Customer Reviews

5
เป็นหนังสือที่สอนวิธีการง่ายๆในการมีสุขภาพที่ดี ด้วยการแก้ไขบุคลิกภาพค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บุคลิกภาพดี = โครงสร้างร่างกายดี = สุขภาพดี ไม่มีโรค (จบแล้วค่ะ ^^) จริงๆหลักการก็มีแค่นี้ค่ะ ผู้เขียนจะพูดถึงความสำคัญของการมีโครงสร้างร่างกายที่ดีก่อนค่ะ เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจ ถ้าโครงสร้างร่างกายไม่ดีจะส่งผลเสียยังไง ถ้าโครงสร้างร่างกายดีจะส่งผลดีอย่างไร แล้วจะมีวิธีการอย่างไรในการปรับโครงสร้างร่างกายซะใหม่ ตอนแรกเราคิดว่าสุขภาพกับบุคลิกน่าจะไม่เกี่ยวกัน แต่พออ่านไปอ่านมาก็เข้าใจว่าบุคลิกหรือว่าโครงสร้างร่างกายที่ดีเป็นเหมือนตัวเสริมสร้างสุขภาพร่างกายค่ะ ทำนองเดียวกับการออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือว่าการกินอาหารที่มีประโยชน์ ผู้เขียนจะให้ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ความผิดปกติของโครงสร้างร่างกายด้วยตัวเองด้วยการตรวจท่าค่ะ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และอวัยวะแต่ละส่วน วิธีการที่จะปรับสมดุลของร่างกายใหม่ด้วยการจัดอิริยาบถในการยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง ที่ถูกต้อง สิ่งที่เราได้จากการอ่านและลองปรับท่าทางตามหนังสือเล่มนี้คือความสบายตัวค่ะ เราไม่แน่ใจว่าสุขภาพดีขึ้นมั้ย แต่ในทางกายภาพถือว่าได้ผลนะคะ อย่างน้อยอาการปวดเมื่อยที่เคยมีก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ คงเป็นอย่างที่หนังสือบอกไว้ว่าโครงสร้างร่างกายที่ดีนั้นจะส่งผลต่อระบบกระดูก กล้ามเนื้อ การไหลเวียนโลหิต และระบบประสาท จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ก็คือการแนะนำท่าทางที่ถูกต้องนี่แหละค่ะ มีเยอะมากแล้วก็ครอบคลุมทุกๆกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ลองอ่านแล้วทำตามดูนะคะ เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองดีที่สุด เราพิสูจน์มาแล้วถือว่าได้ผลจริง เป็นอีกเล่มที่แนะนำค่ะ
ถอดรหัสสมองอัจฉริยะ
5
เป็นหนังสือเล่มที่ลงตัวทั้งเรื่องข้อมูลแล้วก็เรื่องวิธีการพัฒนาสมองค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เราหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจจะอ่านมากเท่าไหร่ค่ะ จะเรียกว่าอ่านฆ่าเวลาก็ได้ แต่หลังจากอ่านจนจบแล้วรู้สึกว่าไม่เสียดายเวลาที่ได้อ่านเลย หนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องสมองกับการพัฒนาสมองค่ะ ถ้าพูดตามตรงเรื่องนี้เป็นเรื่องวิชาการมากนะคะ แต่เท่าที่อ่านดูเรากลับไม่รู้สึกว่ากำลังอ่านเรื่องยากๆอยู่เลย เราว่าหนังสือเล่มนี้มีเทคนิคในการนำเสนอที่ดีค่ะคือมีการสลับเนื้อหาไปมาระหว่างเรื่องยากๆที่ไม่ค่อยอยากอ่านกับเรื่องที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่เวลาที่อ่านหนังสือแนวนี้ เราก็มักจะสนใจไปที่วิธีการพัฒนาสมองเป็นหลักมากว่าเรื่องความรู้ใช่มั้ยคะ อย่างเช่น ทำอย่างไรให้ฉลาด ทำอย่างไรให้จำแม่น จำเก่ง อะไรทำนองนี้ หนังสือเล่มนี้ลงตัวทั้งเรื่องข้อมูลแล้วก็เรื่องวิธีการค่ะ ทำให้ไม่น่าเบื่อเวลาอ่าน ในส่วนของวิธีการพัฒนาสมองก็จะเน้นไปที่การสร้างกิจวัตรประจำวันใหม่ การสร้างสุขภาพจิตที่ดี แล้วก็การสร้างสมาธิ อย่างเช่นการปิดโทรทัศน์ การฝึกสมาธิ การนอนหลับพักผ่อน ฝึกการหายใจและการควบคุมตนเอง เป็นต้น วิธีหนึ่งที่น่าสนใจก็คือการกดจุดค่ะ ผู้เขียนอธิบายว่าการกดจุดเป็นศาสตร์ของจีนที่จะช่วยกระตุ้นพลังชี่ ซึ่งเป็นพลังที่รวมร่างกาย จิตใจ และวิญญาณเข้าด้วยกัน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แล้วผู้เขียนก็แนะนำการกดจุดสำคัญ 6 จุดที่จะช่วยกระตุ้นความจำค่ะ น่าสนใจดีนะคะ เราว่าเป็นหนังสือที่พูดถึงเรื่องการพัฒนาสมองที่สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันอะค่ะ คือเราสามารถเชื่อมโยงเอามาใช้กับกิจวัตรประจำวันได้ ไม่ใช่แค่อ่านเพื่อฝึกสมองให้ฉลาดแต่เพียงอย่างเดียว
5
หนังสือเล่มนี้ครอบคลุมวิธีการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกายได้ดีเลยค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ดีท็อกซ์ถูกวิธีชีวิตปลอดสารเล่มนี้เป็นหนังสือแนวสุขภาพที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าพูดถึงเรื่องการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ในส่วนที่ว่าด้วยเรื่องการขจัดสารพิษ ผู้เขียนก็จะพูดถึงเรื่องที่ว่าสารพิษในร่างกายเกิดขึ้นได้อย่างไร จริงๆร่างกายของเราก็มีอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกำจัดสารพิษอยู่แล้ว อย่างเช่น ตับ ถุงน้ำดี ปอด ไต ลำไส้ใหญ่ หรือผิวหนัง แล้วทำไมต้องใช้วิธีการดีท็อกซ์ในการกำจัดสารพิษอีก ส่วนที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับเราคือเรื่อง การอดอาหารเพื่อสุขภาพค่ะ ผู้เขียนใช้คำว่าอดอาหารเพื่อสุขภาพ ดีกว่ากินอาหารเพื่อสุขภาพ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง เพราะเราก็ได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่เด็กๆว่าต้องกินอาหารให้ครบสามมื้อ ให้ครบห้าหมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารที่ครบถ้วน ตอนแรกเราไม่คิดว่าผู้เขียนจะจูงใจให้เราเชื่อได้ว่าการอดอาหารเป็นวิธีการหนึ่งในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายและเป็นเรื่องดีต่อสุขภาพนะคะ แต่พออ่านไปอ่านมาก็เริ่มเคลิ้มค่ะ ^^ ผู้เขียนเค้าให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือดีเลยค่ะ มีการอธิบายชัดเจนว่าการอดอาหารหมายถึงอะไร มีข้อดีอย่างไร มีวิธีการหรือขั้นตอนยัง ข้อควรระวัง ใครบ้างที่สมควรอดอาหารและไม่สมควรอดอาหาร ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการอดอาหารมีอะไรบ้าง เราขอสรุปว่าการอดอาหารนั้นไม่ใช่ไม่กินอะไรเลยแต่หมายถึงควบคุมการกินของเราให้ถูกหลัก การควบคุมการกินที่ถูกหลักจะช่วยให้ร่างกายนำอาหารที่สะสมออกมาใช้ เป็นการช่วยขจัดสารพิษในร่างกายนั่นเอง นอกจากเรื่องอดอาหารก็จะมีเรื่องการบำบัดด้วยวิธีการต่างๆเช่นความร้อน สี ดนตรี การออกกำลังกาย และด้วยน้ำมันหอมระเหย อีกเรื่องที่น่าสนใจคือเรื่องเมนูน้ำปั่นที่จะช่วยขจัดสารพิษในผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด เป็นต้น หนังสือเล่มนี้เรียกได้ว่าครอบคลุมวิธีการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกายได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ทั้งกิน ทั้งอด ทั้งวิธีการอื่นๆ ได้ความรู้ครบถ้วนแน่นอน ละที่สำคัญคือทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ มีสุขภาพดีแถมประหยัดเงินในกระเป๋าอีกต่างหาก
เรียนลัดสนทนาภาษาอังกฤษ
4
เหมาะสำหรับคนที่อยากเรียนภาษาขั้นพื้นฐานด้วยตนเอง
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 07 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เราขอแบ่งหนังสือเล่มนี้ออกเป็น 3 ส่วนนะคะ (อาจจะไม่ตรงกับที่ผู้เขียนแบ่งไว้) ก็คือส่วนแรกเป็นส่วนที่เกี่ยวกับทฤษฎีทางภาษา ส่วนที่สองก็จะเป็นส่วนที่เกี่ยวกับการใช้งานภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และส่วนที่สามก็จะเป็นส่วนที่เกี่ยวกับคำศัพท์ต่างๆ ในส่วนแรกที่เป็นเรื่องทฤษฎีก็จะมีสองเรื่องหลักๆค่ะ คือทฤษฎีเกี่ยวกับคำและทฤษฎีเกี่ยวกับประโยค ในส่วนแรกนี้เหมือนเป็นการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานเลยอะค่ะ คือเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ทางภาษามาเลย ในส่วนนี้อาจจะไม่เหมาะกับนักเรียน นักศึกษาที่พอมีพื้นฐานมาแล้ว แต่จะเหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ในส่วนที่สองซึ่งเป็นส่วนที่เราสนใจ ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแนะนำประโยคที่ใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันค่ะ ก็มีตัวอย่างเยอะเลยค่ะ หลายสถานการณ์อย่างเช่นการแนะนำ การร้องขอ การคุยโทรศัพท์ วิธีพูดอาการเจ็บป่วย การแสดงอาการตกใจ การพูดเกี่ยวกับอากาศ การแสดงความเสียใจ การแสดงความยินดี การสัมภาษณ์ การนัดหมาย ฯลฯ ในแต่ละสถานการณ์ก็จะมีตัวอย่างประโยค คำอ่านเป็นภาษาไทย คำแปล แล้วก็คำศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น และในส่วนที่สามก็คือส่วนของคำศัพท์ก็จะเป็นการรวบรวมคำศัพท์ต่างๆแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ค่ะ อย่างเช่น วัน เดือน ปี เวลา ตัวเลข สถานที่ อาชีพ บ้าน ความเจ็บป่วย ยานพาหนะ เครื่องแต่งกาย สัตว์ การศึกษา อาการเคลื่อนไหวของร่างกาย อารมณ์ ประสาทสัมผัส ฯลฯ ในส่วนที่สามนี้ก็จะเน้นไปที่คำศัพท์ง่ายๆมากกว่า
สรุปแล้วก็อย่างที่ผู้เขียนบอกค่ะว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเรียนภาษาขั้นพื้นฐานด้วยตนเอง สำหรับคนที่มีพื้นฐานมาก่อนอาจจะดูง่ายไปหน่อยแต่ก็ยังมีส่วนที่เกี่ยวกับการสอนประโยคสนทนาที่สามารถอ่านเพิ่มความรู้ได้ค่ะ
เก่งอังกฤษพิชิตอาเซียน
4
ช่วยฝึกการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 07 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เก่งอังกฤษพิชิตอาเซียนเป็นหนังสือที่ผู้เขียนบอกว่าเป็นการฝึกภาษาอังกฤษ + เรียนรู้เรื่องอาเซียน ก่อนที่จะเริ่มอ่านเราเข้าใจว่าน่าจะเป็นหนังสือที่ใช้เรื่องราวเกี่ยวกับอาเซียนเป็นสื่อในการสอนภาษาอังกฤษ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ภาษาอังกฤษที่สอนไม่ได้เกี่ยวอะไรเกี่ยวกับอาเซียนเลย ประมาณว่าความรู้เรื่องอาเซียนเป็นของแถมท้ายเรื่องมากกว่า เหมือนอ่านหนังสือสองเล่มอะค่ะ หนังสือสอนภาษาเล่มหนึ่งกับหนังสือเกร็ดความรู้เรื่องอาเซียนอีกเล่มหนึ่ง (จริงๆไม่ต้องมีเรื่องอาเซียนก็ได้นะคะ เพราะเนื้อหาไม่ค่อยมีอะไร) ในส่วนของภาษาเราว่าน่าสนใจเลยค่ะ เป็นการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันในเรื่องต่างๆ ครอบคลุมดีค่ะ มีทั้งเรื่องกิจวัตรประจำวัน เช่น กิน เที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต คุยโทรศัพท์ เดินทางท่องเที่ยว งานอดิเรกต่างๆ การเรียน การทำงาน ข่าวสารและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ในส่วนของประโยคที่นำมาสอนก็จะเน้นไปที่การจำลองสถานการณ์ต่างๆที่มักจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงเวลาเราไปทำกิจกรรมต่างๆ สอนว่าเราควรจะพูดว่ายังไงเมื่อเจอสถานการณ์เหล่านั้น ก็เป็นประโยคง่ายๆนะคะ ไม่จำเป็นต้องเก่งศัพท์ก็สามารถพูดได้ อ่านแล้วก็เอาไปใช้ได้เลย เพราะมีตัวอย่างอธิบายเข้าใจง่าย เป็นหนังสือที่จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถคิดเป็นภาษาอังกฤษได้อะค่ะ ไม่ต้องมานั่งนึกเป็นภาษาไทยก่อน สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจมากขึ้นเพราะว่าได้เห็นตัวอย่างจากในหนังสือมาแล้วว่าต้องพูดยังไงในสถานการณ์ต่างๆ นอกจากเรื่องประโยคพื้นฐานแล้ว ก็มีเรื่องของสำนวนภาษาอังกฤษต่างๆด้วย แต่เราว่าในส่วนของสำนวนยังไม่ค่อยน่าสนใจอะค่ะ เพราะว่าดูแล้วก็เป็นประโยคง่ายๆ ธรรมดา แนะนำว่าถ้าอยากหาหนังสือที่สอนประโยคพื้นฐานในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่น่าสนใจ
5
ทำให้เข้าใจเรื่องแกรมม่าได้ดีขึ้นมากเลยค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 07 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ก่อนอื่นคงต้องอธิบายก่อนว่าคำว่า grammar 3 มิติที่ผู้เขียนบอกไว้นั้นหมายความว่า เป็นการเรียนรู้หลักไวยากรณ์อย่างง่าย มี mind mapping ช่วยจำ และมีแบบฝึกหัดช่วยทบทวนความเข้าใจ ในส่วนของเนื้อหาก็จะเป็นการอธิบายแกรมม่าทั่วๆไปที่สำหรับหลายๆคนอาจจะยังงงๆอยู่ว่าใช้ยังไง เรียนมานานแล้วก็ยังไม่เข้าใจซักที ใช้ถูกบ้างผิดบ้าง หนังสือที่เคยเรียนมาก็อธิบายแบบงงๆ เราแอบหวังว่าตำราที่ใช้เรียนกันในโรงเรียนน่าจะเป็นแบบในหนังสือเล่มนี้นะคะ เพราะว่าอธิบายได้เข้าใจง่ายมาก การมี mind mapping ช่วยให้เราสามารถเข้าใจได้ด้วยภาพ ซึ่งง่ายกว่าการอธิบายด้วยคำพูดมาก เรื่องที่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง tense ต่างๆค่ะ โดยเฉพาะพวก perfect tense ทั้งหลาย เราเชื่อว่าหลายคนสับสนนะคะระหว่าง present perfect กับ past perfect แล้วยิ่งมี continuous เพิ่มเข้าไปใน tense พวกนี้อีก ก็ยิ่งงงไปกันใหญ่เลย แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรับรองเลยว่าเรื่อง tense จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ในคำอธิบายจะบอกหลักการใช้เป็นข้อๆ พร้อมรูปภาพประกอบและประโยคตัวอย่าง ปิดท้ายด้วยแบบฝึกหัดพร้อมเฉลยเพื่อเป็นการทดสอบความเข้าใจค่ะ สรุปเนื้อหาอีกทีละกันนะคะ แกรมม่าในหนังสือจะมีเรื่อง part of speech เรื่องคำประเภทต่างๆ เรื่อง tense เรื่อง active-passive voice เรื่องประโยคคำถาม เรื่องประโยคเงื่อนไข if-clause เรื่อง direct and indirect speech และเรื่อง subject verb agreement ถ้าผู้อ่านกำลังมองหาหนังสือแกรมม่าดีๆซักเล่ม เราขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
5
อยากฝึกออกเสียงเหมือนเจ้าของภาษาแบบง่ายๆด้วยตนเอง ต้องอ่านเล่มนี้ค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 07 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หนังสือเล่มนี้เป็นการสอนการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษจาก dictionary ค่ะ ประมาณว่าผู้เขียนจะมาอธิบายสัญลักษณ์ต่างๆที่มีอยู่ใน dictionary เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจวิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง ผู้เขียนบอกว่า phonetic symbols หรือสัญลักษณ์ของการออกเสียงจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถออกเสียงภาษาอังกฤษได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าจะอ่านหนังสือเล่มนี้ได้เข้าใจ เห็นภาพตาม และสามารถเอาไปใช้ได้ ก็ต้องมี dictionary อ่านคู่กันไปด้วยนะคะ ผู้เขียนก็จะเริ่มอธิบายเจ้า phonetic symbols ไปทีละตัวพร้อมยกตัวอย่างประกอบค่ะ เข้าใจง่ายดีนะคะ ทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วถ้าเรารู้เทคนิคต่างๆพวกนี้การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เจ้า phonetic symbols นี้มีเยอะมากค่ะ เราคงยกตัวอย่างมาไม่หมด อีกอย่างคือมันจะเป็นรูปสัญลักษณ์อะค่ะ เราเลยไม่รู้จะพิมพ์ยังไง 555 แต่รับรองว่าถ้าเข้าใจ phonetic symbols แล้วก็จะได้ไอเดียในการออกเสียงคำที่มีสระและตัวสะกดคล้ายๆกันแน่นอนค่ะ ลืมบอกไปว่าเจ้า phonetic symbols นี้จะแบ่งเป็น phonetic symbols สำหรับสระแล้วก็สำหรับพยัญชนะนะคะ เราชอบที่ผู้เขียนเก่งที่สามารถอธิบายวิธีการออกเสียงออกมาให้เห็นภาพดีค่ะ ไม่จำเป็นต้องเรียนจากวิดีโอ ใช้วิธีอ่านอย่างเดียวก็ออกเสียงได้ แต่ถ้าจะให้ดีขึ้นอีกก็ลองไปหาตัวอย่างที่ฝรั่งเค้าพูดกันจริงๆมาฟังเสริมก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ดีมากๆเลยค่ะ ช่วยแก้ไขสำเนียงและวิธีการออกเสียงแบบไทยๆให้เป็นแบบที่ถูกต้องตามต้นตำรับได้มากเลย
4
เป็นหนังสือคู่มือด้านอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 02 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน การควบคุมอาหารถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยนะคะ หลายคนที่ต้องดูแลผู้ป่วยด้วยโรคนี้มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินของผู้ป่วย บางคนเชื่อว่าต้องงดอาหารบางชนิด แต่จริงๆแล้วตามตำราเค้าบอกว่า ใช้การควบคุมแทนการงดค่ะ หมายความว่าต้องกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพียงแต่ต้องควบคุมในแง่ของปริมาณและชนิดของอาหารเท่านั้นเอง ในหนังสือเล่มนี้จะให้ความรู้ที่สำคัญเกี่ยวเรื่องโรคเบาหวานค่ะ และอีกส่วนก็จะเป็นการแนะนำเรื่องเมนูอาหารสุขภาพต่างๆ ในส่วนของความรู้เราว่าเรื่องที่น่าสนใจก็คือเรื่องการแลกเปลี่ยนอาหารค่ะ หมายถึงผู้เขียนจะแนะนำอาหารที่สามารถกินทดแทนกันได้โดยยังคงให้พลังงานและคุณค่าทางโภชนาการแบบเดียวกัน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานยังคงมีทางเลือกในการกิน ไม่ต้องทรมานเพิ่มขึ้นไปอีก ผู้อ่านสามารถศึกษาได้จากตารางอาหารแลกเปลี่ยนค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีการแนะนำวิธีการจัดมื้ออาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน การกินอาหารจำพวกน้ำตาลหรือขนมหวาน และการคำนวณหาพลังงานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานค่ะ ซึ่งน่าสนใจดีค่ะ ในส่วนของเมนูที่แนะนำไว้ในหนังสือก็จะแบ่งเป็นเมนูของคาวกับเมนูของหวานนะคะ อย่างเช่น สปาเกตตี้กุ้งสับ โจ๊กข้าวกล้องใส่ไข่เยี่ยวม้า ยำกุ้งย่างสามรส ขนมปังม้วนผักโขม กุ้งผัดสะตอพริกสด สลัดผักย่าง ข้าวต้มปลาเก๋ากับขึ้นฉ่าย ส่วนเมนูของหวานก็มี น้ำมะระปั่น น้ำใบบัวบก น้ำฝรั่งปั่นกับโยเกิร์ต น้ำใบเตยใส่เม็ดแมงลัก สำหรับหนังสือเล่มนี้ เราว่าเอาไว้ใช้เป็นคู่มือได้เลยค่ะ ให้ความรู้ครบถ้วนเกี่ยวกับการดูแลเรื่องอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
รวมตำรับอาหารคู่ครัว
4
ตำราอาหารที่มีเมนูเยอะ แต่รูปน้อยไปหน่อยค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 02 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ถ้าคุณกำลังมองหาตำราอาหารที่รวบรวมอาหารไว้หลากหลายรูปแบบ เราขอแนะนำหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ รวมตำรับอาหารคู่ครัว หนังสือเล่มนี้รวบรวมเมนูอาหารไว้กว่า 150 เมนูเป็นเมนูอาหารที่เชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่พ่อครัวแม่ครัวมืออาชีพ หรือว่าไม่ค่อยจะได้จับตะหลิวกันซักเท่าไหร่ อาจจะยังไม่รู้วิธีการทำ ก็สามารถศึกษาวิธีการทำได้จากเล่มนี้ค่ะ รวมตำรับอาหารคู่ครัวจะแบ่งอาหารออกเป็นประเภทค่ะ ก็คืออาหารพิเศษ อาหารประเภทแกง อาหารประเภทกับแกล้ม และอาหารจานเดียว จะขอยกตัวอย่างเมนูของแต่ละประเภทแล้วกันค่ะ เริ่มจากอาหารพิเศษก็จะมีซี่โครงหมูอ่อนทอดกระเทียม ปลาทูสดราดพริก ปลาหมึกทอดกระเทียม ผัดเผ็ดปลาดุกทอดกรอบ ฯลฯ อาหารประเภทแกง ก็เช่น แกงเผ็ดทะเล แกงเผ็ดมะระยัดไส้ แกงเขียวหวานปลาอินทรี แกงส้มผักกาดขาวเนื้อย่าง อาหารประเภทกับแกล้มก็มี ปลาช่อนนึ่งแบบลูกทุ่ง ยำปลาหมึก ยำวุ้นเส้น ยำหอยแครง และประเภทอาหารจานเดียวก็เช่นข้าวหน้าหมูแดง ข้าวคลุกกะปิ บะหมี่กรอบราดหน้าทะเล ขนมจีนน้ำยาไก่ ฯลฯ เท่าที่ยกตัวอย่างมาจะเห็นว่าตำราอาหารเล่มนี้ไม่ได้เน้นไปที่การแนะนำเมนูแปลกๆพิสดารค่ะ แต่จะเน้นไปที่เมนูทั่วๆไปที่เราคุ้นเคยมากกว่า เราเลยคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะกับผู้อ่านที่ไม่ได้เป็นมือโปรด้านการทำอาหาร แต่เหมาะกับผู้อ่านที่พอมีทักษะบ้างแล้วเกิดนึกไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรทานดี หรือว่าผู้อ่านที่อยากจะเปิดร้านอาหารก็สามารถเอาเมนูในหนังสือไปใช้ได้ค่ะ ข้อเสียมีอยู่เรื่องเดียวก็คือหนังสือไม่มีรูปอาหารเลยค่ะ มีแต่ตัวหนังสือล้วนๆ ก็เลยอาจจะไม่ค่อยน่าอ่านซักเท่าไหร่
4
อาหารจานด่วนง่ายๆทำได้ด้วยตัวเองค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 02 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สำหรับคนที่ชอบทำอาหารแบบเรา เวลามาอยู่หอนี่เรื่องกินก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนกันนะคะ เรากินอาหารตามสั่งบ่อยค่ะ บ่อยจนเบื่อ จนบางครั้งก็อยากจะทำอาหารกินเองบ้าง แต่ก็ติดปัญหาตรงที่เครื่องมือกับสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ทำได้แค่เมนูง่ายๆ ประเภทอาหารจานเดียวซะเป็นส่วนใหญ่ ทุกครั้งที่นึกอยากทำอาหารขึ้นมาก็จะมีหนังสือไม่กี่เล่มที่เป็นคู่มือค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือเล่มนี้ จานเด็ดเมนูจานเดียว จานเด็ดเมนูจานเดียวเป็นหนังสือที่สอนการทำอาหารจานเดียวด้วยเมนูแบบง่ายๆค่ะ แต่ไม่ใช่แค่เมนูที่เราเห็นกันบ่อยๆตามร้านอาหารตามสั่งทั่วไปนะคะ มีเมนูแปลกๆน่ากินๆ แล้วก็ต้องใช้ความตั้งใจในการทำเหมือนกันค่ะ อย่างเช่น ข้าวผัดเมืองเหนือ ข้าวห่อไข่ ข้าวโอ๊ตกล้วยหอมคาราเมล ข้าวหน้าไข่ข้นซีฟู้ด ข้าวหน้าเต้าหู้ทอดกระเทียมพริกไทย ข้าวหน้าปลาดิบรวมมิตร เส้นเซี่ยงไฮ้ผัดสุกี้แห้ง ฯลฯ ส่วนเมนูทั่วๆไปก็มีค่ะอย่างเช่นข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ ข้าวราดหน้าไก่ ข้าวผัดพริกเผากุ้ง เป็นต้น สำหรับวิธีการทำเมนูพวกนี้ก็ไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ ทำแป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว อาจจะยุ่งยากบ้างตอนหาวัตถุดิบเท่านั้นเอง สำหรับคนที่ชอบทำอาหารอยู่แล้วอาจจะคิดว่าเมนูที่แนะนำเป็นเรื่องหมูๆก็ได้ค่ะ แต่สำหรับคนที่อาจจะยังเป็นมือใหม่อยู่ แล้วอยากจะลองฝึกฝีมือด้านการทำอาหาร ถ้าเอาเมนูที่แนะนำไว้ในหนังสือเล่มนี้ไปทดลองทำดูก็น่าจะช่วยให้ทำอาหารให้เก่งขึ้นนะคะ เพราะว่าเป็นอาหารจานเดียวที่มีวิธีทำที่ไม่ยุ่งยากเกินไป
5
ถ้าอยากหากับข้าวเมนูไข่น่ากินๆ แนะนำเล่มนี้เลยค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ส่วนตัวแล้วเราเป็นคนชอบกินไข่มากๆค่ะ จะบอกว่าต้องกินทุกมื้อเลยก็ว่าได้ อย่างน้อยๆก็ต้องมีไข่ดาวหนึ่งฟองทุกมื้อ มื้อไหนไม่มีไข่เหมือนชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง ^^ หลายคนอาจจะคิดว่าไข่ไก่เอามาทำเมนูได้ไม่กี่เมนู คงหนีไม่พ้นไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋น แล้วก็ไข่ต้ม แต่จริงๆแล้วไข่สามารถเอามาทำเป็นเมนูต่างๆได้หลากหลายเมนูเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับไอเดียของแต่ละคนมากกว่า ที่สำคัญคือทำออกมาแล้วจะต้องไม่เสียรสชาติของไข่แล้วก็ไม่ทำให้เสียรสชาติของอาหารจานนั้นๆที่มีไข่เป็นส่วนผสม ในหนังสือเล่มนี้ก็จะมีเมนูไข่ที่เราอาจจะคุ้นเคยกันมาบ้างอย่างเช่น กะเพราไข่เยี่ยวม้า กุ้งผัดไข่เค็ม มะระผัดไข่เค็ม ไข่พะโล้ แล้วก็แกงส้มชะอมไข่ แล้วก็ยังมีเมนูไข่แปลกๆอีกเยอะอย่างเช่นเต้าหู้หน้าไข่เห็ดหอม ซุปไข่ ทอดมันห่อไข่ ไข่ต้มราดซอสถั่ว กุ้งนึ่งไข่นมสด ไข่เจียวสเปน ไข่เจียวกระเทียมดอง ต้มยำไข่เจียว มันฝรั่งทอดหน้าไข่ดาว ล่าเตียง เต้าหู้คลุกไข่ทอด ฯลฯ ผู้อ่านที่ชอบกินไข่อยู่แล้วรับรองไม่ผิดหวังค่ะ หรือสำหรับใครที่อาจจะเบื่อกับเมนูไข่แบบเดิมๆ ซ้ำซากจำเจ ก็สามารถมาหาไอเดียในการทำเมนูใหม่ๆได้จากหนังสือเล่มนี้ค่ะ อาจจะไม่ต้องทำตามเมนูที่แนะนำมาแบบเป๊ะๆ แต่อาจจะใช้วิธีการประยุกต์หรือว่าดัดแปลงเป็นสูตรของตัวเอง เป็นเมนูที่แปลกพิเศษขึ้นไปอีกก็ได้ เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่แนะนำให้มีติดบ้านไว้ค่ะ เผื่อนึกอะไรไม่ออกก็หยิบไข่ซักสองสามฟองมาทำเป็นอาหารก็น่าสนใจดี
เค้กอร่อย สูตรไขมันต่ำ + 2DVD
5
สอนการทำเค้กสุขภาพด้วยภาพค่ะ อ่านเข้าใจง่ายดี
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เค้กอร่อยสูตรไขมันต่ำเล่มนี้เป็นการรวบรวมเมนูเค้ก low fat ที่ดีต่อสุขภาพค่ะ เมนูเค้กทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้มี 20 เมนูนะคะ อาจจะไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่น่ากินทุกเมนูเลย ตัวอย่างเมนูแนะนำเช่น เค้กช็อกโกแลตผลไม้สด เค้กช็อกโกแลตกล้วยหอม เค้กใบเตยมะพร้วอ่อน เค้กเพอร์เฟกท์ไวท์ช็อกโกแลต เค้กกำมะหยี่สีแดง บอสตันครีมพาย เค้กลูกตาลน้ำอ้อย ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้คือรูปภาพค่ะ ในหนังสือมีรูปเยอะมาก ไม่ใช่แค่รูปเค้กน่ากินๆ แต่ยังมีรูปแสดงอุปกรณ์ ขั้นตอนวิธีทำอย่างละเอียด ผู้อ่านที่ไม่เคยทำเค้กมาก่อนไม่ต้องกังวลเลยว่าจะทำตามไม่ได้ เป็นหนังสือที่เน้นการสอนวิธีทำเค้กด้วยรูปมากกว่าตัวหนังสือค่ะ ไล่ไปทีละเสตป อ่านเข้าใจง่าย อ่านไปหิวไป ที่สำคัญก็คือมีดีวีดีแถมมาด้วยค่ะ มีดีวีดี 2 แผ่นแถมมา ซึ่งจะเป็นการสาธิตวิธีการทำเค้กตั้งแต่เมนูที่ 1 จนถึงเมนูที่ 12 ค่ะ (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่สอนให้ครบทั้ง 20 เมนูไปเลย) ยกตัวอย่างวิธีการสอนการทำเค้กช็อกโกแลตผลไม้สดนะคะ step 1เค้าก็จะสอนการทำแป้งสปันจ์ก่อน โยจะบอกส่วนผสมพร้อมรูปภาพประกอบชัดเจน วิธีทำแต่ละขั้นตอนจะมีรูปประกอบทั้งหมด step 2 ก็จะเป็นการทำครีมไวท์ช็อกโกแลต และstep 3 ก็จะเป็นการสอนการประกอบเค้กค่ะ อย่างที่บอกว่าแต่ละขั้นตอนมีรูปประกอบทั้งหมด ทำให้เวลาทำตามเราสามารถเห็นได้เลยว่าเค้กที่เราทำแต่ละขั้นตอนมีหน้าตาตรงตามแบบที่เค้าสอนมั้ย ช่วยเพิ่มความมั่นใจสำหรับมือใหม่ได้ดีเลยค่ะ
4
เป็นหนังสือที่เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 01 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ถ้าจะพูดถึงวิธีการลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารนั้น ในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นการกินแป้งหรือว่าคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงและกินผักผลไม้ต่างๆให้มากขึ้น ทำไมต้องทำ 2 อย่างนี้เหตุผลก็คือการกินแป้งหรือว่าคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงนั้นจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดึงเอาไขมันที่สะสมอยู่นั้นออกมาใช้เป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรต ซึ่งจะส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลง ส่วนการกินผักและผลไม้นั้นมีความจำเป็นในแง่ที่ว่าผักผลไม้ช่วยขจัดพิษในร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยผู้เขียนอธิบายว่าผักผลไม้ที่ว่านี้จะต้องเป็นผักผลไม้ที่คั้นสดเพราะว่าจะมีสารอาหารที่ครบถ้วนมากกว่าผักผลไม้สำเร็จรูป ในบทนำของหนังสือเล่มนี้จะให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรตและน้ำผลไม้ค่ะ หลังจากนั้นก็จะอธิบายถึงวิธีการคั้นน้ำผักผลไม้และเคล็ดลับต่างๆเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญคือจะมีการแนะนำ 10 สุดยอดผลไม้คาร์โบไฮเดรตต่ำ ซึ่งก็จะมี แอปเปิ้ล อโวคาโด ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลส้ม แครนเบอร์รี่ ผลกีวี่ ผลไม้กลุ่มแตง มะละกอ สับปะรด มะเขือเทศ แล้วตามด้วยผัก 10 ชนิดที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำซึ่งได้แก่ถั่วและเมล็ดพืชงอก บีตรูท บลอกโครี่ กะหล่ำปลี แครอท เซเลอรี่ แตงกวา ผักใบเขียว ผักกาดหอม พริกต่างๆ ปิดท้ายด้วยบรรดาเครื่องปรุง 10 ชนิดที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ได้แก่ มะพร้าว กระเทียม ขิง เครื่องเทศต่างๆ ไอศกรีมคาร์โบไฮเดรตต่ำ ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช ถั่วเหลือง ผงเวย์โปรตีน และโยเกิร์ต มาถึงส่วนของเมนูต่างๆก็จะแบ่งเป็นเมนูสมูธตี้กับเมนูน้ำผลไม้ธรรมดาค่ะ แต่ละเมนูจะสอนวิธีทำ ส่วนผสม แล้วก็คุณค่าทางโภชนาการที่จะได้รับ สำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนักอยู่ก็สามารถเอาไปคำนวณต่อได้เลยว่าควรกินแค่ไหน
5
เที่ยวไปชิมไปตามเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 28 กันยายน พ.ศ. 2557

ถ้าพูดถึงการเที่ยวไปชิมไปคงเป็นทริปในฝันของใครหลายคนเลยนะคะ รวมทั้งเราด้วย ^^ เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆในสถานที่ต่างๆแล้ว เราก็ยังได้มีโอกาสกินอาหารอร่อยๆที่ขึ้นชื่อของสถานที่ที่เราได้ไปเที่ยวด้วย เรือด่วนชวนชิม เป็นหนังสือที่เป็นเหมือนไกด์นำทางให้คุณผู้อ่านได้ท่องเที่ยวไปตามเส้นทางของแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วยังได้แวะหาของอร่อยขึ้นชื่อตามจุดต่างๆ เรียกได้ว่าอิ่มทั้งตาแล้วก็อิ่มทั้งท้องกันเลยทีเดียว เพราะผู้อ่านจะได้สัมผัสบรรยากาศ วิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำ ในขณะเดียวกันก็ยังได้ลิ้มรสอาหารอร่อยๆด้วย แค่อ่านอย่างเดียวยังไม่ต้องไปด้วยตัวเองยังรู้สึกสนุกเลยค่ะ ผู้เขียนจะรวบรวมร้านอร่อยไล่เรียงกันไปตามท่าน้ำต่างๆที่เรือด่วนแล่นผ่านค่ะ เริ่มจากท่าสาทรก่อนเลย เค้าก็จะบอกเส้นทางการเดินเรือ แผนที่ของร้านอาหารต่างๆที่แนะนำในบริเวณนั้น เรียกว่าพอลงเรือปุ๊บก็เดินหาร้านอร่อยตามแผนที่ที่ให้มาได้เลย ในแต่ละร้านที่แนะนำ ผู้เขียนจะให้ข้อมูลไว้ด้วยค่ะ อย่างเช่นวันเวลาเปิดปิด เบอร์โทรติดต่อ ราคา แล้วก็สถานที่ใกล้เคียงเอาไว้เป็นจุดสังเกตให้นักท่องเที่ยวกันหลง ^^ อย่างเช่นแถวท่าสาทรก็จะมีร้านทิพหอยทอดภูเขาไฟ ร้านทับทิมกรอบ ไอศกรีมศรีเวียง ประจักษ์เป็ดย่าง ร้านโจ๊กปรินซ์บางรัก เจ๊หลีลูกชิ้นปลาเจ้าเก่า ข้าวขาหมูแพร่พาณิชย์ เป็นต้นค่ะ แล้วก็จะไล่เรียงไปเรื่อยๆแบบนี้จนครบทุกท่าน้ำเลย มีประมาณ 10 ท่าค่ะ ยกตัวอย่างไม่หมด เอาเป็นว่าถ้าอยากลองล่องเรือชิมอาหารอร่อย หนังสือเล่มนี้ก็ตอบโจทย์ค่ะหรือว่าอยากจะลองหาร้านอร่อยที่ไม่เคยไป หนังสือเล่มนี้ก็ช่วยให้คุณหาร้านอร่อยถูกปากได้แน่นอน
4
อาหารอีสานรสแซบเห็นแล้วน่ากิน^^
โดย: moobig วันที่เขียนรีวิว: 28 กันยายน พ.ศ. 2557

สำหรับหนังสือแซบอีสาน เล่มนี้ผู้เขียนบอกว่าเป็นหนังสือรวบรวม 52 เมนูอาหารอีสานรสแซบต้นตำรับ เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่ารสต้นตำรับจริงๆเป็นยังไง แต่เท่าที่เคยลองทำดูก็ถือว่ารสชาติตามหนังสือเล่มนี้อร่อยถูกปากดีค่ะ 52 เมนูที่ว่านี้อาจจะแบ่งออกเป็นสองส่วนค่ะคือเมนูอาหารอีสานทั่วๆไป อย่างเช่นพวกต้มแซบเครื่องใน แกงเห็ดโคน แกงขี้เหล็ก ต้มไก่บ้านใบมะขามอ่อน ส้มตำ เสือร้องไห้ ซุปหน่อไม้ ประมาณนี้ กลุ่มที่สองจะเป็นเมนูที่เราเองไม่เคยกินแล้วก็ไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่อย่างเช่น ลาบปลาตองสูตรเหนียวหรือดิบ ก้อยเห็ดฟาง ข้าวจี่กับปูนาทอดกรอบ แล้วก็จ่อมกุ้ง (ถ้าใครเป็นคนอีสานอาจจะรู้จักเมนูที่ว่านี้ก็ได้^^) ผู้เขียนเริ่มจากการแนะนำข้อควรรู้ก่อนลงมือทำค่ะ อย่างเช่นการให้ความรู้เกี่ยวกับปลาร้าว่ามีส่วนผสม มีวิธีทำยังไง มีเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารยังไง ผักพื้นบ้านอีสานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องรู้ค่ะ เพราะจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของหลายๆเมนู ผู้เขียนจะอธิบายว่าผักแต่ละชนิดนิยมนำมาทำเมนูอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็จะเริ่มอธิบายขั้นตอนการทำเมนูต่างๆ ตามสไตล์ตำราอาหาร ก็จะมีการบอกส่วนผสม วิธีทำ และทิปเล็กๆน้อยเพื่อช่วยให้ได้รสชาติของอาหารที่ดีขึ้น อย่างที่บอกไปค่ะว่าหนังสือเล่มนี้เค้าบอกว่าเป็นรสชาติต้นตำรับ แต่เราก็ตอบไม่ได้ว่าต้นตำรับจริงมั้ย เพราะถ้าดูจากประวัติผู้เขียนเองก็ไม่มีอะไรรับประกัน บอกแต่เพียงว่าเป็นแม่บ้านที่ต้องทำอาหารให้ครอบครัวทานทุกวันเท่านั้นเอง เอาเป็นว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่อยากหาประสบการณ์ฝึกฝีมือในการทำอาหารอีสานละกันค่ะ
www.batorastore.com © 2024