ไอลีจา...พันธสัญญาแห่งใจ

ไอลีจา...พันธสัญญาแห่งใจ

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789740902485
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 189.00 บาท 47.25 บาท
ประหยัด: 141.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

“ไป เจ้าจงไป เอนไดเนร่า ไปเสียตอนนี้แล้วจงนำความยิ่งใหญ่กลับคืนสู่แอลเลเวน”

“แต่ถ้าข้าไป ท่านพ่อต้องเสียสัตย์”

“ข้ายอมเสียสัตย์ แต่ข้าจะไม่ยอมเสียแคว้น ข้าจะไม่ยอมเสียความสุขแห่งลูกสาวข้า และข้าจะไม่ยอมเสียเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าเข้าใจเนร่า และข้ารู้ว่าเจ้าทำได้ เจ้าจะทำให้อธิปไตยแห่งแอลเลเวนกลับคืนมาอีกครั้ง”

“แล้วท่านแม่...”

“เรายังมีเวลา อย่างที่โดฟาบอก เนร่า พิษของอิสซอต้องรอระยะสำแดง มันฉลาดพอที่จะให้เวลากับเหยื่อของมัน...แต่มันพลาดที่เลือกเหยื่ออย่างเจ้า อย่างพวกเรา เจ้าต้องทำให้มันประจักษ์ว่าคนของแอลเลเวนไม่มีวันยอมสยบให้กับแผนต่ำช้านั่น เจ้าต้องทำให้ข้าประจักษ์ว่าลูกสาวที่ข้าหล่อหลอมมากับมือแข็งแกร่งเพียงใด...ไป”

 

เสียงกลองระรัวจากลานใจกลางแคว้นแอลเลเวนดังก้องไปทั่วสารทิศ และมันราวกับเป็นจังหวะเร่งเร้าให้เอนไดเนร่าทำทุกอย่างด้วยความเร็วมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก แพรพรรณเนื้อดีที่หลุดพ้นผิวกายถูกทดแทนด้วยผ้าเนื้อหยาบแบบที่ชนชั้นสูงเช่นนางจะไม่มีวันได้สัมผัสหากนั่นต้องบอกว่านอกเหนือจากนางสินะ เพราะหลายคราวมาแล้วที่ต้องสวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ ทั้งยังแอบคิดไม่ได้ว่าบางทีมันสบายกว่าผ้าเนื้อบางเบาแต่ต้องใส่หลายต่อหลายชั้นและหลายต่อหลายชิ้นนั่นเสียอีก

มือบางที่ไม่ได้อ่อนแอเช่นรูปลักษณ์ของมันคว้าสายคาดสำหรับเหน็บมีดสั้นเกี่ยวรัดประจำที่เรียวขาทั้งสองข้างและเอวซ้ายขวา จากนั้นเสื้อคลุมตัวยาวจรดข้อเท้าสีดำสนิทก็สะบัดพลิ้วคลุมร่างอันแบบบางจนไม่เห็นแม้อาภรณ์ด้านใน ท้ายที่สุดที่ทายาทแห่งแอลเลเวนหันไปหา...ดาบพิษไอลีจา ดาบชนิดพิเศษซึ่งในดินแดนนี้มีเพียงสองเล่ม และหนึ่งในสองนั้นอยู่ในมือนางแล้ว

ดาบพิษนี้ถูกหลอมรวมด้วยกรรมวิธีลึกลับที่แม้แต่ผู้เฒ่าโดฟาซึ่งฉลาดล้ำและเก่งกาจในทุกวิทยาการยังไม่อาจรู้ว่าหลอมอย่างไร ผู้เฒ่ารู้เพียงว่ามันถูกหลอมรวมกับโลหะพิษสีเขียวมรกตที่ทำให้โลหิตแข็งตัวในทันทีที่สัมผัส ทั้งยังค่อยๆ ขยายวงกว้างกระทั่งเลือดในตัวแห้งแข็งไม่ไหลเวียน ดังนั้นแม้โดนคมบาดเพียงนิดและกำจัดพิษไม่ทันก็อาจสิ้นชีพ นอกจากตัวนางแล้วก็คงเป็นดาบนี่สินะที่อิสซออยากได้จนต้องใช้แผนชั่วช้า

เอนไดเนร่ารั้งดาบออกจากตัวปลอกซึ่งมีลายสลักเสลางดงามเพียงนิด เผยให้เห็นดาบสองสีซึ่งแบ่งซีกได้สมมาตรอย่างน่าพิศวง แน่ล่ะ ซึกหนึ่งเป็นสีโลหะธรรมดาและซีกด้านนั้นไม่มีพิษ ส่วนอีกซีกก็ชัดเจนว่าต้องเป็นสีมรกต และซีกนี้เองที่กลายเป็นมัจจุราชปลิดชีวิตมนุษย์สักคนได้ไม่ยาก หญิงสาวอัดลมหายใจเข้าเต็มปอด เสียงแตรดังยาวมาแต่ไกลบอกให้รู้ว่าเหล่าพันธมิตรแดนภูผาได้มาถึงแอลเลเวน ซึ่งเป็นแคว้นเจ้าภาพจัดงานมงคลที่ท่านพ่อจำเป็นต้องส่งสาสน์เรียนเชิญ และนั่นถึงเวลาที่นางจะต้องไปจากที่นี่ไป ก่อนจะสายเกินไป...

 

ผู้เฒ่าโดฟาเริ่มร้อนรนใจเมื่อผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วยังไม่ปรากฏแม้เงาของทายาทแห่งแอลเลเวน จากใจกลางเมืองอันเป็นที่พำนักของนางมาถึงบ้านพักติดชายแดนแห่งนี้ ด้วยความสามารถในการควบม้าของเอนไดเนร่า มันจะต้องไม่เกินสามชั่วโมงเป็นแม่นมั่น... เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าหนอ

“นั่งก่อนเถิดพ่อข้า ท่านเดินวนไปเวียนมาเช่นนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ท่านเนร่ามาถึงที่นี่ไวขึ้นเสียหน่อย”

“เจ้าเงียบไปเลยดาเบล แล้วนี่เจ้าจัดการทุกอย่างพร้อมแล้วหรือ เสื้อผ้า ม้า”

เท่านั้น เจ้าของนาม ‘ดาเบล’ ซึ่งเป็นบุตรสาวของโดฟาก็อ้าปากค้าง เสียงที่เอ่ยออกมาดูคล้ายกับว่าไม่อยากจะเชื่อ “ท่านทำเหมือนข้าเป็นเด็กๆ ข้ารู้น่าว่าจะต้องเดินทาง แล้วก็รู้ด้วยว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ห่วงก็แต่ท่าน ท่าทางจะต้องร้องไห้คิดถึงข้าทุกวันเป็นแน่”

ดาเบลพูดออกมาด้วยท่าทางที่ผู้เป็นพ่ออยากจะเขกกะโหลกให้สักโป๊กหนักๆ หากเสียงฝีเท้าม้าที่ควบใกล้เข้ามาก็ทำให้ต้องรีบผงะไปยังประตู แทบจะวินาทีเดียวกับที่ปลดสลักพันธนาการของประตูออก มันก็ถูกเปิดผางและปิดลงอย่างรวดเร็วเพียงร่างใต้เสื้อคลุมดำนั่นก้าวเข้ามาด้านใน

“อิสซอให้ทหารแคว้นมันเดินยาวไปทั่ว ทำราวกับเป็นแคว้นของตัวเองทั้งๆ ที่ข้ายังไม่ได้ร่วมหอกับมัน ทั้งๆ ที่ท่านพ่อข้ายัง...” ยังรั้งอำนาจแห่งแอลเลเวน... หากมันก็กระทำการหยามนัก

เอนไดเนร่าตัวสั่นเทาด้วยความเคียดแค้นใจ นอกจากการให้ทหารเดินยามจะเป็นการหมิ่นเกียรติแห่งผู้ปกครองแคว้นแล้ว ยังทำให้การเดินทางมาที่นี่ต้องล่าช้าออกไปหลายชั่วโมงด้วยต้องคอยหลบหลีกทหารเหล่านั้น

“ไม่มีประโยชน์จะมายืนตัวสั่นตรงนี้นะเอนไดเนร่า เจ้าไม่มีเวลากระทำการอันไร้สาระเช่นนี้แม้แต่เสี้ยววินาที สามเดือน...ข้าเชื่อว่าไม่เกินสามเดือนพิษของอิสซอในร่างแม้เจ้าจะสำแดงเดช ถ้าเจ้าทำไม่สำเร็จนอกจากจะเสียแม่เจ้าแล้ว แอลเลเวนก็คงย่ำแย่ คืนนี้หากอิสซอรู้ว่าเจ้าไม่อยู่เข้าพิธีกับมัน มันจะอ้างว่าผู้ปกครองแคว้นแห่งแอลเลเวนตระบัดสัตย์ ท่านเอนดาเว่พ่อเจ้าก็คงปฏิเสธไม่ได้ และถึงตรงนั้นพันธมิตรแดนภูผาของเราจะกลับกลายเป็นศัตรู แอลเลเวนจะถูกโดดเดี่ยวและโดนเหล่าแดนภูผากลุ้มรุม... เจ้ารู้หรือยังว่าเจ้าต้องทำอะไร ทายาทแห่งเเอลเลเวน”

เอนไดเนร่านิ่งเงียบ ค่อยๆ เรียบเรียงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทบทวนถึงอดีตแต่เก่าก่อนว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใคร่ครวญถึงอนาคตอันใกล้ว่าอะไรเล่ากำลังจะเกิดขึ้น

แอลเลเวนเป็นแคว้นที่หลายๆ แคว้นต้องการได้ลักษณะชัยภูมิเช่นนี้ ด้านตะวันตกชิดภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ด้านใต้ติดมหาสมุทร

พันธมิตรแดนภูผาแข็งแกร่งนัก หากก็รังเกียจการโกหกกลับกลอกตามสัญชาตญาณนักรบ ดังนั้นการที่นางหายไปในค่ำคืนนี้จะต้องเกินผลรุนแรงตามมาแน่

พันธมิตรมหาสมุทรแม้จะประนีประนอมกว่า หากก็ไม่ใครนิยมการรบตามสัญชาตญาณพ่อค้า ดังนั้นการจะขอให้เข้าร่วมรบเพื่อต่อต้านอิสซอคงจะเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

“เราต้องการกองกำลังเพิ่ม... ต้องการพันธมิตรเพิ่มเพื่อต้านอิสซอ”

“เราสูญเสียพันธมิตรแดนภูผาไปแล้วเอนไดเนร่า... หรือเจ้าคิดว่าพันธมิตรมหาสมุทรจะช่วยเราได้”

ดวงตาเรียวยาวได้รูปสวยหรี่ลงเพียงครู่ก่อนส่ายหน้าด้วยท่าทางอ่อนอกอ่อนใจ “แดนมหาสมุทรไม่เอาด้วยแน่ สงครามจะทำให้แคว้นเหล่านั้นเสียรายได้รวมไปถึงเสียค่าใช้จ่ายมากมาย แล้ว...นักรบของพันธมิตรมหาสมุทรก็แต่งกายสวยกว่าข้าในตอนนี้เสียอีก แค่ชุดที่สวมใส่ก็ทำให้รู้แล้วว่าผลการรบจะเป็นอย่างไร เรื่องต่อต้านอิสซอและเหล่าแดนภูผาคงอาศัยอะไรไม่ได้เป็นแน่... แต่ลำพังข้าเชื่อว่าเหล่าทหารหาญของเราต้องต้านอิสซอได้ เหล่าแดนภูผาต้องฟังท่านพ่อข้าบ้างสิ แอลเลเวนไม่เคยตะบัดสัตย์ ไม่เคยเลยสักครั้ง!”

“นั่นยกเว้นครั้งนี้ เนร่า...” เจ้าลองทบทวนดูดีๆ สาสน์เรียนเชิญเหล่าพันธมิตรร่วมพิธีมงคลระหว่างเจ้ากับอิสซอมีตราประทับพ่อเจ้าจริงๆ แล้วมีใครรู้หรือไม่ว่าแม่เจ้าได้รับพิษ ถึงให้หมอที่เก่งที่สุดมาจับก็คงลำบาก ขนาดข้ายังเกือบไม่เชื่อว่าอิสซอวางยาแม่เจ้าหากข้าไม่เห็นว่าปลายเล็บของนางเปลี่ยนสีไป”

“ไม่มีใครเคยสังเกตปลายเล็บแม่ข้าว่าสีอะไรเสียด้วย...ท่านกำลังจะบอกข้าเช่นนั้นใช่ไหมโดฟา”

“ใช่... เจ้าต้องไปร็อตเค”

“ร็อตเค...” หญิงสาวพึมพำออกมาเสียงแผ่ว และเมื่อนึกรู้ว่าแคว้นเล็กๆ อย่างร็อตเคสำคัญอย่างไร ทุกอย่างก็พลันกระจ่างแจ้ง จริงสิ! นางลืมอีกหนึ่งพันธมิตรไปได้อย่างไร “เราต้องพึ่งทหารโจรแห่งรัตติกาลผู้ครองดาบพิษไอลีจาอีกเล่มสินะ”

“ใช่ เราต้องการพันธมิตรผู้เกรียงไกรของเรา เราต้องการกองกำลังอันแข็งแกร่งนั้น เราต้องการอีกหนึ่งไอลีจามาร่วมรบตามพันธสัญญาเก่าแก่ที่มีมาเนิ่นนาน” และเพียงประโยคนั้น ผู้เฒ่าโดฟาก็ขยับกายอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้คู่สนทนาตื่นตัวตามไปด้วย “ดาเบล”

เสียงเรียกนั้นกระตุ้นให้ดาเบลผุดลุกขึ้นทันที และเมื่อได้สบตากับผู้เป็นพ่อ นางก็รู้ว่าต้องทำอะไร ร่างเล็กๆ จึงก้าวอย่างคล่องแคล่วไปหยิบอาวุธคู่กายอย่างธนูมาติดตัว พักเดียวก็ส่งสัญญาณว่าพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางให้กับทุกคนในห้อง

“ขอแผนที่ตรงผนังนั่นให้ข้า ดาเบล” คำขอนั้นได้รับการตอบสนองอย่างฉับไว โดฟากางแผนที่ออกอย่างรวดเร็วและบอกกล่าว “ร็อตเคอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเรา การเดินทางในครั้งนี้เจ้าจะต้องเสียเวลาอ้อมอยู่บ้าง”

“ข้าเข้าใจ ข้าไม่สามารถย้อนขึ้นทางเหนือเลยได้ เพราะตอนนี้แม้แต่เดินในแอลเลเวนก็ยังลำบาก ข้าจะต้องออกทางทะเลไปขึ้นฝั่งที่ซีโล”

“ขึ้นที่ท่ารีนาซีโล มันห่างจากแอลเลเวนพอสมควร จากนั้นเจ้ามุ่งเหนือไปร็อตเคได้เลย จำไว้ว่าอย่าได้เบนเข้าตะวันตกเด็ดขาด มิเช่นนั้นเจ้าอาจอยู่ใกล้อิสซอและสายของมันมากเกินไป จากซีโลไปร็อตเคจะต้องผ่านสองแคว้นซึ่งเจ้าพอจะรู้ลู่ทางอยู่บ้าง ข้าไม่ห่วง แต่เจ้าไม่เคยไปร็อตเค”

“ท่านพ่อไม่เคยอนุญาต”

“ใช่... กลุ่มทหารรับจ้างใช้ร็อตเคเป็นเมืองนายหน้า เพราะมันอยู่ตรงกลางระหว่างแคว้นต่างๆ ร็อตเคจึงกลายเป็นศูนย์รวมนักรบไร้สังกัดและเอนไดเนร่าเอ๋ย... ที่ใดมีผู้ชายมาก ที่นั่นย่อมอันตรายต่อผู้หญิงที่ไม่ใช่โสเภณี และอันตรายมากต่อหญิงงามเช่นเจ้า”

“ข้าทำให้ตัวเองเสียโฉมได้”

“ใช่ ข้าสั่งให้ดาเบลเตรียมรากจัสกาดให้เจ้าแล้ว น่าจะเพียงพอหากเจ้าอยู่ร็อตเคไม่เกินสองอาทิตย์ ซึ่งข้าหวังว่ามันจะไม่เกินนั้น ไปกลับแอลเลเวน-ร็อตเคใช้เวลาแรมเดือน นั่นหมายความว่าเจ้ามีเวลาในการตามกลุ่มทหารโจรแห่งรัตติกาลไม่มากนะเนร่า”

“ข้าทราบโดฟา ข้าจะรีบไปรีบกลับ... โดฟา”

จากเสียงอ่อนอ่อยกับท่าทางเหม่อลอยที่น้อยคนนักจะได้เห็น ทำให้ผู้ซึ่งอุ้มชูทายาทแห่งแอลเลเวนมาแต่อ้อนแต่ออกทราบดีว่านางยังคงมีเรื่องที่พะวงอยู่ “เจ้ามีอะไรอีกเนร่า รีบเข้า เจ้าต้องออกภายในครึ่งชั่วโมงนี้”

“ข้าเป็นห่วงทหาร อิสซอจะทำอย่างไรกับทหารของแอลเลเวน”

“ตามกฎดั้งเดิม ผู้ปกครองใหม่จะถามทหารว่าจะยอมเปลี่ยนนายหรือไม่ เจ้าไม่ต้องห่วงเนร่า ข้ากับพ่อเจ้าส่งข่าวถึงผู้คุมทั้งห้าเหล่าทัพไว้แล้ว เหนือ ใต้ ออก ตก กลางจะยอมลงให้อิสซอเพื่อรักษาชีวิตไว้ พวกเราจะรอจนกว่าเจ้าจะกลับมา หากนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าอิสซอจะทำตามกฏดั้งเดิมหรือไม่”

“อิสซอไม่ทำลายกฎดั้งเดิมแน่ เพราะนั่นอาจทำให้เหล่าแดนภูผาไม่พอใจ... แล้วกับท่านพ่อท่านแม่ข้าเล่า”

“เอนดาเว่อาจถูกคุมขัง แต่เจ้าจงวางใจ ตราบใดที่ยังไม่ได้เจ้า ยังไม่ได้ไอลีจา อิสซอไม่แตะต้องพ่อเจ้าแน่ ส่วนแม่เจ้า ข้าจะพยายามสุดความสามารถในการถอนพิษระหว่างที่เจ้ารอนแรม และจะหาทางขอความช่วยเหลือจากรายห์ผู้เป็นตาของเจ้า หากเจ้าไม่เชื่อสติปัญญาของข้าก็เชื่อในตำราแห่งบรรพบุรุษของเจ้าเถิด”

ทายาทแห่งแอลเลเวนสบสายตาแน่วแน่อยู่กับผู้ซึ่งถือได้ว่าเป็นปรมาจารย์ของตน ก่อนความมุ่งมั่นจะปรากฏบนหน้างามพร้อมนั้น

“ได้เวลาแล้วเนร่า ไป”

หญิงสาวผู้แบกภารกิจอันใหญ่หลวงลุกขึ้นและเคลื่อนกายไปทางประตูด้านหลังอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมาเมื่อข้องใจอะไรบางอย่าง “นั่นเจ้าจะไปกับข้าหรือ ดาเบล”

คนถูกถามพยักหน้ายิกแทนคำตอบรับ ตามมาด้วยเสียงชายชรา “พาเจ้านี่ไปด้วยเถิด เนร่า อย่างน้อยก็ไปรับใช้ให้เจ้าสบายบ้าง หากดาเบลเป็นภาระเมื่อไร...ก็ปลิดชีพมันเสีย”

เท่านั้นดาเบลก็เบิกตากว้างก่อนหันกลับมาโวยกับพ่อตัวเอง “ทำไม

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (71 รายการ)

www.batorastore.com © 2024