Game Over... ปิดบัญชี(รัก)
ประหยัด: 126.75 บาท ( 75.00% )
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
เธอ...คือคนที่เขา ‘■เลือกจะรัก’
แต่เขา...คือคนรักที่เธอ ■'ต้องเลือก’
ซานฟรานซิสโก เมืองใหญ่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย มุมหนึ่งบนถนนเอล คามิโน เดล มาร์ ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในบ้านหลังใหญ่ตรงโค้งถนนแอล คามิโนฯ ยามนี้เริ่มเข้าสู่ความเงียบสงบเมื่อบรรดาแขกในงานเลี้ยงวันเกิดพากันกลับ บาร์ม น๊อกซ์ สไตร์เดอร์ อดีตนาวิกโยธินรุ่นเก่าที่ปลดประจำการได้ไม่นานยิ้มให้กับร่องรอยของงานเลี้ยงในบ้าน
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการพบปะเพื่อนที่แสนดีและพวกพ้องเหล่านาวิกโยธินวัยใกล้เคียงกัน
ไม่สิ มันดีกว่านั้นอีก เมื่อเขาจะได้พบบุตรชายทั้งสองคนที่มาหาพร้อมกันในวันนี้
ภายในห้องหนังสือที่ตกแต่งด้วยโทนสีเนื้อไม้อย่างเรียบง่าย ทั่วทั้งห้องมิเพียงชั้นหนังสือติดผนังและโต๊ะ โดยผนังด้านหนึ่งถูกจัดด้วยโต๊ะโชว์รูป มีทั้งรูปถ่ายในวัยหนุ่ม รูปที่ถ่ายกับเพื่อนฝูงบนเรือรบที่ตนเคยประจำการอยู่ และตรงมุมห้องอีกด้านหนึ่งก็ยังมีโต๊ะทำงานหนึ่งชุดวางอยู่บนโต๊ะยังมีหนังสือหลายเล่มรวมทั้งหนังสือที่อ่านแล้ววางกองไว้
ประตูไม้เปิดออกและปิดลง ชายวัยสูงอายุใส่ชุดลำลองสีนํ้าตาลหม่นเดินเข้ามาในห้อง เขาตรงไปยังโต๊ะทำงานแล้วจึงยกหนังสือสองสามเล่มที่วางทับสิ่งที่ต้องการอยู่ออก ใต้ล่างสุดนั้นมีหนังสือเล่มหนาสีแดงเลือดหมูดูเก่าครํ่าคร่า เขาเปิดปกแข็งๆ ของมันออกก่อนจะเผยให้เห็นปุ่มกดที่อยู่ภายใน 'หนังสือหลอกตา' ของเขา
ฉับพลันนั้นที่ชั้นหนังสือติดผนังเลื่อนออกจากกันเผยให้เห็นห้องลับที่อยู่ด้านใน ชายสูงวัยก้าวเข้าสู่ห้องด้านในแล้วจึงเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มสองคนอยู่ภายในห้องนั้น คนหนึ่งยืนพิงหน้าต่างเหม่อมองออกไปเบื้องนอก อีกคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออ่านเล่นอยู่ หากทั้งสองคนก็หันมองมาทางบาร์มพร้อมกันและเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอันแสนจะคุ้นเคย
''แด๊ด...''
ชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาหาบาร์มพร้อมกับผลัดกันเข้ามาโอบกอดบิดาซึ่งเป็นการทักทายที่เคยชินกันอยู่ แต่ทว่าทั้งสองกลับเป็นพี่น้องที่ใครหลายคนคงแยกทั้งคู่ไม่ออก ไม่ว่าจะสีผม สีตา และท่าทางที่เหมือนกันราวกับพิมพ์เดียวกัน รวมทั้งอุปนิสัยใจคอที่เหมือนกันไปหมด แต่คงจะมีแค่บาร์มและภรรยาชาวไทยของเขาที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้นที่รู้ว่าฝาแฝดคู่นี้ อลันและอเล็กซ์ สไตร์เดอร์ มีส่วนไหนกันแน่ที่แตกต่างกัน!
บาร์มนั่งคุยกับลูกชายทั้งสองคนแล้วจึงแลเลยไปยังหน้ากากยางสำหรับการปลอมตัวที่ถูกถอดวางไว้บนโต๊ะเล็กๆ ข้างโซฟาตัวยาว บาร์มมองมายังบุตรชายคนเล็กแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ 'งาน' ของอเล็กซ์ทำให้ เขาต้องลบทั้งตัวตนไปจากสังคมและรายชื่อของประชากรแคลิฟอร์เนีย หากอลันยังคงมีตัวตนอยู่ในฐานะตำรวจสากลและรายชื่อประชากรของ
มลรัฐนี้
แม้อดีตนาวิกโยธินวัยดึกเข้าใจดีถึงสิ่งที่ลูกชายกำลังทำอยู่ แต่ด้วยความเป็นพ่อก็อดห่วงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ อลันและอเล็กซ์ทำงานเสี่ยงตายด้วยกันทั้งคู่ แต่ทว่านั่นคือหน้าที่ซึ่งทั้งสองคนเลือกแล้วที่จะทำ เขาทำได้เพียงส่งใจให้บุตรชายทั้งสอง ส่วนคนรอบข้างนั้นรับรู้เพียงว่าอเล็กซ์ตายไปเมื่อหลายปีก่อนในอุบัติเหตุหากไม่มีใครรู้เลยว่านั่นคือสถานการณ์ที่สร้างขึ้น
เมื่ออเล็กซ์เลือกทำงานใน 'หน่วยพิเศษ' นั้น ตัวตนของเขาก็ถูกลบ หายไปจากโลกใบนี้
หลายครั้งหลายหนในการทำงาน ครอบครัวคือจุดตายที่คนร้ายหยิบยื่นให้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเองและครอบครัว อเล็กซ์ซานโดร วอลเบิร์ก สไตร์เดอร์ จึงเป็นแค่บุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว
แต่ทุกๆ ปีของวันนี้จะเป็นวันที่อเล็กซ์มีตัวตนอีกครั้ง เขาปลอมตัวกลับบ้านเพื่ออวยพรวันเกิดให้บิดาและพบหน้าพี่ชายร่วมสายเลือด มันเป็นวันที่สองพี่น้องได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองและเล่าเรื่องราวของตัวเองให้บิดาของตนฟังด้วย
บาร์มนั่งคุยกับบุตรชายทั้งสองอยู่จนเวลาล่วงเลยไปมาก เวลาที่ถูกจัดสรรเพื่อเขาหมดลงแล้ว ชายชราลุกขึ้นเพื่อออกไปจากห้องลับ แต่กระนั้นบาร์มก็ยังไม่วายหันมาบอกบุตรชายทั้งสองว่า
''พ่อลืมบอกไปหรือเปล่าว่าพ่อภูมิใจในตัวแกสองคนมากนัก''
อเล็กซ์และอลันยิ้มออกมาพร้อมกันก่อนจะหลิ่วตาให้กันนิดๆ และเอ่ยออกมาแทบจะพร้อมกันว่า
"ทุกครั้งที่เรามา"
"งั้นพ่อจะบอกต่อไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่พวกแกมา ถึงพวกแกจะคิดว่ามันน่าเบื่อก็ตาม"
"ไม่น่าเบื่อหรอกครับ" อลันบอก
อเล็กซ์เสริม "ใช่ ไม่น่าเบื่อแม้แต่นิดเดียว"
''ดีแล้ว พ่อจะได้พูดมันต่อไปและต่อไป เห็นพวกแกรู้ใจกันดีพ่อก็ดีใจ" บาร์มพูดก่อนหลิ่วตา "ว่าแต่เรื่องสเป็คผู้หญิงน่ะ แก!รู้ใจกันดีหรือเปล่า"
บาร์มแกล้งวางระเบิดไว้นิดหน่อยก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยมีเสียงหัวเราะกระหึ่มจากบุตรชายทั้งสองตามหลัง รู้ดีว่าบิดาอยากได้ลูกสะใภ้และหลานเต็มแก่ แต่ลูกชายกลับไม่ยอมร่วมมือด้วยเอาเสียเลย
หากเมื่อคล้อยหลังบิดาออกไป บรรยากาศในห้องก็ดูจะเครียดขึ้นถนัดตาเมื่อเรื่องงานที่ต้องทำร่วมกันผุดขึ้นมาในหัวสมอง อลันและอเล็กซ์มีเป้าหมายเดียวกันในงานที่ถูก 'หน่วยเหนือ' สั่งลงมา งานชิ้นแรกที่ได้ทำร่วมกันต่างหน่วยงานและการทำงานแตกต่างกันอลันใช้สมองและกฎเป็นหลัก แต่อเล็กซ์ปฏิบัติการและปิดบัญชีเป้าหมาย!
อเล็กซ์หยิบหน้ากากปลอมที่เป็นรูปลักษณ์ของชายแก่ขึ้นมาปิดบังตัวตน พร้อมกับบอกพี่ชายฝาแฝดของตนด้วยนํ้าเสียงเคร่งเครียดว่า "ฉันต้องกลับแล้ว แล้วเจอกันในงานนะพี่ชาย"
อลันยิ้มนิดๆ ก่อนจะตบไหล่น้องชายฝาแฝดเบาๆ "ระวังตัวให้ดี"
อเล็กซ์เลิกคิ้วสูงพลางยักไหล่น้อยๆ ไม่อนาทรร้อนใจกับคำเตือนนั้นสักเท่าไหร่ "ใครกันแน่ที่ควรระวัง ฉันจำได้นะว่าแม่สาวน้อยมาเฟืยที่ชื่อชิคกี้อะไรนั่นน่ะก็ร้ายไม่เบานี่"
อลันหัวเราะเบาๆ กับคำยอกย้อนของน้องชาย "อย่างน้อยเธอก็ร้าย น้อยกว่าที่นายคิดแล้วกัน"
"แล้วฉันจะคอยดู"
แฝดคนน้องบอกแค่นั้นก่อนจะหมุนกายออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่วายทั้งรอยยิ้มบางๆ ยั่วเย้าประสาทคนเป็นพี่ที่อายุห่างกันไม่ถึงชั่วโมงไว้อยู่ดี
บทที่ 1
เริ่มต้นของเดิมพัน
ความมืดมิดด้านนอกบ่งบอกได้ถึงเวลาที่ดึกสงัด มีเพียงแสงไฟจากท้องถนนกับแสงจากหน้ารถที่แล่นยั่วเย้าราตรีกาลคํ่าคืนนี้ในซานฟรานซิสโก อพาร์ตเมนท์เก่าซึ่งอยู่ในย่านเสื่อมโทรมที่ผู้คนมักมองว่าไม่น่าอยู่อาศัย แต่กับใครคนหนึ่งที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งปลอดภัยที่สุดสำหรับเขา
ภายในห้องดูรกและไม่ค่อยเป็นระเบียบ ข้าวของวางกระจัดกระจายเต็มไปหมด หนังสือพิมพ์ที่อ่านทิ้งไว้ยามนี้ถูกพับลวกๆ วางไว้บนโต๊ะไม้เก่าครํ่าคร่า หากบนเตียงไม้เก่าๆ ร่างสูงนอนเหยียดยาวอยู่บนนั้น นัยน์ตายังคงหลับสนิท แต่ใบหน้าคร้ามบอกถึงสภาวะเข้าสู่ความฝันที่เจ้าตัวคงไม่พึงประสงค์เท่าใดนัก
ความฝันที่ทวงถามและรบกวนจิตใจของเขาตลอดมาในนั้นเขาเห็นตัวเองอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงของลังไม้ที่ถูกระเบิดจนแตกกระจายออก เสียงปีนที่รัวยิงโต้ตอบกันยังคงแล่นเข้าสู่โสตประสาทของเขา มันยํ้าเตือน ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน
เสียงตะโกนร้องเรียกใส่ไมค์สวมหัวที่ใข้ในการปฏิบัติการยังคงแจ่มชัด เสียงพูดและสบถด่ายามเมื่อภารกิจล้มเหลวและต้องล่าถอยยังคงยํ้าเตือนอยู่ไม่สร่าง และเสียงตะโกนที่ยํ้าชื่อนั้นไว้ตลอดกาล
''อเล็กซ์!"
ร่างสูงลืมตาโพลงลุกพรวดขึ้นนั่ง ใบหน้าคมมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ลมหายใจถี่แรงกับความฝันที่ยํ้าเตือนอยู่ตลอดเวลา ฝันร้ายที่ไม่อาจจางหายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาแล้วก็ตาม
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเองก่อนจะสลัดผ้าห่มออกพ้นตัว เขาลุกขึ้นยืนพลางคว้ากางเกงที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงมาสวม ก่อนจะเดินเลยไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดไป เปิดก๊อกน้ำและลงมือล้างหน้าเพื่อชะล้างความฝันที่ตามหลอกหลอน แต่มันกลับไม่เป็นผลเอาเสียเลย ความสูญเสียที่ได้รับเกินกว่าที่จะลบเลือนมันได้
ภารกิจครั้งนั้นยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ ปฏิบัติการทำลายล้างยาเสพติด แต่ทว่าความพลิกผันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สายที่ส่งไปถูกจับ ได้ ภารกิจเดิมถูกยกเลิกและแทนที่ด้วยภารกิจใหม่ที่เป็นการช่วยเหลือคนในหน่วยออกมา
อีกครั้งที่ปฏิบัติการล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อพวกเขาถูกตลบหลังด้วยการระเบิดพื้นที่ทิ้ง โดยที่พวกมันไม่สนใจชีวิตของพวกเดียวกันเองด้วยซํ้า ไม่สนว่าจะมีพวกของตนเองกี่คนที่สามารถรอดออกมาได้
เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังสะท้านสะเทือนไปทั่วเกาะร้างที่เป็นแหล่งเก็บของเศษซากแห่งความเสียหายปลิวว่อนไปทั่ว ลังไม้เปล่าที่ถูกติดตั้งระเบิดไว้แตกกระจายออกเป็นจุณ ส่งผลให้พื้นที่ตรงนี้ลุกเป็นไฟ ราวกับอยู่ในนรกขุมสุดท้ายที่ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนก็ไม่อยากเผชิญ และ เสียงปืนที่ยังคงยิงโต้ตอบกันเป็นระยะๆ ไม่ขาดสายทำให้ชุดปฏิบัติการ ถอยร่นลงมาจนถึงแนวชายหาด
ทุกคนพร้อมที่จะถอนกำลังออกมาแล้ว ยังเป็นโชคดีของพวกเขาที่สามารถช่วยตัวประกันในหน่วยมาได้ หากแรงระเบิดเมื่อครู่กลับทำให้อุปกรณ์สื่อสารเริ่มติดๆ ดับๆ แต่กระนั้นมันก็ยังพอใช้การได้แม้จะไม่ดีนักก็ตาม ในยามนั้นอลันส่งเสียงผ่านไมค์ออกไป
''ยืนยันภารกิจสิ้นสุด ทุกคนกลับ!"
เสียงบอกนั้นยังคงชัดเจนอยู่จนถึงขณะนี้ แต่เงามัจจุราชตนหนึ่งกลับคืบคลานเข้ามาทางด้านหลังของอเล็กซ์โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัว พร้อมกับเสียงปีนที่ดังขึ้น
"อเล็กซ์!"
เสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับภูเขาไฟระเบิดแผดขึ้น อเล็กซ์ควํ่าหน้าลงกับพื้นแล้วนรกก็เริ่มร้อนอีกครั้ง!
เสียงกรีดร้องจากโทรศัพท์กลับเรียกสติเขาให้กลับสู่ความเป็นจริงได้ในพริบตา ชายหนุ่มสลัดศีรษะไปมาสองสามครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังโทรศัพท์เก่าๆ ที่วางอยู่ข้างเตียง เขายกหูโทรศัพท์ก่อนจะรอฟังเสียงอีกฝ่ายเพื่อให้มั่นใจว่าใช่สายที่เขารออยู่ ปลายสายเอ่ยทักเป็นรหัสของตัวเองออกมา
“หมาป่าไม่ขย้ำลูกแกะ”
“แต่ฉันจะขย้ำหัวนายนะเมจิกเชี่ยน”
อลันตอบกลับไปโดยปกปิดชื่อจริงของอีกฝ่าย สายโทรศัพท์อาจถูกดักฟังได้ การระวังตัวเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนในสถานะแบบเขา แม้แต่สถานที่ซึ่งดูไม่น่าอยู่นี้เขาก็เป็นคนเลือกมันเอง บางครั้งภาพลวงตาของสถานที่ก็ช่วยปกปิดสถานะที่แท้จริงได้เหมือนกัน
“เฮ้อ มีอารมณ์ขันเสียบ้างสิพ่อหมาป่า”
“ฉันจะ ‘ขัน’ ก็ต่อเมื่อต้องการจะขัน” ชายหนุ่มตอบพลางกระตุกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเสยเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเกือบเป็นสีดำของตนเอง คิ้วหนาดกขมวดมุ่นนิดๆ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมา
“ฉันไม่ได้หมายถึงนกเขา ‘ขัน’ นะพ่อหมาป่า”
“เฮ้ แล้วใครบอกนายว่าเรากำลังพูดเรื่องนกเขาอยู่” น้ำเสียงที่ถาม
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
เขียนโดย "ฟองฟาง"
264 หน้า
รีวิว (1)
20/07/2014
Game Over... ปิดบัญชี(รัก) นิยายเล่มนี้เป็นของพี่ฟองฟางอีกเช่นเคยเพราะเก็บนิยายทุกเรื่องของพี่ฟองฟางค่ะอยากรีวิวเล่มนี้มากๆเพราะชอบมากๆค่ะชอบนางเอกสุดๆบทบาทสมกับเป็นน้องสาวมาเฟียซึ่งเรื่องนี้เป็นเล่มของน้องสาวมาเฟียเจ้าของฉายาตาพยัคในเล่มหนึ่งนั่นเองแถมยังเป็นพระเอกด้วยถ้าใครได้อ่านคงจำกันได้ค่ะโดยส่วนตัวเราไม่เคยคิดว่าจะได้มาอ่านเล่มนี้ซึ่งเป็นเล่มของน้องสาวพระเอกนะเพราะหลังจากขอโทษครับผมเป็นมาเฟียนิยายเล่มนี้ก็มีภาคต่อไปแล้วอ่ะประมาณสองสามเล่มซึ่งเป็นภาคต่อของรุ่นลูกเหล่ามาเฟียตัวร้ายนั่นเองถือว่าเล่มนี้เป็นอะไรที่ผิดคาดเพราะมาปิดท้ายเซตเลยย้อนกลับมาที่รุ่นพ่อรุ่นแม่อีกเป็นรุ่นของน้องสาวมาเฟียแทนแถมเรื่องนี้เธอยังได้รับบทบาทเหมาะสมกับเป็นน้องสาวมาเฟียมากฉลาดแล้วก็เก่งไม่ยอมใครส่วนพระเอกนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตำรวจอลันนั่นเองว่ากันว่าตำรวจกับมาเฟียนั้นไม่ค่อยจะลงรอยกันก็ไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่อ่ะนะแต่เรื่องนี้สองคนนี้เขาต้องร่วมมือกันเพื่อปราบเหล่าตัวร้ายเพราะดันเป็นเป้าหมายคนเดียวกันกว่าจะผ่านแต่ละฉากแต่ละตอนไปได้ก็สะบัดสะบอมอ่ะค่ะอ่านแล้วมีฉากเศร้าด้วยนะอ่านถึงตอนนั้นน้ำตาร่วงเลยค่ะเรื่องนี้ค่อนข้างหักมุมเพราะมันจะมีปมที่เป็นความรักของพระนางอ่ะที่ต่างฝ่ายต่างก็เก็บไว้เชื่อเลยว่าถ้าใครอ่านเรื่องนี้ต้องติดใจจนอาจจะทำให้อยากไปหาเรื่องราววุ่นๆของเหล่ามาเฟียเล่มก่อนนี้มาอ่านเพราะนิยายของพี่ฟองฟางอ่านแล้วไม่ผิดหวังสักเล่มปมเรื่องพี่เขามาดีจริงๆอ่านแล้วลุ้นทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบพระเอกก็มีมุมน่าสงสารแต่อ่านเรื่องนี้แล้วชอบนางเอกสุดๆแล้วดูนิสัยเหมือนผู้ชายแล้วก็เข้มแข็งดีอ่ะชอบบุคคลิกเป็นผู้หญิงที่ไม่อ่อนแอดูกล้าหาญมากอ่ะอ่านแล้วประทับใจแถมยังฉลาดเหมือนพี่ชายด้วยเพราะพี่ชายที่เป็นมาเฟียก็ทั้งฉลาดแล้วก็เก่งสมกับที่เป็นสายเลือดเดียวกันเลยแถมเรื่องนี้นะกว่าจะผ่านไปแต่ละฉากมันลุ้นตัวโก่งจริงๆอ่ะเดาเนื้อเรื่องไม่ค่อยออกเท่าไหร่แต่บางฉากถ้าสังเกตดีๆก็โดนสปอยมาและแต่ชอบนิยายแนวนี้เดาเนื้อเรื่องยากดีทำให้อ่านแล้วเพลินไม่ง่วงแล้วก็อยากรู้ตอนต่อไปไวๆเพราะอ่านนิยายเรื่องนี้แปปเดียวก็จบแล้วชอบทุกฉากทุกตอนจบได้ประทับใจมากตัวละครสองคนนี้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากๆเลยค่ะอ่านแล้วฟินสุดๆชอบทุกเล่มของพี่ฟองฟาง