เชลยแค้น(ซ่อนกลิ่น)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789748300399
ผู้แต่ง: ซ่อนกลิ่น
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 หลังจากดวงอาทิตย์ดับแสงลง แสงไฟระยิบระยับของมหานครใหญ่ก็เริ่มสว่างไสวขึ้น ชีวิตยามราตรีของกรุงเทพมหานครได้เริ่มต้นแล้ว ผู้คนที่เคร่งเครียดจากการทำงานมาตลอดทั้งวันเริ่มหาที่พักผ่อนและคลายความเหนื่อยล้าตามสถานบันเทิงต่างๆ ที่เปิดกันพรึบในเมืองซิวิไลซ์แห่งนี้ ยังมีหญิงสาวคนหนึ่งที่คร่ำเคร่งทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจราตรีอันน่าลุ่มหลงของเมืองฟ้าเมืองสวรรค์สักนิดเดียว แพรวพรรณราย พานโยธาตระกูล เป็นประธานบริษัทสุทัศน์การก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หล่อนรับช่วงกิจการมาจากบิดาเมื่อห้าปีก่อน หลังจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตปทุมวัน ด้วยความมีมนุษย์สัมพันธ์อันดี ประกอบกับความตั้งใจทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายของหล่อน ก็ทำให้บริษัทขยับจากผู้รับเหมาก่อสร้างธรรมดากลายมาเป็นบริษัทมหาชนในที่สุดระหว่างคร่ำเคร่งกับเอกสารกองโตอยู่นั้น เสียงสปีกเกอร์โฟนดังขึ้นทำลายสมาธิของหล่อน หญิงสาวเอื้อมมือข้างหนึ่งไปกดปุ่ม แต่สายตาจับ

จ้องสัญญาว่าจ้างหลายพันล้านบนจอมอนิเตอร์

“ยังไม่กลับอีกเหรอเจี๊ยบ มันดึกแล้วนะ” หล่อนกรอกเสียงถามเลขานุการสาวหน้าห้อง

“ก็เผื่อคุณแพรวจะต้องการอะไร” เลขานุการสาวตอบเอาใจ “มีโทรศัพท์จากที่บ้านค่ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องด่วน”

“เหรอ โอนเข้ามาเลย”

หลังจากเลขานุการสลับสายแล้ว เสียงหญิงสูงวัยก็ดังขึ้น น้ำเสียงฟังดูกระวนกระวายใจจนแพรวพรรณรายรู้สึกตกใจ

“เป็นอะไรไปคะ ป้าศรี” หญิงสาวถูกดึงความสนใจไปจากคอมพิวเตอร์จนได้ ถ้าไม่มีเรื่องเร่งด่วนจริงๆ แม่บ้านของหล่อนก็คงไม่โทร. มาถึงที่ทำงานเช่นนี้

“คุณท่านคะ คุณท่าน...” สมศรีแม่บ้านของแพรวพรรณรายเอ่ยได้เพียงแค่นั้นก็ร้องห่มร้องไห้จนฟังไม่ได้ศัพท์

“ป้าทำใจดีๆ นะคะ ค่อยๆ พูด” หล่อนพยายามปลอบ “คุณพ่อเป็นอะไรไปคะ”

“คุณท่านล้มไปค่ะ ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย” หญิงสูงวัยตอบสะอึกสะอื้น

“เรียกหมอหรือยังคะ” หญิงสาวร้องถามด้วยความเป็นห่วง

“เรียกแล้วค่ะ”

“โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวแพรวจะรีบออกไปทันที” แพรวพรรณรายรีบปิดโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ทันที หล่อนเก็บทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานลงในกระเป๋า ทุกที่สำหรับหญิงสาวสามารถเป็นที่ทำงานได้หมด ไม่เว้นแม้แต่ห้องนอนตัวเอง

คฤหาสน์ของตระกูลพานโยธาตระกูล ตั้งอยู่บนเนื้อที่สิบไร่ชานเมืองกรุงเทพมหานคร มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ถึงอย่างนั้น แพรวพรรณรายก็ไม่ค่อยได้มาอยู่ที่นี่บ่อยนัก ด้วยเหตุที่งานยุ่งมาก หญิงสาว

จึงไปซื้อคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองเอาไว้ซุกหัวนอน เพราะใกล้ที่ทำงานแค่สองช่วงตึกเท่านั้น

หลังจากมาถึง แพรวพรรณรายก็วิ่งพรวดพราดเข้าไปยังห้องนอนบิดาด้วยความกระวนกระวายใจ “คุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ”

แต่บิดาไม่อาจตอบหล่อนได้ ชายชราหลับสนิทอยู่บนเตียง โดยมีสายน้ำเกลือระโยงระยางอยู่รอบตัวเต็มไปหมด

“คุณเป็นลูกสาวของท่านเจ้าสัวหรือครับ” ชายสูงวัยคนหนึ่งเอ่ยถาม เขามีหูฟังห้อยอยู่ที่คอ คาดว่าคงเป็นหมอที่มาดูอาการบิดา

“ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นผมขอเชิญข้างนอกสักครู่ครับ” นายแพทย์ผายมือเชิญหล่อน

แพรวพรรณรายเดินนำนายแพทย์ออกไปสู่โถงด้านหน้าห้อง

“มีอะไรหรือคะคุณหมอ” หล่อนหันมาถามเมื่อออกมาจากห้องบิดาแล้ว

“ก่อนอื่นผมขอให้คุณทำใจดีๆ เอาไว้ก่อน ตั้งสติให้ดี โอเคไหมครับ”

“ค่ะ” คำขอร้องของนายแพทย์ทำเอาหญิงสาวเริ่มรู้สึกหวั่นใจ

“ท่านเจ้าสัวเป็นมะเร็งปอดครับ”

“มะเร็ง” แพรวพรรณรายทวนคำอย่างตกใจ “แล้วจะเป็นอะไรไหมคะ หมอรักษาได้ไหม”

“เป็นระยะสุดท้ายแล้วครับ ท่านคงทนเก็บงำมันมานานจนยากจะเยียวยาได้แล้ว” นายแพทย์ส่ายศีรษะ

“หมายความว่ายังไง” หญิงสาวแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“ท่านคงเหลือเวลาอีกไม่เท่าไร อย่างเก่งคงไม่เกินปีหนึ่งครับ”

“ไม่จริง” หล่อนร้องออกไป

“ผมเสียใจด้วยครับ ที่จะบอกว่ามันเป็นความจริง”

“หมอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญใช่ไหม ฉันจะพาท่านไปอเมริกา พวกหมอฝรั่ง

คงรักษาท่านได้แน่ๆ ฉันมีเงินมากมาย ไม่ยอมปล่อยให้ท่านเป็นอะไรไปเด็ดขาด” แพรวพรรณรายกล่าวอย่างฉุนเฉียวด้วยน้ำตาอาบนองสองแก้ม

“เงินไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างหรอกครับ ถ้าผมเป็นคุณ จะใช้เวลาที่เหลืออันน้อยนิด ทำให้ท่านมีความสุขที่สุดในบั้นปลายชีวิต ดีกว่าเร่ไปรักษาแล้วก็ลงเอยเหมือนเดิม” นายแพทย์กล่าวเสียงอ่อนโยน ราวกับกำลังสอนลูกหลาน “เอาละครับ ผมเห็นทีจะต้องขอตัวก่อน ผมจัดยาไว้ให้แล้ว จัดการให้ท่านกินตรงเวลาก็แล้วกัน แล้วสักวันอาทิตย์ผมจะมาดูอาการให้อีกครั้งหนึ่ง”

แพรวพรรณรายได้แต่นิ่งอั้น หล่อนเอนตัวพิงประตูห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย หล่อนมองดูนายแพทย์ชราเดินจากไปด้วยความเศร้าสร้อย

‘ร้องไห้ซะให้พอ แพรว แล้วรีบเข้าไปหาพ่อด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม’ หญิงสาวรำพึงอยู่ในใจ

หลังจากล้างหน้าล้างตาเพื่อลบร่องรอยแห่งความเสียใจออกแล้ว แพรวพรรณรายก็แง้มประตูห้องบิดา ท่านยังนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบ หญิงสาวเดินอย่างเงียบกริบไปนั่งที่พื้นข้างๆ เตียง หล่อนดึงมือบิดามาแตะพวงแก้มด้วยความรักที่มีให้เหลือล้น นั่นจึงทำให้ชายชรารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

“อ้าว ยายแพรว ทำไมมาเอาดึกดื่นป่านนี้ล่ะ” สุทัศน์เอ่ยถามเสียงพร่า

“หนูคิดถึงพ่อค่ะ” หญิงสาวยิ้ม แต่น้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมาเสียนี่

ผู้เป็นพ่อจึงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว “คิดถึงแล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ ท


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024