บอสหน้าตายกะยัยสอางค์ (cookie)

บอสหน้าตายกะยัยสอางค์ (cookie)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160601110
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 99.00 บาท 78.21 บาท
ประหยัด: 20.79 บาท ( 21.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

แม้ว่าจะเลยเวลาเที่ยงมาแล้วก็ตาม แต่พนักงานส่วนใหญ่ในออฟฟิศก็ยังคงนั่งทำงานง่วนอยู่ตามโต๊ะของตน โดยไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน จนเมี่อมีเสียงใครสักคนเริ่มเรียกหาแม่บ้านให้ออกไปซื้อข้าวกล่องมาให้ทานนั่นแหละ รายการอาหารยาวเหยียดจึงถูกส่งต่อกันมาเป็นทอด จนป้าแกรีบร้องบอกอย่างอ่อนใจ

"ใจเย็นๆ ค่ะ ป้ามีแค่สองมือนะคะ ถือมาไม่หมดสามสิบกล่องหรอก"

"แหม ป้า ถือว่ายกนํ้าหนักให้กล้ามแขนเรียวงามก็แล้วกัน พวกเราลงไปไม่ได้จริงๆ" พนักงานชายคนหนึ่งร้องบอกด้วยนํ้าเสียงใกล้เดี้ยงเต็มที จนป้าแกอดสงสัยไม่ได้

"ป้าก็ว่าทำไมวันนี้ถึงนั่งกันเต็มออฟฟิศได้ ทุกทีไม่ทันเที่ยงก็หายกันไปหมดแล้ว เกิดอะไรขึ้นหรือคะ"

"พายุลงในที่ประชุมเมี่อเช้าน่ะสิ บอสใหม่เห็นยิ้มๆ อารมณ์ดียังงั้นเหอะ โหดกว่าบอสฟิลิปปินส์ของป้าเยอะ"

"ต๊าย จริงหรือคะ บอสรูปหล่อไม่น่าโหดเลยนะคะ"

"โหดไม่โหดก็ต้องทำงานกันมือไม่ว่างแบบนี้แหละ รีบลงไปซื้อข้าวดีกว่าป้าหิวจะแย่แล้ว"

แม่บ้านวัยกลางคนรีบลงลิฟต็ไปตามคำขอของเหล่าพนักงานทันที

นายเฉื่อยที่เพิ่งสั่งข้าวเสร็จหันมาทางหญิงสาวที่นั่งก้มหน้างุด ปั่นงานในมือเป็นระวิง โดยทุกๆ ห้านาทีจะเหลือบตาขึ้นมองนาฟิกาตั้งโต๊ะที่เธอรู้สึกไปเองว่าเสียงเข็มวินาทีนั่นเดินเร็วยิ่งกว่าวันไหนๆ ช่างให้ความรู้สึกเดียวกับตอนทำข้อสอบเอ็นทรานซ์ ยามที่รู้ว่าเหลือเวลาไม่มากแต่ทำโจทย์เลขไปได้ไม่ถึงครึ่ง แต่ถึงข้อสอบเอ็นฯ จะโหดขนาดไหน ก็ดูเหมือนงานตรงหน้าจะเป็นอะไรที่ทารุณกว่าหลายเท่านัก

"เอิงไม่ทานอะไรเหรอ ป้าเขาลงไปแล้วนะ"

"ไม่เอา! ใส่แว่นหนาขนาดนั้นแล้วยังไม่เห็นอีกเหรอว่ายุ่งแค่ไหนฮะ ไอ้คุณเฉื่อย"

"อ๊ะๆ โดนแก้งานแล้วอย่าพาลเด่ะ"

"ช่ายสิ...ของนายมันผ่านฉลุยไปแล้วนี่" พอหันไปมองนาฬิกาก็ต้องหยุดต่อล้อต่อเถียงทันที อีกยี่สิบนาที โอ๊ย...จะทันไหมเนี่ย "ตายๆๆ ต้องโดนปีศาจเหยียบอกแน่ๆ เลย"

ท่าทางนายเฉื่อยจะเริ่มเห็นเมฆดำพร้อมสายฟ้าฟาดบนหัวเธอ จึงถอยหนีออกมาก่อน โดยไม่ลืมกล่าวทิ้งท้ายให้คนนั่งหน้าตูมหงุดหงิดเล่นๆ "อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไงก็ไม่ทันหรอกเอิง โดนแน่ๆ โดนๆ แน่ๆ โดนแน่ๆ ไม่ล้อเล่นน้า..."

เสียงร้องแซวจากเพี่อนร่วมออฟฟิศทำให้มือบางหยุดเขียน ขอเวลานอกหันไปหยิบของใกล้มือที่พอคว้าได้ขว้างหัวเจ้าคนที่วิ่งปรู๊ดหายเข้าไปหลังฉากทันที

"อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะนายเฉื่อย แม่จะเอาให้หัวแตกเลย รู้ๆ อยู่ว่าคนเร่งงานแล้วยิ่งหงุดหงิด"

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขัดจังหวะมาจากที่ไหนสักแห่งใกล้ตัว หญิงสาวมองไปรอบโต๊ะที่รกยิ่งกว่ารังหนู เปิดนู่นรื้นี่หาที่มาของเสียงอย่างโมโหโทโส

ใครนะช่างโทรมาได้ตอนนี้ ไม่รู้หรือไงว่าคนกำลังจะตายอยู่อีกครึ่งชั่วโมงนี้แล้ว

สาละวนกับการหาเจ้าต้นเสียงอยู่นาน จึงเปิดลิ้นชักดู ไม่มีเวลาสงสัยด้วยซ้ำไป ว่ามือถือไปอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง...

พอเห็นเบอร์เพี่อนรักก็ไม่ต้องมีคำกล่าวทักทายใดๆ นอกจากโวยเสียงฉอดๆ ใส่ทันที "ว่าไง ยัยส้ม โทรมาทำไมตอนนี้ เธอไม่รู้หรือว่าอเมริกากำลังจะถล่มเมืองไทยอยู่อีกครึ่งชั่วโมงนี้แล้ว"

หญิงสาวใส่อารมณ์ราวกับกำลังนั่งดูข่าวซีเอ็นเอ็นก็ไม่ปาน แต่ประเทศมหาอำนาจที่เธอว่ากลับไม่ได้หมายถึงใครในทำเนียบขาว หากแต่เป็นบอสคนใหม่ที่ส่งตรงมาจากบริษัทแม่ในอเมริกาเมี่อสองเดือนก่อนต่างหาก

"ฉันไม่สนหรอกย่ะว่าใครจะถล่มใคร ฉันสนแต่ว่าใครก็ไม่รู้มีบอสใหม่เป็นฝรั่งตาน้ำข้าว"

"โทรมาเรื่องนี้อ่ะนะ เดี๋ยว...แป๊บนึงนะ"

เอิงหรือสอางค์ สาวมั่นทันสมัยที่ชี่อเชยสนิท กรอกเสียงลงไปอย่างหงุดหงิด หันซ้ายหันขวา แล้วทิ้งปากกาในมือ มุดลงใต้โต๊ะ เตรียมตั้งท่าจะนินทาทันที แต่ไม่วายระแวง จึงแอบเงยหน้าขึ้นมา มองไปทางประตูห้องเจ้านายใหญ่ที่ปิดสนิท ก่อนจะมุดลงไปอีกครั้ง

หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ไอ้เรื่องแบบนี้มันต้องระวัง และยิ่งมีเจ้านายจอมเฮี้ยบสิงในออฟฟิศด้วยแล้วล่ะก็... ยิ่งต้องระวังเป็นสามเท่า

"ว่ามา"

"แล้วเขาเป็นไง" องค์อรไม่สนใจเสียงขุ่น ถามด้วยน้ำเสียงตี่นเต้นต่อทันที

"จะให้เป็นไงได้ล่ะคะคุณส้มเจ้าขา ฝรั่งมันก็ผมทองตาสีฟ้าเหมือนกันหมดนั่นแหละ"

สอางค์ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าฝรั่งคนที่ว่านี้มีนัยน์สีฟ้านํ้าทะเลคมกล้า โดยเฉพาะเวลาตั้งท่าฟังการรายงานอย่างตั้งใจด้วยแล้ว จะยิ่งน่าดูเป็นพิเศษ รวมถึงเครี่องหน้าเข้มแบบชาวตะวันตก จมูกโด่งเป็นสัน ผมสีน้ำตาลอ่อนจนเกือบทอง รูปร่างลํ่าสันแบบนักกีฬา ถ้าสวมหมวกคาวบอย ขี่ม้า เธอก็เชี่อว่าเป็นพระเอกหนังได้สบาย

"พูดแปลกๆ นะแก ทุกทีคุณสอางค์ที่รักเจอฝรั่งมีแต่จะกรี๊ดใส่"

"ใครกรี๊ดอะไร ไม่ใช่ทุกคนสักหน่อย"

เสียงตอบกลับมาอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก เพราะใครๆ ต่างก็รู้กันว่า สอางค์ สาวมั่นนั้นประกาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลาย ว่าสเป็กหนุ่มในฝันนั้นต้องเป็นฝรั่งผมทอง ตัวสูง ร่างใหญ่ จูงหมาลาบราดอร์ เดินเล่นในสวนตอนเช้าเท่านั้น ถึงขนาดเลือกเรียนวิชาเอกภาษาอังกฤษ และมาสมัครเข้าทำงานบริษัทเกี่ยวกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ชื่อดังของอเมริกา ก็เพราะหวังไว้ว่าสักวันหนึ่ง ถ้าสวรรค์มีตาคงจะได้เห็นความสามารถของเธอ และส่งเธอไปยังโลกกว้างใบใหม่ ในวงเล็บว่าจะต้องมีหนุ่มหล่อหน้าเหมือนแบรด พิตต์รออยู่ด้วยนะ

ตลอดสองปีที่ทำงานมา หญิงสาวมักจะบ่นกับเพี่อนเสมอว่า เมี่อไหร่บอสเจ้าระเบียบชาวฟิลิปปินส์จะถูกส่งกลับประเทศไปเสียที แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆ พร้อมกับฟ้าประทานบอสหนุ่มผมทอง ตาสีฟ้าน้ำทะเลมาให้จากบริษัทแม่ เธอกลับปิดข่าวเงียบสนิท ไม่บอกใครสักคำ

"หรือเขาเป็นฝรั่งพุงโล หัวล้าน หน้าตาน่าเกลียด" เพี่อนสาวตั้งข้อสันนิษฐาน

"เปล่า..."

"งั้นก็แสดงว่าหน้าตาดี"

"ก็ดี..."

"แล้วทำไมล่ะ หรือเขามีเมียผมบลอนด์ ตาสีน้ำตาล หุ่นนางแบบ พร้อมหนีบลูกชายวัยน่ารักมาด้วยอีกสองคน"

"ใครว่า โสดสนิทต่างหาก"

"งั้น...ก็แสดงว่าเขาเป็นเกย์!"

"บ้า!" เอิงตะโกนลั่น แล้วก็ต้องรีบเงียบเสียง เพราะนึกได้ว่าออฟฟิศมีคนอยู่เต็มไปหมด

"คิดพิเรนทร์นะแก"

"อ้าว งั้นแล้วทำไมเขาถึงไม่น่าสนสำหรับแกล่ะยะเอิง"

"เขาพูดไทยได้" คำตอบเฉไฉไปเรี่องอื่นยิ่งทำเอา องค์อรงงเป็นไก่ตาแตก

"อะไรนะ พูดไทยได้ แล้วไง ฝรั่งครบสูตรของแกห้ามเว้าไทยหรือไง"

"จะให้บอกไงดีล่ะเนี่ย ก็...เขาน่ะไม่ใช่แค่พูดได้นะแก แต่พูดคล่องยังกะอยู่เมืองไทยมาสักสิบปีงั้นแหละ ทั้งๆ ที่ เพิ่งถูกส่งตัวมาแท้ๆ แล้วยิ่งไปกว่านั้น เขาน่ะวิจารณ์โปรเจ็กต์ของฉันกลางที่ประชุมเสียไม่มีดีเมี่ออาทิตย์ก่อน ทั้งที่

งานนี้ฉันอดนอนตาเป็นหมีแพนด้ามาตลอดทั้งเดือน แถมท้ายด้วยการสั่งให้อยู่แก้โปรเจ็กต์กะเขาทุกเย็นด้วย"

"เหตุผลล่ะ"

"เหตุผลน่ะเหรอ...'ผมต้องการงานที่เพอร์เฟ็กต์' " หญิงสาวดัดเสียงอย่างหมั่นไส้ "บ้าอำนาจจะตาย อีตานี่น่ะ"

"โห..."

พอได้พูดแล้วก็เหมือนไม่มีอะไรมาหยุดอาการเม้าท์ของเธอได้อีก สอางค์ยังคงใส่ต่อโดยไม่รู้สึกเลยว่า พายุร้ายกำลังจะพัดเข้ามาในไม่อีกกี่นาทีนี้

"เขาร้ายกะเรามากนะส้ม ภายใต้รอยยิ้มสดใสแบบ 'เมกันจ๋า แสงสว่างของโลกเสรีฉายรอบตัว ผู้ชายแบบเขาก็ไม่ต่างอะไรจากผู้ชายเอเชียที่ชอบกดผู้หญิงไว้ใต้เข็มขัดหรอก" คำอธิบายของสอางค์เล่นเอาอีกฝ่ายหัวใจแทบหล่นไปที่ตาตุ่ม

"เฮ้ย...นี่แกอย่าบอกนะว่า แกเสร็จเขาไปแล้วน่ะ"

"แกจะบ้าหรือไง! ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันหมายถึงกดขี่

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

จตุพร | 1 รีวิว
26/07/2014

“บอสหน้าตายกะยัยสอางค์” เป็นผลงานยุคแรกๆของแจ่มใสเลยก็ว่าได้ค่ะ พิมพ์ครั้งแรกไปตั้งแต่สมัยนานมาแล้ว กลับมางานนี้นิยายเล่มนี้จึงแปลงร่างกลายเป็นแนว Cookie เล่มเล็กๆน่ารักถืออ่านสะดวก เรื่องราวของความรักระหว่างสาวออฟฟิศชื่อเชยอย่าง “สอางค์” กับบอสหนุ่มอย่าง “โทมัส” ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ในแผนกที่นางเอกทำงานอยู่ เปิดเรื่องมาปากนางเอกก็พาซวย เอ้ย พาได้เรื่องเลย เพราะ เธอเผลอไปนินทาพระเอกให้เพื่อสนิทฟัง แถมให้ฉายา “ปีศาจ” กับเขาด้วย ความซวยมาเยือนยัยสอางค์เพราะกรมสมัยนี้ติดจรวด เมื่อพระเอกบังเอิญมาได้ยินพอดี แต่นางเอกมีสกิลแถได้โล่จึงเอาตัวรอดมาได้ แถมพระเอกยังเริ่มจะเอ็นดูเธอเพราะความแปลกไม่เหมือนใครนิแหละค่ะ เขาเลยให้เธอไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง แถมแพ็กเกจเป็นคนขับรถไปส่งถึงที่บ้านอีกด้วย แล้วงานนี้ใครจะไปต้านทานเสน่ห์ของพระเอกได้ใช่ไหมคะ นางเอกก็เริ่มเผลอใจชอบพระอกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่เธอยังไม่มั่นใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ เพื่อนสนิทเธอจึงเสนอวิธี วางแผนให้พระเอกหึงหวง ชายหนุ่มอย่าง “แกรริก” ก็เห็นเป็นเรื่องสนุกที่จะช่วยนางเอกเสียด้วย เพราะถือเป็นการฆ่าเวลาระหว่างอยู่เมืองไทย หุหุ แผนนี้เหมือนจะเวิร์ค เมื่อพระเอกเริ่มออกอาการหวงก้าง แต่เขาไม่ยอมให้ถูกจับไต๋ได้ง่ายๆหรอกค่ะ เลยเอาเรื่องงานมาบังหน้า สั่งให้นางเอกแก้งานบ้างล่ะ ทำโอทีจนดึกบ้างล่ะ ที่สำคัญพ่อเจ้าพระคุณจูบนางเอกจ้า แต่ไม่ยอมบอกความรู้สึกตนเอง จนเพื่อนสนิทของพระเอกต้องเตือนให้เขารู้ตัวว่าเขามีคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา อย่ามั่นใจในตัวเองมากไปหนัก ไม่งั้นจะแห้วได้! พระเอกเลยเริ่มรุกบ้างแล้วค่ะ มีฉากหวานๆ ร้องเพลงสื่อความหมายจีบนางเอกด้วย แต่นางเอกกลับดันไปคิดว่าเขาร้องให้คนอื่นซะงั้น…โถ่เอ๊ยย จนเมามายไม่ได้สติ และหลุดปากเรื่องแผนการที่ให้ “แกรริก”มาเป็นแฟนเพื่อยั่วให้พระเอกหึงอีกด้วย ไม่รู้พระเอกจะเอาคืนนางเอกหรือยังไง เลยทำตัวให้นางเอกเข้าใจผิดว่าเขาไม่คิดอะไร จนนางเอกต้องขอลาออกจากงาน และไปหาผู้ชายที่แสนดีอย่าง “แกรริก” แทน ดิฉันแอบสงสารเขาเบาๆค่ะ เพราะเขาเริ่มจะหลงรักนางเอกแล้วเหมือนกัน แต่ก็รู้ตัวดีว่าคนที่นางเอกรักคือพระเอก คือแบบเป็นสุภาพบุรุษมากกกก นอกจากไม่ฉวยโอกาสในเวลาที่นางเอกอ่อนแอแล้ว ยังช่วยปลอบใจนางเอกอีก ยกตำแหน่งพระรองดีเด่นให้เลยค่ะ นางเอกทนความกดดันเรื่องพระเอกไม่ไหวจึงตัดสินเล่าให้คนที่บ้านฟังซึ่งเข้าใจเธอค่ะ โชคดีที่บ้านนางเอกไม่ได้ว่าการกระทำของนางเอกงี่เง่าปัญญาออกจนลาออกจากงาน ฉากจบของเรื่องทำให้ดิฉันฟินที่สุดค่ะ เพราะพระเอกตามมาง้อได้หวานมากก (แม้ตอนแรกจะแอบกวนก็เถอะ!!) ใครชอบนิยายรักโรแมนติกลองไปหาอ่านดูนะคะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (67 รายการ)

www.batorastore.com © 2024