Forbidden Aquarius สะกดหัวใจไม่ให้รักเธอ
ประหยัด: 171.75 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 104.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
ชื่อ : Summer Wind
ชื่อเล่น : -
วันเกิด : -
ราศี : กุมภ์
กรุ๊ปเลือด : B
อาชีพ : นักแข่งรถมอเตอร์ไซค์
สีที่ชอบ : ดำ
อาหารโปรด : ผู้หญิง
สถานที่โปรด : สนามแข่ง
ของที่มักพกติดตัวเสมอ : Condom (โดนบังคับ)
สเป็กสาวในฝัน : ชอบคนอายุมากกว่า
นิยามความเป็นตัวเอง : I’m not perfect but I’m limited edition.
บทสัมภาษณ์
ว่ากันว่าหนุ่มกุมภ์เป็นคนลึกลับ มีเสน่ห์ และน่าค้นหา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ ในเมื่อหนุ่มกุมภ์ที่จะมาพูดคุยกับเราในวันนี้ไม่ยอมเปิดเผยแม้แต่ชื่อเสียงเรียงนาม เขาให้เราเรียกเขาว่า ‘Summer Wind’ ซึ่งเป็นฉายาที่คนในวงการนักบิดขนานนามให้ มันเป็นชื่อที่สาวๆ ในสนามแข่งตะโกนเชียร์อย่างสุดหัวใจ ตอนนี้คงถึงเวลาที่เราจะได้ค้นหาความลึกลับในตัวหนุ่มกุมภ์คนนี้แล้ว
ระหว่างรอสัมภาษณ์ เรานั่งดูลีลาการขี่มอเตอร์ไซค์วิบากของเขาอย่างละสายตาไม่ได้ ขนาดไม่เห็นหน้า แต่เสน่ห์ของเขายังดึงดูดขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ ว่าใบหน้าใต้หมวกกันน็อคสุดเท่ใบนั้นจะสะกดพวกเราไว้ได้แค่ไหนกัน จนกระทั่งวินาทีที่เขาเดินมาและถอดหมวกกันน็อคออกนั่นแหละถึงได้เข้าใจว่าทำไมสาวๆ ครึ่งค่อนโลกถึงได้คลั่งไคล้นักบิดที่บ้าระห่ำคนนี้
ผมสีเม็ดทรายของเขาชุ่มเหงื่อ มันดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก ยิ่งอยู่ในชุดนักแข่งรถเท่ๆ แบบนี้ ระดับความฮอตของเขาก็ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ เขาเดินมาพร้อมกับรูดซิปเสื้อแหวกกลางหน้าอกลงไปเพื่อระบายความร้อนระอุออกมา เราภาวนาให้เขารูดซิปลงไปให้ต่ำเท่าไหร่ได้ยิ่งดี แต่เขาก็หยุดไว้ที่ช่วงสะโพก จากนั้นก็ถอดมาผูกไว้ที่เอว เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวชุ่มเหงื่อแนบไปกับร่างกายแข็งแกร่งแบบนักกีฬา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปาก และบอกได้เลยว่าผู้หญิงทั้งโลกยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเพื่อจะได้เห็นปรากฏการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเราขณะนี้
ดูจากท่าทางกระฉับกระเฉงแล้ว เราคิดว่าหนุ่มกุมภ์คนนี้คงพร้อมที่จะกุมหัวใจทุกคนแล้ว งั้นเราไปพูดคุยกับเขากันเลยดีกว่า
รู้สึกยังไงบ้างที่ได้รับเลือกเป็น Prince of Zodiac
Summer Wind : ตลกดีครับ ไม่คิดว่าจะมีคนเลือกผม
คิดว่าอะไรทำให้คุณได้รับเลือก
Summer Wind : อาจจะเป็นเพราะจัสติน ทิมเบอร์เลกไม่ว่างมั้งฮะ ผมเลยได้มาเสียบแทน (หัวเราะ)
(จัสติน ทิมเบอร์เลกเป็นหนุ่มราศีกุมภ์เหมือนกัน)
ชีวิตหลังจากได้กลายเป็น Prince of Zodiac มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างมั้ย
Summer Wind : ผมยังคงกินสี่มื้อ นอนสิบชั่วโมง และสนใจในเพศตรงข้ามเหมือนเดิม
คิดว่านิสัยตรงกับราศีตัวเองรึเปล่า
Summer Wind : ถ้าผมบอกว่าตรงก็คงดูไม่ลึกลับสมกับเป็นผมเลยจริงไหม
สิ่งที่คุณเกลียดมากที่สุดในชีวิต
Summer Wind : ความรัก
ความรักของหนุ่มราศีนี้ หรือความรักในแบบของคุณเป็นแบบไหน
Summer Wind : รวดเร็ว รุนแรง เร่าร้อน
อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตคุณ
Summer Wind : เป้าหมาย
ถ้าเปลี่ยนราศีได้...คุณอยากเกิดราศีอะไร และเพราะอะไร
Summer Wind : ราศีธนู ผมชอบกีฬาประเภทขี่ คุณก็รู้ (หัวเราะ)
หลังจากนี้ คุณวางแผนอะไรไว้กับชีวิตคุณบ้าง
Summer Wind : Work hard and play harder
ฝากอะไรถึงคนอ่านของเราที่ช่วยกันโหวตให้คุณหน่อย
Summer Wind : ขอบคุณนะครับ
There is no Phantom of the Opera.
-Phantom of the Opera-
บทนำ
ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนจะตก ลมเย็นหอบเอากลิ่นดินชื้นๆ พัดมาต้องจมูก ฉันรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น นี่ฉันกำลังจะไปไหน อยู่ๆ ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองกำลังรีบเดินไปไหน ถนนที่ฉันเดินอยู่ทอดตัวยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตาไร้จุดหมาย เศษใบไม้แห้งบนพื้นถนนปลิวสะบัดพัดหมุนวนอยู่รอบตัว ทั้งที่อยู่ในช่วงฤดูร้อนแท้ๆ แต่ทำไมอากาศถึงได้แปรปรวนแบบนี้
คงเป็นลมหลงฤดู...
ปลายเท้าของฉันหยุดชะงัก อยู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นั่นสิ! ทำไมถึงเพิ่งจะนึกได้นะ ฉันลืมของนี่นา ฉันลืมอะไรบางอย่างไว้ที่นั่น
พอนึกขึ้นได้ฉันก็รีบเปลี่ยนทิศ กลับหลังหัน แล้ววิ่งไปตามทางที่เพิ่งเดินจากมาอย่างสุดฝีเท้า ฉันวิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งจนไม่รู้ว่ามาไกลแค่ไหนแล้ว วิ่งราวกับหนีใครบางคนที่ไล่หลังมา ฉันเอี้ยวคอไปมองข้างหลังเป็นระยะ และเห็นว่าความมืดกำลังไล่ตามฉันมาทุกฝีก้าว มันทำให้ฉันรู้สึกกลัว และคิดว่าตัวเองต้องหนี ต้องหาที่ซ่อนตัว
ฉันเห็นไม้กางเขนขนาดใหญ่อยู่ห่างไปยี่สิบสามสิบก้าว นั่นมันโบสถ์นี่นา ฉันรู้สึกได้ว่านั่นเป็นที่ที่จะช่วยให้ฉันซ่อนตัวจากสิ่งที่กำลังไล่ล่าฉันอยู่ในตอนนี้ได้ ฉันเร่งฝีเท้าไปที่โบสถ์และผลักประตูเปิดเข้าไป ข้างในเป็นโถงสูง เสียงสวดบทสวดดังกังวานก้องปทั่ว แต่ฉันไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ในนี้เลย
ปัง!
ประตูโบสถ์กระแทกปิด ฉันสะดุ้งเล็กน้อย อะไรบางอย่างต้องการให้ฉันมาที่นี่ อะไรบางอย่าง...
ข้างในสลัวด้วยแสงเทียน กลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวลไปทั่วบริเวณ ฉันลืมอะไรบางอย่าง ฉันลืมอะไรกันนะ คิดไม่ออกเลย ฉันเดินไปตรงกลางระหว่างม้านั่งที่ตั้งเรียงรายอยู่สองฟาก มองซ้ายมองขวาไปรอบตัว รู้สึกเหมือนมีสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องมาที่ฉันจากหลากหลายมุม แต่ฉันกลับไม่เห็นใครเลยสักคน
ฉันไปที่หน้าต่างสารภาพบาป อย่างน้อยต้องมีบาทหลวงอยู่ที่นั่นแค่นั้นก็น่าจะช่วยให้ฉันอุ่นใจขึ้นบ้าง
“คุณพ่อคะ”
“อ๊ะ! อย่าสิ...”
มีเสียงดังลอดออกมาจากหลังบานหน้าต่างที่แง้มอยู่นิดหนึ่ง
เสียงใครกันน่ะ
“อย่าส่งเสียงไป เดี๋ยวมีคนได้ยิน...”
“นายก็อย่าทำให้ฉัน...”
“ไม่ชอบเหรอ...”
“ชอบสิ...”
เสียงชายหญิงดังลอดออกมาจากบานหน้าต่างสารภาพบาป และนั่นก็กระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉัน ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะแนบตาเข้าไปที่ช่องว่างนั้น หัวใจเต้นตึกตักเหมือนคนกำลังทำความผิด
น่าแปลกที่ภายในห้องนั้นมีลักษณะกว้างกว่าที่คาดไว้ ฉันเห็นชายหญิงในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนกำลังนัวเนียกัน นั่นมันยูนิฟอร์มโรงเรียนฉันนี่นา!
มองจากมุมนี้ทำให้ฉันเห็นแผ่นหลังของผู้ชาย ส่วนผู้หญิงหันหน้ามาทางฉัน ใบหน้าของเธอซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอของเขาทำให้ฉันมองไม่เห็นว่าหน้าตาของเธอเป็นยังไง เห็นเพียงแค่ผมดำยาวสลวยที่พลิ้วไปตามการเคลื่อนไหว
ขณะที่แอบมองคนทั้งสองนัวเนียกันอย่างเพลิดเพลิน อยู่ๆ หัวใจของฉันก็กระตุกวูบ เมื่อผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นและมองมาที่ฉัน มันทำให้ฉันผงะถอยออกจากบานหน้าต่าง เมื่อกี้เธอเห็นฉันหรือเปล่านะ แต่ที่แน่ๆ ฉันเห็นหน้าเธอชัดเจนเลย ให้ตายสิ! ฉันรู้จักผู้หญิงคนนั้น
เอาไงดี เธอเห็นฉันหรือเปล่าเนี่ย แต่หน้าต่างแง้มนิดเดียวเอง เธอไม่น่าเห็นฉันนะ ลองดูอีกรอบแล้วกัน ฉันสูดลมหายใจลึกก่อนจะแนบตาลงไปกับช่องว่างตรงบ้านหน้าต่างนั้นอีกครั้ง แต่พอแนบลงไปกับฉันกลับพบว่าห้องมืดไปแล้ว
ไม่สิ...ไม่ใช่...
ความมืดที่ฉันเห็นนั้นมัน...
มันเป็นสีดำของตาเธอต่างหาก!
1
ฉันสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายกลางดึก เหงื่อแตกพลั่กเต็มตัว หน้าเปียกไปหมด ฉันยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อพลางคิดว่านี่ฉันฝันแบบนี้อีกแล้วเหรอเนี่ย บ้าจริง ฝันอะไรซ้ำๆ ซากๆ ฝันเห็นเรื่องราวแบบนี้มายี่สิบสามสิบรอบ ไม่สิ ฉันว่ามากกว่านั้นอีก แต่ฉันว่าฉันไม่ได้ฝันแบบนี้มานานแล้วนะ ทำไมถึงได้กลับมาฝันถึงเรื่องนี้อีก ที่แปลกก็คือครั้งนี้มันดูชัดเจนและสมจริงมาก ถามว่ามากแค่ไหน ฉันคงต้องบอกว่ามากเสียจนฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเมื่อกี้นี้เลยเต็มสองลูกตา
ทั้งที่อยากจะให้เป็นเพียงความฝัน แต่ฉันกลับปฏิเสธไม่ได้
ใช่! มันคือเรื่องจริง! (บางส่วน)
มันเหมือนกับเวลาที่ฉันสเก็ตช์รูปด้วยดินสอแล้วใช้ยางลบถูกๆ ลบออก ลบยังไงก็ลบไม่สะอาด เหตุการณ์นั้นก็เหมือนกัน ฉันพยายามลืมมันจนเหลือเพียงภาพจางรางเลือน แต่อยู่ๆ ความฝันเมื่อกี้นี้ก็ทำให้ทุกอย่างแจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง และมันกำลังทำให้ฉันรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่ามันเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่าง
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายามค่ำคืนดูมืดสลัว กลุ่มเมฆสีเทาครึ้มเคลื่อนตัวราวกับจงใจจะมาบังหน้าต่างห้องฉันไม่ให้แสงใดๆ ส่องถึง ฉันรู้สึกว่าห้องที่มืดอยู่แล้วกำลังมืดลงเรื่อยๆ ความมืดทำให้รู้สึกไม่ดี ฉันจึงเอื้อมมือไปคลำหาสวิตช์โคมไฟหัวเตียง แต่มันกลับเปิดไม่ติด อะไรกันเนี่ย ไฟดับเหรอ บ้าจริง มาดับอะไรไม่รู้เวล่ำเวลาเลย ฉันมองฝ่าความมืดไปรอบๆ ห้องด้วยความรู้สึกหวาดๆ
เปรี้ยง!
“กรี๊ดดดด!’
เสียงฝ้าผ่าทำให้ฉันที่ขวัญเสียอยู่แล้วสะดุ้งกระเจิดกระเจิงจนเผลอส่งเสียงกรี๊ดออกมา ตอนนั้นมีแสงแปลบปลาบมาจากนอกหน้าต่าง สว่างวาบราวกับแสงแฟลช และช่วงที่ห้องกำลังสว่างโร่อยู่นั้นก็กลับมีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้น
วาบ!
อยู่ๆ ฉันก็เห็นเงาดำมืดทะมึนเคลื่อนตัววูบไปอย่างรวดเร็วบนผนังห้องใจฉันหายวาบ ไม่รู้ว่าเงานั้นเกิดจากวัตถุอะไร ฉันมองไปรอบตัวและเริ่มค้นหาต้นตอที่จะก่อให้เกิดการเคลื่อนตัวของเงานั้น แต่ฉันก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่สามารถเคลื่อนไหวให้เกิดเงาวูบวาบได้ ชั่วอึดใจแสงฟ้าแลบก็สิ้นสุดลง ห้องกลับมามืดตึ๊ดตื๋ออีกครั้ง
ฉัน...ใจไม่ดีเลย...
รู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างไม่ปกติ ในห้องนี้มีบางอย่างไม่ปกติจริงๆ ฉันไม่ได้คิดไปเองสาบานได้
ฉันคิดว่าฉัน...ไม่ได้อยู่ในห้องนี้เพียงลำพังอีกต่อไป...
มีใครบางคนอยู่กับฉันที่นี่!
ปึง ปึง ปึง!!!
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)