มาเฟียเลือดมังกร : กระทิง

มาเฟียเลือดมังกร : กระทิง

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160003013
ผู้แต่ง: ผักบุ้ง
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

“แรกพบ”

 

                เกลียวคลื่นสีขาวม้วนเข้าจุมพิตเม็ดทรายอย่างอ่อนละมุน

ร่างสูงในชุดสีขาวยืนอยู่ริมเฉลียงหน้าบ้านพัก ดวงตาคู่คมทอดมองไป

ยังแสงสีทองที่เริ่มจับเส้นขอบฟ้า ก่อนจะแย้มยิ้มให้แก่เช้าวันใหม่ซึ่ง

เปรียบได้กับช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น

เขาเองก็กำลังจะได้เริ่มต้นใช้ชีวิตครอบครัวกับผู้หญิงที่เขารัก

จันทร์ชมพู...

แม้เพิ่งรู้จักกันเพียงสามเดือน เธอก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนพบเจอ

ชิ้นส่วนที่ขาดหายไปในชีวิต

ไม่ใช่เพราะดวงตาสวยหวานประดุจน้ำผึ้งคู่นั้น ไม่ใช่เพราะ

ริมฝีปากเรียวงามที่เพียงแค่แย้มยิ้มน้อยๆ ก็ทำให้โลกทั้งใบสว่างไสว แต่

เพราะความโอบอ้อมอารีของเธอประทับใจเขาตั้งแต่แรกเห็น และยิ่งนาน

วันเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักเธอมากขึ้น

ดวงตาสีรัตติกาลแวววาวด้วยความสุข เมื่อหวนนึกถึงการผูกพัน

รักลึกซึ้งที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อคืน

เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับเธอ...

เสียงฝีเท้าของคนที่เดินใกล้เข้ามาทางด้านหลังทำให้ร่างสูงหัน

กลับไปมอง จันทร์ชมพูอยู่ในชุดกระโปรงลูกไม้สีขาว รูปร่างอ้อนแอ้น

แบบบางรับ กับผมสีดำยาวเป็นลอนสวยแบบธรรมชาติ

ความจริงแล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงสวยถึงขนาดที่ใครต่อใครเห็นก็เป็น

อันต้องเหลียวหลัง แต่ดวงตาน้ำผึ้งบนใบหน้าเนียนลออนั้นก็เป็นเสน่ห์

อย่างหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกราวกับต้องมนตร์ทุกครั้งไป

“ใครโทร. มาเหรอ จันทร์”

ก่อนหน้านี้มีเสียงเรียกเข้าดังจากโทรศัพท์มือถือของจันทร์ชมพู

ชายหนุ่มเห็นเธอกดปิดเสียง หยิบเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงเดินไปรับ

สายในห้องน้ำ เขาถึงได้ลุกมาแต่งตัว ยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นรอเธอไป

พลางๆ ตั้งใจว่าอีกสักพักจะชวนเธอไปกินข้าวด้วยกัน

แต่นอกจากจันทร์ชมพูจะไม่ยอมตอบคำถามแล้ว เธอยังยกมือขึ้น

แตะแก้มของเขา ไล้ปลายนิ้วลงเบาๆ จนถึงริมฝีปาก

“จันทร์รักพี่...” ไม่ใช่แค่เสียงที่กระซิบบอกคำนั้น นัยน์ตาคู่งาม

ก็จับจ้องหน้าเขาด้วยความรู้สึกเดียวกัน “รัก...จนไม่รู้จะอธิบายยังไง”

ชายหนุ่มยิ้ม ก้มลงแตะริมฝีปากตอบเธอด้วยจุมพิตหวานฉ่ำ

เปลือกตางามปิดลงช้าๆ มือเล็กแบบบางเกาะไหล่เขาไว้ราวกับจะ

เรียกร้อง โหยหา ก่อนดันร่างสูงไปชิดราวระเบียงด้านหลัง

ทันใดนั้น ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่ามีวัตถุแข็งๆ บางอย่างแตะเข้ากับ

หน้าท้อง แต่ไม่ทันฉุกใจคิดว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ เสียงหนึ่งก็ดังลั่นแทน

คำตอบทุกอย่าง

ปัง!

 

ดวงตาสีรัตติกาลเบิกกว้าง ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ในห้อง

ผู้โดยสารเฟิสต์คลาสถึงกับสะดุ้งโหยง ก่อนจะค่อยๆ ปลอบใจตัวเอง

ว่าเป็นแค่ฝัน...

ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขามาตลอดเจ็ดปี!

ธาม ธราธร ย่นคิ้วเข้าหากัน ทุบกำปั้นลงบนที่วางแขนด้วยความ

โมโห หลายปีมานี้เขาพยายามส่งคนไปตามหาจันทร์ชมพูทั่วทุกหน

ทุกแห่ง แต่ก็หาไม่พบ ลูกน้องของเขาหลายคนสันนิษฐานว่าเธออาจถูก

พวกแก๊งมังกรดำฆ่าปิดปากไปตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อน แต่ธามกลับไม่ยอม

ปักใจเชื่อว่าแพศยาขั้นเทพอย่างเธอจะตายง่ายๆ

เธอเข้ามาตีสนิทกับเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ ก่อนจะ

ผลักเขาลงนรกได้อย่างเลือดเย็น

เขาไม่มีทางยอมให้ใครมาเอาชีวิตเธอไปเป็นอันขาด เพราะชีวิต

เธอต้องเป็นของเขาเท่านั้น และหากเจอตัวเมื่อไร เขาจะทำให้เธอ

ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นเลยทีเดียว

“ธาม”

เสียงเรียบดังขึ้นด้านหลัง ก่อนร่างสูงในชุดสูทสีดำมาดเข้มจะเดิน

มาหยุดอยู่ข้างเบาะที่นั่ง

“เครื่องลงจอดนานแล้ว นายจะลงไปเลยหรือเปล่า” เหอฝู

เพื่อนรักและคนสนิทของเขาถาม

ตั้งแต่เกิดเรื่องบัดซบขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน ธามก็ได้รับความช่วยเหลือ

จากเฉินอี่เสียง คุณอาของเขาซึ่งเป็นเจ้าพ่อตลาดหุ้นรายใหญ่ในฮ่องกง

และเป็นประธานกรรมการหย่งจินจิวเวลรี บริษัทค้าทองรูปพรรณแบรนด์ดัง

 ซึ่งมีจำนวนสาขามากที่สุดในเอเชีย ส่วนเหอฝูเป็นคนที่คุณอาสั่งให้คอย

ดูแลเขาอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ชีวิตของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

 จากที่เคยคิดฝันว่าจะไปเรียนต่อด้านสัตวแพทย์ที่เยอรมนีเพราะ

 ไม่อยากจับธุรกิจด้านมืดของครอบครัว กลับกลายเป็นว่าต้องหลบหนี

 มาอยู่ฮ่องกงกับคุณอา และตัดสินใจที่จะเป็นมาเฟียเหมือนพ่อเพื่อกลับ

 มาคิดบัญชีกับพวกที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ

ชายหนุ่มเปลี่ยนชื่อ นามสกุล และภาพลักษณ์ใหม่ กลายเป็น

 ธาม ธราธร หรือเฉินเฉิงไห่ หลานชายเพียงคนเดียวของเจ้าพ่อคนดัง

เฉินอี่เสียง จนใครต่อใครจำไม่ได้ว่าเขาคือตั้งเท่งไฮ้ หนุ่มน้อยหน้าโง่

ที่เคยถูกนางอสรพิษร้ายปั่นหัวเมื่อเจ็ดปีก่อน

“โทษที ฉันเผลอหลับไปนิดหน่อย” ธามลุกจากที่นั่งพลางขยับ

สูทให้เรียบร้อย ก่อนหยิบแว่นดำมาสวม แล้วเดินนำไปที่ประตูทางออก

ผู้โดยสาร

มาเฟียหนุ่มวัยสามสิบเพิ่งเดินทางไปร่วมอวยพรวันเกิดให้คุณอา

ในฮ่องกงไม่ทันข้ามวัน ก็ต้องรีบกลับเพราะได้รับรายงานจากลูกน้องที่

เมืองไทยว่าธุรกิจร้านทองหย่งจินสามสาขาใหญ่ในเยาวราชถูกปล้น

พร้อมๆ กัน ซึ่งเขามั่นใจว่าคงไม่พ้นฝีมือพวกเสี่ยเล้ง หรือนายลิขิต

รัตนปัญญากุล หัวหน้าแก๊งมังกรดำ คู่แข่งทางธุรกิจที่คิดจะกำจัดเขา

ไปให้พ้นทาง และมักจะใช้วิธีการ ‘ลอบกัด’ อยู่เสมอ

ร่างสูงเดินตรงมายังทางสำหรับผู้โดยสารขาเข้า แต่เมื่อเห็นกลุ่ม

ชายชุดดำมายืนรอรับอยู่สิบกว่าคนก็อดที่จะหันไปตำหนิเหอฝูไม่ได้

“ฉันบอกกี่ทีแล้วว่าไม่ชอบคนเยอะ”

หลายปีมานี้แม้เขาจะยอมรับสถานะมาเฟีย แต่เขาก็ไม่ชอบ

ทำตัวเป็นมาเฟียที่ต้องมีผู้ติดตามมากมายคอยประกบ

“เอิกเกริกแบบนี้แหละดี ลูกหมาแถวนี้จะได้เห็นชัดๆ แล้วรีบ

แจ้นไปรายงานพ่อหมาไง”

เมื่อธามชำเลืองไปทางนักท่องเที่ยวชายชาวจีนที่นั่งไขว่ห้างอยู่

บนเก้าอี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขานัก ก็เห็นว่าอีกฝ่ายรีบยกหนังสือพิมพ์

ในมือขึ้นบังหน้าราวกับกลัวเขาจะรู้ว่าเป็น ‘ลูกหมา’ ที่ถูก ‘พ่อหมา’

ส่งมาจับตามอง

“นายนี่เจ้าเล่ห์เหมือนเดิมเลยนะ” ธามหัวเราะในลำคอ รู้แล้วว่า

เหตุผลที่เหอฝูสั่งให้ลูกน้องยกขบวนมารอรับก็เพราะอยากให้พวกที่ชอบ

ลอบกัดขวัญหนีดีฝ่อเล่นๆ

เชื่อได้เลยว่าป่านนี้พวกมันคงวางแผนรับมือกันจนร้อนรน เพราะ

คิดว่าเขาอาจกำลังยกคนไปถล่มถึงบ้าน ซึ่งอันที่จริงเรื่องนั้นไม่ได้อยู่ใน

สมองเขามาก่อน

คนอย่างเสี่ยเล้ง ถ้าจะตายมันต้องตายช้าๆ...ตายทั้งเป็น!

เสี่ยเล้งต้องตายอย่างอนาถให้สาสมกับที่มันส่งคนมาวางระเบิด

บ้านเขา โดยวางแผนทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุจากแก๊สหุงต้ม!

รถตู้วีไอพีสีขาวจอดรออยู่หน้าทางออก เมื่อธามเดินมาถึง ประตู

ก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดด้วยระบบอัตโนมัติ สองหนุ่มตามกันเข้าไปนั่ง ส่วน

บอดีการ์ดทั้งหมดแยกกันไปขึ้นรถยนต์สีดำมันปลาบประกบหน้าหลัง

แต่ในระหว่างที่รถตู้วีไอพีเคลื่อนผ่านแท็กซี่คันหนึ่งซึ่งจอดรับ

 ผู้โดยสารอยู่ใกล้กัน ร่างบางในชุดลำลองทะมัดทะแมงที่ยืนอยู่หลัง

แท็กซี่ก็ทำให้ธามเกิดสะดุดตากับอะไรบางอย่างจนต้องเหลียวหลัง

มองแทบไม่กะพริบตา

 แม้ส่วนล่างของใบหน้าเรียวรูปไข่จะถูกหลังคารถบดบังไปจนสิ้น

แต่นัยน์ตาหวานราวน้ำผึ้งก็ทำให้เขาจำเธอได้เป็นอย่างดี

“จันทร์ชมพู” ชายหนุ่มพึมพำ รีบหันกลับไปสั่งคนของตนที่นั่ง

อยู่หลังพวงมาลัยเสียงเข้ม

“จอด!”

สารถีหนุ่มแตะเบรกรวดเร็ว ทว่ายังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวล

ไม่ทันที่ประตูจะเปิดออกจนสุดด้วยซ้ำ ธามก็รีบลงไปคว้ามือ

หญิงสาวซึ่งกำลังจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในแท็กซี่ให้หันกลับมาหา

ดวงตากลมโตฉายแววงุนงง ขณะที่เขาเองถึงกับตะลึงไปครู่ใหญ่

เมื่อได้เห็นใบหน้าเธออย่างแจ่มชัด

นัยน์ตาสวยหวานคู่นั้นเหมือนจันทร์ชมพูมาก ทว่าจมูกเชิดรั้น

และริมฝีปากอวบอิ่มที่รับกันอย่างลงตัวบนใบหน้างามกระจ่างใสก็ทำให้

เขารู้สึกแตกต่าง

เธอไม่ใช่จันทร์ชมพู...อีกทั้งยังดูสวยจนเขารู้สึกเหมือนมีกระแสไฟ

บางอย่างลามเลียตามร่างกาย

                อันที่จริงเขาไม่ได้เป็นโรคแพ้คนสวย แต่เขาก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่า

ทำไมจู่ๆ ถึงมีอาการแปลกประหลาดเกิดขึ้นชนิดที่รับมือกับมันแทบ

ไม่ทัน

หัวใจของเขาเต้นแรง ก่อนที่หน้ายุ่งๆ ของสตรีตรงหน้าจะทำให้

เขาเริ่มได้สติอีกครั้ง และปล่อยมือเธอทันที

“ผมจำคนผิด” น้ำเสียงเขาเย็นลงกว่าตอนคุยกับคนขับมาก

แอบด่าตัวเองในใจว่าบ้าไปแล้วหรือไง ถึงได้รู้สึกอะไรที่ไม่สมควรจะรู้สึก

แต่พอเขาตั้งท่าจะเดินกลับไปที่รถ เสียงหวานปนห้าวของสาวสวย

 ก็ทำให้สองเท้าต้องชะงักกลางคัน

“จำคนผิดแล้วไม่คิดจะขอโทษหน่อยเหรอ คุณทำฉันเจ็บนะ”

ธามหันกลับมาอีกครั้ง เห็นเธอยกมือข้างที่ถูกกระชากเมื่อครู่

ขึ้นมา

รอยเขียวช้ำที่ปรากฏอยู่เป็นจ้ำๆ ไม่ได้ทำให้ธามแปลกใจนัก เขา

รู้ตัวดีว่าเวลาเขาโกรธหรือโมโหมากๆ มักจะเผลอใช้แรงมหาศาลกับสิ่ง

ที่อยู่รอบข้างเสมอ และเมื่อครู่นี้เขาก็มัวแต่รับมือกับความรู้สึกแปลกๆ

ที่จู่โจมเข้ามาในหัวใจอย่างรวดเร็วจนลืมขอโทษเธอไปเสียสนิท

แต่นึกไม่ถึงว่าพออ้าปากจะขอโทษ หญิงสาวก็พูดแทรกขึ้นมา

เสียก่อน

“ที่จริงก็ไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ต้องการคำขอโทษจากคนที่ไม่มี

ใจจะขอโทษ แต่ก็แค่อยากจะเตือนคุณไว้ว่าคราวหน้าคราวหลังจะทัก

ใครก็หัดดูตาม้าตาเรือด้วย และถ้าสมมุติว่ายังทักผิด คำว่าขอโทษ...มัน

ก็ไม่ได้พูดยากถึงขนาดที่จะต้องให้ใครคอยเอ่ยปากทวง”

เสียงที่ต่อว่าแบบเรียบๆ นั้นทำเอาชายหนุ่มถึงกับขบกรามแน่น

ความโกรธแล่นขึ้นเป็นริ้วๆ จนเส้นเลือดบริเวณขมับทั้งสองข้างปูดโปน

เมื่อเห็นคู่กรณีสาวกำลังจะหันกลับเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่ ธาม

ก็เข้าไปกระชากแขนเธอให้หันกลับมาอีกครั้ง

                “นี่!” เสียงหวานตวาดดุไม่ทันขาดคำ ก็ต้องตกใจกับริมฝีปากอุ่น

ที่ทาบลงกับริมฝีปากของเธอ

ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หญิงสาวยืนตัวแข็งไม่ขยับเขยื้อน

ท่ามกลางความตกตะลึงของกลุ่มบอดีการ์ดนับสิบที่ก้าวลง

มาจากรถ ธามจับท้ายทอยหญิงสาวให้รับจูบของเขานานหลายวินาที

แม้ไม่ได้ดูดดื่มลึกซึ้ง เขาก็รู้สึกว่าหวานจนแทบไม่อยากละริมฝีปากออก

 ห่างด้วยซ้ำ

“ขอโทษที...” น้ำเสียงไร้สำนึกตรงข้ามกับคำพูดโดยแท้ “ผม

จูบผิดคน”

ธามยักคิ้วก่อนเดินกลับไปที่รถ ตอนนั้นเองที่หญิงสาวกะพริบตา

ปริบ เพิ่งเรียกสติตัวเองกลับคืนมาได้ แต่พอจะเดินตามไปเอาเรื่อง

บอดีการ์ดของเขาก็พากันเข้ามาขวางไว้ ส่งผลให้เท้าน้อยๆ หยุดนิ่ง และ

 ได้แต่ยืนทำตาเขียวมองรถคันหรูที่กำลังเคลื่อนผ่านหน้าไป พอเขายิ้มให้

จากในรถ ยกมือแตะหน้าผากเป็นความนัยถึงการขออภัยซ้ำอีกครั้ง

เธอก็เม้มริมฝีปากแน่น สีหน้าเจ็บแค้นจนคนมองถึงกับหัวเราะในลำคอ

ทันทีที่บอดีการ์ดทั้งหมดพากันขึ้นรถตามชายหนุ่มไปติดๆ

หญิงสาวที่ถูกทิ้งไว้ตรงหน้าสนามบินจึงสาวเท้าไปกลางถนน

“เป็นเจ้าชายหรือไงกัน ถึงได้ต้องจ้างคนมาเดินตามเป็นสิบๆ

ไอ้หื่นขี้เก๊ก! ขอให้รถคว่ำตายไปเลย ไม่สิ...ขอให้รถคว่ำจนปากกระแทก

พื้น ฟันหัก! กินข้าวไม่ได้ไปสามวันเจ็ดวันเลย! ไอ้คนไม่มีมารยาท!”

เท้าน้อยๆ เตะกระป๋องน้ำอัดลมที่อยู่ตรงหน้าระบายความอัดอั้น

 มองตามขบวนรถของชายหนุ่มที่กำลังเลี้ยวออกจากถนนหน้าสนามบิน

ตาเขม็ง ก่อนจะต้องร้องโอ๊ย เมื่อกระป๋องเจ้ากรรมดันลอยไปปะทะกับ

เสาปูนแล้วกระเด้งย้อนกลับมาโดนศีรษะตัวเองดังโป๊ก

เจ้าพ่อหนุ่มถึงกับหัวเราะขำ คิดในใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แปลก

ไม่น้อย ถึงได้กล้าจ้องเขาตาเขม็ง แล้วตามมาแผลงฤทธิ์โดยไม่หวาดกลัว

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024