Razana ศึกกู้อาณาจักรแห่งเทพ ภาค 2 เก้าวอลคิวรี่ผู้พิทักษ์

Razana ศึกกู้อาณาจักรแห่งเทพ ภาค 2 เก้าวอลคิวรี่ผู้พิทักษ์

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160600809
ผู้แต่ง: Lady Aoween
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 219.00 บาท 54.75 บาท
ประหยัด: 164.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

เจอบัว

เด็กสาวผมสีนํ้าตาลในชุดนักเดินทางกำลังเดินทอดน่องในตลาดด้วย สีหน้าหงอยเหงา วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบสิ่งที่เธอ ตามหา เมล่าเดินทางมาถึงเมืองโดรเรน หนึ่งในเมืองจำนวนสิบสองเมือง ของรัฐเฟนซิส รัฐที่มองไปทางไหนก็เจอะเจอแต่สีเขียวของต้นไม้ ถึงแม้การ

เดินทางจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับคนที่ไม่เคยออกจากบ้านอย่าง เธอ แต่มันก็มีความรู้สึกบางอย่างที่บั่นทอนความตื่นเต้นลงไปมาก นั่นคือ ความเหงา ก่อนหน้านี้ถึงแม้มีเพียงป้ากับหนังล่อเท่านั่น เธอก็รู้สีกเพียงพอแล้ว แต่มาตอนนี้เพียงไม่มีเพื่อนกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป เมล่าถอนหายใจอีกครั้ง และล้าการถอนหายใจเป็นการบั่นทอนอายุ อย่างที่เคยมีคนพูดไว้จริงๆ ล่ะก็ อายุของเธอคงจะลดลงไปเป็นล่บปีแล้ว กระมัง...

"จิลเรย์...รู้สึกอะไรบ้างหรือยัง" เธอถามวอลคิววี่หนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆ จิลเรย์ส่ายหน้าเป็นคำตอบ คนถามได้แต่ถอนหายใจอีกครั้ง ตามหาคน (?) นี้มันยากใช่เล่น เธอชักนึกสงสารพวกนักสืบหรือตำรวจที่ฮาราน่าขึ้นมาแล้ว สิ ไม่นึกว่ามันจะหายากเย็นขนาดนี้

เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนโฆษณาสินค้าดังระงมก้องไปทั่วตลาด ผู้คน เดินพลุกพล่านเบียดเสียด นี่ขนาดไม่ไรเมืองใหญ่ เป็นแค่เมืองเล็กๆ เท่านั้น ผู้คนยังมากขนาดนี้ เมล่ากวาดสายตามองไปรอบๆ พลันสายตาสะดุดเข้า กับคนจำนวนหนึ่งที่กำลังมุงดูอะไรบางอย่างบนป้ายประกาศกลางตลาด เทพสาวหันหน้าไปมองจิลเรย์เป็นเชิงถาม

"ไปดูกันไหมขอรับ" วอลคิวรี่หนุ่มขอความเห็น เมล่าพยักหน้าและ เดินนำไปที่ป้ายประกาศชิงมีผู้คนมามุงดูกันพอสมควร เธอพยายามแทรก ตัวเข้าไปในระ ยะที่พอจะมองเห็น สิ่งที่ติดประกาศคือรูปคนสองคนกับแมว อีกหนึ่งตัว พอเห็นรูปเท่านั้นล่ะ ร่างบางก็แทรกออกมาแทบไม่หัน

"จิลเรย์ ไปจากที่นี่ก่อนเร็ว" เมล่าพยายามลากผู้พิทักษ์ของเธอออก จากตลาด วอลคิวรี่หนุ่มท่าหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจในสถานการณ์แต่ก็ยอม เดินตามไปแต่โดยดี เทพสาวลากชายหนุ่มเข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่งซึ่งอยู่ ห่างจากตลาดพอสมควร

"มีเรื่องอะไรเหรอขอรับ ท่าไมต้องลากข้าออกมาแบบนี้" จิลเรย์ล่ง ค่าถาม เมล่าตีสีหน้าเคร่งก่อนจะลังกาแฟดำกับชาอย่างละถ้วย

"ป้ายนั้นเป็นป้ายประกาศหาคน" เทพสาวเริ่มพูด ขณะเดียวกันบริกร ก็เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ "ขอบคุณค่ะ" เธอหันไปบอกบริกรก่อนจะยกกาแฟ ขึ้นจิบ

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่เราต้องหลบออกมาด้วยล่ะขอรับ ข้าไม่เห็นว่า มันจะเกี่ยวกันตรงไหน" จิลเรย์ยังไม่เข้าใจ ยกชาขึ้นจิบบ้าง

"ก็จะไม่เกี่ยวได้ยังไงในเมื่อไอ้คนที่อยู่ในประกาศน่ะมันเรา...ฉัน นาย แล้วก็แมวน้อยรูดาร์ฟ พอเมล่าพูดจบประโยค จิลเรย์ที่จิบน้ำชาอยู่ถึงกับ สำลักชาพรวด

"อะไรนะขอรับ!" เขาตะโกนลั่นร้าน ล่งผลให้คนในร้านหันมามองเป็น ตาเดียว วอลคิวรี่หนุ่มยิ้มแห้งแล้งให้กับพวกเขาแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้นายสาว เพื่อกระซิบ

"มันเกิดอะไรขึ้นขอรับ" จิลเรย์ถาม เมล่านิ่วหน้าก่อนจะลันนิษฐาน

"ต้องเป็นแมิอของท่านป้าแน่ๆ แล้วก็ต้องรวมไปถึงท่านลุงกษัตริย์ ทั้งหลาย เพราะป้ายนั่นมันเป็นของสภาสูง" เธอพูด จิลเ'รย์เอน,หลังพิงเก้าอี้ "แล้วก็นะ ไอ้ความคิดนี้มันต้องมาจากนีออนแน่ๆ เลย" เธอเม้ม ริมเพากเมื่อเดาได้ว่าใครเป็นคนต้นคิด ฉลาดสมกับเป็นคนของฝ่ายกลยุทธ์ จริงๆ ในเมื่อหาเองไม่ได้ ยืมมือคนหมู่มากอย่างชาวบ้านหาก็สินเรื่อง

"คราวนี้จะเอายังไงล่ะขอรับ" วอลคิวรี่หนุ่มถามต่อ ตาก็มองหน้า เจ้านาย

"ถ้าเป็น'ฝืมือของสภาสูง ป่านนี้ก็คงติดไปทั่วประเทศแล้ว เราคงจะ เดินทางลำบากขึ้นกว่าเดิมอีก...คงต้องเลี่ยงสถานที่ชุมชนแล้วก็ต้องแต่งตัว ให้มิดชิดยิ่งขึ้น" เมล่าออกความเห็น

"ข้าเห็นด้วย" รูดาร์ฟในร่างแมวที่นอนอยู่บนตักเมล่ากล่าวเบาๆ จิลเรย์ พยักหน้า ยกชาขึ้นจิบแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนเมล่านึกหมั่นไล้อยากจะ ประทุษร้ายเต็มกำลัง ทั้งๆ ที่เธอเครียดจะเป็นจะตาย คนตรงหน้ากลับนั่ง จิบชาสบายใจ

แต่แล้วความสบายใจทั้งหลายเป็นอันต้องสลายหายไปเมื่อทหารกว่า สิบนายเดินเข้ามาในร้าน ทั้งหมดสวมเครื่องแบบทหารสีดำ หน้าอกด้านข้าย มิตราประจำ เมืองติดอยู่ แสดงว่า เป็นทหารในพื้นที่ แต่ละคนเป็นชายฉกรรจ์ ร่างใหญ่ ดูแล้วน่าเกรงขาม พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะของเมล่า เห็น อย่างนั้นคนในร้านที่อยากรู้อยากเห็นต่างผึ่งหูฟังกันเต็มที่

"เธอสินะคนในประกาศ มิคนแจ้งไป ตามเรามาหน่อย" คนหน้าสุด พูดอย่างมิอำนาจ แต่เท่าที่เมล่าเห็น ยศแค่ขึ้นสองเท่านั่นเอง เทพสาวยก กาแฟขึ้นจิบติมาดนิ่ง

"ฉันทำอะไรผิดเหรอคะ" เธอถามเลียงเรียบ นายทหารคนนั้นแสยะยิ้ม " เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ในประกาศบอกให้น่าตัว เธอไปส่งให้ท่าน ผู้ว่าการเมือง" เมล่ายังคงติมาดนิ่งจิบกาแฟต่อไป

"ล้าฉันไม่มิความผิด คุณก็ไม่มิสิทธิ์พาตัวของฉันไปไหน นี้คือกฎหมาย" นายทหารสะอีกหากแต่ยังไม่อยากจะเสียหน้า

 

"เธอกล้าต่อปากต่อคำรึ" เขาตวาดเสียงกร้าว มือจับด้ามดาบมั่น "คุณเป็นทหารในท้องที่สินะคะ แล้วทราบเหตุผลที่ต้องนำตัวฉันไป หรือเปล่าล่ะคะ" เธอถามกลับเสียงเรียบ ทหารทั้งกลุ่มชะจักกึก พวกเขา ไม่รู้ว่าทำไมต้องนำตัวเด็กสาวตรงหน้าไป เพียงแต่ทำตามคำลังเท่านั้น "ไม่รู้สินะคะ ถ้าไม่รู้คุณก็ไม่มีสิทธิ์พาตัวฉันไป" พวกทหารเริ่มโมโห นี่พวกเขากำลังถูกเด็กลังสอนอยู่ใช่ไหม ผู้คนในร้านเริ่มใจคอไม่ดี นึกห่วง สวัสดีภาพของเด็กสาว ใครๆ ก็รู้'ว่าทหารกลุ่มนี้น่ะโหดแค่'ไหน แถม!เมือ ยังร้ายกาจ

"นังหนู ยอมไปกับพวกมันเถอะ ไอ้พวกนี้น่ะโหดจะตายไป ทำร้าย คนไม่มีเหตุผลหรอก" ชายชราที่นั่งโต๊ะข้างๆ กระซิบ

"พูดอะไรตาแก่ เดี๋ยวเจอดี!" ทหารนายเดิมตวาดชายชรา เมล่ามอง อย่างไม่ชอบใจนักแต่พยายามตีหน้านิ่ง แต่จิลเรย์รู้ว่าข้างในนั้นเริ่มคุกรุ่นแล้ว "คุณไม่มีสิทธิ์ แบบนี่กับประชาชนนะคะ ถึงคุณจะเป็นทหาร แต่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด มันละเมิดกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษย์ชน" เมล่ากล่าว เสียงเรียบ นายทหารหันขวับจ้องหน้าเทพสาวเขม็ง

"อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย ตัวแค่นี้จะมาลังสอนฉัน" เขาตวาดลั่นร้าน เธอพยายามข่มอารมณ์เดือดที่กำลังจะระเบิดออกมาอย่างที่สุด

"ขอโทษนะคะ แต่ฉันว่าฉันรู้กฎหมายดีกว่าพวกคุณเสียอีก" เมล่าพูด อย่างสุภาพ ชายฉกรรจ์ชักดาบ เขาหวังแค่จะขู่ แต่ร่างบางอยู่ในระยะดาบ พอดี คมดาบจึงเฉือนหัวไหล่ของเด็กสาวไป เรียกเลือดสีเข้มให้ไหลออกมา ทุกคนในร้านกำหมัดแน่น นี่ขนาดเป็นแค่เด็กมันยังกล้าทำ เมล่ามองบาดแผล ตัวเอง คทาครีสตัลปรากฏเข้ามือของวอลคิวริ่หนุ่มทันทีที่เรียก เขาชักเริ่ม มี่น้ำโหแล้ว เมล่ายกมือขึ้นห้ามผู้พิทักษ์ จิลเรย์ชะงักแต่ก็ไม่วายเถียง

"แต่มันทำร้ายท่านเมล่านะขอรับ" เมล่าตวัดสายตามองพลางส่ายหน้า เป็นเซิงห้าม เธอยกมือขึ้นเหนือแผล แสงสีทองเปล่งออกมาจากมืออาบรด บาดแผล อึดใจเดียวบาดแผลเฉียดๆ ก็สมานเหมือนเดิมราวกับว่ามันไม่เคย มีมาก่อน คนในร้านดูทำจะไม่แปลกใจนักเพราะพวกเขาเองก็เป็นผู้ใช้เวท

เรื่องแค่นี้'ทำใต้สบายๆ อยู่แล้ว แต่ปกติเวทมนตร์การรักษาพวกนี้มักจะมี แต่พวกที่เรียนเป็นแพทย์เท่านั้นที่ใช้ และที่สะดุดใจเห็นจะเป็นแสงสีทองนั้น "คุณทำผิดกฎหมายนะคะ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อย่างไร้เหตุผล ใช้อารมณ์ เป็นตัวตัดสิน" เทพสาวกล่าวเสียงเรียบ ยิ่งทำให้นายทหารโมโหจนสุดจะคุม เขาเงื้อดาบขึ้นหมายจะทำร้าย เคร้ง!

ดาบปะทะเข้ากับคทาคริศตัลใสยาวกว่าครึ่งตัวของวอลคิวรี่หนุ่ม เส้น อารมณ์ของเขาขาดตั้งแต่เมล่าโดนทำร้ายแล้ว

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" เสียงทรงอำนาจของจริงดังขึ้นจากหน้าร้าน ทุกชีวิต ในร้านหันขวับมองต้นเสียง ชายวัยสีสิบปีในเครื่องแบบทหารยศสูง ใบหน้า คร่ำเคร่งอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าของเขานั้นบอกถึงความไม่พอใจอย่างมาก ทุกคนในเมืองรู้จักเขาดี เขาคือผู้บัญชาการทหารประจำเมือง อำนาจ ทหารทั้งเมืองอยู่ในมือเขา แต่ไม่บ่อยนักที่เขาจะปรากฏตัวให้เห็น ฉะนั้น ต้องเป็นเรื่องสำคัญมากแน่ๆ ถึงทำให้ผู้ที่ไม่ค่อยชอบออกมาให้ใครได้เห็น มาที่นี้ได้ ผู้บัญชาการทหารประจำเมืองเดินเข้ามาในร้าน ทหารติดตามอีก สองนายเดินตามเขามาติดๆ ทหารกลุ่มแรกหน้าซีดเผือด ขาสั่นพั่บๆ รีบ เก็บดาบทำความเคารพทันที

"สะ...สวัสดีครับท่านผู้บัญชาการ" นายทหารคนหน้าสุดที่จะทำร้าย เมล่ากล่าวตะกุกตะกัก

"เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาวแน่!" ผู้บัญชาการทหารตวาดกร้าวก่อน จะหันมาหาเมล่าที่ยังนั่งนิ่งอยู่แม่ในใจชักเริ่มหวั่นๆ แล้วก็ตาม ไม่หันได้ ตั้งตัว ผู้บัญชาการทหารประจำเมืองก็โค้งทำความเคารพเธอทำมกลางความ งุนงงของทุกคนในร้าน รวมทั้งเมล่าที่อ้าปากค้างไปแล้ว

"ขออภัยที่คนของผมเสียมารยาท" เขาเงยหน้าขึ้นมองเมล่าซึ่งพอเข้าใจ อะไรได้รางๆ ที่เขาสุภาพกับเธอก็คงเป็นเพราะตำแหน่งในสภาสูงที่เธอได้รับ แล้วมันก็สูงไม่ใช้เล่น ทำเอาพวกที่ทำงานจนแก่หงำเหงือกแต่ตำแหน่งไม่ไป ถึงไหนอิจฉาไปตามๆ กัน แต่นั่นก็ไม่มีใครปฏิเสธความสามารถของเธอ’ได้เลย

"ผมจะกลับไปอบรมคนของผมให้ดีกว่านี้ครับ" เขาพูดต่อ และเมื่อ ได้ยินเข}นนี้น นายทหารกลุ่มแรกก็ถามขึ้นอย่างไม่พอใจ

"อะไรกันครับท่านนามิศ ท่าไมท่านต้องไปท่าความเคารพเด็กสามหาว นี้ด้วยล่ะครับ!" คำพูดนั้นท่าให้ผู้บัญชาการทหารหันขวับ

"หุบปาก ถ้าเจ้ายังไม่อยากหัวหลุดออกจากบ่าตอนนี้ รู้หรือเปล่าว่า คนตรงหน้าที่เจ้าจะเอาดาบมาฟันนี้เป็นใคร" เขาตวาดอย่างเหลืออด นามิศ ไม่ใช่คนประจบประแจงแต่เป็นคนที่ให้ความเคารพกับผู้ที่มีตำแห'แงสูงกว่า ตนและมีความสามารถ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นหญิงหรือชาย หรือจะอายุ เท่าไหร่ก็ตามที

"ถ้าเจ้ายังไม่รู้ ข้าจะบอกให้เอาบุญ นี้น่ะคือ..." แต่พูดยังไม่หันจบ เมล่าก็แทรกขึ้นก่อน

"พอเถอะค่ะ" นามิสชะงัก หันหน้ามาสบตากับผู้พูด "ทำไมล่ะครับ"

"ไม่จำเป็นต้องบอกหรอกค่ะ ฉันไม่อยากให้ใครมาเคารพฉันเพราะ ยศตำแหน่ง...ฉันอยากให้คนให้เกียรติฉันเพราะจิตใต้ล่านึกของคนคนนั้นเอง มากกว่าค่ะ" นามีสมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างขึ้นชมมากขึ้น

"ถ้าอย่างนั้นก็ตามผมไปที่คฤหาสน์ท่านผู้ว่าการเมืองเถอะครับ เรา จะได้ล่งกลับ" เมล่าได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจ

"ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมีอะไรต้องท่าอีกมาก แล้วฉันก็ไม่คิดจะกลับไป ตอนนี้ด้วย"

"แต่เธอต้องกลับ!"

เสียงเย็นเยียบที่ไม่ได้ยินมาเกือบอาทิตย์ดังขึ้นท่าเอาเมล่าสะดุ้งเฮือก เพราะเป็นเสียงที่เธอดุ้นเคยดี ทั้งร้านหันไปสนใจผู้มาใหม่ เด็กหนุ่มผม สีเงินนัยน์ตาสีน้ำเงินเยือกเย็นกับเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงนัยน์ตาสีเขียว มรกตอารมณ์ดี

ตายล่ะหว่า ตามเจอจนได้ เมล่าลุกพรวดขึ้นยืนท่าเอารูดาร์ฟที่นอนอยู่ บนตักกระโดดลงพื้นแทบไม่หัน

"โธ่ นายน้อยจะลุกก็น่าจะบอกข้าก่อน ทำข้าตกอกตกใจหมด" รูดาร์ฟ บ่น ทุกคนในร้านมองแมวน้อยสีขาวบนพื้นอย่างตกตะลึง แมวที่ไหนมันพูด ได้กัน!

"แหม เมล่าเล่นหนีออกมาแบบนี้รู้ไหมคนอื่นเขาเป็นห่วงกันแค่ไหน แล้วข้อความในจดหมายนั่นก็ทำให้องค์แดราเฟ่ร้อนใจมาก ทำเอาทางสภาสูง วุ่นวายกันยกใหญ่ เที่ยวหาตัวเธอกันให้ควั่ก" วัสส์ทักเสียงเคร่ง แต่เมล่า รู้ว่าเขาไม่ได้เครียดตามเสียงเลย ออกจะอารมณ์ดีเหมือนทุกทีด้วยชํ้า

"กลับไปกับฉัน" เดริกเอ่ยเสียงเย็นทำเอาคนอื่นในร้านรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน

"ไม่ ฉันไม่กลับ" เทพสาวแสร้งปฏิเสธเสียงแข็ง ทั้งที่'ใจเริ่มหวั่น "ถ้าอย่างนั่นไปคุยกันที่บ้านผู้ว่าการเมืองก่อน" วัสส์ต่อรอง เมล่าก้ม หน้าคิดหนัก แต่แล้วความคิดของเธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเดริกสาวเท้าเข้า มา ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างสูงก็ข้อนร่างบางขึ้นอุ้มทำมกลางความตกตะลึง ปนงุนงงของคนอื่นๆ เมล่าร้องไม่เป็นภาษา ทั้งดิ้นทั้งสะบัดแต่คนอุ้มก็ไม่ ยอมวางลงง่ายๆ แถมยังล่งสายตาดุๆ มาปราม

"ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจัดการเธอแบบตอนที่อยู่ในทางลับของนูเซอร์" ได้ผลชะงัด ร่างในอ้อมแขนแข็งทื่อราวกับเป็นอัมพาต คนอื่นที่ไม่รู้เรื่อง มองอย่างสนเท่ห์ มีแต่วอลคิวรี่หนุ่มเท่านั่นที่กลั้นหัวเราะอยู่คนเดียว แต่ ดูเหมือนจะทำได้ไม่ดีนักเพราะเสียงหัวเราะหลุดออกมาจนได้ เมล่าทันขวับ จ้องผู้พิทักษ์ของเธอเขม็ง

"หัวเราะอะไรจิลเรย์!" เหมือนสายฟ้าฟาดลง,ใส่จิลเรย์ ราวกับ ค่าประกาศิต วอลคิวรี่หนุ่มชะงักกึกก้มหน้างุด

"ขออภัยขอรับ" เขาพูดเสียงอ่อย เดริกมองหน้าสาวน้อยในอ้อมแขน อย่างขบขันก่อนจะสาวเท้าออกไปจากร้านโดยไม่คิดจะพูดอะไรกับใครต่อ จิลเรย์คจ้าความหวังแห่งทิวากาลกับสัมภาระของเจ้านาย ควักเงินวางไว้ บนโต๊ะก่อนจะออกวิ่งตาม

"เอ้ รอข้าบ้างไม่ได้หรือไง!" รูดาร์ฟร้องก่อนจะวิ่งตามออกไป วัสสี

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024