Customer Reviews

กับข้าวไทยจานยำ
หนังสือ กับข้าวไทยจานยำ เป็นหนังสือที่รวบรวมเอา เมนูเด็ดๆ แสบๆ ที่รสชาติอร่อยๆไว้มากมายโดยในเล่มถูกรวมรวมสูตรเมนูอาหารที่เป็นยำที่มีส่วนผสมของสมุนไพร โดยเป็นผลงานการเขียนของ ศิริลักษณ์ รอตยันต์ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และมีเนื้อหาที่ครบถ้วนตั้งแต่รายละเอียดของเครื่องปรุง ส่วนประกอบและวิธีทำโดยละเอียด พร้อมภาพตัวอย่างประกอบชัดเจน โดยอยู่ในรูปแบบประเภทของยำหลายรูปแบบที่เป็นเมนูเด็ดๆทั้งนั้นเลยคับ เช่น ยำสามกรอบ ยำสมุนไพร ยำปลาทอดยำมันแกว ยำพริกหนุ่ม ยำเต้าหู้ทอด และอื่นๆ อีกมากมายในเล่ม เรียกว่าคนคนที่ชอบอาหารประเภทยำเลือกนำเมนูต่างๆที่อยากทาน นำสูตรในเล่มไปทำทานกันได้เองเลยคับ
ตัวผมเองนิถือว่าเป็นนักชิมตัวยงได้เลยนะคับ เพราะว่าถ้ามีเวลาว่างๆเมื่อไหร่เป็นไม่ได้เลยคับ ต้องออกไปหาของอร่อยๆทานตลอดดดด จนบางที่น้ำหนักขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ แต่พอรู้ตัวว่าการทานเยอะทำให้ผมน้ำหนักขึ้นผมก็ไม่ได้หยุดทานต่อนะคับ(ก็มันเป็นความสุข ขอสักเรื่องที่ทำแล้วมีความสุขคับ หนึ่งในชีวิตของทุกคนก็คือเรื่องกินใช่ไหมล่ะ 5555) เพราะเราสามารถเลือกทานได้แบบอร่อยๆแต่ไม่อ้วนได้นิคับ เมนูอาหารที่ผมโปรดปรานหนึ่งในนั้นก็คือ อาหารจำพวกยำๆ นิแหละคับ (ไม่งั้นคงไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาหรอก ฮ่าๆๆ) อาหารประเภทนี้เหตุผมที่ทำให้ผมชอบกินก็เพราะมีให้เราเลือกทานมากมายเลยคับ ไม่น่าเบื่อและไม่เลี้ยนด้วย ผิดกับอาหารเดียวนี้ที่ใส่กะทิ กับใส่น้ำมันเยอะเหลือเกินคับ อดขยาดไม่ได้เลย และอาหารประเภทยำๆนิก็ หาทานและทำทานเองไม่ยากด้วย (แต่จะอร่อยไหมนั่นก็อีกเรื่องนึงคับ)
และหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณรู้ว่ามีเมนูน่ารับประทานอีกมากมายที่เป็นอาหารประเภทยำๆ ทั้งหลาย น่ากินทั้งนั้นเลยคับ แถมบางเมนูยังเหมาะกับคุณๆที่รักสุขภาพอีกด้วยคับ คงจะดีถ้าช่วงเวลาของความสุขที่เรามีคือเรื่องกิน และจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้ทานอะไรอร่อยๆ หรือทำทานเองได้อย่างอร่อยกันได้ทั้งในครอบครัว เล่มนี้เลยคับที่ผมแนะนำให้คนที่ชอบทานอาหารประเภทยำๆแบบผม มาแซบบบบบบบ ไปด้วยกันนะคับ หยุดรับประทานอาหารที่อร่อยแต่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเถอะคับ อาหารประเภทยำเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ชอบในเรื่องของการดูแลสุขภาพเพราะอย่างน้อยๆนะคับ ในส่วนผสมของการปรุงอาหารก็มีพวก หัวหอม ตะไคร้ ใบผักชีหรืออื่นๆที่เป็นสมุนไพรอยู่แล้วแน่ๆ ได้ประโยชน์มากกว่าอาหารที่ทำจากกะทิเยอะเชื่อผม

กับข้าวไทยจานยำ
หนังสือ กับข้าวไทยจานยำ เป็นหนังสือที่รวบรวมเอา เมนูเด็ดๆ แสบๆ ที่รสชาติอร่อยๆไว้มากมายโดยในเล่มถูกรวมรวมสูตรเมนูอาหารที่เป็นยำที่มีส่วนผสมของสมุนไพร โดยเป็นผลงานการเขียนของ ศิริลักษณ์ รอตยันต์ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และมีเนื้อหาที่ครบถ้วนตั้งแต่รายละเอียดของเครื่องปรุง ส่วนประกอบและวิธีทำโดยละเอียด พร้อมภาพตัวอย่างประกอบชัดเจน โดยอยู่ในรูปแบบประเภทของยำหลายรูปแบบที่เป็นเมนูเด็ดๆทั้งนั้นเลยคับ เช่น ยำสามกรอบ ยำสมุนไพร ยำปลาทอดยำมันแกว ยำพริกหนุ่ม ยำเต้าหู้ทอด และอื่นๆ อีกมากมายในเล่ม เรียกว่าคนคนที่ชอบอาหารประเภทยำเลือกนำเมนูต่างๆที่อยากทาน นำสูตรในเล่มไปทำทานกันได้เองเลยคับ
ตัวผมเองนิถือว่าเป็นนักชิมตัวยงได้เลยนะคับ เพราะว่าถ้ามีเวลาว่างๆเมื่อไหร่เป็นไม่ได้เลยคับ ต้องออกไปหาของอร่อยๆทานตลอดดดด จนบางที่น้ำหนักขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ แต่พอรู้ตัวว่าการทานเยอะทำให้ผมน้ำหนักขึ้นผมก็ไม่ได้หยุดทานต่อนะคับ(ก็มันเป็นความสุข ขอสักเรื่องที่ทำแล้วมีความสุขคับ หนึ่งในชีวิตของทุกคนก็คือเรื่องกินใช่ไหมล่ะ 5555) เพราะเราสามารถเลือกทานได้แบบอร่อยๆแต่ไม่อ้วนได้นิคับ เมนูอาหารที่ผมโปรดปรานหนึ่งในนั้นก็คือ อาหารจำพวกยำๆ นิแหละคับ (ไม่งั้นคงไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาหรอก ฮ่าๆๆ) อาหารประเภทนี้เหตุผมที่ทำให้ผมชอบกินก็เพราะมีให้เราเลือกทานมากมายเลยคับ ไม่น่าเบื่อและไม่เลี้ยนด้วย ผิดกับอาหารเดียวนี้ที่ใส่กะทิ กับใส่น้ำมันเยอะเหลือเกินคับ อดขยาดไม่ได้เลย และอาหารประเภทยำๆนิก็ หาทานและทำทานเองไม่ยากด้วย (แต่จะอร่อยไหมนั่นก็อีกเรื่องนึงคับ)
และหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณรู้ว่ามีเมนูน่ารับประทานอีกมากมายที่เป็นอาหารประเภทยำๆ ทั้งหลาย น่ากินทั้งนั้นเลยคับ แถมบางเมนูยังเหมาะกับคุณๆที่รักสุขภาพอีกด้วยคับ คงจะดีถ้าช่วงเวลาของความสุขที่เรามีคือเรื่องกิน และจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้ทานอะไรอร่อยๆ หรือทำทานเองได้อย่างอร่อยกันได้ทั้งในครอบครัว เล่มนี้เลยคับที่ผมแนะนำให้คนที่ชอบทานอาหารประเภทยำๆแบบผม มาแซบบบบบบบ ไปด้วยกันนะคับ หยุดรับประทานอาหารที่อร่อยแต่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเถอะคับ อาหารประเภทยำเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ชอบในเรื่องของการดูแลสุขภาพเพราะอย่างน้อยๆนะคับ ในส่วนผสมของการปรุงอาหารก็มีพวก หัวหอม ตะไคร้ ใบผักชีหรืออื่นๆที่เป็นสมุนไพรอยู่แล้วแน่ๆ ได้ประโยชน์มากกว่าอาหารที่ทำจากกะทิเยอะเชื่อผม

การฝึกสมาธิ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องของสมาธิ ผมว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรที่จะมีติดตัวกันทุกคนนะคับ เหมือนเสื้อผ้าที่ต้องสวมติดตัวกันเลยที่เดียว หากคุณคนไหนไม่มีสมาธิก็จะไม่มีสติคับ แล้วก็เหมือนคนออกนอกบ้านโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า (คงจะไม่น่าดูไม่น่ามองเลย สมาธิเป็นสิ่งที่เราควรเอาติดตัวออกไปพร้อมๆกับเสื้อผ้าถ้าเปลเรียบแบบนี้คงไม่มีใครกล้าลืมสมาธิไว้บ้านแน่ๆ 5555 ) สมาธิจะทำให้เราทำอะไรหลายๆอย่างได้ดีคับเพราะถ้าเราทำอะไรโดยไม่มีมีสมาธิก็อาจจะใจรอยคิดโน่นนินั้นจนจิตใจเตลิดไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ใช่ไหมคับ สมาธิจึงเป็นเรื่องที่คุณๆควรหันมาฝึกและทำให้ได้อย่างจริงจังกันได้แล้ว หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้การฝึกสมาธิของคุณสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นคับ
เพราะทุกวันนี้โลกเราและการใช่ชีวิตอยู่ในแต่ละวันมีแต่เรื่องที่วุ่นวายมากมายเลยทีเดียวคับ สิ่งที่เราควรพกติดตัวอยู่ตลอกเวลาคือ “สติ” ที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามีสมาธิที่ดีก่อนคับ ดังนั้นวันนี้ผมขึงมีหนังสือดีๆมาแนะนำคุณๆที่กำลังอยากมีสติไว้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวกันอยู่ ตอนนี้ เหตุหนึ่งที่คนเราไม่มีสติเพราะเราขาดสมาธิคับ หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณสามารถฝึกสมาธิได้ดีกว่าที่คุณพยายามฝึกเองเพราะสมาธิไม่ได้ฝึกกันอย่างง่ายๆ และถ้าคนที่มีความใจร้อนยิ่งเป็นไปได้ยากคับ รวมถึงคนที่มีสมาธิสั้นเป็นอวัยวะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำไม่ได้นาน แปบเดี่ยวก็ ไม่สามารถอยู่กับสิ่งเหล่านั้นนานพอที่จะทำให้เสร็จสิ้นไปที่ละอย่าง หยิบโน่นนิดนิหน่อยไม่สำเร็จสักอย่าง ก็เพราะขาดสมาธิที่จะอยู่กับสิ่งนั้นๆจนสามารถทำมันให้มันสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จ
จึงเป็นฤกษ์งามยามดีแล้วคับ….เริ่มวันนี้ยิ่งดียิ่งเริ่มไวเท่าไหร่ยิ่งดีคับ หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงขั้นตอนที่จะทำให้คุณสามารถสร้างสมาธิที่ดีให้เกิดขึ้นได้คับ การฝึกสมาธิเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องสละเวลาเพื่อที่จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นจากเดิมเลยนะคับ เพราะถ้าเรามีสมาธิเราก็จะสามารถทำอะไรๆได้สำเร็จทุกอย่างที่ต้องการเรียกว่ามีสมาธิชีวิตดีขึ้นแน่นอน มีวิธีการที่จะให้คุณๆเลือกปฏิบัติและฝึกตามว่าจะสร้างสมาธิได้อย่างไรบ้าง เริ่มอย่างไรที่เป็นขั้นพื้นฐานของคนสมาธิสั้น 5555 (ผมคนหนึ่งที่อยากรู้คับ เพราะเป็นคนขี้กังวลโน่นนินั้นมากๆเลย เลยเวลาทำอะไรไม่ค่อยจะมีสมาธิเหมือนใครเค้า) ผมว่าถ้าผมฝึกสมาธิได้ดีๆกว่านี้ อาจทำให้ผมมีชีวิตที่ดีกว่านี้แน่ๆ อย่างน้อยๆก็อาจทำให้แยกแยะช่วงเวลาไหนควรทำอะไรคิดอะไรก่อนหลังเรียบเรียงความสำคัญของสิ่ที่ควรทำได้ดีกว่านี้คับ

การฝึกสมาธิ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องของสมาธิ ผมว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรที่จะมีติดตัวกันทุกคนนะคับ เหมือนเสื้อผ้าที่ต้องสวมติดตัวกันเลยที่เดียว หากคุณคนไหนไม่มีสมาธิก็จะไม่มีสติคับ แล้วก็เหมือนคนออกนอกบ้านโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า (คงจะไม่น่าดูไม่น่ามองเลย สมาธิเป็นสิ่งที่เราควรเอาติดตัวออกไปพร้อมๆกับเสื้อผ้าถ้าเปลเรียบแบบนี้คงไม่มีใครกล้าลืมสมาธิไว้บ้านแน่ๆ 5555 ) สมาธิจะทำให้เราทำอะไรหลายๆอย่างได้ดีคับเพราะถ้าเราทำอะไรโดยไม่มีมีสมาธิก็อาจจะใจรอยคิดโน่นนินั้นจนจิตใจเตลิดไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ใช่ไหมคับ สมาธิจึงเป็นเรื่องที่คุณๆควรหันมาฝึกและทำให้ได้อย่างจริงจังกันได้แล้ว หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้การฝึกสมาธิของคุณสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นคับ
เพราะทุกวันนี้โลกเราและการใช่ชีวิตอยู่ในแต่ละวันมีแต่เรื่องที่วุ่นวายมากมายเลยทีเดียวคับ สิ่งที่เราควรพกติดตัวอยู่ตลอกเวลาคือ “สติ” ที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามีสมาธิที่ดีก่อนคับ ดังนั้นวันนี้ผมขึงมีหนังสือดีๆมาแนะนำคุณๆที่กำลังอยากมีสติไว้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวกันอยู่ ตอนนี้ เหตุหนึ่งที่คนเราไม่มีสติเพราะเราขาดสมาธิคับ หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณสามารถฝึกสมาธิได้ดีกว่าที่คุณพยายามฝึกเองเพราะสมาธิไม่ได้ฝึกกันอย่างง่ายๆ และถ้าคนที่มีความใจร้อนยิ่งเป็นไปได้ยากคับ รวมถึงคนที่มีสมาธิสั้นเป็นอวัยวะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำไม่ได้นาน แปบเดี่ยวก็ ไม่สามารถอยู่กับสิ่งเหล่านั้นนานพอที่จะทำให้เสร็จสิ้นไปที่ละอย่าง หยิบโน่นนิดนิหน่อยไม่สำเร็จสักอย่าง ก็เพราะขาดสมาธิที่จะอยู่กับสิ่งนั้นๆจนสามารถทำมันให้มันสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จ
จึงเป็นฤกษ์งามยามดีแล้วคับ….เริ่มวันนี้ยิ่งดียิ่งเริ่มไวเท่าไหร่ยิ่งดีคับ หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงขั้นตอนที่จะทำให้คุณสามารถสร้างสมาธิที่ดีให้เกิดขึ้นได้คับ การฝึกสมาธิเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องสละเวลาเพื่อที่จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นจากเดิมเลยนะคับ เพราะถ้าเรามีสมาธิเราก็จะสามารถทำอะไรๆได้สำเร็จทุกอย่างที่ต้องการเรียกว่ามีสมาธิชีวิตดีขึ้นแน่นอน มีวิธีการที่จะให้คุณๆเลือกปฏิบัติและฝึกตามว่าจะสร้างสมาธิได้อย่างไรบ้าง เริ่มอย่างไรที่เป็นขั้นพื้นฐานของคนสมาธิสั้น 5555 (ผมคนหนึ่งที่อยากรู้คับ เพราะเป็นคนขี้กังวลโน่นนินั้นมากๆเลย เลยเวลาทำอะไรไม่ค่อยจะมีสมาธิเหมือนใครเค้า) ผมว่าถ้าผมฝึกสมาธิได้ดีๆกว่านี้ อาจทำให้ผมมีชีวิตที่ดีกว่านี้แน่ๆ อย่างน้อยๆก็อาจทำให้แยกแยะช่วงเวลาไหนควรทำอะไรคิดอะไรก่อนหลังเรียบเรียงความสำคัญของสิ่ที่ควรทำได้ดีกว่านี้คับ

กินดื่มต้านมะเร็ง
หนังสือ กินดื่มต้านมะเร็ง เป็นหนังสือที่รวบรวมเมนูอร่อยๆ ทำทานเองได้และพูดถึงเนื้อหาของเรื่องการดูแลร่างกายให้พ้นจากโรคมะเร็งได้ด้วยการเลือกทานอาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นหนังสือรักสุขภาพดีๆอีกเล่มที่ทุกคนน่าจะหามาอ่านกันนะคับ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่ามองข้ามเลย และหนังสือเล่มนี้จะพาคุณให้หันมาดูแลร่างกายให้ต้านทานโรคร้ายโดยผ่านการรับประทานเมนูสุขภาพทั้งหมดกว่า 48 เมนู ร่วทั้งพูดถึงการปฏิบัติตัวอย่างไรให้เราห่างไกลโรคมะเร็งอีกด้วยคับ
ทุกคนคงไม่อยากที่จะเป็นมะเร็งกันใช่ไหมคับเพราะคงน่าเศร้ามากๆที่ชีวิตเกิดมาต้องมาเป็นโรคร้ายแบบนี้วันนี้ผมเลยนำหนังสือดีๆมาฝากกันคับเล่มนี้เลยอ่านแล้วห่างไกลมะเร็งแน่นอน ถึงแม้ว่าปัจจุบันเราจะต้องเจอกับอะไรมากมาย ทั้งควันพิษจากรถ หรือจากการได้สูดควันบุหรี่โดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจจากคนรอบข้างที่อาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ แสงจากดวงอาทิตย์ ที่แผดเผาผิวของเรา สารเคมีจากการใช้เครื่องสำอางค์ของคุณสาวๆ ที่รักสวยรักงามกัน ทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างมานี้แหล่ะคับคือช่องทางลัดของการที่เราจะเป็นมะเร็งได้ทั้งนั้น และอีกเรื่องที่เราเลี่ยงลำบากที่สุดคือเรื่องของการกิน เพราะชีวิตคนเราต้องดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการบริโภคอาหารที่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าไปอยู่ในร่างกายและทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้
หากแต่ว่าเดี่ยวนี้อาหารมากมายถึงแม้ว่ารสชาติอร่อยถูกปากก็จริงคับแต่ความอร่อยเหล่านั้นแฝงมากับภัยร้ายที่จะเป็นสารสะสมในร่างกายเราที่อาจนำพาเราให้เป็นโรคร้ายได้ หนังสือเล่มนี้จึงนำเอาสูตรเมนูอาหารต้านมะเร็งมาหมายถึง 48 สูตร มาบอกต่อสู่พวกเราผู้ที่ชอบอ่านหนังสือดูแลสุขภาพกันคับ เนื้อหาในเล่มจะพูดถึงการกินอยู่อย่างไรให้ห่างไกลโรคมะเร็งคับ ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆคับ สำหรับคนที่ชอบในเรื่องของการกินอาหารหลากหลาย แต่ไม่รู้ว่าอาหารแบบไหนที่ทำให้สะสมในร่างกายและเกิดโรคมะเร็งได้บ้าง มาอ่านหนังสือเล่มนี้กันนะคับและคุณจะรู้ว่าการดูแลตัวเองเรื่องของการกินอาหารให้ช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้นั้นต้องกินอาหารจำพวกไหน และอาหารจำพวกไหนที่ความหลีกเลี่ยง หรือไม่ควรทานเลยด้วยซ้ำก็ว่าได้เพื่อเป็นการศึกษาเพื่อให้รู้ทันโรคร้ายคับ เพราะทุกวันนี้โรคใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะมาก การที่เรารู้ตัวและระมัดระวังไว้ก่อนคงดีกว่าแน่นอนคับ ดีกว่ามารู้อีกทีก็เป็นโรคร้ายที่รักษายากไปเสียแล้ว(คงแย่สุดๆ )เพราะไม่ใช่แค่เราที่ต้องทรมานกับโรคร้ายนั้น คนที่เรารักและเค้ารักเราต้องมาดูแลและเป็นทุกข์กับเราไปด้วย เพราะเหตุที่ว่าเราไม่ดูแลตัวเองแค่นั้นหรอคับ คิดกันใหม่ได้แล้วนะคับ^^

กินดื่มต้านมะเร็ง
หนังสือ กินดื่มต้านมะเร็ง เป็นหนังสือที่รวบรวมเมนูอร่อยๆ ทำทานเองได้และพูดถึงเนื้อหาของเรื่องการดูแลร่างกายให้พ้นจากโรคมะเร็งได้ด้วยการเลือกทานอาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นหนังสือรักสุขภาพดีๆอีกเล่มที่ทุกคนน่าจะหามาอ่านกันนะคับ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่ามองข้ามเลย และหนังสือเล่มนี้จะพาคุณให้หันมาดูแลร่างกายให้ต้านทานโรคร้ายโดยผ่านการรับประทานเมนูสุขภาพทั้งหมดกว่า 48 เมนู ร่วทั้งพูดถึงการปฏิบัติตัวอย่างไรให้เราห่างไกลโรคมะเร็งอีกด้วยคับ
ทุกคนคงไม่อยากที่จะเป็นมะเร็งกันใช่ไหมคับเพราะคงน่าเศร้ามากๆที่ชีวิตเกิดมาต้องมาเป็นโรคร้ายแบบนี้วันนี้ผมเลยนำหนังสือดีๆมาฝากกันคับเล่มนี้เลยอ่านแล้วห่างไกลมะเร็งแน่นอน ถึงแม้ว่าปัจจุบันเราจะต้องเจอกับอะไรมากมาย ทั้งควันพิษจากรถ หรือจากการได้สูดควันบุหรี่โดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจจากคนรอบข้างที่อาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ แสงจากดวงอาทิตย์ ที่แผดเผาผิวของเรา สารเคมีจากการใช้เครื่องสำอางค์ของคุณสาวๆ ที่รักสวยรักงามกัน ทั้งหมดที่ผมยกตัวอย่างมานี้แหล่ะคับคือช่องทางลัดของการที่เราจะเป็นมะเร็งได้ทั้งนั้น และอีกเรื่องที่เราเลี่ยงลำบากที่สุดคือเรื่องของการกิน เพราะชีวิตคนเราต้องดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการบริโภคอาหารที่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าไปอยู่ในร่างกายและทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้
หากแต่ว่าเดี่ยวนี้อาหารมากมายถึงแม้ว่ารสชาติอร่อยถูกปากก็จริงคับแต่ความอร่อยเหล่านั้นแฝงมากับภัยร้ายที่จะเป็นสารสะสมในร่างกายเราที่อาจนำพาเราให้เป็นโรคร้ายได้ หนังสือเล่มนี้จึงนำเอาสูตรเมนูอาหารต้านมะเร็งมาหมายถึง 48 สูตร มาบอกต่อสู่พวกเราผู้ที่ชอบอ่านหนังสือดูแลสุขภาพกันคับ เนื้อหาในเล่มจะพูดถึงการกินอยู่อย่างไรให้ห่างไกลโรคมะเร็งคับ ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆคับ สำหรับคนที่ชอบในเรื่องของการกินอาหารหลากหลาย แต่ไม่รู้ว่าอาหารแบบไหนที่ทำให้สะสมในร่างกายและเกิดโรคมะเร็งได้บ้าง มาอ่านหนังสือเล่มนี้กันนะคับและคุณจะรู้ว่าการดูแลตัวเองเรื่องของการกินอาหารให้ช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้นั้นต้องกินอาหารจำพวกไหน และอาหารจำพวกไหนที่ความหลีกเลี่ยง หรือไม่ควรทานเลยด้วยซ้ำก็ว่าได้เพื่อเป็นการศึกษาเพื่อให้รู้ทันโรคร้ายคับ เพราะทุกวันนี้โรคใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะมาก การที่เรารู้ตัวและระมัดระวังไว้ก่อนคงดีกว่าแน่นอนคับ ดีกว่ามารู้อีกทีก็เป็นโรคร้ายที่รักษายากไปเสียแล้ว(คงแย่สุดๆ )เพราะไม่ใช่แค่เราที่ต้องทรมานกับโรคร้ายนั้น คนที่เรารักและเค้ารักเราต้องมาดูแลและเป็นทุกข์กับเราไปด้วย เพราะเหตุที่ว่าเราไม่ดูแลตัวเองแค่นั้นหรอคับ คิดกันใหม่ได้แล้วนะคับ^^

ขนมจีน
ขนมจีน อาหารทานยากเพราะว่าเส้นของมันลื่นปรื๊ดๆเลยเวลาตักใส่ปาก แต่เป็นอาหารที่หลายๆคนชอบทานกันนะคับ เพราะเดี๋ยวนี้มีทั้งเครื่องเคียงมากมายที่ทานร่วมกับขนมจีน และมีสูตรเด็ดน้ำยารสชาติต่างๆมากมายให้คนที่ชอบทานขนมจีนไม่เบื่อง่ายเหมือนแต่ก่อนแล้ว ว่าจะเป็น ขนมจีนตำรับยอดนิยม ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนแกงเผ็ดชนิดต่างๆ อธิบายส่วนประกอบ และวิธีทำอย่างละเอียดไว้แล้วในเล่มนี้คับ เหมาะกับคุณๆเจ้าของกิจการที่เปิดร้านขนมจีนเพื่อพัฒนารสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ในเล่มนี้ เรื่องราวของขนมจีนมากมายถูกบอกต่อผ่านงานเขียนของ บก. ศิริลักษณ์ รอตยันต์ ที่ทุกคนสามารถหาอ่านกันได้บนแผงหนังสือสูตรเมนูอาหารอร่อยทั่วไป
ผมก็ชอบกินนะคับขนมจีน เพราะเดี๋ยวนี้มีน้ำยาให้เลือกทานเป็นสิบๆ อย่างแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเส้นขนมจีนเพียงอย่างเดียวจะกินควบคู่ไปกับน้ำยาและเครื่องเคียงได้มากมายขนาดนี้ แต่เชื่อเถอะคับบรรดาแม่ค้าพ่อค้าที่ขายขนมจีน (แค่เส้นอย่างเดียวก็รวยแล้วจริงๆคับ) แต่ถ้าขายคู่กับน้ำยาก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะแต่ละร้านที่ผมไปนั่งกินไม่ต้องพูดเลยว่าคนเต็มร้านเลยคับ บ้างร้านเปิดแค่ไม่กี่ชั่วโมงคนก็มานั่งทานที่ร้าน และซื้อกลับบ้านไปทานกันจนของเกลี้ยงร้านแล้ว เดี๋ยวนี้มีเครื่องเคียงมากมายเลยคับเอาแบบที่ผมผ่านๆตาและเคยทานนะคับ ก็มี หัวปลีหั่นซอย ผักกาดดอง ใบแมงลัก ใบโหระพา แตงกวา ถั่วงอก โอ๊ยยยยยยยยยยย สารพัดคับมากมายเกินจะพิมพ์ไหว
แค่ในหนังสือเล่มนี้ก็มีสูตรมากมายแล้วคับไม่เชื่อเดี๋ยวผมจายกตัวอย่างสูตรเด็ดๆในเล่มนี้ให้คุณรู้คับ อย่าง
ขนมจีนน้ำยากะทิปลาช่อน - ขนมจีนน้ำยาป่า - ขนมจีนน้ำพริกกุ้งสด ฯลฯ ขนมจีนน้ำยา - ขนมจีนน้ำยาปู - ขนมจีนน้ำยาไก่ - ขนมจีนน้ำยาปลาทูน่า ฯลฯ ขนมจีนแกงเผ็ดและอื่นๆ - ขนมจีนแกงเนื้อพริกขี้หนู - ขนมจีนแกงหมู - ขนมจีนแกงเป็ด (เป็นไงคับนึกภาพตามแล้วหิวกันเลยใช่ไหมล่ะคับ 555) ผมเป็นคนพิมพ์ให้อ่านยังแอบกลืนน้ำลายเองเลย ยิ่งไปกว่านั้นสูตรต่างๆที่กล่าวมาคุณเองก็สามารถทำทานเองได้ง่ายๆเลยคับเพราะในเล่มได้แจงทั้งวัตถุดิบและเครื่องปรุงไว้หมดแล้วคับ ให้คุณที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารเมนุขนมจีน ได้ทำทานกันให้พุงกางกันไปเลยคับ ฮ่าๆๆๆ แล้วอย่าว่าผมนะคับที่เอามาแนะนำ ก็อะไรดีๆ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเอามาบอกต่อๆกันให้คนที่ชื่นชอบอะไรเหมือนๆกันได้รับรู้คับ (มันเป็นความสุขส่วนตัวคับ) เพราะเวลาอร่อยอะไรมาก็หุบปากไม่อยู่ที่จะบอกๆๆๆให้คนรอบข้างรูคับ(เป็นโรคจิตชนืดหนึ่งหรือป่าวเนี่ยผม 555)

ขนมจีน
ขนมจีน อาหารทานยากเพราะว่าเส้นของมันลื่นปรื๊ดๆเลยเวลาตักใส่ปาก แต่เป็นอาหารที่หลายๆคนชอบทานกันนะคับ เพราะเดี๋ยวนี้มีทั้งเครื่องเคียงมากมายที่ทานร่วมกับขนมจีน และมีสูตรเด็ดน้ำยารสชาติต่างๆมากมายให้คนที่ชอบทานขนมจีนไม่เบื่อง่ายเหมือนแต่ก่อนแล้ว ว่าจะเป็น ขนมจีนตำรับยอดนิยม ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนแกงเผ็ดชนิดต่างๆ อธิบายส่วนประกอบ และวิธีทำอย่างละเอียดไว้แล้วในเล่มนี้คับ เหมาะกับคุณๆเจ้าของกิจการที่เปิดร้านขนมจีนเพื่อพัฒนารสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ในเล่มนี้ เรื่องราวของขนมจีนมากมายถูกบอกต่อผ่านงานเขียนของ บก. ศิริลักษณ์ รอตยันต์ ที่ทุกคนสามารถหาอ่านกันได้บนแผงหนังสือสูตรเมนูอาหารอร่อยทั่วไป
ผมก็ชอบกินนะคับขนมจีน เพราะเดี๋ยวนี้มีน้ำยาให้เลือกทานเป็นสิบๆ อย่างแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเส้นขนมจีนเพียงอย่างเดียวจะกินควบคู่ไปกับน้ำยาและเครื่องเคียงได้มากมายขนาดนี้ แต่เชื่อเถอะคับบรรดาแม่ค้าพ่อค้าที่ขายขนมจีน (แค่เส้นอย่างเดียวก็รวยแล้วจริงๆคับ) แต่ถ้าขายคู่กับน้ำยาก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะแต่ละร้านที่ผมไปนั่งกินไม่ต้องพูดเลยว่าคนเต็มร้านเลยคับ บ้างร้านเปิดแค่ไม่กี่ชั่วโมงคนก็มานั่งทานที่ร้าน และซื้อกลับบ้านไปทานกันจนของเกลี้ยงร้านแล้ว เดี๋ยวนี้มีเครื่องเคียงมากมายเลยคับเอาแบบที่ผมผ่านๆตาและเคยทานนะคับ ก็มี หัวปลีหั่นซอย ผักกาดดอง ใบแมงลัก ใบโหระพา แตงกวา ถั่วงอก โอ๊ยยยยยยยยยยย สารพัดคับมากมายเกินจะพิมพ์ไหว
แค่ในหนังสือเล่มนี้ก็มีสูตรมากมายแล้วคับไม่เชื่อเดี๋ยวผมจายกตัวอย่างสูตรเด็ดๆในเล่มนี้ให้คุณรู้คับ อย่าง
ขนมจีนน้ำยากะทิปลาช่อน - ขนมจีนน้ำยาป่า - ขนมจีนน้ำพริกกุ้งสด ฯลฯ ขนมจีนน้ำยา - ขนมจีนน้ำยาปู - ขนมจีนน้ำยาไก่ - ขนมจีนน้ำยาปลาทูน่า ฯลฯ ขนมจีนแกงเผ็ดและอื่นๆ - ขนมจีนแกงเนื้อพริกขี้หนู - ขนมจีนแกงหมู - ขนมจีนแกงเป็ด (เป็นไงคับนึกภาพตามแล้วหิวกันเลยใช่ไหมล่ะคับ 555) ผมเป็นคนพิมพ์ให้อ่านยังแอบกลืนน้ำลายเองเลย ยิ่งไปกว่านั้นสูตรต่างๆที่กล่าวมาคุณเองก็สามารถทำทานเองได้ง่ายๆเลยคับเพราะในเล่มได้แจงทั้งวัตถุดิบและเครื่องปรุงไว้หมดแล้วคับ ให้คุณที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารเมนุขนมจีน ได้ทำทานกันให้พุงกางกันไปเลยคับ ฮ่าๆๆๆ แล้วอย่าว่าผมนะคับที่เอามาแนะนำ ก็อะไรดีๆ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเอามาบอกต่อๆกันให้คนที่ชื่นชอบอะไรเหมือนๆกันได้รับรู้คับ (มันเป็นความสุขส่วนตัวคับ) เพราะเวลาอร่อยอะไรมาก็หุบปากไม่อยู่ที่จะบอกๆๆๆให้คนรอบข้างรูคับ(เป็นโรคจิตชนืดหนึ่งหรือป่าวเนี่ยผม 555)

ขนมมงคลไทย
ปฏิเสธไม่ได้เลยคับว่าเดี๋ยวนี้ขนมไทยเรามีให้เลือกซื้อเลือกทานกันในรูปแบบที่น่าตาน่ากิน ยิ่งกว่าแต่ก่อนมากเลยคับ ขนมไทยมากมายที่ถูกนำมาใช้เป็นของฝากและใช้ในงานพิธีมงคลมากมาย วันนี้ผมก็เลยขอนำหนังสือ ขนมมงคลไทย มาบอกต่อกันให้ทุกคนที่ยังไม่ทราบถึงความหมายของตัวขนมไทยบางอย่าง เผื่อว่าจะซื้อไปฝากญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆ จะได้นำความหมายดีๆไปสู่พวกเค้าด้วยคับ เพราะขนมมงคลไทยมีความพิถีพิถันในการปรุงแต่งขึ้นมากว่าจะมาเป็นขนมไทยให้เราทานกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคับจากที่ผมอ่านดูแล้วในเล่ม บางอย่างนิต้องใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะได้ออกมาให้เราเห็นหน้าตาหน้าทานแบบนี้ (น่าชื่นชมคนทำจริงๆคับ) ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะเข้าใจเลยว่าทำไมขนมไทยเดี๋ยวนี้ถึงมีราคาแพงหนังสือเล่มนี้อาจทำให้คุณได้เห็นคุณค่าของขนมไทยมากขึ้นก็ได้นะคับ ^^
เพราะทุกวันนี้หลายอย่างที่เราทำนั้นทำด้วยความเชื่อบางอย่างที่สืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นยา ก็อาจมีส่วนและเรื่องของขนมไทยที่ผมน้ำมาบอกต่อก็เป็นอีกหนึ่งของศิลปะการบรรจงปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันที่สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นสิ่งดีงามคับที่ควรจะสืบต่อๆไปในรุ่นเรา ในหนังสือเล่มนี้พูดถึงขนมไทยที่มีความหมายมงคลมากมาย ที่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีต่างๆขาดไม่ได้เลยคับ จำพวกขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น ขนมเม็ดขนุน(อันนี้ชอบมากเลยคับบบบบ) ขนมทุกอย่างที่นำมาร่วมในพิธีมลคลต่างๆมักมีความหมายที่ผู้จัดงานอยากให้เกดความมงคลแกตัวผู้จัดเองละตัวผู้มาร่วมงาน
แต่มีหลายอย่างเลยนะคับที่หน้าตาน่าทานมากเลยที่ผมยังไม่รู้ความหมายของมันเลยว่า มีความหมายมงคลยังไง ขนมอาลัว กลีบลำดวน เปียกปูนดำ ขนมกล้วย สำปันนี ลูกชุบ ทับทิมกรอบ ขนมตาล วุ้นมะพร้าว และเมนูอื่นๆ อีกมากมายภายในเล่มหนังสือเล่มนี้ที่เหมากับคนที่ชอบทำขนมไทยอย่างจริงจัง เพราะไม่ใช่ใครก็ทำได้คับบางอ่างต้องใช้ใจรักคับถึงจะทำได้ เพราะวิธีทำยากกกกก มากเลยหลายขั้นตอนจริงๆกว่าจะเสร็จ…. คือถ้าไม่รักในการทำขนมไทยจริงๆ และมีความอดทนเพียงพอบอกเลยจ้า (อย่าคิดทำ) เพราะขนมมงคลเหล่านี้ต้องใช้ความประณีตมากคับ (งั้นเค้าคงไม่ให้สมยานามว่าขนมมงคลไทยได้หรอกคับ) ยังไงก็ไม่ควรพลาดเลยคับจะดีนะคับถ้าเรากินและรู้ความหมายดีๆของขนมไทยเหล่านี้ไปด้วย

ขนมมงคลไทย
ปฏิเสธไม่ได้เลยคับว่าเดี๋ยวนี้ขนมไทยเรามีให้เลือกซื้อเลือกทานกันในรูปแบบที่น่าตาน่ากิน ยิ่งกว่าแต่ก่อนมากเลยคับ ขนมไทยมากมายที่ถูกนำมาใช้เป็นของฝากและใช้ในงานพิธีมงคลมากมาย วันนี้ผมก็เลยขอนำหนังสือ ขนมมงคลไทย มาบอกต่อกันให้ทุกคนที่ยังไม่ทราบถึงความหมายของตัวขนมไทยบางอย่าง เผื่อว่าจะซื้อไปฝากญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆ จะได้นำความหมายดีๆไปสู่พวกเค้าด้วยคับ เพราะขนมมงคลไทยมีความพิถีพิถันในการปรุงแต่งขึ้นมากว่าจะมาเป็นขนมไทยให้เราทานกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคับจากที่ผมอ่านดูแล้วในเล่ม บางอย่างนิต้องใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะได้ออกมาให้เราเห็นหน้าตาหน้าทานแบบนี้ (น่าชื่นชมคนทำจริงๆคับ) ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะเข้าใจเลยว่าทำไมขนมไทยเดี๋ยวนี้ถึงมีราคาแพงหนังสือเล่มนี้อาจทำให้คุณได้เห็นคุณค่าของขนมไทยมากขึ้นก็ได้นะคับ ^^
เพราะทุกวันนี้หลายอย่างที่เราทำนั้นทำด้วยความเชื่อบางอย่างที่สืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นยา ก็อาจมีส่วนและเรื่องของขนมไทยที่ผมน้ำมาบอกต่อก็เป็นอีกหนึ่งของศิลปะการบรรจงปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันที่สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นสิ่งดีงามคับที่ควรจะสืบต่อๆไปในรุ่นเรา ในหนังสือเล่มนี้พูดถึงขนมไทยที่มีความหมายมงคลมากมาย ที่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีต่างๆขาดไม่ได้เลยคับ จำพวกขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น ขนมเม็ดขนุน(อันนี้ชอบมากเลยคับบบบบ) ขนมทุกอย่างที่นำมาร่วมในพิธีมลคลต่างๆมักมีความหมายที่ผู้จัดงานอยากให้เกดความมงคลแกตัวผู้จัดเองละตัวผู้มาร่วมงาน
แต่มีหลายอย่างเลยนะคับที่หน้าตาน่าทานมากเลยที่ผมยังไม่รู้ความหมายของมันเลยว่า มีความหมายมงคลยังไง ขนมอาลัว กลีบลำดวน เปียกปูนดำ ขนมกล้วย สำปันนี ลูกชุบ ทับทิมกรอบ ขนมตาล วุ้นมะพร้าว และเมนูอื่นๆ อีกมากมายภายในเล่มหนังสือเล่มนี้ที่เหมากับคนที่ชอบทำขนมไทยอย่างจริงจัง เพราะไม่ใช่ใครก็ทำได้คับบางอ่างต้องใช้ใจรักคับถึงจะทำได้ เพราะวิธีทำยากกกกก มากเลยหลายขั้นตอนจริงๆกว่าจะเสร็จ…. คือถ้าไม่รักในการทำขนมไทยจริงๆ และมีความอดทนเพียงพอบอกเลยจ้า (อย่าคิดทำ) เพราะขนมมงคลเหล่านี้ต้องใช้ความประณีตมากคับ (งั้นเค้าคงไม่ให้สมยานามว่าขนมมงคลไทยได้หรอกคับ) ยังไงก็ไม่ควรพลาดเลยคับจะดีนะคับถ้าเรากินและรู้ความหมายดีๆของขนมไทยเหล่านี้ไปด้วย

ขนมหม้อแกง
ถ้าจะพูดถึงขนมหม้อแกงนิไม่มีใครไม่รู้จักนะคับผมว่า เพราะน่าจะเคยทานกันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมขอเอาใจคนที่ชอบทาน ขนมหม้อแกง เป็นชีวิตจิตใจมาฝากกันคับ ผ่านหนังสือเล่มนี้ ขนมหม้อแกง ที่รวบรวมเมนูขนมหม้อแกงแสนอร่อยแบบต่างๆ ไว้มากมายหลายสูตรที่คุณเองก็สามารถลองทำกินเองได้นะคับ โดยเนื้อหาในเล่มนี้จะพูดถึงส่วนผสมและวิธีการทำขนมหม้อแกงสูตรต่างๆไว้อย่างละเอียดเลยคับ ถึงกลเม็ดเด็ดๆที่ทำให้ออกมาเป็นขนมหม้อแกงหลายรูปแบบที่แสนอร่อยให้เราได้ทานกันทุกวันนี้
ก่อนอื่นผมขอออกตัวเลยว่าชอบทานขนมหม้อแกงมากกกกกก… เลยคับที่เคยทานก็มี ขนมหม้อแกงสูตรต้นตำหรับธรรมดา แล้วก็สูตรที่ใส่เผือกคับเรียกไม่ถูกเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะหวานแสนหวานที่จะทำให้น้ำหนักผมขึ้นเอาๆใช่ช่วงที่กิน แต่…..ยอมคับ ^ ^ เพราะเวลาไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆที่เรื่องชื่อเรื่องขนมก็อดซื้อทานไม่ได้คับ ก็ทั้งหน้าตาขนมและกลิ่นชั่งเย้ายวนใจจริงเชียว (ผมพยายามแล้วที่จะเดินผ่านร้านไปเพราะในมือถือขนมอื่นๆอยู่) แต่ก็ทุกครั้งคับกลับมาตาบรังขนมอื่นก็เลยต้องให้คนอื่นรับผิดชอบไปเพราะผมได้ของที่ผมชอบทานแล้ว (เอาอะไรมาแรกก็ไม่ยอม ฮ่าๆๆ) นิเป็นที่มาที่ผมเองเลยอยากรู้ว่าขนมหม้อแกงนี่มันมีวีการทำอย่างไรน้า ?? ที่ทำให้ผมติดใจเสียจริง
เลยได้ไปเดินหาหนังสืออ่านคับ ที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญในการทำขนมหม้อแกงโดยเฉพาะ เพื่อจะได้หายคล่องใจซะที ใส่อะไรลงไปทำไมผมชอบบบบบบบ ๆ กินสุดๆเลย (จะว่าเว่อก็ได้คับ แต่ยอม) และในเล่มนี้ผมก็ไม่ผิดหวังคับ ได้รู้ลึกรู้จริงตั้งแต่การส่วนผสมจนถึงเสร็จกรรมวิธีการทำขนมหม้อแกงที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ (ยากนะคับถ้าถามผม แต่คนที่ชำนาญอาจบอกว่าง่ายนะคับ) ไม่ง่ายนะคับ มีหลายสูตรหลายชื่อเลยคับที่ไม่เคยเห็นไม่เคยกิน ขนมหม้อแกงถ้วยทอง (นิก็ชื่อดีนะคับ ถ้วยทองงง) ยังไงเทพๆเรื่องการทำขนมหวานไทยอย่าได้พลาดเลยคับเล่มนี้ ขนมหม้อแกง (ชื่อเป็นแกงๆแต่รสชาติหวานละมุนละไมมากคับ) ส่วนผมขอบายคับถ้าจะให้ทำทานเองคงเสียวัตถุดิบป่าวๆกว่าจะเสร็จ ไม่ไหม้ ก็อาจจะไม่สุกอ่าคับ ขอเป็นเพียงผู้นำพาสูตรความอร่อยมาฝากบรรดาเซียนๆที่ชื่นชอบการทำขนมไทยดีกว่าคับ

ขนมหม้อแกง
ถ้าจะพูดถึงขนมหม้อแกงนิไม่มีใครไม่รู้จักนะคับผมว่า เพราะน่าจะเคยทานกันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมขอเอาใจคนที่ชอบทาน ขนมหม้อแกง เป็นชีวิตจิตใจมาฝากกันคับ ผ่านหนังสือเล่มนี้ ขนมหม้อแกง ที่รวบรวมเมนูขนมหม้อแกงแสนอร่อยแบบต่างๆ ไว้มากมายหลายสูตรที่คุณเองก็สามารถลองทำกินเองได้นะคับ โดยเนื้อหาในเล่มนี้จะพูดถึงส่วนผสมและวิธีการทำขนมหม้อแกงสูตรต่างๆไว้อย่างละเอียดเลยคับ ถึงกลเม็ดเด็ดๆที่ทำให้ออกมาเป็นขนมหม้อแกงหลายรูปแบบที่แสนอร่อยให้เราได้ทานกันทุกวันนี้
ก่อนอื่นผมขอออกตัวเลยว่าชอบทานขนมหม้อแกงมากกกกกก… เลยคับที่เคยทานก็มี ขนมหม้อแกงสูตรต้นตำหรับธรรมดา แล้วก็สูตรที่ใส่เผือกคับเรียกไม่ถูกเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะหวานแสนหวานที่จะทำให้น้ำหนักผมขึ้นเอาๆใช่ช่วงที่กิน แต่…..ยอมคับ ^ ^ เพราะเวลาไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆที่เรื่องชื่อเรื่องขนมก็อดซื้อทานไม่ได้คับ ก็ทั้งหน้าตาขนมและกลิ่นชั่งเย้ายวนใจจริงเชียว (ผมพยายามแล้วที่จะเดินผ่านร้านไปเพราะในมือถือขนมอื่นๆอยู่) แต่ก็ทุกครั้งคับกลับมาตาบรังขนมอื่นก็เลยต้องให้คนอื่นรับผิดชอบไปเพราะผมได้ของที่ผมชอบทานแล้ว (เอาอะไรมาแรกก็ไม่ยอม ฮ่าๆๆ) นิเป็นที่มาที่ผมเองเลยอยากรู้ว่าขนมหม้อแกงนี่มันมีวีการทำอย่างไรน้า ?? ที่ทำให้ผมติดใจเสียจริง
เลยได้ไปเดินหาหนังสืออ่านคับ ที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญในการทำขนมหม้อแกงโดยเฉพาะ เพื่อจะได้หายคล่องใจซะที ใส่อะไรลงไปทำไมผมชอบบบบบบบ ๆ กินสุดๆเลย (จะว่าเว่อก็ได้คับ แต่ยอม) และในเล่มนี้ผมก็ไม่ผิดหวังคับ ได้รู้ลึกรู้จริงตั้งแต่การส่วนผสมจนถึงเสร็จกรรมวิธีการทำขนมหม้อแกงที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ (ยากนะคับถ้าถามผม แต่คนที่ชำนาญอาจบอกว่าง่ายนะคับ) ไม่ง่ายนะคับ มีหลายสูตรหลายชื่อเลยคับที่ไม่เคยเห็นไม่เคยกิน ขนมหม้อแกงถ้วยทอง (นิก็ชื่อดีนะคับ ถ้วยทองงง) ยังไงเทพๆเรื่องการทำขนมหวานไทยอย่าได้พลาดเลยคับเล่มนี้ ขนมหม้อแกง (ชื่อเป็นแกงๆแต่รสชาติหวานละมุนละไมมากคับ) ส่วนผมขอบายคับถ้าจะให้ทำทานเองคงเสียวัตถุดิบป่าวๆกว่าจะเสร็จ ไม่ไหม้ ก็อาจจะไม่สุกอ่าคับ ขอเป็นเพียงผู้นำพาสูตรความอร่อยมาฝากบรรดาเซียนๆที่ชื่นชอบการทำขนมไทยดีกว่าคับ

ขนมหวานไทย
มาแล้วจ้า ๆ วันนี้ขอเป็นพ่อค้าขนมหวานสักวันนะคับเพราะขนมหวานเป็นสิ่งที่ทุกคน ชื่นชอบไม่เลือกว่าจะช่วงอายุไหนก็ชอบทานกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นขนมหวานไทยๆยิ่งทำให้น้ำลายสอเลยคับ (ก็เป็นคนชอบเติมความหวานให้ตัวเองอ่ะคับ ฮ่าๆๆๆ ก้ว่าไปเนอะบ้าบอจริงผม) วันนี้คับผมมีหนังสือดีๆมาแนะนำคับสำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำขนมหวานไทยๆทานเอง หรือทำขายเป็นอาชีพ เล่มนี้เลยคับไท้ควรพลาดในบรรดาหนังสือที่บอกสูตรเมนูขนมไทยอร่อยๆ หลายๆเล่ม ชื่อหนังสือ ขนมหวานไทย คับเป็นผลงานเรียบเรียงเขียนมาเป็นหนังสือที่มีประโยชน์สำหรับคนชอบทำขนม เป็นงานเขียนที่มากด้วยคุณประโยชน์จริงๆของผศ. อภิญญา มานะโรจน์ ที่นำสูตรขนมไทย4 ประเภทมาบอกต่อกันไม่ว่าจะเป็น แกงบวชกะทิ ขนมเปียก ขนมต้มน้ำตาล ขนมลอยแก้ว น้ำตาลที่ผสมและไม่ผสมกะทิ และประเภทขนมเชื่อม มาบอกต่อกัน
โดยเนื้อหาในเล่มนี้นะคับจะมีการพูดถึงเมนูขนมไทยมากมาย และรายละเอียดของส่วนผสม อุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำขนม และวิธีการทำอย่างละเอียด มาครบมาเต็มคับ บอกกระทั้งอุปกรณ์ (บางเล่มไม่ได้กล่าวถึงอุปกรณ์เลยว่าใช้อะไรบ้างที่จะทำขนม) ดีคับสาระเต็มคนที่ซื้อไปอ่านไม่ผิดหวังแน่ๆ ในเล่มก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแหล่ะคับ ว่ามีสูตรและวิธีการทำขนมหวานไทยไว้ ทั้งหมด 4 ประเภทใหญ่ๆเลยคับแต่ละประเภทเดี๋ยวผมจะแจงให้รู้ทั่วหน้ากันพอสังเขปแล้วกันเผื่อใครสนใจจะได้ไปหามาอ่านและทดลองทำกันก็เอาเป็นว่าเริ่มที่ประเภทแกงบวชกะทิก่อนเลยแล้วกันนะคับ ก็เป็นเมนูที่เราทานๆกันมาแหละคับ กล้วยบวชชี แกงบวชเผือก กล้วยไข่บวชชี (ที่ต่างจากที่เราเคยทานหน้าจะเป็นเคล็ดรับที่ในหนังสือบอกไว้คับแต่ละเมนู) ต่อมาประเภทขนมเปียก มีข้าวโพดเปียกมะพร้าวอ่อน (อันนี้ผมยังไม่เคยทานคับแต่หน้ากินมากกกบอกเลย) ข้าวฟ่างบวช (นิก็ยังนะ) ข้าวเม่าเปียนกมะพร้าวกะทิ (โหหห…อันนี้แล้วเข้าไปใหญ่ไม่เคยเลยเมนูแปลกๆเค้าเยอะดีจัง) และมาถึงเมนูต้มน้ำตาลกันบ้างคับ ไข่หวานน้ำขิง ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ถั่วแดงต้มน้ำตาล (อันนี้เคยเห็นเคยลองทานแล้วคับ) และสุดท้ายท้ายสุดสำหรับประเภทสุดท้ายคือประเภทเชื่อมคับ มีกล้วยไข กล้วยน้ำว้า และจาวตาลเชื่อคับ ก็ประมาณนี้นะคับหากสนใจในเมนูที่ผมเกริ่นๆไปก็ไปหามาอ่านกันเลยคับเพราะนิแค่ส่วนน้อยยยยย ของเล่มที่ผมนำมาบอกต่อเท่านั้นเองของจริงเค้าจัดเต็มเมนูขนมไทยแปลกๆเยอะมาก

ขนมหวานไทย
มาแล้วจ้า ๆ วันนี้ขอเป็นพ่อค้าขนมหวานสักวันนะคับเพราะขนมหวานเป็นสิ่งที่ทุกคน ชื่นชอบไม่เลือกว่าจะช่วงอายุไหนก็ชอบทานกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นขนมหวานไทยๆยิ่งทำให้น้ำลายสอเลยคับ (ก็เป็นคนชอบเติมความหวานให้ตัวเองอ่ะคับ ฮ่าๆๆๆ ก้ว่าไปเนอะบ้าบอจริงผม) วันนี้คับผมมีหนังสือดีๆมาแนะนำคับสำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำขนมหวานไทยๆทานเอง หรือทำขายเป็นอาชีพ เล่มนี้เลยคับไท้ควรพลาดในบรรดาหนังสือที่บอกสูตรเมนูขนมไทยอร่อยๆ หลายๆเล่ม ชื่อหนังสือ ขนมหวานไทย คับเป็นผลงานเรียบเรียงเขียนมาเป็นหนังสือที่มีประโยชน์สำหรับคนชอบทำขนม เป็นงานเขียนที่มากด้วยคุณประโยชน์จริงๆของผศ. อภิญญา มานะโรจน์ ที่นำสูตรขนมไทย4 ประเภทมาบอกต่อกันไม่ว่าจะเป็น แกงบวชกะทิ ขนมเปียก ขนมต้มน้ำตาล ขนมลอยแก้ว น้ำตาลที่ผสมและไม่ผสมกะทิ และประเภทขนมเชื่อม มาบอกต่อกัน
โดยเนื้อหาในเล่มนี้นะคับจะมีการพูดถึงเมนูขนมไทยมากมาย และรายละเอียดของส่วนผสม อุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำขนม และวิธีการทำอย่างละเอียด มาครบมาเต็มคับ บอกกระทั้งอุปกรณ์ (บางเล่มไม่ได้กล่าวถึงอุปกรณ์เลยว่าใช้อะไรบ้างที่จะทำขนม) ดีคับสาระเต็มคนที่ซื้อไปอ่านไม่ผิดหวังแน่ๆ ในเล่มก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแหล่ะคับ ว่ามีสูตรและวิธีการทำขนมหวานไทยไว้ ทั้งหมด 4 ประเภทใหญ่ๆเลยคับแต่ละประเภทเดี๋ยวผมจะแจงให้รู้ทั่วหน้ากันพอสังเขปแล้วกันเผื่อใครสนใจจะได้ไปหามาอ่านและทดลองทำกันก็เอาเป็นว่าเริ่มที่ประเภทแกงบวชกะทิก่อนเลยแล้วกันนะคับ ก็เป็นเมนูที่เราทานๆกันมาแหละคับ กล้วยบวชชี แกงบวชเผือก กล้วยไข่บวชชี (ที่ต่างจากที่เราเคยทานหน้าจะเป็นเคล็ดรับที่ในหนังสือบอกไว้คับแต่ละเมนู) ต่อมาประเภทขนมเปียก มีข้าวโพดเปียกมะพร้าวอ่อน (อันนี้ผมยังไม่เคยทานคับแต่หน้ากินมากกกบอกเลย) ข้าวฟ่างบวช (นิก็ยังนะ) ข้าวเม่าเปียนกมะพร้าวกะทิ (โหหห…อันนี้แล้วเข้าไปใหญ่ไม่เคยเลยเมนูแปลกๆเค้าเยอะดีจัง) และมาถึงเมนูต้มน้ำตาลกันบ้างคับ ไข่หวานน้ำขิง ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ถั่วแดงต้มน้ำตาล (อันนี้เคยเห็นเคยลองทานแล้วคับ) และสุดท้ายท้ายสุดสำหรับประเภทสุดท้ายคือประเภทเชื่อมคับ มีกล้วยไข กล้วยน้ำว้า และจาวตาลเชื่อคับ ก็ประมาณนี้นะคับหากสนใจในเมนูที่ผมเกริ่นๆไปก็ไปหามาอ่านกันเลยคับเพราะนิแค่ส่วนน้อยยยยย ของเล่มที่ผมนำมาบอกต่อเท่านั้นเองของจริงเค้าจัดเต็มเมนูขนมไทยแปลกๆเยอะมาก

คนฉลาดแสร้งโง่ ฉบับสมบูรณ์ (อ่อน)
วันนี้ผมอยากชวนคุณๆที่มีความฉลาดติดตัวมาตั้งแต่เกิดน้ำความฉลาดมาใช้ให้ถูกต้องกว่าที่คุณๆบางคนกำลังเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องอยู่โดยไม่รู้ตัวนะคับ คนฉลาดแสร้งโง่ ฉบับสมบูรณ์ เล่มนี้จะทำให้คุณปรับทัศนะคติในการทำงาน และการวางตัวอย่างไรจึงจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงคับ ซึ่งบางครั้งคนเราก็ไม่ต้องอวดฉลาดไปซะทุกเรื่องไม่ใช่หรอคับ การแสร้งโง่บ้างอะไรบ้างอาจทำให้เรามีพัฒนาการทางการศึกษาและวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นนะคับ ผมจึงมีหนังสือดีๆเล่มนี้มาฝากกันสำหรับคนที่เก็บความฉลาดไว้ไม้อยู่กับเนื้อกับตัวเสียบ้างเลย (มาปรับความฉลาดที่มีอยู่ในตัวคุณให้อยู่กับที่กับทางกันนะคับ)
ผมเชื่อว่าค่าของความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่ความฉลาดหรือโง่นะคับ หากแต่การที่คุณมีวิธีการในการใช้ความฉลาดของคุณไปในทางที่ดีสักแค่ไหน บางคนฉลาดก็จริงคับแต่อวดรู้ไปซะทุกเรื่องจนอาจทำให้คนรอบข้างเกิดอาการหมั่นไส้ที่ถูกแย่งซีนได้นะคับบางครั้งก็ต้อง แสร้งโง่ในบางเรื่องบ้าง อย่างที่บางทีเรารู้หละคับว่าเหตุการณ์หรือเรื่องบางเรื่องจะดำเนินไปเช่นเช่นไร ทางเลือกไหนที่ดีกว่าที่ควรทำ แต่เราก็ควรเก็บความฉลาดตรงนั้นเอาไว้ก่อน เพราะไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวบนโลกที่จะฉลาดอยู่คนเดียว เพราะเราอยู่ร่วมกับคนหมู่มากใช่ไหมคับ การที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเราต้องรู้จักการวางตัวที่ดีในทุกๆที ทุกๆสถานการณ์ หรือต่อหน้าผู้คนรอบข้าง หนังสื่อเล่มนี้ถือว่าน่าสนใจเลยนะคับที่จะช่วยปรับทัศนะคติของคณให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง
เพราะการที่คุณเป็นคนฉลาดก็ไม่ได้หมายความกว่าคุณจะทำทุกอย่างให้สำเร็จได้ด้วยตัวของคุณเพียงคนเดียว หากว่าคุณสามารถทำอะไรได้ขนาดนั้นคุณคงเป็นยอดมนุษย์แน่ๆคับ (ว่าไหม555) เพราะการอยู่ร่มกันในสังคมต่อมีการขอความร่วมมือจากคนในหน้าที่ต่างๆเพื่อให้งาน หรือสิ่งอื่นใดจะประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบ แต่จะทำอย่างไรให้คนที่คุณต้อการได้รับความร่วมมือและเชื่อมั่นในไอเดียความฉลาดของคุณ (เพราะบางไอเดียคุณเท่านั้นที่เข้าถึงมันอย่างแท้จริง เพียงคุณคนเดียว) หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณวางตัวได้ดีขึ้นในเรื่องของการแสดงออกทางความคิด และการที่จะใช้มันเพื่อความสำเร็จที่ต้องอาศัยผู้คนหลายฝ่ายเป็นคงประกอบ ลองหามาอ่านกันดูนะคับ แล้วคุณจะรู้ว่า การแสร้งโง่ มีประโยชน์มากกว่าการอวดฉลาดมาแค่ไหนคับ

คนฉลาดแสร้งโง่ ฉบับสมบูรณ์ (อ่อน)
วันนี้ผมอยากชวนคุณๆที่มีความฉลาดติดตัวมาตั้งแต่เกิดน้ำความฉลาดมาใช้ให้ถูกต้องกว่าที่คุณๆบางคนกำลังเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องอยู่โดยไม่รู้ตัวนะคับ คนฉลาดแสร้งโง่ ฉบับสมบูรณ์ เล่มนี้จะทำให้คุณปรับทัศนะคติในการทำงาน และการวางตัวอย่างไรจึงจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงคับ ซึ่งบางครั้งคนเราก็ไม่ต้องอวดฉลาดไปซะทุกเรื่องไม่ใช่หรอคับ การแสร้งโง่บ้างอะไรบ้างอาจทำให้เรามีพัฒนาการทางการศึกษาและวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นนะคับ ผมจึงมีหนังสือดีๆเล่มนี้มาฝากกันสำหรับคนที่เก็บความฉลาดไว้ไม้อยู่กับเนื้อกับตัวเสียบ้างเลย (มาปรับความฉลาดที่มีอยู่ในตัวคุณให้อยู่กับที่กับทางกันนะคับ)
ผมเชื่อว่าค่าของความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่ความฉลาดหรือโง่นะคับ หากแต่การที่คุณมีวิธีการในการใช้ความฉลาดของคุณไปในทางที่ดีสักแค่ไหน บางคนฉลาดก็จริงคับแต่อวดรู้ไปซะทุกเรื่องจนอาจทำให้คนรอบข้างเกิดอาการหมั่นไส้ที่ถูกแย่งซีนได้นะคับบางครั้งก็ต้อง แสร้งโง่ในบางเรื่องบ้าง อย่างที่บางทีเรารู้หละคับว่าเหตุการณ์หรือเรื่องบางเรื่องจะดำเนินไปเช่นเช่นไร ทางเลือกไหนที่ดีกว่าที่ควรทำ แต่เราก็ควรเก็บความฉลาดตรงนั้นเอาไว้ก่อน เพราะไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวบนโลกที่จะฉลาดอยู่คนเดียว เพราะเราอยู่ร่วมกับคนหมู่มากใช่ไหมคับ การที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเราต้องรู้จักการวางตัวที่ดีในทุกๆที ทุกๆสถานการณ์ หรือต่อหน้าผู้คนรอบข้าง หนังสื่อเล่มนี้ถือว่าน่าสนใจเลยนะคับที่จะช่วยปรับทัศนะคติของคณให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง
เพราะการที่คุณเป็นคนฉลาดก็ไม่ได้หมายความกว่าคุณจะทำทุกอย่างให้สำเร็จได้ด้วยตัวของคุณเพียงคนเดียว หากว่าคุณสามารถทำอะไรได้ขนาดนั้นคุณคงเป็นยอดมนุษย์แน่ๆคับ (ว่าไหม555) เพราะการอยู่ร่มกันในสังคมต่อมีการขอความร่วมมือจากคนในหน้าที่ต่างๆเพื่อให้งาน หรือสิ่งอื่นใดจะประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบ แต่จะทำอย่างไรให้คนที่คุณต้อการได้รับความร่วมมือและเชื่อมั่นในไอเดียความฉลาดของคุณ (เพราะบางไอเดียคุณเท่านั้นที่เข้าถึงมันอย่างแท้จริง เพียงคุณคนเดียว) หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณวางตัวได้ดีขึ้นในเรื่องของการแสดงออกทางความคิด และการที่จะใช้มันเพื่อความสำเร็จที่ต้องอาศัยผู้คนหลายฝ่ายเป็นคงประกอบ ลองหามาอ่านกันดูนะคับ แล้วคุณจะรู้ว่า การแสร้งโง่ มีประโยชน์มากกว่าการอวดฉลาดมาแค่ไหนคับ

75 วิธียืนขึ้นจากความล้มเหลว
วันนี้ขอนำหนังสือดีๆอีกหนึ่งเรื่องฝากคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตกันนะคับ หนังสือ 75 วิธียืนขึ้นจากความล้มเหลว โดยผู้เขียน นาน สินธูสวัสดิ์ เนื้อหาในเล่มเป็นการให้กำลังใจคนที่กำลังเจอกับปัญหาที่ทำให้ท้อแท้และยอมจำนนต่อโชคชะตาของตัวเองที่ไม่ได้เป็นคนกำหนด แต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณมองความล้มเหลวในรูปแบบใหม่คับ ให้คุณได้นำความล้มเหลวที่แสนเจ็บปวดเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์สอนตัวคุณเองได้ เพราะคนเราเกิดมาต้องมีสักช่วงชีวิตหนึ่งที่ต้องเจอกับความล้มเหลวด้วยกันทั้งนั้น
………ตัวผมเองแม้จะพึ่งอายุแค่ 25 ปีก็เคยพบกับความล้มเหลวมาแล้วนะคับ ผมขอเล่าประสบการณ์ของผมให้เพื่อนๆที่อยู่ในวัยทำงานให้รู้ก่อนนะคับถึงแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับความล้มเหลวที่บางคนเจอไม่ได้สักนิด แต่ก็เป็นความล้มเหลวที่ผมได้เคยผ่านมาแล้วเก็บมาเป็นประสบการณ์เพื่อรอเวลา และโอกาสที่จะกลับไปแก้ไขมานให้ดีกว่าเดิมอีกครั้งคับ ผมเคยเป้นพนักงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในตำแหน่ง ดีไซด์เนอร์ คับ (ชื่อตำแหน่งดูดีนะแต่ แท้จริงยิงกว่าเบ้อีกคับ) ผมทำอยู่ประมานปีกว่าหลังจากเรียนจบใหม่ๆก็ได้ที่นิเป็นที่แรกเลยตัดสินใจทำไปก่อนคับ แต่พออยู่ไปก็ไม่ไหวกับหลายๆอย่างทั้งเงินเดือนเพื่อนร่วมงาน เลยลาออกคับ จนมาสมัครบริษัทที่สองเล็กมากบอกเลย (ผมคิดว่าดีกว่าคับแต่ป่าวเลย เงินดีแต่คนสุดทนครับ) เลยตัดสินใจไม่เอาแล้วคับ งานลูกจ้างเค้า เลยตัดสินใจออกจากงานหน้าตาเฉยเลย (น่าเสียดายโอกาสที่หลายคนอยากได้แต่ผมปล่อยมันไป) ผมตัดสินใจเช่าที่ขายของคับใกล้ๆกับที่พัก แต่โชคไม่ดีเลย ขายไม่ได้เลย ทั้งของกิน และกิ๊ฟช็อป (รู้สึกท้อแท้คับด้วยปัญหาเรื่องเงินที่ลงทุนแล้วจมลงทุกวัน กับจะทำอย่างไรดีกับชีวิตต่อไปเพราะตั้งแต่ผมเรียนจบมีงานทำไม่เคยขอเงินที่บ้านใช้อีกเลย) ละที่ยิ่งกว่านั้นคือที่บ้านไม่รู้ว่าลาออกแล้วชีวิตช่วงนั้นสุดๆแล้ว …..แค่นี้ก่อนดีกว่าคับตัวอย่างเรื่องที่ทำให้ผมท้อแท้และล้มเหลวในการตัดสินใจลาออกจากงานมากๆเลยคับ แต่ผมก็เก็บประสบการณ์จากสิ่งเหล่านั้นมาใช้เป็นประโยชน์ได้ทุกเรื่องราวที่เจอเลยนะคับเอามาเป็นบทเรียนให้ตัวเอง
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วมีกำลังใจจริงๆคับ มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมรูสึกดีมากๆเลยคือ “อย่ายอมให้ความล้มเหลวเข้ามาทำให้คุณล้มเหลว เพราะที่จริงมันคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ” อ่านเล่มนี้แล้วความคิดเปลี่ยนไปเยอะคับน่าสนใจคับสำหรับหนังสือเล่มนี้ ไม่ผิดหวังแน่ๆคับรีบหาซื้อมาอ่านกันเลยคับ ^^

75 วิธียืนขึ้นจากความล้มเหลว
วันนี้ขอนำหนังสือดีๆอีกหนึ่งเรื่องฝากคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตกันนะคับ หนังสือ 75 วิธียืนขึ้นจากความล้มเหลว โดยผู้เขียน นาน สินธูสวัสดิ์ เนื้อหาในเล่มเป็นการให้กำลังใจคนที่กำลังเจอกับปัญหาที่ทำให้ท้อแท้และยอมจำนนต่อโชคชะตาของตัวเองที่ไม่ได้เป็นคนกำหนด แต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณมองความล้มเหลวในรูปแบบใหม่คับ ให้คุณได้นำความล้มเหลวที่แสนเจ็บปวดเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์สอนตัวคุณเองได้ เพราะคนเราเกิดมาต้องมีสักช่วงชีวิตหนึ่งที่ต้องเจอกับความล้มเหลวด้วยกันทั้งนั้น
………ตัวผมเองแม้จะพึ่งอายุแค่ 25 ปีก็เคยพบกับความล้มเหลวมาแล้วนะคับ ผมขอเล่าประสบการณ์ของผมให้เพื่อนๆที่อยู่ในวัยทำงานให้รู้ก่อนนะคับถึงแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับความล้มเหลวที่บางคนเจอไม่ได้สักนิด แต่ก็เป็นความล้มเหลวที่ผมได้เคยผ่านมาแล้วเก็บมาเป็นประสบการณ์เพื่อรอเวลา และโอกาสที่จะกลับไปแก้ไขมานให้ดีกว่าเดิมอีกครั้งคับ ผมเคยเป้นพนักงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในตำแหน่ง ดีไซด์เนอร์ คับ (ชื่อตำแหน่งดูดีนะแต่ แท้จริงยิงกว่าเบ้อีกคับ) ผมทำอยู่ประมานปีกว่าหลังจากเรียนจบใหม่ๆก็ได้ที่นิเป็นที่แรกเลยตัดสินใจทำไปก่อนคับ แต่พออยู่ไปก็ไม่ไหวกับหลายๆอย่างทั้งเงินเดือนเพื่อนร่วมงาน เลยลาออกคับ จนมาสมัครบริษัทที่สองเล็กมากบอกเลย (ผมคิดว่าดีกว่าคับแต่ป่าวเลย เงินดีแต่คนสุดทนครับ) เลยตัดสินใจไม่เอาแล้วคับ งานลูกจ้างเค้า เลยตัดสินใจออกจากงานหน้าตาเฉยเลย (น่าเสียดายโอกาสที่หลายคนอยากได้แต่ผมปล่อยมันไป) ผมตัดสินใจเช่าที่ขายของคับใกล้ๆกับที่พัก แต่โชคไม่ดีเลย ขายไม่ได้เลย ทั้งของกิน และกิ๊ฟช็อป (รู้สึกท้อแท้คับด้วยปัญหาเรื่องเงินที่ลงทุนแล้วจมลงทุกวัน กับจะทำอย่างไรดีกับชีวิตต่อไปเพราะตั้งแต่ผมเรียนจบมีงานทำไม่เคยขอเงินที่บ้านใช้อีกเลย) ละที่ยิ่งกว่านั้นคือที่บ้านไม่รู้ว่าลาออกแล้วชีวิตช่วงนั้นสุดๆแล้ว …..แค่นี้ก่อนดีกว่าคับตัวอย่างเรื่องที่ทำให้ผมท้อแท้และล้มเหลวในการตัดสินใจลาออกจากงานมากๆเลยคับ แต่ผมก็เก็บประสบการณ์จากสิ่งเหล่านั้นมาใช้เป็นประโยชน์ได้ทุกเรื่องราวที่เจอเลยนะคับเอามาเป็นบทเรียนให้ตัวเอง
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วมีกำลังใจจริงๆคับ มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมรูสึกดีมากๆเลยคือ “อย่ายอมให้ความล้มเหลวเข้ามาทำให้คุณล้มเหลว เพราะที่จริงมันคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ” อ่านเล่มนี้แล้วความคิดเปลี่ยนไปเยอะคับน่าสนใจคับสำหรับหนังสือเล่มนี้ ไม่ผิดหวังแน่ๆคับรีบหาซื้อมาอ่านกันเลยคับ ^^

80 วิธีคิด ใช้ชีวิตให้สุขกว่าเดิม
ความสุขเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถสร้างให้ตัวเราได้นะคับ ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลยความสุขอยู่รอบๆคัวเราคับจากเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรานี่แหละคับ ผมว่าเราสามารถเก็บเกี่ยวจากเรื่องรางนั้นๆได้เยอะเลยถ้าพูดกันจริงๆแล้ว (อยู่ที่เราจะเรียกมันว่าความสุขไหมก็เท่านั้น ^^) และวันนี้ผมมีหนังสือมาแนะนำคับ
80 วิธีคิด ใช้ชีวิตให้สุขกว่าเดิม หนังสื่อเล่มนี้จะช่วยเสริมกระบวนการทางความคิดของคุณให้มีความสุขได้อย่างแท้จริงคับ
ผมว่าความสุขอยู่ไม่ไกลเลยครับทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราทุกวันๆ ย่อมมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่แย่ผสมปนเปลกันไปแต่เราสามารถ เลือกที่จะเก็บแค่เรื่องดีๆไว้แค่นั้น ส่วนเรื่องแย่ๆก็ปล่อยให้มันเหมือนสายลมที่ให้มานพัดผ่านไปเลยคับ อย่าเก็บมันไว้ทุกครั้งที่เจอเรื่องที่รู้สึกแย่คับ เพราะมันก็เหมือนเราเก็บอะไรที่ไม่มีประโยชน์เอามาให้ชีวิตหนักเสียป่าวๆยิ่งแบกไว้ก็หนักนะคับ(ปวดหลังป่าวๆ ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นคับ) ในหนังสือเล่มนี้ก็มีวิธีที่จะให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุขมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่ ผมว่าน่าสนใจนะคับเนื้อหาในเล่มนี้อาจมีประโยชน์กับผู้ที่อยากเพิ่มความสุขให้ตัวเอง จากคนที่มองโลกในแง่ดีอยู่แล้ว ก็จะมีความสุขมากขึ้นมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตในแต่ละวันต่อไป เพราะทุกวันนี้โลกเราอยู่ยากคับ (คนดีน้อยกว่าคนไม่ดี และคนไม่ดีก็ปะปนอยู่กับพวกเราทุกสถานที่เต็มไปหมด) เราจึงมีเพียงวิธีเดียวที่จะอยู่บนโลกนี้ได้คือใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่ตลอดเวลาคับ เพราะเราไม่สามารถบังคับให้คนในโลกเป็นคนดีได้ จึงต้องทำให้ตัวเราเองสุขไว้ก่อน เล่มนี้ก็มีวิธีสร้างสุขให้กับชีวิตคนเราตั้ง 80 วิธีเลยนะคับ ลองหยิบไปใช้สัก 4-5 ข้อและใช้มันเป็นประจำผมก็ว่านะจะเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นเลยคับที่จะต้องจดจำมาทุกข้อเพียงเราเลือกข้อที่เหมาะสมกับเราและยึดถือมาปฏิบัติได้และทำให้เรามีความสุขอย่างที่อยากจะเป็นก็ดีมากแล้วคับ แต่การที่ผู้เขียนๆไว้มากมายถึง 80 วิธีก็เพราะอยากให้ผู้อ่านได้เห็นมุมมองความสุขที่หลากหลายรูปแบบคับที่บางคนอาจจะไม่เคยลองทำมันก็เท่านั้น ฉนั้นคับถ้าคุณคิดว่าว่าชีวิตของคุณเหมาะกับข้อไหนที่สุดก็สามารถใช้ได้ทั้งชีวิตแล้วแม้จะมีเพียงข้อเดียวก็ตามทีนะคับ

80 วิธีคิด ใช้ชีวิตให้สุขกว่าเดิม
ความสุขเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถสร้างให้ตัวเราได้นะคับ ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลยความสุขอยู่รอบๆคัวเราคับจากเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรานี่แหละคับ ผมว่าเราสามารถเก็บเกี่ยวจากเรื่องรางนั้นๆได้เยอะเลยถ้าพูดกันจริงๆแล้ว (อยู่ที่เราจะเรียกมันว่าความสุขไหมก็เท่านั้น ^^) และวันนี้ผมมีหนังสือมาแนะนำคับ
80 วิธีคิด ใช้ชีวิตให้สุขกว่าเดิม หนังสื่อเล่มนี้จะช่วยเสริมกระบวนการทางความคิดของคุณให้มีความสุขได้อย่างแท้จริงคับ
ผมว่าความสุขอยู่ไม่ไกลเลยครับทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราทุกวันๆ ย่อมมีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่แย่ผสมปนเปลกันไปแต่เราสามารถ เลือกที่จะเก็บแค่เรื่องดีๆไว้แค่นั้น ส่วนเรื่องแย่ๆก็ปล่อยให้มันเหมือนสายลมที่ให้มานพัดผ่านไปเลยคับ อย่าเก็บมันไว้ทุกครั้งที่เจอเรื่องที่รู้สึกแย่คับ เพราะมันก็เหมือนเราเก็บอะไรที่ไม่มีประโยชน์เอามาให้ชีวิตหนักเสียป่าวๆยิ่งแบกไว้ก็หนักนะคับ(ปวดหลังป่าวๆ ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นคับ) ในหนังสือเล่มนี้ก็มีวิธีที่จะให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุขมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่ ผมว่าน่าสนใจนะคับเนื้อหาในเล่มนี้อาจมีประโยชน์กับผู้ที่อยากเพิ่มความสุขให้ตัวเอง จากคนที่มองโลกในแง่ดีอยู่แล้ว ก็จะมีความสุขมากขึ้นมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตในแต่ละวันต่อไป เพราะทุกวันนี้โลกเราอยู่ยากคับ (คนดีน้อยกว่าคนไม่ดี และคนไม่ดีก็ปะปนอยู่กับพวกเราทุกสถานที่เต็มไปหมด) เราจึงมีเพียงวิธีเดียวที่จะอยู่บนโลกนี้ได้คือใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่ตลอดเวลาคับ เพราะเราไม่สามารถบังคับให้คนในโลกเป็นคนดีได้ จึงต้องทำให้ตัวเราเองสุขไว้ก่อน เล่มนี้ก็มีวิธีสร้างสุขให้กับชีวิตคนเราตั้ง 80 วิธีเลยนะคับ ลองหยิบไปใช้สัก 4-5 ข้อและใช้มันเป็นประจำผมก็ว่านะจะเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นเลยคับที่จะต้องจดจำมาทุกข้อเพียงเราเลือกข้อที่เหมาะสมกับเราและยึดถือมาปฏิบัติได้และทำให้เรามีความสุขอย่างที่อยากจะเป็นก็ดีมากแล้วคับ แต่การที่ผู้เขียนๆไว้มากมายถึง 80 วิธีก็เพราะอยากให้ผู้อ่านได้เห็นมุมมองความสุขที่หลากหลายรูปแบบคับที่บางคนอาจจะไม่เคยลองทำมันก็เท่านั้น ฉนั้นคับถ้าคุณคิดว่าว่าชีวิตของคุณเหมาะกับข้อไหนที่สุดก็สามารถใช้ได้ทั้งชีวิตแล้วแม้จะมีเพียงข้อเดียวก็ตามทีนะคับ

DIARY การเงิน
วันนี้จะพาคุณมาปรับพฤติกรรมการเก็บออมเงินด้วยวิธีการเขียนๆๆ แล้วก็จดๆๆ คับ เพราะวันนี้หนังสือที่ผมนำมาแนะนำคือ DIARY การเงิน เป็นไดอารี่การเงินที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณใน 52 สัปดาห์ของ ผู้เขียน พิณ พิชญา ที่พูดถึงเรื่องของการเก็บออมเงินอย่างไรให้เรารวยเร็วเห็นผลคับ (เยี่ยมๆๆเลย) เพราะหลายคนนะคับที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าต้องมีคนที่พยายามจดบันทึกรายรับ รายจ่าย ในชีวิตประจำวันกัน เพื่อควบคุมการใช่จ่ายของเงินในแต่ละวัน แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะลืมบ้างอะไรบ้าง จนหยุดที่จะจดต่อไป ด้วยเพราะเหตุผลที่ว่ารายจ่ายมีหลายลายการจน.….(ขี้เกลียดจดกันใช่ไหมหล่ะ อิอิ ผมก็เคยทำได้นะแต่ก็ไม่สำเร็จ)
วันนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคับ กับการจดการออมเงินด้วยวิธีแบบดั้งเดิมนิแหล่ะคับตามต้นแบบของหนังสือที่ผมเห็นว่าดีจึงนำมาแนะนำสำหรับคนอยากกกกกกก มากๆที่จะเก็บสะสมเงินกันจนใจจะขาด แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากรายจ่ายของจำเป็นและไม่จำเป็นจนบิลค่าใช้จ่ากองท่วมหูจนช่วงกลางเดือนต้องเกิดภาวะความเครียดกันเลยทีเดียวคับ การเริ่มครั้งใหม่นี้จากที่หนังสือแนะนำนะคับคือการเริ่มทีละเล็กทีละน้อยไม่ต้อเก็บรายรับเป็นก้อนใหญ่มากเดี่ยวจะไม่มีเงินใช้ระหว่างเดือนกันเอา (เพราะมัวแต่งกกันอยู่ 5555) แรกๆคุณอาจจะยังไม่ชินกันนะคับ (เอาน่าๆอดเปรี้ยวไว้กินหวานกัน) แต่เมื่อเวลาผ่านไปบวกกับความตั้งใจของเราที่เก็บทุกบาททุกสตางค์ที่เหลือจากรายจ่าย ก็จะทำให้คุณมีเงินเป็นกอบเป็นกำได้เลยนะคบโดยที่คุณไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำไป 555
ยังทันนะคับสำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มที่จะคิดออมเงินกัน เริ่มช้าดีกว่าไม่ได้เริ่มนะคับ ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงให้หนังสือดีๆเล่มนี้ช่วยคุณออมเงินได้นะคับ ผมว่าน่าสนใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตเราได้จริงๆคับ ไม่ได้ยากอะไรเล๊ยยยยยยยยยย ให้ตายสิ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าแผนการออมเงินก็คือความตั้งใจจริงของคุณเองนั่นแหล่ะคับที่จะทำให้คุณออมเงินได้สำเร็จไปได้ตลอดหรือป่าว ถ้าไม่ขี้เกลียดลงบันทึกรายรับ-รายจ่าย ไปเสียก่อนจะไปถึงฝันที่จะมีเงินก้อนใหญ่ๆสักก่อน เพราะมันไม่ได้ง่ายไงคับงั้นทุกคนคงรวยกันหมดแล้วหล่ะคับ แต่ยิ่งยากถ้าเราทำได้ก็จะเป้นความภาคภูมิใจของเราเลยนะคับว่าชีวิตหนึ่งตั้งแต่เกิดมา อาจจะไม่เคยประสบความสำเร็จเต็ม 100% กับอะไรมา แต่ว่าเราประสบความสำเร็จกับการเก็บออมเงินได้ 100% ก็ถือว่าชีวิตเราคุ้มแล้วหล่ะคับ ขอให้คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้รวยกันทุกคนเลยนะคับ สู้ๆ ^ ^

DIARY การเงิน
วันนี้จะพาคุณมาปรับพฤติกรรมการเก็บออมเงินด้วยวิธีการเขียนๆๆ แล้วก็จดๆๆ คับ เพราะวันนี้หนังสือที่ผมนำมาแนะนำคือ DIARY การเงิน เป็นไดอารี่การเงินที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณใน 52 สัปดาห์ของ ผู้เขียน พิณ พิชญา ที่พูดถึงเรื่องของการเก็บออมเงินอย่างไรให้เรารวยเร็วเห็นผลคับ (เยี่ยมๆๆเลย) เพราะหลายคนนะคับที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าต้องมีคนที่พยายามจดบันทึกรายรับ รายจ่าย ในชีวิตประจำวันกัน เพื่อควบคุมการใช่จ่ายของเงินในแต่ละวัน แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะลืมบ้างอะไรบ้าง จนหยุดที่จะจดต่อไป ด้วยเพราะเหตุผลที่ว่ารายจ่ายมีหลายลายการจน.….(ขี้เกลียดจดกันใช่ไหมหล่ะ อิอิ ผมก็เคยทำได้นะแต่ก็ไม่สำเร็จ)
วันนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคับ กับการจดการออมเงินด้วยวิธีแบบดั้งเดิมนิแหล่ะคับตามต้นแบบของหนังสือที่ผมเห็นว่าดีจึงนำมาแนะนำสำหรับคนอยากกกกกกก มากๆที่จะเก็บสะสมเงินกันจนใจจะขาด แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากรายจ่ายของจำเป็นและไม่จำเป็นจนบิลค่าใช้จ่ากองท่วมหูจนช่วงกลางเดือนต้องเกิดภาวะความเครียดกันเลยทีเดียวคับ การเริ่มครั้งใหม่นี้จากที่หนังสือแนะนำนะคับคือการเริ่มทีละเล็กทีละน้อยไม่ต้อเก็บรายรับเป็นก้อนใหญ่มากเดี่ยวจะไม่มีเงินใช้ระหว่างเดือนกันเอา (เพราะมัวแต่งกกันอยู่ 5555) แรกๆคุณอาจจะยังไม่ชินกันนะคับ (เอาน่าๆอดเปรี้ยวไว้กินหวานกัน) แต่เมื่อเวลาผ่านไปบวกกับความตั้งใจของเราที่เก็บทุกบาททุกสตางค์ที่เหลือจากรายจ่าย ก็จะทำให้คุณมีเงินเป็นกอบเป็นกำได้เลยนะคบโดยที่คุณไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำไป 555
ยังทันนะคับสำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มที่จะคิดออมเงินกัน เริ่มช้าดีกว่าไม่ได้เริ่มนะคับ ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงให้หนังสือดีๆเล่มนี้ช่วยคุณออมเงินได้นะคับ ผมว่าน่าสนใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตเราได้จริงๆคับ ไม่ได้ยากอะไรเล๊ยยยยยยยยยย ให้ตายสิ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าแผนการออมเงินก็คือความตั้งใจจริงของคุณเองนั่นแหล่ะคับที่จะทำให้คุณออมเงินได้สำเร็จไปได้ตลอดหรือป่าว ถ้าไม่ขี้เกลียดลงบันทึกรายรับ-รายจ่าย ไปเสียก่อนจะไปถึงฝันที่จะมีเงินก้อนใหญ่ๆสักก่อน เพราะมันไม่ได้ง่ายไงคับงั้นทุกคนคงรวยกันหมดแล้วหล่ะคับ แต่ยิ่งยากถ้าเราทำได้ก็จะเป้นความภาคภูมิใจของเราเลยนะคับว่าชีวิตหนึ่งตั้งแต่เกิดมา อาจจะไม่เคยประสบความสำเร็จเต็ม 100% กับอะไรมา แต่ว่าเราประสบความสำเร็จกับการเก็บออมเงินได้ 100% ก็ถือว่าชีวิตเราคุ้มแล้วหล่ะคับ ขอให้คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้รวยกันทุกคนเลยนะคับ สู้ๆ ^ ^

30 วิธีคลายเครียด...สร้างสุข
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้คุณหลุดพ้นจากความเครียด และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้ในทุกๆวันหนังสือเล่มนี้อาจมีประโยชน์นะคับ 30 วิธีคลายเครียด สร้างสุข เขียนโดย นิมิต ศัลยา ผู้ที่จะมาบอกเล่าวิธีการในการกำจัดความเครียดให้สลายออกไปจากการดำเนินชีวิตของคุณ ให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตกว่าทุกวันนี้ที่มีความเครียดคอยเดินตามติดคุณทุกฝีเก้าคับ
ส่วนตัวผมว่าความเครียดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญไม่มากก็น้อยเลยนะคับ เพราะทุกวันนี้ปัญหาหลายอย่างที่ต้องเจอมาจากเรื่องมากมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องความสวยความงาม เรื่องภาพลักษณ์ และอีกหลายๆเรื่องที่ต้องเจอ เรียกว่าทุกวันเลยก็ว่าได้ที่ต้องมีเรื่องที่มากระทบใจให้คุณต้องรู้สึกแย่หากใครกำลังค้นหาวิธีที่จะหลีกหนีจากปัญหาความเครียดลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูคับ จากที่ผมอ่านมาแล้วเค้าเขียนดีเลยนะคับ บกถึงสาเหตุของการเกิดความเครียดของคนเราว่ามาจากอะไรได้บ้างที่มากระทบทำให้คนเราเกิดความเครียดขึ้นได้คับ (ดีจังดีจริง ต่อไปนี้จะได้มีมุมมองใหม่ในการแก้ปัญหาความเครียด) และพูดถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดในแง่มุมต่างๆที่เราๆ เคยเจอกันมาแล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ความเครียดนั้นไม่ย้อนกลับมาทำให้เครียดอีก และเค้ามีวิธีที่จะขจัดความเครียดให้เราทดลองนำไปใช้ดูถึง 30 วิธีเลยนะคับ (สงสัยจะไม่เครียดอีกเลยถ้าได้ผลทั้ง 30 วิธี อิอิ)
อย่าปล่อยให้ชีวิตของคุณอยู่กับความเครียดอีกต่อไปเลยนะคับ เพราะชีวิตคนเราไม่รู้ว่าจะอยู่บนโลกนี้อีกนานแค่ไหนใช้ชีวิตทุกวันของคุณให้มีแต่ความสุขดีกว่าคับ เสียดายเวลานะคับถ้าคุณมั่วแต่ทำให้ตัวเองเครียดอยู่จนอาจทำให้คนที่อยู่รอบคัวที่รักคุณเครียดไปกับการเป็นห่วงคุณไปด้วยนะคับ ใช้ชีวิตให้มีความสุขและทำให้คนที่คุณรักที่อยู่รอบๆตัวคุณมีความสุขไปกับคุณด้วยผมว่านะจะดีกว่านะคับ
ผมว่าความความเครียดนิส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคนเราได้เยอะเลยนะคับ เพราะขณะที่คุณมีความเครียดอยู่ในหัวสมอง การที่คุณจะทำอะไรก็จะไม่ราบรื่นได้เลยเพราะมีเรื่องที่ไม่สบายใจอยู่และบางเรื่องก็ไม่สามารถที่จะทำให้หายเครียดได้เลย หนังสือเล่มนี้มีวิธีให้คุณเลือกใช้ได้หลายวิธีในการที่จะเลือกมองข้ามปัญหาความเครียดเหล่านั้นและอยู่ได้อย่างมีความสุข ลองหามาอ่านกันดูนะคับ ^^

30 วิธีคลายเครียด...สร้างสุข
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้คุณหลุดพ้นจากความเครียด และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้ในทุกๆวันหนังสือเล่มนี้อาจมีประโยชน์นะคับ 30 วิธีคลายเครียด สร้างสุข เขียนโดย นิมิต ศัลยา ผู้ที่จะมาบอกเล่าวิธีการในการกำจัดความเครียดให้สลายออกไปจากการดำเนินชีวิตของคุณ ให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตกว่าทุกวันนี้ที่มีความเครียดคอยเดินตามติดคุณทุกฝีเก้าคับ
ส่วนตัวผมว่าความเครียดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญไม่มากก็น้อยเลยนะคับ เพราะทุกวันนี้ปัญหาหลายอย่างที่ต้องเจอมาจากเรื่องมากมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องความสวยความงาม เรื่องภาพลักษณ์ และอีกหลายๆเรื่องที่ต้องเจอ เรียกว่าทุกวันเลยก็ว่าได้ที่ต้องมีเรื่องที่มากระทบใจให้คุณต้องรู้สึกแย่หากใครกำลังค้นหาวิธีที่จะหลีกหนีจากปัญหาความเครียดลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูคับ จากที่ผมอ่านมาแล้วเค้าเขียนดีเลยนะคับ บกถึงสาเหตุของการเกิดความเครียดของคนเราว่ามาจากอะไรได้บ้างที่มากระทบทำให้คนเราเกิดความเครียดขึ้นได้คับ (ดีจังดีจริง ต่อไปนี้จะได้มีมุมมองใหม่ในการแก้ปัญหาความเครียด) และพูดถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดในแง่มุมต่างๆที่เราๆ เคยเจอกันมาแล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ความเครียดนั้นไม่ย้อนกลับมาทำให้เครียดอีก และเค้ามีวิธีที่จะขจัดความเครียดให้เราทดลองนำไปใช้ดูถึง 30 วิธีเลยนะคับ (สงสัยจะไม่เครียดอีกเลยถ้าได้ผลทั้ง 30 วิธี อิอิ)
อย่าปล่อยให้ชีวิตของคุณอยู่กับความเครียดอีกต่อไปเลยนะคับ เพราะชีวิตคนเราไม่รู้ว่าจะอยู่บนโลกนี้อีกนานแค่ไหนใช้ชีวิตทุกวันของคุณให้มีแต่ความสุขดีกว่าคับ เสียดายเวลานะคับถ้าคุณมั่วแต่ทำให้ตัวเองเครียดอยู่จนอาจทำให้คนที่อยู่รอบคัวที่รักคุณเครียดไปกับการเป็นห่วงคุณไปด้วยนะคับ ใช้ชีวิตให้มีความสุขและทำให้คนที่คุณรักที่อยู่รอบๆตัวคุณมีความสุขไปกับคุณด้วยผมว่านะจะดีกว่านะคับ
ผมว่าความความเครียดนิส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคนเราได้เยอะเลยนะคับ เพราะขณะที่คุณมีความเครียดอยู่ในหัวสมอง การที่คุณจะทำอะไรก็จะไม่ราบรื่นได้เลยเพราะมีเรื่องที่ไม่สบายใจอยู่และบางเรื่องก็ไม่สามารถที่จะทำให้หายเครียดได้เลย หนังสือเล่มนี้มีวิธีให้คุณเลือกใช้ได้หลายวิธีในการที่จะเลือกมองข้ามปัญหาความเครียดเหล่านั้นและอยู่ได้อย่างมีความสุข ลองหามาอ่านกันดูนะคับ ^^

52 ความคิดเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น
จะดีแค่ไหนคับถ้าคุณสามารถเปลี่ยนกระบวนการทางความคิดให้ชีวิตของคุณเป็นคนที่มีแต่ความสุขในการคิด และคิดอย่างที่คุณอยากจะให้เป็นอย่างมีเหตุผล หนังสือ 52 ความคิดเปลี่ยนชีวิตคุณ ผู้เขียน Penny Ferguson, Kate Cook ผู้แปล ฐิติภรณ์ ชิตินทรีย์ ได้พูดถึงการที่คนเราจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอยู่ที่มองมองความคิดของแต่ละคนที่จะคิดให้ชีวิตเป็นไปในทางที่ดี หรือคิดแต่ในเรื่องที่จะบั่นทอนชีวิตของตัวเองหนังสือเล่มนี้จะนำพาคุณไปสู่การคิดที่สามารถเปลี่ยนให้ชีวิตคุณ มองโลกในแง่ดีขึ้นคับ หรือพาคุณให้เปลี่ยนกระบวนการมองโลกที่อาจจะเลวร้ายบางครั้งในเป็นมุมมองที่แตกต่างจากที่คุณเคยมอง
ผมก็เป็นคนนึงนะคับที่มองโลกในแง่ร้ายอยู่เสมอๆ เพราะผมคิดว่าการที่เรามองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนถ้าเหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้นก็จะดี แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆจะได้แก้ได้ทัน (อาจดูแล้วว่าผมเป็นคนที่คิดอะไรที่บั่นทอนความรู้สึกและความคิดของตัวเองนะคับ) ผมจึงเกิดปัญหาการอยู่กับความเครียดอยู่บ่อยครั้งเลยคับบางที่ก็คิดวนเวียนวิตกกังวนอยู่นั่นแหล่ะเรื่องเดิมๆ ไม่ไปไหนเลยวันๆ ทำให้วันๆในสมองไม่ผ่อนคลายเลยก็ว่าได้คับ เพื่อนๆที่รู้จักผมที่อายุรุ่นเดียวกันกับผม (25 ปี) และครอบครัวก็เตือนอยู่บ่อยนะคับว่าอย่าคิดมาก อย่าคิดอะไรในแง่ร้ายไปก่อนเกิดเหตุการณ์จริง จะทำให้เครียดเสียป่าวๆ
ตัวผมเองก็เคยพยายามทำตามที่คนรอบข้างบอกนะคับแต่ไม่เคยทำได้เลยจนทุกวันนี้ ก็เลยพยายามเข้าวัดบ่อยๆ (เกี่ยวกันไหม) เพราะผมคิดว่าการที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในที่ๆสงบและได้ทำบุญบ่อยๆอาจทำให้จิตใจเราสงบได้บ้างและอาจมีสมาธิ และมีสติเวลาเจอปัญหาอาจมองในแง่ดีบ้าง (เอาบาปเข้าวัดแท้ๆ บาปหนักจริงๆคับ เฮ่อออ) เลยลองหาข้อมูลจากในสื่อต่างๆอ่านดูว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยให้ผม ปรับความคิดให้มองโลกในแง่ดีที่หลายๆคนเค้ามองกันได้ เลยไปเจอหนังสือเล่มนี้มาคับ 52 ความคิดเปลี่ยนชีวิตคุณ เล่มนี้ใช่เลยคับ ทั้งปัญหาและปัจจัยที่ส่งผลให้คนเราเครียดได้ด้วยเรื่องอะไรบ้าง และจะทำอย่างไรเมื่อเกิดความเครียดจากปัจจัยที่มีผลเหล่านั้น มีกระบวนการคิดที่แนะนำคนที่มีปัญหาในเรื่องของความเครียดมาก
ถึง 52 วิธีที่จะทำให้คุณเปลี่ยนการคิดให้ชีวิตมีแต่ความสุข และสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะทำให้คุณหายจากความเครียดก็คือ ตัวของคุณเองนั่นแหละคับ ที่จะมองปัญหาและเรื่องราวที่ทำให้คุณเครียดว่าเป็นเช่นไร
มองว่าสุข ก็จะมีความสุขคับ ….^^ อยู่ที่คุณเลือกที่จะมอง

52 ความคิดเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น
จะดีแค่ไหนคับถ้าคุณสามารถเปลี่ยนกระบวนการทางความคิดให้ชีวิตของคุณเป็นคนที่มีแต่ความสุขในการคิด และคิดอย่างที่คุณอยากจะให้เป็นอย่างมีเหตุผล หนังสือ 52 ความคิดเปลี่ยนชีวิตคุณ ผู้เขียน Penny Ferguson, Kate Cook ผู้แปล ฐิติภรณ์ ชิตินทรีย์ ได้พูดถึงการที่คนเราจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอยู่ที่มองมองความคิดของแต่ละคนที่จะคิดให้ชีวิตเป็นไปในทางที่ดี หรือคิดแต่ในเรื่องที่จะบั่นทอนชีวิตของตัวเองหนังสือเล่มนี้จะนำพาคุณไปสู่การคิดที่สามารถเปลี่ยนให้ชีวิตคุณ มองโลกในแง่ดีขึ้นคับ หรือพาคุณให้เปลี่ยนกระบวนการมองโลกที่อาจจะเลวร้ายบางครั้งในเป็นมุมมองที่แตกต่างจากที่คุณเคยมอง
ผมก็เป็นคนนึงนะคับที่มองโลกในแง่ร้ายอยู่เสมอๆ เพราะผมคิดว่าการที่เรามองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนถ้าเหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้นก็จะดี แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆจะได้แก้ได้ทัน (อาจดูแล้วว่าผมเป็นคนที่คิดอะไรที่บั่นทอนความรู้สึกและความคิดของตัวเองนะคับ) ผมจึงเกิดปัญหาการอยู่กับความเครียดอยู่บ่อยครั้งเลยคับบางที่ก็คิดวนเวียนวิตกกังวนอยู่นั่นแหล่ะเรื่องเดิมๆ ไม่ไปไหนเลยวันๆ ทำให้วันๆในสมองไม่ผ่อนคลายเลยก็ว่าได้คับ เพื่อนๆที่รู้จักผมที่อายุรุ่นเดียวกันกับผม (25 ปี) และครอบครัวก็เตือนอยู่บ่อยนะคับว่าอย่าคิดมาก อย่าคิดอะไรในแง่ร้ายไปก่อนเกิดเหตุการณ์จริง จะทำให้เครียดเสียป่าวๆ
ตัวผมเองก็เคยพยายามทำตามที่คนรอบข้างบอกนะคับแต่ไม่เคยทำได้เลยจนทุกวันนี้ ก็เลยพยายามเข้าวัดบ่อยๆ (เกี่ยวกันไหม) เพราะผมคิดว่าการที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในที่ๆสงบและได้ทำบุญบ่อยๆอาจทำให้จิตใจเราสงบได้บ้างและอาจมีสมาธิ และมีสติเวลาเจอปัญหาอาจมองในแง่ดีบ้าง (เอาบาปเข้าวัดแท้ๆ บาปหนักจริงๆคับ เฮ่อออ) เลยลองหาข้อมูลจากในสื่อต่างๆอ่านดูว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยให้ผม ปรับความคิดให้มองโลกในแง่ดีที่หลายๆคนเค้ามองกันได้ เลยไปเจอหนังสือเล่มนี้มาคับ 52 ความคิดเปลี่ยนชีวิตคุณ เล่มนี้ใช่เลยคับ ทั้งปัญหาและปัจจัยที่ส่งผลให้คนเราเครียดได้ด้วยเรื่องอะไรบ้าง และจะทำอย่างไรเมื่อเกิดความเครียดจากปัจจัยที่มีผลเหล่านั้น มีกระบวนการคิดที่แนะนำคนที่มีปัญหาในเรื่องของความเครียดมาก
ถึง 52 วิธีที่จะทำให้คุณเปลี่ยนการคิดให้ชีวิตมีแต่ความสุข และสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะทำให้คุณหายจากความเครียดก็คือ ตัวของคุณเองนั่นแหละคับ ที่จะมองปัญหาและเรื่องราวที่ทำให้คุณเครียดว่าเป็นเช่นไร
มองว่าสุข ก็จะมีความสุขคับ ….^^ อยู่ที่คุณเลือกที่จะมอง

55 เคล็ด รับ ความสุขในทุกเช้า
เล่มนี้เป็นอีกเล่มนะคับที่รวบรวมเคล็ดรับที่ไม่ลับมาบอกคุณผู้อ่านทุกคนที่อยากพบกับความสุขทุกวันที่ลืมตาตื่นและลุกออกจากที่นอน หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณมีความสุขได้ทุกเช้าแน่ๆคับมีทั้งหมด 55 วิธี ที่จะทำให้คุณมีความสุขเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ตัวคุณเองนั่นแหละคับที่จะเลือกนำมาปรับใช้กับตัวของคุณได้มากน้อยแค่ไหน เพราะในหนังสือเล่มนี้กล่าวว่าว่า “ความสุขของคุณอยู่แค่เอื้อมเพียงแค่คุณเปิดใจยอมรับ และ เชื่อมั่น ว่าจะพบความสุขที่แท้จริงได้ ” สุดยอดไปเลยคับข้อความนี้โดนสุดๆ ^ ^
หากทุกเช้าคุณต้องตื่นมาและรู้สึกว่าคุณเองไม่อยากที่จะลุกขึ้นจากที่นอน ไม่อยากอาบน้ำ แต่งตัว ขึ้นรถเดินทางไปทำงาน หรือทำอะไรทุกอย่างที่เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน แสดงว่าคุณกำลังมีความทุกข์ในการใช้ชีวิตแล้วหล่ะคับ เพราะถ้าคนเรามีความสุข และมองว่าทุกวันนี้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิตคุณ คุณก็จะอยากที่จะตื่นขึ้นมา ออกไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขจริงไหมคับ (เพราะถ้าคุณคิดว่ามีความสุขก็จะมีความสุข) ทุกอย่างอยู่ที่เราเป็นคนกำหนดทั้งนั้นคับ หากคุณอยากมีความสุขทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ก็เข้านอนและพักผ่อนให้เพียงพอคับ และเมื่อลืมตาขึ้นมาหลังจากการตื่นนอนก็คิดแต่เรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต สิ่งดีๆที่คุณจะเจอในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน(พูดง่ายจัง ทำยากมากกกกกกคับ)
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วผมว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ตามใจเราหรอกคับ หนังสือเล่มนี้ถึงมาอยู่ในมือของผมไงคับ …… เป็นหนังสือที่จะทำให้เราปรับความคิดให้กับตัวเราเอง และมีให้คุณได้อ่านถึง 55 วิธีคับ ว่าตรงกับเหตุการณ์ในชีวิตคุณแค่ไหนและจะทำอย่างไรถ้าต้องเจอ เป็นการบอกเล่าให้กับคนที่อย่างที่จะให้ชีวิตรับแต่สิ่งดีๆในทุกๆเช้า เพื่อให้ตลอดวันคิดแต่สิ่งที่ทำให้มีแต่ความสุขมากกว่าบั่นทอนสมองให้อยู่กับความเครียด (น่านำไปทดลองใช้ดูนะคับ)
จากที่ผมอ่านเนื้อหาในเล่มตั้งแต่ต้นจนจบเล่มแล้วนะคับ ผู้เขียนพยายามให้เราปรับมุมองใหม่ในการคิดตั้งแต่เริ่มวันใหม่ของแต่ละวัน ให้มองและคิดในแง่ดีๆไว้ก่อน เพราะหากเราคิดเรื่องแย่ๆและประเมินสถานการณ์ไปล่วงหน้าว่าเป็นไปในทางลบมากกว่าทางบวก ชีวิตเราก็จะห่างไกลจากความสุขไปทุกวันๆ

55 เคล็ด รับ ความสุขในทุกเช้า
เล่มนี้เป็นอีกเล่มนะคับที่รวบรวมเคล็ดรับที่ไม่ลับมาบอกคุณผู้อ่านทุกคนที่อยากพบกับความสุขทุกวันที่ลืมตาตื่นและลุกออกจากที่นอน หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณมีความสุขได้ทุกเช้าแน่ๆคับมีทั้งหมด 55 วิธี ที่จะทำให้คุณมีความสุขเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ตัวคุณเองนั่นแหละคับที่จะเลือกนำมาปรับใช้กับตัวของคุณได้มากน้อยแค่ไหน เพราะในหนังสือเล่มนี้กล่าวว่าว่า “ความสุขของคุณอยู่แค่เอื้อมเพียงแค่คุณเปิดใจยอมรับ และ เชื่อมั่น ว่าจะพบความสุขที่แท้จริงได้ ” สุดยอดไปเลยคับข้อความนี้โดนสุดๆ ^ ^
หากทุกเช้าคุณต้องตื่นมาและรู้สึกว่าคุณเองไม่อยากที่จะลุกขึ้นจากที่นอน ไม่อยากอาบน้ำ แต่งตัว ขึ้นรถเดินทางไปทำงาน หรือทำอะไรทุกอย่างที่เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน แสดงว่าคุณกำลังมีความทุกข์ในการใช้ชีวิตแล้วหล่ะคับ เพราะถ้าคนเรามีความสุข และมองว่าทุกวันนี้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิตคุณ คุณก็จะอยากที่จะตื่นขึ้นมา ออกไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขจริงไหมคับ (เพราะถ้าคุณคิดว่ามีความสุขก็จะมีความสุข) ทุกอย่างอยู่ที่เราเป็นคนกำหนดทั้งนั้นคับ หากคุณอยากมีความสุขทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ก็เข้านอนและพักผ่อนให้เพียงพอคับ และเมื่อลืมตาขึ้นมาหลังจากการตื่นนอนก็คิดแต่เรื่องดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต สิ่งดีๆที่คุณจะเจอในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน(พูดง่ายจัง ทำยากมากกกกกกคับ)
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วผมว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ตามใจเราหรอกคับ หนังสือเล่มนี้ถึงมาอยู่ในมือของผมไงคับ …… เป็นหนังสือที่จะทำให้เราปรับความคิดให้กับตัวเราเอง และมีให้คุณได้อ่านถึง 55 วิธีคับ ว่าตรงกับเหตุการณ์ในชีวิตคุณแค่ไหนและจะทำอย่างไรถ้าต้องเจอ เป็นการบอกเล่าให้กับคนที่อย่างที่จะให้ชีวิตรับแต่สิ่งดีๆในทุกๆเช้า เพื่อให้ตลอดวันคิดแต่สิ่งที่ทำให้มีแต่ความสุขมากกว่าบั่นทอนสมองให้อยู่กับความเครียด (น่านำไปทดลองใช้ดูนะคับ)
จากที่ผมอ่านเนื้อหาในเล่มตั้งแต่ต้นจนจบเล่มแล้วนะคับ ผู้เขียนพยายามให้เราปรับมุมองใหม่ในการคิดตั้งแต่เริ่มวันใหม่ของแต่ละวัน ให้มองและคิดในแง่ดีๆไว้ก่อน เพราะหากเราคิดเรื่องแย่ๆและประเมินสถานการณ์ไปล่วงหน้าว่าเป็นไปในทางลบมากกว่าทางบวก ชีวิตเราก็จะห่างไกลจากความสุขไปทุกวันๆ

กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน
หนังสือ กล้าคิด ชีวิต ก็เปลี่ยน เป็นผลงานการเรียบเรียงเนื้อหาจากประสบการณ์ตรงของ ณรงต์วิทย์ แสนทอง ที่เค้านำเอาประสบการณ์ในการที่ตัวของเค้าเองได้เคยให้คำปรึกษาผู้คนมากหน้าหลายตา และมุมปัญหาต่างๆมากมายนำมาเขียนเป็นหนังสือ ในแง่ของการปรับเปลี่ยนการคิดที่จะทำให้คุณกล้าคิด และกล้าลองทำในสิ่งต่างๆที่ยังไม่เคยทำมาก่อน เพื่อให้ชีวิตของคุณเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แค่กล้าคิด ชีวิตก็เปลี่ยน
เป็นผลงานที่น่าชื่นชมเลยนะคับเล่มนี้ที่เค้านำเอาประสบการณ์จริงที่เคยพบเจอมากับตัวมามากมายมาบอกเล่าในส่วนที่ดีให้ให้พวกเราได้นำไปปรับใช้ได้ในกรณีที่ปัญหาที่เจอใกล้เคียงกัน ณรงต์วิทย์ แสนทอง ได้รวบรวมเรื่องรวมที่ผู้อื่นมีปัญหามากมายในชีวิต แล้วนำมาปรึกษาเค้าโดยเค้าได้นำคำตอบในแต่ละปัญหาเหล่านั้นมาให้พวกเราได้ฉุกคิดคับ ในเรื่องของการกล้าที่จะเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนความเป็นตัวเองตั้งแต่หัวจรดท่านะคับ เสื้อผ้า หน้าผม พร้อมแต่สิ่งหนึ่งในการที่คุณควรกล้าที่จะเปลี่ยนคือ ระบบการคิดในสมองของแต่ละคนให้กล้าที่จะคิด คิดอย่างมีหลักการและเทคนิค ที่จะผ่านเหตุการณ์ที่คุณจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยดีคับ (ชอบหลักการที่เค้าคิดคับ น่าเอาเป็นแบบอย่างเลยทีเดียวคับ)
เพราะคนส่วนมากไม่กล้าที่จะคิดทำอะไรดีๆให้กับตัวเอง บางคนไม่กล้าคิดที่จะหวังให้ชีวิตของเค้าเองดขึ้นด้วยซ้ำ (น่าเห็นใจนะคับ แต่สู้ๆนะคับอ่านเล่มนี้แล้วคุณอาจเป็นคนหนึ่งที่จะกล้ามองว่าชีวิตคุณเป็นไปได้ทุกอย่างเท่าที่คุณคาดหวังไว้ก็ได้คับ ^^) เนื้อหาในเล่มเรียบเรียงไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนอ่านแล้วสามารถเข้าใจได้โดยง่ายเลยคับ (ขนาดคนที่เข้าใจอะไรยากๆอย่างผมยังเข้าใจได้ สำหรับนักอ่านตังยงคงไม่น่าเป็นห่วงหรอกคับ ฮ่าๆๆๆ) หนังสือเล่มนี่น่าสนใจมากๆเลยนะคับสำหรับคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตหมดหวัง หรือไม่กล้าที่จะหวังสิ่งดีๆที่รออยู่ในอนาคต ข้างหน้าต้องรีบไปหามาอ่านเลยคับ มีทั้งข้อความที่ให้กำลังใจละชี้แนะความคิดใหม่ๆที่ดีๆน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยคับ ขอแนะนะให้คุณๆไปหาอ่านกันได้เลยคับ ก่อนที่หนังสือดีๆแบบนี้จะหมดแผงซะก่อน 555 (เกินไปเนอะ ฮ่าๆๆ)
สุดท้ายผมก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้อยู่นะคับและขอใช้คำของเจ้าของหนังสือเล่มนี้ย้ำให้ผู้อ่านทุกคนจำไว้นะคับว่า แค่คุณกล้าที่จะคิด ชีวิตก็เปลี่ยนคับ ^//////^

กล้าคิด ชีวิตเปลี่ยน
หนังสือ กล้าคิด ชีวิต ก็เปลี่ยน เป็นผลงานการเรียบเรียงเนื้อหาจากประสบการณ์ตรงของ ณรงต์วิทย์ แสนทอง ที่เค้านำเอาประสบการณ์ในการที่ตัวของเค้าเองได้เคยให้คำปรึกษาผู้คนมากหน้าหลายตา และมุมปัญหาต่างๆมากมายนำมาเขียนเป็นหนังสือ ในแง่ของการปรับเปลี่ยนการคิดที่จะทำให้คุณกล้าคิด และกล้าลองทำในสิ่งต่างๆที่ยังไม่เคยทำมาก่อน เพื่อให้ชีวิตของคุณเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แค่กล้าคิด ชีวิตก็เปลี่ยน
เป็นผลงานที่น่าชื่นชมเลยนะคับเล่มนี้ที่เค้านำเอาประสบการณ์จริงที่เคยพบเจอมากับตัวมามากมายมาบอกเล่าในส่วนที่ดีให้ให้พวกเราได้นำไปปรับใช้ได้ในกรณีที่ปัญหาที่เจอใกล้เคียงกัน ณรงต์วิทย์ แสนทอง ได้รวบรวมเรื่องรวมที่ผู้อื่นมีปัญหามากมายในชีวิต แล้วนำมาปรึกษาเค้าโดยเค้าได้นำคำตอบในแต่ละปัญหาเหล่านั้นมาให้พวกเราได้ฉุกคิดคับ ในเรื่องของการกล้าที่จะเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนความเป็นตัวเองตั้งแต่หัวจรดท่านะคับ เสื้อผ้า หน้าผม พร้อมแต่สิ่งหนึ่งในการที่คุณควรกล้าที่จะเปลี่ยนคือ ระบบการคิดในสมองของแต่ละคนให้กล้าที่จะคิด คิดอย่างมีหลักการและเทคนิค ที่จะผ่านเหตุการณ์ที่คุณจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยดีคับ (ชอบหลักการที่เค้าคิดคับ น่าเอาเป็นแบบอย่างเลยทีเดียวคับ)
เพราะคนส่วนมากไม่กล้าที่จะคิดทำอะไรดีๆให้กับตัวเอง บางคนไม่กล้าคิดที่จะหวังให้ชีวิตของเค้าเองดขึ้นด้วยซ้ำ (น่าเห็นใจนะคับ แต่สู้ๆนะคับอ่านเล่มนี้แล้วคุณอาจเป็นคนหนึ่งที่จะกล้ามองว่าชีวิตคุณเป็นไปได้ทุกอย่างเท่าที่คุณคาดหวังไว้ก็ได้คับ ^^) เนื้อหาในเล่มเรียบเรียงไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนอ่านแล้วสามารถเข้าใจได้โดยง่ายเลยคับ (ขนาดคนที่เข้าใจอะไรยากๆอย่างผมยังเข้าใจได้ สำหรับนักอ่านตังยงคงไม่น่าเป็นห่วงหรอกคับ ฮ่าๆๆๆ) หนังสือเล่มนี่น่าสนใจมากๆเลยนะคับสำหรับคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตหมดหวัง หรือไม่กล้าที่จะหวังสิ่งดีๆที่รออยู่ในอนาคต ข้างหน้าต้องรีบไปหามาอ่านเลยคับ มีทั้งข้อความที่ให้กำลังใจละชี้แนะความคิดใหม่ๆที่ดีๆน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยคับ ขอแนะนะให้คุณๆไปหาอ่านกันได้เลยคับ ก่อนที่หนังสือดีๆแบบนี้จะหมดแผงซะก่อน 555 (เกินไปเนอะ ฮ่าๆๆ)
สุดท้ายผมก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้อยู่นะคับและขอใช้คำของเจ้าของหนังสือเล่มนี้ย้ำให้ผู้อ่านทุกคนจำไว้นะคับว่า แค่คุณกล้าที่จะคิด ชีวิตก็เปลี่ยนคับ ^//////^