Customer Reviews

กระต่ายกับเต่า หนังสือนิทานเรื่องดังตลอดกาลที่เชื่อว่าหลายๆคนโตมาพร้อมๆกับนิทานเรื่องนี้อย่างแน่นอนและไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ เราก็ยังสามารถนำนิทานที่มีแง่คิดดีๆอย่างนี้มาเล่าให้ลูกหลานๆของเราได้ฟังและเรียนรู้สิ่งดีๆที่จะได้จากนิทานเรื่องนี้อย่างแน่นอน ดิฉันเองก็เป็นอีกคนที่ได้ฟังเรื่องราวในนิทานของกระต่ายและเต่ามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆโดยที่แม่มักจะเล่าให้ฟังก่อนนอนเสมอ และยังสอนอีกด้วยว่าไม่ว่าจะทำอะไรถ้าเรามีความพยายามมากพอสิ่งนั้นก็จะสำเร็จได้ไม่ยากเลย โดยที่แม่มักจะถามเสมอว่าอยากเลือกเป็นตัวอะไรระหว่างกระต่ายที่ทำอะไรรวดเร็วกับเต่าที่ทำไรก็ชักช้า เราก็บอกว่าอยากเป็นกระต่ายเพราะมันทำอะไรได้รวดเร็วดี เมื่อฉันตอบไปดังนั้นแม่ก็เลยได้เล่าเรื่องระหว่างกระต่ายกับเต่าให้ฟังว่าเมื่อนานมาแล้ว ที่ในป่ากว้างใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่มากมายและหนึ่งในนั้นก็มีเจ้ากระต่ายจอมทะเล้นที่ชอบดูถูกสัตว์ตัวอื่นที่เดินหรือทำอะไรช้ากว่าตนเอง จนกระทั่งวันนึงเจ้ากระต่ายเดินมาเห็นเต่าซึ่งกำลังเดินกลับบ้านนั้นเดินช้าขวางทางเจ้ากระต่ายเลยโมโหและได้ท้าทายเจ้าเต่าออกไปว่าให้มาแข่งวิ่งกันให้ถึงเส้นชัยก่อนชนะแต่ถ้าใครแพ้จะต้องออกไปจากป่าแห่งนี้ เมื่อได้ฟังดังนั้นเจ้าเต่าจึงรับคำท้าโดยมีสัตว์ตัวอื่นๆนั้นคอยเป็นพยานให้การแข่งขันในครั้งนี้ด้วย เมื่อมาถึงวันแข่งเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ก็ต่างพากันมาเชียร์เจ้าเต่ากันมากมายและเมื่อเริ่มการแข่งขันเจ้ากระต่ายเป็นฝ่ายที่วิ่งนำไปก่อนส่วนเจ้าเต่าเองก็ค่อยๆเดินไปช้าๆเมื่อเจ้ากระต่ายวิ่งมาใกล้จะถึงเส้นชัยแล้วจึงชะล่าใจและคิดว่ายังไงเจ้าเต่าก็ไม่มีทางเดินมาทันตนแน่จึงได้แอบไปนั่งหลับรอและขณะเดียวกันเจ้าเต่าก็ได้เดินมาทันที่ๆเจ้ากระต่ายนอนอยู่แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรจึงเดินต่อไปเพราะอีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยแล้วทันใดนั้นเองเจ้ากระต่ายที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาและเห็นว่าเต่ากำลังจะเข้าเส้นชัยแล้วจึงได้รีบวิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทันเพราะเจ้าเต่านั้นเข้าเส้นชัยไปแล้ว..เห็นไหมค่ะว่านิทานที่เรามักจะคิดว่าเป็นเรื่องหลอกเด็กหรืออะไรนั้นมันไม่จริงเลยเพราะในนิทานเค้าได้ให้แง่คิดดีๆให้เราไว้บอกหรือสอนลูกหลานของเราต่อไปดังนั้นดิฉันจึงเห็นถึงความสำคัญของหนังสือนิทานเพราะว่ามันมีประโยชน์กับน้องๆหนูๆมากจริงๆดังนั้นจึงอยากที่จะสนับสนุนให้ผู้ปกครองทุกๆท่านหาหนังสือนิทานดีๆมีแง่คิดมาอ่านให้เด็กได้ฟังกันค่ะ...

กระต่ายกับเต่า หนังสือนิทานเรื่องดังตลอดกาลที่เชื่อว่าหลายๆคนโตมาพร้อมๆกับนิทานเรื่องนี้อย่างแน่นอนและไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ เราก็ยังสามารถนำนิทานที่มีแง่คิดดีๆอย่างนี้มาเล่าให้ลูกหลานๆของเราได้ฟังและเรียนรู้สิ่งดีๆที่จะได้จากนิทานเรื่องนี้อย่างแน่นอน ดิฉันเองก็เป็นอีกคนที่ได้ฟังเรื่องราวในนิทานของกระต่ายและเต่ามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆโดยที่แม่มักจะเล่าให้ฟังก่อนนอนเสมอ และยังสอนอีกด้วยว่าไม่ว่าจะทำอะไรถ้าเรามีความพยายามมากพอสิ่งนั้นก็จะสำเร็จได้ไม่ยากเลย โดยที่แม่มักจะถามเสมอว่าอยากเลือกเป็นตัวอะไรระหว่างกระต่ายที่ทำอะไรรวดเร็วกับเต่าที่ทำไรก็ชักช้า เราก็บอกว่าอยากเป็นกระต่ายเพราะมันทำอะไรได้รวดเร็วดี เมื่อฉันตอบไปดังนั้นแม่ก็เลยได้เล่าเรื่องระหว่างกระต่ายกับเต่าให้ฟังว่าเมื่อนานมาแล้ว ที่ในป่ากว้างใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่มากมายและหนึ่งในนั้นก็มีเจ้ากระต่ายจอมทะเล้นที่ชอบดูถูกสัตว์ตัวอื่นที่เดินหรือทำอะไรช้ากว่าตนเอง จนกระทั่งวันนึงเจ้ากระต่ายเดินมาเห็นเต่าซึ่งกำลังเดินกลับบ้านนั้นเดินช้าขวางทางเจ้ากระต่ายเลยโมโหและได้ท้าทายเจ้าเต่าออกไปว่าให้มาแข่งวิ่งกันให้ถึงเส้นชัยก่อนชนะแต่ถ้าใครแพ้จะต้องออกไปจากป่าแห่งนี้ เมื่อได้ฟังดังนั้นเจ้าเต่าจึงรับคำท้าโดยมีสัตว์ตัวอื่นๆนั้นคอยเป็นพยานให้การแข่งขันในครั้งนี้ด้วย เมื่อมาถึงวันแข่งเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ก็ต่างพากันมาเชียร์เจ้าเต่ากันมากมายและเมื่อเริ่มการแข่งขันเจ้ากระต่ายเป็นฝ่ายที่วิ่งนำไปก่อนส่วนเจ้าเต่าเองก็ค่อยๆเดินไปช้าๆเมื่อเจ้ากระต่ายวิ่งมาใกล้จะถึงเส้นชัยแล้วจึงชะล่าใจและคิดว่ายังไงเจ้าเต่าก็ไม่มีทางเดินมาทันตนแน่จึงได้แอบไปนั่งหลับรอและขณะเดียวกันเจ้าเต่าก็ได้เดินมาทันที่ๆเจ้ากระต่ายนอนอยู่แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรจึงเดินต่อไปเพราะอีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยแล้วทันใดนั้นเองเจ้ากระต่ายที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาและเห็นว่าเต่ากำลังจะเข้าเส้นชัยแล้วจึงได้รีบวิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทันเพราะเจ้าเต่านั้นเข้าเส้นชัยไปแล้ว..เห็นไหมค่ะว่านิทานที่เรามักจะคิดว่าเป็นเรื่องหลอกเด็กหรืออะไรนั้นมันไม่จริงเลยเพราะในนิทานเค้าได้ให้แง่คิดดีๆให้เราไว้บอกหรือสอนลูกหลานของเราต่อไปดังนั้นดิฉันจึงเห็นถึงความสำคัญของหนังสือนิทานเพราะว่ามันมีประโยชน์กับน้องๆหนูๆมากจริงๆดังนั้นจึงอยากที่จะสนับสนุนให้ผู้ปกครองทุกๆท่านหาหนังสือนิทานดีๆมีแง่คิดมาอ่านให้เด็กได้ฟังกันค่ะ...

ไข่ทำอะไรก็อร่อย...เป็นหนังสือที่รวบรวมเมนูง่ายๆที่ทำมาจากวัตถุดิบที่กินได้กับทุกเมนูอย่างไข่นั้นเอง ไข่ในที่หมายถึงไข่ที่นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารนั้นก็คือไข่ไก่ ไข่เป็ด และก็ไข่นกกระทานั้นเอง เชื่อเลยว่าในทุกๆบ้านจะต้องมีเจ้าวัตถุดิบที่เรียกว่าไข่ไว้ใช้ทำเป็นเมนูแสนอร่อยกันทุกบ้านอย่างแน่นอนและจากที่ดิฉันเคยกล่าวไว้ในรีวิวของหนังสือเรื่องข้าวผัดนั้นดิฉันสามารถทำอาหารเป็นได้อย่างแรกนั้นก็คือเมนูที่มาจากตระกูลไข่นั้นเอง ขอเล่าย้อนความไปถึงสมัยเด็กๆของดิฉันเนื่องด้วยดิฉันเป็นเด็กที่ค่อนข้างกินอะไรก็ได้แต่ต้องไม่เผ็ดเพราะกินเผ็ดไม่ได้ดังนั้นไอ้เจ้าเมนูไข่นี้แหละที่จะมีมาในเกือบทุกมื้ออาหารของดิฉัน พอเริ่มโตมาหน่อยพอที่จะเข้าครัวได้เองพ่อก็ได้สอนการทอดไข่สูตรพิเศษของพ่อที่กินทีไรเป็นต้องติดใจเพราะในไข่เจียวที่พ่อทำนั้นจะใส่หอมแดงและหอมใหญ่ซอยลงไปด้วยปกติซึ่งถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงเขี่ยมันทิ้งแต่พ่อกลับทำให้ฉันยอมกินผักที่พ่อใส่ลงไปในไข่เจียวด้วยได้จึงทำให้ดิฉันอยากจะลองทอดไข่เจียวกินเองบ้างและนั้นจึงเป็นที่มาของการเริ่มทำอาหารของตัวดิฉันเอง เชื่อว่าหลายคงจะเบื่อๆแน่ๆถ้าต้องกินไข่เจียวทุกวันดังนั้นถ้าอยากกินไข่แล้วเราจะสามารถทำมันออกมาในรูปแบบไหนได้อีกล่ะ ...งานนี้ต้องไปศึกษาค้นคว้ากันและทีเดียวเพราะจากที่ได้ลองทำด้วยตนเองแล้วมันไม่เวิร์กสักเท่าไหร่จนกระทั่งได้มาเจอหนังสือเล่มนี้จึงทำให้เมนูไข่ที่แสนจะธรรมนั้นมีหลากหลายเมนูมากขึ้นทั้งของคาวและก็ของหวานอีกด้วย เริ่มจากของคาว ก็จะมีไข่เจียวที่เรามักจะเลือกทำเพราะมันง่ายมากก ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไข่ลูกเขย ไข่ยัดไส้ ไข่หวาน ไข่ม้วน ไข่น้ำ พอๆกับของคาวหวานเรามาดูซิว่าของหวานเจ้าไข่เค้ามีส่วนประกอบอย่างไรบ้าง อ่าพอสืบดูดีๆจะรู้ได้ว่าเจ้าไข่จะเป็นส่วนผสมของการทำนมส่วนใหญ่เลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยเองหรือแม้แต่พวกเบเกอร์รี่ก็ตามดังนั้นเราไม่ต้องไปยกตัวอย่างมันก็ได้งั้นเอาที่ใช้เจ้าไข่ทำเป็นขนมได้ง่ายๆดีกว่านั้นก็คือขนม ไข่หวานนนนั้นเอง เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยทานและอาจจะเคยลงมือเข้าครัวเองแบบดิฉันก็เป็นได้(ชอบคิดเข้าข้างตัวเองตลอดๆ) ง่าเห็นไหมค่ะว่าเจ้าไข่ที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้มันสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูมากๆอยู่ที่เพื่อนๆแล้วล่ะว่าจะชอบทานเมนูไหนกัน...

ไข่ทำอะไรก็อร่อย...เป็นหนังสือที่รวบรวมเมนูง่ายๆที่ทำมาจากวัตถุดิบที่กินได้กับทุกเมนูอย่างไข่นั้นเอง ไข่ในที่หมายถึงไข่ที่นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารนั้นก็คือไข่ไก่ ไข่เป็ด และก็ไข่นกกระทานั้นเอง เชื่อเลยว่าในทุกๆบ้านจะต้องมีเจ้าวัตถุดิบที่เรียกว่าไข่ไว้ใช้ทำเป็นเมนูแสนอร่อยกันทุกบ้านอย่างแน่นอนและจากที่ดิฉันเคยกล่าวไว้ในรีวิวของหนังสือเรื่องข้าวผัดนั้นดิฉันสามารถทำอาหารเป็นได้อย่างแรกนั้นก็คือเมนูที่มาจากตระกูลไข่นั้นเอง ขอเล่าย้อนความไปถึงสมัยเด็กๆของดิฉันเนื่องด้วยดิฉันเป็นเด็กที่ค่อนข้างกินอะไรก็ได้แต่ต้องไม่เผ็ดเพราะกินเผ็ดไม่ได้ดังนั้นไอ้เจ้าเมนูไข่นี้แหละที่จะมีมาในเกือบทุกมื้ออาหารของดิฉัน พอเริ่มโตมาหน่อยพอที่จะเข้าครัวได้เองพ่อก็ได้สอนการทอดไข่สูตรพิเศษของพ่อที่กินทีไรเป็นต้องติดใจเพราะในไข่เจียวที่พ่อทำนั้นจะใส่หอมแดงและหอมใหญ่ซอยลงไปด้วยปกติซึ่งถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงเขี่ยมันทิ้งแต่พ่อกลับทำให้ฉันยอมกินผักที่พ่อใส่ลงไปในไข่เจียวด้วยได้จึงทำให้ดิฉันอยากจะลองทอดไข่เจียวกินเองบ้างและนั้นจึงเป็นที่มาของการเริ่มทำอาหารของตัวดิฉันเอง เชื่อว่าหลายคงจะเบื่อๆแน่ๆถ้าต้องกินไข่เจียวทุกวันดังนั้นถ้าอยากกินไข่แล้วเราจะสามารถทำมันออกมาในรูปแบบไหนได้อีกล่ะ ...งานนี้ต้องไปศึกษาค้นคว้ากันและทีเดียวเพราะจากที่ได้ลองทำด้วยตนเองแล้วมันไม่เวิร์กสักเท่าไหร่จนกระทั่งได้มาเจอหนังสือเล่มนี้จึงทำให้เมนูไข่ที่แสนจะธรรมนั้นมีหลากหลายเมนูมากขึ้นทั้งของคาวและก็ของหวานอีกด้วย เริ่มจากของคาว ก็จะมีไข่เจียวที่เรามักจะเลือกทำเพราะมันง่ายมากก ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม ไข่ลูกเขย ไข่ยัดไส้ ไข่หวาน ไข่ม้วน ไข่น้ำ พอๆกับของคาวหวานเรามาดูซิว่าของหวานเจ้าไข่เค้ามีส่วนประกอบอย่างไรบ้าง อ่าพอสืบดูดีๆจะรู้ได้ว่าเจ้าไข่จะเป็นส่วนผสมของการทำนมส่วนใหญ่เลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยเองหรือแม้แต่พวกเบเกอร์รี่ก็ตามดังนั้นเราไม่ต้องไปยกตัวอย่างมันก็ได้งั้นเอาที่ใช้เจ้าไข่ทำเป็นขนมได้ง่ายๆดีกว่านั้นก็คือขนม ไข่หวานนนนั้นเอง เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยทานและอาจจะเคยลงมือเข้าครัวเองแบบดิฉันก็เป็นได้(ชอบคิดเข้าข้างตัวเองตลอดๆ) ง่าเห็นไหมค่ะว่าเจ้าไข่ที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้มันสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูมากๆอยู่ที่เพื่อนๆแล้วล่ะว่าจะชอบทานเมนูไหนกัน...

ผลไม้บำรุงสุขภาพ หนังสือดีๆที่อยากให้ทุกคนได้หามาอ่านกันเพราะนอกจากจะได้รู้ประโยชน์ของเจ้าผลไม้ชนิดต่างๆที่มีอย่างมากมายนับไม่ถ้วนแต่เรารู้หรือไม่ว่าผลไม้ชนิดไหนมีประโยชน์กับร่างกายของเราอย่างไรบ้างและมันสามารถช่วยเราได้ขนาดนั้นเลยหรอผลไม้ส่วนใหญ่เรามักจะหามากินกันตลอดปีอยู่แล้วเพราะว่าในแต่ละฤดูกาลนั้นจะมีผลไม้ออกมาแวะเวียนให้เราได้หามาลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยของมันนั้นเองและนอกจากนี้เรายังได้รู้ถึงช่วงเวลาและแหล่งที่จะสามารถปลูกเจ้าผลไม้ชนิดต่างๆได้อย่างง่ายดายว่าผลไม้ชนิดไหนชอบอยู่ในภูมิอากาศหรือลักษณะภูมิประเทศอย่างไร ที่สำคัญเราจะได้หันมาใส่ใจเรื่องของการรับประทานผลไม้กันมากขึ้นด้วย ดิฉันเองเป็นคนที่ชอบรับประทานผลไม้แทบจะทุกชนิดเลยตั้งแต่เด็กๆไม่ว่าจะเป็น แตงโม ส้ม ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ แก้วมังกร มะพร้าว ลองกอง ขนุน โอ๊ยอีกสารพัดที่จะบรรยาย เพราะถ้าแม่หรือคนที่ บ้านซื้อมาแช่ไว้ในตู้เย็นนี้นะไม่ต้องบอกเลยดิฉันเป็นต้องจัดการเรียบเพราะสามารถกินผลไม้ได้แทนข้าวในแต่ละมื้อเลย แต่ก็ต้องมีเหตการณ์ที่ทำให้ดฉันนั้นต้องหยุดรับประทานผลไม้เป็นอย่างชั่วคราวเพราะว่ากินมากไปเลยทำให้เป็นไข้เลย ดังนั้นตั้งแต่นั้นมาก็เลยเลือกที่จะรับประทานผลไม้แต่ละชนิดแทนที่จะเป็นการเลือกกินผลไม้ทุกอย่างที่มีออกมาตามฤดูต่างๆเลยด้วยความที่ชอบกินผลไม้จึงยอมไม่ได้ถ้าจะต้องเลือกกินแค่บางอย่างดังนั้นเลยต้องไปหาหนังสือเพื่อมาศึกษากันอีกแล้วว่ามีผลไม้ชนิดไหนบ้างที่จะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์และแข็งแรงอยู่เสมอจนมาได้เจอกับหนังสือเล่มนี้เลยทำให้รู้ว่าแท้จริงนั้นคนเราสามารถทานผลไม้ได้ทุกชนิดเลยแต่ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมถึงจะเป็นการที่จะให้ผลไม้นั้นบำรุงร่างกายแต่ถ้าเราเลือกที่จะกินมันเยอะไปจนเกินพอดีแน่นอนว่ามันจะต้องส่งผลไม่ดีต่อตัวเราอย่างที่ดิฉันเคยเป็นอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนที่จะกินอะไรเราก็จะต้องทำความรู้จักกับสิ่งของเหล่านั้นก่อนเหมือนดั่งคำโบราณที่กล่าวเอาไว้ว่า รู้เค้ารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อนครั้ง(เค้าใช่กับคนหรือเปล่านะ 55)เอาเถอะค่ะไม่ว่าเราจะทำอะไรเราก็ต้องเรียนรู้ในข้อดีและข้อเสียของสิ่งเหล่านั้นก่อนอยู่ดี เรื่องของสุขภาพก็เช่นเดียวกันก็ตามเมื่อเรารู้ว่าอะไรกินแล้วดีต่อตัวเรานั้นเราก็อยากที่จะหามากินใช่ไหมล่ะค่ะ เมื่อรู้ดังนี้แล้วเราจึงควรที่จะเรียนรู้เรื่องราวดีๆเอาไว้เพราะว่ามันสามารถนำประโยชน์มาใช้ได้จริงๆแน่นอนค่ะ...

ผลไม้บำรุงสุขภาพ หนังสือดีๆที่อยากให้ทุกคนได้หามาอ่านกันเพราะนอกจากจะได้รู้ประโยชน์ของเจ้าผลไม้ชนิดต่างๆที่มีอย่างมากมายนับไม่ถ้วนแต่เรารู้หรือไม่ว่าผลไม้ชนิดไหนมีประโยชน์กับร่างกายของเราอย่างไรบ้างและมันสามารถช่วยเราได้ขนาดนั้นเลยหรอผลไม้ส่วนใหญ่เรามักจะหามากินกันตลอดปีอยู่แล้วเพราะว่าในแต่ละฤดูกาลนั้นจะมีผลไม้ออกมาแวะเวียนให้เราได้หามาลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยของมันนั้นเองและนอกจากนี้เรายังได้รู้ถึงช่วงเวลาและแหล่งที่จะสามารถปลูกเจ้าผลไม้ชนิดต่างๆได้อย่างง่ายดายว่าผลไม้ชนิดไหนชอบอยู่ในภูมิอากาศหรือลักษณะภูมิประเทศอย่างไร ที่สำคัญเราจะได้หันมาใส่ใจเรื่องของการรับประทานผลไม้กันมากขึ้นด้วย ดิฉันเองเป็นคนที่ชอบรับประทานผลไม้แทบจะทุกชนิดเลยตั้งแต่เด็กๆไม่ว่าจะเป็น แตงโม ส้ม ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ แก้วมังกร มะพร้าว ลองกอง ขนุน โอ๊ยอีกสารพัดที่จะบรรยาย เพราะถ้าแม่หรือคนที่ บ้านซื้อมาแช่ไว้ในตู้เย็นนี้นะไม่ต้องบอกเลยดิฉันเป็นต้องจัดการเรียบเพราะสามารถกินผลไม้ได้แทนข้าวในแต่ละมื้อเลย แต่ก็ต้องมีเหตการณ์ที่ทำให้ดฉันนั้นต้องหยุดรับประทานผลไม้เป็นอย่างชั่วคราวเพราะว่ากินมากไปเลยทำให้เป็นไข้เลย ดังนั้นตั้งแต่นั้นมาก็เลยเลือกที่จะรับประทานผลไม้แต่ละชนิดแทนที่จะเป็นการเลือกกินผลไม้ทุกอย่างที่มีออกมาตามฤดูต่างๆเลยด้วยความที่ชอบกินผลไม้จึงยอมไม่ได้ถ้าจะต้องเลือกกินแค่บางอย่างดังนั้นเลยต้องไปหาหนังสือเพื่อมาศึกษากันอีกแล้วว่ามีผลไม้ชนิดไหนบ้างที่จะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์และแข็งแรงอยู่เสมอจนมาได้เจอกับหนังสือเล่มนี้เลยทำให้รู้ว่าแท้จริงนั้นคนเราสามารถทานผลไม้ได้ทุกชนิดเลยแต่ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมถึงจะเป็นการที่จะให้ผลไม้นั้นบำรุงร่างกายแต่ถ้าเราเลือกที่จะกินมันเยอะไปจนเกินพอดีแน่นอนว่ามันจะต้องส่งผลไม่ดีต่อตัวเราอย่างที่ดิฉันเคยเป็นอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนที่จะกินอะไรเราก็จะต้องทำความรู้จักกับสิ่งของเหล่านั้นก่อนเหมือนดั่งคำโบราณที่กล่าวเอาไว้ว่า รู้เค้ารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อนครั้ง(เค้าใช่กับคนหรือเปล่านะ 55)เอาเถอะค่ะไม่ว่าเราจะทำอะไรเราก็ต้องเรียนรู้ในข้อดีและข้อเสียของสิ่งเหล่านั้นก่อนอยู่ดี เรื่องของสุขภาพก็เช่นเดียวกันก็ตามเมื่อเรารู้ว่าอะไรกินแล้วดีต่อตัวเรานั้นเราก็อยากที่จะหามากินใช่ไหมล่ะค่ะ เมื่อรู้ดังนี้แล้วเราจึงควรที่จะเรียนรู้เรื่องราวดีๆเอาไว้เพราะว่ามันสามารถนำประโยชน์มาใช้ได้จริงๆแน่นอนค่ะ...

ข้าวผัด อีกหนึ่งหนังสือที่รวมสูตรและหลากหลายเมนูที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังเรียกด้วยชื่อเดียวกันอย่าง ข้าวผัด เพราะไม่ว่าคุณจะใส่ส่วนผสมอะไรถ้าคุณนำมันมาผัดรวมกับข้าวสวยร้อนๆมันก็จะถูกเรียกว่าข้าวผัดนำหน้าแล้วค่อยตามด้วยวัตถุดิบที่คุณใส่อยู่ดี มันเก๋ใช่มั้ยล่ะ เมนูอาหารที่แม้แต่คนที่ทำกับข้าวไม่เป็นก็ยังสามารถเริ่มทำได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ โดยเฉพาะตัวดิฉันเองเมนูที่ทำได้ลองลงมาจากเมนูตระกูลไข่ ก็เห็นจะมีไอ้เจ้าข้าวผัดนี้ล่ะที่กินได้และอร่อยเอาเรื่องเลยเหมือนกัน หลายๆคนอยากจะสงสัยว่าอ้าวทำเป็นแล้วยังจะซื้อหนังสือข้าวผัดมาอ่านทำไม ต้องบอกเลยว่าดิฉันเป็นคนที่ถ้าชอบกินอะไรแล้วก็สามารถจะนั้นสิ่งนั้นติดๆกันได้ทุกมื้ออาหารเลยดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะศึกษาถึงสูตรและสิ่งที่สามารถนำมาประยุกต์ใส่ลงไปในข้าวผัดจานโปรดของดิฉันได้บ้างงานนี้ขี้เกียจเข้าไปศึกษาในเน็ทเพราะเวลาที่เราทำอาหารจริงๆคงมานั่งเปิดโทรศัพท์เพื่อเข้าเน็ตอยู่คงไม่เป็นอันทำกับข้าวเป็นแน่ดังนั้นการเลือกหนังสือที่เป็นเรื่องของสิ่งที่เราอยากรู้มาอ่านนั้นมันจึงง่ายกว่าเยอะคุณว่าไหมล่ะ หลังจากที่ได้ศึกษาเรื่องราวในหนังสือข้าวผัดมาแล้วจึงทำให้ดิฉันเองนั้นได้สูตรใหม่ๆที่ไม่เคยคิดว่ามันจะมารวมกันได้แต่ใครจะรู้ว่ามันกลับเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมให้มีมากขึ้นไปอีกและเคล็ดลับดีๆในการทำข้าวผัดที่แสนจะธรรมดาให้อร่อยไม่น้อยไปกว่าอาหารจานแพงๆเลย แต่ก็อย่างว่าการที่จะทำกับข้าวให้อร่อยนั้นไม่ใช่อาศัยแต่วัตถุดิบที่ดีแต่กลับต้องอาศัยฝีมือและประสบการณ์ความเชี่ยวชาญบวกเข้าไปด้วยมันถึงจะทำให้อาหารจานโปรดของคุณนั้นกลายเป็นอาหารจานพิเศษของใครอีกหลายๆคน เมื่อคิดได้ดังนั้นดิฉันจึงได้ลงมือในการทำข้าวผัดอีกครั้งคราวนี้จะทำให้คนที่รักได้ลองชิมดูจึงเลือกสูตร ข้าวผัดต้มยำทะเลรวมมิตรมาให้เค้าได้ชิมกันงานนี้ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยนะ เพราะการที่เรานำกับข้าวที่มันเคยเป็นน้ำมาก่อนมาผสมเข้ากับข้าวที่แห้ง ตอนแรกก็คิดว่าจะทำไม่ได้แต่มันก็ผ่านมาได้แต่ก็ทุลักทุเลเหมือนกันเพราะส่วนผสมมันค่อนข้างเยอะเลยทำให้กะขนาดของเครื่องปรุงที่ต้องใส่นั้นไม่ค่อยถูก แต่ต้องบอกเลยว่าในหนังสือเล่มนี้ช่วยได้เยอะเลยทีเดียวเพราะเค้าได้กำหนดทุกอย่างไว้ให้คุณแล้วเพียงแค่คุณทำตามจากเรื่องจากมันก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันทีดังนั้นอาหารมื้อพิเศษมื้อนั้นจึงผ่านพ้นมาได้ด้วยดีจึงต้องขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ...

ข้าวผัด อีกหนึ่งหนังสือที่รวมสูตรและหลากหลายเมนูที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังเรียกด้วยชื่อเดียวกันอย่าง ข้าวผัด เพราะไม่ว่าคุณจะใส่ส่วนผสมอะไรถ้าคุณนำมันมาผัดรวมกับข้าวสวยร้อนๆมันก็จะถูกเรียกว่าข้าวผัดนำหน้าแล้วค่อยตามด้วยวัตถุดิบที่คุณใส่อยู่ดี มันเก๋ใช่มั้ยล่ะ เมนูอาหารที่แม้แต่คนที่ทำกับข้าวไม่เป็นก็ยังสามารถเริ่มทำได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ โดยเฉพาะตัวดิฉันเองเมนูที่ทำได้ลองลงมาจากเมนูตระกูลไข่ ก็เห็นจะมีไอ้เจ้าข้าวผัดนี้ล่ะที่กินได้และอร่อยเอาเรื่องเลยเหมือนกัน หลายๆคนอยากจะสงสัยว่าอ้าวทำเป็นแล้วยังจะซื้อหนังสือข้าวผัดมาอ่านทำไม ต้องบอกเลยว่าดิฉันเป็นคนที่ถ้าชอบกินอะไรแล้วก็สามารถจะนั้นสิ่งนั้นติดๆกันได้ทุกมื้ออาหารเลยดังนั้นดิฉันจึงอยากที่จะศึกษาถึงสูตรและสิ่งที่สามารถนำมาประยุกต์ใส่ลงไปในข้าวผัดจานโปรดของดิฉันได้บ้างงานนี้ขี้เกียจเข้าไปศึกษาในเน็ทเพราะเวลาที่เราทำอาหารจริงๆคงมานั่งเปิดโทรศัพท์เพื่อเข้าเน็ตอยู่คงไม่เป็นอันทำกับข้าวเป็นแน่ดังนั้นการเลือกหนังสือที่เป็นเรื่องของสิ่งที่เราอยากรู้มาอ่านนั้นมันจึงง่ายกว่าเยอะคุณว่าไหมล่ะ หลังจากที่ได้ศึกษาเรื่องราวในหนังสือข้าวผัดมาแล้วจึงทำให้ดิฉันเองนั้นได้สูตรใหม่ๆที่ไม่เคยคิดว่ามันจะมารวมกันได้แต่ใครจะรู้ว่ามันกลับเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมให้มีมากขึ้นไปอีกและเคล็ดลับดีๆในการทำข้าวผัดที่แสนจะธรรมดาให้อร่อยไม่น้อยไปกว่าอาหารจานแพงๆเลย แต่ก็อย่างว่าการที่จะทำกับข้าวให้อร่อยนั้นไม่ใช่อาศัยแต่วัตถุดิบที่ดีแต่กลับต้องอาศัยฝีมือและประสบการณ์ความเชี่ยวชาญบวกเข้าไปด้วยมันถึงจะทำให้อาหารจานโปรดของคุณนั้นกลายเป็นอาหารจานพิเศษของใครอีกหลายๆคน เมื่อคิดได้ดังนั้นดิฉันจึงได้ลงมือในการทำข้าวผัดอีกครั้งคราวนี้จะทำให้คนที่รักได้ลองชิมดูจึงเลือกสูตร ข้าวผัดต้มยำทะเลรวมมิตรมาให้เค้าได้ชิมกันงานนี้ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยนะ เพราะการที่เรานำกับข้าวที่มันเคยเป็นน้ำมาก่อนมาผสมเข้ากับข้าวที่แห้ง ตอนแรกก็คิดว่าจะทำไม่ได้แต่มันก็ผ่านมาได้แต่ก็ทุลักทุเลเหมือนกันเพราะส่วนผสมมันค่อนข้างเยอะเลยทำให้กะขนาดของเครื่องปรุงที่ต้องใส่นั้นไม่ค่อยถูก แต่ต้องบอกเลยว่าในหนังสือเล่มนี้ช่วยได้เยอะเลยทีเดียวเพราะเค้าได้กำหนดทุกอย่างไว้ให้คุณแล้วเพียงแค่คุณทำตามจากเรื่องจากมันก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายทันทีดังนั้นอาหารมื้อพิเศษมื้อนั้นจึงผ่านพ้นมาได้ด้วยดีจึงต้องขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ...

ขนมไทยรสอร่อย เป็นหนังสือที่รวบรวบสูตรและขนมไทยเอาไว้มากมายในเล่มเดียวกันเรียกว่าอยากกินอะไรมีหมดในหนังสือเล่มนี้จ้า จากที่เราเคยเจอกันในขนมนานาชาติกันไปแล้วก็ถึงคิวของขนมบ้านเกิดเมืองนอนของเรากันบ้างที่ไม่ว่าหน้าไหนๆหรือภาคไหนๆก็จะมีขนมมากหน้าหลายตราให้เราเลือกกินอย่างหลากหลายกันเลยทีเดียว โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบรับประทานขนมทุกชนิดอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเลยขนมไทยจึงไม่หลุดจากวงโคจรของดิฉันโอยเฉพาะจำพวก ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ล้วนแล้วแต่เป็นขนมที่ดิฉันชอบเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว กินเป็นอย่างเดียวเลยเกิดความคิดที่อยากจะลองทำดูเองบ้างอีกแล้ว 555+ เอาทุกอย่างเลยเนอะ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างอย่างน้อยๆเราก็ยังได้ลองทำ ต้องบอกเลยว่าซื้อหนังสือมาเล่มเดียวแต่มีขนมให้เลือกชมและลองทำตามเยอะมากๆแต่ในเนื้อหาของเล่มนี้จะนำขนมที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วมารวมกันให้เราได้ชมกันมากกว่าแต่ละอย่างนั้นก็ไม่ใช่จะทำเองได้ง่ายๆเลยนะ ดังนั้นเมื่อได้ศึกษาจากหนังสือคงยังไม่พอดิฉันเลยเดินทางไปศึกษาวิธีการทำขนมไทยชนิดต่างด้วยตัวเองกันเลยหลายๆอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเกาะเกล็ดแหล่องท่องเที่ยวใกล้กรุงของเรานั้นเองมีหมู่บ้านที่รับสอนทำขนมไทยชนิดต่างๆอย่าง เพราะเนื่องจากเค้าทำเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนเค้าจึงเปิดให้เข้าชมและยังสาธิตให้เราได้ศึกษากันอย่างฟรีๆอีกด้วยมันเยี่ยมยอดตรงนี้แหละ และเมื่อนั่งดูอยู่นานดิฉันก็เกิดอาการอยากจะทำบ้างเลยขอทำอะไรที่มันออกจะง่ายบ้างเห้นเค้าทำแล้วดูง่ายอ่ะเลยคิดเอาเองว่ามันคงง่าย แต่ที่ไหนได้ยากมว๊ากกก จึงได้แต่นั่งดูต่อไปอย่างสงบอิอิ แต่จากการที่ได้ศึกษาจากในหนังสือหรือได้มานั่งดูขบวนการทำเองก็ตามจึงทำให้รู้ว่าขนมทุกอย่างนั้นเค้าต้องผ่านวิธีการทำหลากหลายขั้นตอนมากๆกว่าที่จะเสร็จออกมาน่าตาสวยงามพร้อมให้เราเลือกรับประทาน ฉะนั้นจึงยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกว่าขนมของไทยเรานั้นเป็นอะไรที่น่าเก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราได้รู้จักและได้ชื่นชมกับความอร่อยของมันต่อไปนะ ทำให้จุดประกายให้ความรักความเป็นไทยผุดขึ้นมาจากขนมชิ้นเล็กๆแต่กลับสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้เราได้มากขนาดนี้ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนๆนั้นร่วมกันอนุรักษ์สิ่งดีๆเหล่านี้ให้มีอยู่คู่คนไทยตลอดไป ถ้าทำไม่เป็นก็คงหามากินได้เนอะ มันคงเป็นการอนุรักษ์อีกวิธีหนึ่งที่ดิฉันคิดขึ้นมาเองอีกแล้ว 555+ ...

ขนมไทยรสอร่อย เป็นหนังสือที่รวบรวบสูตรและขนมไทยเอาไว้มากมายในเล่มเดียวกันเรียกว่าอยากกินอะไรมีหมดในหนังสือเล่มนี้จ้า จากที่เราเคยเจอกันในขนมนานาชาติกันไปแล้วก็ถึงคิวของขนมบ้านเกิดเมืองนอนของเรากันบ้างที่ไม่ว่าหน้าไหนๆหรือภาคไหนๆก็จะมีขนมมากหน้าหลายตราให้เราเลือกกินอย่างหลากหลายกันเลยทีเดียว โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบรับประทานขนมทุกชนิดอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเลยขนมไทยจึงไม่หลุดจากวงโคจรของดิฉันโอยเฉพาะจำพวก ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ล้วนแล้วแต่เป็นขนมที่ดิฉันชอบเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว กินเป็นอย่างเดียวเลยเกิดความคิดที่อยากจะลองทำดูเองบ้างอีกแล้ว 555+ เอาทุกอย่างเลยเนอะ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างอย่างน้อยๆเราก็ยังได้ลองทำ ต้องบอกเลยว่าซื้อหนังสือมาเล่มเดียวแต่มีขนมให้เลือกชมและลองทำตามเยอะมากๆแต่ในเนื้อหาของเล่มนี้จะนำขนมที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วมารวมกันให้เราได้ชมกันมากกว่าแต่ละอย่างนั้นก็ไม่ใช่จะทำเองได้ง่ายๆเลยนะ ดังนั้นเมื่อได้ศึกษาจากหนังสือคงยังไม่พอดิฉันเลยเดินทางไปศึกษาวิธีการทำขนมไทยชนิดต่างด้วยตัวเองกันเลยหลายๆอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเกาะเกล็ดแหล่องท่องเที่ยวใกล้กรุงของเรานั้นเองมีหมู่บ้านที่รับสอนทำขนมไทยชนิดต่างๆอย่าง เพราะเนื่องจากเค้าทำเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนเค้าจึงเปิดให้เข้าชมและยังสาธิตให้เราได้ศึกษากันอย่างฟรีๆอีกด้วยมันเยี่ยมยอดตรงนี้แหละ และเมื่อนั่งดูอยู่นานดิฉันก็เกิดอาการอยากจะทำบ้างเลยขอทำอะไรที่มันออกจะง่ายบ้างเห้นเค้าทำแล้วดูง่ายอ่ะเลยคิดเอาเองว่ามันคงง่าย แต่ที่ไหนได้ยากมว๊ากกก จึงได้แต่นั่งดูต่อไปอย่างสงบอิอิ แต่จากการที่ได้ศึกษาจากในหนังสือหรือได้มานั่งดูขบวนการทำเองก็ตามจึงทำให้รู้ว่าขนมทุกอย่างนั้นเค้าต้องผ่านวิธีการทำหลากหลายขั้นตอนมากๆกว่าที่จะเสร็จออกมาน่าตาสวยงามพร้อมให้เราเลือกรับประทาน ฉะนั้นจึงยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกว่าขนมของไทยเรานั้นเป็นอะไรที่น่าเก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราได้รู้จักและได้ชื่นชมกับความอร่อยของมันต่อไปนะ ทำให้จุดประกายให้ความรักความเป็นไทยผุดขึ้นมาจากขนมชิ้นเล็กๆแต่กลับสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้เราได้มากขนาดนี้ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนๆนั้นร่วมกันอนุรักษ์สิ่งดีๆเหล่านี้ให้มีอยู่คู่คนไทยตลอดไป ถ้าทำไม่เป็นก็คงหามากินได้เนอะ มันคงเป็นการอนุรักษ์อีกวิธีหนึ่งที่ดิฉันคิดขึ้นมาเองอีกแล้ว 555+ ...

ขนมนานาชาติ เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความหอมหวานของขนมชนิดต่างๆเรียกได้ว่าผ่านไปแถวไหนถ้าเจอขนมที่ชอบเป็นต้องอดใจไม่ไหวต้องเสียเงินกับขนมนั้นๆทุกที แล้วสำหรับเนื้อหาสาระในหนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นการพาคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคน(แอบคิดว่าตัวเองน่ารัก)ได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างแดนและไปทำความรู้จักกับขนมขึ้นชื่อของประเทศหรือเมืองนั้นๆกันเลยทีเดียว เล่นเอาซะกลืนน้ำลายไปกับรูปร่างหน้าตาที่ชวนให้เข้าไปลิ้มลองเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าขนมแต่ละชนิดที่นำมาให้ได้รู้จักกันนั้น ถ้าสมมุติว่าคุณว่าได้เดินทางไปยังบ้านเมืองหรือประเทศเหล่านั้นแล้วไม่ได้ไปลองลิ้มชิมรสชาติของขนมพวกนี้นั้นถือว่าคุณยังเดินทางมาไม่สถานที่แห่งนั้นกันเลยทีเดียว เนื่องจากดิฉันก็เป็นบุคคลนึงที่ชอบเอ๊ะต้องเรียกว่าหลงรักเลยในการกินขนมนานาชนิดก็ว่าได้เลยอยากที่จะรู้เรื่องราวของที่มาและประวัติของเจ้าขนมที่ขึ้นชื่อเล่านั้นว่ามีที่มาที่ไปยังไงและเพื่อในเล่มเค้าอาจจะมีสูตรลับในการทำขนมมาให้เราลองทำกินเองบ้างก็ได้อิอิ แต่สำหรับดิฉันเองชอบนะสำหรับหนังสือที่นำพาให้เราไปรู้จักกับขนมชนิดต่างเพราะเวลาที่ได้นั้นมันเหมือนว่าเราได้เดินทางไป ณ ที่แห่งนั้นจริงๆจึงรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่นำเราไปรู้จักแค่ขนมต่างๆแต่ยังบอกให้เราได้ล่วงรู้ถึงวัฒนธรรมของบ้านเมืองต่างๆที่เป็นต้นกำเนิดของเจ้าขนมแสนอร่อยพวกนั้นอีกด้วย ดีมากเลยใช่มั้ยล้าใครจะคิดว่าการที่เรานั้นดูหรืออ่านหนังสือเพียงเล่มเดียวจะทำให้เราได้รู้อะไรที่นอกเหนือจากสิ่งที่เราอยากจะรู้ เนี้ยแหละมันจึงเป็นเสน่ห์ของการที่เราได้เลือกหนังสือดีๆมาอ่านยอมเสียเวลากันมันแต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่คุณได้รับตอบแทนไปนั้นมันคุมค่ามากกว่าเวลาที่คุณเสียไปซะอีกนะ ร่ายมาซะยาวเพื่อนๆคงอยากจะรู้ว่าดิฉันนั้นมีความสามารถด้านการทำขนมบ้างหรือเปล่าใช่ไหมล่ะ งั้นดิฉันจะบอกให้ว่าถ้าเป็นขนมไทยๆน่ะพอทำได้ถ้าเป็นพวกเบเกอรี่หรือขนมที่มีกลวิธีที่ยุ่งยากนั้นดิฉันทำไม่เป็นเลยทีเดียว ยกตัวอย่างแค่ขนมพายเค้กที่ง่ายสำหรับหลายๆคนดิฉันยังทำกินเองไม่เป็นเลยง่าทั้งๆที่มันเป็นขนมที่ฉันชอบกินมากๆแท้ๆน่าเศร้าที่ไม่มีความสามารถด้านการทำขนมเล้ยทั้งๆที่พ่อของตัวเองนั้นเคยเป็นช่างทำขนมเค้กมาก่อนแท้ๆ ไม่ยุติธรรมเลยเนอะชิชิ(แอบงอลอะไรไม่รู้ 555+) เอาล่ะยังไงก็ขอฝากหนังสือดีๆอย่างนี้ไว้ให้ทุกคนพิจารณากันด้วยนะคะ..

ขนมนานาชาติ เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความหอมหวานของขนมชนิดต่างๆเรียกได้ว่าผ่านไปแถวไหนถ้าเจอขนมที่ชอบเป็นต้องอดใจไม่ไหวต้องเสียเงินกับขนมนั้นๆทุกที แล้วสำหรับเนื้อหาสาระในหนังสือเล่มนี้ก็จะเป็นการพาคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคน(แอบคิดว่าตัวเองน่ารัก)ได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างแดนและไปทำความรู้จักกับขนมขึ้นชื่อของประเทศหรือเมืองนั้นๆกันเลยทีเดียว เล่นเอาซะกลืนน้ำลายไปกับรูปร่างหน้าตาที่ชวนให้เข้าไปลิ้มลองเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าขนมแต่ละชนิดที่นำมาให้ได้รู้จักกันนั้น ถ้าสมมุติว่าคุณว่าได้เดินทางไปยังบ้านเมืองหรือประเทศเหล่านั้นแล้วไม่ได้ไปลองลิ้มชิมรสชาติของขนมพวกนี้นั้นถือว่าคุณยังเดินทางมาไม่สถานที่แห่งนั้นกันเลยทีเดียว เนื่องจากดิฉันก็เป็นบุคคลนึงที่ชอบเอ๊ะต้องเรียกว่าหลงรักเลยในการกินขนมนานาชนิดก็ว่าได้เลยอยากที่จะรู้เรื่องราวของที่มาและประวัติของเจ้าขนมที่ขึ้นชื่อเล่านั้นว่ามีที่มาที่ไปยังไงและเพื่อในเล่มเค้าอาจจะมีสูตรลับในการทำขนมมาให้เราลองทำกินเองบ้างก็ได้อิอิ แต่สำหรับดิฉันเองชอบนะสำหรับหนังสือที่นำพาให้เราไปรู้จักกับขนมชนิดต่างเพราะเวลาที่ได้นั้นมันเหมือนว่าเราได้เดินทางไป ณ ที่แห่งนั้นจริงๆจึงรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่นำเราไปรู้จักแค่ขนมต่างๆแต่ยังบอกให้เราได้ล่วงรู้ถึงวัฒนธรรมของบ้านเมืองต่างๆที่เป็นต้นกำเนิดของเจ้าขนมแสนอร่อยพวกนั้นอีกด้วย ดีมากเลยใช่มั้ยล้าใครจะคิดว่าการที่เรานั้นดูหรืออ่านหนังสือเพียงเล่มเดียวจะทำให้เราได้รู้อะไรที่นอกเหนือจากสิ่งที่เราอยากจะรู้ เนี้ยแหละมันจึงเป็นเสน่ห์ของการที่เราได้เลือกหนังสือดีๆมาอ่านยอมเสียเวลากันมันแต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่คุณได้รับตอบแทนไปนั้นมันคุมค่ามากกว่าเวลาที่คุณเสียไปซะอีกนะ ร่ายมาซะยาวเพื่อนๆคงอยากจะรู้ว่าดิฉันนั้นมีความสามารถด้านการทำขนมบ้างหรือเปล่าใช่ไหมล่ะ งั้นดิฉันจะบอกให้ว่าถ้าเป็นขนมไทยๆน่ะพอทำได้ถ้าเป็นพวกเบเกอรี่หรือขนมที่มีกลวิธีที่ยุ่งยากนั้นดิฉันทำไม่เป็นเลยทีเดียว ยกตัวอย่างแค่ขนมพายเค้กที่ง่ายสำหรับหลายๆคนดิฉันยังทำกินเองไม่เป็นเลยง่าทั้งๆที่มันเป็นขนมที่ฉันชอบกินมากๆแท้ๆน่าเศร้าที่ไม่มีความสามารถด้านการทำขนมเล้ยทั้งๆที่พ่อของตัวเองนั้นเคยเป็นช่างทำขนมเค้กมาก่อนแท้ๆ ไม่ยุติธรรมเลยเนอะชิชิ(แอบงอลอะไรไม่รู้ 555+) เอาล่ะยังไงก็ขอฝากหนังสือดีๆอย่างนี้ไว้ให้ทุกคนพิจารณากันด้วยนะคะ..

กล้วยทำอะไรก็อร่อย...หนังสือที่จะทำให้คุณรู้จักประโยชน์ของผลไม้ชนิดนี้ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยทำให้คุณผิดหวังเลยสักครั้งแถมคุณประโยชน์ของมันยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งของคาวของหวานกันเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยจริงๆว่าหนังสือเล่มนี้สามารถทำให้ดิฉันสามารถครีเอทเมนูที่ทำมาจากผลกล้วยได้มากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ง่ายๆเลยรอให้มันสุกแล้วค่อยเอากิน 555 +แต่เมื่อที่บ้านได้ปลูกต้นกล้วยไว้เยอะมากจึงทำให้มีกล้วยกินอยู่ตลอดและก็ไม่ได้มีแค่ชนิดเดียวอีกด้วยงานนี้พากันมาหลากหลายชนิดมากๆเพราะที่บ้านมีทั้งกล้วยน้ำหว้า กล้วยหอม กล้วยหักมุก กล้วยไข่เป็นต้น เรียกได้ว่าออกเครือมาทีกินกันไม่ทันดังนั้นที่บ้านจึงต้องหาวิธีประยุกต์ที่จะแปรเปลี่ยนเจ้ากล้วยพวกนี้ให้สามารถนำไปทำอาหารชนิดอื่นได้อีก ดังนั้นก็ไม่รอช้าอีกเช่นเคยเพราะขีเกี้ยจไปหาถามสูตรจากคนอื่นเลยต้องพึ่งพาหนังสือนี่ล่ะ และหนังสือเล่มนี้ก็ช่วยดิฉันได้มากจริงๆด้วยเพราะในเล่มเค้ามีวิธีการทำและสูตรของอาหารทั้งคาวหวานที่ได้มาจากกล้วยแทบจะทั้งนั้นอย่างเยอะแยะมากมาย งานนี้จึงเป็นหน้าที่ของแม่ครัวจำเป็นอีกครั้งที่จะเป็นคนที่พิสูจน์ว่าเจ้ากล้วยสามารถนำไปทำอาหารได้เยอะแค่ไหน ดิฉันจึงเริ่มจากอะไรที่ง่ายๆก่อนเลยนั้นก็คือกล้วยบวชชี วิธีทำก็แสนจะง่ายมากๆ เมื่อได้ละอย่าง
ที่หนึ่งอย่างที่สอง สาม สี่ ห้า ก็ตามมา ไม่ว่าจะเป็น กล้วยเชื่อม กล้วยแขก กล้วยตาก ซึ่งต้องใช้เวลานานหน่อยและยังเป็นวิธีการถนอมอาหารที่เก็บไว้รับประทานได้นานที่สุดอีกด้วย ต่อมาก็เป็น กล้วยทอดที่ไว้กินกับข้าวเม่า เบเกอรี่ก็มาจร้า เค้กกล้วยหอม ของหวานมากันไปเยอะและนำมาทำเป็นของคาวบ้างดีกว่าว่าดิฉันไม่รอช้ารีบศึกษาวิธีในหนังสือจึงได้ค้นพบประโยชน์ของต้นกล้วยที่แทบจะใช้ได้ทั้งต้นเลยทีเดียวและจึงได้ไปเจอเมนูนึงที่ใช้หัวปลีหรือดอกของต้นกล้วยในการประกอบอาหารนั้นก็คือ ต้มข่าไก่ นั้นเองซึ่งมันมีรสชาติอร่อยใช่ได้เลยทีเดียว เป็นไงกันบ้างค่ะสำหรับเมนูอาหารที่มาจากกล้วย แล้วทีนี้คุณรู้แล้วหรือยังว่ากล้วยนั้นทำอะไรก็อร่อยจริงๆหรือป่าวแต่ไม่ใช่ว่าฝีมือคุณไม่ดีแล้วไปโทษว่ากล้วยนั้นไม่อร่อยไม่ได้นะคะ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะลงมือทำอะไรเราต้องศึกษาก่อนให้ถี่ถ้วนแล้วรับรองว่าความสำเร็จจะรอคุณอยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน ดังนั้นดิฉันขอฝากหนังสือเล่มนี้ไว้ให้ทุกคนได้นำมาใช้ให้ก่อประโยชน์กันด้วยนะคะ...

กล้วยทำอะไรก็อร่อย...หนังสือที่จะทำให้คุณรู้จักประโยชน์ของผลไม้ชนิดนี้ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยทำให้คุณผิดหวังเลยสักครั้งแถมคุณประโยชน์ของมันยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งของคาวของหวานกันเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยจริงๆว่าหนังสือเล่มนี้สามารถทำให้ดิฉันสามารถครีเอทเมนูที่ทำมาจากผลกล้วยได้มากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ง่ายๆเลยรอให้มันสุกแล้วค่อยเอากิน 555 +แต่เมื่อที่บ้านได้ปลูกต้นกล้วยไว้เยอะมากจึงทำให้มีกล้วยกินอยู่ตลอดและก็ไม่ได้มีแค่ชนิดเดียวอีกด้วยงานนี้พากันมาหลากหลายชนิดมากๆเพราะที่บ้านมีทั้งกล้วยน้ำหว้า กล้วยหอม กล้วยหักมุก กล้วยไข่เป็นต้น เรียกได้ว่าออกเครือมาทีกินกันไม่ทันดังนั้นที่บ้านจึงต้องหาวิธีประยุกต์ที่จะแปรเปลี่ยนเจ้ากล้วยพวกนี้ให้สามารถนำไปทำอาหารชนิดอื่นได้อีก ดังนั้นก็ไม่รอช้าอีกเช่นเคยเพราะขีเกี้ยจไปหาถามสูตรจากคนอื่นเลยต้องพึ่งพาหนังสือนี่ล่ะ และหนังสือเล่มนี้ก็ช่วยดิฉันได้มากจริงๆด้วยเพราะในเล่มเค้ามีวิธีการทำและสูตรของอาหารทั้งคาวหวานที่ได้มาจากกล้วยแทบจะทั้งนั้นอย่างเยอะแยะมากมาย งานนี้จึงเป็นหน้าที่ของแม่ครัวจำเป็นอีกครั้งที่จะเป็นคนที่พิสูจน์ว่าเจ้ากล้วยสามารถนำไปทำอาหารได้เยอะแค่ไหน ดิฉันจึงเริ่มจากอะไรที่ง่ายๆก่อนเลยนั้นก็คือกล้วยบวชชี วิธีทำก็แสนจะง่ายมากๆ เมื่อได้ละอย่าง
ที่หนึ่งอย่างที่สอง สาม สี่ ห้า ก็ตามมา ไม่ว่าจะเป็น กล้วยเชื่อม กล้วยแขก กล้วยตาก ซึ่งต้องใช้เวลานานหน่อยและยังเป็นวิธีการถนอมอาหารที่เก็บไว้รับประทานได้นานที่สุดอีกด้วย ต่อมาก็เป็น กล้วยทอดที่ไว้กินกับข้าวเม่า เบเกอรี่ก็มาจร้า เค้กกล้วยหอม ของหวานมากันไปเยอะและนำมาทำเป็นของคาวบ้างดีกว่าว่าดิฉันไม่รอช้ารีบศึกษาวิธีในหนังสือจึงได้ค้นพบประโยชน์ของต้นกล้วยที่แทบจะใช้ได้ทั้งต้นเลยทีเดียวและจึงได้ไปเจอเมนูนึงที่ใช้หัวปลีหรือดอกของต้นกล้วยในการประกอบอาหารนั้นก็คือ ต้มข่าไก่ นั้นเองซึ่งมันมีรสชาติอร่อยใช่ได้เลยทีเดียว เป็นไงกันบ้างค่ะสำหรับเมนูอาหารที่มาจากกล้วย แล้วทีนี้คุณรู้แล้วหรือยังว่ากล้วยนั้นทำอะไรก็อร่อยจริงๆหรือป่าวแต่ไม่ใช่ว่าฝีมือคุณไม่ดีแล้วไปโทษว่ากล้วยนั้นไม่อร่อยไม่ได้นะคะ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะลงมือทำอะไรเราต้องศึกษาก่อนให้ถี่ถ้วนแล้วรับรองว่าความสำเร็จจะรอคุณอยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน ดังนั้นดิฉันขอฝากหนังสือเล่มนี้ไว้ให้ทุกคนได้นำมาใช้ให้ก่อประโยชน์กันด้วยนะคะ...

Pasta หนังสือที่จะสอนให้คุณได้รู้จักสูตรการทำอาหารอิตาเลี่ยนที่ไม่ยากอย่างที่คิด คนไทยส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยชอบอาหารที่มีรสชาติมันเลี่ยน แต่กลับชอบอาหารที่มีรสจัดจ้านแทนซึ่งผิดกับชาวต่างชาติที่มันจะทานอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตและไขมันที่สูงเนื่องจากว่าบ้านเมืองของเค้านั้นมีอากาศที่หนาวมาก เค้าจึงต้องทำให้ร่างกายมีความรู้สึกว่าอบอุ่นเสมอ จึงมักจะนิยมที่จะรับประทานอาหารที่ให้ไขมันเยอะแทน ถ้ากลับกันให้ชาวต่างชาติมาทานอาหารไทยเค้าก็จะรู้สึกว่ารสชาติมันจัดแถมยังทำให้ร่างกายร้อนไหนจะอากาศที่ออกจะร้อนมากอยู่แล้วทำไมยังเลือกที่จะกินอะไรที่มันร้อนเข้าไปอีก ต่างคนก็ต่างความคิดเนอะคนเรามักมีความชอบที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าทำไมดิฉันจึงเลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านเป็นคนไทยทำไมไม่เลือกที่จะทำอาหารไทยล่ะ ดิฉันต้องบอกเลยว่าเรื่องของการทำอาหารนั้นไม่ค่อยถนัดเลย ทำพอได้บ้างแต่ไม่ถึงกับว่าเข้าครัวไม่เป็นเลยเพราะเป็นผู้หญิงยังไงก็ต้องเป็นไว้บ้างเรื่องของการทำอาหาร แต่ก็ยังไม่เก่งสักทีผิดกับแม่ของดิฉันมากที่ทำกับข้าวอร่อยทุกอย่างไงดิฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายไม่ทำดีกว่ากลัวทำแล้วเค้ากินกันไม่ได้ 555 ดังนั้นเมื่ออาหารไทยไม่ใช่ทางเราจึงต้องมาหาว่าเราจะทำอะไรได้อีก วันนึงบังเอิญได้ไปทานพิซซ่ากับเพื่อนแล้วสั่งสปาเกตตี้มากินเลยเกิดไอเดียที่อยากจะลองทำกินดูจึงไปหาหนังสือที่จะสอนเราทำได้ง่ายเพราะอุปกรณ์เราไม่พร้อมและอยากจะรู้ว่าอาหารประเภทนี้มันมีกี่อย่างกี่ชนิดจนได้ไปเจอกับหนังสือ พาสต้าเล่มนี้ ที่สนใจเพราะว่าเค้ารวบรวมสูตรที่หลากหลายของการทำพาสต้ามาไว้ในเล่ม แถมยังมีเส้นรูปร่างแปลกอีกเลยสนใจเข้าไปใหญ่ เมื่อศึกษาแล้วก็ต้องลงมือทำ จำได้ว่ามื้อแรกที่ทำคือสปาเกตตี้ราดซอสมะเขือเทศ ต้องบอกเลยว่าเมื่อเจอเส้นทางของตัวเองเพราะทำครั้งแรกก็ออกมาน่ารับประทานและอร่อยมาก(หรือว่ามันเป็นอาหารที่ใครทำก็อร่อยหรือป่าวไม่รู้555+) ดิฉันจึงค้นพบว่าตัวเองมีความสามรถด้านการทำอาหารอิตาเลี่ยนขึ้นมา แต่ก็ยังคงอ่านและศึกษาสูตรของเค้านะเพราะอยากจะดัดแปลงให้มันถูกปากคนไทยให้มากที่สุดและก็ได้ผลเพราะจากนั้นเราก็ลองทำสูตรอื่นๆดูบ้างที่มันยากขึ้นและก็ถูกปากของคนอื่นที่ได้ชิมอีกด้วย ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะขอบคุณหนังสือเล่มแรกที่ช่วยให้ดิฉันค้นพบความสามารถด้านการทำพาสต้า แต่กับอาหารไทยเริ่มเข้าขั้นติดลบไปล่ะสงสัยว่าคงต้องกลับไปฝึกอย่างจริงจังแล้วจร้า...

Pasta หนังสือที่จะสอนให้คุณได้รู้จักสูตรการทำอาหารอิตาเลี่ยนที่ไม่ยากอย่างที่คิด คนไทยส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยชอบอาหารที่มีรสชาติมันเลี่ยน แต่กลับชอบอาหารที่มีรสจัดจ้านแทนซึ่งผิดกับชาวต่างชาติที่มันจะทานอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตและไขมันที่สูงเนื่องจากว่าบ้านเมืองของเค้านั้นมีอากาศที่หนาวมาก เค้าจึงต้องทำให้ร่างกายมีความรู้สึกว่าอบอุ่นเสมอ จึงมักจะนิยมที่จะรับประทานอาหารที่ให้ไขมันเยอะแทน ถ้ากลับกันให้ชาวต่างชาติมาทานอาหารไทยเค้าก็จะรู้สึกว่ารสชาติมันจัดแถมยังทำให้ร่างกายร้อนไหนจะอากาศที่ออกจะร้อนมากอยู่แล้วทำไมยังเลือกที่จะกินอะไรที่มันร้อนเข้าไปอีก ต่างคนก็ต่างความคิดเนอะคนเรามักมีความชอบที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าทำไมดิฉันจึงเลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านเป็นคนไทยทำไมไม่เลือกที่จะทำอาหารไทยล่ะ ดิฉันต้องบอกเลยว่าเรื่องของการทำอาหารนั้นไม่ค่อยถนัดเลย ทำพอได้บ้างแต่ไม่ถึงกับว่าเข้าครัวไม่เป็นเลยเพราะเป็นผู้หญิงยังไงก็ต้องเป็นไว้บ้างเรื่องของการทำอาหาร แต่ก็ยังไม่เก่งสักทีผิดกับแม่ของดิฉันมากที่ทำกับข้าวอร่อยทุกอย่างไงดิฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายไม่ทำดีกว่ากลัวทำแล้วเค้ากินกันไม่ได้ 555 ดังนั้นเมื่ออาหารไทยไม่ใช่ทางเราจึงต้องมาหาว่าเราจะทำอะไรได้อีก วันนึงบังเอิญได้ไปทานพิซซ่ากับเพื่อนแล้วสั่งสปาเกตตี้มากินเลยเกิดไอเดียที่อยากจะลองทำกินดูจึงไปหาหนังสือที่จะสอนเราทำได้ง่ายเพราะอุปกรณ์เราไม่พร้อมและอยากจะรู้ว่าอาหารประเภทนี้มันมีกี่อย่างกี่ชนิดจนได้ไปเจอกับหนังสือ พาสต้าเล่มนี้ ที่สนใจเพราะว่าเค้ารวบรวมสูตรที่หลากหลายของการทำพาสต้ามาไว้ในเล่ม แถมยังมีเส้นรูปร่างแปลกอีกเลยสนใจเข้าไปใหญ่ เมื่อศึกษาแล้วก็ต้องลงมือทำ จำได้ว่ามื้อแรกที่ทำคือสปาเกตตี้ราดซอสมะเขือเทศ ต้องบอกเลยว่าเมื่อเจอเส้นทางของตัวเองเพราะทำครั้งแรกก็ออกมาน่ารับประทานและอร่อยมาก(หรือว่ามันเป็นอาหารที่ใครทำก็อร่อยหรือป่าวไม่รู้555+) ดิฉันจึงค้นพบว่าตัวเองมีความสามรถด้านการทำอาหารอิตาเลี่ยนขึ้นมา แต่ก็ยังคงอ่านและศึกษาสูตรของเค้านะเพราะอยากจะดัดแปลงให้มันถูกปากคนไทยให้มากที่สุดและก็ได้ผลเพราะจากนั้นเราก็ลองทำสูตรอื่นๆดูบ้างที่มันยากขึ้นและก็ถูกปากของคนอื่นที่ได้ชิมอีกด้วย ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะขอบคุณหนังสือเล่มแรกที่ช่วยให้ดิฉันค้นพบความสามารถด้านการทำพาสต้า แต่กับอาหารไทยเริ่มเข้าขั้นติดลบไปล่ะสงสัยว่าคงต้องกลับไปฝึกอย่างจริงจังแล้วจร้า...

FRAPPE น้ำผลไม้ปั่น ชุดเมนูเครื่องดื่มสุขภาพ อีกหนึ่งในหนังสือที่จะช่วยให้ทุกคนได้รู้จักวิธีการดูแลสุขภาพของตัวเองได้ง่ายและรวมไปถึงการได้ดูแลเอาใจใส่คนที่เรารักที่อยู่รอบข้างเราอีกด้วย เพราะสมัยนี้นั้นถ้าจะให้ไปหาซื้อวิตามินหรือยาบำรุงร่างกายมาทานบ่อยๆนั้นก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีการดูแลสุขภาพที่เราทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆอย่างวิธีการทำเครื่องดื่มที่มาจากผลไม้ที่เราสามารถหามาผสมกันได้ง่ายๆก็คงจะดี แต่ถ้าจะให้คั่นหรือบีบกินน้ำมันสดๆก็เห็นจะใช้ไม่ได้กับผลไม้ทุกชนิด ดังนั้นเมื่อคิดได้ดังนั้นดิฉันเลยได้ไปเสาะหาวิธีที่จำทำน้ำผลไม้จึงได้มาพบเจอกับหนังสือเล่นนี้ซึ่งเป็นหนังสือที่รวมวิธีและกระบวนการทำน้ำผลไม้ปั่นแถมยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอีกด้วยดิฉันจึงไม่รอช้ารีบเปิดดูเนื้อหาภายในเล่มก็รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจดี จึงตัดสินใจซื้อกลับมาบ้านด้วย และเมื่อมีเวลาว่างดิฉันจึงไม่รอช้าจึงได้หาเตรียมวัตถุดิบในการทำผลไม้ปั่นประจวบเหมาะวันนั้นมีอากาศร้อนมากจนเหมาะที่จะทำอะไรเย็นเพื่อสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกายแต่ดิฉันไม่ทำกินเองคนเดียวแน่นอนดิฉันทำเผื่อคนในครอบครัวด้วย เมื่อเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วดิฉันจึงตัดสินใจที่จะทำน้ำ แอปเปิ้ล กับสับปะรด เพราะว่าวันนั้นหาได้แค่นั้นอ่า แต่ถ้าทำนำแยกกันมันก็จะดูธรรมดาไปหน่อยดิฉันจึงได้จัดการเอาผลไม้ทั้งสองชนิดนี้มาผสมเข้าด้วยกัน และผสมกับน้ำเชื่อม เกลือ และใส่น้ำแข็งลงไปปั่นให้ละเอียด จากนั้นก็เทใส่แก้วพร้อมไปเสริฟให้กับทุกคนในครอบครัวเพื่อหวังจะให้เค้าคอมเม้นให้เพราะตัวเองไม่กล้ากิน แต่คิดว่าน่าจะกินได้เพราะว่าจากกลิ่นที่หอมชวนกินนั้นแถมสีสันก็ยังสวยน่ารับประทานเป็นที่สุด เมื่อทุกคนได้ชิมฝีมือการทำน้ำผลไม้ปั่นของดิฉันแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กินได้นะ อืมแล้วมันอร่อยไหมล่ะ 555+ สรุปคือดิฉันก็ลองกินบ้างปรากฏว่ามันอร่อยมากดิฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่เรานำผลไม้ที่ต่างชนิดกันมาผสมและปั่นเข้าด้วยกันมันจะทำให้มีรสชาติที่ดีได้ขนาดนั้นแถมยังช่วยให้ร่างกายสดชื่นเพราะผลไม้ทั้งสองนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพและยังทำให้ร่างกายนั้นขับถ่ายได้ดี เมือสูตรแรกสำเร็จไปดิฉันไม่รอช้ารีบอ่านสูตรและวิธีทำน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆต่อทันที โฮ๊ะๆ เริ่มรู้สึกสนุกแถมยังได้มีร่างกายที่แข็งแรงแถมมาด้วยอย่างนี้ใครจะไม่ชอบล่ะจริงไหมค่ะเพื่อนๆ

FRAPPE น้ำผลไม้ปั่น ชุดเมนูเครื่องดื่มสุขภาพ อีกหนึ่งในหนังสือที่จะช่วยให้ทุกคนได้รู้จักวิธีการดูแลสุขภาพของตัวเองได้ง่ายและรวมไปถึงการได้ดูแลเอาใจใส่คนที่เรารักที่อยู่รอบข้างเราอีกด้วย เพราะสมัยนี้นั้นถ้าจะให้ไปหาซื้อวิตามินหรือยาบำรุงร่างกายมาทานบ่อยๆนั้นก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีการดูแลสุขภาพที่เราทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆอย่างวิธีการทำเครื่องดื่มที่มาจากผลไม้ที่เราสามารถหามาผสมกันได้ง่ายๆก็คงจะดี แต่ถ้าจะให้คั่นหรือบีบกินน้ำมันสดๆก็เห็นจะใช้ไม่ได้กับผลไม้ทุกชนิด ดังนั้นเมื่อคิดได้ดังนั้นดิฉันเลยได้ไปเสาะหาวิธีที่จำทำน้ำผลไม้จึงได้มาพบเจอกับหนังสือเล่นนี้ซึ่งเป็นหนังสือที่รวมวิธีและกระบวนการทำน้ำผลไม้ปั่นแถมยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอีกด้วยดิฉันจึงไม่รอช้ารีบเปิดดูเนื้อหาภายในเล่มก็รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจดี จึงตัดสินใจซื้อกลับมาบ้านด้วย และเมื่อมีเวลาว่างดิฉันจึงไม่รอช้าจึงได้หาเตรียมวัตถุดิบในการทำผลไม้ปั่นประจวบเหมาะวันนั้นมีอากาศร้อนมากจนเหมาะที่จะทำอะไรเย็นเพื่อสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกายแต่ดิฉันไม่ทำกินเองคนเดียวแน่นอนดิฉันทำเผื่อคนในครอบครัวด้วย เมื่อเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วดิฉันจึงตัดสินใจที่จะทำน้ำ แอปเปิ้ล กับสับปะรด เพราะว่าวันนั้นหาได้แค่นั้นอ่า แต่ถ้าทำนำแยกกันมันก็จะดูธรรมดาไปหน่อยดิฉันจึงได้จัดการเอาผลไม้ทั้งสองชนิดนี้มาผสมเข้าด้วยกัน และผสมกับน้ำเชื่อม เกลือ และใส่น้ำแข็งลงไปปั่นให้ละเอียด จากนั้นก็เทใส่แก้วพร้อมไปเสริฟให้กับทุกคนในครอบครัวเพื่อหวังจะให้เค้าคอมเม้นให้เพราะตัวเองไม่กล้ากิน แต่คิดว่าน่าจะกินได้เพราะว่าจากกลิ่นที่หอมชวนกินนั้นแถมสีสันก็ยังสวยน่ารับประทานเป็นที่สุด เมื่อทุกคนได้ชิมฝีมือการทำน้ำผลไม้ปั่นของดิฉันแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กินได้นะ อืมแล้วมันอร่อยไหมล่ะ 555+ สรุปคือดิฉันก็ลองกินบ้างปรากฏว่ามันอร่อยมากดิฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่เรานำผลไม้ที่ต่างชนิดกันมาผสมและปั่นเข้าด้วยกันมันจะทำให้มีรสชาติที่ดีได้ขนาดนั้นแถมยังช่วยให้ร่างกายสดชื่นเพราะผลไม้ทั้งสองนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพและยังทำให้ร่างกายนั้นขับถ่ายได้ดี เมือสูตรแรกสำเร็จไปดิฉันไม่รอช้ารีบอ่านสูตรและวิธีทำน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆต่อทันที โฮ๊ะๆ เริ่มรู้สึกสนุกแถมยังได้มีร่างกายที่แข็งแรงแถมมาด้วยอย่างนี้ใครจะไม่ชอบล่ะจริงไหมค่ะเพื่อนๆ

พิศวาสรักลวง ผลงานของนักเขียนมากความสามรถอย่างนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า อิงอุษา และนิยายเรื่องนี้ก็ขนความสนุกมาเพียบไม่น้อยหน้านิยายเรื่องอื่นที่เคยผ่านมาของเธอเลยค่ะ แต่เรื่องนี้เห็นจะมีสีสันเป็นอย่างมากและยังมีครบทุกรสชาติเลยก็ว่าได้แหม่ของเค้าเด็ดจริงๆ สำหรับในนิยายเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงเรื่องราวความรักลุ้นๆวุ้นๆและแสนที่จะฮาในเวลาเดียวของนางเอกและพระเอกเนื่องจากใช้เวลาซุ้มดูใจเอ๊ะหรือวางแผนเพื่อที่จะเอาคืนกันแน่นะ แต่ที่แน่ๆพระเอกเค้าแค้นนางเอกน่าดูเลยล่ะค่ะเพราะว่าทั้งสองคนเค้าเคยเจอกันมาก่อนเมื่อสมันที่ทั้งคู่นั้นยังเรียนไม่จบและนางเอกก็ได้ปรามาสเค้าไว้ว่าเค้านั้นเป็นเกย์หน้าหล่อ ทำให้ชายหนุ่มนั้นจดจำหญิงสาวได้อย่างขึ้นใจและแอบกว้านซื้อหุ้นในบริษัทของพ่อเธอมาเพื่อที่จะได้มาอยู่ใกล้ชิดกับเธอคนนี้เพราะเค้าอยากจะสั่งสอนหญิงสาวว่าอย่ามาปากพล่อยเที่ยวว่าผู้ชายว่าเป็นเกย์งานนี้นางเอกเราก็ไม่น้อยหน้าเพราะถึงแม้ว่าต้องทำงานด้วยกันแล้วเธอก็ยังจะแกล้งชายหนุ่มเพื่อให้เค้ายอมสารภาพออกมาว่าเค้านั้นเป็นเกย์ให้ได้และแต่ละวิธีที่เธอนั้นทำนั้นเล่นเอาชายหนุ่มแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่เลยน่ะซิ...
~ อ๊ายๆๆๆเป็นยังไงกันบ้างสำหรับนิยายเรื่องใหม่ที่เจ่เจ้นั้นเลือกมาให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกันดูสนุกใช่มั้ยล่ะ เจ่เจ้ก็รู้สึกแบบนั้นเพราะนอกจากจะมีเนื้อหาที่สนุกแล้วการดำเนินเรื่องราวของคนเขียนก็ยังทำได้ดีนะรู้สึกว่าอ่านได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุดเลยและไหนจะยังบรรยายเรื่องราวให้มีครบทุกอารมณ์จริงๆเพราะว่าเจ่เจ้รู้สึกว่าไม่เบื่อเลยอ่านๆไปๆก็ยิ้มบ้าง เงียบบ้างเพราะลุ้น หัวเราะบ้างเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะแต่ฉากที่ชอบที่สุดคงเป็นแกที่นางเอกของเราจนมุมเพราะพระเอกของเรานั้นเค้าเอาจริงขี้นมา 555+ กรี๊ดสุดไปเลย ที่เล่ามาทั้งหมดไม่มีอะไรแค่อยากจะมาบอกเล่าให้เพื่อนได้ฟังและได้ลองหามาอ่านดู เจ่เจ้เชื่อนะว่าเพื่อนๆถ้าได้ลองอ่านแล้วจะต้องรู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้เหมือนกันที่เจ่เจ้เองนั้นก็รู้สึกอย่างนั้นแน่ๆเพราะฉะนั้นอย่ารอช้ารีบไปหานิยายเรื่องนี้มาอ่านกันเลยถ้าหาอ่านที่ร้านหนังสือทั่วไปไม่ได้เจ่เจ้แนะนำให้ซื้อหนังสือมือสองมาอ่านเพราะจะได้ในราคาที่ประหยัดกว่าแต่คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างไปจากของใหม่เท่าไหร่นัก เว็ปที่ขายนิยายดีๆอย่างเว็ปนี้เป็นต้นจร้าเพื่อนๆ(แอบช่วยโปรโมทร้านจร้าอิอิ)~

พิศวาสรักลวง ผลงานของนักเขียนมากความสามรถอย่างนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า อิงอุษา และนิยายเรื่องนี้ก็ขนความสนุกมาเพียบไม่น้อยหน้านิยายเรื่องอื่นที่เคยผ่านมาของเธอเลยค่ะ แต่เรื่องนี้เห็นจะมีสีสันเป็นอย่างมากและยังมีครบทุกรสชาติเลยก็ว่าได้แหม่ของเค้าเด็ดจริงๆ สำหรับในนิยายเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงเรื่องราวความรักลุ้นๆวุ้นๆและแสนที่จะฮาในเวลาเดียวของนางเอกและพระเอกเนื่องจากใช้เวลาซุ้มดูใจเอ๊ะหรือวางแผนเพื่อที่จะเอาคืนกันแน่นะ แต่ที่แน่ๆพระเอกเค้าแค้นนางเอกน่าดูเลยล่ะค่ะเพราะว่าทั้งสองคนเค้าเคยเจอกันมาก่อนเมื่อสมันที่ทั้งคู่นั้นยังเรียนไม่จบและนางเอกก็ได้ปรามาสเค้าไว้ว่าเค้านั้นเป็นเกย์หน้าหล่อ ทำให้ชายหนุ่มนั้นจดจำหญิงสาวได้อย่างขึ้นใจและแอบกว้านซื้อหุ้นในบริษัทของพ่อเธอมาเพื่อที่จะได้มาอยู่ใกล้ชิดกับเธอคนนี้เพราะเค้าอยากจะสั่งสอนหญิงสาวว่าอย่ามาปากพล่อยเที่ยวว่าผู้ชายว่าเป็นเกย์งานนี้นางเอกเราก็ไม่น้อยหน้าเพราะถึงแม้ว่าต้องทำงานด้วยกันแล้วเธอก็ยังจะแกล้งชายหนุ่มเพื่อให้เค้ายอมสารภาพออกมาว่าเค้านั้นเป็นเกย์ให้ได้และแต่ละวิธีที่เธอนั้นทำนั้นเล่นเอาชายหนุ่มแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่เลยน่ะซิ...
~ อ๊ายๆๆๆเป็นยังไงกันบ้างสำหรับนิยายเรื่องใหม่ที่เจ่เจ้นั้นเลือกมาให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกันดูสนุกใช่มั้ยล่ะ เจ่เจ้ก็รู้สึกแบบนั้นเพราะนอกจากจะมีเนื้อหาที่สนุกแล้วการดำเนินเรื่องราวของคนเขียนก็ยังทำได้ดีนะรู้สึกว่าอ่านได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุดเลยและไหนจะยังบรรยายเรื่องราวให้มีครบทุกอารมณ์จริงๆเพราะว่าเจ่เจ้รู้สึกว่าไม่เบื่อเลยอ่านๆไปๆก็ยิ้มบ้าง เงียบบ้างเพราะลุ้น หัวเราะบ้างเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะแต่ฉากที่ชอบที่สุดคงเป็นแกที่นางเอกของเราจนมุมเพราะพระเอกของเรานั้นเค้าเอาจริงขี้นมา 555+ กรี๊ดสุดไปเลย ที่เล่ามาทั้งหมดไม่มีอะไรแค่อยากจะมาบอกเล่าให้เพื่อนได้ฟังและได้ลองหามาอ่านดู เจ่เจ้เชื่อนะว่าเพื่อนๆถ้าได้ลองอ่านแล้วจะต้องรู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้เหมือนกันที่เจ่เจ้เองนั้นก็รู้สึกอย่างนั้นแน่ๆเพราะฉะนั้นอย่ารอช้ารีบไปหานิยายเรื่องนี้มาอ่านกันเลยถ้าหาอ่านที่ร้านหนังสือทั่วไปไม่ได้เจ่เจ้แนะนำให้ซื้อหนังสือมือสองมาอ่านเพราะจะได้ในราคาที่ประหยัดกว่าแต่คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างไปจากของใหม่เท่าไหร่นัก เว็ปที่ขายนิยายดีๆอย่างเว็ปนี้เป็นต้นจร้าเพื่อนๆ(แอบช่วยโปรโมทร้านจร้าอิอิ)~

บำเรอรักเจ้าชายอสูร ผลงานสุดร้อนแรงของนักเขียนอีกท่านที่เจ่เจ้เคยได้เคยนำนิยายของเค้ามาเขียนรีวิวกันเมื่อไม่นานนี้เองอย่างนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ศิริภักดิ์ และการกลับมาอีกครั้งของนิยายที่เจ่เจ้เลือกมานั้นมีความสนุกที่ครบรสอย่างแน่นอนและยังแฝงแง่คิดคติที่สอนเตือนใจให้กับสาวอยู่ภายในเรื่องอีกด้วยอันนี้แหละเจ่เจ้จึงเห็นว่าเป็นเรื่องราวดีๆที่อยากจะบอกต่อๆกันไป เพราะนิยายเรื่องนี้จะเล่าถึงเด็กผู้หญิงที่เรียบร้อยและเรียนเก่งจนได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศแต่แล้วคงเป็นเพราะความอ่อนต่อโลกของเธอจึงทำให้มีภูมิต้านทานผู้ชายน้อยเลยต้องกลายไปเป็นเหยื่อสาวให้กับเจ้าชายรัชทายาทแห่งประเทศที่เธอไปศึกษาต่อนั้นเพียงเพราะเค้านั้นเล่นเกมที่มีการท้าพนันกันว่าให้เจ้าชายไปหาผู้หญิงบริสุทธิ์แล้วเจาะไข่แดงเธอให้ได้งานนี้มีหรือที่คนอย่างเค้าจะยอมเสียหน้าเลยรับคำท้าเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานไม่ได้คิดอะไร คนที่น่าสงสารที่สุดคงหนีไม่พ้นสาวไทยอย่าง กัณฐิกาที่หลงคำหวานเลี่ยนและหลงในรูปร่างหน้าตาของเจ้าชายจนทำให้เธอนั้นยอมตกเป็นผู้หญิงของเค้างานนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริงว่าที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่เกมเท่านั้นเธอถึงกับช็อกและเกลียดเค้าไปเลย..
~ อ่านนิยายจบแล้วก็ทำให้เจ่เจ้ได้แง่คิดดีๆจากนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะนะไม่จะเป็นเรื่องของการเข้าสังคม การเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่คับขันนั้นก็สำคัญ ที่สาวๆควรจะต้องศึกษาและเรียนรู้ไว้บ้างในจะเรื่องของการไว้ใจคนอีก โดยเฉพาะมนุษย์ผู้ชายที่ชอบพูดจาหวานๆนี้ก็เชื่อไม่ได้เลยไม่เช่นนั้นสาวๆจะกลายเป็นเหยื่ออย่างนางเอกของเราก็เป็นได้ อุตส่าได้ทุนมาเรียนต่อแต่กลับต้องมาเสียตัวเพราะเชื่อในความหวานหยดย้อยของผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างสุดท้าย ตัวเองก็ยังท้องอีกงานนี้ทั้งเสียใจและเจ็บใจไปพร้อมๆกันเลย แต่ต้องนับถือในความเด็ดเดี่ยวของเธอเหมือนกันที่ยอมที่จะเก็บความลับเรื่องลูกไว้ แต่สุดท้ายเค้าก็รู้อยู่ดี อย่างน้อยๆเค้าก็ยังมีความเป็นพ่อคนอยู่ในตัวอยู่บ้าง เห้อยิ่งอ่านเจ่เจ้ยิ่งอินเพราะมันสามารถสะท้อนสังคมในสมัยนี้ได้ดีมากๆและอยากแนะนำให้ทุกๆคนได้ลองอ่านกันเพราะอาจจะทำให้ได้แง่คิดดีๆอย่างที่เจ่เจ้ได้ก็เป็นได้ค่ะ สรุปคือนิยายเรื่องนี้เจ่เจ้ขอให้ผ่านเลยเพราะสร้างพล็อตเรื่องมาได้อย่างกินใจเจ่เจ้และเข้าถึงเหตุการณ์ในสังคมได้ดีเพราะมันมีประโยชน์จริง เจ่เจ้คอนเฟิร์ม~

บำเรอรักเจ้าชายอสูร ผลงานสุดร้อนแรงของนักเขียนอีกท่านที่เจ่เจ้เคยได้เคยนำนิยายของเค้ามาเขียนรีวิวกันเมื่อไม่นานนี้เองอย่างนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ศิริภักดิ์ และการกลับมาอีกครั้งของนิยายที่เจ่เจ้เลือกมานั้นมีความสนุกที่ครบรสอย่างแน่นอนและยังแฝงแง่คิดคติที่สอนเตือนใจให้กับสาวอยู่ภายในเรื่องอีกด้วยอันนี้แหละเจ่เจ้จึงเห็นว่าเป็นเรื่องราวดีๆที่อยากจะบอกต่อๆกันไป เพราะนิยายเรื่องนี้จะเล่าถึงเด็กผู้หญิงที่เรียบร้อยและเรียนเก่งจนได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศแต่แล้วคงเป็นเพราะความอ่อนต่อโลกของเธอจึงทำให้มีภูมิต้านทานผู้ชายน้อยเลยต้องกลายไปเป็นเหยื่อสาวให้กับเจ้าชายรัชทายาทแห่งประเทศที่เธอไปศึกษาต่อนั้นเพียงเพราะเค้านั้นเล่นเกมที่มีการท้าพนันกันว่าให้เจ้าชายไปหาผู้หญิงบริสุทธิ์แล้วเจาะไข่แดงเธอให้ได้งานนี้มีหรือที่คนอย่างเค้าจะยอมเสียหน้าเลยรับคำท้าเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานไม่ได้คิดอะไร คนที่น่าสงสารที่สุดคงหนีไม่พ้นสาวไทยอย่าง กัณฐิกาที่หลงคำหวานเลี่ยนและหลงในรูปร่างหน้าตาของเจ้าชายจนทำให้เธอนั้นยอมตกเป็นผู้หญิงของเค้างานนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริงว่าที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่เกมเท่านั้นเธอถึงกับช็อกและเกลียดเค้าไปเลย..
~ อ่านนิยายจบแล้วก็ทำให้เจ่เจ้ได้แง่คิดดีๆจากนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะนะไม่จะเป็นเรื่องของการเข้าสังคม การเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่คับขันนั้นก็สำคัญ ที่สาวๆควรจะต้องศึกษาและเรียนรู้ไว้บ้างในจะเรื่องของการไว้ใจคนอีก โดยเฉพาะมนุษย์ผู้ชายที่ชอบพูดจาหวานๆนี้ก็เชื่อไม่ได้เลยไม่เช่นนั้นสาวๆจะกลายเป็นเหยื่ออย่างนางเอกของเราก็เป็นได้ อุตส่าได้ทุนมาเรียนต่อแต่กลับต้องมาเสียตัวเพราะเชื่อในความหวานหยดย้อยของผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างสุดท้าย ตัวเองก็ยังท้องอีกงานนี้ทั้งเสียใจและเจ็บใจไปพร้อมๆกันเลย แต่ต้องนับถือในความเด็ดเดี่ยวของเธอเหมือนกันที่ยอมที่จะเก็บความลับเรื่องลูกไว้ แต่สุดท้ายเค้าก็รู้อยู่ดี อย่างน้อยๆเค้าก็ยังมีความเป็นพ่อคนอยู่ในตัวอยู่บ้าง เห้อยิ่งอ่านเจ่เจ้ยิ่งอินเพราะมันสามารถสะท้อนสังคมในสมัยนี้ได้ดีมากๆและอยากแนะนำให้ทุกๆคนได้ลองอ่านกันเพราะอาจจะทำให้ได้แง่คิดดีๆอย่างที่เจ่เจ้ได้ก็เป็นได้ค่ะ สรุปคือนิยายเรื่องนี้เจ่เจ้ขอให้ผ่านเลยเพราะสร้างพล็อตเรื่องมาได้อย่างกินใจเจ่เจ้และเข้าถึงเหตุการณ์ในสังคมได้ดีเพราะมันมีประโยชน์จริง เจ่เจ้คอนเฟิร์ม~

Secret Leader สาวเท้าไฟทลายกำแพงใจราชามาดนิ่ง อีกหนึ่งผลงานสุดร้อนร้ายของนักเขียนมากฝีมืออย่างสาวน้อยที่ใช้นามปากกาว่า เจ้าหญิงผู้เลอโฉม แล้วสำหรับนิยายเล่มนี้ก็เป็นหนึ่งในโปรเจ็ทของนิยายซี่รี่ย์ที่มีเรื่องราวของนักของ สองวงด้วยกันจนมาถึงในเล่มนี้ก็จะเป็นเรื่องราวความรักของลีดเดอร์หนุ่มมาดนิ่งแห่งวง ซีเครส เอน ที่เคยไปโผล่เป็นพระรองและผิดหวังมาแล้วกลับมาคราวนี้เค้าก็ขอเป็นตัวเอกบ้างและนางเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยแต่กลับเป็นน้องสาวแท้ๆของอดีตผู้หญิงที่เคยรักมาก (และตอนนี้ก็ยังรักและลืมไม่ได้เลย) ด้วยเหตุจำเป็นที่ทำให้นางเอกในเรื่องต้องมาพัวพัวกับกลุ่มนักร้องบอยแบนด์ที่ฮอตที่สุดในเวลานั้นเพราะเธอนั้นเป็นครูสอนเต้น และมีอาชีพเสริมคือเปิดแผ่นในผับหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นดีเจนั้นเอง แต่เพื่อนของเธอที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับวงนักร้องบอยแบนด์ซีเครส เอน นั้นได้ขอร้องให้เธอได้มาช่วยเต้นคู่กับหัวหน้าวงนี้ให้หน่อยเพราะว่าจะมีการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ในอีกไม่นานนี้เรื่องราวก็จะเป็นประมาณว่าจริงๆแล้วนางเอกแอบรักแฟนพี่สาวมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอพี่สาวเลิกกับเค้าจริงๆกับรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุและทั้งสองก็ได้มาใกล้ชิดกันอีกครั้งจนทั้งสองเปิดใจที่จะคบกันแต่ก็มีเรื่องงอลๆเพราะนางเอกคิดว่าพระเอกยังลืมพี่สาวตัวเองไม่ได้ก็ตามสเต็ปเลยพระเอกก็ต้องหาวิธีง้อสุดท้ายก็จบลงด้วยดี อ่าแต่จากที่อ่านเรื่องราวของเหล่าสมาชิกทั้งสองวงมาแล้วนั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสนุกและมีเนื้อที่ชวนให้อ่านมากที่สุดเท่าที่เจ่เจ้รู้สุดนะอาจจะด้วยตัวบทภายในเรื่องของพระเอกที่จะเป็นคนนิ่งๆเพราะมีอดีตฝั่งใจและกับตัวนางเอกเองก็ตามเจ่เจ้ก็รู้สึกว่าเค้ามีเสน่ห์มากนะและเนื้อเรื่องก็จะเป็นแนวๆซีรี่ย์ที่เรื่องราวของคนอื่นแทรกๆอยู่ด้วยซึ่งก็รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการนิยายรักวัยรุ่นที่พลาดไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียวเลย งานรีวิวก็มาแล้ว งานแนะนำผ่านไปอีก สุดท้าแต่ไม่ท้ายสุดก็ต้องเป็นงานนี้เลยงานขายจริงๆแล้วเจ่เจ้ก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้าของเรื่องหรืออะไรหรอกนะแต่นิยายเค้าสนุกจริงๆเราก็ติดตามเป็นแฟนคลับอยู่ก็เลยอยากที่จะสนับสนุนให้เค้าได้มีกำลังใจในการที่จะแต่งนิยายดีๆอย่างนี้ออกมาให้เราได้ติดตามอยู่เสมอยังไงล่ะค่ะ เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็สามารถเข้าใจและช่วยเหลือกันได้ค่ะ...

Secret Leader สาวเท้าไฟทลายกำแพงใจราชามาดนิ่ง อีกหนึ่งผลงานสุดร้อนร้ายของนักเขียนมากฝีมืออย่างสาวน้อยที่ใช้นามปากกาว่า เจ้าหญิงผู้เลอโฉม แล้วสำหรับนิยายเล่มนี้ก็เป็นหนึ่งในโปรเจ็ทของนิยายซี่รี่ย์ที่มีเรื่องราวของนักของ สองวงด้วยกันจนมาถึงในเล่มนี้ก็จะเป็นเรื่องราวความรักของลีดเดอร์หนุ่มมาดนิ่งแห่งวง ซีเครส เอน ที่เคยไปโผล่เป็นพระรองและผิดหวังมาแล้วกลับมาคราวนี้เค้าก็ขอเป็นตัวเอกบ้างและนางเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยแต่กลับเป็นน้องสาวแท้ๆของอดีตผู้หญิงที่เคยรักมาก (และตอนนี้ก็ยังรักและลืมไม่ได้เลย) ด้วยเหตุจำเป็นที่ทำให้นางเอกในเรื่องต้องมาพัวพัวกับกลุ่มนักร้องบอยแบนด์ที่ฮอตที่สุดในเวลานั้นเพราะเธอนั้นเป็นครูสอนเต้น และมีอาชีพเสริมคือเปิดแผ่นในผับหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นดีเจนั้นเอง แต่เพื่อนของเธอที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกับวงนักร้องบอยแบนด์ซีเครส เอน นั้นได้ขอร้องให้เธอได้มาช่วยเต้นคู่กับหัวหน้าวงนี้ให้หน่อยเพราะว่าจะมีการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ในอีกไม่นานนี้เรื่องราวก็จะเป็นประมาณว่าจริงๆแล้วนางเอกแอบรักแฟนพี่สาวมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอพี่สาวเลิกกับเค้าจริงๆกับรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุและทั้งสองก็ได้มาใกล้ชิดกันอีกครั้งจนทั้งสองเปิดใจที่จะคบกันแต่ก็มีเรื่องงอลๆเพราะนางเอกคิดว่าพระเอกยังลืมพี่สาวตัวเองไม่ได้ก็ตามสเต็ปเลยพระเอกก็ต้องหาวิธีง้อสุดท้ายก็จบลงด้วยดี อ่าแต่จากที่อ่านเรื่องราวของเหล่าสมาชิกทั้งสองวงมาแล้วนั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสนุกและมีเนื้อที่ชวนให้อ่านมากที่สุดเท่าที่เจ่เจ้รู้สุดนะอาจจะด้วยตัวบทภายในเรื่องของพระเอกที่จะเป็นคนนิ่งๆเพราะมีอดีตฝั่งใจและกับตัวนางเอกเองก็ตามเจ่เจ้ก็รู้สึกว่าเค้ามีเสน่ห์มากนะและเนื้อเรื่องก็จะเป็นแนวๆซีรี่ย์ที่เรื่องราวของคนอื่นแทรกๆอยู่ด้วยซึ่งก็รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการนิยายรักวัยรุ่นที่พลาดไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียวเลย งานรีวิวก็มาแล้ว งานแนะนำผ่านไปอีก สุดท้าแต่ไม่ท้ายสุดก็ต้องเป็นงานนี้เลยงานขายจริงๆแล้วเจ่เจ้ก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้าของเรื่องหรืออะไรหรอกนะแต่นิยายเค้าสนุกจริงๆเราก็ติดตามเป็นแฟนคลับอยู่ก็เลยอยากที่จะสนับสนุนให้เค้าได้มีกำลังใจในการที่จะแต่งนิยายดีๆอย่างนี้ออกมาให้เราได้ติดตามอยู่เสมอยังไงล่ะค่ะ เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็สามารถเข้าใจและช่วยเหลือกันได้ค่ะ...

คู่มือพ่อแม่มือใหม่เลี้ยงลูกวัยอนุบาล หนังสือดีๆที่อยากให้ทุกคนที่กำลังจะเป็นหรือตอนนี้กำลังเป็นคุณพ่อและคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงอายุที่สามารถเข้าสู่โรงเรียนได้แล้ว และรวมไปถึงพ่อแม่ที่ลูกยังเล็กๆอยู่ด้วยก็ตามเพราะในหนังสือเล่มนี้นั้นจะบอกถึงวิธีการดูแลและเอาใจใส่ลูกน้อยของคุณให้มีพัฒนาการที่ทุกด้านโดยในหนังสือเล่มนี้เค้าจะเน้นเป็นการพัฒนาแบบองค์รวมนั้นก็หมายความโดยเข้าใจง่ายๆว่าการพัฒนาศักยภาพในทุกๆด้านนั้นเอง ด้วยความที่ดิฉันมีอาชีพเป็นครูที่ต้องสอนและดูแลเด็กในช่วงอนุบาลนี้แล้วด้วยจึงทำให้ต้องคลุกคลีและเลี้ยงรู้สิ่งๆกับเด็กๆอยู่ตลอดรวมไปถึงการต้องรับมือกับพ่อและแม่เจ้าปัญหาที่คิดว่าตัวเองดูแลลูกได้ดีกว่าใครๆดังนั้นจึงไม่แปลดเลยถ้าดิฉันจะสนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆพวกนี้เพราะมันทำให้ตัวฉันเองได้รับรู้ว่าเด็กในช่วงวัยนี้เค้าต้องการอะไรและมีวิธีการอย่างไรที่จะดูแลและพัฒนาเค้าไปพร้อมๆกันด้วย เพราะสำหรับตัวดิฉันเองในฐานะที่เรียนมาด้านนี้และทำงานตรงนี้มาจึงซึมซับเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของเด็กได้เป็นอย่างดีแต่อย่างว่าการเรียนรู้มีไม่จำกัดดิฉันจึงอยากที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้กับตัวเองรวมไปถึงดิฉันสามารถนำเรื่องราวที่ดิฉันนั้นมีความรู้ไปถ่ายทอดให้กับครอบครัวที่เค้ากำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องลูกได้อีกด้วย ภายในหนังสือเค้าจะบอกตั้งแต่เรื่องราวที่เป็นพื้นฐานเลยเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกและไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย รวมไปถึงการส่งเสริมให้เด็กๆมีพัฒนาการทางด้านต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่างกาย ที่ต้องมีการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ให้เหมาะสมตามวัย พัฒนาการทางด้านสังคมการที่พ่อแม่และลูกนั้นมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การพัฒนาทางด้านภาษาซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆสำหรับตัวเด็กและคนเป็นพ่อเป็นแม่เลย เพราะเด็กในช่วงวัยนี้กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้ดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการเรียนรู้เรื่องของภาษาเป็นอย่างมากเพราะถ้าพ่อแม่หรือคนที่ดูแลเด็กเองนั้นพูดไม่ชัดตัวเด็กเองก็จะมีพฤติกรรมเลียนแบบตามไปด้วย และพัฒนาการที่สำคัญมากๆอีอย่างหนึ่งก็คือพัฒนาการทางด้านสติปัญญา เด็กจะเรียนรู้ได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆทั้งปวงที่กล่าวมาจริงๆค่ะ เห็นไหมค่ะว่าเรื่องของเด็กๆนั้นไม่ใช่เรื่องที่เล่นเลยค่ะ เพราะงั้นจึงอยากจะแนะนำให้คนที่เป็นผู้ปกครองได้ศึกษาและใส่ใจอนาคตที่ดีของชาติตั้งแต่วันที่เค้ายังเยาว์วัยค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆโดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรคุณอาจจะต้องมานั่งเหนื่อยใจในตอนหลังก็ได้นะคะ...

คู่มือพ่อแม่มือใหม่เลี้ยงลูกวัยอนุบาล หนังสือดีๆที่อยากให้ทุกคนที่กำลังจะเป็นหรือตอนนี้กำลังเป็นคุณพ่อและคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงอายุที่สามารถเข้าสู่โรงเรียนได้แล้ว และรวมไปถึงพ่อแม่ที่ลูกยังเล็กๆอยู่ด้วยก็ตามเพราะในหนังสือเล่มนี้นั้นจะบอกถึงวิธีการดูแลและเอาใจใส่ลูกน้อยของคุณให้มีพัฒนาการที่ทุกด้านโดยในหนังสือเล่มนี้เค้าจะเน้นเป็นการพัฒนาแบบองค์รวมนั้นก็หมายความโดยเข้าใจง่ายๆว่าการพัฒนาศักยภาพในทุกๆด้านนั้นเอง ด้วยความที่ดิฉันมีอาชีพเป็นครูที่ต้องสอนและดูแลเด็กในช่วงอนุบาลนี้แล้วด้วยจึงทำให้ต้องคลุกคลีและเลี้ยงรู้สิ่งๆกับเด็กๆอยู่ตลอดรวมไปถึงการต้องรับมือกับพ่อและแม่เจ้าปัญหาที่คิดว่าตัวเองดูแลลูกได้ดีกว่าใครๆดังนั้นจึงไม่แปลดเลยถ้าดิฉันจะสนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆพวกนี้เพราะมันทำให้ตัวฉันเองได้รับรู้ว่าเด็กในช่วงวัยนี้เค้าต้องการอะไรและมีวิธีการอย่างไรที่จะดูแลและพัฒนาเค้าไปพร้อมๆกันด้วย เพราะสำหรับตัวดิฉันเองในฐานะที่เรียนมาด้านนี้และทำงานตรงนี้มาจึงซึมซับเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของเด็กได้เป็นอย่างดีแต่อย่างว่าการเรียนรู้มีไม่จำกัดดิฉันจึงอยากที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้กับตัวเองรวมไปถึงดิฉันสามารถนำเรื่องราวที่ดิฉันนั้นมีความรู้ไปถ่ายทอดให้กับครอบครัวที่เค้ากำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องลูกได้อีกด้วย ภายในหนังสือเค้าจะบอกตั้งแต่เรื่องราวที่เป็นพื้นฐานเลยเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกและไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย รวมไปถึงการส่งเสริมให้เด็กๆมีพัฒนาการทางด้านต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่างกาย ที่ต้องมีการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ให้เหมาะสมตามวัย พัฒนาการทางด้านสังคมการที่พ่อแม่และลูกนั้นมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การพัฒนาทางด้านภาษาซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆสำหรับตัวเด็กและคนเป็นพ่อเป็นแม่เลย เพราะเด็กในช่วงวัยนี้กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้ดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการเรียนรู้เรื่องของภาษาเป็นอย่างมากเพราะถ้าพ่อแม่หรือคนที่ดูแลเด็กเองนั้นพูดไม่ชัดตัวเด็กเองก็จะมีพฤติกรรมเลียนแบบตามไปด้วย และพัฒนาการที่สำคัญมากๆอีอย่างหนึ่งก็คือพัฒนาการทางด้านสติปัญญา เด็กจะเรียนรู้ได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆทั้งปวงที่กล่าวมาจริงๆค่ะ เห็นไหมค่ะว่าเรื่องของเด็กๆนั้นไม่ใช่เรื่องที่เล่นเลยค่ะ เพราะงั้นจึงอยากจะแนะนำให้คนที่เป็นผู้ปกครองได้ศึกษาและใส่ใจอนาคตที่ดีของชาติตั้งแต่วันที่เค้ายังเยาว์วัยค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆโดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรคุณอาจจะต้องมานั่งเหนื่อยใจในตอนหลังก็ได้นะคะ...

กินตามสี เป็นชื่อหนังสือที่จะบอกถึงคุณประโยชน์ของผักและผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใดและสีต่างๆที่มันมีนั้นมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรดิฉันเห็นว่ามันมีประโยชน์ต่อตัวเองและต่อบุคคลรอบข้างที่อยู่กับเราเพราะในเมื่อเรามีสุขภาพที่ดีแล้วเราก็อยากให้คนที่เรารักนั้นมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย ในหนังสือเล่มนี้เค้าจะบอกถึงสีและประเภทของผักต่างๆที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปแต่ละชนิดและประเภท ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้ว่าผักและผลไม้ชนิดไหนนั้นมีประโยชน์และตรงต่อความต้องการของร่างกายเรามากที่สุด อย่างที่ได้อ่านมาเค้าจะบอกว่ามีผักชนิดไหนบ้างและแยกอยู่ในสีไหนและมีสารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างไรและไอ้เจ้าสารพวกนี้มันเข้าไปทำปฏิกิริยาอะไรกับร่างกายของเรา ซึ่งดิฉันเห็นว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่บางทีเราอาจจะมองข้ามไป ผักบางชนิดที่เรามักไม่ชอบกินแต่เชื่อเถอะว่าเค้ามีประโยชน์และมีสารที่ช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่แพ้การที่เรานั้นออกกำลังกายเลย ผักบางสีและบางชนิดมีสารที่ช่วยต่อต้านโรคร้ายๆอย่างโรคมะเร็งเลยเชียวนะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหลายๆคนยังจะเลือกกินแต่สิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ไหมนะโดยเฉพาะสาวที่ไม่ชอบกินผักต้องบอกไว้เลยว่าถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้พวกคุณได้รู้ถึงประโยชน์ที่มันมีมากอย่างมหาศาลของผักและผลไม้สีต่างๆนี้ถ้ากินอย่างถูกวิธีนี้ก็เป็นการบำรุงร่างกายอย่างง่ายๆและยังจะช่วยให้สาวๆนั้นสวยเปล่งปลั่งผิวพรรณแลดูมีออร่าโดยไม่ต้องพึ่งยาขาวหรืออาหารเสริมแต่อย่างใดเลยนะ เพราะในผักและผลไม้บางชนิดที่สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย เมื่อรู้ว่ามีวิธีที่ทำให้ตัวเองดูดีแล้วแถมยังทำได้ง่ายๆนั้นก็คือการรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะพอควร ไม่ใช่พอรู้ว่ากินแล้วสวยกินแล้วผิวพรรณดีก็แต่ผักและผลไม้ชนิดนั้นในปริมาณที่มากเกินไป คุณก็อย่าลืมว่าเรื่องของร่างกายนั้นต้องเป็นอะไรที่พอดีๆไม่มากหรือเกินไปเพื่อความสมดุลภายในร่างกายของคุณเองเพราะอะไรที่มันเยอะเกินไปมันก็ให้โทษหรือไม่ให้ในสิ่งที่เราต้องการได้ดังนั้นต้องรู้จักกินและเลือกในสิ่งที่ดีต่อตัวเราจริงๆเท่านั้นด้วย จึงขอฝากหนังสือดีๆอีกเล่มให้เพื่อนๆได้ลองหามาอ่านกันต่อไปด้วยนะคะ...

กินตามสี เป็นชื่อหนังสือที่จะบอกถึงคุณประโยชน์ของผักและผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใดและสีต่างๆที่มันมีนั้นมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรดิฉันเห็นว่ามันมีประโยชน์ต่อตัวเองและต่อบุคคลรอบข้างที่อยู่กับเราเพราะในเมื่อเรามีสุขภาพที่ดีแล้วเราก็อยากให้คนที่เรารักนั้นมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย ในหนังสือเล่มนี้เค้าจะบอกถึงสีและประเภทของผักต่างๆที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปแต่ละชนิดและประเภท ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้ว่าผักและผลไม้ชนิดไหนนั้นมีประโยชน์และตรงต่อความต้องการของร่างกายเรามากที่สุด อย่างที่ได้อ่านมาเค้าจะบอกว่ามีผักชนิดไหนบ้างและแยกอยู่ในสีไหนและมีสารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างไรและไอ้เจ้าสารพวกนี้มันเข้าไปทำปฏิกิริยาอะไรกับร่างกายของเรา ซึ่งดิฉันเห็นว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่บางทีเราอาจจะมองข้ามไป ผักบางชนิดที่เรามักไม่ชอบกินแต่เชื่อเถอะว่าเค้ามีประโยชน์และมีสารที่ช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่แพ้การที่เรานั้นออกกำลังกายเลย ผักบางสีและบางชนิดมีสารที่ช่วยต่อต้านโรคร้ายๆอย่างโรคมะเร็งเลยเชียวนะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหลายๆคนยังจะเลือกกินแต่สิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ไหมนะโดยเฉพาะสาวที่ไม่ชอบกินผักต้องบอกไว้เลยว่าถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้พวกคุณได้รู้ถึงประโยชน์ที่มันมีมากอย่างมหาศาลของผักและผลไม้สีต่างๆนี้ถ้ากินอย่างถูกวิธีนี้ก็เป็นการบำรุงร่างกายอย่างง่ายๆและยังจะช่วยให้สาวๆนั้นสวยเปล่งปลั่งผิวพรรณแลดูมีออร่าโดยไม่ต้องพึ่งยาขาวหรืออาหารเสริมแต่อย่างใดเลยนะ เพราะในผักและผลไม้บางชนิดที่สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย เมื่อรู้ว่ามีวิธีที่ทำให้ตัวเองดูดีแล้วแถมยังทำได้ง่ายๆนั้นก็คือการรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะพอควร ไม่ใช่พอรู้ว่ากินแล้วสวยกินแล้วผิวพรรณดีก็แต่ผักและผลไม้ชนิดนั้นในปริมาณที่มากเกินไป คุณก็อย่าลืมว่าเรื่องของร่างกายนั้นต้องเป็นอะไรที่พอดีๆไม่มากหรือเกินไปเพื่อความสมดุลภายในร่างกายของคุณเองเพราะอะไรที่มันเยอะเกินไปมันก็ให้โทษหรือไม่ให้ในสิ่งที่เราต้องการได้ดังนั้นต้องรู้จักกินและเลือกในสิ่งที่ดีต่อตัวเราจริงๆเท่านั้นด้วย จึงขอฝากหนังสือดีๆอีกเล่มให้เพื่อนๆได้ลองหามาอ่านกันต่อไปด้วยนะคะ...

Healthy Living สุขภาพดี... มีได้ทุกวัย เป็นหนังสือทางด้านการดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะกับช่วงอายุได้อย่างเหมาะสมเพราะการที่จะทำให้เรานั้นมีอายุที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีแล้วด้วยนั้นล้วนแล้วแต่ต้องบำรุงและดูแลรักษากันมาจากระบบภายในเลย ในหนังสือเล่มนี้ก็จะแนะนำและบอกกล่าวเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของอาหารแต่ละชนิดและจะอธิบายเกี่ยวกับความต้องการสารอาหารมากน้อยแค่ไหนในแต่ละช่วงอายุซึ่งในหนังสือเล่มนี้นั้นเค้าก็ได้บอไว้อย่างละเอียดจึงทำให้คนที่มาเคยได้รู้มาก่อนสามารถอ่านและเข้าใจได้อย่างง่ายดาย โดยสำหรับตัวดิฉันเองก็คิดว่าเรื่องของการดูแลสุขภาพนั้นไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะตอนที่เจ็บป่วยหรือไม่สบายแต่เรื่องพวกนี้เราสามารถดูแลได้อยู่ทุกวันเพราะยิ่งเราดูแลรักษาร่างกายของเราให้แข็งแรงมากเท่าไหร่โอกาสที่เราจะเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโน่นนี้นั่น นั้นก็มีน้อยลง ถ้าถามว่าควรจะเริ่มจากช่วงอายุเท่าไหร่ดีถึงจะสามารถเริ่มรับประทานอาหารที่บำรุงสุขภาพ ต้องบอกไว้เลยว่าการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นสำคัญตั้งแต่ในวัยเด็กเพราะว่าในเด็กเล็กๆนั้นต้องการสารอาหารที่สำคัญเพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายและเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านต่างๆให้เจริญเติบโตยิ่งๆขึ้นไป พอมาถึงช่วงวัยรุ่นยิ่งต้องได้รับอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะเด็กวัยรุ่นมักจะมีกิจกรรมประจำวันที่ต้องทำเยอะแยะมากมายดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยางที่จะต้องใส่ใจและบำรุงร่างกายเพื่อให้ร่างกายและกระดูกแข็งแรงที่สุด พอมาถึงในช่วงของวัยทำงานเราก็ต้องได้รับอาหารที่มีคุณค่าและให้คุณประโยชน์ที่เกี่ยวกับระบบภายในให้เยอะๆเพราะคนในวัยนี้มีสภาวะที่เครียดจึงต้องได้รับการดูแลร่างกายในทางที่ถูกที่ควร และก็มาถึงในช่วงวัยที่เหมือนจะย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนั้นก็คือวัยชราเพราะการที่จะทำให้ร่างกายนั้นสมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิมคงไปไม่ได้แน่ๆแต่ถ้าได้อ่านวิธีในหนังสือเล่มนี้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าควรทำอย่างไร หรือควรเลือกรับประทานอาหารประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับช่วงวัยของตัวเอง ดังนั้นคนที่จะหาหนังสือดูแลสุขภาพมาอ่านนั้นไม่จำเป็นต้องว่าต้องเอามาใช้กับตัวเองคนเดียวเท่านั้นแต่ยังสามารถบอกกล่าวให้กับคนใกล้ชิดหรือเราเองน่ะแหละที่ต้องเป็นคนดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวเองเสียเลยไม่ต้องมัวรอให้คนที่คุณรักป่วยเราก็สามารถดูแลกันได้ด้วยเรื่องเล็กๆน้อยอย่างการเลือกรับประทานอาหารให้แก่กันและกันได้แล้ว บางครั้งเรื่องเล็กๆที่เราจะมองข้ามมันจะมีสิ่งดีๆซ่อนอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นจึงอยากที่จะแนะนำให้ทุกคนได้มีสุขภาพกายและใจที่ดีอยู่เสมอนะคะ...

Healthy Living สุขภาพดี... มีได้ทุกวัย เป็นหนังสือทางด้านการดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะกับช่วงอายุได้อย่างเหมาะสมเพราะการที่จะทำให้เรานั้นมีอายุที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีแล้วด้วยนั้นล้วนแล้วแต่ต้องบำรุงและดูแลรักษากันมาจากระบบภายในเลย ในหนังสือเล่มนี้ก็จะแนะนำและบอกกล่าวเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของอาหารแต่ละชนิดและจะอธิบายเกี่ยวกับความต้องการสารอาหารมากน้อยแค่ไหนในแต่ละช่วงอายุซึ่งในหนังสือเล่มนี้นั้นเค้าก็ได้บอไว้อย่างละเอียดจึงทำให้คนที่มาเคยได้รู้มาก่อนสามารถอ่านและเข้าใจได้อย่างง่ายดาย โดยสำหรับตัวดิฉันเองก็คิดว่าเรื่องของการดูแลสุขภาพนั้นไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะตอนที่เจ็บป่วยหรือไม่สบายแต่เรื่องพวกนี้เราสามารถดูแลได้อยู่ทุกวันเพราะยิ่งเราดูแลรักษาร่างกายของเราให้แข็งแรงมากเท่าไหร่โอกาสที่เราจะเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโน่นนี้นั่น นั้นก็มีน้อยลง ถ้าถามว่าควรจะเริ่มจากช่วงอายุเท่าไหร่ดีถึงจะสามารถเริ่มรับประทานอาหารที่บำรุงสุขภาพ ต้องบอกไว้เลยว่าการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นสำคัญตั้งแต่ในวัยเด็กเพราะว่าในเด็กเล็กๆนั้นต้องการสารอาหารที่สำคัญเพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกายและเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านต่างๆให้เจริญเติบโตยิ่งๆขึ้นไป พอมาถึงช่วงวัยรุ่นยิ่งต้องได้รับอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะเด็กวัยรุ่นมักจะมีกิจกรรมประจำวันที่ต้องทำเยอะแยะมากมายดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยางที่จะต้องใส่ใจและบำรุงร่างกายเพื่อให้ร่างกายและกระดูกแข็งแรงที่สุด พอมาถึงในช่วงของวัยทำงานเราก็ต้องได้รับอาหารที่มีคุณค่าและให้คุณประโยชน์ที่เกี่ยวกับระบบภายในให้เยอะๆเพราะคนในวัยนี้มีสภาวะที่เครียดจึงต้องได้รับการดูแลร่างกายในทางที่ถูกที่ควร และก็มาถึงในช่วงวัยที่เหมือนจะย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนั้นก็คือวัยชราเพราะการที่จะทำให้ร่างกายนั้นสมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิมคงไปไม่ได้แน่ๆแต่ถ้าได้อ่านวิธีในหนังสือเล่มนี้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าควรทำอย่างไร หรือควรเลือกรับประทานอาหารประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับช่วงวัยของตัวเอง ดังนั้นคนที่จะหาหนังสือดูแลสุขภาพมาอ่านนั้นไม่จำเป็นต้องว่าต้องเอามาใช้กับตัวเองคนเดียวเท่านั้นแต่ยังสามารถบอกกล่าวให้กับคนใกล้ชิดหรือเราเองน่ะแหละที่ต้องเป็นคนดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวเองเสียเลยไม่ต้องมัวรอให้คนที่คุณรักป่วยเราก็สามารถดูแลกันได้ด้วยเรื่องเล็กๆน้อยอย่างการเลือกรับประทานอาหารให้แก่กันและกันได้แล้ว บางครั้งเรื่องเล็กๆที่เราจะมองข้ามมันจะมีสิ่งดีๆซ่อนอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นจึงอยากที่จะแนะนำให้ทุกคนได้มีสุขภาพกายและใจที่ดีอยู่เสมอนะคะ...