Kick off นักบอลสุดหล่อขอซัลโวหัวใจยัยจอมซน
ประหยัด: 73.15 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 119.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
1
Our First Kick!
จังหวะตะบันของศูนย์หน้าผีแดงส่งให้เป็นแบ็กของปืนใหญ่ เซถลาล้มคว่ำคะมำเข้าไปในเขตโทษ จากนั้นก็โดนเหยียบซ้ำด้วยนักเตะผีแดงอีกรอบจนเกือบเสียประตู และเพื่อเป็นการแก้แค้น...มิดฟิลด์ร่างยักษ์ของปืนใหญ่จึงพยายามพาลูกเตะแหวกใส่กะบังลมของศูนย์หน้าคนที่ว่า...
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการตะลุมบอนระหว่างสองทีม และถึงแม้จะไม่มีปุ่มสตั๊ดมาตอกหน้าใคร ลำพังแค่มือเท้าก็มากพอจะทำให้ได้เลือดกันแล้ว...
ที่บรรยายไปเมื่อกี้ไม่ใช่นักเตะในสนามหรอกนะคะ...แต่เป็นแฟนบอลที่นั่งเชียร์กันอยู่ในร้านเนี่ยแหละ
ถูกต้องแล้ว!! มันคือเหตุการณ์แฟนบอลตีกัน! เหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นได้เมื่อคนเมาจำนวนมากมารวมกันในร้านเหล้าเพื่อจะนั่งเชียร์บอล มันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง...
ส่วนตัวต้นเหตุที่ทำให้การกระทบกระทั่งกลายเป็นการกระแทกปากกันและกันก็คือ...
“ซัดมันเลยปืนใหญ่!!! อาร์เซนอลจงเจริญ!!”
ฉันเอง!!!
ฉันคนนี้นี่แหละที่กำลังยืนแหกปากอยู่บนเก้าอี้ขณะกำลังกำกับทีม (?) ของตัวเองให้ไฟต์กับพวกนักเลงแฟนผีแดงอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นอย่างนี้ฉันก็มีแท็กติกและเทคนิคล้ำเลิศไม่แพ้เวนเกอร์หรอกนะขอบอก! เรื่องเตะๆ นี่ไม่เป็นรองใครแน่นอน แม้แต่ในเกมวินนิ่งหรือฟีฟ่า ฉันก็ไม่ได้อยกว่าใครทั้งสิ้น!
กลับมาที่ปัจจุบัน...ขณะที่สภาพภายในร้านโจรริมถนน (อ่านไม่ผิดหรอก ชื่อนี้จริงๆ เพราะร้านมันตั้งอยู่ในหลืบข้างถนนน่ะ ดูเป็นโลเกชั่นสำหรับโจรมาดักซุ่มตีหัวคนมากๆ) กลายไปเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมๆ แล้วเมื่อแฟนบอลของทั้งสองทีมเปิดฉากดวลแข้งวางมวยกันอย่างเมามันประหนึ่งจะชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก
ที่จริงฉันเป็นแฟนบอลที่สวยแล้วก็สุภาพเรียบร้อยมากนะคะ ปกติก็ไม่เคยคิดจะมีเรื่องกับใครหรอกค่ะ เพราะเราเชียร์อย่างสุภาพชนมีสติ ถึงจะเมาแค่ไหนก็มีสติชัวร์ แต่ที่ทำให้สติขาดกระจุยนั้นมันมีที่มาที่ไปค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบนาทีก่อน...
สิบนาทีก่อนหน้านี้...
(เข้าไปแล้วครับทุกคน!!! ซัลโวเน้นๆ เลยครับ!!! วัลคอตต์ฟอร์มเจ๋งจริงๆ ครับวันนี้!!)
(ดูเหมือนอาร์เซนอลซีซั่นนี้จะฟิตมาอย่างดีนะครับ!!!)
เสียงคุณเอกราชนักพากย์บอลว่าพีกแล้ว...ที่พีกยิ่งกว่าก็คือเสียงคนเชียร์บอล
และที่พีกที่สุดในหมู่แฟนบอลที่กำลังพีกสุดๆ ก็คือ...
“GO WALCOTT!!!! กรี๊ดดดดด ปืนใหญ่จงเจริญญญญญ!!!!”
คือฉันเองค่ะ
ฉันทุบโต๊ะอย่างคนเสิยสติเมื่อแรมซีย์ฉกบอลมาจากคางาวะได้ด้วยฝีเท้าขั้นเทพก่อนจะส่งบอลผ่านมาถึงเขตทำประตูฝั่งอาร์เซนอลอย่างสวยงาม!!!
“เตะเลย!! เตะมัน!! เสียบเลย!!!”
“...เอ่อ พี่หงส์ครับ”
“ล็อกหลบ!!”
“...ทุกคนมองนะครับ”
“แย่งคืนเลยธีโอ!! อ๊ะ!! ใบเหลือง!! เหลืองเซ่!! เสียบจากข้างหลังแบบนั้นต้องเหลืองแล้ว กรรมการตาบอดรึเปล่า”
“...ผมว่าส่วนใหญ่ในร้านเป็นแฟนผีแดงนะครับ...”
“จับผีลงหม้อเลย ยิงปืนใส่เลย บึ้มมมม!! กรี๊ดดดด เตะมุมมมมม!! เอามันอีกสักลูกเลย!!”
“ผมว่าคนที่จะโดนหักแขนน่าจะเป็นผมกับพี่เนี่ยแหละอันดับแรกเลย...” อ๋อง...หนุ่มรุ่นน้องที่โดนฉันลากคอออกมานั่งเชียร์บอลด้วยกันพูดด้วยน้ำเสียงเหือดแห้งเหมือนลูกบอลถูกเจาะรู อะไรกันนักกันหนา กวนใจอยู่ได้ คนจะเชียร์บอล ฉันยกแก้วในมือข้นดื่มจนหมดก่อนจะยื่นไปให้หนุ่มน้อยเติมเบียร์ให้โดยไม่ละสายตาไปจากหน้าจอ (จะละสายตาได้ไงกัน ลูกเตะมุมเชียวนะ)
(แล้วก็...พลาดครับ!!! อีกนิดเดียวเท่านั้น!! ตอนนี้แมนยูฯ โต้กลับแล้วครับ!!! วิดิชฉกบอลจากโอซิล ส่งลูกเตะโด่งลอยเข้าเท้าโรบิน ฟานเพอร์ซี่พอดีเลยครับ!!)
“กรี๊ดดดดดดด ไม่!!! อย่าไปยอมมันนะปืน!! เตะมันเลย!! แย่งคืนเลย!! สอยมัน!!”
(อาร์เซนอลจะรอดมั้ย!? รอดมั้ย!? ไม่รอดนะครับ!!! ฟาน เพอร์ซี่ยังคงอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม...)
“โหย อาร์เซนอลแม่งอ่อนว่ะ!”
ขณะที่ฉันกำลังไว้อาลัยให้กับหนึ่งประตูที่ปืนใหญ่เสียไปให้ผีแดงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีไอ้บ้าคนหนึ่งตะโกนแทรกขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง แล้วก็ทำให้คนทั้งร้านเฮขึ้นมาพร้อมกันทันที
“โคตรกากอ่ะ ขนาดเล่นในสนามเอมิเรตส์นะเนี่ย ปีนี้เดี๋ยวตกชั้นแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ปากดี!” ก่อนที่อ๋องหรือใครจะทันได้ห้าม ฉันก็ผุดลุกขึ้นยืนชี้หน้าหมอนั่นซะก่อนแล้ว “ปากดีงี้มาต่อยกันเลยดีกว่า เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะตกชั้นก่อนกัน!!”
“โอ้โหน้องสาว ใจกล้าไม่เบานี่นา” นายล่ำที่ดูจะเมากรึ่มได้ที่พูดพลางหัวเราะกันครืนกับกลุ่มเพื่อนที่หน้าตาเหียกพอๆ กันก่อนจะลุกเดินส่ายอาดๆ เข้ามาหาฉันด้วยท่าทางเหมือนกางเกงคับเกินไปจนเดินได้ไม่ตรงทาง “เห็นสวยๆ งี้ปากดีจังนะครับ”
“ทำไม แล้วไง จะเอาเหรอ” ฉันเหวี่ยงพร้อมกับคว้าขวดเบียร์มาถือเตรียมจะฟาด (อย่างโหด) และอ๋องก็รีบลุกขึ้นเพื่อจะห้ามทัพทันที... ขณะที่คนอื่นๆ ในร้านเริ่มหันมาเชียร์มวยแทนเชียร์บอลแล้ว
เกมในจอดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ คนนอกจอก็ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
“อ่าาา ขอโทษนะครับ พี่ผมเค้าเมา...”
“เมาที่ไหนกัน เพิ่งกินไปขวดเดียว”
“ขอโทษจริงๆ ครับ กลับโต๊ะ...”
“ไม่ต้องกลับเลย!! กลับไปนี่โคตรอ่อนอ่ะ”
“ท้าทายกันขนาดนี้ถึงเป็นผู้หญิงก็ต้องจัดกันสักหน่อยล่ะมั้ง”
“จัดดิ คัมม่อน! จะเตะให้ตกชั้นไปเลย!”
“พี่หงส์”
“อ๋องจดไว้เลยนะ ให้มันรู้ไปเลยว่าวันนี้แมนยูฯ จะแพ้ทั้งคนแพ้ทั้งบอล!”
กลับมาที่ปัจจุบัน...
อย่างที่น่าจะพอเดาออก ประโยคนั้นของฉันมันไม่ต่างอะไรกับการประกาศสงคราม และเหล่าแฟนบอลทั้งหลายก็ลุกฮือขึ้นมาประกาศศักดาอย่างไม่หวั่นเกรงคุกตะรางเลยสักนิด พวกหนุ่มๆ แฟนอาร์เซนอล พอเห็นฉันจะถูกเด็กผีแดงรุมก็ลุกเข้ามาช่วย จากนั้นทุกอย่างก็วุ่นวายเมื่อทุกคนตะลุมบอนกันมั่ว...
ฉันไม่ผิดนะ หมอนั่นต่างหากที่ผิด ก็อยากมาว่าอาร์เซยอลอ่อนเองนี่นา!
...โอเค... ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันผิดเอง แต่จะทำไงได้เล่า!? อารมณ์มันพาไปนี่นา อีกอย่าง ใครจะไปคิดว่าหมอนั่นจะกล้าลงมือกับผู้หญิงจริงๆ เมื่อกี้ฉันเกือบถูกต่อยดั้งยุบไปโผล่ที่ท้ายทอยเชียวนะ ถ้าอ๋องไม่ดึงฉันออกมาจากจุดยุทธศาสตร์ซะก่อนล่ะก็...
ที่จริงฉันไม่ได้กลัวอะไรหรอก กลัวพี่ฮาคุ...พี่ชายหฤโหดของฉันจิกหน้าแหกเท่านั้นล่ะ ซึ่งถ้าเขารู้ว่าฉันก่อเรื่องอะไรที่ร้านเหล้า ฉันโดนแน่ ไม่ต้องสืบเลย แงๆ ทำไงดีล่ะ จะออกก็ออกไม่ได้ จะทอดทิ้งเพื่อนร่วมอุดมการณ์ปืนใหญ่อาร์เซนอลแล้วชิ่งหนีกลับหอก็ยิ่งทำไม่ได้ใหญ่ แบบนี้เหลือทางเลือกอะไรให้ฉันบ้าง
“พี่หงส์ เรารีบกลับกันเถอะครับ”
“จะกลับได้ไงล่ะ ทุกคนกำลังสู้กันอยู่นะ!”
“แล้วพี่จะไปสู้กับเขาด้วยเหรอครับ กลับเถอะนะ”
“นายกลับไปก่อน!”
“ผมจะกลับก่อนได้ไงล่ะครับ” อ๋องทำหน้างอแงก่อนจะดึงแขนฉันให้ลงมาจากเก้าอี้ “ผมจะพากลับไปส่งที่หอ...”
ฉันกำลังจะห้าม...แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร อ๋องเองก็ยังไม่ทันได้จบประโยคที่กำลังจะพูด เมื่อยักษ์วัดแจ้งที่สวมเสื้อผีแดงยื่นมือมาคว้าแขนฉันไว้ซะก่อน
“จะไปไหนล่ะกุนซือสาวน้อย สร้างเรื่องไว้แล้วจะชิ่งหนีไปคนเดียวเหรอ!?”
“ปล่อยพี่หงส์นะ!!” ฉันยังมัวแต่คิดหาคำตอบมาสวนกลับ...ตอนที่อ๋องปัดมือนายยักษ์ออกจากแขนฉัน
...แล้วก็เจอหมัดเสยกระเด็นไปสามคืบ
“นายทำอะไรอ๋องน่ะ!?”
“ก็มันวอนเองนี่นา!”
“น่าเกลียด รังแกคนไม่มีทางสู้!! บอลแพ้อย่ามาพาลสิ!”
“เอ๊ะ ปากดีเหลือเกินนะ แบบนี้มันต้อง...!!!”
“จะทำอะไร!?” ฉันแว้ดใส่หน้านายยักษ์ก่อนจะหลับตาปี๋ทันทีเมื่อเห็นเขาเงื้อมือขึ้นเตรียมตบ ทำไมตัวประกอบผู้ชายในเรื่องนี้มันโหดจังเลย นี่นิยายนักบอลหรือนักเลงกันแน่ แงๆ ใจคอจะตบจะเตะกันอย่างเดียวเลยเหรอ
แต่หลังจากหลับตาไปแล้วหลายวินาทีก็ยังไม่มีอะไรมากระทบหน้า...ฉันก็เลยแอบแง้มเปลือกตาขึ้นดู...
แล้วก็พบว่าทุกสรรพสิ่งในร้านชะงักนิ่งงันไปแล้วราวกับมีใครบางคนกดสวิตช์หยุดเวลา และตัวคนกดสวิตช์ก็ยืนอยู่ตรงกลางร้าน...กับกีตาร์โปร่งตัวหนึ่งในมือ...
“ห้ามตีกันในร้าน อ่านกฏไม่ออกหรือไงวะ” มือกีตาร์ลึกลับที่ทำให้ร้านสงบได้ดังใจนึกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ใบหน้าหล่อเหลาที่มีพลังกดดันน่าพิศวงนั่นกลับทำให้ทุกคนกลั้นหายใจโดยพร้อมเพรียงกันราวกับกลัวว่าจะมีอะไรสักอย่างระเบิดตู้มออกมาหากมีใครหายใจดังเกินไป...
ฉันจ้องหน้าเขาตาโตตอนเขาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้บนเวที จากนั้นก็เสียบกีตาร์ต่อเข้ากับแอมป์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
หลังจากนั้นก็มีเสียงคุณเอกราชบอกว่าแมร์เตซัคเกอร์เขี่ยบอลอกหลังไปและแมนยูฯ จะได้ลูกเตะมุม...แต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนนิ่งเหมือนกำลังบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่
“ใครที่เมาแล้วบ้า...เชิญกลับหอไป ส่วนใครที่คุมสติได้ เชิญหุบปากแล้วนั่งฟังเพลงต่อ” เขาพูดพร้อมกับพยักหน้าบอกพนักงานในร้านให้กดปิดทีวีซะ จากนั้นทุกคนจับมือคืนดีกันแล้วก็แยกย้ายกลับที่กลับทางไปนั่งสงบเสงี่ยมราวกับเรื่องเมื่อกี้เป็นแค่การซ้อมตีกันเฉยๆ...
ฉันเองก็ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง...ปลายนิ้วเรียวยาวของเขากรีดไปบนสายกีตาร์อย่างคล่องแคล่วว่องไว จากนั้นเสียงที่แหบพร่าเล็กน้อยแต่เซ็กซี่จนหัวใจรู้สึกแสบจี๊ดๆ หวิวๆ ก็ดังขึ้น
ทุกคนตั้งใจฟังยิ่งกว่าตอนจดเลกเชอร์วันก่อนสอบเสียอีก...แล้วเพียงไม่นานจังหวะเพลงเริ่มเร็วขึ้น บรรยากาศในร้านที่สุดจะเกร็งก็กลายเป็นเฮฮาปาจิงโกะไปได้อย่างน่ามหัศจรรย์
และตลอดทั้งคืนนั้น...ฉันก็ไม่สามารถละสายตาจาก ‘เขา’ ที่กำลังนั่งไขว่ห้างเล่นกีตาร์อยู่บนเวทีได้เลยแม้แต่น้อย มันไม่ใช่เพราะใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ไม่ใช่เพราะผิวแทนๆ สุดเซ็กซี่ ไม่ใช่เพราะร่างสูงโปร่งกับกล้ามเนื้อที่แสนจะฮอต ไม่เพราะนัยน์ตาเรียวยาวสีน้ำตาลเข้มที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองด้วยเหยี่ยวตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะเส้นผมสีน้ำตาลที่เซ็ตเป็นทรงสุดคูล แล้วก็ไม่ใช่เพราะกระดูกไหปลาร้าที่โผล่พ้นคอเสื้อกว้างๆ โชว์บอดี้สุดเพอร์เฟ็กต์ของเขาด้วย
ถูกต้อง...ที่จริงแล้วเป็นเพราะฉันจะมาทวงหนี้พนันบอลที่เขาติดฉันไว้...
หลอกกกกกกกก!! ฉันอบายมุขไม่ยุ่ง มุ่งลวนลามนักบอลเท่านั้นย่ะ! #ผิด
โอเค...ไม่ล้อเล่นแล้ว สาเหตุจริงๆ ที่ฉันตั้งใจมาถึงนี่จนเกือบจะโดน
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
รีวิว (1)

29/09/2014
Kick Off นักบอลสุดหล่อขอซัลโวหัวใจยัยจอมซน สำหรับเรื่องนี้เป็นนิยายของเจ้าหญิงผู้เลอโฉมค่ะนิยายของนักเขียนท่านนี้อยากบอกว่าก็ติดตามมานานแล้วเช่นกันค่ะตั้งแต่เรื่องแรกๆที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แจ่มใสเลยอยากบอกว่าเป็นคนที่แต่งนิยายสนุกมากๆฟินมานานค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้จะว่าไปก็ฉีกแนวของนักเขียนเหมือนกันนะค่ะเพราะปกติเห็นนักเขียนท่านนี้ชอบเขียนนิยายแนวๆ แฟนตาซีอารมณ์เจ้าหญิงๆ มากกว่ามาเรื่องนี้เขียนแนวรักใสๆ อ่านแล้วรู้สึกเนื้อเรื่องน่ารักดีนางเอกก็ใสๆ พระเอกก็ดูเท่ๆเอาจริงๆ ความรู้สึกที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ฉีกแนวไปอารมณ์แบบนักเรียนมอปลายเลยอ่ะชอบนะนางเอกนิสัยในเรื่องน่ารักดีส่วนพระเอกก็น่ารักเนื้อเรื่องในเล่มนี้อ่านแล้วยิ้มตามทั้งเรื่องนะแต่ละฉากที่อ่านมันดูกุ๊กกิ๊กๆยงไงก็ไม่รู้อ่ะอ่านจบไปตั้งนานแล้วยังไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้เขาได้เอามาทำเป็นหนังหรือป่าวแต่เห็นคนอื่นๆเขาพูดกันถ้าได้ทำจริงๆคงน่ารักน่าดูแต่ไม่รู้ว่าจะหาตัวละครน่ารักๆได้อย่างนิยายในเรื่องนี้ไหมแต่โดยรวมที่อ่านมาแล้วชอบค่ะไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวนี้มานานแล้วชอบตรงที่เนื้อเรื่องสดใสดำเนินเรื่องสนุกตัวละครดูมีชีวิตชีวาบอกเลยว่านิยายเรื่องนี้ตอนจบน่ารักมากๆโดยเฉพาะพระเอกส่วนใหญ่คนที่อ่านนิยายเรื่องนี้จะชอบพระเอกฮ่าๆๆๆเราก็ชอบแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านค่ะอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วนึกถึงชีวิตตอนวัยเรียนเนื้อเรื่องมันชวให้จินตนาการณ์ไปตอนช่วงนั้นมากๆชอบมากค่ะ