Love or Tricks รักกะล่อนครั้งนี้หนุ่มตี๋ขอเฮ้ว (ชุด คุณชายแบดบอย)

Love or Tricks รักกะล่อนครั้งนี้หนุ่มตี๋ขอเฮ้ว (ชุด คุณชายแบดบอย)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160600090
ผู้แต่ง: piano
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 199.00 บาท 49.75 บาท
ประหยัด: 149.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

ปฐมบทแรกเจอ

 

ผู้หญิง : เพศที่อ่อนแอ อ่อนโยน อ่อนหวาน

...เรอะ

เอาเถอะ! อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้หรอกน่า แข็งแกร่งชะมัด

...เฮ้อ...

“ตกลงนี่แกกินหญ้าแทนข้าวใช่มั้ย” นั่นไง คิดยังไม่ทันขาดคำ...

“ผมก็ทำเต็มที่แล้วนี่ครับแม่”

“ได้ดีบวกมาห้าวิชารวดนี่น่ะเรอะ ‘เต็มที่’ ของแกน่ะ ฮะ!”

“โธ่ แม่คร้าบ เอาไว้คราวหน้าผมจะเอาเอตัวงามๆ มาฝากแม่นะครับ” อ้อน

“แกบอกกับฉันแบบนี้มาตั้งแต่แกขึ้น ม.3 จนตอนนี้แกจะขึ้นปีสาม แกอายุยี่สิบเอ็ดแล้วนะ” โอย เจ้เครียด!

“ก็แค่อายุยี่สิบเอ็ดนี่ครับ แม่จะเสียงดังทำไมอ่ะ”

“ฟังแกพูดเข้าสิ นี่อยากให้ฉันอกแตกตายใช่มั้ย แกถึงทำตัวแบบนี้” เหนื่อยใจ

“โอเค เทอมหน้าผมจะทำคะแนนสอบให้ดีกว่านี้ละกัน แต่วันนี้แม่อย่าเสียงดังได้มั้ยเล่า”

“ถ้าไม่อยากให้ฉันเสียงดังก็ทำคะแนนสอบให้ดีกว่านี้หน่อยสิ เฮ้อ เห็นทีแกต้องเรียนพิเศษกับติวเตอร์ซะแล้ว”

“ผมไม่เอาติวเตอร์นะ แล้วคราวหน้าผมจะสอบให้ได้คะแนนดีๆ เอง แม่ไม่ต้องห่วง” พูดพลางทำหน้าจริงจัง

“อย่างแกน่ะเรอะจะทำไม่ได้ ไม่รู้ล่ะ ฉันตัดสินใจจ้างติวเตอร์ให้แกแล้ว”

“แม่!”

“ปิดเทอมนี้แกต้องอยู่บ้านเพื่อติวหนังสือ เข้าใจมั้ย”

“ผมบอกแม่แล้วว่าผมไม่เอาติวเตอร์” ยืนยันหนักแน่นสุดๆ

“ผลการเรียนแบบนี้ขืนไม่เอาติวเตอร์แกคงไม่จบมหาวิทยาลัยแน่” นี่ก็แสดงเจตนารมณ์สุดๆ เช่นกัน

“โธ่แม่ครับ ผมจะตั้งใจเรียนแล้วจริงๆ นะ”

“เลิกทำหน้าเหมือนจะโดนเอาไปฆ่าสักที ยังไงซะแกก็ต้องทำตามที่ฉันบอก”

“โหย แม่อ่ะ” ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ ก่อนมองนาฬิกาที่บอกเวลาหกโมงเย็น

...เห็นทีตอนนี้คงพูดกับคุณผู้หญิงของบ้านนี้ไม่รู้เรื่อง แต่เอาเถอะ นี่ก็ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาคุยต่อก็แล้วกัน

“ผมไปก่อนนะครับแม่”
“นั่นแกจะไปไหน” ผู้เป็นแม่รีบถามเมื่อเห็นลูกชายตัวดีเอากุญแจรถมาหมุนเล่น

“ผมนัดกับเพื่อนไว้น่ะครับ บายครับแม่” พูดจบก็เอานิ้วชี้และนิ้วกลางมาแตะหางคิ้วอย่างเท่ ประกาศกันไปเลยว่านี่แหละคือท่าประจำตัวที่ครีเอตมาแล้วอย่างช่ำชอง

“มิกซ์!!!”

สิ้นเสียงผู้เป็นแม่ หนุ่มหน้าตี๋ก็ใช้ประโยชน์จากขายาวๆ รีบก้าวออกจากประตูไปที่ ‘แลมเบอร์กินี’ รถสปอร์ตพันธุ์ดุสีดำเป็นมันวาวรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงดี

ประทุนรถค่อยๆ เลื่อนเปิดออกช้าๆ ด้วยการกดรีโมตคอนโทรลเพียงนิ้วสัมผัสเบาๆ และไม่นานเสียงล้อรถที่บดไปกับพื้นก็ดังสนั่นพร้อมกับที่ผู้เป็นแม่รีบวิ่งออกมาดูด้วยความเป็นห่วง

บรืนนนนนนน...

 

“ฮัลโหล เคลวิน...แกสั่งมาร์ตินี่ให้ฉันแก้วนึงดิ ฉันอาจไปช้านิดนึงว่ะ”

หนุ่มตี๋พูดเซ็งๆ ดวงตาหลังแว่นสีชาอ่อนมีแววรำคาญกับสัญณาณไฟจราจรที่แดงโร่ขึ้นมาฉับพลัน

(คุยกับแม่เรื่องคะแนนสอบแล้วอ่ะดิ) ปลายสายพูดเหมือนหยอกล้อ นั่นทำเอาหนุ่มตี๋ชักสีหน้าเบื่อหน่าย

“เออ เรื่องแค่นี้เอง ทำซะใหญ่โต”

(ก็คะแนนสอบแกมันห่วยนี่หว่า) อีกฝ่ายยังไม่เลิกยั่วเย้าอย่างสนุกปาก

“เออ ไอ้เก่ง พวกแกมันอัจฉริยะกันนี่”

(แล้วแม่กว่าว่าไงมั่ง)

“ก็ไม่ว่าไงหรอก แค่จะหาติวเตอร์มาประเคนให้ฉันว่ะ โคตรเซ็งเลย”

(เออ ก็ดีนี่หว่า)

“ดีตรงไหน เป็นแบบนี้ฉันก็เหมือนนกปีกหัก ปิดเทอมนี้ก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับพวกแกอ่ะเด่ะ”

(ช่วยไม่ได้โว้ย ว่าแต่แกจะมาถึงนี่กี่โมงวะ) สิ้นเสียงในโทรศัพท์มือถือ หนุ่มตี๋ก็เหลือบมองตัวเลขตรงคอนโซลหน้ารถที่บ่งบอกเวลา ก่อนจะมองไปที่สัญญาณไฟจราจรแล้วจึงตอบ

“คงอีกสักพักแหละ ถ้าหลุดสี่แยกนี้ไปได้ก็ฉิวแล้ว”

(รีบมาละกัน แค่นี้นะ)

ติ๊ด...

 

“เมมโม นี่แกซื้ออะไรมามากมายขนาดนี้เนี่ย” หญิงสาวหน้าหมวยตาชั้นเดียวใช้เสียงสูงเมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินถือของพะรุงพะรังออกมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง

หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า ‘เมมโม’ ค่อยๆ เดินมายืนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มน่ารักขี้เล่น ดวงตากลมโตหลังกรอบแว่นตาทรงกลมแสนเชยฉายแววแห่งความสุข ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้าง

“น้ำว้า แกก็รู้ว่าฉันได้งานใหม่แล้วนี่”

“ทำไมฉันจะไม่รู้ แกบอกฉันเป็นครั้งที่เก้าสิบเก้าได้แล้วล่ะมั้ง” หรืออาจครบร้อยครั้งแล้วด้วยซ้ำ

“นี่แหละคือเหตุผลที่ฉันต้องมีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ อีกอย่างลูกค้าของฉันคราวนี้ก็รวยระดับคุณชายเลยนะจะบอกให้”

“ลูกค้ารวยเลยต้องใส่เสื้อผ้าดีๆ ว่างั้น”

“ก็แหม...น้ำว้าจ๋า ฉันอายุยี่สิบห้าแล้วนะ ต้องดูภูมิฐานหน่อยสิ” ไม่พูดเปล่า เมมโมยังเอาหัวมาเลื้อยๆ ที่หัวไหล่ของเพื่อนสาวอย่างหยอกล้อ เรียกเสียงถอนหายใจให้กับความขี้อ้อนนั้นได้เป็นอย่างดี

“เฮ้อ แล้วทำไมแกไม่ซื้อแว่นตาอันใหม่เสียเลยล่ะ ใส่แต่อันนี้อยู่ได้ ดูเชย ดูแก่ชะมัด”

“ก็งบหมดพอดีนี่นา เอาน่า เรื่องนั้นช่างฉันเถอะ แกลองดูรองเท้าหนังนี่ดีกว่า ทายซิว่าราคาเท่าไหร่”

“หกพันแปด” น้ำว้าตอบโดยไม่ต้องรอให้เวลาเดินล่วงหน้าไปสักวินาทีเดียว ทำเอาเมมโมแสดงสีหน้าตกใจได้โดยทันทีเช่นกัน

“แกรู้ได้ไง อัจฉริยะจริงๆ”

“เมมโม แกซื้อของราคาแพงแบบนี้มาได้ยังไงกันนะ ดูสิ ข้าวของทั้งหมดเนี่ยมันคุ้มกับค่าจ้างของแกมั้ย”

“ขี้บ่นจังน้ำว้า เอาเถอะ ยังไงฉันก็ซื้อมาแล้วล่ะน่า”

“ย่ะ! แต่ก็ยินดีด้วยนะจ๊ะ แบบนี้ต้องไปฉลองกันหน่อยแล้ว” น้ำว้าพูดยิ้มๆ

“โอเค ฉันเป็นเจ้ามือเอง แต่ขอยืมเงินแกก่อนนะ” แหะๆ เงินหมดพอดี!!

“แกนี่มัน!”

 

สิบเอ็ด สิบ เก้า แปด...

ตัวแลขสีแดงนับถอยหลังเป็นสัญญาณว่าไฟเขียวกำลังจะมา ท่ามกลางสายตาแห่งความพอใจของหนุ่มตี๋ที่เตรียมตั้งท่าจะทะยานรถสปอร์ตสีดำคู่ใจไปเบื้องหน้า

“จะได้เวลาโบยบินแล้วลูกพ่อ”

 

“เมมโม แกรอฉันก่อน จะรีบไปไหนน่ะ”

“จะไฟเขียวแล้ว รีบๆ หน่อยสิน้ำว้า” หญิงสาวแสนเชยหันหน้ามาตะโกนบอกเพื่อนในขณะที่ตัวเองหิ้วของพะรุงพะรังเตรียมจะข้ามถนน

“มันอันตรายนะ แกไม่เห็นเหรอว่าไฟแดงมันเป็นเลขห้าแล้ว”

“อ๊ะ จริงด้วย งั้นฉันจะไปรอแกฝั่งโน้น รีบตามมาเร็วๆ นะ”

“เมมโม!!” น้ำว้าร้องลั่นเมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งถือของพะรุงพะรังไปเบื้องหน้าโดยไม่ฟังคำเตือนของเธอ

 

ห้า สี่ สาม...

บรืนนนนน

รถสปอร์ตสีดำพุ่งตัวออกด้วยความเร็วทั้งที่ไฟแดงยังไม่เปลี่ยนสีโดยไม่ทันสังเกตเห็นหญิงสาวข้างทาง

“กรี๊ดดด!”

“เฮ้ย!”

เอี๊ยดดดด

เมมโมหยุดเท้าตัวเองไว้ได้แต่ก็เกือบจะโดนรถสปอร์ตคันหรูเฉี่ยวชายเสื้อของหญิงสาวสัมผัสได้ถึงด้านข้างของรถราคาเกือบยี่สิบล้านอย่างน่าหวาดเสียว ข้าวของในมือกระเด็นกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

ชายหนุ่มหันใบหน้าหล่อใสสไตล์ตี๋อินเทรนด์มามองอย่างรวดเร็ว ดวงตาหลังแว่นสีชาอ่อนมองหญิงสาวเขม็งอย่างโกรธๆ ท้ายรถสปอร์ตเลื่อนถอยหลังด้วยความเร็วที่ทำให้หญิงสาวต้องสะดุ้งอีกครั้งพลางเบี่ยงตัวหลบ

“นี่ป้า! อยากตายหรือไง ฮะ!”

“ทีหน้าทีหลังก่อนจะข้ามถนนหัดดูตาม้าตาเรือซะมั่งเด่ะป้า”

อะไรนะ ปะ...ป้าเหรอ ไอ้เด็กหนุ่มหน้าตี๋นี่เรียกสาวสะพรั่งอย่างฉันว่าป้าเหรอ

“รู้มั้ยรถคันเนี้ยราคาเท่าไหร่ ทะเล่อทะล่าแบบนี้ระวังจะไม่ได้แก่ตายนะคร้าบ”

“ให้ตายเถอะ! คนแก่สมัยนี้”

บรืนนนนน

ไม่นานนักรถสปอร์ตพันธุ์ดุก็พุ่งทะยานจากไปด้วยความเร็ว ทิ้งเมมโมให้ยืนหน้าเอ๋อ ตาโตด้วยความช็อกไว้ข้างหลัง

“เมมโม แกโอเคใช่มั้ย!!” น้ำว้าวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงพลางละล่ำละลักถาม

“เมมโม?”

มองซ้ายที มองขวาที...อืม ใครไม่มุงให้เตะอ่ะ

“แกโอเคหรือเปล่า” เริ่มไม่แน่ใจ

“กะ...กรี๊ด ไอ้เด็กเหลือขอ!!!!” เพิ่งรู้ตัว

 

หลังจากนั้นสิบนาที

“เลิกบ่นได้แล้วแก ไอ้เด็กนั่นไปไกลแล้วล่ะ” น้ำว้าโพล่งออกมาก่อนที่เมมโมจะทำการด่ามาราธอนผสมกับการสาปแช่ง อาฆาตมาดร้ายไปมากกว่านี้ด้วยความโมโห แต่เท่าที่ได้ยินรู้สึกว่าเธอจะไม่ได้โกรธที่ไอ้เด็กนั่นขับรถเฉี่ยวเธอ แต่โกรธเรื่องที่เขาเรียกเธอว่า ‘ป้า’ ต่างหาก

“จะให้ฉันเลิกบ่นได้ยังไงล่ะ แกไม่ได้ยินเหรอว่าไอ้เด็กบ้านั่นเรียกฉันว่า...ว่า...ฮึ่ย! อย่าให้ได้เจอนะ แม่จะกะซวกพุงด้วยไม้จิ้มฟัน” เอาให้เสี้ยนตำตายไปซะเลย

“แต่ฉันว่าแกคงไม่ได้เจอกับไอ้เด็กนั่นอีกหรอก เห็นรถที่มันขับมั้ยล่ะ ราคาเป็นสิบๆ ล้านได้มั้งนั่น คนระดับพวกเราน่ะไม่มีปัญญาซื้อหรอกแก”

“ชิส์ ฉันก็ไม่ได้อยากจะเจอไอ้เด็กนั่นนักหรอก”

“อืม แล้วแกเป็นยังไงมั่งล่ะ ดีขึ้นหรือยัง”

“ก็โอเคแล้ว แต่ขายังสั่นๆ อยู่เลย ว่าแต่เก็บของมาครบหมดแล้วใช่มั้ย น้ำว้า”

น้ำว้าตรวจดูของเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่คิ้วเรียวยาวขะขมวดยุ่งเหยิงถามขึ้น

“เมมโม แกซื้อรองเท้ามาสองข้างใช่มั้ย”

“ถามอะไรน่ะ ใครจะซื้อมาข้างเดียวกันล่ะ” คนยิ่งอารมณ์ไม่ดียังจะมากวนกันอีก

“แต่ที่ฉันเห็นน่ะมันเหลืออยู่ข้างเดียวนะ” น้ำว้าพูดพร้อมกับยกรองเท้าหนังที่เหลืออยู่ข้างเดียวและสภาพเหมือนเพิ่งถูกล้อรถราคาแพงลิบลิ่วที่เกือบชนเธอเข้าเมื่อกี้ทับไปเต็มๆ

หะ...หะ...หกพันแปดของช้านนนนน!

 

ขณะเดียวกันรถสปอร์ตสีดำโดดเด่นก็จอดแน่นิ่งอยู่ในลานจอดรถของผับ Hot Issue มิกซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความซวยของตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะดับเครื่องและเตรียมจะเปิดประตู แต่แล้วหนุ่มตี๋ก็ต้องชะงักไปนิดเมื่อสายตาเจอเข้ากับวัตถุแปลกปลอมที่พื้นรถ

“อะไรน่ะ” ค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบมันมาถือไว้ในมือ “รองเท้าหนัง

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

phattaraporn | 1 รีวิว
18/08/2014

Love or Tricks รักกะล่อนครั้งนี้หนุ่มตี๋ขอเฮ้ว นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนนามปากกาpianoเป็นนิยายที่ออกมานานแล้วเหมือนกันค่ะสำหรับเรื่องนี้แต่รับประกันความสนุกมากๆเลยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางเอกของเราที่กำละงจะออกไปหาเสื้อผ้าใหม่ที่จะใช้สำหรับไปสอนพิเศษนักเรียนคนใหม่ซึ่งก็คือพระเอกนั่นแหละที่มีดีกรีเป็นถึงขนาดคุณชายระดับรวยล้นฟ้าแต่นางเอกของเราเกือบจะถูกรถชนค่ะด้วยฝีมือของพระเอกนั่นล่ะแถมเรื่องนี้พระเอกยังกวนประสาทที่สุดในโลกแต่หล่อมากหนุ่มตี๋ของฉันบอกเลยใครอ่านเรื่องนี้ไม่กริ๊ดนี่คงเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกมากๆพี่หนึ่งเขียนมาซะเคลิ้มพระเอกขนาดนั้นชอบมากๆเลยค่ะอ่านแล้วปลาบปลื้มพระเอกแต่ก็ชอบนางเอกอ่ะเราชอบพล็อตแนวๆนี้ที่นางเอกไปเป็นครูสอนพิเศษจะบอกว่าชอบนิยายเซตนี้ทั้งเซตเลยพวกแก๊งคุณชายทั้งหลายเนี่ยอ่านแล้วปลาบปลื้มใครที่ไม่เคยอ่านเซตนี้แนะนำว่าให้ลองอ่านค่ะเพราะนิยายสนุกมากจริงๆตอนแรกเราก็ไม่เคยอ่านเราอ่านครั้งแรกคือเรื่องของเฟรอ่ะพระเอกจำชื่อไม่ได้และเรื่องนั้นเป็จุดเริ่มต้นให้เราชอบอ่านนิยายของพี่หนึ่งเนี่ยแหละแล้วเราก็ตามมาแทบทุกเรื่องชอบนิยายทุกเรื่องของนักเขียนท่านนี้เลยค่ะเรื่องนี้ก็สนุกเราอ่านตอนแรกบอกเลยที่ดึงดูดจริงๆคือหน้าปกพระเอกเรื่องนี้กับนางเอกมันกินขาดมากๆหน้าปกนี่น่ารักสุดๆเห็นแล้วหลงรักเลยก่อนที่จะซื้อมาเก็บจริงๆจังๆชอบฉากหวานๆทุกฉากในเรื่องเลยอ่ะพี่หนึ่งบรรยายได้แบบคนอ่านอ่านแล้วอยากไปเป็นพระเอกซะเองเราชอบนิยายพี่หนึ่งเพราะสำนวนที่เป็นตัวของตัวเองด้วยแหละตั้งแต่อ่านนิยายพี่หนึ่งมาก็รู้สึกว่างานเขียนค่อนข้างที่จะต่างกับนักเขียนท่านอื่นด้วยคือนักเขียนแต่ละคนก็มีสไตล์การเขียนเป็นของตัวเองอ่ะของพี่หนึ่งที่สังเกตได้ชัดเลยก็พวกสำนวนที่ใช้พวกคำที่ใช้บรรยายอ่ะค่ะทำให้เราอ่านแล้วร็สึกไม่เครียดแบบว่ามันเป็นวัยรุ่นจริงๆอ่ะเราชอบทุกเรื่องในเซตอีตาคุณชายเลยแต่เรื่องของเฟรที่อ่านแล้วทำให้เสียน้ำตามากที่สุดเพราะพระเอกเล่นตัวส่วนเรื่องนี้พระเอกก็กวนๆอ่ะแต่ฮ็อตมากๆเราไม่ค่อยเห็นนิยายเรื่องนี้ขายในร้านหนังสือแล้วอ่ะค่ะแล้วก็ร็สึกดีที่ดักซื้อมาเก็บไว้นานแล้วพราะคาดว่าพอวันเวลาผ่านไปคงจะไม่มีเรื่องนี้ขายแล้วฮ่าๆๆๆใครที่ไม่เคยอ่านเราแนะนำเลยค่ะเรื่องนี้อันที่จริงแนะนำทั้งเซตเลยเพราะสนุกทุกเรื่องจริงๆรับรองว่าถ้าลองได้อ่านต้องหลงรักคุณชายทุกคนรวยแถมยังหล่อฮ่าๆๆๆชอบมากๆค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (63 รายการ)

www.batorastore.com © 2024