Champion's Story บุพเพรักกิ๊กกั๊กหัวใจ

Champion's Story บุพเพรักกิ๊กกั๊กหัวใจ

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160600663
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 149.00 บาท 37.25 บาท
ประหยัด: 111.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

 

ตึง!!!

เสียงฝ่ามือคุณพ่อที่ฟาดลงมาบนโต๊ะอาหารทำลายความเงียบได้ทันที แก้วน้ำล้มลงเพราะแรงสั่นสะเทือนก่อนจะกลิ้งหลุนๆ หล่นลงบนพื้น

เพล้ง!

“พ่อเหลืออดแล้วนะยาหยี! ขอโทษคุณลักษณ์เขาเดี๋ยวนี้!” เสียงตะคอกของคุณพ่อดังเสียจนฉันสะดุ้งเฮือก

“ขอโทษ...ทำไมคะ” ฉันถามเสียงนิ่ง พยายามทำใจดีสู้เสือกับคุณพ่อที่กำลังมองฉันอย่างโกรธจัดทั้งๆ ที่ใจสั่นสุดๆ

ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณพ่อจะต้องโกรธ แต่ไม่คิดว่าจะโกรธมากถึงขนาดนี้

“ทำไมงั้นเหรอ! แกทำอะไรลงไปแกไม่รู้ตัวเหรอไง!” คุณพ่อเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกฉันเรียบร้อยแล้ว

ปกติถ้าคุณพ่ออารมณ์ดีสุดๆ จะเรียกฉันว่าลูกยาหยี ยาหยีของพ่อ ถ้าอารมณ์ปกติก็เรียกฉันว่ายาหยีซึ่งก็คือชื่อเล่นของฉัน แต่อารมณ์นี้...พ่อไม่เรียกชื่อฉัน แต่พ่อเรียกฉันว่า ‘แก’

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณ” เสียงยัยผู้หญิงจอมเสแสร้งพูดสอดขึ้นมา “น้องยาหยีไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ”

ฉันปรายสายตามองคุณลักษณ์ก่อนจะพูดเสียงเรียบ

“คุณพ่อพูดกับฉันค่ะ ไม่ได้พูดกับคุณ”

คุณลักษณ์หลบตาฉันทันที

“หยุดก้าวร้าวกับคุณลักษณ์ได้แล้ว!”

ฉันสบตาคุณพ่อที่กำลังโกรธจัด ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเห็นคุณพ่อโกรธมากขนาดนี้มาก่อน

ฉันเม้มริมฝีปากแน่นสนิทก่อนจะเปิดปากพูด

“ทำไมยาหยีจะต้องหยุด ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกับยาหยีสักหน่อย”

“เราจะต้องพูดเรื่องนี้กันอีกสักกี่ครั้ง! พ่อแต่งงานกับคุณลักษณ์เพราะฉะนั้นศักดิ์ของเธอก็ไม่ต่างอะไรกับ...”

ฉันรู้ว่าคุณพ่อกำลังจะพูดอะไร

“แต่ยาหยีไม่ได้ต้องการ!”

ความโกรธ ความน้อยใจ และความเสียใจทำให้ฉันพูดเสียงดังแล้วลุกพรวดขึ้นประจันสายตากับคุณพ่อ “ยาหยีมีแค่คุณพ่อ มีแค่น้อง!” ฉันตะโกน “ยาหยีไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนนี้!” ฉันชี้นิ้วใส่คุณลักษณ์ ผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็น ‘แม่เลี้ยง’ ของฉัน

ฉันรู้สึกถึงแรงบีบเบาๆ บริเวณฝ่ามือข้างซ้ายจึงสะบัดมือหนี ได้ยินเสียงเจ้าของฝ่ามือเมื่อครู่นี้ถอนหายใจเบาๆ

“ทำไมแกถึงได้เป็นเด็กก้าวร้าว ไม่มีมารยาท ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ได้ขนาดนี้! ฉันไม่เคยสั่งสอนแกเหรอว่าเวลาพูดกับผู้ใหญ่ต้องทำยังไง หรือควรจะปฏิบัติกับผู้ใหญ่แบบไหน หรือว่าสั่งสอนแล้วแต่แกไม่จำ!”

“ยาหยีรู้ค่ะว่าควรพูดหรือปฏิบัติกับผู้ใหญ่ยังไง แต่ยาหยีจะพูดดีกับคนที่ควรพูด ทำดีกับคนที่ควรทำ”

“ฉันบอกให้แกขอโทษคุณลักษณ์”

“แล้วถ้ายาหยีไม่ขอโทษล่ะคะ”

“ฉันบอกให้แกขอโทษ”

“ไม่ค่ะ” ฉันเชิดหน้าขึ้น “แล้วก็คิดว่าไม่จำเป็นด้วย”

“ถ้าแกเป็นลูกฉัน ขอโทษคุณลักษณ์เดี๋ยวนี้!”

ฉันมองคุณพ่ออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ความรู้สึกของฉันในตอนนี้ราวกับถูกใครเอาค้อนทุบหัวอย่างแรงยังไงยังงั้น

ถึงแม้จะมีคนอยู่ในห้องถึงห้าคน แต่บรรยากาศในห้องทานอาหารกลับเงียบสงัด

ฉันพยายามเรียบเรียงความคิดและคำพูดก่อนจะเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“ถ้ายาหยีไม่ขอโทษผู้หญิงคนนี้แปลว่ายาหยีไม่ใช่ลูกคุณพ่อเหรอคะ”

คุณพ่อไม่พูด ไม่ตอบ แต่กลับจ้องหน้าฉันนิ่ง

...ไม่มีคำตอบใดๆ จากปากคุณพ่อ

ฉันรู้สึกว่าก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาถึงลำคอ น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“คุณพ่อเห็นผู้หญิงคนนี้สำคัญกว่ายาหยีหรือคะ”

“นั่นไม่เกี่ยว พ่อบอกให้แกขอโทษ”

“เพราะผู้หญิงคนนี้...ถึงกับทำให้คุณพ่อตัดลูกกับยาหยีเชียวหรือคะ”

คุณพ่อเม้มปากแน่นสนิทก่อนจะยืนยันคำเดิม

“ถ้ายาหยีเป็นลูกพ่อ ขอโทษคุณลักษณ์ซะ”

ฉันหูอื้อตาลายด้วยความโกรธ โกรธที่คุณพ่อเข้าข้างผู้หญิงคนนั้น โกรธที่คุณพ่อเห็นความสำคัญของผู้หญิงคนนั้นมากกว่าฉัน!

“ก็ได้ค่ะ ถ้าผู้หญิงคนนี้สำคัญมากขนาดนั้นล่ะก็...”

ฉันหัวเราะเบาๆ อย่างสมเพชตัวเอง เงยหน้าขึ้นมองคุณพ่อกับยัยผู้หญิงจอมเสแสร้งสลับกับก่อนจะเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี

“ยาหยีจะไม่ขอโทษ”

“พี่...” ยะหยาคราง เธอบีบมือฉันอีกครั้งแต่ฉันก็สะบัดมือน้องสาวออก

“ได้ยินมั้ยคะ ยาหยีจะไม่ขอโทษ แล้วถ้าคุณพ่อจะตัดพ่อตัดลูกกับยาหยีเพราะผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้...งั้นก็แล้วแต่คุณพ่อแล้วกัน”

พูดจบฉันก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะอาหารทันที

 

โชคดีที่ฉันลุกออกมาจากห้องทานอาหารทันก่อนที่หยดน้ำตาจะไหลออกมา ก่อนที่จะแสดงความอ่อนแอ ก่อนที่จะแสดงความพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงคนนั้นเห็น

ฉันล็อกประตูห้องนอนแล้วกระโดดขึ้นบนเตียง เอาหน้าซุกหมอนปล่อยเสียงร้องไห้ออกมา

“คุณพ่อไม่ได้หมายความอย่างที่พูดหรอก” เสียงยะหยาทีเดินเข้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้น

ฉันไม่แปลกใจที่ยะหยาจะโผล่เข้ามาในห้องนอนของฉันได้เพราะนอกจากประตูห้องที่ฉันล็อกไว้แล้วยังมีประตูอีกบานที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนอนของฉันกับยะหยา

“ฉันรู้ แต่ฉันแค่เจ็บใจน่ะ” ฉันพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอ

โกรธคุณพ่อที่พูดจาเหมือนกับรักผู้หญิงคนนั้นมากกว่าลูกในไส้อย่างฉัน เข้าข้างกันทุกเรื่อง เกลียดผู้หญิงคนนั้นที่แย่งความรักของคุณพ่อไป

“แต่พี่ก็เล่นแรงไปนะ” ยะหยาว่า

“ใครสนกันล่ะ” ฉันลุกพรวดขึ้นนั่งทั้งๆ ที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนใบหน้าอยู่เต็มไปหมด “สมน้ำหน้า อยากทำเป็นเอาอกเอาใจคุณพ่อดีนัก”

ฉันนึกถึงสีหน้าของยัยคุณลักษณ์ตอนที่ฉันสกัดขาป้าแช่มที่กำลังถือถ้วยบัวลอยร้อนๆ มาเสิร์ฟ และแน่นอนว่าถ้วยบัวลอยจะหล่นไปอยู่ตรงไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่บนหัวของยัยคุณลักษณ์

คิดมาถึงตรงนี้แล้วฉันก็หัวเราะคิก

“ตกลงจะร้องไห้หรือจะหัวเราะ” ยะหยาถาม

“เออน่ะ เรื่องของฉัน”

“ตอนพี่ลุกออกไป คุณพ่อทำหน้าเครียดมากเลยนะ”

“แหงล่ะสิ” ฉันยักไหล่

ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณพ่อรักฉันมากมายแค่ไหนหรอกนะ

“แล้วพี่จะเอาไงต่อ”

“ไม่รู้สิ ทำไมยัยนั่นถึงทนได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้”

ประโยคสุดท้าย...ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนจะใช้สองมือปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ

ก่อนหน้านี้คุณพ่อก็เคยพาผู้หญิงมาที่บ้านเหมือนกัน แต่ละรายก็เจอฤทธิ์เดชของฉันกับยะหยาไปเสียจนเป็นฝ่ายล่าถอยไปหมด มีแต่ยัยคุณลักษณ์นี่แหละที่ทนได้นานจนถึงขนาดได้แต่งงานกับคุณพ่อแล้วยังเดินชูคออยู่ในบ้าน ‘เบญจสิรภัทร’ ได้นานขนาดนี้

ทำไมนะ ทำไมยัยนั่นถึงทนได้ขนาดนั้น แค่เพราะเงินเท่านั้นเหรอ เพื่อเงินทำให้ทำได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ

แรกเริ่มฉันกับยะหยาก็กลั่นแกล้งยัยคุณลักษณ์นั่นสารพัด แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันยะหยาจึงทำท่าเหมือนจะแปรพักตร์ไป ไม่รู้ว่าโดนยัยคุณลักษณ์เล่นของใส่หรือเปล่า ยะหยาไมยอมเข้าร่วมขบวนการปั่นหัวกลั่นแกล้งผู้หญิงหิวเงินเหมือนอย่างที่เคย ในที่สุดก็เหลือแค่ฉันคนเดียวที่ยังสนุกกับเกมนี้อยู่

ทำไงดีนะ ทำยังไงให้คุณพ่อหย่ากับผู้หญิงคนนั้น ทำยังไงให้ยัยผู้หญิงคนนั้นไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้

 

‘ถ้าแกเป็นลูกฉัน ขอโทษคุณลักษณ์เดี๋ยวนี้!’

ฉันเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อนึกถึงสีหน้าของคุณพ่อตอนพูดประโยคนี้

‘ถ้ายาหยีเป็นลูกพ่อ ขอโทษคุณลักษณ์ซะ’

‘ก็ได้ค่ะ ถ้าผู้หญิงคนนี้สำคัญกับคุณพ่อมากขนาดนั้นล่ะก็...ยาหยีจะไม่ขอโทษ’

‘ได้ยินมั้ยคะ ยาหยีจะไม่ขอโทษ แล้วถ้าคุณพ่อจะตัดพ่อตัดลูกกับยาหยีเพราะผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้...งั้นก็แล้วแต่คุณพ่อแล้วกัน’

 

นึกถึงบทสนทนาของตัวเองกับคุณพ่อแล้วก็อดที่จะโกรธคุณพ่อไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดแบบนี้กับบุพการี แต่ใช่ว่าฉันจะไม่มีสิทธิ์เกลียดผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย ฉันเกลียดผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้คุณพ่อพูดแบบนี้กับฉัน พูดว่าจะตัดพ่อตัดลูกกัน

ฉันรู้ว่าคุณพ่อรักฉันมากเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น แต่ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าคุณพ่อเองก็รักผู้หญิงคนนั้นมากเหมือนกัน

ออกจากบ้านไปจริงๆ เลยดีมั้ย เผื่อว่าคุณพ่อจะยอมหย่ากับยัยนั่น ฉันประชดตัวเองในใจ

แล้วฉันก็ต้องเบิกตาโพลงสุดๆ ตัวนิ่งแข็งค้าง

อา...

หัวสมองของฉันกำลังประมวลความคิดก่อนที่ฉันจะยิ้มออกมา

“ยิ้มอะไรน่ะ” ยะหยาที่เงียบไปนานถาม สีหน้าสงสัย

“คิดออกแล้ว” ประโยคนี้เหมือนฉันพูดกับตัวเองมากกว่าตอบคำถามของยะหยา

“คิดอะไร”
ฉันหันไปมองหน้าสาวที่อายุน้อยกว่าสองปีก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ครั้งนี้คุณพ่อจะต้องยอม”

สีหน้าของยะหยาในตอนนี้ใคร่รู้สุดๆ

“ฉันจะหนีออกจากบ้าน”

 

และนั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ก่อนกำหนดและต้องทำความสะอาดห้องนี้ด้วยตัวเองไงล่ะ

ฉันเหลือบมองนาฬิกา เกือบจะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว คุณพ่อจะรู้หรือยังนะว่าฉันออกจากบ้านมาแล้ว ท่านจะรู้มั้ยนะว่าฉันมาอยู่ที่คอนโดฯ นี่

ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง ตาก็คอยเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังเรื่อยๆ

ทุ่มสิบห้า ทุ่มสามสิบ สองทุ่ม สองทุ่มครึ่ง...

ยาหย่าย่า ยีหยี่ยี่

เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้น ฉันลุกพรวดไปหยิบมันมาทันที

“ว่าไงยะหยา”

(วันนี้คุณพ่อติดประชุม ไม่ได้กลับมาทานข้าวที่บ้าน)

“งั้นเหรอ...” น้ำเสียงของฉันแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด

(ป้าแช่มตกใจมากเลยนะตอนที่รู้ว่าพี่ออกจากบ้าน รีบโทรหาคุณพ่อแต่คุณพ่อปิดเครื่อง เห็นป้าแช่มบอกว่าโทรบอกคุณลดาแล้ว)

“อ๋อออ” ฉันลากเสียง

คุณลดาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของคุณพ่อ เดาว่าป่านนี้คุณพ่อน่าจะรู้แล้วว่าฉันหนีออกจากบ้าน เพียงแต่ยังปลีกตัวออกมาจากห้องประชุมไม่ได้เท่านั้น

(แล้วนี่ถ้าคุณพ่อโทรหาพี่ที่ห้องจะทำไง)

“ฉันก็จะไม่รับสายน่ะสิ” ฉันตอบทันที

(จะหนีออกจากบ้านทั้งทีดันหนีไปอยู่คอนโดฯ เนี่ยนะ เชื่อเลย)

“ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่เคยได้ยินเหรอ” ฉันหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะพูดต่อ “จริงๆ จะบอกป้าแช่มก็ได้นะว่าฉันหนีมาอยู่ที่นี่ เพราะยังไงเดี๋ยวคุณพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วแค่นั้น แต่ก่อนอื่นฉันก็แค่อยากให้คุณพ่อตกใจตอนที่รู้ว่าฉันหายตัวไปแต่ไม่รู้ว่าฉันไปอยู่ที่ไหนน่ะ”

(ทำให้บุพการีเป็นห่วงเป็นบาปนะขอบอก) ยะหยาเตือนเสียงเรียบ

“ถ้ามันเป็นส่วนช่วยในการทำให้บุพการีตาสว่างจากปลิงสูบเงินล่ะก็ฉันยอม แค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวฉันไปหาอะไรกินก่อน ห้ามบอกเบอร์นี้ให้คุณพ่อรู้เด็ดขาดเลยนะ” ฉันกำชับน้องสาว

(รู้แล้วน่า)

เพื่อการนี้ฉันลงทุนถอดซิมเก่าออกแล้วซื้อซิมโทรศัพท์เบอร์ใหม่มาใช้เลยทีเดียว

ฉันขับรถออกไปหาของกินในห้างใหญ่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดฯ ที่ฉันอยู่เท่าไหร่นัก ตอนที่เปิดกระเป๋าสตางค์ออกมา ฉันก็ต้องตกใจมากเมื่อเห็นว่ามีแบงก์ร้อยเหลืออยู่เพียงสามใบเท่านั้น มิหนำซ้ำเงินในธนาคารของฉันก็เหลืออยู่แค่ร้อยเดียวเพราะก่อนหน้านี้สามวันฉันเพิ่งถอนออกมา ตั้งใจว่าจะเอาไปช็อปปิ้งที่ฮ่องกงกับน้อง ดังนั้นเงินก้อนทั้งหมด

 

 (ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
04/07/2014

Champions Story บุพเพรักกิ๊กกั๊กหัวใจ เป็นนิยายของนักเขียนนามปากกา ‘Rose Quartz’ อ่านเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกว่าพล็อตน่ารักคืออ่านเรื่องนี้แล้วได้ปรับมุมมองดีอ่ะค่ะมีปมที่น่าสนใจคลายเรื่องตอนท้ายซึ่งสนุกมากๆแถมยังสมเหตุสมผลด้วยเพราะว่าเรื่องนี้จะมีพล็อตประมาณว่านางเอกเรื่องนี้เขากำลังจะมีแม่เลี้ยงแต่ว่าเขาไม่ชอบแม่เลี้ยงตัวเองก็เลยต่อต้านทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จเพราะพ่อไม่สนใจแล้วก็ไม่ง้อเธอจึงหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่คอนโดแถมยังต้องไปทำงานพิเศษจนมีโอกาสได้เจอกับพระเอก อ่านเรื่องแล้วมีความคิดเห็นว่าเนื้อเรื่องในการบรรยายพี่นักเขียนบรรยายแบบเรียบง่ายดีค่ะเรียบง่ายในทีนี้แต่ว่ามีความสนุกนะค่ะหมายถึงว่าภาษาที่ใช้ในการบรรยายเรียบง่าย ไม่วกไปวนมา บทสนทนาของพระเอกนางเอกก็สมเหตุสมผลรวมถึงการบรรยายฉากต่างๆในเรื่องด้วยแล้วอีกอย่างเลยที่อ่านแล้วมีความรู้สึกชอบมากๆคือพระเอกกับนางเอกในเรื่องนี้เขาไม่ได้รักกันง่ายไปไม่ใช่อารมณ์แบบเจอกันครั้งแรกปุ๊บแล้วรักเลยอะไรประมาณนี้ซึ่งเรื่องนี้ตอนแรกพระเอกออกจะไม่ค่อยชอบนางเอกด้วยซ้ำรวมถึงนิสัยต่างๆของนางเอกเพราะนางเอกเรื่องนี้ค่อนข้างเอาแต่ใจแต่อีกเหตุผลที่พระเอกไม่ค่อยชอบนางเอกตอนแรกก็คือปมของเรื่องนี้ต้องลองอ่านดูค่ะสนุกมากๆ เรื่องนี้อ่านแล้วมีความคิดเห็นว่าพี่นักเขียนสื่อเนื้อเรื่องสำคัญๆของเรื่องออกมาผ่านทางภาษาเขียนได้ชัดเจนพล็อตเรื่องก็ชัดเจนอ่านช่วงแรกๆนี่ก็เริ่มจะพอเดาได้ว่าเนื้อหาหน้าถัดไปเป็นยังไงก็ก็ยังแอบมีฉากให้ลุ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยโดยเฉพาะปมของเรื่องนี้ที่ว่าแท้จริงแล้วพระเอกเป็นใครกฌค่อนข้างแจ็กพ็อตแตกเพราะไม่คิดว่าจะมาเฉลยแบบนี้ตอนท้ายฮ่าๆๆอ่านแล้วไม่ได้เดาถึงฉากนี้มาก่อนเพราะมึคิดว่าจะเป็นแบบนี้นิสัยของตัวละครเรื่องนี้โดยเฉพาะพระเอกจะมีความเป็นผู้ใหญ่กว่านางเอกมากๆอ่านแล้วปลื้มชอบพระเอกสไตน์นี้ฮ่าๆคือเป็นตัวละครที่มีความรับผิดชอบค่ะอ่านนิยายของพี่นักเขียนท่านนี้มาหลายเรื่องแล้วพี่เขาเป็นคนที่แต่งนิยายแบบเรียบร้ายสนุกมากคือไม่ได้มีตัวร้ายอะไรมากมายดำเนินเรื่องไปแบบเรียบง่ายแต่มาพลิกตอนจบอะไรประมาณนี้ซึ่งทำให้เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากค่ะซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจเองอ่านแล้วจะรู้สึกสนุกไปเองภาษาก็บรรยายแบบเข้าใจง่ายไม่ได้สละสลวยอะไรมากมายแต่เน้นจุดสำคัญของเรื่องที่น่าสนใจ จุดเด่นของเรื่อง รวมไปถึงบทสนทนาของตัวละครด้วยค่ะแถมนิยายเรื่องนี้พี่นักเขียนยังมีการจับจุดสำคัญของตัวละครดีมากว่าตัวละครตัวไหนเด่นที่รู้สึกเลยในเรื่องนี้คือพระเอกนางเอกจะเด่นมากตัวประกอบอื่นๆก็ลองลงมาคือจะแยกแยะชัดเจนค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (64 รายการ)

www.batorastore.com © 2024