปถึงฉากนั้น มโนว่าตัวเองเป็นพระเอก เป็นคุณหมอผู้เก่งกาจ หรือว่าสงสารกรองแก้วที่โดนใครต่อใครต่างมารุมทำร้าย ยิ่งอ่านก็ยิ่งหลงรักคู่พระนางนี้ครับ

ในละครเราจะเห็นคุณหมอยศวินเป็นพระรอง ที่ถึงแม้จะไม่สมหวัง แต่ก็ยังโผล่มาให้เห็นหลายฉาก รวมทั้งมาชอบนางเอกด้วย แต่ในหนังสือไม่มีมากขนาดนั้นครับ แต่หม่อมหลวงมารตีเนี่ย ในละครร้ายมาก แต่ในหนังสือดูเหมือนเธอจะน่าสงสารมากกว่าครับที่ถูกปลูกฝังมาแบบผิด ๆ เลยทำให้เธอต้องมีจุดจบเช่นนั้น

ผมว่าในเรื่องนี้หม่อมย่าเอียดและคุณย่าอ่อนค่อนข้างเด่นนะ อาจจะเป็นเพราะคุณชายพุฒิภัทรไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง และสะใภ้สองคนแรกก็มาจากตระกูลสูงศักดิ์หรือเปล่า ถึงได้คอยแต่จะกินหัวกรองแก้วซะขนาดนั้น แม้หม่อมย่าเอียดจะเป็นคนมีเหตุผลมากกว่า แต่เวลามองจิกก็ไม่แพ้ย่าอ่อนครับ

อีกนิดนึงกับนายพลพินิจ ในละครนี่ ท่านเป็นคนบ้ากามมากเลยนะนั่น แต่ในเรื่องนี้ท่านเป็นลูกผู้ชายชายชาติทหารมากครับ จริงอยู่ว่าท่านส่งคนไปลอบทำร้ายคุณชายหมอที่แอบมาฉกกรองแก้วไปจากบ้านพักของท่าน แต่เมื่อท่านรู้ความจริงก็ยอมแพ้แต่โดยดีครับ มันต่างกับในละครนิดนึง เพราะในละคร จะบอกว่านายพลพินิจแกกลับมาตายรังก็น่าจะใช่ครับ

สรุปว่า ไม่ว่าคุณจะเคยดูละครหรือไม่เคยดูก็ตาม ก็อยากให้อ่านหนังสือเล่มนี้ครับ มันอาจจะไม่ฟินจิกหมอนไปแบบคุณชายปวรรุจ แต่ก็ทำให้ยิ้มได้ทุกตอนแน่นอนครับ ผมเองก็ยิ้มปากฉีกไปถึงหูเลย อิจฉาคุณชายหมอเป็นที่สุด ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันนะครับว่า ถ้าหากมีภาคต่อไปเนี่ย คุณชายหมอจะอ้วนขึ้นมากี่กิโล ดูกรองแก้วทำอาหารเก่งซะขนาดนั้น เหมือนได้กินลอยออกมาจากหน้ากระดาษเลยครับ
สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายปวรรุจ (ร่มแก้ว)
5
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง ร่มแก้ว
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ
จำนวนหน้าหนังสือ 328 หน้า

เรื่องราวชีวิตกับความรักห้าแบบของ ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ


คุณชายปวรรุจ...ข้าราชการหนุ่มกระทรวงการต่างประเทศอนาคตไกลกับรักที่เหมือนฝัน พี่ชายรองที่รอดพ้นจากการถูกจับคู่กับหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ เพราะมารดาของเขาเป็นเพียงนางต้นห้องในวัง โชคชะตาบันดาลให้เขาพบกับรักแท้ระหว่างเดินทางไปราชการที่สวิตเซอร์แลนด์
ท่ามกลางความโรแมนติก คู่รักต้องเผชิญพายุหิมะบนยอดเขาและพายุอารมณ์อีกหลายระลอกในโลกของความเป็นจริง...เขากับเธอจะก้าวผ่านอุปสรรคไปได้หรือไม่

ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกว่า เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้วครั้งหนึ่งก่อนจะทำละคร อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นยังไงไม่รู้ ก็บอกกับตัวเองเลยว่า แหวะ เลี่ยน ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เน้นจุดขายที่สวิตเซอร์แลนด์อย่างเดียว ชาตินี้จะได้ไปหรือเปล่าไม่รู้ และอีกสารพัด ใจตอนนั้นคิดเลยว่า จะไม่ดูละครตอนนี้อย่างแน่นอน

เมื่อเห็นทีเซอร์ปล่อยออกมา ก็ยิ่งคิดเข้าไปใหญ่ เหมือนในหนังสือเลยแฮะ นางเอกก็ใหม่เอี่ยมเชียว พระเอกก็ไม่ค่อยชอบอยู่แล้ว ไม่ดูเด็ดขาด ตอนนั้นติดละครช่อง 7 อยู่ด้วยครับ

แล้วไม่รู้ยังไง เมื่อไม่นานมานี้ซัก 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผมเดินผ่านร้านเช่าหนังสือและหยิบเล่มนี้มาอ่านอีกครั้ง ตอนแรกก็คิดว่า บ้าแล้ว ไหนว่าไม่ชอบ หยิบมาทำไม แต่อีกด้านหนึ่งผมคิดว่า ละครเค้าดังจะตาย ลองมาอ่านดี ๆ เปิดใจให้กว้าง ๆ จึงกลายเป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ

เมื่ออ่านรอบที่ 2 ผมก็ยังนึกด่าตัวเองว่า พลาดไปได้ยังไง ด้วยเนื้อหาที่สวยงาม และความรักที่อ่อนหวาน เฉกเช่นเจ้าชายในฝันของผู้หญิงทั้งหลายท่ามกลางหิมะในสวิตเซอร์แลนด์ อ่านจบแล้วต้องรีบไปหาละครมาดูย้อนหลังเลยครับ อายที่บ้านมาก ๆ

คุณชายปวรรุจ คุณชายคนรองที่เกิดจากหม่อมช้องนาง ต้นห้องของหม่อมราชวงศ์อุบลวรรณ จุฑาเทพ ทำให้เค้าถูกย่าอ่อน กดไว้มาตลอดว่า ต่ำกว่าพี่น้องคนอื่น ๆ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วย่าอ่อนเองยอมรับและรักเขาไม่ต่างจากคุณชายคนอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่วายที่จะค่อนแคะไปเรื่อยตามประสาคนปากเบา คุณชายปวรรุจเป็นข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ (อาชีพในฝันผมเลยนะนั่น)จริง ๆ ผมว่าอาชีพนี้เป็นรองแค่คุณชายหมอพุฒิภัทรแค่เพียงคนเดียวนะครับในบรรดาพี่น้องทั้ง 5 คน

เนื้อเรื่องก็ทำออกมาได้ค่อนข้างประทับใจมาก จากเด็กชายที่แกล้งเด็กหญิงคนหนึ่งเป็นประจำ มาพบกันอีกครั้งแล้วกลายเป็นความรักที่สุดจะบรรยาย ถ้าเทียบกับคุณชายธราธรแล้วก็คล้าย ๆ กัน คือรู้จักกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ ครับ แต่เรื่องนี้ทำออกมาได้กินใจกว่าเยอะเลย แม้เรื่องนี้จะหนักตรงที่นางเอกโกหกพระเอกไว้คำโต แต่เมื่อถึงคราวที่ความจริงเปิดเผย ไม่รู้ทำไมผมถึงได้เห็นใจและสงสารหม่อมเจ้าหญิงวรรณรสามาก และพาลโกรธคุณชายปวรรุจที่ไม่ยอมให้อภัยเธอเสียที

จากละคร เราจะพบว่าแท้จริงแล้วตัวรองหลักน่าจะเป็นกระถินกับนายคล้าวมากกว่าปกรณ์หรือหนูเอื้อยกับหนูอ้าย ซึ่งในละคร กระถินกับนายคล้าวก็สร้างสีสันให้กับเรื่องเป็นอย่างมาก แต่ในหนังสือจะเน้นไปที่ชีวิตในต่างแดนและยกปกรณ์กับฝาแฝดเอื้อยอ้ายให้เด่นกว่าครับ

หม่อมเจ้าภานุทัศนัย หรือท่านชายทัศน์ ในละครนี่ก็น่าต่อยมากเลยครับ โผล่มาฉากไหน ความเกลียดก็พุ่งขึ้นเลย แต่ในหนังสือ ท่านเป็นคนพูดจามีเหตุผลครับ ที่ไม่ต่างกับละครคือความเจ้าชู้นั่นเอง ทำให้สุดท้ายต้องยอมถอนหมั้นกับหญิงแต้วไปโดยปริยาย

โดยสรุปว่า ผมชอบเรื่องนี้รองจากคุณชายรณพีร์ครับ ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่มีอะไรมาก แต่เต็มไปด้วยความโรแมนติกเกือบทุกหน้า สำหรับคนที่ชอบความฟิน มาอ่านเล่มนี้แล้ววางไม่ลงแน่ครับ เพราะฟินกันเกือบทุกฉาก
สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายธราธร (ณารา)
3
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง ณารา
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ
จำนวนหน้าหนังสือ 420 หน้า

"...เรื่องราวชีวิตกับความรักห้าแบบของ 'ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ' ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่ เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ"

เล่มนี้นำเสนอเรื่องราวของคุณชายธราธร นักโบราณคดีผู้สุขุมกับรักที่ต้องเลือก "คุณชายธราธร" พี่ชายใหญ่ ผู้รับภาระดูแลน้องๆทั้งสี่หลังสิ้นท่านพ่อกับแม่ พร้อมแบกรับสัญญาคู่หมายระหว่างราชสกุล เขามุ่งมั่นในงานสำรวจโบราณสถานอย่างจริงจังโดยหารู้ไม่ว่า งานครั้งนี้นอกจากจะสำรวจบูรณะโบราณสถานแล้ว ยังเป็นการค้นหา "หัวใจ" ของตัวเองอีกด้วย พบกับความรักระหว่างชายหญิงที่ซ่อนความรู้สึกดีๆต่อกันมาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ เรื่องรักเกิดขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์โจรกรรมโบราณวัตถุ และนั่นทำให้ทั้งสองได้พิสูจน์หัวใจตัวเอง

เริ่มกันที่เล่มแรก "คุณชายธราธร"หนังสือในชุด "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ"ครับ คุณชายธราธร หรือ พี่ชายใหญ่ของน้อง ๆ ทั้ง 5 คน ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกก่อนที่จะถูกสร้างเป็นละครประมาณครึ่งปี หลังจากนั้นจึงได้ดูละครครับ เมื่อกลับมาอ่านอีกรอบหนึ่งก็พบว่า ผู้กำกับละครเรื่องนี้ เคารพบทประพันธ์เดิมได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีผิดจากหนังสือเลย ซึ่งนั่นก็เป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งของละครเรื่องนี้ครับ เพราะเนื้อเรื่องเดิมจากหนังสือค่อนข้างจะเนิบนาบไปซักหน่อย

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก จึงทำให้ต้องปูพื้นฐานของพี่น้องทั้ง 5 คนในตระกูลค่อนข้างเยอะ ไป ๆ มา ๆ จึงเหลือเรื่องของคุณชายธราธรไม่เท่าไร และด้วยเรื่องนี้พระเอกเป็นนักโบราณคดี การนำประวัติศาสตร์มาถ่ายทอดไว้ในนิยายก็อาจจะทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกสนุกไปด้วยมากนักแต่สำหรับคนชอบประวัติศาสตร์แล้ว ก็ถือว่าโอเคครับ ผมเป็นคนชอบประวัติศาสตร์เลยอ่านได้อย่างเพลิน ๆ

เนื้อเรื่องก็อย่างที่บอกครับ ว่าค่อนข้างเนิบนาบไปนิดนึง อาจจะเป็นเพราะช่วงอายุของพระเอกและนางเอก รวมไปถึงการวางตัว ศักดิ์ทางชนชั้น ทำให้เรื่องนี้ไม่สามารถทำให้ผู้อ่าน "พีค"สุด ๆ ได้ แม้จะมีฉากอย่างนั้นนิดนึงตามสไตล์คุณณารา ก็ไม่สารถดึงจุดพีคของเรื่องออกมาได้ครับ

มาดูคู่รองกันบ้าง จริงผมว่าคู่รองก็ยังดูเด่นกว่าในบางฉากนะครับ อาจจะเป็นเพราะอ.ชินกรเป็นคนน่ารักหรือเปล่า เลยทำให้คู่นี้ดูน่ารักกว่าคู่พระนาง แม้จะมีอุปสรรคจากฝั่งของหม่อมหลวงเกษราบ้าง และไม่มีฉากอย่างนั้นเหมือนคู่แรก แต่คู่นี้ก็ให้ความฟินดีกว่าคู่แรกครับ

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของการผจญภัยในป่า ทำให้ตัวร้ายหรือตัวโกงมีมากพอสมควร แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวมากอย่างที่คิด คือมันร้ายไม่สุด ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย โดนจับซะแล้ว อันนี้ต้องขอหักคะแนนครับ

สรุปว่า ถ้าคุณดูละครแล้ว สมควรอ่านมั้ย ก็สมควรครับ แม้ว่าละครจะเหมือนกับบทประพันธ์เลย แต่ในบางช่วง ละครก็ตัดคำพูดหรือฉากอะไรบางอย่างออกไปบ้างครับ แต่ถ้าไม่เคยดูละคร อาจจะไม่เคยดูทั้งชุด หรือไม่เคยดูเรื่องนี้เรื่องเดียว ก็อยากให้อ่านครับ เพราะเรื่องนี้ปูความสัมพันธ์ของตระกูล "จุฑาเทพ" ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว

สิ่งหนึ่งที่ผมชอบจากหนังสือเล่มนี้คือ เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ตรงกับเพลงประกอบละครทีเดียวครับ

" คนเราถ้าคู่กันไม่ว่าอะไรเปลี่ยนไป สิ่งหนึ่งในใจยังไงก็ไม่เปลี่ยน ก็คือความรักที่มีต่อเธอ จะมั่นคงอย่างนี้เหนือกาลเวลา มากยิ่งกว่าอะไร ต่อให้นานเพียงใด รักแท้ก็ยังคงเป็นรักแท้ ไม่มีวันจะแปรหรือน้อยลงไปตามเวลา ถึงแม้บางครั้งชีวิตต้องเจออะไรกระหน่ำ แต่ก็ไม่เคยทำให้รักเราเปลี่ยนแปลงไป "
สุภาพบุรุษจุฑาเทพ : คุณชายรณพีร์ (แพรณัฐ)
5
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง แพรณัฐ
สำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์
จำนวนหน้าหนังสือ 352 หน้า

"เรื่องราวชีวิตกับความรักห้าแบบของ ห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพ ซึ่งถือกำเนิดจากต่างมารดา แต่มีความผูกพันรักใคร่เข้มข้นในศักดิ์สกุล ซื่อสัตย์ในเกียรติยศ และซื่อตรงต่อหัวใจ

คุณชายรณพีร์ คุณชายคนสุดท้อง น้องชายคุณชายธราธร ซึ่งเกิดจากมารดาผู้เป็นหม่อมเอก ใครจะเชื่อว่าหนุ่มนักบินผู้สูงศักดิ์จะพบกับ ดาราสาว ในวินาทีที่เหมือนฝัน...เธอตกลงมาสู่อ้อมกอดของเขาจากอุบัติเหตุในกองถ่ายทำภาพยนตร์
ทั้งสองคนต้องฝ่าม่านประเพณี ฝ่าด่านฐานันดร เพื่อให้ทุกคนประจักษ์ว่าเธอคือ นางรำ ที่รักในความเป็นนายทหารอากาศคนหนึ่งของเขา...มิใช่ที่ความเป็นหม่อมราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์"

ผมเคยอ่าน "คุณชายรณพีร์" ครั้งหนึ่งก่อนที่จะถูกนำมาทำเป็นละคร และเมื่อละครจบลง ผมได้กลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่งเพื่อเก็บรายละเอียดที่ตกหล่นและเปรียบเทียบกับในส่วนของละคร ซึ่งขอบอกเลยว่า คุณชายรณพีร์ ทำออกมาได้ดีทั้งในแบบนิยายและในแบบละครครับ และ "คุณชายรณพีร์" ก็เป็นหนังสือที่ผมชอบมากที่สุดในชุดของ "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ"

ในเล่มนี้ ค่อนข้างจะดาร์คกว่าเล่มอื่น ๆ ถ้าลองเปรียบเทียบกันตั้งแต่เล่มแรก "คุณชายธราธร" มาจนถึงเล่มนี้จะเห็นได้ว่า ชายพีร์ น้องชายคนสุดท้องของตระกูลจุฑาเทพ ที่ค่อนข้างจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ อารมณ์ดี ร่าเริงในทุก ๆ เล่ม แต่เล่มนี้ไม่ใช่เลยครับ คุณจะเห็นชายพีร์ในอีกมุมหนึ่งซึ่งผมคิดว่ามันดูดีมาก ๆ สำหรับชายชาติทหาร

อย่างที่บอกครับว่าผมชอบเล่มนี้มากที่สุดในชุด เพราะเล่มนี้ค่อนข้างเรียล อ่านแล้วรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นทหารอากาศนายหนึ่งที่จะได้ร่วมออกรบไปพร้อมกับชายพีร์ และรับรู้ความรู้สึกที่ชายพีร์มีต่อเพียงขวัญ นางเอกของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉากที่ผมชอบที่สุด และสะเทือนใจที่สุด คงจะหนีไม่พ้นฉากที่เพียงขวัญทราบความจริงครับ ผมรู้สึกเห็นใจเพียงขวัญมาก และรู้สึกเสียใจกับชายพีร์มากเช่นเดียวกันที่ไม่สามารถพูดความจริงออกมาได้ จนเรื่องราวมาถึงขนาดนี้

จริง ๆ แล้วหนังสือทุกเรื่อง ส่วนมากจะมีพระรองและตัวโกง แต่เล่มนี้ผมสำหรับผมแล้ว พระรองไม่ใช่ทั้งคุณอัทธ์และหมวดยอดยศ และตัวโกงก็ไม่ใช่เสี่ยเพ้ง จริงอยู่ที่คุณอัทธ์ก็เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเพียงขวัญอยู่บ้างในฐานะพี่ชาย แต่มันก็ไม่ได้เด่นขนาดจะเป็นพระรองครับ หมวดยอดยศเองก็มีส่วนที่ทำให้ชายพีร์ได้เจอกับเพียงขวัญเท่านั้น และอาจจะมีเสริมบ้างอีกนิด ๆ หน่อย ๆ และที่เสี่ยเพ้งไม่ใช่ตัวโกง เพราะเสี่ยเพ้งในหนังสือกับเสี่ยเพ้งในละคร ต่างกันเยอะพอสมควร เสี่ยเพ้งไม่ได้มีบทบาทมากขนาดนั้นครับ อ่า ผมตกหล่นไป วิไลรัมภา จะบอกว่าเป็นตัวโกงได้มั้ย ผมว่าก็ใกล้เคียงนะ แต่ก็ไม่ได้โกงแบบสุดขั้วเหมือนในละครครับ

คุณชายคนอื่น ๆ ก็เข้ามามีบทบาทมากในเล่มนี้ อาจจะเป็นเพราะเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้าย เป็นเรื่องของคุณชายรณพีร์ คุณชายคนสุดท้อง ทำให้พี่ ๆ ทุกคน ทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้ต้องเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ชายพีร์สมหวังในความรักอย่างที่ตนเองสมหวังมาแล้ว ก็น่าเห็นใจชายพีร์อยู่ครับ พี่ ๆ เขามีคู่กันหมดแล้ว ถึงจะมีอุปสรรคกันทุกคู่ แต่ก็ยังไม่เท่าตัวชายพีร์เอง เพราะต้องทำทั้งศึกรบ ศึกรัก ไหนจะต้องรบกับกบฎเวียงภูคำ รบกับหม่อมย่าเอียด ย่าอ่อนและวิไลรัมภา และไหนจะต้องทำศึกรักกับเพียงขวัญอีก มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

สรุปว่า ใครที่ชื่นชอบทหารอากาศเป็นพิเศษ ควรอ่านหนังสือเล่มนี้ครับ อ่านแล้วคุณจะรักความเป็นทหารอากาศเพิ่มขึ้นอีก (ผมอ่านแล้วยังอยากไปสมัครเป็นทหารอากาศขับเครื่องบินรบเลย) สำหรับคนที่ดูละครมาแล้ว ถามว่า ฉันควรจะอ่านดีมั้ย ขอตอบว่า ควรอ่านครับ เพราะละครกับหนังสือมีส่วนที่แตกต่างกันเยอะ อ่านหนังสือจะเก็บรายละเอียดได้มากกว่าและสัมผัสได้ถึงจิตใจของพระนางได้มากกว่า ผมมั่นใจว่า ถ้าคุณได้อ่าน คุณอาจจะอยากกลับไปดูละครย้อนหลังอีกครั้งก็ได้ครับ
รอยฝันตะวันเดือด (ชุด Rising Sun) (ณารา)
4
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ผู้แต่ง ณารา
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ
จำนวนหน้าหนังสือ 480 หน้า

"ริว โอะนิซึกะ" เป็นผู้ชายที่ไม่ไยดีกับความรัก เขาจึงไม่เคยสานความสัมพันธ์กับ "มายูมิ" หญิงสาวที่ลุงหมายตาไว้ให้ แต่ลับหลัง เขากลับแอบติดตามข่าวคราวของเธออยู่เงียบๆ... เวลาเจ็ดปีที่ผ่านไป ชายหนุ่มตระหนักว่า หัวใจของเขาอยู่ที่มายูมิคนเดียว หากหญิงสาวเข้าใจตลอดมาว่า ริวไม่เคยมีเยื่อใยให้ เธอจึงปฏิเสธหนักแน่นเมื่อริวขอแต่งงาน!

มีหรือที่ยากุซ่าหนุ่มอย่างริวจะยอมให้เธอมาลบเหลี่ยม โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคู่แข่งเป็นนายตำรวจทรงอิทธิพล เขาจึงต้องประกาศให้โลกรู้ว่า "เธอคือผู้หญิงของเขาเท่านั้น" ! ขณะเดียวกัน ปัญหาระหว่างกลุ่มโกะคุโดที่คิดว่าจบสิ้นไปแล้ว กลับคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ฝ่ายตรงข้ามหมายจะกำจัดริวให้สิ้นซากเลยทีเดียว!

หนังสือภาคต่อของ "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน" บอกเล่าเรื่องราวของ "ริว โอะนิซึกะ" โอะยะบุนคนใหม่ของโอะนิซึกะกุมิหลังการเสียชีวิตของทาเคชิ (?) ในภาคที่แล้ว กับ "มายูมิ ทากาฮาชิ" ว่าที่คู่หมั้นของเขา โดยในหนังสือเล่มนี้จะค่อนข้างดาร์คกว่ารอยฝันตะวันเดือด เพราะเรื่องนี้มีทั้งศึกรบ ศึกรัก และศึกกับตัวเองของริว

หลังจากอ่านรอยฝันตะวันเดือดมาแล้ว หลาย ๆ คนคงจะถูกใจกับคาแร็กเตอร์ของริว โอะนิซึกะ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงรีบหยิบรอยฝันตะวันเดือดมาอ่าน หลังจากที่อ่านแล้ว ในความคิดของผมคิดว่า เล่มนี้ค่อนข้างเครียดกว่าเล่มที่แล้วมาก จะไม่ค่อยหวานเหมือนรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน แต่จะเน้นไปฟินกันที่ฉากอย่างนั้นมากกว่า รวม ๆ ก็ถือว่าใช้ได้ครับ

สำหรับตัวละครนั้น ต้องพูดถึงพระเอกของเราก่อน ริว โอะนิซึกะ ดูภายนอกเหมือนจะเป็นผู้ชายเจ้าชูที่ไม่ไยดีกับความรัก แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วก็สูสีกับทาเคชิ เพียงแต่ว่าตัวเค้าเองนั้นไม่นุ่มนวล อ่อนโยนเท่าทาเคชิ ด้วยอาจจะต้องรับงานหนักเพียงคนเดียวในการดูแลกลุ่ม แต่เมื่อถึงคราวแสดงความรักกับมายูมิ เค้าก็ทำออกมาได้น่ารักแบบเถื่อน ๆ ดีทีเดียว

ส่วนนางเอก มายูมิ ทากาฮาชิ เป็นนางเอกที่ค่อนข้างหาได้ยากตามฉบับละครไทยครับ ที่จะเข้มแข็งถึงขั้นลากดาบไปช่วยชีวิตพระเอกท่ามกลางสมรภูมิรบ เธอเป็นผู้หญิงที่มีความรักมั่นคงมาก อาจจะมากกว่าแพรวดาวจากเล่มที่แล้วอีก ไม่แปลกหรอกครับที่ริวจะรักเธอมากจนไม่แสดงออกเพราะไม่อยากให้เธอเป็นอันตราย

ส่วนตัวร้ายของเรื่องนี้ ไม่ค่อยจะเด่นเหมือนซะโต้จากเล่มแรก เพราะเล่มนี้เหมือนจะรุม ๆ พระเอกของเราอยู่ฝ่ายเดียว แล้วก็ไม่ค่อยเหี้ยมโหดเท่าซะโต้ด้วย ขอหักคะแนนจากตรงนี้ครับ ที่ตัวร้ายดูเหมือนอันธพาลมากกว่ากลุ่มโกะคุโด

ทุกเรื่องจะต้องมีพระรอง เรื่องนี้คือ ไทชิ ครับ เหมือนจะไม่ค่อยเด่นมากเท่าไร แต่ในช่วงท้าย ๆ เล่มนี่หล่อมากเลยครับ เพราะพี่แกเป็นคนช่วยชีวิตพระเอกเกือบตลอดงาน แถมตอนจบยังสมหวังแบบน่ารัก ๆ ขโมยซีนไปอีก

สรุปง่าย ๆ ว่า เล่มนี้ค่อนข้างจะราบเรียบกว่าเล่มที่แล้วครับ แต่ฉากแบบนั้นก็ต้องบอกเลยว่ามากกว่าเล่มแรกเยอะ ! ริวต้องทำศึกรักกับมายูมิ เพื่อเป็นการชดเชยตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ต้องทำศึกรบกับมิซาว่าโอะยะบุนคนใหม่ และตำรวจโคบายาชิพ่อลูก และต้องทำศึกกับตัวเองเมื่อริวค้นพบความจริงว่า ตัวเองไม่ใช่สายเลือดโอะนิซึกะที่แท้จริง ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการปูพื้นของเล่มที่สาม "สายเลือดแดนตะวัน" เป็นเรื่องสุดท้าย

อีกนิดครับ ใครที่อยากรู้ว่าทาเคชิจะเป็นอย่างไรต่อไป หาอ่านได้จากเล่มนี้ต่อจากเล่มแล้วเลยครับ
รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน (ชุด Rising Sun) (ณารา)
4
โดย: Takeshi วันที่เขียนรีวิว: 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

" ทาเคชิ" บุตรชายคนเล็กผู้สืบทอดตำแหน่งโอะยะบุนแทนบิดา ของกลุ่มยากุซ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองโยโกฮาม่า ซึ่งแอบหลงรัก "แพรวดาว" นักเรียนทุนชาวไทย ทั้งๆ ที่เขามี "ไอโกะ" หญิงสาวที่ผู้ใหญ่จัดการหมั้นหมายไว้ให้ตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุผลในการสืบทอดอำนาจและธุรกิจ
แต่แล้ว... ผลจากการที่ทาเคชิประกาศขอชำระแค้นกับศัตรูคู่แข่ง ก็ทำให้แพรวดาวกลายเป็น "หมาก" ของเกมการห้ำหั่นระหว่างยากุซ่าสองกลุ่มที่กำลังแย่งชิงความเป็นใหญ่ เพราะฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ว่าเธอคือดวงใจของเขา ในเวลาเดียวกันเธอก็กลายเป็น "เหยื่อ" ที่ไอโกะต้องการตัวมาบูชายัญรักฝังแค้นของเธอ! ความรักของทาเคชิและแพรวดาวที่ต้องอยู่ท่ามกลางความแค้นของคนอื่นๆ ”

จากคำโปรยหลังหนังสือ ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูน่าสนใจมาก จึงทำให้ไม่ลังเลที่จะตัดสินใจหยิบมาอ่าน และเมื่ออ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ทั้งพระเอก นางเอก และทุกคนในเรื่องนี้ดูจับต้องและมีตัวตนจริง ๆ ทำให้รู้สึกว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งวางไม่ได้ เพราะอยากรู้ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร ใครจะเป็นอย่างไรต่อไป
หนังสือเล่มนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นหนังสือที่ค่อนข้างประทับใจมาก ขอชื่นชมผู้แต่งที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี นอกจากจะซาบซึ้งไปกับความรักของพระเอกและนางเอกแล้ว ผู้อ่านยังจะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของชาวโกะคุโดและชาวญี่ปุ่นในยุคสมัยที่หญิงไทยเข้าไปศึกษาในประเทศญี่ปุ่นในยุคแรก ๆ ด้วย เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายประเทศญี่ปุ่นเลยครับ อ่านแล้วก็อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นโกะคุโดกับเค้าบ้าง

เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างดีครับ ถ้าเป็นคนชอบแบบแอคชั่นก็อาจจะบอกว่าน้อยไปสักนิด แต่เป็นแอคชั่นที่ค่อนข้างเท่ ถือดาบซามูไรวิ่งไล่ฟันกัน วัดกันไปเลยด้วยฝีมือล้วน ๆ ส่วนทางด้านโรแมนติกแล้ว ก็ต้องถือว่าค่อนข้างโอเค ผู้หญิงบางคนอ่านแล้วอาจจะอยากไปเป็นอะเนะซังของโอะนิซึกะโอะยะบุนกันเลยทีเดียว แต่สำหรับผม ถ้ามีอะเนะซังแบบนี้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ผมคงตัดสินใจเช่นเดียวกันกับทาเคชิครับ

สำหรับตัวประกอบคนอื่น ๆ ในเรื่อง เพราะหนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือชุด จึงจำเป็นจะต้องปูพื้นฐานของเรื่องอื่น ๆ ไว้ ทำให้ริว ลูกพี่ลูกน้องของทาเคชิ (พระเอกเล่มที่ 2) ดูโดดเด่นกว่าพระเอกของเรื่องในบางฉาก แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินพอดีงาม

ไอโกะ คู่หมั้นของทาเคชิ คือผมอยากจะติไว้สักนิดเดียว คืออยากให้ไอโกะเป็นผู้หญิงร้ายลึก ฉลาดคิดแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้คงจะสนุกขึ้นอีกแน่ครับ เพราะผู้แต่งทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบมากกว่าแพรวดาวแล้ว เสียแค่นิสัยเท่านั้นเอง

เคนอิจิ ซะโต้ คนส่วนมากมักจะชมพระเอกกับนางเอก แต่ผมเลือกที่จะพูดถึงเขานะ เพราะเคนอิจิ ซะโต้คนนี้ เลวได้ใจมากเลยทีเดียว แต่สำหรับผมมองว่าเลวแบบเท่ ๆ นะ ถ้าไม่มีเขาสักคน เรื่องราวคงจะจบแฮปปี้ตั้งแต่ยังไม่เอ็นดิ้งแล้ว เวลาอ่านแล้วเจอชื่อเคนอิจิทีไร อยากเอาสันดาบซามูไรเคาะหัวสักที แต่ก็สมน้ำสมเนื้อกันดีกับไอโกะครับ ตอนถึงจุดจบของเขา เขาก็ยังไม่ทิ้งความเลวแบบเท่ ๆ ขนาดนี้บาดแผลเต็มตัวขนาดนั้น ยังอุตส่าห์มีแรงฮึดอีก ขอปรบมือให้ในความเลวและอึดครับ

อีกคนนึงที่ผมอยากจะพูดถึงคือ ทาโร่ (จะเรียกว่าเป็นพระรองดีมั้ยน้า ?) ทาโร่อาจจะเป็นหนึ่งในชายในฝันของผู้หญิง แต่ไม่ใช่กับแพรวดาว ผมออกจะชื่นชอบตัวละครนี้ไม่น้อยไปกว่าพระเอกในเรื่องของความรัก ทาเคชิเองยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่บ้างในเรื่องนี้ แต่สำหรับทาโร่ แม้แต่ชีวิตก็สละให้ได้เพื่อให้แพรวดาวมีความสุข ผมนับถือตัวละครตัวนี้จริง ๆ
ท้ายสุดนี้ ขอฝากประโยคที่ชอบที่สุดในเนื้อเรื่องด้วยนะครับ เป็นตอนที่ริวถามทาเคชิว่า ความรักคืออะไร

"ฉันรู้แต่ว่าเมื่อเซโกะถูกสาดน้ำร้อนใส่หน้า ฉันรู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับเธอ และอยากบีบคอไอโกะให้ตายคามือที่ทำกับเธอโหดร้ายอย่างนั้น และเมื่อต้องกล่าวคำลา หัวใจของฉันก็เหมือนถูกวางไว้ตรงหน้าเธอ ไม่ยอมตามฉันกลับมาด้วย"
www.batorastore.com © 2024