คู่วุ่นรักหวาน (นางแก้ว)

คู่วุ่นรักหวาน (นางแก้ว)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: คู่วุ่นรักหวาน
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 150.00 บาท 37.50 บาท
ประหยัด: 112.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ตอนที่ 1  สองครอบครัว

 

 บ้าน สองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้สองหลัง มีลักษณะเดียวกัน แต่ถูกกั้นด้วยรั้วไม้ระแนงด้านหน้า และกั้นด้านข้างเป็นสัดส่วน แต่มีประตูรั้วเปิดหากันได้ บ้านหลังสีเขียวอ่อนนั้นประดับธงชาติที่ชายคาบ้าน มีเนื้อที่รอบบ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั้งเป็นพุ่มและยืนต้น ด้านข้างเกือบติดรั้วตั้งโต๊ะหินอ่อนเพื่อไว้รับแขกและทั้งสองบ้านมีการสังสรรค์กันเป็นประจำเกือบทุกวันก็ว่าได้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของจ่าเข้มทหารนอกราชการได้รับเป็นมรดกตกทอด มีภรรยาเป็นแม่ค้าข้าวแกง และลูกชายเพียงคนเดียวเป็นนักเรียนนายร้อยปีสุดท้าย ส่วนบ้านหลังสีไข่ไก่ เดิมทีเป็นของน้องชายจ่าเข้ม แต่เมื่อเขาไปได้ภรรยาอยู่ต่างจังหวัดห่างไกลเขาจึงบอกขาย และจ่าเข้มรับซื้อไว้ให้คนเช่า ปานทองเป็นผู้เข้ามาเช่าอาศัยนับเวลาได้สิบปีพอดี บ้านหลังนี้ปลูกไม้ผลไว้กิน มีทั้งชมพู่แก้วต้นเล็กๆแต่มีผลแดงสุกปลั่งเกือบตลอดปี และมีต้นเชอรี่ และมะม่วงเขียวเสวยสองต้น

  ความใกล้ชิดเสมือนเครือญาตินี้เองที่สองแม่ลูก อยู่รอดปลอดภัยมาตลอด

 เวลานี้ไปรมาเด็กสาวคนสวย วัยสิบแปดปี ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวปานทอง แม่ค้าขายหมูกำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนเพราะใกล้เวลาสอบแล้ว แต่เมื่อเกิดความเครียดเด็กสาวก็หยุดพักสายตา หันไปมองร่มไม้ใบเขียวของบ้านข้างๆ ซึ่งเป็นการผ่อนคลายที่ได้ผลดี หล่อนเหลือบแลไปเห็น  วาทิตชายหนุ่มวัยยี่สิบปีเศษอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนนายร้อย กำลังถือกระเป๋าเดินตัวตรงเดี๊ยะเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน เด็กสาวกรอกตาวูบหนึ่ง พร้อมบังเกิดความคิดแปลกๆขึ้นมาทันที หล่อนรีบผุดลุกจากเก้าอี้ม้าหินอ่อนมาเกาะข้างรั้ว ตะโกนล้อเลียนเสียงแจ้วเป็นการทักทายแทนการไหว้ซึ่งปกติจะทำเป็นประจำ ถ้อยคำนั้นบอกชัดว่าหาเรื่องอีกฝ่าย

 “หัวเกรียนขี้เก๊กมาแล้วโว้ย”

  วาทิตได้ยินเต็มสองหู เขาเม้มริมฝีปาก พร้อมก้มกายลงเก็บก้อนกรวดได้เม็ดหนึ่ง เมื่อเขาเล็งเป้าหมายได้ชัดแล้วจึงขว้างใส่เด็กสาวทันที ส่วนไปรมานั้นไวทายาทหลบปราด ได้อย่างรู้ทาง เมื่อทำให้วาทิตผิดหวังได้แล้วหล่อนยิ่งทำลอยหน้าเฉิบล้อเลียน วาทิตถูกยั่วก็เริ่มโมโหขึ้นมาจริงๆจึง ถอดหมวกออกเหน็บซอกแขนต่อว่าต่อขานอีกฝ่าย

 “หัดมีสัมมาคารวะซะบ้างไอ้มา พี่แก่กว่าเอ็ง”

 “งั้นมาเรียกไอ้แก่ได้ใช่มั้ย”ไปรมาสรุป แล้วเดินเอ้อระเหย กลับไปนั่งทำการบ้านต่อ วาทิตกัดฟันกับริมฝีปากหนาได้รูปสวยอาฆาตในใจ...แค้นนี้มันต้องชำระ คิดได้เช่นนั้นแล้วเขาจึงวางกระเป๋าลงบนพื้นพร้อมกับวางหมวกซ้อนไว้ข้างบน พลางหยิบก้อนหินขว้างเด็กสาว ครานี้โดนศีรษะอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ เสียงดัง...ป๊อก

  “โอ๊ย” เด็กสาวแหกปากร้องเจ็บเกินความเป็นจริง อย่างที่ผู้ใหญ่ชอบว่า ตีสลึง เจ็บตั้งห้าบาทอะไรทำนองนั้น เมื่อเจ็บแล้วไปรมาชักมีอารมณ์เดือด ร่างสูงโปร่งของหล่อนกระโดดเหย็งขึ้นบนเก้าอี้ ทำท้าวเอว ใบหน้างอง้ำ พร้อมกระทืบเท้าเร่าๆ ท่าทางเช่นนั้นทำให้ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ ตะโกนบอกมารดาที่อยู่ในบ้านให้ออกมาดูไปรมาแผลงฤทธิ์

 “เร้วแม่ ไอ้มากำลังแสดงงิ้วเรื่องท่าเตียนแล้วแม่”

  เสียงอึกทึกของสองหนุ่มสาวเรียกให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายออกมาดู  ฝ่ายวาทิตสนุกไม่เลิก ขณะที่ไปรมายิ่งกระทืบเท้าเร่าๆหนักกว่าเดิม วาทิตก้มหยิบก้อนกรวดที่พื้นมาไว้จนเต็มกำ แล้วใช้ขว้างปาเด็กสาวที่เต้นแร้งเต้นกา ไม่ยอมข้ามรั้วมาเอาเรื่องเสียที เขาตะโกนลั่นๆยั่วโมโหอีกฝ่าย

 “เร้ว มาดูไอ้มาเล่นงิ้วเรื่องนางปีศาจหมาบ้า เร้ว…เร้ว”

 ไปรมาไม่เก่งแต่ในรั้วอีกแล้ว ครานี้หล่อนกระโดดข้ามรั้วมาอย่างปราดเปรียวท่าทางเอาเรื่องเต็มที่ วาทิตเห็นแล้วจึงขยับกายวิ่งหนี แต่เด็กสาวกระโดดขึ้นขี่หลังชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ความหนักบวกกับเขาไม่ได้ตั้งหลักทำให้วาทิตเซแซดๆ ก่อนตั้งหลักยืนมั่น หันไปเอ็ดอึงให้ไปรมาลงจากหลังของเขา แต่ไปรมาไม่ยอมปล่อยมือ ยังคงกอดคออีกฝ่ายแน่นเหนียวเหมือนตีนตุ๊กแก วาทิตพยายามแกะมือไปรมาออก พร้อมต่อว่า

   “ปล่อยนะ ไอ้มา แกจะบ้าหรือไง เป็นสาวเป็นแส้มาขี่หลังผู้ชาย ไป๊ ลงไป๊”

  “ว่ามาเป็นแส้ก็ต้องตีน่ะซี้”พลางใช้มือหวดก้นอีกฝ่ายไม่ยั้ง วาทิตพยายามแกะให้หลุด เขาทำโยกตัวไปมา ทำให้เด็กสาวเหวี่ยงตามแรง หากยังมือกอดอย่างเหนียวแน่น จนวาทิตด่า

 “ไอ้หมามา”

  “ว่าเป็นหมาก็ต้องกัดน่ะซี้”ขาดคำ หล่อนกัดหมับที่ใบหูของอีกฝ่าย จนจมเขี้ยว วาทิตแหกปากร้องขอความช่วยเหลือจากมารดาลั่นบ้าน รู้สึกเจ็บหูเหมือนจะขาด

 “แม้…แม่ แม่ช่วยด้วยไอ้หมามาเป็นบ้ากัดหูผมแล้วแม่ โอ๊ย...โอ๊ย”

 แทนที่จะช่วยลูก ป้าหวานกับจ่าเข้มกลับหัวเราะชอบใจ ส่วนปานทองเอ็ดลูกสาวมาจากหน้าบ้านตัวเอง

  “ไปรมาหยุดเดี๋ยวนี้นะ”เด็กสาวได้ยินเสียงดุจากมารดา จึงปล่อยอีกฝ่าย แล้วกระโดดแผล็วข้ามรั้วกลับมายังถิ่นตน หล่อนมีความปราดเปรียว รวดเร็วจนวาทิตคว้าจับไม่ทัน

   เมื่อเป็นต่อแล้วไปรมายังแผลงฤทธิ์ ทำย่อเข่าเต้นระบำลิงหลอกวาทิตอย่างสนุกสนาน ยิ่งทำให้อีกฝ่ายโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่เอาเรื่องอีกฝ่ายไม่ได้สักอย่าง  ครั้นจะยอมง่ายก็เสียเชิง วาทิตจึงกระโจนไปที่รั้ว แล้วทำแยกเขี้ยวเหมือนจะกัด  เด็กสาวจึงเผ่นแนบไปรวบรวมหนังสือ วิ่งหนีเข้าบ้าน แต่ก็ถูกมารดาหยิกลงโทษทีหนึ่ง

เมื่อคู่กรณีหลบไปแล้ว วาทิตจึงหิ้วกระเป๋าเข้าบ้านโดยที่ป้าหวานหยอกมาอย่างอารมณ์ดีว่า  

  “แพ้เจ้ามาตามเคย”

   วาทิตยิ้มรับกับบิดามารดา กล่าวเสียงอ่อนเมื่อพาดพิงไปถึงไปรมา

  “ยอมให้มันสักคน”พลางทำสูดจมูกเขาปอดแรงๆ เพราะ เขาได้กลิ่นอาหารโปรด

 “แม่เจียวไข่กระเทียมใช่มั้ยครับ ...หอมจัง”

 ไข่เจียวของป้าหวานเป็นสูตรที่ชายหนุ่มโปรดนัก คือเจียวกระเทียมพอเหลือง ตีไข่ลงเจียวทับพลิกกลับโดยไม่ให้กระเทียมไหม้ ราดพริกน้ำปลา ผสมมะนาวและหัวหอมลงไป ซึ่งเป็นอาหารที่วาทิตกินได้ไม่เบื่อ

 “เจ้ามาก็เจียวอร่อย”

 “ทำเป็นแต่ไข่เท่านั้นแหละหลานสาวแม่”

 “แกชอบกินแต่ไข่ เจ้ามาทำได้แค่นั้นก็พอแล้วนี่”

 “เจ้ามามันเป็นผู้หญิงทำเป็นแต่ไข่เจียว ต่อไปเป็นแม่เหย้าแม่เรือนคงถูกผู้ชายทิ้งแน่ เพราะไม่มีเสน่ห์ปลายจวัก”

  “แล้วแกจะทิ้งมันหรือเปล่าล่ะวา”ป้าหวานสัพยอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างทีเล่นทีจริง

 “โธ่...เกี่ยวอะไรกับผมล่ะครับแม่”เขาคราง“สเปกผม ขาวสวย เรียบร้อยเหมือนเสื้อตราห่านที่พับไว้ ที่สำคัญงานบ้านงานเรือนเก่งทุกอย่าง”

  สิ่งที่วาทิตต้องการ นั่นคือสิ่งที่ไกลตัวไปรมา ผู้ซึ่งมีความขยันขันแข็ง แต่งานฝีมือซึ่งเป็นพวกเย็บปักถักร้อยยังมาอ้อนพี่วาให้ช่วย

   ป้าหวานถอนใจยาว เพราะเข็นให้ลูกผูกสมัครรักใคร่กับเด็กสาวในฐานะคนรักไม่ขึ้น

   

  ที่ห้องของปานทอง ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดสี่ คูณ สี่เมตร จัดเรียบง่ายตามความจำเป็น เตียงเดี่ยวขนาดสามฟุตตั้งชิดมุม ข้างหัวเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักจัดเก็บเอกสารที่จำเป็น ของมีค่าเก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิดในเซฟซึ่งซุกไว้ใต้เตียงนอน แม้เวลานี้จะเป็นเวลาดึกมาก แต่หญิงหม้ายยังนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องในอดีต แม้เวลาผ่านมาถึงสิบปีก็มิอาจลืมได้ลง วันนี้นางรู้สึกเจ็บแปลบราวพึงเกิดเมื่อวันวาน

 แสงไฟจากห้องมารดา ส่องลอดเข้ามาในห้องของไปรมาจากช่องประตู ทำให้เด็กสาวแปลกใจจนขยับกายลุกจากเตียงนอนเดินออกไปยังห้องของมารดา ไปถึงก็เปิดประตูห้องเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ผู้ให้กำเนิดขยับกายนั่งห้อยขา ส่งยิ้มให้ลูกสาว แต่ดูเนือยนักในสายตาของไปรมา ความเป็นห่วงจึงทำให้เด็กสาวเข้าไปนั่งใกล้  พร้อมเอนกายเข้าสวมกอดมารดา แนบหน้ากับอกนุ่มอย่างแสนรัก ปานทองยกมือลูบผมยาวปล่อยสยายหยิกเป็นคลื่นเพราะเจ้าตัวมักจะถักเปียอยู่เสมอ ความรู้สึกของมารดาคือสิ่งที่ไปรมาแคร์มากที่สุด หล่อนพร้อมจะแก้ไขถ้าสิ่งนั้นทำให้มารดาเสียใจ

 “เป็นอะไรจ๊ะ แม่จ๋าหรือว่า...มาดื้อจนแม่กลุ้ม”

  ผู้เป็นแม่ก้มจูบเรือนผมลูกสาวด้วยความเอ็นดู เพราะถึงจะแก่นแก้วมากเพียงไหน แต่ไปรมาคนนี้รักมารดาอย่างเหลือเกิน  ไปรมาปล่อยแขนจากการกอดรัด เงยหน้ามองมารดาจึงได้เห็นว่า ดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำหล่อรื้นเต็มขอบตาม เด็กสาวใจไม่ดีเอาเสียเลย หากยังไม่ได้ถามต่อ ปานทองเป็นฝ่ายบอกลูก ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า  

  “เห็นมาโตขึ้นทุกวันแล้วทำให้แม่อดนึกถึงน้องไม่ได้ ไม่รู้ว่าน้องจะสุขสบายดีหรือเปล่า”

  ไปรมาสะกิดใจ จนภาพในอดีตหวนขึ้นในห้วงนึกอย่างลางเลือน ไปรมาสาบาน จะจงเกลียด บิดาคือ ปราบ จนตาย เพราะเขาทำร้ายคนที่ได้ชื่อว่าภรรยา ทั้งร่างกายและจิตใจ ก็เขาไม่ใช่หรือที่ผลักดันโชคชะตาให้พี่น้องขาดจากกัน การพลิกผันของชีวิต  จากฐานะของคุณหนูไปรมาของบ้านจันทร์เรืองรอง  กลับกลายมาเป็นคนไม่มีบ้านอยู่ ความขุ่นแค้นที่ลืมไปนานแล้วผุดขึ้นมาเป็นฟองน้ำเดือด ไปรมาเม้มริมฝีปากแน่นกล่าวประชดใครบางคน

 “คุณหนูปารมีเขาไม่ลำบากอย่างเราหรอกแม่”

 “แต่ ภัสสร ภรรยาใหม่ของคุณพ่อเป็นคนใจร้าย”

 “ไม่มีใครร้ายเกินเขาหรอกค่ะ”คำพูดของไปรมาทำให้ปานทองค่อยคลาย ความวิตกลงบ้าง เขาที่ลูกกล่าวถึงด้วยน้ำเสียงค่อนไปทางชังคือ ปราบ บิดาผู้ให้กำเนิดไปรมา และปารมี

   “จริงสินะ แม่ไม่น่าห่วงมี เพราะคุณพ่อรักพวกหนูมาก”

   “มาเป็นพวกแม่ต่างหาก และมาก็รักแม่อย่างสุดหัวใจด้วย แม่ห้ามคิดถึงใครมากกว่ามาเด็ดขาด”เด็กสาวกล่าวติดงอนปนบึ้ง ทำให้ปานทองเอ็นดูจนต้องดึงเข้ามากอดรัดโดยแน่น นางรักปนหมั่นเขี้ยวในความเจ้าคิดเจ้าแค้นของลูกสาวคนโต ฝังจมูกจูบหน้าผากกว้างสวยแรงๆให้สมรักที่มีเต็มอก พลางสรรพยอกว่า

 “เจ้ามาจอมเฮี้ยวคนนี้ จะยอมใครได้บ้างล่ะเนี่ย”

 “มายอมแม่คนเดียว อ้อ ป้าหวานกับลุงจ่าสุดรักอีกคน”

 “เอ แล้วพี่วาก็ไม่ยอมหรือลูก”

  “ยิ่งพี่วายิ่งยอมไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวเคยตัว”

  ปานทองยิ้มในสีหน้าไม่ขัดคอ ในความอวดเก่งของไปรมา เพราะปากบอกว่าไม่ยอม แต่นางก็รู้ ดีว่า วาทิตเป็นคนเดียวที่ไปรมายอม แต่ก็มีเรื่องยั่วไม่เลิก อย่างเรื่องในวันนี้ที่เผลอไปกัดหูพี่เลี้ยงให้เจ็บตัว นางเชื่อได้เลยว่าพรุ่งนี้ไปรมาจะต้องหาเรื่องไปง้ออีกฝ่ายจนได้ เพราะไปรมานั่นแหละ เป็นคนทำให้วาทิตเคยตัวมานานแล้ว เรื่องเป็นฝ่ายถูกง้อ

  “ไปนอนเถอะลูก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”นางไล่ลูกสาวให้ไปนอน ไปรมาจึงปล่อยมารดา พลางหอมแก้มนุ่มของมารดาคราหนึ่ง ผุดลุกขึ้นกล่าวสำทับ ก่อนออกจากห้อง

 “คิดถึงมาคนเดียวห้ามไม่ให้คิดถึงคุณหนูคนไหนเด็ดขาด อ้อ แต่มาอนุญาตให้คิดถึงหนุ่มๆได้นะจ๊ะ”

    “ไม่เอาลูก แก่แดดใหญ่แล้ว”นางต่อว่า แต่ไปรมาหัวเราะคิกคักเดินออกจากห้องไป เมื่อลูกสาวปิดประตูแล้วปานทองก็มิอาจข่มตาให้หลับได้ลง ภาพเหตุการณ์ในอดีตผุดขึ้นในมโนสำนึก


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (63 รายการ)

www.batorastore.com © 2024