งอนง้อขอคืนรัก (แผนรักพิชิตใจ) (Cookie)

งอนง้อขอคืนรัก (แผนรักพิชิตใจ) (Cookie)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160609192
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 129.00 บาท 32.25 บาท
ประหยัด: 96.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

ในช่วงสองสามปีมานี้ตลาดกลางคืนที่เพิ่งเปิดใหม่แห่งหนึ่งเริ่มค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมา

ตลาดที่ว่าตั้งอยู่บนถนนผิงอัน ซึ่งเป็นถนนที่ทั้งยาวแถมยังกินอาณาเขตกว้างขวาง บรรดาแผงลอยต่างตั้งอยู่อย่างแน่นขนัด ขายอาหารว่างชื่อดังสารพัดชนิด ยิ่งใกล้พลบค่ำร้านรวงก็ต่างพากันเปิดตัวทำการค้าจนดูครึกครื้นไปทั้งสาย ชาวบ้านพากันเรียกตลาดกลางคืนแห่งนี้ว่าผิงอันไนต์บาซาร์

หลังเที่ยงก่อนหน้าเทศกาลโคมไฟหนึ่งวัน ความจริงบรรดาพ่อค้าแม่ขายเจ้าของแผงในผิงอันไนต์บาซาร์ที่อยู่ไม่ห่างจากลานแสดงโคมไฟสักเท่าไหร่ควรจะเริ่มทยอยเตรียมเปิดร้านเพื่อรอรับค่ำคืนอันแสนครึกครื้นที่กำลังจะมาถึง แต่คราวนี้...

“ไอ้หยา! ชะตาชีวิตนี้...”

“หืม?”

บรรดาเจ้าของแผงลอยต่างพากันทิ้งหน้าที่การงานตัวเองมามุงอยู่รวมกันตรงแผงลอยเล็กๆ แผงหนึ่ง สายตาสิบกว่าคู่เบิกกว้าง จับจ้องไปยังเก้าอี้ตรงหน้า จดจ่ออยู่กับชายหนุ่มที่ไว้หนวดเล็กๆ บนริมฝีปาก

“อืม...ชะตาชีวิตแบบนี้...” ชายหนุ่มลูบหนวดไปมา หรี่ตาทั้งสองข้างมองดูเด็กผู้หญิงตัวน้อยน่ารักที่กำลังนั่งอยู่บนตักให้เขาดูลายมืออย่างพินิจพิจารณา

“เป็นไงบ้าง” ผู้คนที่ยืนรายล้อมอยู่ข้างๆ เอ่ยปากถามอย่างร้อนรน

“อืม...ไอ้หยา! ชะตาชีวิตนี้...” ชายหนุ่มมองดูลายมือของเด็กผู้หญิงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็หันกลับไปดูเซียมซีที่อีกฝ่ายหยิบออกมาวางบนโต๊ะก่อนจะขมวดคิ้วจับจ้องดูใบหน้ารูปไข่เล็กๆ ผิวขาวละเอียดน่ารักนั้น

“ตกลงดวงชะตาเป็นยังไงบ้าง” ชาวบ้านที่รอลุ้นจนใจแทบจะหลุดออกจากคอหอยเอ่ยปากถามขึ้นอีกรอบ

ชายหนุ่มผู้มีหนวดเล็กๆ ประดับเหนือริมฝีปากนับนิ้วอย่างรอบคอบก่อนจะพยักหน้า

“ให้ตายสิ! แกจะพูดหรือไม่พูด ตกลงชะตาของแซลลี่เป็นยังไงกันแน่ อย่ามัวแต่ร้องไอ้หยาๆ ได้หรือเปล่า ร้องอย่างกับเป็นนางแมวยั่วสวาทไปได้” ลุงจางที่ขายเต้าหูเหม็นปกติก็ขี้หงุดหงิด ความอดทนต่ำ แถมกำลังอารมณ์บ่จอยในที่สุดก็ตวาดเสียงไม่พอใจระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหมดความอดทน

หากไม่ใช่เพราะลูกบุญธรรมตัวน้อยน่ารักกำลังนั่งอยู่บนตักอีกฝ่าย ไม่แน่เขาอาจตรงไปล็อกคอเหวี่ยงอีกฝ่ายลงกับพื้นหนักๆ สักสองสามรอบแล้วก็ได้

“เฮ้อ! ใจเย็นๆ รู้จักอดทนอดกลั้นเป็นหนึ่งในพฤติกรรมอันดีที่มนุษย์พึงมี” ชายหนุ่มหรี่ตามองเด็กหญิงตัวน้อย แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก แต่ยามเขาเงยหน้ามองดูลุงจาง สีหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นเหมือนไม่พอใจ

“งั้นก็รีบพูดมาเร็วๆ เข้า ทุกคนเขาร้อนใจกันจะแย่อยู่แล้ว แกกลับเอาแต่เฉื่อยแฉะอยู่ได้ แบบนี้ไม่เท่ากับอยากให้พวกเรากระวนกระวายใจตายหรือไง” ชื่อเสียงเรื่องอารมณ์ร้อนและปากจัดของลุงจางเป็นที่รู้จักของทุกคนดี

“เฮ้อ จักรพรรดิไม่ร้อนรน ขันทีกระวนกระวายโดยแท้” อีกฝ่ายส่ายหน้าถอนหายใจ คนอย่างเขาชาวบ้านต่างขนานนามให้ว่าเป็นยอดหมอดูอันดับหนึ่ง พูดสิ่งใดเกิดสิ่งนั้น บอกเล่าทุกอย่างได้แม่นยำราวกับเทพจุติมา ถ้าเอาคนที่อยากให้เขาช่วยดูดวง สะเดาะเคราะห์ ดูโหงวเฮ้งมาเข้าแถวต่อกันล่ะก็ มีหวังได้ยืนกันเต็มหัวซอยยันท้ายซอยแน่ แถมหากไม่มีเงินหลักล้านมาให้ล่ะก็ ไม่ต้องหวังให้ไทเกอร์ หลี่ สุดยอดหมอดูขี้ตืดอย่างเขาอ้าปากบอกคำทำนายเด็ดขาด นึกไม่ถึงว่าเมื่อครู่จะถูกคนด่าว่าทำตัวอย่างกับนางแมวยั่วสยาทซะได้

“แกว่าใครเป็นขันที ฉันน่ะมังกรผงาดพยัคฆ์คำรามของแท้ ทุกคืนฉันกับเมียแกจะชุกกะดิ๊กกันจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน...”

“พอได้แล้ว เลิกทะเลาะกันซะที” หญิงสาวคนหนึ่งหน้าแดง ก่อนจะใช้มือตบไหล่ลุงจางอย่างอดไม่ได้ เธอเป็นภรรยาที่ลุงจางแต่งเข้าบ้านเมื่อสองปีก่อน “ไทเกอร์ เธอก็เลิกแหย่ให้พวกเราอยากรู้อยากเห็นเสียที ทุกคนต่างก็เป็นพ่อแม่บุญธรรมของแซลลี่ ไอ้ที่กังวลอยากรู้อนาคตของลูก เธอก็น่าจะพอเข้าใจได้จริงมั้ย รีบบอกพวกเรามาดีกว่า!”

“เฮอะ! ยังไงอาซ้อก็ดีกว่า ทั้งมีมารยาทแถมยังรู้จักเกรงอกเกรงใจคนอื่น ฟังแล้วสบายอกสบายใจ ไม่เหมือนตาลุงจาง...” พอเห็นชาวบ้านที่มุงอยู่โดยรอบบ้างก็หรี่ตามองด้วยความไม่พอใจ บ้างก็ถลึงตาโตใส่ไทเกอร์ก็กระแอมออกมาเสียงดัง ก่อนจะยิ้มพูดยืนกรานหนักแน่น “อืม ดวงชะตานี้ดีมาก! มั่งมีศรีสุข มีโอกาสได้เป็นถึงคุณนายน้อย ลูกหลานวิ่งเต็มบ้านอย่างมีความสุข เงินทองมีให้เก็บเกี่ยวไม่สิ้น บ่าวไพร่ไม่ถึงร้อยก็ไม่น้อยกว่าสิบ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย ชื่อเสียงเกียรติยศมากมี พูดได้ว่านอนกินไปสามชาติก็ไม่หมด”

ชาวบ้านพากันถอนหายใจโล่งอก ภูเขาลูกใหญ่ที่ทับอยู่บนอกเมื่อครู่ลับหายไปจนสิ้น

เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตักของไทเกอร์เป็นแก้วตาดวงใจของบรรดาเจ้าของแผงลอยในผิงอันไนต์บาซาร์ ไม่เพียงน่ารักมีชีวิตชีวาใครเห็นใครรักเท่านั้น ที่สำคัญทุกคนต่างเห็นเด็กน้อยคนนี้มาตั้งแต่เกิด ไม่มีแม้สักคนที่จะไม่รักเด็กหญิงคนนี้เต็มหัวใจ

หนูน้อยเป็นลูกของครอบครัวหยวนที่ขายบัวลอยอยู่ในผิงอันไนต์บาซาร์ ชื่อแซลลี่ หยวน ปีนี้อายุสิบขวบ เด็กฟหยิงยังมีน้องสาวคลอดตามกันมาอีกสองคน ต่างล้วนเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งตลาด

บรรดาเจ้าของแผงลอยในผิงอันไนต์บาซาร์ล้วนอาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง ทุกคนต่างโตมาด้วยกันนับแต่ยังเล็ก ต่างร่วมทุกข์ร่วมสุขพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนบ้านญาติมิตรที่ดี รู้จักมักคุ้น ไปมาหาสู่ รักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี แม้แต่เรื่องแผงลอยทุกคนก็มีส่วนร่วมตัดสินใจ ร่วมกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง

ในช่วงเริ่มต้น ด้วยเพราะใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่ายเกินไป จึงมีใครบางคนเสนอให้ตั้งแผงลอย ขายของกินเล่นฆ่าเวลา แต่เพราะทุกคนต่างรู้สึกสนุก จึงต่างพากันลงมือพร้อมกัน และเพียงไม่นานผิงอันไนต์บาซาร์ก็กลายเป็นศูนย์รวมตลาดกลางคืนที่ผู้คนต่างพากันรู้จัก

“แต่ว่า...” จู่ไทเกอร์ ก็หลุดปากพูดสองคำออกมา

“แต่ว่า? แต่ว่าอะไร” ผู้คนที่เพิ่งวางใจไปเมื่อครู่ต่างเริ่มอกสั่นขวันแขวนกันอีกรอบ

“อ๋า...”

“เลิกร้องเป็นนางแมวยั่วสวาทสักทีได้หรือเปล่า มีอะไรก็พูดออกมาให้จบเลยทีเดียวได้มั้ย” ลุงจางเริ่มพ่นไฟอีกรอบ

ไทเกอร์มองเหยียดลุงจางทีหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจทำเหมือนผู้ใหญ่ไม่ถือสาเด็ก “แต่นิสัยของเด็กนี่...พูดคำไหนคำนั้น ทุกอย่างว่าไปตามเนื้อผ้า คิดอะไรตรงไปตรงมา นิสัยเถรตรงไม่มีโอนเอน ต่อให้ใครเห็นใครรัก แต่ก็มักทำให้คนโมโหตายได้ แถมยังเชื่อคนง่าย โดนชาวบ้านหลอกก็ยังไม่รู้ตัว ขนาดถูกจับไปขายก็ยังนั่งช่วยชาวบ้านเขานับเงินอยู่เลย เรื่องนี้...ไม่มีทางแก้ ไม่มีทางแก้จริงๆ!”

เสี้ยววินาทีนั้นผู้คนรอบข้างต่างพากันนิ่งเงียบ

ทุกคนต่างหันหน้ามองกันเอง พูดอะไรไม่ออก เหงื่อซึมออกหน้าผากกันเป็นแถว

ตกลง...ชะตาชีวิตแบบนี้มันเรียกว่าดีหรือไม่ดีกันแน่

 

บทที่ 1

 

ค่ำคืนอันแสนครึกครื้น ตลาดกลางคืนแออัดไปด้วยผู้คน

โอลิเวอร์ หลงอยู่ในชุดลำลอง มือถือถุงบาร์บีคิวที่ซื้อมากินระหว่างเดินเล่น ตาทั้งสองข้างพิจารณาดูแผงลอยสองข้างทางอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมเผยรอยยิ้มเป็นมิตรออกมาให้เห็น

ผมตรงยาวเสมอไหล่ถูกรวบไว้ด้านหลัง รูปร่างสูงโปร่งดูสะดุดตายามอยู่ร่วมกับฝูงชน ยิ่งเมื่อบวกกับใบหน้าอ่อนหวานราวกับผู้หญิงนั่น ก็ยิ่งตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่อยู่รายรอบเข้าไปใหญ่

“เฮ้อ! ใช้ที่ผืนงามราคาควรเมืองได้ไม่คุ้มค่าเลยสักนิด” เอาทำเลทองมาวางแผงลอยแบบนี้ ไหนเลยจะแสดงถึงมูลค่าที่แท้จริงของมันได้ น่าเสียดายแท้!

ในขณะที่กำลังมองดูภาพเบื้องหน้า ประกายแสงแห่งนักล่าที่แสนอันตรายก็ปรากฏลึกอยู่ในดวงตาของโอลิเวอร์

จู่ๆ ก็มีแรงกระแทกบางอย่างชนจนเขาต้องก้าวถอยหลัง ชายหนุ่มอดขมวดคิ้วก้มหน้าลงมองไม่ได้

“ขอโทษนะที่ชนคุณเข้า แต่ถนนเส้นนี้เดินได้แค่คนเดียวเท่านั้น คุณเล่นหยุดอยู่หัวถนนจะเดินต่อไปก็ไม่เดินแบบนี้ คนข้างหลังเขาลำบากรู้หรือเปล่า” ผู้หญิงที่ชนเขาถือลังเปล่าขนาดใหญ่ไว้ในมือ พูดจาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

พอเห็นใบหน้าของหญิงสาวเข้า โอลิเวอรืก็อดหรี่ตาแสดงสีหน้าประหลาดใจไม่ได้ ชายหนุ่มเผยอยิ้มออกมาเหมือนกับไม่ได้ยินคำตำหนิของอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มพูดออกมาโต้งๆ “ตาของคุณนี่โตจริงๆ แถมยังดูเป็นประกายสุกใสอีกด้วย”

ดวงตาทั้งสองข้างของเธอทั้งโตทั้งเปล่งประกายไร้ที่ติ ราวกับสามารถมองทะลุเห็นนิสัยที่แท้จริงของเธอได้ แถมยังดูจริงจังไม่หลอกลวง ยามจ้องดูผู้คนตรงๆ ดวงตาคู่กลมโตไม่แม้แต่จะกะพริบเลยสักนิด...เพียงถูกดวงตาสุกใสเช่นนั้นจ้องมอง โอลิเวอร์ก็พบว่าตัวเองกำลังหลงใหลไปกับประกายที่ฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น

แม้ดวงตาของหญิงสาวที่จ้องตรงมายังนัยน์ตาของเขาจะหรี่ลงเพราะคำพูดที่เขาพูดเมื่อครู่ แต่สีหน้านั้นก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เห็นได้ชัดว่าเธอคุ้นเคยกับคำพูดประเภทนี้ดี

“ขอบคุณ” หญิงสาวขมวดคิ้ว เหลือบมองดูเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวเท้าเดินจากไป

ปฏิกิริยาของเธอทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ เพราะอีกฝ่ายทำทีเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำชมของเขา ไม่เพียงไร้รอยยิ้ม สีหน้ายังเรียบเฉยไร้ความรู้สึก แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือท่าทีเย็นชาของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกสนใจ

แม้ผู้ชายอย่างเขาถึงจะไม่นับว่าเป็นชายหนุ่มที่หล่อที่สุด แต่ก็พอมีเสน่ห์อยู่บ้าง สาวๆ ที่เห็นเขาหากไม่หน้าแดง อย่างน้อยระหว่างพูดคุยก็ต้องแสดงความเป็นมิตรหรือเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นบ้าง

“รอ...รอเดี๋ยว” หลังจากนิ่งอึ้งเพราะท่าทีเย็นชาของอีกฝ่ายไปเศษหนึ่งส่วนสองวินาที เพียงพริบตาเดียวโอลิเวอร์ก็สามารถเรียกสติกลับคืนมา ก่อนจะกุลีกุจอรั้งตัวหญิงสาวที่กำลังเตรียมจะเดินจากไปไว้อย่าง

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (69 รายการ)

www.batorastore.com © 2024